-หลายวันต่อมา-หลังจากวันนั้นผ่านมาเกือบอาทิตย์ฉันก็เริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองโดยที่มีเพื่อนรักทั้งสองคนคอยช่วย จนตอนนี้ฉันเปลี่ยนไปมาก จากผมที่เคยสีดำสนิทยัยสองคนนี้เปลี่ยนฉันให้มีผมสีน้ำตาลอ่อน ๆ ยิ่งทำให้ใบหน้าฉันขาวผุดผ่องขึ้นมาเป็นกอง ไหนจะลองให้ฉันเปลี่ยนโทนการแต่งหน้าแล้วก็ยกเซ็ตเสื้อผ้าให้ฉันแทบ
“หึ! มึงจะไม่เลือกหน่อยหรอวะ...จะจริงจังต้องเช็คตำหนิหน่อยนะ” อยู่ ๆ ออสตินที่ยืนนิ่งอยู่นานก็แค่นเสียงหัวเราะแล้วก็พูดประโยคนี้ออกมา อะไรนะ? เช็คตำหนิงั้นเหรอ เช็คตำหนิบ้าบออะไร!“มึงพูดเหี้ยไรวะไอ้ติน” เควินหันไปถามด้วยความไม่พอใจกับคำพูดที่ออสตินพูด“เมามั้งวินอย่าสนใจเลย ว่าแต่เมื่อกี้วินพูดจริง
“ทำไรกันสาว ๆ” พวกฉันนั่งคะยั้นคะยอให้อีแมนนี่เล่าแผนการพิสูจน์บ้าบออะไรนั่นของมันมาพักใหญ่มันก็ไม่ยอมเล่า จนกระทั่งเควินที่เหมือนจะเพิ่งเลิกเรียนเดินมาเจอพวกเราที่นั่งหน้าตึกคณะพอดี“ฮายเควินสุดหล่อ เลิกเรียนแล้วเหรอคะ” อีแมนนี่โบกมือทักทายเควินแล้วก็ส่งสายตาหยาดเยิ้มไปให้ ขนลุกแทนเควินชะมัด ส่วนฉ
“จะใครล่ะก็ไอ้เหี้ยตินไง แม่งทำตัวเป็นเจ้าของเธอมา 3 ปีแล้ว ไม่รู้หวงเพื่อนอะไรนักหนา ขู่ฉันตลอดว่าอย่ามายุ่งกับเธอ แค่พูดชื่อเธอ” เควินพูดแล้วเบ้ปากตอนเอ่ยชื่อออสตินด้วยความหมั่นไส้พอเขาพูดชื่อนี้ขึ้นมาก็ทำเอาฉันไปต่อแทบไม่ได้เลย เฮ้อ! นานแล้วนะ เกือบ 2 อาทิตย์แล้วที่เราแทบจะไม่ได้เจอหน้ากัน แล้วก
“ไม่หรอกฉันยังไม่ได้เสี้ยวหนึ่งที่นายว่าเลย แต่นี่เพราะเควินเขาดีจริง ๆ ฉันก็เลยติดใจ” ฉันพูดประโยคสุดท้ายช้า ๆ แล้วก็ยิ้มเพื่อสื่อความหมายให้ออสตินเข้าใจว่าฉันติดใจคือเรื่องไหน แล้วก็ดูจะได้ผลเพราะคนอย่างออสตินไม่ชอบโดนหยามอยู่แล้ว หมอนั่นกำหมัดแน่นจนมือสั่น“ดี! ร่านมากใช่ไหม กูจะเอาให้ไม่กล้าเดิ
ผมผละจากมินตราที่นอนหลับไปแล้วก็รีบไปเข้าห้องน้ำ คงไม่ต้องบอกหรอกนะครับว่าผมเข้าไปทำอะไร อันที่จริงที่หยุดก็ไม่ใช่เพราะผมรักมินตราจนไม่กล้าทำร้ายเธอต่อหรอกนะแต่มันก็มีบ้างที่สงสารเลยไม่ทำต่อ“อ่าส์~” ผมตัวกระตุกแล้วก็จับท่อนเอ็นตัวเองเอาไว้หลวม ๆ ปล่อยให้น้ำรักสีขาวขุ่นพุ่งออกมาเปรอะเปื้อนพื้นในห้อง
ติ๊ง ต่อง !ติ๊ง ต่อง !ติ๊ง ต่อง !ติ๊ง ต่อง !ติ๊ง ต่อง !ติ๊ง ต่อง !ฉันยืนกดกริ่งหน้าห้องไอ้ชั่วนรกส่งมาเกิดคนนั้นรัว ๆ มาจะสิบนาทีแล้ว แต่ก็ไร้การตอบรับจากคนในห้อง ออสตินอยู่ในนั้นแน่นอนฉันมั่นใจเพราะคอนโดของเขาหรูมาก คนข้างนอกจะขึ้นมาได้ต้องเป็นเจ้าของห้องลงไปรับหรือมีพนักงานโทรขึ้นมาแจ้งให้เจ
-The most-ตอนนี้ผมนั่งอยู่ที่ผับของผมเอง ไม่ได้กินเหล้าหรอกแค่มาดูผับเท่านั้น ไม่ได้เข้ามาเช็คบัญชีผับสักทีเดี๋ยวเจ๊งตายห่า“เฮีย เฮียเควินเฮียแอลมา” ไอ้เจสลูกน้องผมเปิดประตูห้องเข้ามาเรียกผมที่กำลังดูบัญชีรายรับรายจ่ายอยู่“มึงไม่เคาะ?” ผมไม่เงยหน้าขึ้นไปมองมันแต่ถามถึงความมารยาททรามที่มันเพิ่งทำเ
พั่บ!“โอ้ว~ โคตรมันเลยหวาน”“อื้อ~ หวานก็ อ๊ะ! คุณพอร์ชทำหวานแรง ๆ ค่ะ” ฉันร้องขอมากขึ้น ดูเหมือนคุณพอร์ชจะใส่มาสุดแรงทุกครั้งที่ขอแต่เชื่อไหมค่ะว่าเขาสามารถเพิ่มแรงกระแทกให้แรงขึ้นได้ทุกครั้งที่ร้องขอมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งหวานเองก็ไม่รู้ว่าสามีของหวานไปเอาเรี่ยวแรงมาจากที่ไหนพั่บ!“อ๊ะ!”พั่บ!“อ๊ะ
“แล้วแต่เลยค่ะ แล้วแต่ที่คุณพอร์ชอยากทำเลย อ๊ะ!” จบคำพูดยั่วยวนของฉันคุณพอร์ชก็กระแทกท่อนเอ็นเข้ามาเต็มแรงทันทีพั่บ!“อ่าส์! แน่นมากเมียจ๋า~” คุณพอร์ชจับเข่าฉันดันแยกออกจากกันแล้วกระแทกท่อนเอ็นเข้ามารัวเร็วจนเสียงทำรักของเราสองคนดังไปทั้งห้องพั่บ!พั่บ พั่บ พั่บ!“อ๊ะ! คุณพอร์ช~ อ๊ะ! อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ!”
“ซี๊ด~ คุณพอร์ช~” ฉันนอนชันเข่าเอามือบีบหน้าอกตัวเองจนแทบจะแหลกคามืออยู่แล้วคนที่ใช้ปากลิ้นทำรักให้ที่กลางร่างกายก็ไม่คิดจะหยุดแล้วขึ้นมาหาเมียอย่างหวานบ้างเลยแผล็บ~เสียงลิ้นตวัดเลียจากร่องรักขึ้นมาหาติ่งสวาททำฉันสะท้าน เสียวมากเลยหวานจะตายเพราะลิ้นคุณพอร์ชแล้วคุณพอร์ชจะรู้บ้างไหมนะ“ซี๊ด~ คุณพอร์
“นี่ไม่ได้แกล้งแช่งตัวเองเพราะอยากไปมีเมียใหม่ใช่ไหมคะ” ฉันแกล้งถามและตีสีหน้าระแวงเหมือนเดิม แต่ในใจรู้สึกดีมากแล้วล่ะ“พี่ดูไม่รักหวานเลยเหรอครับ” พอฉันถามพร้อมจ้องด้วยความระแวงเขาก็ถามกลับเสียงขรึม ใบหน้าหล่อก็ตึงขึ้นมาเชียว“ก็...จะไปรู้เหรอคะ”“หึ! เมียอะไรวะใจร้าย คิดลงได้ยังไงว่าผัวไม่รักผัวอ
“เฮ้อ! พี่แกล้งเยอะไปใช่ไหมเนี่ยเจ้หวานของพี่ถึงได้เศร้าแล้ว โอ๋ ๆ มาให้พี่พอร์ชโอ๋นะคะ”“อย่ามาใกล้หวานเชียวนะคุณพอร์ช!” ฉันถอยหลังหนีเขาทันทีที่เขาเก้าเท้าเข้ามาหา“โอเค ๆ ไม่เล่นแล้วครับ คุยกันนะน้ำหวานพี่ไม่แกล้งหนูแล้ว” เขายิ้มเอ็นดูฉัน ยิ้มเอ็นดูฉันทำไมมีเรื่องอะไรต้องเอ็นดู ลองมายิ้มเอ็นดูแบบ
“มันจะมากเกินไปแล้วนะคุณพอร์ช! หยามหวานมากเกินไปแล้วนะ!” ฉันทนไม่ไหวสุดท้ายก็เลยพุ่งใส่เขา โมโหจนเลือดขึ้นหน้าแล้วค่ะ โมโหจนอยากเอาเลือดหัวเขาออกหมับ!“หยามที่ไหน ที่ทำทุกวันทุกคืนก็ไม่ต่างจากการผลิตลูกนี่ครับ” เขาจับมือฉันที่กำลังจะข่วนหน้าเขาเอาไว้ทั้งสองมือพร้อมกับยิ้มอารมณ์ดีทำให้ฉันแทบกรี๊ด“ไ
“พี่อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์ครับ มันคงมีความสุขมากถ้าได้เป็นพ่อคน พี่อยากเห็นเด็กตัวเล็ก ๆ ที่เป็นสายเลือดของพี่”“...ค่ะ หวานเข้าใจแล้ว”“ครับ...ขอบคุณที่เข้าใจพี่นะ”“แล้วคนที่คุณพอร์ชไปหาเขาว่ายังไงบ้างล่ะคะ”“เขาจะช่วยครับ แต่เขาให้พี่มาบอกหวานก่อนแล้วก็ให้มาถามหวานว่าหวานจะมีลูกให้พี่เองรึเปล่า
“...ค่ะ หวานรู้” หวานรู้และหวานก็ได้แต่ขอให้มันยังทัน ขอให้ความตั้งใจที่จะปล่อยเลิกกินยาคุมป้องกันของฉันมันยังทัน ขอให้มันไม่สายเกินจนทำให้เขาไปเลือกคนอื่นแทนที่ฉัน ขออย่าให้เขาเลือกคนอื่นมาแทนที่ฉันมาแทนที่คำว่าครอบครัวของเรา“...พี่ไม่อยากรอแล้ว” เขานิ่งไปตอนที่ฉันบอกและพยักหน้ารับ เขานิ่งมองหน้าฉ
“ค่ะ” มันเจ็บแต่สุดท้ายจะพูดอะไรได้มากกว่านี้ในเมื่อตอนนี้ใจฉันเจ็บและอีกใจก็โกรธแต่ก็ไม่ได้มีอารมณ์อยากทะเลาะกับเขาหรือโวยวายเหมือนเมื่อกี้ มันเหมือนกับว่าการพยายามปิดบังซ่อนเร้นของเขาเป็นตัวการที่ทำให้ฉันชาจนไม่อยากจะทำอะไร“พี่...” เขาก็ยังเหมือนเดิม ฉันไม่ได้รอฟังแล้วแต่พอเห็นอาการของเขามันก็ทำใ