ลูคัสหัวเราะให้กับความน่ารักของเธอ ดวงตาเขาฉายแววอ่อนโยนที่ทำให้โรสเผลอไหววูบในใจ“ก็คงต้องลองดูสักตั้ง...ใจแข็งแค่ไหน ผมก็จะหาโอกาสเอาชนะใจคุณให้ได้ครับ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่จริงจังโรสทำทีว่าไม่สนใจ แต่เธอก็รู้ดีว่าเธอเองกำลังใจอ่อนกับรอยยิ้มและความมุ่งมั่นของเขาอยู่ทุกทีอาหารถูกนำมาเสิร์ฟบนโต๊ะ กลิ่นหอมของขนมปังอบใหม่และกาแฟสดทำให้โรสผ่อนคลายมากขึ้น เธอจัดการกับอาหารตรงหน้าก่อนจะหันไปถามลูคัสในท่าทีสบายๆ“วันนี้เธอมีงานหรือเปล่า?”ลูคัสพยักหน้ารับ “ครับ มีถ่ายแบบช่วงบ่าย” เขาตอบพลางยิ้ม “แต่ผมจะไปส่งคุณกลับบ้านให้พักผ่อนก่อน”โรสพยักหน้าอย่างพอใจ จากนั้นจึงใช้เวลาทานอาหารไปพร้อมกับการสนทนาสบายๆ เมื่อต่างคนต่างจัดการอาหารเสร็จเรียบร้อย ลูคัสก็พาเธอออกจากร้านกาแฟ และขับรถกลับไปยังอพาร์ทเม้นของเธอเมื่อมาถึง ลูคัสพยุงเธอขึ้นไปส่งถึงหน้าประตูห้องอย่างเอาใจใส่ ก่อนจะหยุดถามเธอด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น “คืนนี้คุณเลิกงานกี่โมงครับ? ผมอยากมารับ เพราะเป็นห่วงเรื่องร่างกายของคุณ...ก็ผมมีส่วนต้องรับผิดชอบนี่ครับ”โรสอมยิ้มเล็กๆพลางหรี่ตามองเขาอย่างขี้เล่น “งานคืนนี้น่ะ ฉันไปเป็นสไตลิสต์ให้นางแบ
“แต่ไม่ใช่แค่อาหารหรอกนะครับ เรื่องทำความสะอาดบ้านอะไรพวกนั้น เดี๋ยวผมจัดการให้เอง คุณจะได้มีเวลาเหลือทำอะไรอย่างอื่นมากขึ้น” ลูคัสพูดพลางโน้มตัวมาหอมแก้มเธอเบาๆ แล้วก็เริ่มพรมจูบไปตามลำคอของเธออีกครั้งโรสหัวเราะชอบใจพลางยกมือขึ้นแตะไหล่เขา “เอ๋ เหมือนฉันจะได้คนรับใช้เลยนะเนี่ย”“ถ้าเพื่อคุณ ผมยอมทำหมดแหละครับ” เขาจูบเธออีกครั้งโรสเอนศีรษะพิงหมอน รับสัมผัสจากเขาอย่างเต็มใจ แต่ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัว ทำไมลูคัสถึงทุ่มเทให้เธอมากขนาดนี้? เธอไม่เคยคาดหวังว่านายแบบหนุ่มที่ทั้งหล่อและอายุน้อยกว่า จะมาอยู่เคียงข้างเธอ คอยดูแลเอาใจใส่ในทุกๆเรื่องเล็กน้อยอย่างไม่มีทีท่าว่าจะเบื่อ แล้วเธอเอง...จะโชคดีถึงขนาดนี้ได้จริงๆ เหรอ?ขณะที่เธอเริ่มจมอยู่กับคำถามเหล่านั้น ลูคัสก็เงยหน้ามามองเธอ ดวงตาคมคู่นั้นมีแววเจ้าเล่ห์แฝงอยู่ราวกับเขารู้ทันความคิดของเธอ ก่อนที่เขาจะค่อยๆโน้มตัวเข้ามาใกล้ ริมฝีปากของเขาไล้อย่างยั่วเย้าไปที่ลำคอของเธอ ความร้อนจากสัมผัสของเขาทำให้โรสรู้สึกใจเต้นแรงขึ้น“คิดอะไรอยู่หรือเปล่าครับ?” เขากระซิบแผ่วเบาข้างหู ก่อนจะประทับจูบลงที่ลาดไหล่ของเธออย่างหลงใหล“กะ…ก็แค่คิดว่า
โรสได้แต่ยืนนิ่ง เธอรู้สึกช็อก ไม่คิดว่าการเจอเขาอีกครั้งจะทำให้เธอรู้สึกเหมือนโดนเหยียดหยามทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด เธอพยายามรวบรวมความกล้าเพื่อโต้ตอบ แต่ลำคอเหมือนถูกบีบรัดจนพูดอะไรไม่ออกลูคัสที่ยืนข้างๆนั้นจับความรู้สึกของเธอได้ทันที เขามองมาร์กด้วยสายตาดูถูก เขายิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่บาดลึกอย่างไม่ปรานี“นึกไม่ออกเลยว่าผู้ชายแบบไหนกัน ที่มีผู้หญิงดีๆอยู่แล้ว แต่กลับโง่ทิ้งเธอไป”มาร์กขมวดคิ้ว “แล้วแกเป็นใครถึงกล้ามาพูดแบบนี้กับฉัน?”“ผมแค่คนที่เห็นคุณค่าของโรส” ลูคัสยิ้มเยาะเขาและไม่หลบสายตาของมาร์กเลยแม้แต่น้อย “จะบอกอะไรให้นะ คุณเสียสิ่งที่มีค่าที่ดีที่สุดในชีวิตไปแล้ว”มาร์กชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะพยายามทำหน้านิ่งเหมือนไม่แคร์ “หึ อย่างฉันน่ะเหรอจะพลาด ฉันได้สิ่งที่ดีกว่ามาต่างหาก” เขาโอบกระชับวงแขนโอบรอบผู้หญิงข้างเขาอย่างภูมิใจ“งั้นเหรอ?” ลูคัสยิ้มเยาะ พลางพยักหน้าเหมือนเห็นด้วย “คุณอาจจะได้สิ่งที่คุณคิดว่าดีกว่า แต่ก็น่าแปลกนะ...เพราะดูเหมือนว่าคุณจะยังอิจฉาโรสอยู่”มาร์กหรี่ตาลงเล็กน้อย ความไม่พอใจเริ่มปรากฏบนใบหน้า “อิจฉา? นี่แกพูดเรื่องอะไร”ลูคัสหัวเ
ไม่นาน กลิ่นหอมของข้าวผัดอกไก่คลุกน้ำมันมะกอกก็กระจายไปทั่วห้องครัว ลูคัสยังทำซุปผักรวมใส่ไข่ขาวต้มและเตรียมสลัดผักสดคู่กับน้ำสลัดสูตรเฉพาะที่เขาผสมเอง ทุกจานดูเรียบง่าย แต่กลับน่ากินจนโรสเผลอกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลูคัสหยิบจานข้าวผัดอกไก่และชามซุปที่เขาเตรียมไว้พร้อมจะนำไปเสริฟ “มานั่งที่โต๊ะเถอะครับ คุณจะได้ทานสบายๆ”“ไม่เป็นไร ฉันกินตรงนี้ก็ได้นะ ง่ายดี เธอทำให้ตั้งขนาดนี้แล้ว” โรสคิดว่าไม่อยากจะรบกวนเขามากเพราะยังไงเธอก็เป็นคนง่ายๆอยู่แล้วลูคัสยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วเดินมาหยุดตรงหน้าเธอ “ถ้าคุณยังดื้อ ผมคงต้องอุ้มไปที่โต๊ะจริงๆนะครับ”คำพูดนั้นทำให้โรสหลุดหัวเราะออกมา “โอเคๆ ฉันยอมก็ได้”เมื่อเธอเดินไปที่โต๊ะอาหาร ลูคัสก็วางจานและชามลงบนโต๊ะอาหารซึ่งถูกจัดเรียบง่ายแต่ดูใส่ใจ เขาเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่ง ก่อนจะจัดการนั่งตรงข้ามและตักซุปมาเติมในถ้วยเล็กๆของโรสโรสมองการกระทำของเขาแล้วอดยิ้มไม่ได้ “เธอนี่ดูทำอะไรได้หมดจริงๆนะ ตั้งแต่ทำอาหารยันทำตัวเหมือนพ่อบ้านมืออาชีพ”ลูคัสหัวเราะในลำคอออกมาขณะที่เทน้ำใส่แก้วของเธอ “ผมแค่ทำตามหน้าที่ของคนที่อยากดูแลคุณก็เท่านั้นเองครับ”โรสยิ้มตอบ คำพูดของเขามั
“อืมมม…คุณนี่เกินไปนะครับ โรส....” ลูคัสเอ่ยเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำแต่แฝงไปด้วยความต้องการที่กำลังพลุ่งพล่าน และเขากำลังจะดึงเธอขึ้นไปเธอเลื่อนตัวเข้าใกล้จนลมหายใจร้อนของเธอเป่ารดลงบนท่อนเนื้อที่เริ่มเต้นตุบๆอยู่ในมือ ริมฝีปากจูบแผ่วเบาลงบนส่วนปลายที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้มด้วยความปรารถนา ริมฝีปากนุ่มสัมผัสลงไปอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนที่ปลายลิ้นอุ่นจะไล้วนอย่างจงใจไปทั่วส่วนปลายอย่างเย้าแหย่เสียงลมหายใจของลูคัสเริ่มกระชั้น ร่างกายที่ปกติสงบนิ่งตอนนี้กระตุกเล็กน้อยกับทุกสัมผัสที่เธอปล่อยออกมา“โรส…” เขาเรียกชื่อเธออีกครั้ง แต่ครั้งนี้น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความต้องการเธอไม่ตอบอะไร เพียงแต่เงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยท่าทางยั่วเย้าก่อนจะโน้มตัวเข้าใกล้ ใช้ริมฝีปากนุ่มค่อยๆครอบครองแก่นกายของเขา ความอุ่นร้อนจากสัมผัสนั้นทำให้ลูคัสเอนตัวพิงพนักเก้าอี้และครางเสียงต่ำออกมาสายตาของเขาจับจ้องทุกการเคลื่อนไหวของเธอด้วยแรงอารมณ์ที่เริ่มปะทุ มือข้างหนึ่งเลื่อนไปจับเบาะเก้าอี้ไว้แน่นเพื่อควบคุมตัวเอง ส่วนอีกข้างสัมผัสศีรษะของเธออย่างนุ่มนวล ราวกับต้องการรู้สึกถึงเธอมากกว่านี้ แต่ไม่อยากให้รีบร
ลูคัสปล่อยให้เธอทำตามใจชอบ ขณะที่ตัวเขาเอนตัวลงอย่างเกียจคร้าน แต่สีหน้าและแววตานั้นไม่ได้บ่งบอกถึงความผ่อนคลายเลยแม้แต่น้อยและในความเงียบงันนั้น มีเพียงเขาที่รู้ว่าคืนนี้มันเป็นแค่จุดเริ่มต้นของบางสิ่งที่โรสยังไม่ทันได้ระแวง...หลังจากที่โรสมั่นใจว่าลูคัสปลดปล่อยออกมาหมดแล้ว เธอจูบลงที่ตรงส่วนหัวก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองลูคัสที่กำลังมองเธออยู่ แต่สีหน้าของเขากลับมาเป็นปกติแล้ว"อร่อยมาก..." เธอพูดพร้อมกับเลียริมฝีปากตัวเองด้วยสีหน้าที่พึงพอใจอย่างเต็มที่ ขณะที่ลูคัสได้แต่มองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหล"คุณนี่มันจริงๆเลย..." ลูคัสพูดพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่กลับมาบนใบหน้าโรสหัวเราพร้อมลุกขึ้นจากพื้น "หึหึ...ฉันไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน" เธอพูดและกำลังจะเดินกลับเข้าห้องของเธอลูคัสที่ยังคงหายใจถี่เล็กน้อย ค่อยๆยันตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าคมของเขา "เดี๋ยวสิครับ...คิดว่าผมจะปล่อยให้คุณไปง่ายๆเหรอ?"โรสชะงักแล้วหันกลับมามองเขา ดวงตาเต็มไปด้วยความท้าทาย "แล้วเธอจะทำอะไรล่ะ?"นายแบบหนุ่มไม่ตอบ แต่ในชั่วพริบตา ลูคัสก้าวเข้ามาประชิดตัวเธอ มือแกร่งคว้าเอวบางไว้ก่อนจะพาเธ
ลูคัสมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา มือใหญ่ลูบไปตามต้นขาของเธอ ก่อนที่จะลุกขึ้นยืน "ผมขอเวลาแป๊บเดียวครับ เดี๋ยวไปหยิบถุงยางก่อน"แต่ยังไม่ทันที่เขาจะก้าวไปไหน โรสกลับคว้าแขนของเขาเอาไว้ "ไม่ต้องหรอก..." เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าชวนคนให้หลงใหลลูคัสชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะเอ่ย "คุณแน่ใจเหรอครับ?" สายตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยปนความร้อนแรงโรสเพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อย รอยยิ้มบางยังคงประดับอยู่บนใบหน้า เธอคิดว่าทั้งคู่มีอะไรกันมาตั้งหลายครั้งแล้ว และเขาก็ตัวติดเธอตลอดแบบนี้ เขาจะไปมีใครที่ไหนได้อีก... ความคิดนี้ทำให้เธอยิ่งมั่นใจ"หรือเธอจะกลัวทนไม่ไหว?" เธอแกล้งยั่ว ยกคิ้วขึ้นเล็กน้อยพร้อมส่งยิ้มขี้เล่นให้กับเขาลูคัสหัวเราะในลำคอ มือข้างหนึ่งดึงผมเธอขึ้นมาจูบ "พูดแบบนี้ผมจะปล่อยไปได้ยังไงล่ะครับ?"เขาทิ้งตัวลงตรงหน้าเธออีกครั้ง ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะกดจูบลงมาอย่างร้อนแรง มือใหญ่เลื่อนลงจับสะโพกของเธอแน่นขึ้น "คุณนี่มัน..." เขากระซิบข้างหู "ชอบทำให้ผมเสียการควบคุมจริงๆ""ก็ฉันชอบแบบนี้ไง" โรสกระซิบตอบ ขยับตัวเข้าใกล้แล้วยกขาเรียวเกี่ยวเอวเขาไว้แน่น "แล้วเธอล่ะ จะรออะไรอยู่?"
เมื่อถึงจุดที่ความคลั่งไคล้ท่วมท้นจนไม่อาจควบคุมได้ ลูคัสเร่งจังหวะของเขาให้รุนแรงและหนักหน่วง สะโพกกระแทกเข้าหาโรสจนเสียงเนื้อกระทบกันดังสะท้อนก้องไปทั่วห้อง ร่างกายของเขาและเธอเกร็งแน่นทุกสัดส่วน ความร้อนแรงที่สะสมอยู่ภายในนั้นพุ่งทะยานจนเขาแทบจะขาดสติ“ลูคัส... ฉัน...!” เสียงของโรสสั่นพร่าขณะร่างของเธอเกร็งแน่น ทุกสิ่งทุกอย่างในร่างกายถูกกระตุ้นจนถึงขีดสุด ความร้อนที่แผ่กระจายไปทั่วช่องท้องและลามไปยังทุกปลายประสาททำให้เธอปลดปล่อยออกมาอย่างรุนแรง น้ำหล่อลื่นที่ไหลท่วมทำให้เขาสอดลึกเข้าไปยิ่งขึ้น เสียงครางของเธอก้องกังวานในห้องกว้าง ความสุขสมที่ยากจะบรรยายทำให้เธอแทบลืมตัว ร่างของเธอสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่อยู่ลูคัสรับรู้ถึงแรงตอดรัดจากภายในที่ทำให้เขาแทบจะเสร็จตามเธอไป เขากระแทกสะโพกเข้าไปลึกและหนักขึ้น ในการกระแทกเข้าไปครั้งสุดท้ายด้วยความแรงและลึก ทำให้เขาปลดปล่อยออกมาอย่างรุนแรง และขยับเข้าออกช้าๆเพื่อปลดปล่อยทุกหยาดหยดเข้าไปในตัวเธอโรสหายใจถี่รัว ร่างกายกระตุกเป็นระลอกเมื่อความสุขสมรุนแรงพุ่งทะลักจนสติของเธอพร่าเลือนไปชั่วขณะ เสียงครางสุดท้ายหลุดออกมาจากริมฝีปากก่อนที่ทุกอย่าง
โรสยังคงขยับสะโพกรับการกระแทกของเขาอย่างไม่ยอมให้เขาหยุด เธอรู้สึกถึงความเสียวซ่านที่ทวีคูณขึ้นทุกครั้งที่เขากระแทกเข้าไป“อ๊า... ลูคัส... ไม่ไหวแล้ว... ฉันจะเสร็จแล้ว!” โรสบอกเสียงกระเส่า ขาของเธอสั่นระริก มือของเธอยังบีบยอดอกของตัวเองเพื่อระบายความเสียวซ่านไปพร้อมๆกับสะโพกที่ขยับรับการกระแทกจากเขาลูคัสมองดูร่างของเธอด้วยสายตาที่มืดลง พยายามเก็บอารมณ์ของตัวเองไว้จนแทบจะทนไม่ไหว “คุณไม่ไหวแล้วใช่ไหม?” เขาพูดเสียงต่ำ ขยับสะโพกเข้าไปลึกและแรงขึ้น “ผมไม่อยากหยุดเลย โรส...”แต่เขารู้ดีว่าโรสต้องการอะไร และเขาก็รู้ว่าต้องการทำให้เธอถึงจุดสูงสุดก่อนถึงเวลาของเขา เขาหลับตาลงก่อนจะกระแทกอีกครั้งด้วยความแรงที่เพิ่มขึ้น “ปล่อยออกมาเลยครับ เสร็จออกมาเลย”ทันใดนั้นโรสก็ปล่อยเสียงครางออกมาในลำคออย่างไม่อาจควบคุมได้ ร่างกายของเธอกระตุกไปตามจังหวะที่เขากระแทกเข้าออก ความเสียวที่พุ่งเข้ามาทำให้เธอหลุดเสียงร้อง "อ๊า... ลูคัส... ฉัน... ฉันเสร็จแล้ว!" ร่างของเธอสั่นระริก ขาเกร็งจนเกือบจะล้มแต่ยังคงยืนอยู่ได้เพราะลูคัสยังคอยจับเธอไว้แน่นลูคัสกระแทกเข้าไปอีกครั้ง เขาครางเสียงแหบพร่า ในที่สุดเขาก็ปลดปล่อ
หลังจากกิจกรรมอันเร่าร้อนหลังโขดหินนั้นจบลง ลูคัสพาเธอกลับมาที่ห้องเพื่อทำความสะอาดและพักผ่อนเมื่อถึงห้องพัก ลูคัสกุมมือโรสแน่น รู้ดีว่าไม่มีสิ่งใดสามารถกั้นเขาไม่ให้เข้าใกล้เธอได้อีกแล้ว เมื่อประตูปิดลง เขาจูงเธอตรงไปยังห้องน้ำ เสียงน้ำอุ่นที่กระทบพื้นดังแว่วเป็นจังหวะ แต่สิ่งที่ก้องอยู่ในใจเขาเป็นเพียงเสียงหายใจของเธอ ที่แผ่วเบาแต่สะกดเขาไว้จนไม่อาจหันเหสายตาไปทางอื่นได้ในแสงสลัวจากไฟในห้องน้ำ ลูคัสมองโรสอย่างที่เขาทำไม่ได้ในที่แจ้ง ร่างกายที่ยังมีละอองน้ำทะเลเคลือบผิวดูเย้ายวนจนเขาต้องเผลอกลืนน้ำลายอย่างลืมตัว มือหนาเอื้อมไปปลดปมบิกินี่ของเธอออกอย่างแผ่วเบา ดวงตาของเขาจ้องมองเธออย่างไม่ปิดบังความรู้สึก“คุณสวย...จนผมไม่อยากละสายตาเลย” ลูคัสเอ่ยเสียงพร่า เขาโน้มตัวเข้าใกล้ ปลายจมูกแตะหน้าผากเธอเบาๆ ก่อนจะเลื่อนลงมาที่แก้ม โรสหลับตา ปล่อยให้เขาละเลียดจูบที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน“พอเถอะลูคัส...” โรสพูดเสียงกระเส่า แต่มือของเธอกลับเผลอเกาะต้นแขนเขาแน่นลูคัสยิ้มมุมปาก เขารู้ดีว่าเธอกำลังสู้กับตัวเอง “คุณพูดให้ผมหยุด...แต่ร่างกายคุณบอกให้ผมไปต่อ คุณจะเอายังไงดีครับ คุณโรส” น้ำเสียงแฝง
อีกภาพที่เขาจับได้คือตอนที่เธอก้มลงเก็บลิปสติกที่ตกอยู่บนพื้น ผมของเธอปรกลงมาบังใบหน้า เธอปัดมันไปด้านหลังอย่างไม่ใส่ใจ ท่าทางธรรมดานั้นกลับดูดึงดูดจนเขารู้สึกว่ามือที่จับกล้องสั่นเล็กน้อย แล้วก็มีภาพหนึ่ง เป็นช่วงที่โรสหัวเราะพร้อมกับเพื่อนร่วมงาน แสงสะท้อนจากรอยยิ้มของเธอดูอบอุ่นจนทำให้ห้องทั้งห้องดูมีชีวิตชีวาขึ้น ลูคัสมองผ่านเลนส์ เขารู้สึกเหมือนเธอเป็นภาพถ่ายที่ยังไม่ได้ใส่กรอบ เป็นชั่วขณะที่เขาอยากหยุดเวลาไว้ตรงนั้นลูคัสรู้ดีว่าการกระทำแบบนี้อาจจะไม่ถูกต้อง แต่เขาก็ไม่อาจห้ามตัวเองได้ ทุกครั้งที่เธอเคลื่อนไหว กล้องในมือก็เหมือนเป็นเพียงทางเดียวที่เขาจะยึดโยงเธอไว้ได้ในโลกของเขาเองเขาเริ่มสะสมภาพของเธอไว้ในแฟ้มส่วนตัวอย่างเงียบๆแต่ความอยากรู้อยากเห็นไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เมื่อเขารู้ว่าโรสทำงานที่ไหน และพักอาศัยอยู่ที่ใด ลูคัสก็เริ่มสะกดรอยตามเธอในวันหยุดที่เขาควรจะพักผ่อน ลูคัสกลับขับรถไปจอดอยู่ใกล้คาเฟ่ที่โรสชอบแวะไป เขานั่งอยู่ในมุมร้านที่เธอไม่สังเกตเห็น มองดูเธอจิบกาแฟและอ่านหนังสือ บางครั้ง เขาเดินตามเธอไปในห้างสรรพสินค้า จับภาพเธอผ่านหน้าจอโทรศัพท์ขณะเธอเลือกซื้อของใช้เ
บ้านหลังเล็กในเขตชานเมืองยามค่ำคืน เงาของแสงไฟจากหลอดไฟเก่าๆกระพริบอยู่เหมือนมันกำลังจะดับ ลูคัสในวัยเด็กนั่งตัวสั่นอยู่ในมุมมืดของห้องเก็บของเล็กๆ ซึ่งเป็นที่เดียวที่เขารู้สึกปลอดภัย ตุ๊กตาเก่าๆที่มีรอยเย็บซ่อมเต็มตัวอยู่ในอ้อมแขนเล็กๆของเขาราวกับมันเป็นสิ่งเดียวที่ปกป้องเขาได้ เสียงทะเลาะวิวาทดังระงมมาจากห้องนั่งเล่น เป็นเสียงของผู้ชายตะคอกด่าทอผสมกับเสียงผู้หญิงที่พยายามห้ามปรามแล้วเสียงขวดแก้วก็แตกกระจายดังสนั่น เศษแก้วปลิวกระจายไปทั่วพื้น ทำให้ลูคัสสะดุ้งเฮือก น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ก็ไหลรินออกมา เขากดหน้าซุกกับตุ๊กตาและเอามือน้อยๆปิดหูทั้งสองข้างของตัวเองเอาไว้ เพื่อปิดกั้นเสียงเอาไว้ แต่เสียงที่น่าสะพรึงนั้นยังดังอยู่ เสียงแห่งความเจ็บปวด เสียงแห่งความโกรธที่ดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด"ลูคัส!" เสียงกระซิบดังขึ้นเบาๆ ก่อนที่พี่สาวของเขาจะปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตู เธอพุ่งเข้ามาในห้องพร้อมกับปิดประตูอย่างรวดเร็วก่อนจะกอดเขาไว้แน่น ร่างกายของเธอสั่นระริกไม่ต่างจากเขา "ไม่ต้องกลัว พี่จะปกป้องเธอเอง"ลูคัสเงยหน้าขึ้นมองพี่สาว ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความความอ่อนโยน เธอพยายามจะปลอบเขาทั้ง
โรสถอยเท้าหนี ความรู้สึกสงสารและโกรธแค้นประดังเข้ามาในใจ เธอยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ เธอพยายามพูดด้วยเสียงที่นิ่งที่สุด แต่ก็ยังสั่นอย่างเห็นได้ชัด “ความรักของเธอมันหนักเกินไปสำหรับฉัน ลูคัส ฉันไม่สามารถทนรับมันได้อีกแล้ว ฉันแค่...อยากให้ทุกอย่างจบ...”เขาทรุดลงไปอีกครั้ง หมอบกราบแทบเท้าของเธอ ร่างสูงใหญ่ดูอ่อนแอและสิ้นหวังอย่างน่าเวทนา “ได้โปรด...อย่าพูดแบบนั้น ผมขอโทษ...ขอโทษจริงๆ...ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะครับ”โรสมองเขาด้วยสายตาเปื้อนน้ำตา หัวใจเธอเจ็บปวดเหมือนโดนบีบให้แตกสลาย แต่เธอก็ต้องรวบรวมความเข้มแข็งไว้ เธอไม่สามารถให้ตัวเองใจอ่อนได้อีกแล้วเอมี่ขยับมายืนข้างๆ สายตาจ้องมองลูคัสอย่างไม่ไว้ใจ ก่อนจะหันมาพูดกับโรส “เธอไม่จำเป็นต้องอยู่ฟังอะไรแบบนี้แล้ว ไปจากที่นี่กันเถอะโรส”ลูคัสเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง น้ำตาอาบแก้ม เขาดูเหมือนคนที่หมดสิ้นทุกสิ่ง “โรส...ได้โปรด...ผมไม่มีคุณไม่ได้...”โรสหลับตาลง พยายามสะกดน้ำตาที่ไหลไม่หยุด เธอรู้ดีว่าการกลับไปหาลูคัสไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง แม้หัวใจของเธอจะเจ็บปวดกับสภาพของเขา แต่เธอก็ไม่สามารถลืมสิ่งที่เขาเคยทำได้...โรสทรุดตัวลงนั่
เมื่อโรสย้ายเข้าไปอยู่กับเอมี่ เธอใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เรื่องของลูคัสจนถึงเอเดน เสียงของเธอสั่นเล็กน้อยเมื่อเล่าถึงช่วงเวลาที่เธอถูกหักหลัง ความรู้สึกอับอายและเจ็บปวดผสมปนเปจนแทบพูดไม่ออก แต่เอมี่ฟังอย่างเงียบๆโดยไม่ขัดอะไร จนกระทั่งทุกอย่างถูกถ่ายทอดออกไปจนหมด"แล้วทำไมเธอไม่บอกฉันตั้งแต่แรก?!" เอมี่พูดขึ้น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธและผิดหวัง "ถ้าเธอเล่าให้ฉันฟัง บางทีเรื่องมันอาจจะไม่บานปลายแบบนี้ก็ได้"โรสก้มหน้าลง น้ำตารื้นขึ้นมาอีกครั้ง เธอพึมพำด้วยความรู้สึกผิด "ฉันไม่กล้าเล่า... ฉันอาย"เอมี่ขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ "อายเรื่องอะไร? เรื่องแบบนี้เธอต้องบอกฉันสิ ฉันคือเพื่อนของเธอนะ""ฉันรู้สึกอายที่จะบอกว่าฉันคบกับคนที่อายุน้อยกว่าตัวเองมากขนาดนั้น ตอนแรกมันเหมือนแค่เรื่องสนุก ฉันไม่คิดว่ามันจะลากยาวมาจนถึงจุดนี้... ฉันไม่คิดว่ามันจะซับซ้อนและเลวร้ายแบบนี้เลย"เอมี่ถอนหายใจออกมายาว ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มลง "ไม่ว่ามันจะเป็นยังไง เธอไม่ควรเก็บไว้คนเดียวแบบนี้อีก เข้าใจไหม? ต่อไปถ้าเกิดอะไรขึ้น เธอต้องบอกฉันทันที เราจะหาทางแก้ไปด้วยกัน"โรสพยักห
แม้ว่าลูคัสอาจมีปัญหาในจิตใจของเขาเอง แต่เธอก็ไม่สามารถให้อภัยสิ่งที่เขาทำได้ ความเจ็บปวดจากการถูกล่วงละเมิดทั้งทางร่างกายและจิตใจยังคงหลอกหลอนเธอทุกครั้งที่หลับตา แต่เมื่อมองเรื่องราวของตัวเองกับสามี มันยิ่งเห็นชัดเจนขึ้น การที่เธอเลิกกับสามีมันไม่ใช่ความผิดของลูคัสอย่างที่เขาพูด แม้ว่าลูคัสจะจ้างผู้หญิงคนนั้นเพื่อเข้าไปใกล้สามีของเธอ แต่สุดท้ายการที่สามีของเธอนอกใจมันก็คือการตัดสินใจของเขาเอง ลูคัสอาจเป็นตัวกระตุ้น แต่เขาไม่ได้เป็นต้นเหตุของความล้มเหลวในชีวิตแต่งงานของเธอความคิดนี้ทำให้เธอเริ่มสงบลง เธอหยุดกล่าวโทษทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูคัสหรือใครก็ตาม เธอเริ่มยอมรับความจริงว่าชีวิตเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ และบางครั้ง ความเจ็บปวดก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเส้นทางที่ต้องเดินผ่านแต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนสำหรับเธอในตอนนี้คือเธอไม่ต้องการที่จะมีความสัมพันธ์ใดๆอีกแล้ว ความรักที่เคยทำให้เธอมีความสุข ตอนนี้กลับเป็นสิ่งที่เธอเข็ดหลาบที่สุด เธอไม่อยากเสี่ยงเปิดใจให้ใครอีก ไม่อยากแบกรับความเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้นซ้ำๆในสองวันนั้น โรสพยายามฝึกที่จะเริ่มต้นดูแลตัวเอง เธอเปิดหน้าต่างให้ลมเย็นๆ ของช่วงเช
"ลูคัส ฟังฉันนะ..." เสียงของเธอสั่นไหว แต่แฝงด้วยความหนักแน่น “ทุกอย่างมันจบแล้ว ฉัน... ฉันไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เธอกับฉัน มันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว อย่ามายุ่งกับฉันอีกเลย ปล่อยฉันไปเถอะ”น้ำตาของลูคัสไหลลงมาอีกเป็นสายเขาส่ายหัวไปมาอย่างแรง “ไม่! คุณยังรักผมอยู่ ผมรู้!” เขาพุ่งเข้าไปกอดขาของเธอแน่นจนโรสต้องเซถอยหลังเล็กน้อย“ปล่อยฉัน ลูคัส!” โรสร้องด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ฉันเหนื่อยเกินไปแล้ว เธอ... เธอทำลายทุกอย่างในชีวิตฉัน เธอไม่เข้าใจเหรอ?”ลูคัสกลับยิ่งกอดขาเธอแน่น เขาสะอื้นเหมือนเด็กที่กำลังหวาดกลัวการถูกทอดทิ้ง “ผมขอโทษ ผมรู้ว่าผมผิด แต่ผมทำไปเพราะผมรักคุณ... โรส ให้โอกาสผมอีกครั้งได้ไหม...ขอร้อง...”โรสมองลงไปที่เขา ภาพของลูคัส นายแบบชื่อดังที่ครั้งหนึ่งเคยมีแต่ความมั่นใจในตัวเอง ดูดีและสมบูรณ์แบบในสายตาของทุกคน บัดนี้เขากลับกลายเป็นเพียงชายที่ดูไม่ได้ แตกสลายและหมดสภาพ เธอรู้สึกสมเพชอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ใช่แค่กับเขา... แต่กับตัวเธอเองที่ปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในวังวนนี้นานเกินไปโรสพยายามรวบรวมสติที่เหลืออยู่ก่อนจะพูด "ฉันไม่เหลืออะไรให้เธอแล้วลูคัส ไม่แม้แต่ความเกลียดชัง ฉันแค่...
ในขณะที่เอเดนกำลังพยายามดึงเสื้อผ้าของโรสออก เสียงประตูที่เปิดออกอย่างแรงทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก ร่างสูงใหญ่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็ว ก่อนที่โรสจะทันได้ประมวลผล คนที่เข้ามาก็ถีบเอเดนออกจากตัวเธออย่างรุนแรง ร่างของเอเดนกระเด็นไปกระแทกกับพื้นเสียงดัง ลูคัสยืนอยู่ตรงนั้น สายตาของเขาเต็มไปด้วยโทสะที่แทบจะเผาผลาญทุกสิ่งรอบตัว“แกทำอะไรลงไป เอเดน!” ลูคัสคำราม ก่อนพุ่งเข้าไปกระชากตัวเอเดนขึ้นจากพื้นและเหวี่ยงหมัดใส่เขาอย่างไร้ความปรานี เอเดนล้มลงไปอีกครั้ง แต่ลูคัสไม่หยุด เขาใช้เข่าคร่อมร่างของเอเดนไว้ แล้วปล่อยหมัดตามมาอย่างต่อเนื่องลูคัสจมอยู่ในความโกรธแค้น และเอเดนที่ถูกจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวก็ไร้ความสามารถที่จะตอบโต้ สภาพเขาเละเทะและอ่อนแรงลงเรื่อยๆ จนในที่สุดร่างของเอเดนก็แน่นิ่งไปโรสนั่งอยู่บนเตียง สภาพของเธอดูอิดโรย เสื้อผ้าหลุดลุ่ย และเส้นผมยุ่งเหยิง เธอกอดตัวเองแน่น ร่างกายสั่นสะท้าน ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะความหนาวเหน็บของเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นหรือความกลัวที่เริ่มครอบงำเธอมองลูคัสที่ค่อยๆลุกขึ้นจากร่างของเอเดนด้วยสายตาที่เธออ่านไม่ออก เขาเพิ่งช่วยเธอจากเอเดน แต่แววตาที่เขาหันมาหาเ