3 วันต่อมาขณะที่โรมกำลังนั่งทำงานอยู่ที่หน้าบ้านของท่านอัฐ เสียงมือถือของโรมดังขึ้นไม่หยุด ทำให้ชายหนุ่มถึงกับถอนหายใจแล้วทำท่าจะไม่สนใจ แต่ท่านอัฐที่กลับเข้ามาทานข้าวที่บ้านตอนเที่ยง ที่ยืนดูอยู่ซักระยะกลับขมวดคิ้วก่อนจะตัดสินใจเอ่ยขึ้น"ทำไมไม่รับสายล่ะลูกเผื่อมีเรื่องสำคัญ" ท่านอัฐว่าพลางเดินมานั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม"งั้นเดี๋ยวลุงฟังนะครับ" ชายหนุ่มว่ายิ้ม ๆ พร้อมกับกดรับสายเปิดลำโพงให้ลุงได้ยินบทสนทนานั่นด้วย'รับซักทีนะไอ้สัตว์ มึงอยู่ไหน กูโทรหามึงเป็น 10 สาย มึงไปตายที่ไหน' เสียงเกรี้ยวกราดของสรัญดังมาตามสายทำเอาท่านอัฐขมวดคิ้ว เพราะตั้งแต่ท่านรู้จักกับสรัญมาเขาเป็นที่พูดจานอบน้อมไม่เคยมีคำหยาบนอกจากกูมึง"กูมาทำงาน" โรมเอ่ยตอบเหมือนเป็นเรื่องปกติ'ทำงานบ้าอะไร มึงไม่เช็คหุ้นเหรอ ไซอาร์(si-R) กับเอ็มท่า(M.ta) ประกาศขายหุ้นเราออก 60 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้ราคาในตลาดดิ่งลง 4 จุด กรรมการก็เริ่มจะไม่พอใจกูแล้ว มึงต้องรีบจัดการก่อนที่โรงทอจะเหลือแต่ชื่อ' สรัญออกคำสั่งน้องชายเสียงดังทำให้ท่านอัฐมองหน้าโรมนิ่ง ๆ "แล้วกูจะทำอะไรได้ กูเคยเตือนมึงแล้วว่าอย่าเทขายให้แค่ 2 บริษัทแต่มึงไม่
มหาวิทยาลัย บีรถสปอร์ตสีแดงคันหรูวิ่งเขามาจอดหน้าตึกคณะบริหาร ชายร่างสันทัดแต่งตัวด้วยชุดสูททำงานสีทึบเปิดประตูลงมาจากรถแล้วเดินมานั่งลงตรงข้ามกับหญิงสาวที่กำลังนั่งอ่านหนังสือรอเพื่อนที่ยังไม่ออกจากห้องสอบอยู่ด้านล่าง เจ้าขาเงยหน้ามองลูกชายคนโตของอาก่อนจะขมวดคิ้วกับท่าทางของชายหนุ่มแต่ก็ยกมือไหว้ตามมารยาท"สวัสดีค่ะพี่รัน มาธุระแถวนี้หรือคะ" หญิงสาวทักทายพร้อมกับพยายามยิ้ม"พี่ติดต่อไอ้โรมไม่ได้ พี่เลยมาถามเจ้าว่าตอนนี้มันอยู่ไหน" สรัญเอ่ยถามสีหน้าร้อนรน"พี่โรมบอกว่าไปต่างจังหวัดค่ะแต่ไม่ได้บอกว่าไปไหน" หญิงสาวว่าพลางนึกถึงบทสนทนาของสรัญกับโรมในคืนนั้นและพอเดาได้ว่าที่สรัญติดต่อโรมไม่ได้อาจเพราะโรมเบื่อหน่ายผู้ชายคนนี้เหมือนที่ตอนนี้เธอกำลังเบื่อกับน้ำเสียงแฝงด้วยคำสั่งของเขา"เจ้าโทรหามันให้หน่อยสิ พอดีมือถือพี่แบตหมดน่ะ" สรัญว่าพลางทำท่ามองไปทางอื่น*หึ! ไม่เนียนว่ะ* "เจ้าโทรไม่ได้หรอกพี่ เจ้าไม่มีเบอร์พี่โรมค่ะ" สมองคิดอย่างแต่ปากก็ตอบไปอีกอย่างแต่ก็เป็นความจริงที่เธอไม่มีเบอร์ของโรม"ฮะ! ไม่มีเบอร์" สรัญอุทานเหมือนไม่อยากเชื่อ "พี่ไม่เชื่อหรอกนะเจ้าว่าเจ้าจะไม่มีเบอร์มัน พี่เห็
"มันเรื่องอะไรกันแม่งงไปหมดแล้วนะรัน" คุณหญิงรวิดาถามลูกชายคนโตงง ๆ"ก็หุ้นโรงทอของเราที่โบรกเกอร์ใหญ่ในต่างประเทศช้อนซื้อไงแม่ ผมเห็นว่าราคาดีผมเลยเสนอขายเพิ่มไปจาก 30 เป็น 60 ปีที่แล้วเราได้กำไรกันเกือบพันล้านในตลาด แต่เมื่อวานทางนั้นเทขายไป 60 เปอร์เซ็นต์ของหุ้นที่ถือแล้วเมื่อกี๊ก็เทอีก 20 ผู้ลงทุนในไทยเริ่มเพ็งเล็งเราแถมคณะกรรมการยังยื่นจดหมายของถอนหุ้นออกเกือบหมดเพราะกลัวราคาจะดิ่งกว่านี้ถ้าไซอาร์หรือเอ็มท่าปล่อยในมือที่เหลือ" สรัญว่าเสียงเครียดพร้อมกับมองมือตัวเอง"แล้วมันจะกระทบเยอะขนาดนั้นเลยหรือไงในเมื่อในไทยเราก็มีผู้ถือหุ้นย่อยอยู่" คุณหญิงว่าตามความเข้าใจของตัวเอง"มีที่ไหนล่ะผมกว้านซื้อคืนแล้วขายให้ 2 บริษัทไปหมดแล้ว ไม่งั้นไม่มานั่งเครียดอยู่แบบนี้หรอก แล้วตอนนี้ถ้าผู้ถือหุ้นขอถอนหุ้นหมด เราจะไปหาเงินที่ไหนมาจ่ายในเมื่อทุนสำรองเรามีแต่ตัวเลขทั้งไตรมาส""รันว่าอะไรนะ กว้านซื้อคืนไปขายให้โบรกเกอร์หมด" คุณหญิงว่าหน้าซีดเผือดเพราะผู้ถือหุ้นบางรายเป็นพันธมิตรร่วมก่อตั้งโรงทอกับพ่อและปู่ของสรัญมาตั้งแต่เริ่ม ถ้ากว้านซื้อคืนนั่นหมายถึงการตัดสัมพันธ์ทางการค้าที่เด็ดขาดและไม่ไว้ห
กลางดึกคืนนั้นที่หน้าบ้านของท่านอัฐ รถตู้ 2 คันวิ่งเข้ามาจอดพร้อม ๆ กัน เสียงหมาข้างบ้านเห่ากับแสงไฟที่สาดเข้าไปในบ้านทำให้ภรรยาเจ้าของบ้านที่นอนรอสามีกับหลานชายอยู่ที่โซฟาหน้าทีวีงัวเงียตื่นแล้วเดินออกไปที่หน้าบ้านเพ่งมองผู้มาเยือนยามวิกาล ขณะที่เธออยู่บ้านคนเดียวแบบนี้ "มาทำไมดึกดื่น อย่าบอกนะว่าเรื่องตาโรมน่ะ หึ! เป็นลูกเขยอิเตือนตาแล้วไม่คืนนะคะ ทั้งน่ารัก นิสัยดีขนาดนี้" ว่าพลางเดินกลับไปหยิบมือถือโทรออกหาสามีแล้วเดินไปแอบในครัวหลังบ้านเพื่อพูดสาย "ฮัลโหลพี่อัฐ คุณหญิงกับคุณใหญ่มาค่ะ แต่มากันรถคนละคันน่ะพี่ แปลก ๆ" คุณนายเตือนตาเอ่ยบอกสามีทันทีที่ท่านรับสาย'หึ! เต้นกันล่ะสิ ออกไปรับเถอะแล้วอย่าบอกนะว่าเจ้าโรมอยู่ที่นี่เดี๋ยวคืนนี้พี่จะให้เจ้าโรมนอนที่ค่ายกับเด็ก ๆ ถ้าใครถามก็บอกว่าโรมไม่ได้อยู่ที่นี่นะ พี่อยากรู้ว่าจะมาทำไม' ท่านอัฐเอ่ยสั่งภรรยาพร้อมกับมองหน้าหลานชายที่กำลังขับรถกลับบ้าน"ได้พี่แล้วถามโรมหน่อยมีอะไรอยู่ข้างล่างบ้างมั้ยเตือนจะได้เก็บขึ้นไปไว้บนห้องให้ลูก" คุณนายเตือนตาเรียกชายหนุ่มว่าลูกเต็มปากเต็มคำท่านอัฐหันไปถามหลานชายก่อนจะตอบภรรยามาตามสาย 'ไม่มีหรอก เออ...
"พี่อัฐครับ ผมขอโทษ ผมสำนึกผิดจริง ๆ ครับ ที่ผมมานี่ผมไม่ได้มาเพราะอยากให้โรมช่วยโรงทอหรอกครับ ผมแค่อยากขอโทษลูกจริง ๆ ส่วนโรงทอมันจะเจ้งมันจะล่มก็แล้วแต่บุญกรรม เพราะผมถือว่าผมไว้ใจคนผิด ผมทำเรื่องโอนหุ้นที่ผมถือทั้งหมดของโรงทอให้เจ้าโรมวันนั้น ผมเพิ่งเห็นเอกสารที่เลขาเจ้ารันลืมวางไว้ในห้องประชุมว่าเจ้ารันมันเปลี่ยนเอกสารโอนให้เจ้าโรมแค่ 5 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีกใบเป็นชื่อของมันรอแต่ตราประทับกับลายเซ็นผมมันก็จะถือหุ้นได้ใหญ่ที่สุดในบริษัท พี่อัฐ... ผมสาบานว่าผมต้องการมาขอโทษลูกแค่นั้นจริง ๆ ครับ สิ่งที่หญิงทำกับลูกผมไม่เคยได้สนับสนุนแต่ยอมรับว่าไม่ได้ขัดเพราะไม่อยากมีปัญหา ผมกลับมาจากทำงานก็อยากได้ยินคำพูดดี ๆ จากที่บ้าน อยากเห็นครอบครัวอบอุ่น" คุณศาสตรานั่งลงกับพื้นพร้อมทั้งพนมมือไหว้พี่ชายภรรยาอย่างรู้สึกผิดที่สุดในชีวิต ซึ่งคนที่ยืนฟังอยู่ด้านนอก ล้วงมือถือออกมากดส่งอีเมล์ออกไปแล้วยืนฟังคำพูดของพ่อกับแม่ต่ออย่างใจเย็น"หึ! ตลก ครอบครัวอบอุ่นเหรอ แล้วเจ้าโรมมันได้เคยได้อุ่นมั่งมั้ยล่ะ กลับมาบ้านก็ได้ยินเสียงประชดประชันกระแนะกระแหนนี่มันอบอุ่นมั้ย คิดถึงจิตใจลูกบ้างหรือเปล่า" ท่านอัฐพูด
"อืม... ก็ตามใจแล้วกัน แล้วรถนี่ซื้อมาทำไมล่ะจะเอามาจอดทิ้งไว้นี่?" ท่านอัฐเอ่ยถามอย่างสงสัยเพราะเห็นว่าโรมมีรถหลายคัน แต่ทำไมถึงซื้อกระบะเพิ่มแล้วบอกว่าตัวเองไม่ค่อยได้ขับกระบะเลยจะทิ้งไว้ให้ใช้งานที่นี่"ใครว่าผมอยากซื้อล่ะครับ โดนเอามาประเคนถึงร้านเลยต่างหาก พอดีน้องรหัสไอ้เทนมันจะเลื่อนขั้นเป็นผู้จัดการศูนย์แต่ขาดยอด 2 คัน พวกผมเลยโดนบังคับซื้อกันคนละคัน ไอ้เทนมันเอารถเก๋งให้เมียมันขับ ส่วนผมไม่รู้จะซื้อมาทำอะไรเลยบอกมันว่าเอาราคาถูก ๆ มันเลยเลือกคันนี้มาให้" ชายหนุ่มตอบที่มาของรถขำ ๆ "เออ... แล้ววันนี้เจ้าตัวแสบเขาจะกลับมาแล้วนะ เห็นว่าสอบเสร็จเที่ยงก็จะพากันออกมาเลย แวะส่งเจ้าปอก่อนถึงจะกลับบ้านจะได้ไม่ดึกว่างั้น เห็นโทรมาบอกแม่เขาเมื่อเช้า" ท่านอัฐบอกหลานชายยิ้ม ๆ "งั้นคืนนี้ผมก็ต้องลงมานอนห้องข้างล่างแล้วสิครับ เจ้าของห้องจะมาแล้ว" ชายหนุ่มเอ่ยตอบพร้อมกับถอนหายใจ เพราะเมื่อเช้าเขาไปที่ตลาดกับบอยนักมวยในค่าย เขาเห็นผู้หญิงที่เจ้าขาหอมแก้มกลางห้างเดินอยู่กับแม่ของเธอที่ตลาด"เฮ้ย! แม่เขาไม่ได้สั่งก็นอนที่เดิมนั่นแหละ ไม่อยากรู้เหรอว่าปลาไหลอย่างไอ้ตัวแสบเจ้าลูกสาวคุณนายเตือนตา
โรมเดินออกมาจากหลังม่านพร้อมกับส่งไลน์ไปบอกผู้เป็นลุงว่าเจ้าขากลับมาถึงบ้านแล้ว ก่อนจะยืนขำกับความไม่สังเกตสังกาของหญิงสาว ที่ข้าวของของเขาบางส่วนก็ยังวางอยู่ในห้อง โดยที่เขาไม่คิดจะเก็บ ครู่ต่อมาเจ้าขาเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่พันตัวแค่ผืนเดียว ผมยาวสลวยของเธอถูกรวบและหนีบด้วยกิ๊บตัวใหญ่อยู่กลางหัว ก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะเครื่องแป้งแล้วมองบรรดาครีมต่าง ๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะ "หรือว่าแม่ทะเลาะกับพ่อแยกห้องนอนอีกแล้ววะ แล้วครีมเพียบไม่รู้อะไรเป็นอะไรเยอะแยะเป็นโต๊ะอิป๋าเลย" ว่าพลางหยิบครีมคุ้นตาที่เธอเคยเห็นบนโต๊ะของโรมในห้องนอนที่ร้านมาดู "ผู้หญิงก็ใช้ได้ผู้ชายก็ใช้ได้งั้นเหรอ (เปิดออกดม) ก็หอมดีหรอกแต่ทาตรงไหนล่ะนี่ เฟช??...ช่างแม่งเหอะ" ว่าพลางวางลงแล้วลุกขึ้นเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าที่ตอนนี้โรมแอบมองเธออยู่ในนั้น "เชี้ย! หลอนเหรอวะเนี่ย" หญิงสาวอุทานเสียงดังเมื่อเปิดตู้แล้วเจอหน้าโรมยิ้มอยู่ในนั้นก่อนจะปิดตู้ทันทีอย่างตกใจแล้วตั้งสติค่อย ๆ เปิดประตูตู้อีกรอบ"ไง คิดถึงผัวจนหลอนเลยเหรอ" ชายหนุ่มเอ่ยทักพร้อมกับก้าวออกมาจากตู้แล้วสวมกอดคนตัวเล็กอย่างคิดถึงก่อนจะกดหอมแก้มป่
"ให้ไปอ่านหนังสือสอบ ไม่ใช่ให้ไปหาวิชาปราบผัว" ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับสะโพกที่ขยับอย่างต่อเนื่อง "ซี้ด...เจ้าอย่ารัด" ชายหนุ่มครางยาวแล้วลงประกบจูบ เอวหนาสาวขึ้นลงอย่างบ้าคลั่ง คนใต้ร่างเสียวสะท้านทุกจังหวะที่แก่นกายเข้าไปกระทบผนังด้านในสุด เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้อง เมื่อทั้งคู่ใกล้ถึงฝั่ง ร่างบางเกร็งกระตุกถี่ตอดรัดแก่นกาย แล้วหอบหายใจแรง ๆ จนอกกระเพื่อม เอวหนาเร่งส่งแรงกระแทกกระทั้นส่งตัวเองเสร็จสมตามหญิงสาวไปไม่ห่างกัน ส่งลาวาสีขาวขุ่นพวยพุ่งเข้าร่องสาวแล้วกดแช่ไว้อย่างตั้งใจ "อ่า...เมียพี่สุดยอด" คนตัวโตเอ่ยชมพร้อมกับก้มลงกดหอมที่หน้าผากชื้นเหงื่อแรง ๆ"งือ ออกไปได้แล้ว อิคนบ้าพลัง" หญิงสาวว่าพลางทุบอกแกร่งอาย ๆ"เข้าแล้วไม่มีออกถ้าไม่หมดแม็ก แต่คืนนี้น่าจะสว่างคาตาเพราะคนแถวนี้ปล่อยพี่อดมาหลายวัน" ชายหนุ่มว่าพร้อมกับขยับสะโพกเบา ๆ"อ๊ะ! พี่ ยะ อย่าเพิ่งขยับ อูย..." หญิงสาวรีบทัดทานขึ้นพร้อมกับสูดปากเมื่อรู้สึกว่าสิ่งแปลกปลอมที่อยู่กลางกายเริ่มขยับขยายขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย มือบางดันอกแกร่งไว้ทั้ง 2 ข้าง"ไม่ทันแล้วครับ ตัวเล็ก
"ให้ไปอ่านหนังสือสอบ ไม่ใช่ให้ไปหาวิชาปราบผัว" ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับสะโพกที่ขยับอย่างต่อเนื่อง "ซี้ด...เจ้าอย่ารัด" ชายหนุ่มครางยาวแล้วลงประกบจูบ เอวหนาสาวขึ้นลงอย่างบ้าคลั่ง คนใต้ร่างเสียวสะท้านทุกจังหวะที่แก่นกายเข้าไปกระทบผนังด้านในสุด เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้อง เมื่อทั้งคู่ใกล้ถึงฝั่ง ร่างบางเกร็งกระตุกถี่ตอดรัดแก่นกาย แล้วหอบหายใจแรง ๆ จนอกกระเพื่อม เอวหนาเร่งส่งแรงกระแทกกระทั้นส่งตัวเองเสร็จสมตามหญิงสาวไปไม่ห่างกัน ส่งลาวาสีขาวขุ่นพวยพุ่งเข้าร่องสาวแล้วกดแช่ไว้อย่างตั้งใจ "อ่า...เมียพี่สุดยอด" คนตัวโตเอ่ยชมพร้อมกับก้มลงกดหอมที่หน้าผากชื้นเหงื่อแรง ๆ"งือ ออกไปได้แล้ว อิคนบ้าพลัง" หญิงสาวว่าพลางทุบอกแกร่งอาย ๆ"เข้าแล้วไม่มีออกถ้าไม่หมดแม็ก แต่คืนนี้น่าจะสว่างคาตาเพราะคนแถวนี้ปล่อยพี่อดมาหลายวัน" ชายหนุ่มว่าพร้อมกับขยับสะโพกเบา ๆ"อ๊ะ! พี่ ยะ อย่าเพิ่งขยับ อูย..." หญิงสาวรีบทัดทานขึ้นพร้อมกับสูดปากเมื่อรู้สึกว่าสิ่งแปลกปลอมที่อยู่กลางกายเริ่มขยับขยายขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย มือบางดันอกแกร่งไว้ทั้ง 2 ข้าง"ไม่ทันแล้วครับ ตัวเล็ก
โรมเดินออกมาจากหลังม่านพร้อมกับส่งไลน์ไปบอกผู้เป็นลุงว่าเจ้าขากลับมาถึงบ้านแล้ว ก่อนจะยืนขำกับความไม่สังเกตสังกาของหญิงสาว ที่ข้าวของของเขาบางส่วนก็ยังวางอยู่ในห้อง โดยที่เขาไม่คิดจะเก็บ ครู่ต่อมาเจ้าขาเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่พันตัวแค่ผืนเดียว ผมยาวสลวยของเธอถูกรวบและหนีบด้วยกิ๊บตัวใหญ่อยู่กลางหัว ก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะเครื่องแป้งแล้วมองบรรดาครีมต่าง ๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะ "หรือว่าแม่ทะเลาะกับพ่อแยกห้องนอนอีกแล้ววะ แล้วครีมเพียบไม่รู้อะไรเป็นอะไรเยอะแยะเป็นโต๊ะอิป๋าเลย" ว่าพลางหยิบครีมคุ้นตาที่เธอเคยเห็นบนโต๊ะของโรมในห้องนอนที่ร้านมาดู "ผู้หญิงก็ใช้ได้ผู้ชายก็ใช้ได้งั้นเหรอ (เปิดออกดม) ก็หอมดีหรอกแต่ทาตรงไหนล่ะนี่ เฟช??...ช่างแม่งเหอะ" ว่าพลางวางลงแล้วลุกขึ้นเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าที่ตอนนี้โรมแอบมองเธออยู่ในนั้น "เชี้ย! หลอนเหรอวะเนี่ย" หญิงสาวอุทานเสียงดังเมื่อเปิดตู้แล้วเจอหน้าโรมยิ้มอยู่ในนั้นก่อนจะปิดตู้ทันทีอย่างตกใจแล้วตั้งสติค่อย ๆ เปิดประตูตู้อีกรอบ"ไง คิดถึงผัวจนหลอนเลยเหรอ" ชายหนุ่มเอ่ยทักพร้อมกับก้าวออกมาจากตู้แล้วสวมกอดคนตัวเล็กอย่างคิดถึงก่อนจะกดหอมแก้มป่
"อืม... ก็ตามใจแล้วกัน แล้วรถนี่ซื้อมาทำไมล่ะจะเอามาจอดทิ้งไว้นี่?" ท่านอัฐเอ่ยถามอย่างสงสัยเพราะเห็นว่าโรมมีรถหลายคัน แต่ทำไมถึงซื้อกระบะเพิ่มแล้วบอกว่าตัวเองไม่ค่อยได้ขับกระบะเลยจะทิ้งไว้ให้ใช้งานที่นี่"ใครว่าผมอยากซื้อล่ะครับ โดนเอามาประเคนถึงร้านเลยต่างหาก พอดีน้องรหัสไอ้เทนมันจะเลื่อนขั้นเป็นผู้จัดการศูนย์แต่ขาดยอด 2 คัน พวกผมเลยโดนบังคับซื้อกันคนละคัน ไอ้เทนมันเอารถเก๋งให้เมียมันขับ ส่วนผมไม่รู้จะซื้อมาทำอะไรเลยบอกมันว่าเอาราคาถูก ๆ มันเลยเลือกคันนี้มาให้" ชายหนุ่มตอบที่มาของรถขำ ๆ "เออ... แล้ววันนี้เจ้าตัวแสบเขาจะกลับมาแล้วนะ เห็นว่าสอบเสร็จเที่ยงก็จะพากันออกมาเลย แวะส่งเจ้าปอก่อนถึงจะกลับบ้านจะได้ไม่ดึกว่างั้น เห็นโทรมาบอกแม่เขาเมื่อเช้า" ท่านอัฐบอกหลานชายยิ้ม ๆ "งั้นคืนนี้ผมก็ต้องลงมานอนห้องข้างล่างแล้วสิครับ เจ้าของห้องจะมาแล้ว" ชายหนุ่มเอ่ยตอบพร้อมกับถอนหายใจ เพราะเมื่อเช้าเขาไปที่ตลาดกับบอยนักมวยในค่าย เขาเห็นผู้หญิงที่เจ้าขาหอมแก้มกลางห้างเดินอยู่กับแม่ของเธอที่ตลาด"เฮ้ย! แม่เขาไม่ได้สั่งก็นอนที่เดิมนั่นแหละ ไม่อยากรู้เหรอว่าปลาไหลอย่างไอ้ตัวแสบเจ้าลูกสาวคุณนายเตือนตา
"พี่อัฐครับ ผมขอโทษ ผมสำนึกผิดจริง ๆ ครับ ที่ผมมานี่ผมไม่ได้มาเพราะอยากให้โรมช่วยโรงทอหรอกครับ ผมแค่อยากขอโทษลูกจริง ๆ ส่วนโรงทอมันจะเจ้งมันจะล่มก็แล้วแต่บุญกรรม เพราะผมถือว่าผมไว้ใจคนผิด ผมทำเรื่องโอนหุ้นที่ผมถือทั้งหมดของโรงทอให้เจ้าโรมวันนั้น ผมเพิ่งเห็นเอกสารที่เลขาเจ้ารันลืมวางไว้ในห้องประชุมว่าเจ้ารันมันเปลี่ยนเอกสารโอนให้เจ้าโรมแค่ 5 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีกใบเป็นชื่อของมันรอแต่ตราประทับกับลายเซ็นผมมันก็จะถือหุ้นได้ใหญ่ที่สุดในบริษัท พี่อัฐ... ผมสาบานว่าผมต้องการมาขอโทษลูกแค่นั้นจริง ๆ ครับ สิ่งที่หญิงทำกับลูกผมไม่เคยได้สนับสนุนแต่ยอมรับว่าไม่ได้ขัดเพราะไม่อยากมีปัญหา ผมกลับมาจากทำงานก็อยากได้ยินคำพูดดี ๆ จากที่บ้าน อยากเห็นครอบครัวอบอุ่น" คุณศาสตรานั่งลงกับพื้นพร้อมทั้งพนมมือไหว้พี่ชายภรรยาอย่างรู้สึกผิดที่สุดในชีวิต ซึ่งคนที่ยืนฟังอยู่ด้านนอก ล้วงมือถือออกมากดส่งอีเมล์ออกไปแล้วยืนฟังคำพูดของพ่อกับแม่ต่ออย่างใจเย็น"หึ! ตลก ครอบครัวอบอุ่นเหรอ แล้วเจ้าโรมมันได้เคยได้อุ่นมั่งมั้ยล่ะ กลับมาบ้านก็ได้ยินเสียงประชดประชันกระแนะกระแหนนี่มันอบอุ่นมั้ย คิดถึงจิตใจลูกบ้างหรือเปล่า" ท่านอัฐพูด
กลางดึกคืนนั้นที่หน้าบ้านของท่านอัฐ รถตู้ 2 คันวิ่งเข้ามาจอดพร้อม ๆ กัน เสียงหมาข้างบ้านเห่ากับแสงไฟที่สาดเข้าไปในบ้านทำให้ภรรยาเจ้าของบ้านที่นอนรอสามีกับหลานชายอยู่ที่โซฟาหน้าทีวีงัวเงียตื่นแล้วเดินออกไปที่หน้าบ้านเพ่งมองผู้มาเยือนยามวิกาล ขณะที่เธออยู่บ้านคนเดียวแบบนี้ "มาทำไมดึกดื่น อย่าบอกนะว่าเรื่องตาโรมน่ะ หึ! เป็นลูกเขยอิเตือนตาแล้วไม่คืนนะคะ ทั้งน่ารัก นิสัยดีขนาดนี้" ว่าพลางเดินกลับไปหยิบมือถือโทรออกหาสามีแล้วเดินไปแอบในครัวหลังบ้านเพื่อพูดสาย "ฮัลโหลพี่อัฐ คุณหญิงกับคุณใหญ่มาค่ะ แต่มากันรถคนละคันน่ะพี่ แปลก ๆ" คุณนายเตือนตาเอ่ยบอกสามีทันทีที่ท่านรับสาย'หึ! เต้นกันล่ะสิ ออกไปรับเถอะแล้วอย่าบอกนะว่าเจ้าโรมอยู่ที่นี่เดี๋ยวคืนนี้พี่จะให้เจ้าโรมนอนที่ค่ายกับเด็ก ๆ ถ้าใครถามก็บอกว่าโรมไม่ได้อยู่ที่นี่นะ พี่อยากรู้ว่าจะมาทำไม' ท่านอัฐเอ่ยสั่งภรรยาพร้อมกับมองหน้าหลานชายที่กำลังขับรถกลับบ้าน"ได้พี่แล้วถามโรมหน่อยมีอะไรอยู่ข้างล่างบ้างมั้ยเตือนจะได้เก็บขึ้นไปไว้บนห้องให้ลูก" คุณนายเตือนตาเรียกชายหนุ่มว่าลูกเต็มปากเต็มคำท่านอัฐหันไปถามหลานชายก่อนจะตอบภรรยามาตามสาย 'ไม่มีหรอก เออ...
"มันเรื่องอะไรกันแม่งงไปหมดแล้วนะรัน" คุณหญิงรวิดาถามลูกชายคนโตงง ๆ"ก็หุ้นโรงทอของเราที่โบรกเกอร์ใหญ่ในต่างประเทศช้อนซื้อไงแม่ ผมเห็นว่าราคาดีผมเลยเสนอขายเพิ่มไปจาก 30 เป็น 60 ปีที่แล้วเราได้กำไรกันเกือบพันล้านในตลาด แต่เมื่อวานทางนั้นเทขายไป 60 เปอร์เซ็นต์ของหุ้นที่ถือแล้วเมื่อกี๊ก็เทอีก 20 ผู้ลงทุนในไทยเริ่มเพ็งเล็งเราแถมคณะกรรมการยังยื่นจดหมายของถอนหุ้นออกเกือบหมดเพราะกลัวราคาจะดิ่งกว่านี้ถ้าไซอาร์หรือเอ็มท่าปล่อยในมือที่เหลือ" สรัญว่าเสียงเครียดพร้อมกับมองมือตัวเอง"แล้วมันจะกระทบเยอะขนาดนั้นเลยหรือไงในเมื่อในไทยเราก็มีผู้ถือหุ้นย่อยอยู่" คุณหญิงว่าตามความเข้าใจของตัวเอง"มีที่ไหนล่ะผมกว้านซื้อคืนแล้วขายให้ 2 บริษัทไปหมดแล้ว ไม่งั้นไม่มานั่งเครียดอยู่แบบนี้หรอก แล้วตอนนี้ถ้าผู้ถือหุ้นขอถอนหุ้นหมด เราจะไปหาเงินที่ไหนมาจ่ายในเมื่อทุนสำรองเรามีแต่ตัวเลขทั้งไตรมาส""รันว่าอะไรนะ กว้านซื้อคืนไปขายให้โบรกเกอร์หมด" คุณหญิงว่าหน้าซีดเผือดเพราะผู้ถือหุ้นบางรายเป็นพันธมิตรร่วมก่อตั้งโรงทอกับพ่อและปู่ของสรัญมาตั้งแต่เริ่ม ถ้ากว้านซื้อคืนนั่นหมายถึงการตัดสัมพันธ์ทางการค้าที่เด็ดขาดและไม่ไว้ห
มหาวิทยาลัย บีรถสปอร์ตสีแดงคันหรูวิ่งเขามาจอดหน้าตึกคณะบริหาร ชายร่างสันทัดแต่งตัวด้วยชุดสูททำงานสีทึบเปิดประตูลงมาจากรถแล้วเดินมานั่งลงตรงข้ามกับหญิงสาวที่กำลังนั่งอ่านหนังสือรอเพื่อนที่ยังไม่ออกจากห้องสอบอยู่ด้านล่าง เจ้าขาเงยหน้ามองลูกชายคนโตของอาก่อนจะขมวดคิ้วกับท่าทางของชายหนุ่มแต่ก็ยกมือไหว้ตามมารยาท"สวัสดีค่ะพี่รัน มาธุระแถวนี้หรือคะ" หญิงสาวทักทายพร้อมกับพยายามยิ้ม"พี่ติดต่อไอ้โรมไม่ได้ พี่เลยมาถามเจ้าว่าตอนนี้มันอยู่ไหน" สรัญเอ่ยถามสีหน้าร้อนรน"พี่โรมบอกว่าไปต่างจังหวัดค่ะแต่ไม่ได้บอกว่าไปไหน" หญิงสาวว่าพลางนึกถึงบทสนทนาของสรัญกับโรมในคืนนั้นและพอเดาได้ว่าที่สรัญติดต่อโรมไม่ได้อาจเพราะโรมเบื่อหน่ายผู้ชายคนนี้เหมือนที่ตอนนี้เธอกำลังเบื่อกับน้ำเสียงแฝงด้วยคำสั่งของเขา"เจ้าโทรหามันให้หน่อยสิ พอดีมือถือพี่แบตหมดน่ะ" สรัญว่าพลางทำท่ามองไปทางอื่น*หึ! ไม่เนียนว่ะ* "เจ้าโทรไม่ได้หรอกพี่ เจ้าไม่มีเบอร์พี่โรมค่ะ" สมองคิดอย่างแต่ปากก็ตอบไปอีกอย่างแต่ก็เป็นความจริงที่เธอไม่มีเบอร์ของโรม"ฮะ! ไม่มีเบอร์" สรัญอุทานเหมือนไม่อยากเชื่อ "พี่ไม่เชื่อหรอกนะเจ้าว่าเจ้าจะไม่มีเบอร์มัน พี่เห็
3 วันต่อมาขณะที่โรมกำลังนั่งทำงานอยู่ที่หน้าบ้านของท่านอัฐ เสียงมือถือของโรมดังขึ้นไม่หยุด ทำให้ชายหนุ่มถึงกับถอนหายใจแล้วทำท่าจะไม่สนใจ แต่ท่านอัฐที่กลับเข้ามาทานข้าวที่บ้านตอนเที่ยง ที่ยืนดูอยู่ซักระยะกลับขมวดคิ้วก่อนจะตัดสินใจเอ่ยขึ้น"ทำไมไม่รับสายล่ะลูกเผื่อมีเรื่องสำคัญ" ท่านอัฐว่าพลางเดินมานั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม"งั้นเดี๋ยวลุงฟังนะครับ" ชายหนุ่มว่ายิ้ม ๆ พร้อมกับกดรับสายเปิดลำโพงให้ลุงได้ยินบทสนทนานั่นด้วย'รับซักทีนะไอ้สัตว์ มึงอยู่ไหน กูโทรหามึงเป็น 10 สาย มึงไปตายที่ไหน' เสียงเกรี้ยวกราดของสรัญดังมาตามสายทำเอาท่านอัฐขมวดคิ้ว เพราะตั้งแต่ท่านรู้จักกับสรัญมาเขาเป็นที่พูดจานอบน้อมไม่เคยมีคำหยาบนอกจากกูมึง"กูมาทำงาน" โรมเอ่ยตอบเหมือนเป็นเรื่องปกติ'ทำงานบ้าอะไร มึงไม่เช็คหุ้นเหรอ ไซอาร์(si-R) กับเอ็มท่า(M.ta) ประกาศขายหุ้นเราออก 60 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้ราคาในตลาดดิ่งลง 4 จุด กรรมการก็เริ่มจะไม่พอใจกูแล้ว มึงต้องรีบจัดการก่อนที่โรงทอจะเหลือแต่ชื่อ' สรัญออกคำสั่งน้องชายเสียงดังทำให้ท่านอัฐมองหน้าโรมนิ่ง ๆ "แล้วกูจะทำอะไรได้ กูเคยเตือนมึงแล้วว่าอย่าเทขายให้แค่ 2 บริษัทแต่มึงไม่
"เออ...เว้ย! ใจนักเลงใช้ได้เลยว่ะ ทำเองมาขอโทษเอง กูล่ะชอบหัวใจหลานกูจริง ๆ แล้วมาบอกแบบนี้แล้วจะทำยังไงต่อไปล่ะ" ท่านอัฐตบเข่าฉาดอย่างชอบใจพร้อมกับหัวเราะเหมือนไม่ใช่ร้ายแรง แต่ในใจก็แอบแกว่งเมื่อมองสีหน้าเรียบนิ่งของภรรยาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ"ก็...ยังไม่รู้เลยครับแต่ว่ามาบอกก่อน เพราะผมคิดว่าวัน 2 วันนี้ไอ้รันมันต้องบอกแม่แน่ ตอนมันเอาเอกสารที่ผมไปดีลกับลูกค้ามาให้ผมเซ็นแล้วมันได้ยินเสียงเจ้าอยู่ในห้อง" โรมบอกสิ่งที่ตัวเองคาดคิดและรู้นิสัยของพี่ชายดี "อืม...เอาไงดีล่ะแม่มึง คันเบ็ดมั้ย" ท่านอัฐพยักหน้าแล้วหันไปถามภรรยาเหมือนปรึกษา"โอ๊ะ! นี่ก็จะให้โหดตลอด เดี๋ยวคนอื่นจะว่าเตือนไม่ดีเอาล่ะ จะทำไงได้ล่ะคะ ในเมื่อมันถอยไม่ได้แล้วนี่เขาได้กันไปแล้วไม่ใช่ยังไม่ได้ แล้วมาบอกแบบนี้คิดจะทำยังไงต่อไปล่ะลูก" คุณนายเตือนตาหันไปโวยสามีเสียงดังแล้วหันมาถามหลานชายสามีอีกโทนเสียง"ผมพร้อมรับผิดชอบสิ่งที่ผมทำครับป้า ตอนนี้ผมไม่มีภาระ ไม่มีคนผูกพันธ์หรือคบหา หนี้สินก็ใช้หมดแล้ว ผมสามารถส่งน้องเรียนได้สูงที่สุดเท่าที่น้องต้องการและดูแลให้อยู่ดีสุขสบายได้ไม่ขัดสนครับ" ชายหนุ่มเอ่ยตอบตามความคิดตัวเอง"แค