EP.4
ทันทีที่เธอเปิดลำโพง เสียงทุ้มจากไมโครโฟนผ่านทางโทรศัพท์ ทำให้รามิลได้ยินเสียงคนในสายชัด ใบหน้าหล่อจัดเคร่งขรึม ดวงตาคมสาดความอำมหิตบนหน้าจอโทรศัพท์ของหญิงสาว
“เดี๋ยวเบลลงไปนะคะ”
[ ครับ ผมรอคุณที่เดิม ]
“เบลไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ” เธอเห็นว่ารามิลไม่พูดอะไร เมื่อเธอได้วางสายจากชายหนุ่มอีกคน ขวัญพิชชาจึงได้เอ่ยขอตัวลา บิดรอยยิ้มเพียงนิดแล้วหมุนตัวจะเดินออกจากห้อง แต่ทว่าประตูมันกลับถูกล็อคเอาไว้
“ปะ เปิดไม่ออกค่ะ”
“ก็ฉันยังไม่อนุญาตให้เธอออก”
ขวัญพิชชาจึงหมุนตัวกลับมา “ทำไมคะ คุณจะเอาอะไรจากเบลอีก”
“...กับมัน รู้จักกันได้ยังไง ตอนไหน เมื่อไหร่” เสียงทุ้มห้าวเย็นเยียบแฝงความโทสะ รามิลอยากรู้จักคนในสายของเธอเหลือเกิน
ไม่เจอกันนาน เพื่อนรัก
“เบลขอไม่ตอบคำถาม” เขาถามเยอะเกินไป เธอจะตอบยังไง มันไม่ใช่เรื่องของเขาสักนิด
“งั้นเธอเป็นอะไรกับมัน” ดวงตาคมคู่สบลึกเข้าไปในดวงตาหวานอย่างต้องการหาคำตอบ มาเบลหลุบตามองพื้น เมื่อสัมผัสได้ถึงความร้อนระอุในแววตาเขา
“เบลก็ขอไม่ตอบเหมือนกัน”
“แต่ฉันถาม”
“ถัาเบลตอบ คุณจะปล่อยเบลไปใช่ไหมคะ” เสียงใสร้อนรน เงยหน้าขึ้นพลางส่งสายตาประวิงวอน เธออยากหลุดพ้นจากห้องนี้ โดยเฉพาะชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า เขาน่ากลัวสำหรับเธอเกินไป
ร่างสูงขยับเข้าหาเธอใกล้ขึ้น มาเบลก้าวถอยหลังจนชิดติดประตู “อยู่ที่ว่าคำตอบของเธอจะถูกใจฉันหรือเปล่า”
“เมื่อกี้คุณถามว่า เบลกับ...คุณซีนาย เป็นอะไรกัน?”
“ตอบมาสิ”
“เป็น...” เรียวปากสวยกำลังจะเปิดปากตอบ ทว่าเสียงคนจากด้านนอกทำให้เธอหมุนตัวหันไปมอง
“ไอ้เคนโซชอบทำเรื่องงามหน้า ผมเบื่อมันเต็มที”
"อย่าดุลูกนักสิคะคุณ”
“ก็หัดสั่งสอนมันเสียบ้าง คุณมันดีแต่ให้ท้าย อายุมันเท่าไหร่แล้ว”
“คุณท่าน” มาเบลยิ้มดีใจสุดขีด เธอจำเสียงเมธัสได้ มาเฟียใหญ่มาพร้อมกับภรรยา ขวัญพิชชาทำท่าจะทุบประตูราวกับขอความช่วยเหลือ รามิลเห็นแบบนั้นก็รีบคว้าข้อมือเธอเอาไว้ แล้วสั่งให้เธอถอยออกมา
เสียงเซนเซอร์ประตูห้องทำงานถูกปลดล็อค รามิลขมวดคิ้วหนักมองรีโมทที่เขาถืออยู่ในมือ นั่นแสดงว่ารีโมทที่ห้องนี้ไม่ได้มีเพียงแค่อันเดียว
“ไอ้เคน...” มาเฟียใหญ่เปิดประตูด้วยการใช้รีโมทเฉกเช่นเดียวกับที่ลูกชายใช้ เมธัสและธิติมามองหนุ่มสาวยืนอยู่ด้วยกันในห้องทำงานของเขา
“ครับ” รามิลขานรับผู้เป็นพ่อเฉยเมยอย่างไม่รู้สึกกลัว ผิดกับเธอที่เอาแต่ก้มหน้าไม่กล้าสบตาผู้มาใหม่ถึงสองคน
“ทำไมถึงมาอยู่ในห้องนี้”
“เดินเข้ามาสิครับ”
“แกเห็นฉันโง่นักหรือไง”
“เบา ๆ สิคะ เราไม่ได้อยู่กันสามคนพ่อแม่ลูก” ธิติมาปรามสามี เมื่อเห็นว่ามีขวัญพิชชายืนอยู่อีกคน เมธัสขึ้นเสียงต่อว่าลูกชาย ไอ้นี่มันชอบกวนประสาทเขาอยู่ตลอดเวลา
“พูดไม่ทันไรก็ให้ท้ายกันแล้วคุณธิติมา”
“จะทะเลาะกันทำไม ผมก็กำลังจะออกไปนี่ไง” รามิลวางรีโมทไว้บนโต๊ะทำงาน จับจูงมือบางให้ออกจากห้องไปด้วยกัน
“เดี๋ยว”
“อะไรอีกครับ” รามิลขึ้นเสียงรำคาญใส่คนเป็นพ่อ เขาจะออกจากห้องอยู่แล้วจะรั้งเรียกทำไม ทว่ามาเฟียใหญ่ไม่ได้สนใจลูกชาย เมธัสต้องการพูดบางอย่างกับขวัญพิชชา
“จำที่ฉันพูดไม่ได้หรือยังไง” เมธัสบอกเธอไว้ว่าอย่าหลงกลมัน แต่แล้วทำไมเธอถึงได้มาอยู่กับลูกชายเขาในห้องทำงานสองต่อสอง
ไม่กลัวหรือยังไงกัน
“...”
ในเมื่อเธอไม่ตอบ เมธัสจึงได้หันไปพูดกับลูกชาย
“แกจะพาเธอไปไหน”
“เรื่องของผม”
“ไอ้เคนโซ ปล่อยมือเธอ”
“ทำไมผมต้องปล่อย แม่ครับดูพ่อสิ” รามิลจับมือขวัญพิชชาแน่น ไม่ทำตามคำสั่งเมธัส แต่หันไปฟ้องผู้เป็นแม่แทน แสร้งทำหน้าอ้อนขอให้คุณแม่ช่วยพูดกับคุณพ่อ
“คุณ...”
“น่าเบื่อทั้งแม่ทั้งลูก” เมธัสตวาดลั่นอย่างไม่พอใจสองแม่ลูกที่ไม่เอาไหนทั้งคู่
“ผมไปได้หรือยัง”
“ฉันบอกให้ปล่อย!” เมธัสขึ้นเสียงกร้าวสั่งลูกชายอีกครั้ง คราวนี้ขวัญพิชชาบิดข้อมือทีละนิดจนหลุดจากการถูกกุม เมื่อเธอเริ่มรู้สึกปลอดภัย เพราะมีเมธัสคอยช่วยเหลือ
รามิลยอมปล่อยเธอไป ยกมือขึ้นแบสองข้างเป็นอันว่าเขายอมยกธงขาวให้กับคนเป็นพ่อแล้ว
“เบลขอตัวก่อนนะคะคุณท่าน” ขวัญพิชชากล่าวลาผู้ใหญ่ทั้งสอง เร่งฝีเท้าเดินออกจากห้อง รามิลมองตามแผ่นหลังบางของเธอ ก่อนจะหันกลับมามองคนเป็นพ่อด้วยอารมณ์เบื่อหน่ายสุดขีด
“นี่มันห้องของฉัน แกมีสิทธิ์อะไร”
“สิทธิ์ในความเป็นลูก นี่พ่อรู้ไหมว่าพ่อกำลังขัดขวางผม” เขาต้องการหาตัวตนคนในปลายสาย ขวัญพิชชาเดินหายออกไป ไม่รู้ตอนนี้เธอไปถึงไหนต่อไหนกับมันแล้ว
ไอ้ซีนาย
“ทำไม แกจะทำเรื่องบัดสีในห้องทำงานของฉันงั้นสิ”
“คุณคะ ลูกอาจจะมีธุระส่วนตัวก็ได้ พูดกับลูกดี ๆ สิ” ธิติมาปรามสามี ใบหน้าของชายวัยกลางคนเดือดดาลราวกับจะฆ่าคนให้ตาย ก็ในเมื่อไอ้ลูกชายตัวดีมันชอบทำให้เขาปวดหัวได้ไม่เคยเว้นวัน
“นี่น่ะเหรอธุระของมัน กับการเอาผู้หญิงมาอยู่ในห้องทำงานของผมเนี่ยนะ คุณใช้อะไรคิด”
“ผมขอตัวก่อน” รามิลใช้จังหวะที่สองสามีภรรยากำลังยืนทะเลาะกัน รุดเดินออกจากห้องทำงานเมธัส รามิลกดลิฟต์ลงมายังชั้นล่าง วิ่งออกจากตัวตึกหันมองซ้ายขวา และนั่น...
เขาเจอแล้ว
“ใช่มึงจริง ๆ ไอ้ซีนาย” รามิลเห็นเธอยืนอยู่กับมันที่ใต้ต้นไม้ร่มเงาใหญ่ ก่อนที่ทั้งสองจะพากันไปที่ลานจอดรถของมูลนิธิ รามิลเดินตามในระยะไม่ใกล้ไม่ไกล จดจำเลขทะเบียนรถให้ขึ้นใจ แล้วโทรสั่งลูกน้องคนสนิทให้คอยติดตาม
“ไอ้ฟาร์ม มึงสั่งคนให้ตามรถเลขทะเบียนนี้ให้ดี ๆ กูต้องการตอนนี้ เดี๋ยวนี้”
เนื้อเรื่องเริ่มเข้มข้นแล้ว ขอคอมเมนต์เป็นกำลังใจหน่อยนะคะทุกคน 💜
EP.5หลังจากที่รามิลได้ส่งคนไปติดตามเลขรถทะเบียนคันนั้น ฟาร์มลูกน้องคนสนิทได้คอยโทรรายงานความเคลื่อนไหว ถึงได้ทราบว่าอคิราห์ พาขวัญพิชชาไปที่บ้านเดี่ยวแห่งหนึ่งย่านชานเมือง รูปภาพถูกส่งเข้าเครื่องมือสื่อสาร รามิลรีบกดเปิดดู มีภาพขวัญพิชชา อคิราห์ และเด็กผู้หญิงน่าจะเป็นแค่เด็กประถมนั่งอยู่ด้วยกันจากในภาพ เขาคาดว่าขวัญพิชชากำลังนั่งสอนการบ้านให้กับเด็กหญิงคนนั้น ไอ้อคิราห์ก็นั่งอยู่ด้วยกัน ยิ่งมองก็ยิ่งหมั่นไส้ ทำไมมันเหมือนภาพครอบครัวนัก“หรือเธออยากเป็นเมียน้อยมัน มาเบล” รามิลเอ่ยน้ำเสียงค่อนขอดอย่างดูถูก ริมฝีปากหนายิ้มร้ายมองภาพนั้นแล้ววางเครื่องมือสื่อสารลง หยิบเบียร์กระป๋องที่ตั้งอยู่บนโต๊ะตรงหน้ามาดื่มให้ชื่นใจรามิลควงกระป๋องไปมาซ้ำ ๆ นึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่เขาแม่งโคตรเจ็บและผิดหวัง แววตาคมดุลุกวาวอย่างน่ากลัว ซดเบียร์ดื่มจนหมดแล้วบีบกระป๋องที่อยู่ในมือจนไม่เป็นรูปเป็นร่าง แล้วเขวี้ยงมันลงบนพื้นอย่างระบายอารมณ์“มึงมันมีอะไรดีนักวะ” รามิลตวาดลั่นเมื่อเริ่มคุมสติไม่อยู่ ความครุกรุ่นในใจที่ติดมาตลอดสิบปี เขาไม่เคยลืมมันรามิลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากำชับลูกน้องอีกครั้ง ให้คอยติดตามคว
EP.6พริตตี้สาวใช้ร่างกายยั่วยวนมาเฟียหนุ่มชวนให้เคลิบเคลิ้ม และใช้เธอเป็นที่บำบัดความใคร่ ราตรีนี้ยังอีกยาวไกล อยากให้เขามาอยู่ใกล้ชิด แบบชนิดที่ว่าเนื้อแนบสัมผัส จับตรงไหนก็น่าขย้ำ แต่ทว่ามันไม่ได้เป็นดั่งหวัง เมื่อเขาใช้มือกระชากกลุ่มเส้นผมเธอ“อ๊าย คุณเคนโซ”“กูไม่ลดตัวมาเอาผู้หญิงอย่างมึง จำเอาไว้” ดวงตาคมเข้มทั้งเย็นเยียบและแหลมคม แต่แฝงไปด้วยรอยยิ้มปีศาจร้าย รามิลรู้ทันความคิดเธอ จำต้องบอกให้รู้ตัวเสียงของหญิงสาวร้องโหยหวน เมื่อถูกมาเฟียหนุ่มเล่นงาน แต่ไม่วายยังคงมีคำถามที่คาใจ“โอ๊ย! แล้วแบบไหนคะ ที่คุณเคน...ชอบ”“แบบไหนน่ะเหรอ...” สิ้นคำบอกกล่าวจากปากมาเฟียหนุ่ม รามิลผลักเธอล้มไปบนพื้น ร่างสูงลุกขึ้นยืนเดินวนไปรอบ ๆ เธอ ก่อนจะย่อตัวลงนั่งใช้มือบีบแก้มพริตตี้สาวแรง ๆ“แต่ที่แน่ ๆ ไม่ใช่คนอย่างมึง จะไปไหนก็ไป แล้วอย่ามาให้กูเห็นหน้าอีก”พริตตี้สาวรีบวิ่งออกจากห้องด้วยความเจ็บแค้นมาเฟียหนุ่ม เขาเรียกให้เธอมาเต้นยั่ว อวดสัดส่วนในเรือนกาย ออกลวดลายส่ายสะโพกอยู่หลายเสต็ป แต่เขากลับไล่เธอเหมือนหมูเหมือนหมา รางวัลอะไรก็ไม่มีให้ ไม่รู้จะเรียกมาทำบ้าอะไรในทันทีที่อีตัวเดินออกไป รามิล
EP.7ขวัญพิชชาไม่คิดเชื่อคำพูดของรามิลแม้แต่น้อย เมื่อกี้เขายังตะคอกใส่หน้าเธออยู่เลย แล้วนี่ผีออกไปแล้วงั้นสิถึงกลับคำทำมาเป็นพูดดีใส่เธอ“บอกแล้วไงคะ ว่าเบลไม่ใช่ผู้หญิงของคุณ”“วันนี้ไม่ใช่ วันหน้าก็ต้องใช่”“จะวันไหนก็ไม่ใช่ ถ้าคุณไม่มีอะไรแล้ว เชิญค่ะ” ขวัญพิชชาเดินไปเปิดประตูหน้าห้องรอเพื่อไล่แขก รามิลไม่ได้คิดสนใจ มาเฟียหนุ่มเดินสำรวจในห้องพักของเธอถึงจะเล็กแต่ก็ดูสะอาด ผิดกับชั้นล่างที่เขาเดินผ่านมา คงเพราะเจ้าของห้องทำความสะอาดเป็นอย่างดี“ทำไมถึงไม่อยู่ที่มูลนิธิ ในเมื่อที่นั่นมีที่พักให้”“เบลอยากออกมาใช้ชีวิตข้างนอกค่ะ เบลมีเงินเดือนที่ได้จากมูลนิธิ และสอนพิเศษ” มันก็พอให้เธอได้ออกมาอยู่ข้างนอกได้ แต่ก็ต้องประหยัด ไหนจะค่าเช่าห้อง ค่ากิน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทาง และแบ่งเก็บออมไว้ต่างหากอีกจำนวนหนึ่ง“มันให้เงินเดือนเธอเท่าไหร่”“คะ”“ไอ้ซีนายมันให้เงินเดือนเธอเท่าไหร่”“คุณซีนายไม่ได้ให้ค่ะ พี่สาวคุณซีนายเป็นคนให้”“ก็แล้วมันเท่าไหร่”“หนึ่งหมื่นบาทค่ะ”“ฉันให้เธอเดือนละล้าน เลิกเป็นครูสอนพิเศษกระจอก ๆ แล้วมาดูแลฉัน” รามิลสืบเท้าเข้าหาเธอใกล้ ๆ แล้วยื่นข้อเสนอที่เขาเองก็ไม่
EP.8เช้าในวันต่อมา เมื่อคืนขวัญพิชชาตั้งนาฬิกาปลุกไว้หกโมงเช้า แต่ทว่าเธอหลับไม่สนิทเลยสักชั่วโมงเดียว เมื่อนึกถึงคำพูดที่คอยหลอกหลอนวนเวียนอยู่ในหัวไม่ยอมหายไปไหน ทั้งที่เธอพยายามข่มตาหลับพรุ่งนี้ฉันจะมาใหม่ อย่าคิดหนีขวัญพิชชานอนคิดจนหัวแทบระเบิด จะทำยังไงให้เขาไม่เข้ามาวุ่นวายในชีวิตเธอ แต่แล้วความคิดที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ค่อย ๆ หายไปทันทีที่ได้ยินเสียงดังจากหน้าห้องปึง“เปิดประตู” รามิลใช้เท้าถีบประตูเพื่อส่งเสียง พร้อมกับขานเรียกขวัญพิชชาเช่นเดิมเหมือนเมื่อวาน“ทำไมมาเช้าขนาดนี้เนี่ย” ใบหน้าสวยหวานตระหนก คนที่ไม่อยากเจอกลับมาให้เจอในเวลาที่เธอต้องการจะหลบหน้า“ตื่นได้แล้ว” รามิลตะโกนเรียกเธอเสียงดัง เพื่อนข้างห้องขวัญพิชชาถึงกับเปิดออกมาดู แต่แล้วก็ต้องรีบหดหัวกลับเข้าไป เมื่อเห็นเขาถือกระบอกปืนอยู่ในมือรามิลแค่ถือเอาไว้ขู่ เพราะรู้อยู่แล้วว่าไอ้พวกกระจอกต้องโผล่หัวออกมาดูแน่“ฉันบอกให้เปิดประตู”“คนไร้มารยาท” เสียงใสค่อนขอดต่อว่าคนด้านนอก แล้วหันไปมองนาฬิกาที่ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเศษ ๆขวัญพิชชาถอนหายใจอย่างคนปลงตก เมื่อหนีไม่ได้ก็ต้องเผชิญหน้า ร่างเล็กลุกขึ้นเดินไปเปิดประตู ท
EP.9ขวัญพิชชาแปลกใจในคำพูดของรามิล แต่นั่นก็ใช่ว่าเธอจะใส่ใจมากนัก มาเฟียคงชอบพูดไปเรื่อยละมั้ง เธอเลยไม่อยากต่อปากต่อคำ นั่งสงบนิ่งจนกว่าจะถึงมูลนิธิเมื่อถึงที่หมาย ขวัญพิชชาก้าวลงจากรถพร้อมกับรามิล ตอนนี้เป็นเวลา 7 โมงเช้า ขวัญพิชชาเดินนำเขาอยู่หลายก้าว แลหันซ้ายมองขวา ว่ามีใครเห็นหรือไม่ เธอทำตัวมีพิรุธจนรามิลรู้สึกรำคาญตาสองมือสอดเข้ากระเป๋ากางเกงเดินปล่อยตัวสบาย ๆ ก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ สายตาคมชำเลืองมองสาวสวยที่เดินอยู่หน้าตน และจู่ ๆ ขวัญพิชชาก็หยุดเดิน“ที่นี่ห้ามสูบบุหรี่นะคะ” เธอเหลียวหลังมามอง ดวงตาหวานจ้องไปที่บุหรี่ แล้วต่อว่าเขา“รู้ แต่จะสูบ”“งั้นคุณก็ไม่ต้องตามเบลมาแล้วค่ะ”“จะตาม มีปัญหาอะไรอีก”“คุณเคนโซไม่เห็นป้ายเหรอคะ ช่วยดับมันด้วยค่ะ เบลเหม็น” เธอชี้ไปยังป้ายที่ติดคำว่าเขตปลอดบุหรี่ เตือนสติให้เขาอ่านมันชัด ๆ“นี่เธอกำลังสั่งฉันอีกแล้วนะมาเบล” รามิลพุ่งตรงไปหาเธอด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง ก่อนจะโยนบุหรี่ทิ้งลงบนพื้น ฝ่ามือใหญ่ตะปบลำคอเธอ เขาออกแรงบีบไม่หนักไม่เบา พอให้เธอรู้สึกเพื่อสั่งสอน รามิลไม่พอใจที่เธอพูดสั่งให้เขาห้ามทำอย่างนั้นอย่างนี้“อึก ปล่อยเบลนะ”
EP.10อคิราห์ขับรถถึงมูลนิธิในช่วงเวลาเก้าโมงตรง เขามารอรับขวัญพิชชาเพื่อพาเธอไปสอนพิเศษให้กับลูกสาวบุญธรรม ชายหนุ่มจอดรถอยู่ที่ลานจอดเช่นเคย ใบหน้าหล่อเหลาระบายยิ้มอย่างอารมณ์ดี ต่อสายโทรหาขวัญพิชชาในทันที จะบอกกับเธอว่าเขารออยู่ที่ข้างล่างแล้วเสียงแรกที่เขาอยากได้ยิน เมื่ออีกฝ่ายกดรับสาย กลับไม่ใช่ขวัญพิชชา ใบหน้าหล่อจากที่เคยเปื้อนยิ้มเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง[ ไง ไอ้เพื่อนรัก ] น้ำเสียงหยอกเย้ากึ่งดุดัน เอ่ยกับคนในปลายสายที่ได้ขึ้นชื่อว่าเคยเป็นเพื่อนรักกันมา“ไอ้เคนโซ”[ ยังจำกันได้สินะ ]“มึงมารับโทรศัพท์เธอได้ยังไง”[ กูชอบน้ำเสียงมึงตอนนี้จัง ดูร้อนรนดี ]อคิราห์ยืนเสยผมตัวเองแรง ๆ เดินวนไปมาอยู่รอบรถของตัวเอง ก่อนจะมองไปยังตึกใหม่ที่ขวัญพิชชาทำงาน สองเท้าก้าวยาวด้วยความเร็ว แล้วหยุดยืนที่หน้าตึก เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาไม่รู้ชั้นที่เธอทำงานอยู่ชั้นอะไรชายหนุ่มหลับตาผ่อนลมหายใจเข้าออกช้า ๆ แล้วก้าวถอยหลังออกมาบอกกับคนในสาย“กูขอสายเบล”[ ถ้าให้กูเดา ตอนนี้มึงคงยืนอยู่หน้าตึก ]“กูมารับเธอ”[ แต่โทษทีว่ะ มาเบลเป็นผู้หญิงของกู ]“มึงบังคับอะไรเธอ”[ รอกูอยู่ตรงนั้น ]ก่อนหน้านี้ หลังจาก
EP11รามิลสั่งคนขับให้ขับตามรถทะเบียนคันข้างหน้า ดูเหมือนว่ารถอคิราห์จะขับออกนอกเส้นทางไปไกล รามิลรู้ว่าเธอกับอคิราห์จะไปไหน จึงไม่ได้สนใจเส้นทางเท่าไหร่นักจนกระทั่งถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น รถอคิราห์เลี้ยวซ้ายขับเข้าไป“หลังนี้ครับนาย” ฟาร์มชี้ให้รามิลทราบว่าคือหลังไหน เขาเคยมาดูลาดเลาเมื่อวาน แต่วันนี้นายเขากลับลงพื้นที่ด้วยตัวเอง“พวกมึงดูกันไป ถ่ายรูปด้วย กูจะนอน” เมื่อคืนรามิลไม่ได้หลับเลยสักงีบ ออกจากคลับก็เกือบเช้าแล้วตรงไปหาขวัญพิชชาที่อะพาร์ตเมนต์ทันที“อ่าวนาย” ฟาร์มจึงต้องรับหน้าที่คอยเฝ้าสังเกตการณ์อีกเช่นเคย ตามคำสั่งของมาเฟียหนุ่มขวัญพิชชากำลังเตรียมการสอนให้กับนาเดียเด็กน้อยวัย 8 ปี อคิราห์นั่งข้างลูกสาวคอยดูการเรียนการสอนของผู้หญิงต่างวัยสองคน แต่ดูท่าแล้วอคิราห์จะมองความสวยของขวัญพิชชานานเกินไป นาเดียเรียกปะป๊าอยู่ตั้งนานอคิราห์ก็ไม่ขานรับ ขวัญพิชชาเองก็ช่วยเรียก อคิราห์ก็เอาแต่มองเธอ ใบหน้าสวยหวานขึ้นสีระเรื่อ เมื่อถูกจ้องนาน“คุณซีนายคะ”“...ครับ”“ปะป๊าชอบคุณครูของนาเดียมากเลยใช่ไหมคะ”“เอ่อ นาเดียคะ เมื่อวานเราสอนกันไปถึงไหนน๊า” ขวัญพิชชาเบี่ยงค
EP.12รามิลหมุนไหล่ขวัญพิชชาให้หันมองอคิราห์ที่โดนลูกน้องรามิลจับไว้แล้วนั่งลงคุกเข่า“บอกลามัน”“คุณ...” น้ำตาสีใสรื้นอยู่รอบตา มันกลิ้งไปมาแทบจะหยดลงเป็นสายธาร เมื่อเห็นอคิราห์ถูกชายฉกรรจ์จับเขากดเอาไว้ เธอเองก็ช่วยอะไรเขาไม่ได้ รู้สึกสงสารเขาจับใจ ขวัญพิชชาไม่เคยรู้อดีตของอคิราห์และรามิล ว่าเขาสองคนนั้นมีปัญหาอะไรรามิลเหยียดยิ้มมองอคิราห์ที่ไร้หนทางสู้ มาเฟียหนุ่มโน้มใบหน้าลงกระซิบข้างหูขวัญพิชชา ขณะที่สายตายังคงจับจ้องอคิราห์อย่างเย้ยหยัน “ฉันสั่ง” สิ้นคำ รามิลใช้วงแขนกอดรัดขวัญพิชชาไว้กับตัวจนเธอแทบจะฝังตัวเข้าไปอยู่ในร่างเขา“คุณซี...”“ฉันบอกให้ลามัน ไม่ใช่ให้เรียกชื่อมัน” เธอพูดไปแค่สองคำ ก็ถูกแทรกด้วยเสียงทุ้มเข้มอย่างไม่พอใจเมื่อเธอไม่ทำตามคำสั่ง“ละ ลาก่อน”“ไม่บอกลาเธอด้วยล่ะ มารยาทน่ะ” ริมฝีปากเหยียดยิ้ม รามิลยื้อเวลาไว้อีกหน่อย เขาจะดึงเธอกลับเลยก็ได้ แต่มาเพื่อแค่นี้มันจะไปสนุกอะไรมาเฟียหนุ่มอยากเห็นภาพสะใจก่อนไป รามิลหวังต้องการใช้มือณิลิน สั่งสอนผู้หญิงโง่ ๆ อย่างขวัญพิชชา เธอจะได้หูตาสว่าง แถมได้รวบยอดความแค้นที่เคยสะสมในอดีต เห็นผัวเมียที่เคยเป็นทั้งเพื่อนรัก และแ
SPECIAL 3“สวัสดีค่ะคุณลุง เมื่อไหร่คุณลุงจะมาหาวีนัสคะ วีนัสคิดถึงคุณลุงม๊ากมากค่ะ วีนัสอยากอยู่กับคุณลุง วีนัสอยากไปเที่ยวเกาะค่ะ”[ ไม่น่าจะอยากมาหาลุงหรอก อยากมาเล่นน้ำมากกว่า ถามคุณพ่อหนูก่อนไหม ว่าอนุญาตหรือเปล่า ]อาชวะโดนหลานสาวตัวน้อยออดอ้อน มีเหรออาชวะจะไม่ใจอ่อน แค่เธอเปิดปากขอ อาชวะก็จัดหาให้ได้ทุกอย่าง แต่จะมีสิ่งมีชีวิตอยู่คนหนึ่งที่ชอบมาขัดขวาง เหตุเพราะกลัวลูกไม่รักตัวเอง แล้วมารักเขามากกว่า“พ่อไม่ให้หนูไปไหนทั้งนั้นค่ะ” พูดไม่ทันไร เสียงรามิลก็ลอยมาให้คนในสายได้ยินเต็มสองหู วีนัสหันไปมองค้อนคุณพ่อ ก่อนจะฟ้องอาชวะ“คุณพ่อไม่น่ารักเลยค่ะ แต่วีนัสอนุญาตให้คุณลุงมารับนะคะ พรุ่งนี้เลย”สิ้นคำลูกสาว รามิลแย่งโทรศัพท์จากมือวีนัสแล้วตัดสายทิ้ง ลูกสาวโวยวายลั่นทุบตีคนเป็นพ่อ ร้องไห้อาละวาดหนัก เธอรักคุณลุงอาชวะมาก เพราะตามใจเธอทุกอย่าง แถมคุณลุงของเธอก็หล่อมาก ๆ ด้วย“ฮือ คุณพ่อนิสัยไม่ดี”“วีนัส หนูตีคุณพ่อไม่ได้นะคะ ขอโทษคุณพ่อเดี๋ยวนี้” ขวัญพิชชาจับลูกสาวตัวน้อยมาสงบสติอารมณ์ แล้วสั่งสอนวีนัสพร้อมกับให้เธอเข้ามุม“ยิ่งโต ก็ยิ่งเอาแต่ใจ เหมือนใครคะ” ลูกทั้งสองถูกตามใจตลอด มี
SPECIAL 2วิคเตอร์ลูกชายคนโตวัย 8 ปี เดินเท้ามาพร้อมกับคุณพ่อ วัย 38 ปี ทั้งท่วงท่าและการเดิน หรือแม้แต่ใบหน้าทุกส่วนที่จัดวางเรียงเหมือนคนเป็นพ่อไม่มีผิดเพี้ยน ตอนนี้สองพ่อลูกหยุดยืนอยู่ต่อหน้าบอดี้การด์นับสิบ พวกเขาแบ่งกันเป็นสองฝั่ง แต่ทว่ากลับมีบุคคลหนึ่ง นั่งคุกเข่่าสวมหมวกไอ้โม่งอยู่ตรงหน้า โดยมีบอดี้การ์ดจับตัวมันไว้ เพื่อเค้นเอาความจริงออกจากปาก ว่าใครเป็นคนสั่งให้มันกล้้ารุกล้ำเข้าพื้นที่ส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต“ใครใช้แกมา”“ไม่มี”“ฉันไม่เชื่อ”“ก็บอกไปหมดแล้ว”“โกหก! ถ้าแกยังไม่ยอมบอก ฉันจะใช้ดาบสตาวอร์ฟันหัวแกเดี๋ยวนี้” แสงของดาบฉายประกายไฟเป็นสีเรืองแสงออกมา เมื่อเจ้าของดาบชูขึ้นสูงแล้วตั้งท่าด้วยความมุ่งมั่นและจริงจัง มองไปยังคนร้ายที่นั่งอยู่ตรงหน้า“ยะ อย่านะ อย่า...เฮือก~” ปลายดาบถูกตวัดลงบนลำคอคนร้ายแล้วเฉือนถูกอวัยสิ่งนั้นอย่างช้า ๆ ชายที่สวมหมวกไอ้โมง ค่อย ๆ เอนตัวล้มบนพื้นเมื่อถูกฆ่า“เป็นไงครับพ่อ ผมเก่งไหม” วิคเตอร์กระโดดดีใจหันไปถามผู้เป็นพ่อด้วยสีหน้าตื่นเต้น วันนี้ลูกชายคนโตและคุณพ่อ สวมบทบาทเป็นมาเฟียสุดโหดส่วนไอ้โม่งก็คือฟาร์มลูกน้องคนสนิทของรามิล รับบทเ
SPECIAL 1ย้อนเหตุการณ์ไปเมื่อก่อน รามิลรู้ข่าวของอคิราห์และณิลินเมื่อคนที่เคยรักหักหลังกำลังจะไปหย่ากันที่เขต ลูกน้องถ่ายภาพส่งมารายงาน ในระหว่างที่เขากำลังเดินทางไปสนามบิน“ในที่สุด” เสียงทุ้มเรียบเย็นเอ่ยขึ้นเบา ๆ มองภาพคู่รักที่เพิ่งแตกหักกันสด ๆ ร้อน ๆแต่ในขณะเดียวกัน เขาเองก็คิดเรื่องขวัญพิชชา ในช่วง 3 วันที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศนั้น รามิลต้องการตัดช่องทางการสื่อสารกับเธอ แต่มันติดอยู่ที่ว่า...เขารักเธอไปแล้ว รามิลรู้สึกเจ็บที่อกซ้ายยังไงไม่รู้ ยามที่คิดว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องปล่อยเธอไป“ไอ้ฟาร์ม มึงว่ากูจะรักเบลได้ไหมวะ”“ผมคิดว่านายรักคุณมาเบลอยู่แล้วนะครับ” คำตอบของลูกน้องทำให้เขาต้องตระหนักกับเรื่องที่ผ่านมาเขารักเธอมาก่อนแล้วอย่างนั้นเหรอ“ถ้าเธอรู้ความจริงว่าทุกอย่างที่ผ่านมากูหลอกเธอ เธอจะรักกูได้อยู่อีกเหรอ”“แต่คุณมาเบลก็รักนายมาก ๆ นะครับ”“กูรู้”“แล้วนายล่ะครับ รักคุณมาเบลแค่ไหน”รัก ? “ตอบยากแฮะ”“นายไม่รักเธอเหรอครับ”“ถ้าปล่อยเธอให้ไปเจอคนที่ดีกว่ากู เธอคงจะมีความสุขกว่านี้”“แล้วนายจะไม่ทุกข์ ?” ที่เขากล้าถามเพราะอยู่กับรามิลมานาน แต่ต้องดูอารมณ์ตามสถานการณ
EP.58อีก 7 เดือนต่อมา ขวัญพิชชาท้องใหญ่ขึ้นมาก ถ้าเธอจะลุกเดินไปไหนต้องมีวิวแชร์คอยช่วย เนื่องจากมือเท้าที่บวมขึ้นมาก เวลาทำอะไรก็ลำบาก เธอรู้สึกหน่วง ๆ ท้อง มันจะปวดเป็นพัก ๆ เพราะอีกแค่เดือนเดียวก็ถึงกำหนดคลอดก่อนหน้านี้ รามิลขอให้เธอเลิกเป็นครูสอนพิเศษที่มูลนิธิ เขาไม่ยอมทนเห็นเมียท้องโย้เดินทำงานแน่ เมื่อเขาเป็นลูกชายเจ้าของมูลนิธิ และเป็นมาเฟีย ปล่อยให้เมียเดินทำงานจนถึงวันคลอด เขาคงเป็นสามีที่แย่มาก ๆ“เบลเจ็บท้องจังเลยค่ะ” แต่วันนี้มันกลับปวดมากกว่าทุกวัน“จะคลอดแล้วหรือเปล่า แต่หมอบอกคลอดช่วงสิ้นเดือน”“แต่หมอบอกว่าถ้าเจ็บมาก ๆ ให้รีบมาโรงพยาบาล แต่ตอนนี้เบลเจ็บแบบไม่ไหวแล้ว มันปวดท้องมาก ๆ ด้วย ปวดเหมือนมีอะไรบีบรัด พาเบลไปโรงพยาบาลที”เมียรักทนไม่ไหว เขาก็ยิ่งทำอะไรไม่ถูก ไม่รู่ว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง เขาจึงโทรหาธิติมาให้ท่านช่วยเตรียมของช่วงคลอดให้ขวัญพิชชา เวลานี้เขาต้องพาภรรยาไปหาหมอเป็นการด่วน“นี่เธอฉี่เหรอ”“ไม่ใช่ค่ะ ถุงน้ำคร่ำแตกแล้ว เบลจะคลอดลูก” คราวนี้ล่ะ ฉิบหายหนักกว่าเดิม คุณพ่อมือใหม่ทำอะไรไม่ถูก รามิพยุงเธอไปยังรถตู้ สั่งลูกน้องให้รีบขับไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน
EP.57 จากแค่ผู้หญิงกำพร้าคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตตัวคนเดียวมาตลอด 23 ปี ตอนนี้กลายเป็นเมียมาเฟียที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในประเทศ ขวัญพิชชาไม่เคยคิดว่าเธอจะมีวันนี้ วันที่เธอมีพร้อมได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะความรัก หรือความอบอุ่นจากผู้มีพระคุณ ก็คือคุณพ่อคุณแม่ของชายที่เธอรักงานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ อีกทั้งแขกเหรื่อในงานก็มีแต่แวดวงไฮโซ และผู้มีอิทธิพลรวมตัวกันอยู่ในงานนี้แขกประมาณพันคนที่ถูกเรียนเชิญกำลังทยอยเข้างาน บ่าวสาวยืนต้อนรับแขกอยู่หน้างาน กระทั่งมีใครบางคนเดินเข้ามาแสดงความยินดี“ไม่คิดว่างานจะจัดไวขนาดนี้” อาชวะหนุ่มเมืองใต้ ถูกขวัญพิชชาเชิญมาเป็นแขกในงานและยังเป็นคนสำคัญสำหรับเธอในฐานะ ‘ผู้ใหญ่’ แน่นอนว่าเขาตกลงและยินดีที่ได้มาร่วมงานมงคลสมรสในวันนี้แต่กลับมีชายคนหนึ่งที่ดูคล้ายจะไม่พอใจเสียเท่าไหร่ เมื่อได้เห็นหน้าพ่อเลี้ยงเมืองใต้ รามิลโอบไหล่ขวัญพิชชาไว้กับตัวไม่ปล่อย ได้ข่าวว่ามาเฟียหนุ่มคนนี้หวงเมียราวกับหมาหวงกระดูก แล้วยังรู้มาอีกว่า ขวัญพิชชาก็กำลังตั้งครรภ์อ่อน ๆ“ถ้ารู้เพศแล้วบอกด้วย”“บอกทำไม ไม่ใช่ญาติ” เป็นเสียงของรามิลเอ่ยขึ้นมาระหว่างที่ขวัญพิชชาและอาชวะกำลังส
EP.56รามิลออกจากโรงพยาบาลก็พาเธอไปเก็บกระเป๋าที่คอนโดทันที แล้วย้ายกลับมาอยู่ด้วยกันกับเขาที่เพนท์เฮาส์เหมือนเดิม“พูดอะไรกับฉันไว้ หวังว่าเธอยังจำได้”“จำได้สิคะ”เปียโนหลังใหญ่เธอเห็นว่าถูกวางไว้อยู่หลังประตูห้อง และนั่นคือห้องลับระหว่างเขาและเธอ ขวัญพิชชาปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกช้า ๆ อวดเรือนร่างให้เขามองเป็นอาหารตา“สวยมาก” ดวงตาคมไล่พินิจตั้งแต่ใบหน้าเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แล้วย่างกรายเข้าไปหาพร้อมกับยกขวัญพิชชาวางไว้บนหลังเปียโน“อยากทำตรงนี้เหรอคะ”“ลองอะไรใหม่ ๆ ดูก็ไม่เสียหายเท่าไหร่นี่ว่าไหม”“แล้วแต่คุณค่ะ”รามิลถอดเสื้อผ้าออกจนครบทุกชิ้น แล้วจับขาเธออ้าให้กว้าง ๆ รามิลนั่งบนเก้าอี้เปียโน มองเห็นความอวบชมพูอยู่ในระดับสายตาใบหน้าหล่อเคลื่อนเข้ามาใกล้ ๆ สองเท้าเล็กวางอยู่บนตัวโน๊ต ปลายเท้าจิกเกร็งยามที่เขาสอดเรียวลิ้นเข้าช่องทางแคบ“อ๊า~” ใบหน้าหวานเชิดขึ้น มือบางจิกกลุ่มเส้นผมของเขาที่อยู่ตรงหน้าเธอ รามิลชำแรกลิ้นแล้วตวัดปลายระรัวในจุดอ่อนไหว เสียงร้องหวาน ๆ ครางพร่าออกมาเป็นชื่อเขา“คุณเคนขา อื้อ”ไม่เพียงแค่ใช้ลิ้น ปลายนิ้วกดสัมผัสจุดกระสัน แล้วสอดเข้าไปในรูสีหวาน กระดก
EP.55เสียงผะแผ่วเบาพูดขึ้นผ่านริมฝีปากแห้ง รามิลเริ่มรู้สึกตัวแล้ว ตอนนี้ทุกคนยืนรายล้อมเตียงเพื่อมาดูให้เห็นกับตา กระทั่งคุณหมอประจำตัวก็เข้าห้องมาเพื่อตรวจอาการให้กับคนไข้“คงต้องให้คุณเคนพักที่โรงพยาบาลอีกสัก 3-4 วัน นะครับ อาหารก็ยังให้ทานอ่อน ๆ อยู่ เดี๋ยวพยาบาลเราจะนำมาให้”“ค่ะ ขอบคุณคุณหมอมาก ๆ เลยนะคะ”ทันทีที่คุณหมอออกไป พร้อมกับเปลี่ยนขวดน้ำเกลือใหม่ เสียงแรกของรามิลเอ่ยชื่อเธอซ้ำ ๆ และค่อย ๆ ดังขึ้นเรื่อย ๆ“เบล เบลใช่ไหม”“โห! เพื่อนยืนหัวโด่อยู่ตั้งสองคน เรียกแค่เมีย แล้วแม่งพูดครับด้วย ขนลุกว่ะ” ไมเลสเอ่ยแกล้ง ๆ ตามประสา เขาเลยโดนแก้มใสหยิกเข้าที่เอว เมื่อเขาเล่นไม่ดูเวลาร่ำเวลา“เบลอยู่นี่ค่ะ คุณจะเอาอะไร”“เธอจริงเหรอ ใช่เธอจริง ๆ ใช่ไหม”“จริงสิคะ”ขวัญพิชชาระบายยิ้มไปถึงดวงตา พลางจับมือเขาขึ้นมาให้รามิลได้สัมผัสว่าเป็นเธอจริง ๆ”“เธอกลับมาหาฉันแล้วใช่ไหม”“ค่ะ” รามิลค่อย ๆ ขยับกายลุกขึ้นนั่ง มีขวัญพิชชาอยู่ประคอง เขาอยากเห็นเธอให้แน่ใจว่าไม่ใช่ฝัน“เชื่อหรือยังคะ”“ขอกอดได้ไหม” สิ้นคำสุดท้าย ขวัญพิชชาโผกอดเขาด้วยหัวใจ กระชับกอดร่างกายที่ซูบผอมเอาไว้ รามิลกดจมูกหอมท
EP.54ที่โรงพยาบาลเกิดความชุลมุนวุ่นวาย เมื่อลูกชายมาเฟียผู้ทรงอิทธิพล ได้เกิดหมดสติลง ตอนนี้รามิลกำลังได้เข้ารับการรักษา เขาอยู่ในห้องไอซียู มีครอบครัวรออยู่ด้านนอก อีกทั้งบอดี้การ์ดอีกจำนวนหนึ่ง“เพราะคุณ” ธิติมาส่งเสียงสะอื้นพลางทุบตีสามีของตน เขาจับลูกชายขังมานับเดือน จนลูกต้องกลายเป็นคนติดแอลกอฮอล์หนัก เพียงเพราะผู้หญิงคนนั้น“อย่างน้อยคุณก็ควรปล่อยลูกให้ออกมาบ้าง ตอนนี้ลูกหมดสติ ไม่รู้จะเป็นยังไง”“คุณเลิกตีผมได้แล้ว เป็นเพราะมันทำตัวเอง” เมธัสจับมือภรรยาออก แล้วบอกกับธิติมา “แต่ผมก็ผิดเหมือนกัน ที่ปล่อยให้มันอยู่ในสภาพนั้น แต่ถ้าเกิดปล่อยมันออกมา มันก็ไปอาละวาดอีก ผมไม่อยากให้มันไปทำร้ายใคร”“แล้วผู้หญิงคนนั้นว่ายังไงบ้าง เธอจะยอมกลับมาหาลูกเราหรือเปล่า”“ไม่...” ที่เขาเรียกขวัญพิชชามาวันนี้ เพราะอยากให้เธอเห็นอาการของลูกชาย มันร้องคร่ำครวญแทบเป็นแทบตาย อยากให้เธอได้เจอหน้าลูกชายเขาสักครั้ง หวังว่ามันจะมีอาการดีขึ้น แต่เธอก็ไม่ยอม ขวัญพิชชาใจแข็งมากกว่าที่เขาคิดทางขวัญพิชชาตอนนี้เธอเพิ่งถึงโรงพยาบาล เธอได้รับข้อความจากฟาร์มว่าตอนนี้เขาอยู่ห้องไอซียู“คุณท่าน...”“เธอ”เมธัสและ
EP.53เรียวคิ้วสวยขมวดเข้าหากันเพราะเหมือนรู้สึกว่าเมธัสกำลังขอร้องเธอด้วยเรื่องอะไรบางอย่าง แต่ถ้าให้เดาแบบไม่ต้องเสียเวลา ก็คงไม่พ้นลูกชายเขาเป็นแน่และในขณะที่ฟังคนในสายพูดอยู่นั้น ขวัญพิชชาได้ยินเสียงร้องโหยหวนเหมือนกำลังทุกข์ทรมานคล้ายกับสัตว์ที่กำลังถูกฆ่า“นั่นเสียงอะไรคะ”[ ไม่มีอะไร เธอรีบมาเถอะ ฉันมีเรื่องด่วน ]เมธัสชิงตัดสายไป ยังไม่ทันที่ขวัญพิชชาจะตอบตกลง เขามัดมือชกเธอ หญิงสาวจึงไม่มีทางเลือก เมธัสบังคับเธอทางอ้อม“ว่ายังไงครับ มีอะไร” อาชวะถามอย่างใคร่รู้“คุณท่านให้เบลไปหาที่บ้านค่ะ”“แล้วคุณจะไป”“อยากจะเลี่ยงไม่ไปค่ะ แต่ท่านก็ชิงตัดสายไปเลย” นั่นเท่ากับเธอต้องไปภายในห้องนอนที่มืดสนิท มีเพียงแสงไฟเล็ดลอดมาจากทางใต้ประตูห้อง ชายหนุ่มร่างกำยำในสภาพท่อนบนเปลือยเปล่า เขานั่งอยู่ปลายเตียงในท่าเดิมนานนับวัน ถอดถอนหายใจแรงถี่ ๆ ราวกับคนวิตกกังวลกับอะไรบางอย่าง ดวงตาคมลุ่มลึกเหี้ยมเกรียมปรากฏใยบาง ๆ ของความเศร้า ชายหนุ่มนั่งกระสับกระส่าย ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว“แม่งเอ้ย” คำสบถหยาบถูกตะเบงออกจากลำคอ ปลดปล่อยอารมณ์ที่แสนจะอึดอัดและกดดัน มือหนาลูบหน้าตัวเองแรง ๆ พลางก้มมองที่