ประเทศไทยร่างสูงของใครบางคนจ้องมองเจดีย์ที่ถูกตั้งเคียงคู่กันด้วยแววตาที่หม่นเศร้าสองมือค่อยๆยกขึ้นลูบรูปภาพที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของคุณทวดทั้งสองที่ออกเดินทางไปไกลแสนไกล ซึ่งเป็นการเดินทางที่กรรฐ์ไม่สามารถที่จะเดินทางไปหาคนทั้งคู่ได้เลย ภาพเหตุการณ์ในวันวานพลันย้อนเข้ามาในหัวเมื่อครั้งที่บิดาพาเขากับพี่ชายฝาแฝดไปฝากให้คุณทวดทั้งสองช่วยเลี้ยง“เป็นลูกผู้ชายต้องเข้มแข็งต่อให้เจ็บแค่ไหนก็ห้ามมีน้ำตารู้ไหมครับน้องกรรฐ์”“น้องกรรฐ์รู้แล้วครับคุณทวด โตขึ้นน้องกรรฐ์จะเข้มแข็งเหมือนคุณทวดกฤษฎิ์อ่อนโยนเหมือนคุณทวดที่รักและรักเดียวใจเดียวเหมือนคุณปู่ครับ”เด็กชายกวีวัธน์บอกคุณทวดด้วยรอยยิ้มในขณะที่กฤษฎิ์มองเหลนชายคนเล็กด้วยความเอ็นดูมือที่เหี่ยวย่นไปตามวัยและกาลเวลายกขึ้นลูบศีรษะของเหลนน้อยเบาๆด้วยความรักใคร่สุดหัวใจ“ดีมากครับเหลนน้อยของปู่ กับคนรักน้องกรรฐ์ต้องอ่อนโยนและรักเขาให้มากๆนะครับ ทะนุถนอมเขาและดูแลปกป้องเขาให้ดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้”เขาในวันนั้นพยักหน้ารับคำพูดของคุณทวดด้วยรอยยิ้มโดยที่ไม่รู้เลยว่าหลังจากวันนั้นเพียงไม่กี่วันคุณทวดที่แสนใจดีของเขาก็จากไปอย่างไม่มีวันกลั
สายลมยามค่ำคืนพัดผ่านร่างสูงของกรรฐ์ที่ยืนมองแสงไฟหลากสีของเมืองกรุงด้วยความรู้สึกสดชื่นที่ได้กลับมาเยือนประเทศบ้านเกิดเสียทีหลังจากที่เขาจากไปตั้งแต่ยังเล็ก กรรฐ์กางแขนออกกว้างเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอดอีกครั้งก่อนที่เขาจะกลับเข้าไปด้านในเมื่อเริ่มรู้สึกง่วงขึ้นมาบ้างแล้วหลังจากที่ร่างกายยังปรับตัวให้เข้ากับเวลาของเมืองไทยไม่ได้แสงสว่างที่ลอดออกมาจากห้องทำงานของพี่ชายทำให้กรรฐ์ที่กำลังจะเดินกลับไปที่ห้องนอนถึงกับชะงักเท้าก่อนที่เขาจะเปลี่ยนเส้นทางจากห้องนอนของตัวเองมาเป็นห้องทำงานของพี่ชายแทน ร่างสูงที่ฟุบหลับคาโต๊ะทำงานด้วยใบหน้าที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเหนื่อยล้าทำให้กรรฐ์ถึงกับส่ายหน้าไปมาน้อยๆด้วยความเป็นห่วงก่อนที่เขาจะตัดสินใจเดินออกไปหยิบผ้าห่มผืนเล็กมาห่มให้พี่ชายเพราะอากาศค่อนข้างเย็นอาจจะทำให้เกรย์ไม่สบายได้ถึงพี่ชายของเขาจะเป็นนายแพทย์ที่ใครๆต่างก็ยอมรับในความสามารถแต่ในเรื่องของการดูแลสุขภาพตัวเองนั้นพี่ชายของเขาไม่ค่อยจะใส่ใจตัวเองสักเท่าไหร่“ถ้าพรุ่งนี้ป่วยก็ให้คนของใจมาคอยดูแลก็แล้วกันนะเฮีย”กรรฐ์พึมพำเสียงเบาก่อนที่เขาจะเดินออกมาจากห้องทำงานของพี่ชายเพื่อกลั
คฤหาสน์พิสิฐกุลวัตรดิลกห้องครัว“ช้องนาง ขอน้ำใบเตยให้ย่าแก้มที”แก้มใสที่กำลังนวดแป้งเพื่อทำขนมเปียกปูนกะทิสดร้องขอน้ำใบเตยคั้นสดจากช้องนางเด็กรับใช้ในบ้านที่คอยเป็นลูกมือช่วยแก้มใสทำขนมก่อนที่เหยือกน้ำใบเตยจะถูกยื่นมาให้แก้มใสที่กำลังนวดแป้งด้วยความตั้งใจ มือที่เหี่ยวย่นตามวัยค่อยๆยื่นไปหยิบเหยือกน้ำใบเตยจากสาวใช้โดยที่ไม่ได้หันหน้ากลับไปมองด้านหลังเลยสักนิด“อย่าใส่เยอะนะครับ เดี๋ยวคนกินจะเมาน้ำใบเตยเพราะย่าแก้มมือหนัก”มือที่กำลังเทน้ำใบเตยลงบนแป้งถึงกับชะงักไปเมื่อน้ำเสียงที่แสนคุ้นเคยที่เธอไม่ได้ยินมานานนับหลายปีดังอยู่ข้างๆหู ก่อนที่แก้มใสจะค่อยๆวางเหยือกน้ำลงบนโต๊ะด้วยมือที่สั่นเทาและหันกลับมามองร่างสูงที่ยืนส่งยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน“เจ้ากรรฐ์ของย่า”สองมือที่เต็มไปด้วยคราบแป้งคว้าหมับเข้าที่ใบหน้าหล่อเหลาของหลานชายพร้อมทั้งลูบไปมาด้วยความคิดถึงโดยที่ลืมไปว่ามือของตัวเองนั้นเลอะไปด้วยแป้งรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ใบหน้าของกรรฐ์เต็มไปด้วยคราบสีขาวจนแทบดูไม่ได้“ย่าแก้มคงคิดถึงกรรฐ์มากเลยนะครับ ลูบซะจนน้องกรรฐ์คิดว่าคุณย่ากำลังปะแป้งขอหวยน้องกรรฐ์อยู่”คำพูดติดตลกของกวีวัธน์ทำให้แก้ม
เกรย์มองข้อความที่ถูกส่งไปแต่ไม่มีการเปิดอ่านด้วยความสงสัยคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันจนแทบผูกโบว์เมื่อเพลงพิณไม่อ่านข้อความของเขามาสองวันแล้ว ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เวลาที่เขาส่งข้อความไปหาเธอยังไม่ถึงหนึ่งนาทีด้วยซ้ำเพลงพิณจะรีบเปิดอ่านและตอบกลับมาอย่างรวดเร็วแต่ครั้งนี้กลับหายเงียบไปจนเขารู้สึกไม่สบายใจหรือเธอจะโกรธที่เขาไม่มีเวลาให้กันนะเกรย์ได้แต่คิดไปเองถึงเหตุผลที่เพลงพิณขาดการติดต่อกับเขาไปด้วยเหตุผลไร้สาระต่างๆนาๆโดยที่ไม่รู้เลยว่าตัวต้นเหตุที่ทำให้เพลงพิณเงียบหายไปคือน้องชายสุดที่รักของเขาเอง ที่ตอนนี้กำลังเดินเที่ยวเล่นตากแอร์อยู่ในห้างของคุณปู่กายกับสาวข้างกายที่รู้จักกันโดยบังเอิญอย่างมีความสุข“นายครับ โรงพยาบาลสาขาจีนเกิดปัญหาครับ”คำพูดของคีนทำให้เกรย์ที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ถึงกับได้สติก่อนที่เขาจะยื่นมือไปรับไอแพดจากคีนมาดูรายงานที่ทางสาขาจีนส่งมาให้ด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด เพราะที่นั่นเกิดปัญหาภายในองค์กรมายาวนานโดยเฉพาะบอร์ดบริหารที่ไม่สามารตกลงกันได้ถึงแม้ว่าเขาจะส่งคนไปเจรจาไกล่เกลี่ยแล้วก็ตาม“โทรไปแจ้งเบทริคให้เตรียมเครื่องให้พร้อม เราจะออกเดินทางไปจีนให้เร็วที่สุด”น้ำ
ประเทศจีนภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ริมสระว่ายน้ำเกรย์กำลังนั่งจิบไวน์เพื่อผ่อนคลายจากอาการเหมื่อยล้าหลังจากที่เขามาถึงประเทศจีนปัญหาต่างๆก็พากันวิ่งเข้ามาหาเขาอย่างไม่ทันตั้งตัวทั้งๆที่คิดว่าตั้งรับมาดีแล้ว จากที่คิดว่าปัญหาคงไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิดและเขาสามารถแก้ปัญหาให้เสร็จเรียบร้อยได้ภายในไม่กี่วันกลับกลายเป็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นใช้เวลาถึงหนึ่งอาทิตย์เต็มๆเขาจึงสามารถจัดการทุกอย่างให้จบลงได้ในขณะที่กำลังนั่งปล่อยใจไปกับสายลมที่พัดพากลิ่นหอมของดอกไม้ผ่านมาให้รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายเสียงสั่นของโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะก็ดังขึ้น จนเกรย์ถึงกับต้องรีบเอื้อมมือไปรับด้วยความรวดเร็วเพราะคนที่โทรมาเวลานี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น แม่เจ้าขาเกรย์ : ครับแม่เจ้าขา :น้องเกรย์กลับไทยวันไหนคะลูกรักเกรย์ : พรุ่งนี้ครับแม่ น้องเกรย์เพิ่งเคลียร์งานเสร็จวันนี้ครับเจ้าขา :เหนื่อยมากไหมคะคนดี ลูกชายของแม่ทำงานหนักทั้งอาทิตย์เลยน้ำเสียงอ่อนโยนเอ่ยถามลูกชายสุดที่รักด้วยความห่วงใยเพราะเจ้าขารู้มาว่าตั้งแต่ที่ลูกชายของเธอเดินทางไปถึงประเทศจีนเขาก็เริ่มทำงานตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ยังไม่ได้พักเลย เกรย์
กรรฐ์ค่อยๆพันแผลให้พี่ชายด้วยความอ่อนโยนถึงแม้จะรู้ว่าแผลแค่นี้นั้นไกลหัวใจพี่ชายมากแค่ไหนก็ตามแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็พยายามทำแผลให้พี่ชายอย่างเบามือที่สุด ส่วนเกรย์ได้แต่มองแผลที่มืออย่างไม่ใส่ใจนักยิ่งเห็นน้องชายทำแผลให้เขาอย่างเบามือก็ได้แต่อมยิ้มด้วยความเอ็นดู“รักที่ดีคือการรักตัวเองนะครับ ไม่ใช่ทำร้ายตัวเอง” คำพูดของน้องชายฝาแฝดทำให้รอยยิ้มของเกรย์ค่อยๆหายไปก่อนที่เกรย์จะยิ้มออกมาอย่างเศร้าๆเมื่อคิดไปถึงสาเหตุที่ทำให้เขาโมโหจนบีบแก้วไวน์แตกคามือ“กรรฐ์พูดเรื่องอะไรเฮียไม่เห็นจะเข้าใจ”เกรย์แสร้งตีหน้าซื่อกลบเกลื่อนความเจ็บปวดภายในใจเมื่อกรรฐ์เงยหน้าขึ้นมาสบตาพี่ชายหลังจากที่พันแผลให้เกรย์เสร็จเรียบร้อยแล้ว รอยยิ้มเจ้าเล่ห์พลันผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาของกรรฐ์เมื่อเขารู้ทันความรู้สึกภายใต้ใบหน้าที่แสนซื่อของพี่ชายว่าตอนนี้เกรย์กำลังรู้สึกอย่างไรอยู่“รู้ดีอยู่แก่ใจยังมาบอกว่าไม่เข้าใจ แต่ก็นะช่างมันเถอะครับนี่ก็ใกล้จะถึงเวลาเปิดงานแล้ว พ่อทัพกับแม่เจ้าขาแล้วก็ทุกคนคงจะไปรอเราสองคนอยู่ที่งานเลี้ยงแล้ว น้องกรรฐ์ว่าเราไปกันเถอะครับเฮีย”กรรฐ์เอ่ยชวนเกรย์ที่พยักหน้ารับคำพูดของน้องชายก่อน
ปึก ปึก ปึกคนบ้าปล่อยเพลงเดี๋ยวนี้นะเพลงบอกให้ปล่อย”เพลงพิณพยายามทุบหลังเกรย์อย่างแรงเพื่อให้เขายอมปล่อยเธอแต่แรงอันน้อยนิดเท่ากับมดของเธอไม่ได้ทำให้ร่างสูงรู้สึกสะเทือนเลยแม้แต่น้อย เขายังคงแบกเพลงพิณเดินมาที่ลิฟต์ท่ามกลางสายตาของแขกที่มาพักในโรงแรมแต่เกรย์กลับไม่ได้สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้นเพราะตอนนี้คนที่เขาสนใจมีเพียงคนเดียวเท่านั้นคือผู้หญิงที่เขารักมากอย่างเพลงพิณ“คนโกหก คนหลอกลวง ปล่อยเพลงลงเดี๋ยวนี้นะ”เพลงพิณยังคงร้องโวยวายไม่หยุดเมื่อเกรย์ไม่สนใจที่จะปล่อยเธอลงตามที่เธอร้องขอเลยสักนิดจนกระทั่งเขาเดินมาถึงลิฟต์และยืนรอด้วยท่าทีที่มองภายนอกอาจจะดูเหมือนว่าเขากำลังใจเย็น แต่แท้ที่จริงแล้วเขากำลังสะกดกลั้นอารมณ์โมโหคนที่เอาแต่ด่าว่าเขาโกหกหลอกลวงอยู่ต่างหากตุ๊บปึกเมื่อเข้ามาในลิฟต์เพลงพิณก็ถูกปล่อยให้เป็นอิสระซึ่งเธอไม่รอช้าที่พยายามจะวิ่งออกไปจากลิฟต์แต่เกรย์กลับกระชากเธอให้กลับเข้ามาและกักเธอไว้ภายใต้อ้อมแขนของเขา ทำเอาเพลงพิณถึงกับใจสั่นเมื่อใบหน้าของเธอและเขาห่างกันเพียงแค่คืบ ลมหายใจที่ร้อนผ่าวของเกรย์เป่ารินรดแก้มเนียนของเพลงพิณจนแก้มของเธอค่อยๆขึ้นสีแดงระเรื่อเมื่อ
“พี่เกรย์ท้าเพลงเหรอคะ”ความนัยที่ซ่อนอยู่ในแววตาของเกรย์ทำให้เพลงพิณถามขึ้นมาด้วยความอยากรู้แต่คนเจ้าเล่ห์กลับส่ายหน้าไปมาช้าๆพร้อมกับตีหน้าซื่อไม่รู้ไม่ชี้ซึ่งแตกต่างจากสายตาที่มองเธออย่างท้าทายโดยสิ้นเชิง“เฮียไม่ได้ท้าน้องเพลงเลยสักนิด เฮียแค่อยากให้น้องเพลงง้อเฮียแบบฟินๆแค่นั้นเองค่ะ”“นี่เฮียนึกว่าเพลงไม่กล้าเหรอคะ”“แล้วน้องเพลงกล้าปะล่ะ”ครั้งนี้เกรย์สวนคำพูดของเพลงพิณออกไปอย่างท้าทายโดยที่ไม่พยายามปิดบังอีกต่อไปทำให้เพลงพิณได้แต่กระตุกยิ้มมุมปากน้อยๆ ตั้งแต่เกิดมาเพลงพิณเกลียดการที่ถูกท้าทายมากที่สุดแล้ววันนี้เกรย์กลับท้าเธอให้ง้อเขาแบบฟินๆ หึ รู้จักเพลงพิณคนนี้น้อยไปเสียแล้วแควก แควก แควกเพลงพิณไม่ตอบคำถามของเกรย์แต่เธอกลับกระชากเสื้อสูทของเขาถอดออกซึ่งเกรย์ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีโดยไม่มีท่าทีขัดขืนเลยสักนิด ซึ่งพอเหลือเพียงเสื้อเชิ้ตตัวเดียวเพลงพิณก็กระชากเสื้อของเกรย์จนมันขาดวิ่นติดมือของเธอมา โดยที่เธอไม่สนเลยสักนิดว่าเสื้อของเขาจะราคาแพงแค่ไหนเธอสนเพียงอย่างเดียวในตอนนี้คือการเอาชนะคำท้าทายของเขาให้ได้“รุนแรงจังเลยนะคะ รุนแรงซะจนเสื้อของเฮียขาดหมดเลย”เกรย์มิวายเอ