ลูคัสปล่อยให้เธอทำตามใจชอบ ขณะที่ตัวเขาเอนตัวลงอย่างเกียจคร้าน แต่สีหน้าและแววตานั้นไม่ได้บ่งบอกถึงความผ่อนคลายเลยแม้แต่น้อยและในความเงียบงันนั้น มีเพียงเขาที่รู้ว่าคืนนี้มันเป็นแค่จุดเริ่มต้นของบางสิ่งที่โรสยังไม่ทันได้ระแวง...หลังจากที่โรสมั่นใจว่าลูคัสปลดปล่อยออกมาหมดแล้ว เธอจูบลงที่ตรงส่วนหัวก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองลูคัสที่กำลังมองเธออยู่ แต่สีหน้าของเขากลับมาเป็นปกติแล้ว"อร่อยมาก..." เธอพูดพร้อมกับเลียริมฝีปากตัวเองด้วยสีหน้าที่พึงพอใจอย่างเต็มที่ ขณะที่ลูคัสได้แต่มองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหล"คุณนี่มันจริงๆเลย..." ลูคัสพูดพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่กลับมาบนใบหน้าโรสหัวเราพร้อมลุกขึ้นจากพื้น "หึหึ...ฉันไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน" เธอพูดและกำลังจะเดินกลับเข้าห้องของเธอลูคัสที่ยังคงหายใจถี่เล็กน้อย ค่อยๆยันตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าคมของเขา "เดี๋ยวสิครับ...คิดว่าผมจะปล่อยให้คุณไปง่ายๆเหรอ?"โรสชะงักแล้วหันกลับมามองเขา ดวงตาเต็มไปด้วยความท้าทาย "แล้วเธอจะทำอะไรล่ะ?"นายแบบหนุ่มไม่ตอบ แต่ในชั่วพริบตา ลูคัสก้าวเข้ามาประชิดตัวเธอ มือแกร่งคว้าเอวบางไว้ก่อนจะพาเธ
ลูคัสมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา มือใหญ่ลูบไปตามต้นขาของเธอ ก่อนที่จะลุกขึ้นยืน "ผมขอเวลาแป๊บเดียวครับ เดี๋ยวไปหยิบถุงยางก่อน"แต่ยังไม่ทันที่เขาจะก้าวไปไหน โรสกลับคว้าแขนของเขาเอาไว้ "ไม่ต้องหรอก..." เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าชวนคนให้หลงใหลลูคัสชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะเอ่ย "คุณแน่ใจเหรอครับ?" สายตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยปนความร้อนแรงโรสเพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อย รอยยิ้มบางยังคงประดับอยู่บนใบหน้า เธอคิดว่าทั้งคู่มีอะไรกันมาตั้งหลายครั้งแล้ว และเขาก็ตัวติดเธอตลอดแบบนี้ เขาจะไปมีใครที่ไหนได้อีก... ความคิดนี้ทำให้เธอยิ่งมั่นใจ"หรือเธอจะกลัวทนไม่ไหว?" เธอแกล้งยั่ว ยกคิ้วขึ้นเล็กน้อยพร้อมส่งยิ้มขี้เล่นให้กับเขาลูคัสหัวเราะในลำคอ มือข้างหนึ่งดึงผมเธอขึ้นมาจูบ "พูดแบบนี้ผมจะปล่อยไปได้ยังไงล่ะครับ?"เขาทิ้งตัวลงตรงหน้าเธออีกครั้ง ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะกดจูบลงมาอย่างร้อนแรง มือใหญ่เลื่อนลงจับสะโพกของเธอแน่นขึ้น "คุณนี่มัน..." เขากระซิบข้างหู "ชอบทำให้ผมเสียการควบคุมจริงๆ""ก็ฉันชอบแบบนี้ไง" โรสกระซิบตอบ ขยับตัวเข้าใกล้แล้วยกขาเรียวเกี่ยวเอวเขาไว้แน่น "แล้วเธอล่ะ จะรออะไรอยู่?"
เมื่อถึงจุดที่ความคลั่งไคล้ท่วมท้นจนไม่อาจควบคุมได้ ลูคัสเร่งจังหวะของเขาให้รุนแรงและหนักหน่วง สะโพกกระแทกเข้าหาโรสจนเสียงเนื้อกระทบกันดังสะท้อนก้องไปทั่วห้อง ร่างกายของเขาและเธอเกร็งแน่นทุกสัดส่วน ความร้อนแรงที่สะสมอยู่ภายในนั้นพุ่งทะยานจนเขาแทบจะขาดสติ“ลูคัส... ฉัน...!” เสียงของโรสสั่นพร่าขณะร่างของเธอเกร็งแน่น ทุกสิ่งทุกอย่างในร่างกายถูกกระตุ้นจนถึงขีดสุด ความร้อนที่แผ่กระจายไปทั่วช่องท้องและลามไปยังทุกปลายประสาททำให้เธอปลดปล่อยออกมาอย่างรุนแรง น้ำหล่อลื่นที่ไหลท่วมทำให้เขาสอดลึกเข้าไปยิ่งขึ้น เสียงครางของเธอก้องกังวานในห้องกว้าง ความสุขสมที่ยากจะบรรยายทำให้เธอแทบลืมตัว ร่างของเธอสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่อยู่ลูคัสรับรู้ถึงแรงตอดรัดจากภายในที่ทำให้เขาแทบจะเสร็จตามเธอไป เขากระแทกสะโพกเข้าไปลึกและหนักขึ้น ในการกระแทกเข้าไปครั้งสุดท้ายด้วยความแรงและลึก ทำให้เขาปลดปล่อยออกมาอย่างรุนแรง และขยับเข้าออกช้าๆเพื่อปลดปล่อยทุกหยาดหยดเข้าไปในตัวเธอโรสหายใจถี่รัว ร่างกายกระตุกเป็นระลอกเมื่อความสุขสมรุนแรงพุ่งทะลักจนสติของเธอพร่าเลือนไปชั่วขณะ เสียงครางสุดท้ายหลุดออกมาจากริมฝีปากก่อนที่ทุกอย่าง
โรสยักไหล่ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำ และเมื่อเธอกลับมา อาหารเช้าก็ถูกจัดวางอย่างเรียบร้อยบนโต๊ะ ลูคัสเตรียมขนมปังปิ้งกรอบนอกนุ่มใน วางคู่กับไข่คนที่ปรุงรสอย่างลงตัว ผักสลัดสดกรอบสีสันสดใส และโยเกิร์ตโรยกราโนล่ากับผลไม้"โห น่ากินจัง" โรสพูดอย่างประทับใจเมื่อเห็นโต๊ะอาหาร ลูคัสเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่ง ก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้าม ทั้งสองพูดคุยกันอย่างผ่อนคลาย"วันนี้คุณมีงานไหมครับ?" ลูคัสถามขณะตักไข่คนขึ้นชิม"มีสิ ฉันต้องไปเป็นสไตลิสต์ให้นายแบบอีกคน" โรสตอบด้วยน้ำเสียงร่าเริง แต่คำพูดของเธอทำให้สีหน้าของลูคัสเปลี่ยนไปในทันที แม้เพียงเสี้ยววินาที แต่ในแววตาของเขาฉายแววหึงหวงอย่างเห็นได้ชัดแต่ลูคัสก็ปรับสีหน้ากลับเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่โรสจะทันสังเกต "แล้วคุณจะกลับมาตอนไหนครับ?""น่าจะทันมื้อค่ำนะ เธอล่ะ?""ผมก็คงเสร็จงานไว ถ้าอย่างนั้นผมจะเตรียมอาหารไว้รอคุณ" ลูคัสยิ้มให้เธอแต่แววตาที่มองเธอนั้นลึกลับยากจะเดา"ได้ ฉันจะรีบกลับมานะ" โรสยิ้มตอบ เธอรู้สึกมีความสุขที่มีเขาอยู่ข้างๆ เธอไม่รู้เลยว่าสายตาของเขามองเธอด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้งเกินกว่าจะอธิบายได้ง่ายๆบรรยากาศในสตูดิโอถ่ายงานวันนี
โต๊ะอาหารที่ถูกจัดไว้อย่างสวยงามยังคงอยู่เหมือนเดิม ลูคัสเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่งอย่างช้าๆ มือเรียวยาวของเขาหยิบขวดไวน์แดงที่วางอยู่ข้างๆ รินลงในแก้วจนเต็ม ก่อนจะยกขึ้นมาจิบโดยไม่มีทีท่าสนุกสนานเหมือนทุกครั้งไฟจากโคมไฟระย้าเหนือโต๊ะสะท้อนกับแก้วไวน์ในมือของเขา เผยให้เห็นแววตาที่มืดหม่น ไร้ความอบอุ่น ริมฝีปากของเขาที่เคยยิ้มในทุกครั้งที่คุยกับโรสกลับปิดสนิท ใบหน้าคมสันที่ดูสงบนิ่งในทีแรกตอนนี้กลับมีบางอย่างที่ทำให้ดูเย็นชาและน่ากลัวเขาวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะก่อนจะเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ มือข้างหนึ่งลูบแก้วไวน์ไปมาเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง บรรยากาศในห้องนั้นพลันมีบรรยากาศที่น่าอึดอัดและหนักอึ้งลูคัสนั่งอยู่อย่างนั้นในความเงียบ สีหน้าของเขาไม่มีการแสดงอารมณ์ใดๆ แต่ความเงียบที่แผ่ออกมาจากตัวเขากลับทำให้บรรยากาศรอบข้างชวนให้ขนลุก สายตาที่มองออกไปยังความว่างเปล่าทำให้ห้องครัวอันอบอุ่นกลายเป็นสถานที่ที่ชวนอึดอัดในทันทีในอีกฟากหนึ่ง เมื่อโรสก้าวออกมาจากร้านอาหาร เสียงดนตรีและเสียงหัวเราะจากงานวันเกิดค่อยๆเบาลง เธอมองนาฬิกาบนโทรศัพท์พลางถอนหายใจเบาๆ เวลาสองทุ่มแล้ว เธอใช้เวลามากกว่าที่
แต่เพียงไม่นาน เขาก็ยิ้มอย่างปกติอีกครั้ง “คราวหน้า ถ้าคุณจะกลับดึก เรียกให้ผมไปรับนะครับ”เสียงของเขานุ่มนวลเหมือนเดิม แต่แววตาที่จ้องมองเธอกลับเต็มไปด้วยบางสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกหนาวเยือก เธอพยักหน้าเบาๆ “ได้...คราวหน้าฉันจะโทรหาเธอนะ”ลูคัสยิ้มกว้างขึ้น แต่ความรู้สึกอึดอัดยังคงปกคลุมในอากาศโรสหลบสายตาเขาแล้วรีบขอตัวเดินเข้าห้องนอน แต่หลังจากเธอปิดประตู เธอถึงกับหายใจออกมาอย่างโล่งอกโรสปิดประตูห้องนอนแล้วเอนตัวพิงบานประตู หัวใจของเธอยังคงเต้นเร็วจากบรรยากาศที่อึดอัดในห้องนั่งเล่น เธอสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่าน ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวและชุดนอน จากนั้นก็ตรงไปยังห้องน้ำน้ำอุ่นที่ไหลรดลงบนผิวกายช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของเธอได้บ้าง ระหว่างอาบน้ำเธอคิดทบทวนถึงสีหน้าของลูคัส ความเปลี่ยนแปลงชั่ววูบในแววตาเขาที่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ แต่เธอพยายามปลอบตัวเองว่าเขาอาจจะโกรธเรื่องที่เธอให้เอเดนมาส่งพรุ่งนี้เธอคงจะต้องง้อเขาสักหน่อย ยังไงเธอก็เป็นคนผิดเอง หลังอาบน้ำเสร็จ เธอสวมชุดนอนเรียบง่ายแล้วทิ้งตัวลงบนเตียง อาการเหนื่อยล้าจากทั้งวันทำให้เธอหลับไปอย่างรวดเร็วรุ่งเช้าวันต่อมาแสงแดดอ่
สายตาของลูคัสเข้มขึ้นจนโรสที่ยืนอยู่ห่างๆเริ่มสัมผัสถึงแรงกดดัน เธอรีบขยับเข้าไปหาพวกเขา พลางพูดขึ้นอย่างตั้งใจไม่ให้ใครรู้ว่าเธอสังเกตความตึงเครียดนั้น “คุณลูคัส ฉันต้องปรับเนกไทให้หน่อยค่ะ ดูเหมือนจะหลวมไป”เธอพาเขาออกมาจากตรงนั้นอย่างเนียนๆ พลางส่งสายตาดุเบาๆ “เธอทำอะไรอยู่? มันดูไม่ปกติเลย”ลูคัสหันมามองเธอ ใบหน้าของเขาประดับด้วยรอยยิ้ม “ผมแค่คุยกันนิดหน่อยเองครับ”“เธอควรรู้ว่าอะไรเหมาะสมและอะไรไม่เหมาะ” โรสพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง“ผมไม่ได้ทำอะไรผิด” ลูคัสตอบ พลางขยับเข้าใกล้เธอจนเธอต้องถอยหลังเล็กน้อย “ผมแค่...ไม่อยากให้ใครคิดว่าตัวเองมีสิทธิ์ในสิ่งที่ไม่ใช่ของเขา”คำพูดนั้นทำให้โรสชะงัก เธอหันกลับไปที่กระเป๋าอุปกรณ์ของตัวเองทันที พยายามไม่ใส่ใจความรู้สึกที่คุกรุ่นอยู่ภายใน ก่อนจะพูดออกมา “อย่าลืมที่เราตกลงกัน...”“ครับ...” ลูคัสยิ้มให้เธอแต่ดวงตาของเขากลับไม่ได้ยิ้มด้วยโรสรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวในคำพูดนั้นแม้มันจะดูไม่มีอะไร เธอถอนหายใจออกมาก่อนจะพยายามปรับสีหน้าให้ปกติที่สุด แล้วเดินกลับไปยังนอกพื้นที่ถ่ายทำ โดยรู้สึกเหมือนมีดวงตาของลูคัสจ้องมองตามทุกย่างก้าวแม้จะไม่ได้พูดต
“คุณคิดว่าโอเคอย่างเดียวเหรอ? เพราะผมคิดว่ามันเกินกว่านั้น” สายตาและรอยยิ้มของเขาไม่ได้ซ่อนความปรารถนาเอาไว้เลยโรสยิ้มยั่วก่อนจะเดินเข้าไปใกล้เขา “ฉันแค่จะออกไปเดินเล่นที่ชายหาด เธออย่าทำหน้าเหมือนอยากกินฉันแบบนี้สิ”“คุณแกล้งผมอยู่ใช่ไหม?” ลูคัสเอ่ยเสียงต่ำขณะที่สายตายังจับจ้องทุกการเคลื่อนไหวของเธอ โรสโน้มตัวลงมาใกล้เขาเล็กน้อยหยอกเย้าเขาเล่น“ถ้าฉันแกล้งล่ะ?” เธอถามด้วยน้ำเสียงหยอกล้อความอดทนของลูคัสสิ้นสุดลง เขารั้งเอวเธอเข้ามาใกล้ก่อนจะกดจูบเธออย่างลึกซึ้ง โรสเองก็ไม่ได้ขัดขืน แต่เธอรู้ตัวดีว่าถ้าปล่อยให้มันเลยเถิด พวกเขาอาจไม่ได้ไปเดินเล่นชายหาดตามที่ตั้งใจไว้“พอแล้ว” เธอพูดพร้อมกับดันตัวเขาออก สายตาที่มองเขานั้นดูทั้งขี้เล่นและจริงจังในคราวเดียวกัน “ถ้าปล่อยให้เธอทำต่อ เราคงไม่ได้ไปเดินชายหาดกันแน่ๆ”“คุณจะให้ผมออกไปทั้งแบบนี้เหรอ?” เขาถามด้วยน้ำแหบพร่า พรางดันแก่นกายที่แข็งตัวแล้วเข้าไปสัมผัสกับหน้าท้องเนียนของเธอลมหายใจของโรสสะดุดไปชั่วขณะ เธอรู้ทันทีว่าเขาหมายถึงอะไร เธอถอนหายใจอย่างยอมแพ้เล็กน้อย “โอเค งั้นเดี๋ยวฉันช่วยเธอแล้วกัน แต่ต้องรีบนะ ฉันยังอยากไปเดินเล่นอยู่...
โรสยังคงขยับสะโพกรับการกระแทกของเขาอย่างไม่ยอมให้เขาหยุด เธอรู้สึกถึงความเสียวซ่านที่ทวีคูณขึ้นทุกครั้งที่เขากระแทกเข้าไป“อ๊า... ลูคัส... ไม่ไหวแล้ว... ฉันจะเสร็จแล้ว!” โรสบอกเสียงกระเส่า ขาของเธอสั่นระริก มือของเธอยังบีบยอดอกของตัวเองเพื่อระบายความเสียวซ่านไปพร้อมๆกับสะโพกที่ขยับรับการกระแทกจากเขาลูคัสมองดูร่างของเธอด้วยสายตาที่มืดลง พยายามเก็บอารมณ์ของตัวเองไว้จนแทบจะทนไม่ไหว “คุณไม่ไหวแล้วใช่ไหม?” เขาพูดเสียงต่ำ ขยับสะโพกเข้าไปลึกและแรงขึ้น “ผมไม่อยากหยุดเลย โรส...”แต่เขารู้ดีว่าโรสต้องการอะไร และเขาก็รู้ว่าต้องการทำให้เธอถึงจุดสูงสุดก่อนถึงเวลาของเขา เขาหลับตาลงก่อนจะกระแทกอีกครั้งด้วยความแรงที่เพิ่มขึ้น “ปล่อยออกมาเลยครับ เสร็จออกมาเลย”ทันใดนั้นโรสก็ปล่อยเสียงครางออกมาในลำคออย่างไม่อาจควบคุมได้ ร่างกายของเธอกระตุกไปตามจังหวะที่เขากระแทกเข้าออก ความเสียวที่พุ่งเข้ามาทำให้เธอหลุดเสียงร้อง "อ๊า... ลูคัส... ฉัน... ฉันเสร็จแล้ว!" ร่างของเธอสั่นระริก ขาเกร็งจนเกือบจะล้มแต่ยังคงยืนอยู่ได้เพราะลูคัสยังคอยจับเธอไว้แน่นลูคัสกระแทกเข้าไปอีกครั้ง เขาครางเสียงแหบพร่า ในที่สุดเขาก็ปลดปล่อ
หลังจากกิจกรรมอันเร่าร้อนหลังโขดหินนั้นจบลง ลูคัสพาเธอกลับมาที่ห้องเพื่อทำความสะอาดและพักผ่อนเมื่อถึงห้องพัก ลูคัสกุมมือโรสแน่น รู้ดีว่าไม่มีสิ่งใดสามารถกั้นเขาไม่ให้เข้าใกล้เธอได้อีกแล้ว เมื่อประตูปิดลง เขาจูงเธอตรงไปยังห้องน้ำ เสียงน้ำอุ่นที่กระทบพื้นดังแว่วเป็นจังหวะ แต่สิ่งที่ก้องอยู่ในใจเขาเป็นเพียงเสียงหายใจของเธอ ที่แผ่วเบาแต่สะกดเขาไว้จนไม่อาจหันเหสายตาไปทางอื่นได้ในแสงสลัวจากไฟในห้องน้ำ ลูคัสมองโรสอย่างที่เขาทำไม่ได้ในที่แจ้ง ร่างกายที่ยังมีละอองน้ำทะเลเคลือบผิวดูเย้ายวนจนเขาต้องเผลอกลืนน้ำลายอย่างลืมตัว มือหนาเอื้อมไปปลดปมบิกินี่ของเธอออกอย่างแผ่วเบา ดวงตาของเขาจ้องมองเธออย่างไม่ปิดบังความรู้สึก“คุณสวย...จนผมไม่อยากละสายตาเลย” ลูคัสเอ่ยเสียงพร่า เขาโน้มตัวเข้าใกล้ ปลายจมูกแตะหน้าผากเธอเบาๆ ก่อนจะเลื่อนลงมาที่แก้ม โรสหลับตา ปล่อยให้เขาละเลียดจูบที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน“พอเถอะลูคัส...” โรสพูดเสียงกระเส่า แต่มือของเธอกลับเผลอเกาะต้นแขนเขาแน่นลูคัสยิ้มมุมปาก เขารู้ดีว่าเธอกำลังสู้กับตัวเอง “คุณพูดให้ผมหยุด...แต่ร่างกายคุณบอกให้ผมไปต่อ คุณจะเอายังไงดีครับ คุณโรส” น้ำเสียงแฝง
อีกภาพที่เขาจับได้คือตอนที่เธอก้มลงเก็บลิปสติกที่ตกอยู่บนพื้น ผมของเธอปรกลงมาบังใบหน้า เธอปัดมันไปด้านหลังอย่างไม่ใส่ใจ ท่าทางธรรมดานั้นกลับดูดึงดูดจนเขารู้สึกว่ามือที่จับกล้องสั่นเล็กน้อย แล้วก็มีภาพหนึ่ง เป็นช่วงที่โรสหัวเราะพร้อมกับเพื่อนร่วมงาน แสงสะท้อนจากรอยยิ้มของเธอดูอบอุ่นจนทำให้ห้องทั้งห้องดูมีชีวิตชีวาขึ้น ลูคัสมองผ่านเลนส์ เขารู้สึกเหมือนเธอเป็นภาพถ่ายที่ยังไม่ได้ใส่กรอบ เป็นชั่วขณะที่เขาอยากหยุดเวลาไว้ตรงนั้นลูคัสรู้ดีว่าการกระทำแบบนี้อาจจะไม่ถูกต้อง แต่เขาก็ไม่อาจห้ามตัวเองได้ ทุกครั้งที่เธอเคลื่อนไหว กล้องในมือก็เหมือนเป็นเพียงทางเดียวที่เขาจะยึดโยงเธอไว้ได้ในโลกของเขาเองเขาเริ่มสะสมภาพของเธอไว้ในแฟ้มส่วนตัวอย่างเงียบๆแต่ความอยากรู้อยากเห็นไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เมื่อเขารู้ว่าโรสทำงานที่ไหน และพักอาศัยอยู่ที่ใด ลูคัสก็เริ่มสะกดรอยตามเธอในวันหยุดที่เขาควรจะพักผ่อน ลูคัสกลับขับรถไปจอดอยู่ใกล้คาเฟ่ที่โรสชอบแวะไป เขานั่งอยู่ในมุมร้านที่เธอไม่สังเกตเห็น มองดูเธอจิบกาแฟและอ่านหนังสือ บางครั้ง เขาเดินตามเธอไปในห้างสรรพสินค้า จับภาพเธอผ่านหน้าจอโทรศัพท์ขณะเธอเลือกซื้อของใช้เ
บ้านหลังเล็กในเขตชานเมืองยามค่ำคืน เงาของแสงไฟจากหลอดไฟเก่าๆกระพริบอยู่เหมือนมันกำลังจะดับ ลูคัสในวัยเด็กนั่งตัวสั่นอยู่ในมุมมืดของห้องเก็บของเล็กๆ ซึ่งเป็นที่เดียวที่เขารู้สึกปลอดภัย ตุ๊กตาเก่าๆที่มีรอยเย็บซ่อมเต็มตัวอยู่ในอ้อมแขนเล็กๆของเขาราวกับมันเป็นสิ่งเดียวที่ปกป้องเขาได้ เสียงทะเลาะวิวาทดังระงมมาจากห้องนั่งเล่น เป็นเสียงของผู้ชายตะคอกด่าทอผสมกับเสียงผู้หญิงที่พยายามห้ามปรามแล้วเสียงขวดแก้วก็แตกกระจายดังสนั่น เศษแก้วปลิวกระจายไปทั่วพื้น ทำให้ลูคัสสะดุ้งเฮือก น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ก็ไหลรินออกมา เขากดหน้าซุกกับตุ๊กตาและเอามือน้อยๆปิดหูทั้งสองข้างของตัวเองเอาไว้ เพื่อปิดกั้นเสียงเอาไว้ แต่เสียงที่น่าสะพรึงนั้นยังดังอยู่ เสียงแห่งความเจ็บปวด เสียงแห่งความโกรธที่ดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด"ลูคัส!" เสียงกระซิบดังขึ้นเบาๆ ก่อนที่พี่สาวของเขาจะปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตู เธอพุ่งเข้ามาในห้องพร้อมกับปิดประตูอย่างรวดเร็วก่อนจะกอดเขาไว้แน่น ร่างกายของเธอสั่นระริกไม่ต่างจากเขา "ไม่ต้องกลัว พี่จะปกป้องเธอเอง"ลูคัสเงยหน้าขึ้นมองพี่สาว ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความความอ่อนโยน เธอพยายามจะปลอบเขาทั้ง
โรสถอยเท้าหนี ความรู้สึกสงสารและโกรธแค้นประดังเข้ามาในใจ เธอยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ เธอพยายามพูดด้วยเสียงที่นิ่งที่สุด แต่ก็ยังสั่นอย่างเห็นได้ชัด “ความรักของเธอมันหนักเกินไปสำหรับฉัน ลูคัส ฉันไม่สามารถทนรับมันได้อีกแล้ว ฉันแค่...อยากให้ทุกอย่างจบ...”เขาทรุดลงไปอีกครั้ง หมอบกราบแทบเท้าของเธอ ร่างสูงใหญ่ดูอ่อนแอและสิ้นหวังอย่างน่าเวทนา “ได้โปรด...อย่าพูดแบบนั้น ผมขอโทษ...ขอโทษจริงๆ...ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะครับ”โรสมองเขาด้วยสายตาเปื้อนน้ำตา หัวใจเธอเจ็บปวดเหมือนโดนบีบให้แตกสลาย แต่เธอก็ต้องรวบรวมความเข้มแข็งไว้ เธอไม่สามารถให้ตัวเองใจอ่อนได้อีกแล้วเอมี่ขยับมายืนข้างๆ สายตาจ้องมองลูคัสอย่างไม่ไว้ใจ ก่อนจะหันมาพูดกับโรส “เธอไม่จำเป็นต้องอยู่ฟังอะไรแบบนี้แล้ว ไปจากที่นี่กันเถอะโรส”ลูคัสเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง น้ำตาอาบแก้ม เขาดูเหมือนคนที่หมดสิ้นทุกสิ่ง “โรส...ได้โปรด...ผมไม่มีคุณไม่ได้...”โรสหลับตาลง พยายามสะกดน้ำตาที่ไหลไม่หยุด เธอรู้ดีว่าการกลับไปหาลูคัสไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง แม้หัวใจของเธอจะเจ็บปวดกับสภาพของเขา แต่เธอก็ไม่สามารถลืมสิ่งที่เขาเคยทำได้...โรสทรุดตัวลงนั่
เมื่อโรสย้ายเข้าไปอยู่กับเอมี่ เธอใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เรื่องของลูคัสจนถึงเอเดน เสียงของเธอสั่นเล็กน้อยเมื่อเล่าถึงช่วงเวลาที่เธอถูกหักหลัง ความรู้สึกอับอายและเจ็บปวดผสมปนเปจนแทบพูดไม่ออก แต่เอมี่ฟังอย่างเงียบๆโดยไม่ขัดอะไร จนกระทั่งทุกอย่างถูกถ่ายทอดออกไปจนหมด"แล้วทำไมเธอไม่บอกฉันตั้งแต่แรก?!" เอมี่พูดขึ้น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธและผิดหวัง "ถ้าเธอเล่าให้ฉันฟัง บางทีเรื่องมันอาจจะไม่บานปลายแบบนี้ก็ได้"โรสก้มหน้าลง น้ำตารื้นขึ้นมาอีกครั้ง เธอพึมพำด้วยความรู้สึกผิด "ฉันไม่กล้าเล่า... ฉันอาย"เอมี่ขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ "อายเรื่องอะไร? เรื่องแบบนี้เธอต้องบอกฉันสิ ฉันคือเพื่อนของเธอนะ""ฉันรู้สึกอายที่จะบอกว่าฉันคบกับคนที่อายุน้อยกว่าตัวเองมากขนาดนั้น ตอนแรกมันเหมือนแค่เรื่องสนุก ฉันไม่คิดว่ามันจะลากยาวมาจนถึงจุดนี้... ฉันไม่คิดว่ามันจะซับซ้อนและเลวร้ายแบบนี้เลย"เอมี่ถอนหายใจออกมายาว ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มลง "ไม่ว่ามันจะเป็นยังไง เธอไม่ควรเก็บไว้คนเดียวแบบนี้อีก เข้าใจไหม? ต่อไปถ้าเกิดอะไรขึ้น เธอต้องบอกฉันทันที เราจะหาทางแก้ไปด้วยกัน"โรสพยักห
แม้ว่าลูคัสอาจมีปัญหาในจิตใจของเขาเอง แต่เธอก็ไม่สามารถให้อภัยสิ่งที่เขาทำได้ ความเจ็บปวดจากการถูกล่วงละเมิดทั้งทางร่างกายและจิตใจยังคงหลอกหลอนเธอทุกครั้งที่หลับตา แต่เมื่อมองเรื่องราวของตัวเองกับสามี มันยิ่งเห็นชัดเจนขึ้น การที่เธอเลิกกับสามีมันไม่ใช่ความผิดของลูคัสอย่างที่เขาพูด แม้ว่าลูคัสจะจ้างผู้หญิงคนนั้นเพื่อเข้าไปใกล้สามีของเธอ แต่สุดท้ายการที่สามีของเธอนอกใจมันก็คือการตัดสินใจของเขาเอง ลูคัสอาจเป็นตัวกระตุ้น แต่เขาไม่ได้เป็นต้นเหตุของความล้มเหลวในชีวิตแต่งงานของเธอความคิดนี้ทำให้เธอเริ่มสงบลง เธอหยุดกล่าวโทษทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูคัสหรือใครก็ตาม เธอเริ่มยอมรับความจริงว่าชีวิตเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ และบางครั้ง ความเจ็บปวดก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเส้นทางที่ต้องเดินผ่านแต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนสำหรับเธอในตอนนี้คือเธอไม่ต้องการที่จะมีความสัมพันธ์ใดๆอีกแล้ว ความรักที่เคยทำให้เธอมีความสุข ตอนนี้กลับเป็นสิ่งที่เธอเข็ดหลาบที่สุด เธอไม่อยากเสี่ยงเปิดใจให้ใครอีก ไม่อยากแบกรับความเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้นซ้ำๆในสองวันนั้น โรสพยายามฝึกที่จะเริ่มต้นดูแลตัวเอง เธอเปิดหน้าต่างให้ลมเย็นๆ ของช่วงเช
"ลูคัส ฟังฉันนะ..." เสียงของเธอสั่นไหว แต่แฝงด้วยความหนักแน่น “ทุกอย่างมันจบแล้ว ฉัน... ฉันไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เธอกับฉัน มันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว อย่ามายุ่งกับฉันอีกเลย ปล่อยฉันไปเถอะ”น้ำตาของลูคัสไหลลงมาอีกเป็นสายเขาส่ายหัวไปมาอย่างแรง “ไม่! คุณยังรักผมอยู่ ผมรู้!” เขาพุ่งเข้าไปกอดขาของเธอแน่นจนโรสต้องเซถอยหลังเล็กน้อย“ปล่อยฉัน ลูคัส!” โรสร้องด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ฉันเหนื่อยเกินไปแล้ว เธอ... เธอทำลายทุกอย่างในชีวิตฉัน เธอไม่เข้าใจเหรอ?”ลูคัสกลับยิ่งกอดขาเธอแน่น เขาสะอื้นเหมือนเด็กที่กำลังหวาดกลัวการถูกทอดทิ้ง “ผมขอโทษ ผมรู้ว่าผมผิด แต่ผมทำไปเพราะผมรักคุณ... โรส ให้โอกาสผมอีกครั้งได้ไหม...ขอร้อง...”โรสมองลงไปที่เขา ภาพของลูคัส นายแบบชื่อดังที่ครั้งหนึ่งเคยมีแต่ความมั่นใจในตัวเอง ดูดีและสมบูรณ์แบบในสายตาของทุกคน บัดนี้เขากลับกลายเป็นเพียงชายที่ดูไม่ได้ แตกสลายและหมดสภาพ เธอรู้สึกสมเพชอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ใช่แค่กับเขา... แต่กับตัวเธอเองที่ปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในวังวนนี้นานเกินไปโรสพยายามรวบรวมสติที่เหลืออยู่ก่อนจะพูด "ฉันไม่เหลืออะไรให้เธอแล้วลูคัส ไม่แม้แต่ความเกลียดชัง ฉันแค่...
ในขณะที่เอเดนกำลังพยายามดึงเสื้อผ้าของโรสออก เสียงประตูที่เปิดออกอย่างแรงทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก ร่างสูงใหญ่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็ว ก่อนที่โรสจะทันได้ประมวลผล คนที่เข้ามาก็ถีบเอเดนออกจากตัวเธออย่างรุนแรง ร่างของเอเดนกระเด็นไปกระแทกกับพื้นเสียงดัง ลูคัสยืนอยู่ตรงนั้น สายตาของเขาเต็มไปด้วยโทสะที่แทบจะเผาผลาญทุกสิ่งรอบตัว“แกทำอะไรลงไป เอเดน!” ลูคัสคำราม ก่อนพุ่งเข้าไปกระชากตัวเอเดนขึ้นจากพื้นและเหวี่ยงหมัดใส่เขาอย่างไร้ความปรานี เอเดนล้มลงไปอีกครั้ง แต่ลูคัสไม่หยุด เขาใช้เข่าคร่อมร่างของเอเดนไว้ แล้วปล่อยหมัดตามมาอย่างต่อเนื่องลูคัสจมอยู่ในความโกรธแค้น และเอเดนที่ถูกจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวก็ไร้ความสามารถที่จะตอบโต้ สภาพเขาเละเทะและอ่อนแรงลงเรื่อยๆ จนในที่สุดร่างของเอเดนก็แน่นิ่งไปโรสนั่งอยู่บนเตียง สภาพของเธอดูอิดโรย เสื้อผ้าหลุดลุ่ย และเส้นผมยุ่งเหยิง เธอกอดตัวเองแน่น ร่างกายสั่นสะท้าน ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะความหนาวเหน็บของเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นหรือความกลัวที่เริ่มครอบงำเธอมองลูคัสที่ค่อยๆลุกขึ้นจากร่างของเอเดนด้วยสายตาที่เธออ่านไม่ออก เขาเพิ่งช่วยเธอจากเอเดน แต่แววตาที่เขาหันมาหาเ