บรรยากาศภายในโฮมสเตย์ของพ่อเลี้ยงแสงหล้านั้นชวนให้รู้สึกผ่อนคลายสบายอารมณ์ไม่น้อยสวนดอกไม้นานาพันธ์ที่กำลังผลิดอกต้อนรับหน้าฝนส่งกลิ่นหอมกระจายไปทั่วบริเวณ สีสันของดอกไม้หลากสีชวนให้ผู้ที่พบเห็นสะดุดตาจนต้องเดินเข้าไปชมความงามของดอกไม้ใกล้ๆด้วยความรู้สึกสดชื่นพร้อมทั้งถ่ายรูปเก็บภาพความสวยงามเหล่านี่เอาไว้ในม้วนฟิล์มที่เปรียบเสมือนกล่องบันทึกความทรงจำของใครหลายๆคนนักท่องเที่ยวที่ตื่นตั้งแต่เช้าค่อยๆทยอยพากันออกจากที่พักเพื่อไปเยี่ยมชมความสวยงามของโฮมสเตย์ที่มีทั้งสวนผักออแกนิคที่เชื่อมต่อกับไร่ผลไม้ขนาดห้าสิบไร่ที่ปลูกไม้ผลเช่น ส้มหลากสายพันธ์ มะปรางหวานฉ่ำ มะยงชิดผลโตๆ อโวคาโดเนื้อนุ่มละมุนลิ้น ลิ้นจี่หอมหวาน ทุเรียนพันธ์หายาก รวมไปถึงสตรอเบอรีสีแดงเนื้อหวาน ซึ่งผลไม้เหล่านี้ล้วนเป็นผลไม้ส่งออกไปขายยังต่างประเทศทั้งสิ้นถัดจากไร่ผลไม้ยังมีไร่นาอีกสี่สิบไร่ที่ปลูกข้าวนาปีแบบขั้นบันไดเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เดินเยี่ยมชมบรรยากาศของท้องทุ่งทั้งในยามเช้าและยามเย็น ซึ่งตอนนี้ท้องนานั้นว่างเปล่าไร้ต้นกล้าเพราะอยู่ในช่วงฤดูของการไถ่นาปลูกข้าวและวันนี้พ่อเลี้ยงแสงหล้าก็ตั้งใจพารามสูรมาเรียน
หลังจากที่ได้เรียนรู้วิถีชีวิตของการเป็นชาวนาถึงหนึ่งสัปดาห์เต็มพ่อเลี้ยงแสงหล้าก็พารามสูรเปลี่ยนมาเรียนรู้วิถีชีวิตของการเป็นชาวไร่ซึ่งเป็นหัวใจหลักของบททดสอบในครั้งนี้เพราะการเก็บผลไม้ตามฤดูกาลและส่งออกต่างประเทศคือรายได้หลักของไร่เคียงดาว“ไถนาแล้วก็มาขนขี้วัวทำปุ๋ย นี่มันจงใจแกล้งกันชัดๆ”กฤษฎิ์บ่นพึมพำอยู่เพียงลำพังพร้อมมองดูหลานชายกับลูกเขยที่ช่วยกันขนมูลสัตว์ออกมาจากคอกวัวเพื่อเตรียมทำปุ๋ยหมักชีวภาพเพื่อเก็บไว้ใส่ผักออแกนิคและผลไม้ในไร่“กล่าวหากันเกินไปแล้วนะครับ ผมเปล่าแกล้งสักหน่อย”เสียงที่ดังอยู่ทางด้านหลังทำให้กฤษฎิ์สะดุ้งน้อยๆด้วยความตกใจก่อนที่เขาจะหันมาเผชิญหน้ากับพ่อเลี้ยงแสงหล้าที่ไม่รู้ว่ามาหยุดยืนอยู่ด้านหลังของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้“เปล่าแกล้งตรงไหนไถนาเสร็จก็พามาเดินเข้าๆออกๆคอกวัวเนี่ยนะ” กฤษฎิ์เชิดหน้าต่อว่าพ่อเลี้ยงแสงหล้าด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์“จะมาเป็นหลานเขยชาวไร่ชาวนาอย่างผมก็ต้องเรียนรู้เรื่องพวกนี้ติดตัวเอาไว้หรือถ้าไม่อยากทำแล้วก็เชิญครับ เชิญเก็บข้าวของและออกไปจากที่นี่ได้เลยผมจะได้หาสามีใหม่ให้หลานสาวของผม”จบประโยคสีหน้าของพ่อเลี้ยงแสงหล้าพลั
“เหนื่อยไหมคะ” ทันทีที่เดินทางมาถึงไร่ที่รักก็ตรงเข้าไปหาสามีที่นั่งอยู่ข้างๆหลานชายของเธอที่ตัวเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อพร้อมหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาซับเหงื่อบนหน้าผากออกให้กฤษฎิ์อย่างอ่อนโยน“ไม่น่าจะเหนื่อยนะครับเพราะเห็นยืนเชียร์รามสูรอยู่ข้างล่างเฉยๆไม่ได้ทำอะไรเลย”เสียงของคนข้างหลังที่ชิงตอบคำถามของที่รักแทนกฤษฎิ์ทำให้มือที่กำลังซับเหงื่อบนหน้าผากให้สามีพลันหยุดชะงักไปทันทีก่อนที่ที่รักจะหันไปหาหลานชายและเอ่ยถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงแทนทำให้กฤษฎิ์ได้แต่แยกเขี้ยวใส่พ่อเลี้ยงแสงหล้าอย่างนึกโมโหที่บังอาจมากันซีนหวานของเขากับภรรยา“พี่รามคะ”น้ำเสียงหวานใสเอ่ยเรียกรามสูรด้วยความดีใจก่อนที่หม่อนไหมจะรีบเดินเข้ามานั่งลงข้างๆรามสูรพร้อมยกมือขึ้นลูบผิวที่เปียกชุ่มไปด้วยหยดเหงื่อของเขาด้วยความสงสารก่อนที่เธอจะหยิบผ้าเย็นกลิ่นหอมละมุนที่เธอเตรียมมาด้วยซับเหงื่อบนใบหน้าให้รามสูรอย่างเบามือ“เหนื่อยไหมคะคนดีของหนูหม่อน”ใบหน้าหล่อเหลาของรามสูรพลันส่ายไปมาน้อยๆเมื่อได้ยินคำถามที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของหม่อนไหมก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาจับมือของเธอที่กำลังตั้งใจซับเหงื่อให้เขาพร้อมเอ่ยคำหวานให้ได้ย
หลังจากที่พ่อเลี้ยงแสงหล้ายอมยกธงขาวยอมแพ้ให้กับความรักของหม่อนไหมกับรามสูรแล้ววันต่อมารามสูรก็ย้ายตัวเองเข้ามาอยู่ที่ห้องของหม่อนไหมเรียบร้อยโดยที่ไม่ต้องรอคำเชิญจากใครนอกจากฟังเสียงหัวใจของตัวเองที่คิดถึงลูกกับเมียจนทนแทบไม่ไหวแม้แต่วินาทีเดียว“รีบขนาดนี้กลัวเมียหายหรือไงพี่ราม”กฤษฎิ์ที่กำลังนั่งจิบกาแฟยามเช้าพร้อมสูดอากาศสดชื่นยามฝนซาเอ่ยถามหลานชายที่กำลังทยอยขนของออกจากห้องพักด้วยรอยยิ้มบางเบา“ขืนชักช้าคุณปู่เปลี่ยนใจพี่รามก็แย่สิครับ”รามสูรตอบผู้เป็นปู่พร้อมก้าวเข้าไปหยิบกระเป๋าใบสุดท้ายออกจากห้องพักด้วยสีหน้าสดใสบ่งบอกว่าเจ้าตัวอารมณ์ดีเป็นอย่างมากทั้ง ๆ ที่เมื่อคืนเขาได้นอนเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงเนื่องจากลูกสาวตัวน้อยของเขาเกิดอาการน้อยใจจึงชวนเขากับหม่อนไหมเล่นกันทั้งคืนจนแทบไม่ได้พักผ่อน“ตาเฒ่าหัวดื้อไม่มีทางเปลี่ยนใจหรอก มีแต่เรานั้นแหละที่ใจร้อนไปเองคิดถึงลูกกับเมียจนทนไม่ไหวต้องรีบวิ่งแจ้นมาเก็บของย้ายไปอยู่กับเขา”คำพูดรู้ทันของกฤษฎิ์ไม่ได้ทำให้รามสูรสะทกสะท้านแต่อย่างใดใบหน้าหล่อเหลาที่มุมข้างกำลังรับแสงแดดจากดวงอาทิตย์พลันเผยรอยยิ้มทะเล้นให้ผู้เป็นตาที่ได้แต่ส่ายหน้า
หลายวันต่อมาRed-Eye PUBติ้งเสียงแจ้งเตือนข้อความเข้าที่ดังขึ้นทำให้วัตรที่กำลังจะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มถึงกับชะงักไปเล็กน้อยเขาทำเพียงปรายตามองแสงสว่างบนหน้าจอมือถืออย่างไม่ไยดีเท่านั้น ก่อนที่เขาเตรียมจะส่งเหล้าเข้าปากอีกครั้งแต่เสียงแจ้งเตือนข้อความที่รัวเข้ามาไม่หยุดก็ทำให้เขาตัดสินใจกระแทกแก้วเหล้าลงบนโต๊ะพร้อมหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูข้อความด้วยความรำคาญปนหงุดหงิดใจ“เป็นเหี้ยอะไรของมึงวะไอ้วัตร ข้อความเข้าแค่นี้ทำเป็นหงุดหงิดไปได้เมนส์ไม่มาหรือไง”ติณที่นั่งตรงกันข้ามกับวัตรเอ่ยหยอกล้อเพื่อนด้วยความแปลกใจแต่วัตรกลับไม่ได้ตอบคำถามของเพื่อนแต่อย่างใดสายตาของเขาตอนนี้เอาแต่จ้องข้อความบนมือถืออย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเองว่าคนที่หายหน้าหายตาไปนานหลายเดือนจะส่งข้อความมาหาเขาเมื่อคิดมาถึงตรงนี้หยดน้ำตาแห่งความน้อยใจพลันไหลพรั่งพรูลงบนแก้มอย่างห้ามไม่อยู่“อ้าว แล้วเป็นเหี้ยไรวะนั่น”เป้ที่หันมาเห็นพอดีเอ่ยถามวัตรที่เริ่มเบะปากเล็กน้อยก่อนที่เสียงร้องไห้โฮของลูกผู้ชายอกสามศอกจะดังขึ้นเคล้ากับเสียงเพลงจนทำให้สองหนุ่มเพื่อนรักที่นั่งอยู่ตรงข้ามถึงกับพากันลุกมานั่งข้างๆวัตรด้วยความเป็นห่
สวนสนุกบรรยากาศภายในสวนสนุกนั้นอากาศดีมากทีเดียวหม่อนไหมเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งชมเมฆขาวลอยละล่องพลันสายลมพัดมาวูบหนึ่งพาให้ผมยาวสลวยปลิวสะบัด ดอกไม้ในสวนข้างๆทางเดินพริ้วไหวไปตามสายลมเหมือนกำลังโบกมือทักทายหม่อนไหมที่กำลังเดินผ่านทำให้ใบหน้ารูปไข่จิ้มลิ้มพลันเผยรอยยิ้มออกมาน้อยๆอย่างรู้สึกชื่นชอบกับบรรยากาศของสวนสนุกแห่งนี้หม่อนไหมค่อยๆหันไปมองบริเวณรอบๆด้วยความคิดถึงพลันภาพความทรงจำในวัยเด็กก็ค่อยๆหลั่งไหลเข้ามาในหัวของเธอราวกับสายน้ำที่กำลังไหลย้อนกลับ เสียงหัวเราะของมารดาและเธอในวัยห้าขวบดังขึ้นอยู่ข้างๆหูรอยยิ้มของบิดายามที่ยกกล้องถ่ายรูปบันทึกภาพความความสุขของเธอและมารดาทำให้ดวงตากลมโตคลอไปด้วยหยาดน้ำใสๆก่อนที่หยดน้ำตาเม็ดโตจะไหลหยดลงบนแก้มเนียนทำให้รามสูรที่เดินเคียงข้างกันถึงกับชะงักเท้าที่กำลังเดินอยู่ส่งผลให้หม่อนไหมพลันชะงักฝีเท้าตามเขาไปด้วย“หนูหม่อนร้องไห้ทำไมคะ”รามสูรเอ่ยถามหม่อนไหมด้วยน้ำเสียงอบอุ่นอ่อนโยนพร้อมยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาออกจากแก้มเนียนของเธอให้อย่างเบามือ“หนูหม่อนแค่คิดถึงพ่อกับแม่น่ะค่ะ ตอนเด็กๆพ่อกับแม่จะชอบพาหนูหม่อนมาฉลองวันเกิดที่นี่ พอได้กลั
ท่าอากาศยานเชียงใหม่“น้องเก้า”แก้มใสตะโกนร้องเรียกน้องชายที่กำลังเดินออกมาจากสนามบินพร้อมกับครอบครัวด้วยความดีใจก่อนที่เธอจะวิ่งเข้าไปหาน้องชายพร้อมอ้าแขนออกกว้างเพื่อจะสวมกอดน้องชายสุดที่รักหวืด“อ๊ะ น้องบ้า”“สวัสดีครับพี่หมอ”เก้าทัพเบี่ยงตัวหลบอ้อมกอดของพี่สาวพร้อมเอ่ยทักทายวายุอย่างอารมณ์ดีส่วนแก้มใสที่คว้าได้เพียงอากาศก็ไม่รอช้าที่จะตะโกนด่าน้องชายพร้อมตรงเข้าไปสวมกอดหลานชายกับหลานสาวแก้เก้อที่ถูกน้องชายเมินอย่างไม่ไยดี ถ้ารู้ว่าอายุมากขึ้นแล้วจะเย็นชากับพี่สาวขนาดนี้ตอนเด็กๆเธอน่าจะแกล้งให้วิ่งร้องไห้ไปฟ้องพ่อขาวันละหลายรอบซะให้เข็ดคิดแล้วก็ได้แต่เจ็บใจแก้มใสนะแก้มใสทำไมถึงเพิ่งมาคิดได้ตอนแก่ล่ะเนี่ย“พี่ทัพ น้องพราว หลานรักของป้าคิดถึงจังเลยลูก”แก้มใสโอบกอดหลานๆของเธอด้วยความคิดถึงก่อนที่สาวน้อยหน้าตาน่ารักที่ยืนอยู่ข้างๆพราวฟ้าจะยกมือขึ้นสะกิดเธอเบาๆทำให้แก้มใสที่กำลังยิ้มแย้มด้วยความดีใจพลันชะงักไปเล็กน้อย“ป้าแก้มคิดถึงแต่พี่ทัพกับพราวฟ้าเหรอคะ?แล้วไทน์นี่ล่ะคะ?ป้าแก้มลืมไทน์นี่แล้วใช่ไหมคะ ?กระซิก กระซิก”ท่าทางน้อยอกน้อยใจพร้อมมือที่ยกขึ้นราวกับต้องการปาดน้ำตาที่ไม่มี
สองวันต่อมาในที่สุดวันที่ครอบครัวพิสิฐกุลวัตรดิลกรอคอยก็มาถึงวันนี้ทุกคนต่างพากันตื่นขึ้นมาเตรียมตัวตั้งแต่เช้าเพื่อรอคอยการมาถึงของญาติฝ่ายเจ้าสาวที่จะมาทำการขอเจ้าบ่าวหรือภาษาที่ชาวบ้านเรียกก็คือการมาขอเขย เนื่องจากงานแต่งวันนี้ครอบครัวพิสิฐกุลวัตรดิลกยกให้เป็นการตัดสินใจของฝั่งเจ้าสาวที่ต้องการจัดงานแต่งแบบล้านนาซึ่งเป็นประเพณีดั้งเดิมของชาวภาคเหนือ“มาแล้วค่ะทุกคน ญาติเจ้าสาวมาแล้ว”ไทน์นี่ที่รอคอยการมาถึงของญาติฝ่ายเจ้าสาวรีบเข้ามาบอกทุกคนในครอบครัวที่พยักหน้ารับด้วยความยินดีก่อนที่วายุกับแก้มใสจะพาทุกคนออกไปต้อนรับญาติเจ้าสาวที่นำโดยเมษาน้าสาวของหม่อนไหมตามมาด้วยป้าหอมนวล ฝ้ายคำและคนอื่นๆอีกสองสามคน“สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่ ที่มาวันนี้ก็เพื่อจะมาขอเขยขวัญคนดีไปเป็นแก้วตาดวงใจของลูกสาวบ้านโน้นค่ะ”เมษาเอ่ยสู่ขอเขยขวัญด้วยรอยยิ้มจริงใจพร้อมยื่นพานดอกไม้ธูปเทียนไปตรงหน้าแก้มใสกับวายุที่รับมาถือเอาไว้ด้วยความยินดี“ลูกชายของแม่ๆก็รักดั่งแก้วตาดวงใจ ไปอยู่ทางโน้นจะร้ายจะดีอย่างไรก็ช่วยอบรมสั่งสอนเขาด้วยนะคะ”แก้มใสตอบกลับเมษาที่ยกมือไหว้ขอบคุณเมื่อการเจรจาสู่ขอเขยสำเร็จก่อนที่เมษาจะเช