“จู่ ๆ เธอก็เล็งปืนไปที่หัว ฉันห้ามไม่ทัน” อเล็กซิสยืนนิ่งทำตัวไม่ถูก มือที่ถือปืนนั้นอ่อนลง เลือดของเด็กสาวคนเมื่อกี้กระเซ็นเปรอะไปโดนเสื้อยืดสีขาวตัวใน แม้แต่เพื่อนของเธอ เวดและออสโล่ก็เอาแต่จ้องศพเด็กคนนั้นนิ่ง ไม่มีขยับเขยื้อน
เขาไม่รู้ว่าตัวเองควรจะรู้สึกอย่างไร เขาไม่รู้จริง ๆ สายตาของเขามองเด็กที่ตายไม่ต่างจากศพอื่น เหมือนมองของเล่นที่พังแล้ว
“ยิงต่อไป อย่าทำตัวขี้แพ้หน่อยเลย” เขาเตือนสติ แต่คำพูดนั้นทำให้ใบหน้าตุ๊กตานั้นบิดเบี้ยวเหมือนเจ็บปวดไปถึงข้างใน
“ยิง!” เขาคำราม เวดสบถแล้วยกปืนเล็ง วินาทีนั้นเจ้าหัวทองดูท่าจะเอาตัวรอดได้ดีกว่าเพื่อนอีกสองคน
เพราะนี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำได้แล้ว หากคุณไม่มีความสามารถ คุณก็ต้องสู้ หรือถอดใจแบบเด็กที่ยิงตัวตาย
เบนพยายามนึกถึงเวลาที่เขาฝึกตัวเอง ฝึกทั้งพลังจิตและการใช้อาวุธ เขาจินตนาการว่าที่นี่คือสนามฝึกชั้นดีชนิดที่หาไม่ได้อีกแล้ว
“ไม่ไหว จำนวนมากเกินไปแล้ว”
เขาไม่รู้ว่าใครพูดเพราะตัวเองกำลังวุ่นอยู่กับศัตรู
“แม๊กซ์ ยิงกระเป๋
นิ้วข้างซ้ายเหนี่ยวไกระรัว แสนรู้ราวกับมนุษย์ หุ่นยนต์ยกมือป้องกันจนแขนข้างขวากระจุยตามแรงกระสุนทะลวง มือข้างซ้ายของมันเพิ่มแรงบีบจนเธอเจ็บก่อนถูกกระตุกดึงลากจนล้มหน้าหงาย เธอกำลังจะถูกลากออกไปจากกลุ่ม“เวด!” เขาเอื้อมแขนสุดตัวหวังดึงเธอออกจากเงื้อมมือมัน แต่หุ่นยนต์อีกตัวเข้ามาขวางไว้ สุดท้ายอเล็กซิสถูกลากหายไปก่อนเห็นว่าเวดจะเป็นอย่างไร แขนสองข้างกระเสือกกระสนพยายามรั้งและยิงมัน มือซ้ายเหนี่ยวไกอย่างบ้าคลั่ง แขนทั้งสองข้างเกร็งไปหมด ทั้งปากยังกรีดร้อง ซึ่งช่วยให้จังหวะการยิงรัวหนักกว่าเดิมจนหัวเหล็กพรุน พอได้โอกาสจึงถีบมันออกไปแล้วยิงซ้ำให้แน่ใจ “ตายซะ ไอ้สารเลว” เธอชูนิ้วกลางใส่ซากหุ่นก่อนจะหันกลับไปยังจุดเดิม ทันใดนั้นเปลวไฟขนาดมหึมาพวยพุ่งแต่ก่อนที่ไอร้อนจะลามเลีย แรงผลักมหาศาลซัดร่างเธอกระเด็นราวกับลูกฟุตบอลที่ถูกเตะเข้าประตูก่อนคิดว่าจะไปถึงทางออกได้หรือไม่ ควรคิดว่าจะอยู่ครบสามสิบสองหรือเปล่า“อือ” อเล็กซิสคราง เจ็บระบมไปทั่วตัว พอตั้งสติได้ก็รีบคลานหนีออกห่างจากบริเวณนั
วินาทีนั้นพอลปาทุกอย่างที่เขาหยิบได้ใส่หุ่นยนต์เพื่อดึงดูดมัน ทั้งที่เจ็บสาหัสไปทั้งกาย เธอหยิบปืนพกที่เหลือกระบอกเดียวพุ่งตัวผ่านช่องว่างที่เหลืออยู่ พอตั้งหลักได้ ก็ลุกวิ่งโดยไม่หันไปมองว่าเขาจะเป็นอย่างไร ใช่ เธอเอาแต่วิ่งหนีอย่างเดียวเพื่อเอาตัวรอด เสียงร้องของพอลดังโหยหวนก่อนจะเงียบไป หุ่นอีกตัวยังคงวิ่งตามไม่ลดละ ความไวของมันเร็วอย่างกับนักกีฬาทีมชาติ ไม่สิ ยิ่งกว่า แม้หันหลังเธอยังสัมผัสได้ว่ามือของมันใกล้เข้ามา จนเมื่อรู้สึกถึงเงาทะมึนข้างหลัง เธอหมุนตัวกลับไปจ่อยิงระยะประชิด แต่เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด แขนเหล็กปัดปืนทีเดียว อาวุธหลักหลุดออกจากมือ อีกข้างขวาของมันจับหมับเข้าที่คอแล้วบีบ ทันใดนั้นแรงบางอย่างซัดหัวมันกระเด็นหลุดออกจากร่าง มือเหล็กหลุดออกจากคอ เธอล้มลงพร้อมกับมัน“เบน เธอเจอเบนไหม” คำถามอเล็กซ์ดังขึ้นก่อนที่เขาจะถึงตัวเธอเสียอีก อเล็กซิสส่ายหน้าช้า ๆ มือยังกำที่คอ“เห็นคนอื่นบ้างไหม”เขาปฏิเสธใบหน้าอเล็กซ์มีรอยแดงนิดหน่อย แขนและมือทั้งสองข้างมีสะเก็ดแผลอยู่บ้าง แต่ดูจากการเคลื่อนไหวแล้ว ดูท่าจะไม่ได้รับแรงกระเทือนจากแรงระเบิดเมื่อค
“เป็นอะไรหรือเปล่า ฉันรู้ว่าเธอกังวล แต่...” เธอหันไปมองหน้าอเล็กซ์ ไม่เข้าใจว่าเขาต้องการพูดอะไร “ปกติเธอเป็นพลังบวกของทีมนะ”คลื่นความเงียบแผ่กระจาย เธอชี้นิ้วไปที่ตัวเอง “นายหมายถึง...ฉันเหรอ พลังบวก?”เขายืนเอียงคอมองด้วยแววตาที่อเล็กซิสไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเอง “ไม่ได้หวังจะให้ทำตัวร่าเริงหรอกนะ แต่ อเล็กซิส...เธอเป็นคนกล้าหาญ ที่ผ่านมาก็รับมือกับสถานการณ์ได้ดีกว่าคนปกติ ถึงแม้พวกเราจะแยกจากกลุ่มมา ฉันเชื่อว่าเธอกลับไปหาพวกเขาได้”“กล้าหาญ?” เธอยิ่งสับสน “ฉันกลัวจะแย่”เขาเลิกคิ้ว “โอเค แต่ก็มีสติกว่าคนอื่น อย่าลืมว่าเธอพาพวกเราออกจากห้องนั้นได้ จากกลุ่มซอมบี้พวกนั้น”มันมีบางอย่างปั่นป่วนในท้อง หาใช่อาการเขินหรือโรแมนติกแต่อย่างใด เพียงแค่คำพูดของอเล็กซ์ทำให้เธอรู้สึกว่า สิ่งที่เธอหวังจะไม่เกิดขึ้น แต่เธอยอมรับว่าพอแยกจากพวกออสโล่ สมองไม่อาจข่มความกลัวได้ดีดังเดิม ในทางตรงกันข้าม มันเพิ่มทวีคูณ ทั้งเสียงร้องและสภาพไหม้ครึ่งตัวของพอล ภาพที่เด็กคนนั้นยิงหัว
“และถ้าเรายังเถียงกันอยู่อย่างนี้ พวกนั้นคงไปไกลแล้ว โนเอลบอกเองไม่ใช่เหรอว่าห้ามรอ เธอยึดคำพูดเขานี่ ขอร้องล่ะ เชื่อฉันเถอะ”แล้วอเล็กซิสตอบเขาอย่างไรเหรอ ไม่ เธอตอบไม่ได้ ถึงเบนจะชอบทำตัวก้อร่อก้อติก ริมฝีปากคมกริบยิ่งกว่ากรรไกร กวนประสาทยิ่งกว่าเวดหลายเท่าตัว แถมชอบทำท่าเหมือนโลกใบนี้มีแค่เขากับอเล็กซ์เท่านั้น แต่ที่ผ่านมา ไม่ใช่เพราะเบนเหรอที่คอยสกัดพวกหุ่นยนต์ แล้วเขาทำตามแผนการของเธออย่างไม่มีอิดออดศึกครั้งนี้ใครชนะ คงเดาไม่ยากพวกเขามีสายใยที่เหนียวแน่นจนแม้แต่คนนอกอย่างเธอยังสัมผัสได้ สายใยที่ทำให้เธอนึกถึงตัวเองกับจูนถ้าจูนยังคิดว่าฉันคือเพื่อนและยิ่งน่าโมโหมากขึ้นไปอีกเมื่ออเล็กซ์พูดถูก เขารู้จักเพื่อนตัวเองดียิ่งกว่าที่เธอรู้จักเวดและออสโล่ พวกเขาตามหากันและกัน ทำไมเธอถึงรู้ ก็เพราะไม่มีหุ่นยนต์หลงเหลือสักตัวเดียวนอกจากเศษเหล็กที่เหมือนถูกแรงอัดลึกลับบีบจนเป็นก้อน กระจัดกระจายไปตามทาง เบนตามหาอเล็กซ์ไปทั่ว แต่เขาไม่ได้อยู่ในชั้นนี้แล้ว“หมอนั่นเดินหน้าต่อ คงคิดว่าฉันยึดเส้นทางเดิม...”อเล
“แย่ชะมัด” เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง “นี่เธอยังรอดอีกเหรอ นึกว่าตายไปนานแล้ว”คนตรงหน้าเท้าเอวจ้องกลับด้วยแววตาถมึงทึง “ทำไม นายแช่งฉันหนักขนาดนั้นเลยเหรอ” คนโสโครกต่อปากต่อคำ ผมสีน้ำตาลช็อกโกแลตปล่อยสยายแต่อยู่ในลักษณะฟูฟ่องเหมือนคนบ้า ลำตัวเต็มไปด้วยสะเก็ดแผลมากมาย แต่เบลินดา คาร์เตอร์ยังคงเอกลักษณ์รสนิยมแฟชั่นติดลบแม้อยู่ในสมรภูมิรบ เขามองเธอจากหัวจรดเท้า หากไม่นับเสื้อยืดรัดรูปสีขาวที่บัดนี้เปรอะเปื้อนรอยดำและเลือด กับกางเกงยีนขาม้าที่เต็มไปด้วยรอยขาดก็พอไปได้อยู่ แต่อะไรคือการที่เธอสวมทับด้วยกระโปรงลายเสือรุ่งริ่งอีกแม้ไม่ใช่เวลาประเมินเสื้อผ้า แต่เขามั่นใจว่าถ้าอเล็กซิสยืนอยู่ข้างกาย เธอคงทำหน้านิ่วคิ้วขมวดมองชุดอีนี่ด้วยความขัดใจเหมือนกันแน่นอน“ใช่” เวดตอบ “ตาย ๆ ไปซะ” ไม่มีความลังเลในน้ำเสียง คู่กรณีหน้าเจื่อนกับคำพูดตรงไปตรงมาไม่รักษาน้ำใจ“พอเถอะน่า” ออสโล่กระตุกขากางเกงชวนให้เขานั่งลง “ช่วยดูมินนี่กันเถอะ”เวดละสายตาจากอดีตประธานนักเรียน คนที่ทำให้เขาและเพื่อนอีกสองคนถูกจับและติดแหงกอยู่ในนรกบ้าแห่งนี้ แม้เห็นว่าเธอมีสภาพอิดโรยไม่ต่างจากตัวเองก็ตาม เขาไม่สนใจ คาร์เตอร
ออสโล่หัวเราะออกมาผ่านลำคอ เขาพยักหน้าให้เวดเพื่อบอกว่าเทสซ่าพูดถูก เขาถอนหายใจแล้วเก็บปืน จากนั้นย่อตัวลงนั่งกอดอก แน่สิ ตัวเองรู้จักกับอเล็กซิสมานานกว่าใคร ทำไมจะไม่รู้ว่าเพื่อนคนนี้เป็นคนแน่วแน่ขนาดไหน อเล็กซิสไม่ชอบหลุดจากกรอบ ถ้าเธอตกลงจะทำอะไรแล้วเธอจะไม่ยอมผิดแผนหากไม่มีเหตุจำเป็น...หากไม่มีเหตุจำเป็นยังมีซาร่าห์อีกคน เธอไม่อยู่กับเขาตั้งแต่หุ่นยนต์บุก พลังของซาร่าห์ไม่อำนวยให้กับตัวเธอมากนัก ดังนั้น พอพวกหุ่นยนต์โผล่มากันเป็นฝูง เธอก็รีบหาที่หลบทันที เขาแน่ใจว่าไม่เห็นซาร่าห์สักพักแล้ว คงไม่แปลกหรอกถ้าเธอจะเอาตัวรอดคนเดียว เขากับซาร่าห์อาจไปไกลเกินกว่าคำว่าเพื่อน แต่พวกเขาไม่ใช่คนรัก ก็แค่คนสองคนที่เลียแผลใจกันเองเท่านั้น ที่ผ่านมาแม้เธอพยายามทำเป็นเข้มแข็ง แต่ความกลัวของซาร่าห์แผ่ออกมาจนเขาสัมผัสได้ และที่สำคัญ เธอคงรู้ว่าเขาปกป้องเธอไม่ได้และเพราะเวดจะเลือกอเล็กซิสกับออสโล่ก่อนบ้าจริง เขาตีหัวตัวเอง สนิมที่ชื่อว่าความรู้สึกผิดก่อตัวหนาขึ้น“เรารอจนกว่าพวกเขาจะมาเลยได้ไหม” ออสโล่เสนอ เขาเองก็นั่งอยู่ไม่สุข
นักรบหุ้มเกราะสองตัววิ่งไล่ล่าเด็กหนุ่มสามคน หนึ่งในสามกำลังไล่ล่าอีกสอง เขาวิ่ง วิ่งและวิ่ง พอหางตาเหลือบเห็นแขนเหล็กก็รีบหมุนตัวเปลี่ยนทิศทาง ยกปืนยิงใส่มัน พอศัตรูล้มลง เขาหันกลับไปโฟกัสที่เจ้าหมาน้อยสองตัว ทว่าหากไม่พิชิตมันให้เสร็จสิ้น ต่อให้เหลือครึ่งตัวแต่ระบบยังทำงาน มันจะลุกขึ้นมาใหม่ แขนซ้ายของมันเหวี่ยงมาหมายซัดเป้าหมายให้ตายคาที่ เขาหลบทันก่อนทะลึ่งตัวยิงใส่หัวหลายสิบนัดจนหุ่นเหล็กแน่นิ่ง เขาวิ่งต่อไป ประสาทสัมผัสดีขึ้นหากเทียบกับตอนแรกที่เข้ามา อีกนิดเดียว สาวเท้าเข้าไปอีก อีกคืบเดียว เมื่อนั้นใช้มือข้างซ้ายคว้าหมับเข้าที่คอหมาน้อยตัวหนึ่ง“ไอ้เด็กเปรต” มือนั้นขย้ำคอเสื้อเจ้าโง่พลูทักซ์ ยังไม่ทันฝากรอยหมัด ทั้งสองจำต้องผลักกันและกันเพื่อหนีเลเซอร์ที่ยิงใส่คนทั้งคู่“หนีก่อนได้ไหมวะ” เด็กหนุ่มอีกคนตะโกน ทั้งสามวิ่งแทบไม่ได้หายใจ“แกคิดฆ่าทุกคนเหรอไง” เขาตะโกน แม้จะเหนื่อยแต่แรงโกรธภายในรุนแรงยิ่งกว่า เรมีไม่เคยมองว่าตัวเองแก่กว่าพลูทักซ์แค่ปีเดียว แต่เขามองว่าตัวเองแก่กว่าไอ้
เชิงเทียนสูงตั้งอยู่บนเสาทรงดอริก หรือไอโอนิก เขาไม่แน่ใจ ถ้าเป็นอเล็กซิสคงรู้ว่าเสาแบบนี้เรียกว่าอะไร เขาเคยเห็นเสาลักษณะนี้ในหนังย้อนยุคโบราณสมัยกรีก-โรมัน แสงไฟส่องเป็นช่วง ทุกคนต้องคอยส่องไฟฉายไปตามทาง เวดยังไม่อยากด่วนสรุปว่าอเล็กซิสตายแล้ว เธอต้องรอดอยู่แล้ว แค่ถูกหุ่นลากหายไปไม่ได้หมายความว่ามันฆ่าเธอนี่นา ความพยายามที่จะไม่โทษตัวเองเป็นศูนย์ ถ้าตอนนั้นเขาดึงเพื่อนไว้ทัน ถ้าช่วยเพื่อนให้รอดพ้นจากหุ่นยนต์ได้ล่ะก็ ตอนนี้เธออาจเดินเคียงข้างเขาก็ได้ เด็กหนุ่มตีหัวตัวเอง พยายามระงับไม่ให้คิดถึงภาพน่ากลัว ถ้าเขารอดจากที่นี่ไปได้ ไม่ว่าหนังสยองขวัญน่ากลัวขึ้นหิ้งขนาดไหนก็ไม่อาจทำให้ฝันร้ายได้เท่าที่นี่อีกแล้วก่อนออกมาจากโซนหนึ่ง ยังไม่วายต้องวิ่งหนีซอมบี้ที่โผล่มาในช่วงสุดท้าย ครั้งนี้พวกเขาไม่เน้นปะทะ แต่เน้นป้องกันตัวแล้วชิ่งออกมาให้เร็วที่สุด“พวกนายมีแผนที่ดีกว่าวิ่งหนีไหม”ราวกับเธอมีความสามารถพิเศษในการจุดไฟให้เดือดเพียงแค่อ้าปาก เวดจ้องหน้าคาร์เตอร์นิ่ง ครู่เดียวเธอเบือนหน้าหนี “ใครใช้ให้ตามมา หา!”“
บลูหัวเราะในลำคอก่อนจะปล่อยออกมาดังลั่น “โธ่ ไอ้น้องชาย แกนึกภาพยัยเดสเป็นแม่ออกเหรอวะ วัน ๆ คงนั่งระแวงว่าชู้จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เฮ้ย เดี๋ยวก่อน...แกคิดว่าเดสจะคิดอะไรแบบนี้นี่นะ นอกจากแรดไปทั่ว ยัยนั่นไม่คิดเรื่องอื่นแล้ว”“บลู!” เอมอนชกแขนของเขาอย่างแรง “อย่าพูดแบบนี้” เขาส่ายหน้าเอือมระอา “นายก็ใกล้เลขสาม ส่วนฉันก็ตามนายติด ๆ ฉันอยากมีครอบครัว วันหนึ่งถ้านายเจอคนที่ทำให้นายรู้สึกแบบนั้น...แต่นายต้องแก้นิสัยนั้นก่อนนะ บอกไว้เลย วันนั้นนายจะเข้าใจฉัน ใครจะรู้ วันหนึ่งเดสอาจใจอ่อน และถ้าถึงวันนั้น...พวกเราอยากสร้างครอบครัวในสถานที่แบบนี้เหรอวะ”บลูเงียบลง เอมอนถูกพาออกไปจากแดนปีศาจก่อนที่ความชั่วร้ายจะแทรกซึมไปจนถึงอณูผิว เขาอยู่กับทัศนคติคิดบวก แม้ผ่านเรื่องร้ายแรงมาเท่าใดยังมีกะใจคิดถึงวันข้างหน้า คิดถึงอนาคตที่สวยงามใสปิ๊ง “แกก็รู้ว่าพวกเรามีลูกไม่ได้” เขาเตือนสติน้องชาย “พวกเราถูกฉีดยาคุมกำเนิดทุกปี ไม่อย่างนั้นแกกับเดสคงมีลูกเป็นโขยง ไม่สิ...ฉันกับแก และเดส จะดูออกไหมว่าลูกใคร” ชายหนุ่มเข
บลูแทบไม่เชื่อหูตัวเอง “แกจะบ้าเหรอ พวกเราเป็นเจ้าของห้องพัก ไม่ใช่ทหาร มันเป็นหน้าที่ของทางการที่จะจัดการเรื่องนี้”แต่เอมอนใช่ว่าจะฟังง่าย ๆ อย่างที่เขาบอก ไม่มีใครฟังบลูเลย ทั้งที่ทุกคนเลือกให้เขาเป็นหัวหน้าแท้ ๆ “บ้าน่า ถ้าเขาต้องการคนก็แสดงว่าคนไม่พอ อะไรที่พวกเราช่วยได้ก็ควรทำไม่ใช่หรือ บลู พวกเราทำเควสมากี่ปีแล้ว มันกลายเป็นกิจกรรมประจำวันไปแล้ว ไม่ใช่เรื่องยากอะไรสักหน่อย พวกเราสู้เป็น”“เด็กนั่นบอกว่าพวกมันมีหุ่นยนต์พิฆาต ไม่ใช่แก๊งธรรมดา ไม่อย่างนั้นทหารก็คงจัดการไปหมดแล้ว แค่สู้ในเควสก็พอแล้วน่า”“ฉันไม่สนว่ามันเป็นแก๊งธรรมดาหรือตัวอะไร แต่ฉันไม่ชอบอยู่เฉย ๆ” เอมอนเถียง ทำไมน้องชายของเขาถึงดื้อดึงขนาดนี้ "นายจะไม่ไปก็แล้วแต่ แต่ฉันจะไปลงชื่อ” เขาว่า หันไปมองหน้าเพื่อนที่เหลือ “ใครไม่ไปฉันไม่สนใจ” แล้วย่ำเท้าแรง ๆ ออกไป“เอมอน เอมอน” เขาตะโกนตามหลัง แต่น้องชายไม่ฟังเลย “แกโง่หรือไงวะ” เขาหันกลับมาหาเพื่อนที่เหลือ เดสซิเรมองเขาด้วยสายตาตำหนิ “ไม่เอาน่า
เขายังคงเงียบ อเล็กซิสรู้ว่าตัวการจริง ๆ คือใคร แต่เขาไม่คิดขอโทษ เธอจึงถอนหายใจ“ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมไม่โดนลงโทษ แต่ก็ไม่คิดจะท้วงติงให้เขาลงโทษหรอกนะ ส่วนเรื่องรับอาสาสมัครเพิ่ม กลุ่มที่ลักพาตัวเพื่อนฉันไปไม่ใช่คนธรรมดา ไม่ใช่แค่เจ้าหน้าที่ทุจริตหรือให้ความร่วมมือกับแก๊งโจร พวกนั้นมีหุ่นพิฆาตในครอบครอง นั่นหมายความว่าพวกมันมีเทคโนโลยีไว้ต้านกองกำลัง ทหารมีจำนวนไม่พอ และทางการไม่อนุมัติกองกำลังเพิ่ม ถ้าอยากจะช่วยตัวประกัน พวกเราต้องช่วยพวกเขา ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ฉันรู้ เอาละ ที่นี่พวกนายก็ไปได้แล้ว” เด็กสาวเปิดบานประตูค้างไว้ให้พวกเขาเดินออกทว่าบลูไม่ขยับ ถ้าไม่นับสีหน้านิ่งเฉยและใบหน้าเปื้อนน้ำตาแล้ว เขาไม่เคยเห็นเธอแสดงอารมณ์อื่นจนวันนี้ “เธอควรบอกพวกเราตั้งแต่แรก”คิ้วได้รูปสองข้างขมวดเป็นปม “ทำไมฉันต้องบอกพวกนายเรื่องนี้”“เรื่องยาที่อยู่ในตัวเธอ” เขาชี้นิ้ว “บางทีเราอาจจะหาทางช่วยได้”อเล็กซิสส่ายหน้า “ไม่พูดออกไปก็ถือว่าช่วย ถ้าอย่างนั้น ฉันจะขอบคุณมาก ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ก
“บลู เราไม่ควรเข้ามาแบบนี้”ไม่สนใจเสียงริงโก้ เขาปีนข้ามระเบียงกำแพงบันไดหนีไฟแล้วกระโดดลงระเบียงห้องลูกบ้านรายหนึ่ง จากนั้นปีนข้ามไปอีกห้อง ไต่ไปตามทางชันขนาดคืบหนึ่งไม่กลัวตกเลยแม้แต่น้อย ทักษะโจรย่องเบายังอาย ในเมื่อการเข้าห้องลูกบ้านโดยพลการต้องได้รับเสียงโหวตอนุมัติจากหุ้นส่วนทั้งหก แต่เพราะยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้นอกจากเขากับริงโก้ มิหนำซ้ำได้เห็นประกาศรับอาสาสมัครที่ทางการติดไว้เมื่อเช้า ดังนั้น บลูจำเป็นต้องรู้ว่าเด็กคนนี้ซ่อนอะไรไว้อีก และความอยากรู้เร่งให้เขาต้องค้นหาความจริงเดี๋ยวนี้“แม่งเอ๊ย ไอ้บลู ฟังบ้างสิวะ”เขาปีนข้ามถึงระเบียงห้องอเล็กซิสได้สำเร็จ ปากตะโกนบอก “แกไปรอหน้าห้อง” เพื่อนตัวโตส่ายหัวไม่เห็นด้วย แต่ใครเล่าจะรั้งคนอย่างบลูได้ เขายื่นมือเข้าไปในหน้าต่างที่เปิดค้างไว้ประมาณสิบเซนติเมตร ปลดล็อก จากนั้นเลื่อนบานขึ้นจนสุด เพียงแค่นี้ เขาก็ปีนเข้าห้องเด็กคนนั้นได้สบายห้องของอเล็กซิสค่อนข้างโล่ง เห็นแล้วสะอาดตาปนน่าสงสาร ข้าวของน้อยชิ้นวางไม่ค่อยเป็นระเบียบนัก แต่เพราะมันไม่เยอะจึงไม่รก บลูเห็นแล้วเข้าใจทันทีว่าเธอมีไว้ซุกหัวนอนมากกว่าเห็นเป็นบ้าน เพราะลักษณะการจั
“หยุด ๆ” เขาดันตัวเธอออกอย่างง่ายดาย แรงของไมเคิลนั้นขัดกับรูปร่างเสมอ “บอกแล้วไง ว่าถ้าไม่อยากให้บอก”อเล็กซิสย้อนคำถาม “นายอยากจูบฉันจริงเหรอ” แววตาไมเคิลนั้นแสดงออกชัดว่าลังเล เขาหลบตา “นายอยากจูบฉันเพื่อให้แน่ใจแค่นั้น ถ้าแค่นั้นก็ไม่ต้องไปสนใจพวกเขา เวลาจะตอบเอง”ไมเคิลนิ่วหน้า “ฉันไม่แน่ใจ แต่...”“นั่นไง” เธอชี้ให้เห็น “นายไม่เคยอยากจูบฉัน เพราะถ้านายอยาก นายจะไม่ลังเลหรอก แค่นี้ก็ตอบได้แล้วว่านายไม่ได้ชอบฉันแบบนั้น บางคนอาจคิดว่าผู้ชายกับผู้หญิงไม่สามารถเป็นเพื่อนกันได้ แบบ...เพื่อนสนิท แต่ฉันมีเพื่อนสนิทที่เป็นผู้ชายตั้งสองคน ไม่สิ ตอนนี้สาม” น้ำเสียงเธออ่อนลงเมื่อนึกถึงออสโล่กับเวด “โลกเราก็แบบนี้แหละ”เขาพยักหน้า แต่กลับยังลังเลว่าจะเชื่อเธอดีหรือไม่ “อย่างงี้แปลว่า เธออยากจูบอเล็กซ์ตลอดเวลาเลยงั้นสิ”“ไมเคิล!” เธอร้อง แอบไขว้นิ้วไว้ข้างหลัง “นายสงสัยจริง ๆ หรืออยากแกล้งฉันกันแน่”“ถามจริง ๆ สิ&
ไมเคิลกับเทสซ่าเข้าใจว่าเธอเป็นลมแดดเท่านั้น อเล็กซิสนึกขอบคุณริงโก้ แต่ขณะเดียวกัน เธอไม่คิดว่าเขาจะปิดบังเรื่องนี้กับเพื่อนตัวเองหรอก ตลอดทางกลับ เทสซ่าเอาแต่โทษตัวเองที่ไม่สังเกตอาการเพื่อนจนเธอต้องยืนกรานว่ามันเป็นความผิดของเธอต่างหากที่ไม่ประมาณตนเพื่อให้หญิงสาวสบายใจขึ้นปาร์ตี้ฉลองวันเกิดย้อนหลังของไมเคิลผ่านไปด้วยดี ถึงแม้จัดเพียงช่วงสั้น ๆ ไม่มีดนตรี เกม และอุปกรณ์อำนวยสิ่งบันเทิง แต่ยังคงประเพณีร้องเพลงให้เจ้าของงาน แถมยังเอาใจด้วยอาหารเน้นโปรตีนกับขนมหวานมากมาย เขาชอบสเต๊กสูตรคาเลบมากจนขอให้เธอจดไว้เผื่อทำเอง อเล็กซิสยอมรับว่าเห็นไมเคิลไม่ต่างจากเจ้าลิงน้อยชาร์ลีเลย คู่เทสซ่ากับโคดี้ยังทำให้เธออิจฉาตาร้อน เพราะพอพวกเขาร้องเพลงจบ โคดี้นึกสนุกร้องเพลงต่อแล้วดึงเทสซ่าขึ้นมาเต้นรำ สายตาที่เขามองหญิงสาวแทบทำให้อเล็กซิสละลายลงไปกับพื้น แววตาที่แสดงออกถึงความรักอย่างเปิดเผย และมันทำให้อเล็กซิสว้าเหว่ที่สุด เสียงหัวเราะของทุกคนกลับเพิ่มดีกรีหดหู่ไปจนสุดเพดาน แต่ต้องซ่อนอยู่ภายใต้ใบหน้าเปื้อนยิ้มนี้ถ้าหาก อเล็กซ์ เบ็กกี้ เบน เวด ออสโล่ โนเอล และ ซาร่าห์อ
ตุ๊กตาหญิงชายยืนคู่กันในชุดแปลกตา ดวงตาโตสองข้างวาดด้วยเส้นสีดำหนาและทั้งสองหันศีรษะไปทางซ้ายของเธอ อเล็กซิสคุ้นตาเหมือนเคยเห็นในหนังหรือไม่ก็หนังสือสารคดีเกี่ยวกับงานศิลปะสมัยอารยธรรมโบราณ ผู้ชายถือตะขอและไม้หวด ส่วนผู้หญิงถือไม้เท้า เธอยื่นหน้ามองชั้นหนังสือที่อยู่ข้างหลังโต๊ะ หากไม่นับรวมหนังสือแพทย์ที่มีคำศัพท์ยากเกินกว่าสมองจะเข้าใจ ยังมีหนังสืองานศิลปะและประวัติศาสตร์ย้อนไปถึงหกพันปีก่อนเวลาปัจจุบัน เธอนึกอยากเปิดอ่านบ้าง ช่วงเวลาก่อนยุคหายนะดูไกลตัวมาก หนังสือบอกเล่าประวัติศาสตร์อันน่าพิศวงล้วนดึงดูดอเล็กซิสเสมอ“อยากอ่านหรือ”ทรอยถือแฟ้มสีเขียวเข้ามา ซึ่งน่าจะเป็นผลตรวจของเธอ อเล็กซิสสูดหายใจเข้าช้า ๆ ทำใจก่อนรับฟังความจริง แต่เมื่อเธอนึกขึ้นได้ว่าริงโก้เป็นคนพาเธอมาจึงมองหาเขา“กลับไปแล้ว กระชากคอเสื้อฉันแบบที่เพื่อนเขาทำไม่มีผิด พวกพ้องเทอร์นเนอร์หัวรุนแรงทุกคน” คนเป็นหมอบ่น พลางส่ายศีรษะระอาอเล็กซิสเงียบ จำได้ว่าบลูเคยเล่าเรื่องทรอยให้ฟัง น่าแปลกนัก เขากลับไม่มีทีท่าเย็นชาต่อเธอดังที่ถูกกล่าวหาว่าบ้าคลั่งกลุ่มเสี่
“โอ๊ย”แรงปะทะทำให้เธอหงายหลังล้ม ริงโก้ยืนมองด้วยสีหน้าถมึงทึงแบบทุกที “ขอโทษ” พูดแล้วดึงเธอลุกขึ้นฉับพลันข้างในร่างกายร้อนวูบเหมือนเปลวเทียนแล่นผ่านร่าง อเล็กซิสดึงมือออก แล้วรีบวิ่งหาที่เหมาะ ๆ มือสาละวนควานหายาในกระเป๋ากางเกง สุดท้ายวิ่งเข้าตรอกแคบร้างผู้คน มือดึงมันออก หลอดยาขนาดยาวกว่านิ้วก้อยนิดเดียว มือทั้งสองข้างสั่นระริกพยายามแกะบรรจุภัณฑ์ ความร้อนในร่างกายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนมีคนหมุนปุ่มเตาแก๊ส จนเธอเริ่มทนไม่ไหว อเล็กซิสพยายามสะกดความแสบร้อนไว้ภายใน แต่สุดท้ายต้องยอมแพ้ มือทั้งสองข้างเกร็ง ร่างทรุดลงกับพื้น น้ำตาซึมออกมาเมื่อรู้สึกว่าผิวหนังหดตัวเพราะความร้อน หยุดเถอะ เด็กสาวร้องโอดโอยไม่อาจถือของในมือให้มั่น หลอดยาหล่นลงพื้นพร้อมกับที่เธอยืนไม่ไหวอเล็กซิสพลิกตัวไปมาบนพื้น “ฉีดเข้าเส้นเลือด” เสียงทรอยดังในหัว เธอกรีดร้องคำสบถออกมามากมาย เข้าใจแล้วว่าเหตุใดเอเลน่าจึงขอให้พวกเขายื่นความตายให้ ราวกับว่าอุณหภูมิภายในสูงขึ้นเฉียบพลัน เข็มล่องหนนับพันเล่มทิ่มแทงร่างกายไปจนถึงกระดูก เธอร้องจนสุดเสี
อีกอย่างคำว่า มื้อเย็น เป็นคำวิเศษสำหรับไมเคิล เขาหันขวับทันที ดวงตาสีฟ้าเป็นประกายระยิบระยับราวกับผิวน้ำในมหาสมุทร “ฉลองเหรอ จัดปาร์ตี้กันในห้องนี้ก็ได้นะ”เขากะพริบตาถี่ ๆ ราวกับว่ามันเป็นสิ่งที่โหยหามานาน ไมเคิลเคยตามดูชีวิตเธอเพียงเพราะอยากมีครอบครัวแบบเด็กทั่วไป เด็กสาวคิดดังนั้นแล้วพยักหน้า “เอาสิ เรมี นายเป็นเจ้าของห้องอีกคน โอเคหรือเปล่า”“สบาย ใคร ๆ ก็ชอบปาร์ตี้ทั้งนั้น” หนุ่มผิวสีน้ำผึ้งยิ้มแป้น “แต่คงไม่สุดเหวี่ยงเหมือนตอนโน้นนะ”อเล็กซิสมองคนอื่น ทั้งหมดยินดี โดยเฉพาะเทสซ่าแทบจะเต้นอยู่แล้ว เธอเริ่มลิสต์รายการว่าต้องซื้ออะไรบ้าง พวกเขาสรุปกันว่าจะซื้อขนมและน้ำ แต่อาหารบางอย่างอาจต้องทำเองเพื่อประหยัดงบ เจ้าของไอเดียเลยอาสา “ซื้อเนื้อสเต๊กเกรดพรีเมี่ยมก็แล้วกัน ฉันเลี้ยงเอง บ้านฉันมีสูตรเฉพาะ รับรองว่าทุกคนต้องติดใจแน่” อเล็กซิสถูมือทำเหมือนตัวเองช่ำชอง ลึก ๆ แล้ว โหยหาอาหารฝีมือคาเลบ แต่ในเมื่อมันเป็นไม่ได้ ก็ทำมันซะเลยสิ ถึงแม้ฝีมือเธอจะอ่อนกว่าไบรซ์ แต่เรื่องจำสูตรนั้นแม่นแน่นอน ส