Smokin’Pubเจ้าเอยเดินเข้ามาในผับด้วยความมั่นใจถึงแม้ว่าเธอจะอยู่ในชุดราตรีที่ดูไม่เข้ากับสถานที่แห่งนี้เลยแต่ความสวยของเจ้าเอยกลับทำให้เธอโดดเด่นและกลายเป็นจุดสนใจของผู้ชายหลายๆคน แต่ตอนนี้เจ้าเอยกลับไม่มีอารมณ์ที่จะมองตอบกลับใครหรือยิ้มให้ใครทั้งนั้นเธอหงุดหงิดจนแทบอยากจะกรี๊ดออกมาดังๆเมื่อคำถามของเธอไร้ซึ่งคำตอบจากผู้ชายที่ชื่อเกรย์“ไงจ๊ะเพื่อนรัก ไปงานเลี้ยงกับป๊ามาได้ผู้กลับมาด้วยปะ”เอวาเอ่ยทักเจ้าเอยโดยที่เดินมากระแทกตัวลงนั่งบนโซฟาด้วยความโมโหก่อนที่เธอจะคว้าแก้วเหล้าของเพลงพิณขึ้นมากระดกจนหมดแก้วเพื่อระงับโทสะที่ไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลยสักนิด“อะไรกัน มาถึงก็ยกจนหมดแก้วที่งานเลี้ยงเขาไม่มีไวน์ให้ดื่มหรือยังไง”เพลงพิณเอ่ยแซวเพื่อนด้วยความขบขันแต่เจ้าเอยกลับทำหน้าเซ็งและหยิบแก้วมาชงเหล้าให้ตัวเองแบบเข้มๆก่อนที่เธอจะยกเหล้าขึ้นกระดกอีกครั้งจนหมดแก้วท่ามกลางสายตาสงสัยของเอวาและเพลงพิณ“เฮ้อ ค่อยยังชั่วพอได้ดื่มก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาแฮะ”เจ้าเอยเอ่ยขึ้นมาอย่างรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นเมื่อได้ดื่มน้ำสีอำพันที่รสชาติขมบาดคอแต่เธอกลับรู้สึกว่ามันหวานชื่นใจจนสามารถดับโทสะที่กำลังคุกรุ่นในใ
ภาพตรงหน้าทำให้เกรย์ได้แต่ส่ายหน้าไปมาน้อยๆสองเท้ารีบก้าวเข้าไปหาร่างบางที่เมาหลับพิงพนักโซฟาอยู่โดยที่มีแตงไทยเด็กเสิร์ฟในร้านนั่งเป็นเพื่อนและคอยเอาผ้าเย็นเช็ดหน้าให้เพลงพิณเพื่อให้เธอสร่างจากอาการเมา“อ้าวเฮียมาแล้วเหรอ”แตงไทยร้องทักเกรย์ด้วยความสนิทสนมก่อนที่เกรย์จะนั่งข้างๆเพลงพิณและรับผ้าเย็นจากแตงไทยมาซับใบหน้าเนียนให้เธอเบาๆอย่างอ่อนโยนด้วยความห่วงใย “แล้วเพื่อนๆของเพลงล่ะ”เกรย์ถามแตงไทยที่ยักไหล่น้อยๆอย่างไม่รู้เช่นกันเพราะเอวากับเจ้าเอยให้เด็กเสิร์ฟผู้ชายไปเรียกเธอมานั่งเป็นเพื่อนเพลงพิณเพื่อคอยดูแลในระหว่างที่รอเกรย์มารับ ก่อนที่ทั้งสองสาวจะเดินควงคู่ไปกับผู้ชายหน้าตาดีสองคนโดยที่ไม่ได้มีทีท่าเป็นห่วงเพลงพิณเลยสักนิด“เพื่อนเมาหนักขนาดนี้แทนที่จะอยู่ดูแลกลับพากันทิ้งให้นอนหลับอยู่ที่นี่ ไม่ห่วงเพื่อนบ้างหรือยังไงนะ”เกรย์บ่นให้สองสาวด้วยความรู้สึกไม่พอใจที่ทิ้งให้เพลงพิณเมาหลับอยู่ที่นี่คนเดียวถึงแม้ว่าจะมีแตงไทยคอยดูแลอยู่แต่อย่างไรแล้วที่นี่ก็คือผับ สถานที่อโคจรแหล่งมั่วสุมชั้นดีของพวกคนดีและคนเลวบางกลุ่มที่ออกมาท่องราตรีเพื่อหาเหยื่อกลับไปสนองความใคร่โดยที่สาวๆเหล่านั
“คนบ้าพูดเรื่องอะไรก็ไม่รู้”เพลงพิณแสร้งโวยวายกลบเกลื่อนความเขินก่อนที่เธอจะเดินมานั่งลงที่ปลายเตียงและมองบรรยากาศรอบๆห้องพักที่ใหญ่โตมีเฟอร์นิเจอร์อำนวยความสะดวกอย่างครบครับ เพียงแค่ประเมินจากสายตาคร่าวๆเธอก็รับรู้ได้ว่าราคาของห้องพักคงไม่ไช่น้อยๆแต่ทำไมเขาถึงได้พาเธอมาพักห้องที่ราคาแพงขนาดนี้ล่ะ“แล้วทำไมเราถึงเดินทางมาที่นี่ได้ภายในเวลาชั่วข้ามคืนคะ หรือว่าคุณหายตัวได้”คำถามที่ต้องการคำตอบจากใจจริงหาได้เสแสร้งหรือหยอกเย้าให้ตลกขบขันแต่อย่างใดของเพลงพิณทำให้เกรย์ถึงกับหลุดยิ้มออกมาด้วยความขำขันที่แฝงไปด้วยความเอ็นดูเพราะคำถามของเธอช่างไร้เดียงสาเสียจริง“ผมเป็นคนนะครับไม่ใช่ภูตผีเทวดาที่จะสามารถพาคุณหายตัวมาที่นี่ได้ แต่ถ้าคุณบอกว่าผมเป็นเทพบุตรอันนั้นน่ะยอมรับโดยไม่เถียงว่าผมคือเทพบุตรที่สามารถพาคุณนั่งเครื่องบินมาถึงที่นี่ได้เพียงชั่วข้ามคืน เพียงเพราะต้องการให้คุณตื่นขึ้นมาเห็นวิวทะเลที่สวยงามของที่นี่”คำพูดที่ดูเหมือนจะติดตลกของเขาแต่กลับทำให้เพลงพิณรู้สึกดีและซาบซึ้งใจอย่างบอกไม่ถูกกับการกระทำที่แสนดีของเขาเพียงเพราะอยากให้เธอเห็นความสวยงามของทะเลเขาถึงกับพาเธอขึ้นเครื่องตอน
“ฮ่า สดชื่นจังเลยค่ะ”เพลงพิณอ้าแขนออกกว้างพร้อมทั้งหลับตาพริ้มสูดกลิ่นหอมของน้ำทะเลเข้าเต็มปอดด้วยความสดชื่นโดยที่มีสายตาของเกรย์ที่มองการกระทำของเธอด้วยสายตาที่อบอุ่นอ่อนโยน และอยู่ๆความคิดบางอย่างก็แวบเข้ามาในหัวทำให้เกรย์ตัดสินใจเดินเข้าไปยื่นซ้อนแผ่นหลังของเพลงพิณและทำท่าทางตามเธอสองแขนที่กางออกกว้างค่อยๆประสานเข้ากับมือของเพลงพิณอย่างแผ่วเบาทำเอาคนที่กำลังหลับตาอยู่ถึงกับลืมตาขึ้นด้วยความตกใจและหันหน้ากลับมาด้านหลังทันที ทำให้ริมฝีปากนุ่มที่หอมละมุนกลิ่นพีชประทับลงบนริมฝีปากสีไวน์ของเกรย์ด้วยความไม่ตั้งใจแต่คนที่คล้ายกำลังถูกจูบกลับจูบตอบริมฝีปากนุ่มอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยนจนเพลงพิณถึงกับตัวแข็งค้างส่วนตากล้องสองหนุ่มที่ตามดูหนุ่มสาวทั้งคู่อยู่ไกลๆต่างพากันบิดตัวม้วนด้วยความขวยเขินกับจังหวะที่เรียกว่าโคตรโรแมนติกในความคิดของสองบอดี้การ์ดหนุ่ม“อืม สดชื่นเหมือนที่คุณบอกจริงๆด้วย”คนเจ้าเล่ห์ที่ดึงริมฝีปากออกจากปากนุ่มของเพลงพิณเอ่ยเสียงกระซิบชิดใบหูหอมกรุ่นทำให้เพลงพิณที่สติกำลังล่องลอยไปไกลถึงกับสะดุ้งน้อยๆแล้วรีบหันหน้าหนีทันทีด้วยความเขินอาย หัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนแทบระเบิดเมื่อ
ตุ๊บเสียงแผ่นหลังที่กระทบกับผนังห้องพักไม่ได้ทำให้หนุ่มสาวทั้งคู่ผละออกจากกันแต่อย่างใดริมฝีปากหนาบดจูบเพลงพิณอย่างเร่าร้อนและเอาแต่ใจจนเพลงพิณแทบสำลักกับความสุขที่เขามอบให้ สองมือของเกรย์ลูบไล้แผ่นหลังเนียนไปมาราวกับต้องการปลุกเร่าอารมณ์ของเพลงพิณให้เต็มไปด้วยไฟปรารถนาในตัวเขาแต่ความยับยั้งชั่งใจและความรู้สึกผิดชอบชั่วดีทำให้เกรย์ตัดสินใจถอนจูบออกด้วยความยากลำบากเมื่อประโยคหนึ่งของเพลงพิณที่เคยลั่นวาจาเอาไว้ ว่าถ้าหากยังไม่แต่งงานกันเธอจะไม่ยอมเสียซิงให้คนรักเป็นอันขาดดังขึ้นวนเวียนในหัวของเกรย์ไม่หยุด“ไม่ได้ครับแบบนี้ไม่ได้ มันไม่ถูกต้อง”คำพูดของเกรย์ทำให้เพลงพิณรู้สึกตื้นตันใจไม่น้อยที่เขายังคงความเป็นสุภาพบุรุษโดยการยับยั้งชั่งใจและเป็นฝ่ายเอ่ยเตือนสติเธอที่กำลังหลงเคลิ้มไปกับสัมผัสที่วาบหวาม แต่ตอนนี้เธอไม่สนใจอะไรอีกแล้วในใจของเธอมีเพียงความต้องการและโหยหาเขาที่อยู่ตรงหน้าเพียงเท่านั้นส่วนคำพูดในอดีตที่เธอเคยลั่นวาจาเอาไว้เธอขอลืมมันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป“แล้วแบบไหนที่เรียกว่าถูกต้องคะ”เพลงพิณเอ่ยถามเกรย์เสียงแหบพร่าทำให้เกรย์ที่กำลังซุกหน้าอยู่บนซอกคอหอมกรุ่นของเพลงพิณถึง
“หล่อจัง”เสียงหวานพึมพำด้วยรอยยิ้มเมื่อเช้านี้เธอตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของผู้ชายที่เธอรักโดยที่เขายังคงหลับสนิทเพลงพิณจึงถือโอกาสนี้มองดูใบหน้าหล่อเหลาของเขาในยามหลับ ในชีวิตของเพลงพิณเธอพบเจอผู้คนมากมายแต่เกรย์คือผู้ชายคนเดียวที่เธอต้องยอมรับเลยว่าหน้าตาของเขานั้นหล่อราวกับเทพบุตรที่ทำเอาหัวใจดวงน้อยๆของเธอหวั่นไหวตั้งแต่แรกพบใบหน้าที่เนียนใสราวกับผิวเด็กคิ้วเข้มที่แสนมีเสน่ห์และจมูกที่โด่งจนเธอนึกว่าเขาไปศัลยกรรมมาเสียอีกไหนจะขนตาที่งอนยาวราวกับผู้หญิงจนเธอเองยังนึกอิจฉา ทุกอย่างบนใบหน้าของผู้ชายคนนี้ราวกับพระเจ้าเป็นผู้ปั้นแต่งให้อย่างไรอย่างนั้นเลย ยิ่งในยามที่เขายิ้มเธอแทบจะละลายไปกับรอยยิ้มที่ราวกับแสงตะวันยามเช้าที่มองทีไรก็มีความสุขทุกครั้ง“จุ๊บ เพลงหลงรักคุณจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้วรู้ไหมคะ”เพลงพิณพึมพำเสียงหวานอยู่ข้างแก้มของเกรย์ก่อนที่เธอจะพยายามหักห้ามใจไม่ให้ตัวเองแอบล่วงเกินเขาไปมากกว่านี้ โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าคนที่เธอคิดว่าเขากำลังหลับแท้ที่จริงแล้วเขากำลังแกล้งหลับอยู่ต่างหาก“อ๊ะ ซี๊ด”เพียงแค่เท้าแตะพื้นเพลงพิณก็ร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวดเมื่อส่วนบอบบางที่สุดของร่างกายเจ็บจ
ประเทศไทยร่างสูงของใครบางคนจ้องมองเจดีย์ที่ถูกตั้งเคียงคู่กันด้วยแววตาที่หม่นเศร้าสองมือค่อยๆยกขึ้นลูบรูปภาพที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของคุณทวดทั้งสองที่ออกเดินทางไปไกลแสนไกล ซึ่งเป็นการเดินทางที่กรรฐ์ไม่สามารถที่จะเดินทางไปหาคนทั้งคู่ได้เลย ภาพเหตุการณ์ในวันวานพลันย้อนเข้ามาในหัวเมื่อครั้งที่บิดาพาเขากับพี่ชายฝาแฝดไปฝากให้คุณทวดทั้งสองช่วยเลี้ยง“เป็นลูกผู้ชายต้องเข้มแข็งต่อให้เจ็บแค่ไหนก็ห้ามมีน้ำตารู้ไหมครับน้องกรรฐ์”“น้องกรรฐ์รู้แล้วครับคุณทวด โตขึ้นน้องกรรฐ์จะเข้มแข็งเหมือนคุณทวดกฤษฎิ์อ่อนโยนเหมือนคุณทวดที่รักและรักเดียวใจเดียวเหมือนคุณปู่ครับ”เด็กชายกวีวัธน์บอกคุณทวดด้วยรอยยิ้มในขณะที่กฤษฎิ์มองเหลนชายคนเล็กด้วยความเอ็นดูมือที่เหี่ยวย่นไปตามวัยและกาลเวลายกขึ้นลูบศีรษะของเหลนน้อยเบาๆด้วยความรักใคร่สุดหัวใจ“ดีมากครับเหลนน้อยของปู่ กับคนรักน้องกรรฐ์ต้องอ่อนโยนและรักเขาให้มากๆนะครับ ทะนุถนอมเขาและดูแลปกป้องเขาให้ดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้”เขาในวันนั้นพยักหน้ารับคำพูดของคุณทวดด้วยรอยยิ้มโดยที่ไม่รู้เลยว่าหลังจากวันนั้นเพียงไม่กี่วันคุณทวดที่แสนใจดีของเขาก็จากไปอย่างไม่มีวันกลั
สายลมยามค่ำคืนพัดผ่านร่างสูงของกรรฐ์ที่ยืนมองแสงไฟหลากสีของเมืองกรุงด้วยความรู้สึกสดชื่นที่ได้กลับมาเยือนประเทศบ้านเกิดเสียทีหลังจากที่เขาจากไปตั้งแต่ยังเล็ก กรรฐ์กางแขนออกกว้างเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอดอีกครั้งก่อนที่เขาจะกลับเข้าไปด้านในเมื่อเริ่มรู้สึกง่วงขึ้นมาบ้างแล้วหลังจากที่ร่างกายยังปรับตัวให้เข้ากับเวลาของเมืองไทยไม่ได้แสงสว่างที่ลอดออกมาจากห้องทำงานของพี่ชายทำให้กรรฐ์ที่กำลังจะเดินกลับไปที่ห้องนอนถึงกับชะงักเท้าก่อนที่เขาจะเปลี่ยนเส้นทางจากห้องนอนของตัวเองมาเป็นห้องทำงานของพี่ชายแทน ร่างสูงที่ฟุบหลับคาโต๊ะทำงานด้วยใบหน้าที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเหนื่อยล้าทำให้กรรฐ์ถึงกับส่ายหน้าไปมาน้อยๆด้วยความเป็นห่วงก่อนที่เขาจะตัดสินใจเดินออกไปหยิบผ้าห่มผืนเล็กมาห่มให้พี่ชายเพราะอากาศค่อนข้างเย็นอาจจะทำให้เกรย์ไม่สบายได้ถึงพี่ชายของเขาจะเป็นนายแพทย์ที่ใครๆต่างก็ยอมรับในความสามารถแต่ในเรื่องของการดูแลสุขภาพตัวเองนั้นพี่ชายของเขาไม่ค่อยจะใส่ใจตัวเองสักเท่าไหร่“ถ้าพรุ่งนี้ป่วยก็ให้คนของใจมาคอยดูแลก็แล้วกันนะเฮีย”กรรฐ์พึมพำเสียงเบาก่อนที่เขาจะเดินออกมาจากห้องทำงานของพี่ชายเพื่อกลั