ประเทศไทยร่างสูงของใครบางคนจ้องมองเจดีย์ที่ถูกตั้งเคียงคู่กันด้วยแววตาที่หม่นเศร้าสองมือค่อยๆยกขึ้นลูบรูปภาพที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของคุณทวดทั้งสองที่ออกเดินทางไปไกลแสนไกล ซึ่งเป็นการเดินทางที่กรรฐ์ไม่สามารถที่จะเดินทางไปหาคนทั้งคู่ได้เลย ภาพเหตุการณ์ในวันวานพลันย้อนเข้ามาในหัวเมื่อครั้งที่บิดาพาเขากับพี่ชายฝาแฝดไปฝากให้คุณทวดทั้งสองช่วยเลี้ยง“เป็นลูกผู้ชายต้องเข้มแข็งต่อให้เจ็บแค่ไหนก็ห้ามมีน้ำตารู้ไหมครับน้องกรรฐ์”“น้องกรรฐ์รู้แล้วครับคุณทวด โตขึ้นน้องกรรฐ์จะเข้มแข็งเหมือนคุณทวดกฤษฎิ์อ่อนโยนเหมือนคุณทวดที่รักและรักเดียวใจเดียวเหมือนคุณปู่ครับ”เด็กชายกวีวัธน์บอกคุณทวดด้วยรอยยิ้มในขณะที่กฤษฎิ์มองเหลนชายคนเล็กด้วยความเอ็นดูมือที่เหี่ยวย่นไปตามวัยและกาลเวลายกขึ้นลูบศีรษะของเหลนน้อยเบาๆด้วยความรักใคร่สุดหัวใจ“ดีมากครับเหลนน้อยของปู่ กับคนรักน้องกรรฐ์ต้องอ่อนโยนและรักเขาให้มากๆนะครับ ทะนุถนอมเขาและดูแลปกป้องเขาให้ดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้”เขาในวันนั้นพยักหน้ารับคำพูดของคุณทวดด้วยรอยยิ้มโดยที่ไม่รู้เลยว่าหลังจากวันนั้นเพียงไม่กี่วันคุณทวดที่แสนใจดีของเขาก็จากไปอย่างไม่มีวันกลั
สายลมยามค่ำคืนพัดผ่านร่างสูงของกรรฐ์ที่ยืนมองแสงไฟหลากสีของเมืองกรุงด้วยความรู้สึกสดชื่นที่ได้กลับมาเยือนประเทศบ้านเกิดเสียทีหลังจากที่เขาจากไปตั้งแต่ยังเล็ก กรรฐ์กางแขนออกกว้างเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอดอีกครั้งก่อนที่เขาจะกลับเข้าไปด้านในเมื่อเริ่มรู้สึกง่วงขึ้นมาบ้างแล้วหลังจากที่ร่างกายยังปรับตัวให้เข้ากับเวลาของเมืองไทยไม่ได้แสงสว่างที่ลอดออกมาจากห้องทำงานของพี่ชายทำให้กรรฐ์ที่กำลังจะเดินกลับไปที่ห้องนอนถึงกับชะงักเท้าก่อนที่เขาจะเปลี่ยนเส้นทางจากห้องนอนของตัวเองมาเป็นห้องทำงานของพี่ชายแทน ร่างสูงที่ฟุบหลับคาโต๊ะทำงานด้วยใบหน้าที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเหนื่อยล้าทำให้กรรฐ์ถึงกับส่ายหน้าไปมาน้อยๆด้วยความเป็นห่วงก่อนที่เขาจะตัดสินใจเดินออกไปหยิบผ้าห่มผืนเล็กมาห่มให้พี่ชายเพราะอากาศค่อนข้างเย็นอาจจะทำให้เกรย์ไม่สบายได้ถึงพี่ชายของเขาจะเป็นนายแพทย์ที่ใครๆต่างก็ยอมรับในความสามารถแต่ในเรื่องของการดูแลสุขภาพตัวเองนั้นพี่ชายของเขาไม่ค่อยจะใส่ใจตัวเองสักเท่าไหร่“ถ้าพรุ่งนี้ป่วยก็ให้คนของใจมาคอยดูแลก็แล้วกันนะเฮีย”กรรฐ์พึมพำเสียงเบาก่อนที่เขาจะเดินออกมาจากห้องทำงานของพี่ชายเพื่อกลั
คฤหาสน์พิสิฐกุลวัตรดิลกห้องครัว“ช้องนาง ขอน้ำใบเตยให้ย่าแก้มที”แก้มใสที่กำลังนวดแป้งเพื่อทำขนมเปียกปูนกะทิสดร้องขอน้ำใบเตยคั้นสดจากช้องนางเด็กรับใช้ในบ้านที่คอยเป็นลูกมือช่วยแก้มใสทำขนมก่อนที่เหยือกน้ำใบเตยจะถูกยื่นมาให้แก้มใสที่กำลังนวดแป้งด้วยความตั้งใจ มือที่เหี่ยวย่นตามวัยค่อยๆยื่นไปหยิบเหยือกน้ำใบเตยจากสาวใช้โดยที่ไม่ได้หันหน้ากลับไปมองด้านหลังเลยสักนิด“อย่าใส่เยอะนะครับ เดี๋ยวคนกินจะเมาน้ำใบเตยเพราะย่าแก้มมือหนัก”มือที่กำลังเทน้ำใบเตยลงบนแป้งถึงกับชะงักไปเมื่อน้ำเสียงที่แสนคุ้นเคยที่เธอไม่ได้ยินมานานนับหลายปีดังอยู่ข้างๆหู ก่อนที่แก้มใสจะค่อยๆวางเหยือกน้ำลงบนโต๊ะด้วยมือที่สั่นเทาและหันกลับมามองร่างสูงที่ยืนส่งยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน“เจ้ากรรฐ์ของย่า”สองมือที่เต็มไปด้วยคราบแป้งคว้าหมับเข้าที่ใบหน้าหล่อเหลาของหลานชายพร้อมทั้งลูบไปมาด้วยความคิดถึงโดยที่ลืมไปว่ามือของตัวเองนั้นเลอะไปด้วยแป้งรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ใบหน้าของกรรฐ์เต็มไปด้วยคราบสีขาวจนแทบดูไม่ได้“ย่าแก้มคงคิดถึงกรรฐ์มากเลยนะครับ ลูบซะจนน้องกรรฐ์คิดว่าคุณย่ากำลังปะแป้งขอหวยน้องกรรฐ์อยู่”คำพูดติดตลกของกวีวัธน์ทำให้แก้ม
เกรย์มองข้อความที่ถูกส่งไปแต่ไม่มีการเปิดอ่านด้วยความสงสัยคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันจนแทบผูกโบว์เมื่อเพลงพิณไม่อ่านข้อความของเขามาสองวันแล้ว ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เวลาที่เขาส่งข้อความไปหาเธอยังไม่ถึงหนึ่งนาทีด้วยซ้ำเพลงพิณจะรีบเปิดอ่านและตอบกลับมาอย่างรวดเร็วแต่ครั้งนี้กลับหายเงียบไปจนเขารู้สึกไม่สบายใจหรือเธอจะโกรธที่เขาไม่มีเวลาให้กันนะเกรย์ได้แต่คิดไปเองถึงเหตุผลที่เพลงพิณขาดการติดต่อกับเขาไปด้วยเหตุผลไร้สาระต่างๆนาๆโดยที่ไม่รู้เลยว่าตัวต้นเหตุที่ทำให้เพลงพิณเงียบหายไปคือน้องชายสุดที่รักของเขาเอง ที่ตอนนี้กำลังเดินเที่ยวเล่นตากแอร์อยู่ในห้างของคุณปู่กายกับสาวข้างกายที่รู้จักกันโดยบังเอิญอย่างมีความสุข“นายครับ โรงพยาบาลสาขาจีนเกิดปัญหาครับ”คำพูดของคีนทำให้เกรย์ที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ถึงกับได้สติก่อนที่เขาจะยื่นมือไปรับไอแพดจากคีนมาดูรายงานที่ทางสาขาจีนส่งมาให้ด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด เพราะที่นั่นเกิดปัญหาภายในองค์กรมายาวนานโดยเฉพาะบอร์ดบริหารที่ไม่สามารตกลงกันได้ถึงแม้ว่าเขาจะส่งคนไปเจรจาไกล่เกลี่ยแล้วก็ตาม“โทรไปแจ้งเบทริคให้เตรียมเครื่องให้พร้อม เราจะออกเดินทางไปจีนให้เร็วที่สุด”น้ำ
ประเทศจีนภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ริมสระว่ายน้ำเกรย์กำลังนั่งจิบไวน์เพื่อผ่อนคลายจากอาการเหมื่อยล้าหลังจากที่เขามาถึงประเทศจีนปัญหาต่างๆก็พากันวิ่งเข้ามาหาเขาอย่างไม่ทันตั้งตัวทั้งๆที่คิดว่าตั้งรับมาดีแล้ว จากที่คิดว่าปัญหาคงไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิดและเขาสามารถแก้ปัญหาให้เสร็จเรียบร้อยได้ภายในไม่กี่วันกลับกลายเป็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นใช้เวลาถึงหนึ่งอาทิตย์เต็มๆเขาจึงสามารถจัดการทุกอย่างให้จบลงได้ในขณะที่กำลังนั่งปล่อยใจไปกับสายลมที่พัดพากลิ่นหอมของดอกไม้ผ่านมาให้รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายเสียงสั่นของโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะก็ดังขึ้น จนเกรย์ถึงกับต้องรีบเอื้อมมือไปรับด้วยความรวดเร็วเพราะคนที่โทรมาเวลานี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น แม่เจ้าขาเกรย์ : ครับแม่เจ้าขา :น้องเกรย์กลับไทยวันไหนคะลูกรักเกรย์ : พรุ่งนี้ครับแม่ น้องเกรย์เพิ่งเคลียร์งานเสร็จวันนี้ครับเจ้าขา :เหนื่อยมากไหมคะคนดี ลูกชายของแม่ทำงานหนักทั้งอาทิตย์เลยน้ำเสียงอ่อนโยนเอ่ยถามลูกชายสุดที่รักด้วยความห่วงใยเพราะเจ้าขารู้มาว่าตั้งแต่ที่ลูกชายของเธอเดินทางไปถึงประเทศจีนเขาก็เริ่มทำงานตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ยังไม่ได้พักเลย เกรย์
กรรฐ์ค่อยๆพันแผลให้พี่ชายด้วยความอ่อนโยนถึงแม้จะรู้ว่าแผลแค่นี้นั้นไกลหัวใจพี่ชายมากแค่ไหนก็ตามแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็พยายามทำแผลให้พี่ชายอย่างเบามือที่สุด ส่วนเกรย์ได้แต่มองแผลที่มืออย่างไม่ใส่ใจนักยิ่งเห็นน้องชายทำแผลให้เขาอย่างเบามือก็ได้แต่อมยิ้มด้วยความเอ็นดู“รักที่ดีคือการรักตัวเองนะครับ ไม่ใช่ทำร้ายตัวเอง” คำพูดของน้องชายฝาแฝดทำให้รอยยิ้มของเกรย์ค่อยๆหายไปก่อนที่เกรย์จะยิ้มออกมาอย่างเศร้าๆเมื่อคิดไปถึงสาเหตุที่ทำให้เขาโมโหจนบีบแก้วไวน์แตกคามือ“กรรฐ์พูดเรื่องอะไรเฮียไม่เห็นจะเข้าใจ”เกรย์แสร้งตีหน้าซื่อกลบเกลื่อนความเจ็บปวดภายในใจเมื่อกรรฐ์เงยหน้าขึ้นมาสบตาพี่ชายหลังจากที่พันแผลให้เกรย์เสร็จเรียบร้อยแล้ว รอยยิ้มเจ้าเล่ห์พลันผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาของกรรฐ์เมื่อเขารู้ทันความรู้สึกภายใต้ใบหน้าที่แสนซื่อของพี่ชายว่าตอนนี้เกรย์กำลังรู้สึกอย่างไรอยู่“รู้ดีอยู่แก่ใจยังมาบอกว่าไม่เข้าใจ แต่ก็นะช่างมันเถอะครับนี่ก็ใกล้จะถึงเวลาเปิดงานแล้ว พ่อทัพกับแม่เจ้าขาแล้วก็ทุกคนคงจะไปรอเราสองคนอยู่ที่งานเลี้ยงแล้ว น้องกรรฐ์ว่าเราไปกันเถอะครับเฮีย”กรรฐ์เอ่ยชวนเกรย์ที่พยักหน้ารับคำพูดของน้องชายก่อน
ปึก ปึก ปึกคนบ้าปล่อยเพลงเดี๋ยวนี้นะเพลงบอกให้ปล่อย”เพลงพิณพยายามทุบหลังเกรย์อย่างแรงเพื่อให้เขายอมปล่อยเธอแต่แรงอันน้อยนิดเท่ากับมดของเธอไม่ได้ทำให้ร่างสูงรู้สึกสะเทือนเลยแม้แต่น้อย เขายังคงแบกเพลงพิณเดินมาที่ลิฟต์ท่ามกลางสายตาของแขกที่มาพักในโรงแรมแต่เกรย์กลับไม่ได้สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้นเพราะตอนนี้คนที่เขาสนใจมีเพียงคนเดียวเท่านั้นคือผู้หญิงที่เขารักมากอย่างเพลงพิณ“คนโกหก คนหลอกลวง ปล่อยเพลงลงเดี๋ยวนี้นะ”เพลงพิณยังคงร้องโวยวายไม่หยุดเมื่อเกรย์ไม่สนใจที่จะปล่อยเธอลงตามที่เธอร้องขอเลยสักนิดจนกระทั่งเขาเดินมาถึงลิฟต์และยืนรอด้วยท่าทีที่มองภายนอกอาจจะดูเหมือนว่าเขากำลังใจเย็น แต่แท้ที่จริงแล้วเขากำลังสะกดกลั้นอารมณ์โมโหคนที่เอาแต่ด่าว่าเขาโกหกหลอกลวงอยู่ต่างหากตุ๊บปึกเมื่อเข้ามาในลิฟต์เพลงพิณก็ถูกปล่อยให้เป็นอิสระซึ่งเธอไม่รอช้าที่พยายามจะวิ่งออกไปจากลิฟต์แต่เกรย์กลับกระชากเธอให้กลับเข้ามาและกักเธอไว้ภายใต้อ้อมแขนของเขา ทำเอาเพลงพิณถึงกับใจสั่นเมื่อใบหน้าของเธอและเขาห่างกันเพียงแค่คืบ ลมหายใจที่ร้อนผ่าวของเกรย์เป่ารินรดแก้มเนียนของเพลงพิณจนแก้มของเธอค่อยๆขึ้นสีแดงระเรื่อเมื่อ
“พี่เกรย์ท้าเพลงเหรอคะ”ความนัยที่ซ่อนอยู่ในแววตาของเกรย์ทำให้เพลงพิณถามขึ้นมาด้วยความอยากรู้แต่คนเจ้าเล่ห์กลับส่ายหน้าไปมาช้าๆพร้อมกับตีหน้าซื่อไม่รู้ไม่ชี้ซึ่งแตกต่างจากสายตาที่มองเธออย่างท้าทายโดยสิ้นเชิง“เฮียไม่ได้ท้าน้องเพลงเลยสักนิด เฮียแค่อยากให้น้องเพลงง้อเฮียแบบฟินๆแค่นั้นเองค่ะ”“นี่เฮียนึกว่าเพลงไม่กล้าเหรอคะ”“แล้วน้องเพลงกล้าปะล่ะ”ครั้งนี้เกรย์สวนคำพูดของเพลงพิณออกไปอย่างท้าทายโดยที่ไม่พยายามปิดบังอีกต่อไปทำให้เพลงพิณได้แต่กระตุกยิ้มมุมปากน้อยๆ ตั้งแต่เกิดมาเพลงพิณเกลียดการที่ถูกท้าทายมากที่สุดแล้ววันนี้เกรย์กลับท้าเธอให้ง้อเขาแบบฟินๆ หึ รู้จักเพลงพิณคนนี้น้อยไปเสียแล้วแควก แควก แควกเพลงพิณไม่ตอบคำถามของเกรย์แต่เธอกลับกระชากเสื้อสูทของเขาถอดออกซึ่งเกรย์ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีโดยไม่มีท่าทีขัดขืนเลยสักนิด ซึ่งพอเหลือเพียงเสื้อเชิ้ตตัวเดียวเพลงพิณก็กระชากเสื้อของเกรย์จนมันขาดวิ่นติดมือของเธอมา โดยที่เธอไม่สนเลยสักนิดว่าเสื้อของเขาจะราคาแพงแค่ไหนเธอสนเพียงอย่างเดียวในตอนนี้คือการเอาชนะคำท้าทายของเขาให้ได้“รุนแรงจังเลยนะคะ รุนแรงซะจนเสื้อของเฮียขาดหมดเลย”เกรย์มิวายเอ
5 ปีผ่านไปร่างของเด็กชายตัวเล็กที่กำลังเดินตรงมาที่ร้านไอศกรีมกะทิข้างโรงเรียนอนุบาลเอกชนชื่อดังทำให้ปริญญ์ที่กำลังยืนรอไอศกรีมอยู่ถึงกับหลุดยิ้มออกมาน้อยๆด้วยความเอ็นดู เพราะเด็กชายตัวน้อยไม่ได้มาเพียงคนเดียวเท่านั้นแต่ข้างกายของเขายังมีเพื่อนๆที่เดินมาด้วยกันถึงห้าคนเสียงหัวเราะด้วยความสดใสของเด็กน้อยอนุบาลที่มีทั้งชายและหญิงทำให้มาเฟียหนุ่มที่แวะมาซื้อไอศกรีมร้านประจำที่เขาเคยกินมาตั้งแต่เด็กรู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก ใบหน้าเล็กที่โดดเด่นท่ามกลางกลุ่มเพื่อนทำให้ปริญญ์เผลอจ้องมองจนเด็กน้อยรู้สึกได้ดวงตากลมโตสดใสจึงเงยหน้าขึ้นสบสายตากับเจ้าพ่อมาเฟียใหญ่ด้วยความใสซื่อพร้อมกับเท้าที่หยุดลงที่ร้านไอศกรีม“ทุกคนอยากกินอะไรสั่งได้เลยนะวันนี้พอร์ชเลี้ยงเอง”คำพูดของเด็กชายตัวน้อยทำให้ปริญญ์ถึงกับหูผึ่งทันทีอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าเด็กตัวแค่นี้จะมีเงินมากพอที่จะเลี้ยงไอศกรีมเพื่อนๆที่ต่างชี้ไปที่ไอศกรีมแบบถ้วยที่ราคาถ้วยล่ะยี่สิบบาท เด็กมีทั้งหมดหกคนก็เท่ากับว่าเด็กชายตัวน้อยที่น่าจะเป็นหัวหน้าแก๊งจะต้องจ่ายเงินถึงหนึ่งร้อยบาทเพื่อเลี้ยงไอศกรีมเพื่อนๆ“วันนี้พ่อกับแม่ให้เงินมาเท่าไหร่ถึงจ
วันหยุดสุดสัปดาห์เพลงพิณตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นก่อนที่ร่างอวบอิ่มที่กำลังตั้งครรภ์ได้แปดเดือนเศษจะเดินลงมาจากชั้นล่างเพื่อมองหาสามีที่ตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าและไม่รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน เพราะปกติแล้วเกรย์จะอยู่ในห้องรอจนกว่าเธอจะตื่นขึ้นมาและลงมาข้างล่างพร้อมกันเสมอแต่วันนี้ในห้องนอนใหญ่กลับไร้เงาของสามีสุดที่รักดวงตากลมโตของคุณแม่กวาดมองไปรอบๆคฤหาสน์หลังใหญ่ก่อนที่เธอจะเดินมาเรื่อยๆจนถึงห้องครัวสองเท้าที่กำลังจะเดินผ่านไปถึงกับหยุดชะงักอยู่กับที่ เมื่อแผ่นหลังที่คุ้นเคยของใครบางคนกำลังยืนอยู่หน้าเตาแก๊สพร้อมกับฮัมเพลงเบาๆอย่างมีความสุขเพลงพิณไม่รอช้าที่จะเดินเข้าไปกอดแผ่นหลังกว้างเอาไว้ทันทีด้วยความรักหมับ“แอบลงมาอยู่ที่ห้องครัวนี่เองเพลงเดินหาจนทั่วแหนะ”เสียงหวานเอ่ยขึ้นด้วยความสดใสก่อนที่เกรย์จะค่อยๆหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับภรรยาที่ท้องโตใกล้คลอดพร้อมกับก้มลงจูบหน้าผากมนอย่างแสนรักมือก็ยกขึ้นมาจับจมูกของภรรยาบีบไปมาเบาๆด้วยความเอ็นดูที่เธอลงมาตามหาเขา“วันหยุดทั้งทีเฮียก็อยากเข้าครัวทำมื้อเช้าให้เพลงด้วยตัวเองก็เลยรีบตื่นแต่เช้า วันนี้มีแกงจืดตำลึง แกงเลียง ผัดผักรวม ไข่ตุ๋น
ตั้งแต่กลับมาจากโรงพยาบาลรอยยิ้มก็ไม่เคยจางหายไปจากใบหน้าสวยหวานของเพลงพิณเลยแม้แต่น้อยเธอยังคงยิ้มอย่างมีความสุขพร้อมกับลูบหน้าท้องที่แบนราบด้วยความรู้สึกที่ตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อร่างกายของเธอในตอนนี้ไม่ได้มีเพียงเธอที่เป็นเจ้าของอีกต่อไปแล้วเด็กน้อยที่เธอกำลังคิดจินตนาการไปถึงหน้าตาว่าเขาจะหน้าเหมือนแม่แบบเธอหรือหน้าตาดีเหมือนพ่อคือเจ้าของคนใหม่ที่เธอจะต้องดูแลสุขภาพของตัวเองให้แข็งแรงเพื่อเขา คนที่เธอไม่เคยเห็นหน้าแต่กลับรู้สึกหลงรักอย่างหมดใจตั้งแต่ที่ได้ยินคุณหมอบอกว่าเธอกำลังตั้งครรภ์สายใยความรักระหว่างแม่กับลูกมันเป็นแบบนี้เองสินะ รักทั้งๆที่ยังไม่เคยเห็นหน้าเมื่อคิดมาถึงตรงนี้เพลงพิณก็ยกมือขึ้นมาลูบที่หน้าท้องอีกครั้งพร้อมกับหัวเราะออกมาด้วยความสดใส“พวกกูล่ะดีใจกับมึงมากจริงๆในที่สุดวันที่มึงรอคอยก็มาถึงสักที”เอวาที่นั่งมองรอยยิ้มของเพื่อนอยู่นานสองนานเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกมีความสุขไปกับเพลงพิณด้วยเพราะต่อจากนี้ไปครอบครัวของเพื่อนรักก็จะสมบูรณ์มากขึ้นเมื่อมีลูกน้อยเข้ามาเติมเต็ม“กูต้องขอบใจมึงทั้งสองคนมากๆเลยนะที่มาเยี่ยมและพากูส่งโรงพยาบาลจนทำให้ได้รับข่าวดีที่สุดในชีว
เช้าวันหนึ่ง“อุ๊ป”เพลงพิณลืมตาตื่นขึ้นจากความรู้สึกง่วงทันทีเมื่อความรู้สึกพะอืดพะอมอยากจะอาเจียนชวนให้เธอรีบผุดลุกขึ้นจากเตียงนอนนุ่มแล้วรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำทั้งๆที่อยู่ในอาการสะลึมสะลือแต่เพลงพิณก็พาตัวเองเข้ามาโก่งคออาเจียนที่ชักโครกในห้องน้ำจนได้“อ้วก แหวะ”เป็นการอาเจียนที่ไม่มีสิ่งใดออกมานอกจากน้ำเหนียวขมฝืดที่ลำคอจนทำให้เพลงพิณรู้สึกพะอืดพะอมมากกว่าเดิม ใบหน้าเนียนสวยที่ไร้เครื่องสำอางในยามนี้แดงก่ำเพราะแรงอาเจียนที่ไม่มีสิ่งใดเล็ดรอดออกมาจากลำคอเลยแม้แต่น้อยนอกจากน้ำใสๆ ก่อนที่เธอจะฟุบใบหน้าลงบนฝาชักโครกด้วยความเหนื่อยอ่อนเมื่อนิทราที่แสนหวานถูกปลุกขึ้นมาด้วยความผิดปกติของร่างกายที่เธอไม่รู้เช่นกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอในตอนนี้เพลงพิณค่อยๆพยุงร่างกายที่เต็มไปด้วยความอ่อนเพลียของตนเองให้ลุกขึ้นยืนก่อนที่เธอจะบ้วนปากเพื่อทำความสะอาดคราบอาเจียน จนกระทั่งเสร็จเรียบร้อยดีแล้วเธอก็พาตัวเองออกมาจากห้องน้ำด้วยความรู้สึกเวียนหัวจนแทบจะเดินไปไม่ถึงเตียงนอนใหญ่ด้วยซ้ำ“เอวานัดกินข้าววันนี้ขอยกเลิกไปก่อนได้ไหมวะกูรู้สึกเวียนหัวยังไงไม่รู้”เมื่อเหลือบไปเห็นเข็มนาฬิกาบนผนังห้องหมุนวนไปจน
ความรักของเพลงพิณและเกรย์เต็มไปด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกันตลอดเวลาเกือบหนึ่งปีที่ทั้งคู่แต่งงานและใช้ชีวิตร่วมกันมาน้อยนักที่ทั้งสองคนจะมีเรื่องให้ต้องทะเลาะหรือผิดใจกัน เพราะเพลงพิณกับเกรย์ต่างเอาใจใส่ซึ่งกันและกันและคอยคิดถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายเสมอมีสุขร่วมเสพมีทุกข์ร่วมแบ่งปันคำสอนของคุณย่าแก้มใสทั้งคู่นั้นปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอเพลงพิณรู้ว่าสามีของเธอนั้นงานยุ่งมากในแต่ละวันซึ่งเธอก็เข้าใจและไม่เคยรู้สึกน้อยใจหรือเรียกร้องให้เขามีเวลาให้เธอเลยแม้แต่น้อย เพราะวันไหนที่เกรย์ว่างเขาก็มักจะชวนเธอไปออกเดทเหมือนตอนที่คบกันใหม่ๆซึ่งเพียงแค่นั้นก็เป็นการเติมเต็มความรู้สึกให้เพลงพิณรู้สึกอบอุ่นหัวใจมากพอแล้ว“เฮ้อ กูคิดว่าเฮียเกรย์จะบินกลับมาทันวันงานรับปริญญาของมึงซะอีกที่ไหนได้กลับติดงานยาวจนถึงอาทิตย์หน้าเลย”เจ้าเอยบ่นขึ้นด้วยความรู้สึกน้อยใจระคนสงสารเพลงพิณที่ในวันนี้ที่พวกเธอประสบความสำเร็จทางการศึกษาแต่ข้างกายของเพื่อนสาวกลับไร้เงาของสามีสุดที่รัก ส่วนเพลงพิณเมื่อได้ยินคำบ่นของเพื่อนเธอก็ทำเพียงยิ้มน้อยๆเท่านั้น เพราะเธอไม่ได้รู้สึกน้อยใจสามีเลยแม้แต่น้อยที่เขาไม่ได้อยู่เคียงข้างเธอใ
หลังจากที่แต่งงานกับเกรย์ได้หนึ่งเดือนเพลงพิณก็ทำหน้าที่ภรรยาได้อย่างดีไม่มีขาดตกบกพร่องซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมเธอจึงมีเวลาไปเรียนทำอาหารกับพ่อสามีอย่างกองทัพ ที่ยอมเสียสละเวลามาสอนลูกสะใภ้ทำอาหารซึ่งเมนูส่วนใหญ่ที่กองทัพสอนให้เพลงพิณทำล้วนเป็นเมนูของโปรดของเกรย์ทั้งนั้น“วันนี้เดี๋ยวทำมื้อเที่ยงเสร็จเรียบร้อยแล้วก็แวะเอาไปให้พี่เกรย์ที่โรงพยาบาลเลยนะหนูเพลง”เจ้าขาที่มาเป็นลูกมือช่วยเพลงพิณเตรียมเครื่องปรุงสำหรับเมนูมื้อเที่ยงวันนี้ซึ่งได้แก่เมนู ปูผัดผงกะหรี่ ต้มโคล้งปลาเนื้ออ่อน ซุปไก่มันฝรั่ง ซี่โครงหมูตุ๋นน้ำผึ้ง กุ้งผัดพริกเกลือ เอ่ยบอกลูกสะใภ้ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนทำให้เพลงพิณที่กำลังปรุงรสอาหารตามที่กองทัพบอกรีบหันมาขานรับคำเจ้าขาทันที“รับทราบค่ะคุณแม่”เพลงพิณตอบกลับแม่สามีด้วยรอยยิ้มก่อนที่เธอจะปรุงรสชาติอาหารด้วยความคล่องแคล่วจนกระทั่งเมนูต้มโคล้งปลาเนื้ออ่อนของเธอเสร็จเรียบร้อยส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วทั้งครัว ทำเอาอาจารย์กิตติมศักดิ์ที่ยืนอยู่ข้างๆลูกสะใภ้ถึงกับยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจที่เสน่ห์ปลายจวักของเพลงพิณนั้นพัฒนาขึ้นมาก“กะปริมาณเครื่องปรุงได้พอดีและปรุงรสชาติได้ก
“เหนื่อยไหมคะ”เกรย์เอ่ยถามเพลงพิณด้วยความเป็นห่วงเพราะพิธีการตั้งแต่ช่วงเช้ามาจนถึงช่วงเย็นนั้นมีเยอะมากซึ่งแม้แต่ตัวเขาเองก็แทบจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามีขั้นตอนใดบ้าง เมื่อได้ยินคำถามที่เต็มไปด้วยความห่วงใยจากสามีเพลงพิณก็รู้สึกซาบซึ้งใจไม่น้อยที่เขานึกห่วงเธอทั้งๆที่ตัวเขาเองก็เหน็ดเหนื่อยไม่แพ้กัน เมื่อคิดได้ดังนั้นใบหน้าสวยหวานละมุนก็ส่ายหน้าไปมาช้าๆก่อนที่เพลงพิณจะขยับเข้าไปใกล้ๆเขาและเอนใบหน้าซบลงบนอกแกร่งของเกรย์อย่างรักใคร่“ไม่เหนื่อยเลยสักนิดค่ะเพราะวันนี้เป็นวันแต่งงานของเราสองคนเพลงดีใจมากจนไม่รู้สึกเหนื่อยเลยสักนิด”คำหวานของเพลงพิณทำให้เกรย์ยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจก่อนที่เขาจะค่อยๆดึงเพลงพิณที่กำลังซบใบหน้าอยู่บนอกแกร่งให้เธอเงยหน้าขึ้นมาสบแววตาที่หวานล้ำเต็มไปด้วยความเสน่หาในตัวเธอของเขา“เฮียก็ตื่นเต้นจนไม่รู้สึกเหนื่อยเหมือนกันค่ะให้แต่งงานกับเพลงใหม่อีกสิบรอบยังก็ยังไหว”คำพูดของสามีหมาดๆทำให้เพลงพิณถึงกับหลุดขำพรืดออกมาก่อนที่เธอจะยกมือขึ้นโอบรอบคอของเกรย์เอาไว้หลวมๆพร้อมกับขยับเข้าไปแนบชิดกับเกรย์มากยิ่งขึ้นอย่างต้องยั่วยวนสามีที่ตอนนี้กำลังมองดวงหน้างามของภรรยาตัวน้อยด
“Stop Stop พอแล้วเหนื่อยแล้วไม่ไหวแล้วครับ”คนที่เต้นจนเหนื่อยหอบกว่าใครขึ้นยกมือขึ้นห้ามพี่ชายฝาแฝดกับพี่เขยที่ตอนแรกยังเต้นด้วยท่าทางแปลกๆแต่ดูเหมือนตอนนี้ทั้งสองคนจะพัฒนาขึ้นท่าเต้นจึงดูสมูทชวนให้สาวๆที่อยู่ด้านหลังจ้องมองด้วยความแววตาเคลิบเคลิ้ม ซึ่งพอน้องชายคนเล็กบอกแบบนั้นออกมาเกรย์กับพันไมล์ก็หยุดการเคลื่อนไหวทันทีก่อนที่เขาจะรับขวดน้ำจากลูกน้องมาดื่มแก้กระหายด้วยความเหน็ดเหนื่อยไม่ต่างกับน้องชาย“หึ เต้นแค่นี้ทำเป็นเหนื่อยทีออกแรงทำเรื่องอื่นนี่ยันหว่าง”หลังจากที่ดื่มน้ำแก้กระหายเรียบร้อยแล้วพันไมล์ก็อดไม่ได้ที่จะค่อนแขะน้องเมียที่หันมามองพันไมล์ตาเขียวปั๊ดด้วยความหมั่นไส้แต่สุดท้ายแล้วกรรฐ์ก็ยักไหล่น้อยๆอย่างไม่แยแสและยื่นซองแดงให้เจ้าเอยกับเอวาที่พากันยิ้มหวานรับซองด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ“เจ้าเอยกับเอวาต้องขอบคุณเฮียเกรย์มากนะคะที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ถ้าเพลงได้เห็นคลิปนี้และรู้ว่าเฮียพยายามทำเพื่อเพลงมากแค่ไหนเพลงต้องดีใจมากแน่นอนค่ะ”เจ้าเอยเอ่ยขอบคุณเกรย์จากใจจริงก่อนที่เธอกับเอวาจะยอมหลีกทางให้ว่าที่เจ้าบ่าวเดินผ่านไปสู่ประตูเงินประตูทองด่านที่สองซึ่งด่านนี้เป็นห
คืนก่อนวันแต่งงานเพลงพิณเงยหน้าขึ้นมองแสงจันทร์นวลผ่องที่สาดส่องมายังระเบียงห้องนอนของเธอด้วยรอยยิ้มในยามนี้เธอมีความสุขจนแทบไม่สามารถที่จะหุบยิ้มได้เลยแม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาที่เธอต้องรีบเข้านอนแล้วก็ตาม ภาพความทรงจำตั้งแต่วันแรกที่เธอได้พบกับเกรย์ผู้ชายที่เธอเลือกจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ไปกับเขาจนแก่เฒ่าค่อยๆผุดขึ้นมาในหัวทีละน้อยใบหน้าหล่อเหลาแต่ทว่าเย็นชาเวลาที่เขาแย้มยิ้มช่างมีเสน่ห์ชวนมองจนทำให้เพลงพิณไม่อาจที่จะละสายตาไปจากเขาได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว คำพูดที่ได้ยินในครั้งแรกดูแข็งกระด้างจนเธอมองว่าเขาช่างเป็นคนหยาบคายเสียจริงแต่เมื่อเธอได้รู้จักเขาอย่างจริงๆจังๆนานวันเข้าคำพูดของเขากลับค่อยๆอ่อนโยนขึ้นคล้ายไม่รู้ตัวแต่เพลงพิณกลับชื่นชอบน้ำเสียงที่แสนอบอุ่นละมุนของเขาเป็นที่สุด“ทำหน้าเคลิ้มแบบนี้หนูเพลงกำลังคิดถึงเฮียอยู่เหรอคะ”“เฮียรู้ได้ยังไงคะ”เมื่อเผลอตอบคำถามออกไปเพลงพิณก็ถึงกับชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่เธอจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อใบหน้าของคนรักอยู่ห่างจากใบหน้าของเธอเพียงแค่คืบ อารามตกใจทำให้เพลงพิณเตรียมที่จะขยับถอยหลังแต่เกรย์กลับใช้มือใหญ่รวบเอวบางของเธอเข้ามาในอ้