ณ โรงพยาบาลคนที่มาถึงก่อนเป็นคนแรกคือรุ่นพี่ที่มหาลัยโอโซนนั่งจ้องหน้าของเปียโนเขม็งสิ่งที่เขาอยากถามมากที่สุดคือการหายตัวไปของสาวตรงหน้า แต่พอปากจะขยับเอ่ยถามเปียโนก็ตัดบทลงเสียก่อน"ขอบคุณพี่โซนมากนะคะที่เป็นธุระจัดการห้องพักให้พ่อ และขอบคุณพี่อีกครั้งเรื่องพยาบาลพิเศษเอาไว้เปียมีเงินเมื่อไหร่จะใช้พี่คืน"คำพูดของเธอทำเอาหนุ่มหล่อทายาทนักธุรกิจต้องพ่นลมร้อนออกจากปาก เขาไม่ได้ต้องการเงินคืนแม้แต่น้อยแต่สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดน่าจะเป็นความสัมพันธ์ของเธอและเขามากกว่า"เปีย พี่รู้เรื่องแล้วนะที่เปียไปทำงานที่เลานจ์""ค่ะ?""พี่บอกตามตรงว่าพี่ไม่โอเคสักนิด พี่ไม่ชอบให้เปียไปอยู่ในสถานที่แบบนั้น พี่เคยเสนอไปแล้วเรื่องงานหากอยากทำงานทำไมไม่บอกพี่ละ""เอ่อ คือเปียเกรงใจพี่""และอีกอย่าง พี่ไม่รู้ว่าเปียเอาเงินค่าผ่าตัดมากมายมาจากไหน หากเปียไปกู้มาละก็ พี่ยินดีใช้หนี้แทน ส่วนงานก็เข้าไปทำที่บริษัทพี่ได้เลย"สิ่งที่โอโซนไม่รู้คือจำนวนเงินมากมายนั้นเปียโนเธอได้มาจากที่ไหน แต่สิ่งที่เขาคิดคือเปียโนน่าจะกู้มา ส่วนหญิงสาวเธอไม่ได้พูดอะไรมากมายกลัวว่าคนที่นั่งตรงหน้าจะจับพิรุธเธอได้"เปียต้องข
วันต่อมาแมงเม่านั่งอุ้มน้องแมวตัวสีขาวอยู่ที่ม้านั่งภายในรั่วมหาลัย แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันหยุดแต่เธอก็จำเป็นต้องนัดโอโซนออกมาพบเพราะต้องการให้เขาช่วยเหลือเรื่องการเลี้ยงดูสำลี ไม่นานนักร่างสูงใบหน้าหล่อเหลาดูสะอาดเกลี้ยงเกลาก็เดินเข้ามาที่โต๊ะของแมงเม่า"นัดพี่มามีอะไร" เขาถามก็จริงแต่สายตามองไปที่แมวตัวสีขาวที่อยู่ในอ้อมกอดของแมงเม่า"พี่เห็นแล้วใช่ไหมว่านี่คือแมว คือหนูจะบอกว่าแมวตัวนี้เป็นแมวของเปียโน ตอนนี้คุณลุงก็ป่วยเปียโนก็ต้องทำงานยัยเปียไม่กล้ารบกวนพี่ หนูเลยอาสาเอามาฝากพี่เลี้ยงไว้ก่อนได้ไหม หากคุณลุงดีขึ้น เดี๋ยวหนูจะเอาไปคืนเปียเอง"โอโซนไม่ได้พูดโต้ตอบแต่ก็อุตส่าห์เอื้อมมือมาอุ้มสำลีไปอยู่ในอ้อมกอดตัวเอง (เหมียว)"น่ารักดี น่ารักเหมือนเจ้าของ" สิ่งที่แมงเม่าได้ยินทำเอาเธอต้องเบ้ปากแต่ก็ไม่ได้พูดแทรกปล่อยให้ชายหนุ่มร่างสูงได้เชยชมแมวน้อยน่ารัก"ว่าแต่ เปียเขาไม่อยากไปทำงานที่อื่นบ้างหรือไง พี่ก็เสนอไปแล้วแท้ ๆ ""ขอเวลาให้มันหน่อยแล้วกัน อีกอย่างมันคงไม่ได้ไปทำที่เลานจ์แล้วละ ป่านนี้ก็คงมีงานที่ใหม่""งานที่ใหม่อย่างนั้นเหรอ ทำไมเขาไม่บอกพี่สักคำ""ก็คงไม่อยากให้พี่เสียใจม
สวนดอกไม้กว้างใหญ่ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วบริเวณนั้น เปียโนเข้ามาอยู่ที่บ้านของออสตินได้สองวันแล้ว ตั้งแต่ที่เขาออกคำสั่งไม่ให้เธอไปทำงานที่เลานจ์ ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอจะเป็นบุคคลว่างงาน ไม่รู้ว่าจะไปสมัครงานที่ไหนร่างเล็กยืนอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ในบ้านของเขา ส่วนเจ้าของคฤหาสน์หรูก็คงออกไปทำงานที่เขาต้องรับผิดชอบ ส่วนนิลภพพ่อของเธอก็ยังไม่ได้ออกจากโรงพยาบาลคนที่ทำหน้าที่แวะเวียนไปดูแลก็คือแมงเม่าและโอโซนระหว่างที่ยืนเหม่ออยู่นั้น เสียงมือถือของเธอก็ดังขึ้นครืด ครืด มือเล็กล้วงมือถือที่เก็บไว้ในกระเป๋ากางเกง เมื่อเห็นว่าเบอร์ที่ต่อสายเข้ามาเป็นเบอร์ของโอโซน เปียโนเลยรีบตัดสินใจรับ"สวัสดีค่ะ"(เปียยุ่งอยู่หรือเปล่า พี่โทรหาเปียก็ไม่ค่อยรับสาย แล้วนี่ทำงานอยู่ที่ไหน)"ก็ แถว ๆ พุทธมณฑลค่ะ"(แล้วพรุ่งนี้จะได้มารับคุณลุงออกจากโรงพยาบาลไหม)"พ่อออกจากโรงพยาบาลพรุ่งนี้เหรอคะ เมื่อวานหนูก็โทรถามทางโรงพยาบาลทำไมคุณหมอไม่เห็นบอกอะไร"(เขาพึ่งจะบอกพี่เมื่อเช้าเหมือนกัน)"พี่โซนคะ หากเปียไม่ได้ไปฝากพี่เป็นธุระด้วยนะคะ"(งานยุ่งมากเลยเหรอ พี่ว่ามาทำงานกับพี่ไม่ดีกว่าหรือไง อีกอย่างจะได้อยู่ใกล้พ่
"พ่ออย่าเป็นอะไรนะคะ ฮือ..ฮึก"หญิงสาวในชุดลำลองสบายสวมกางเกงวอร์มและเสื้อยืดวิ่งตามเปลพยาบาลที่กำลังเข็นพ่อของเธอเข้าห้องฉุกเฉินนิลภพวัยห้าสิบหกปีอดีตนักธุรกิจอสังหาฯ ที่เคยร่ำรวยอู้ฟู่ต้องประสบอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักหลังจากที่กลับมาจากคุยธุระเรื่องคดีของเขาหากจะย้อนกลับไปเมื่อหลายเดือนก่อน นิลภพเป็นนักธุรกิจอสังหาฯ ที่พอมีชื่อเสียงอยู่บ้างแต่ด้วยเหตุผิดพลาดทางหน้าที่การงานจึงทำให้เขากลายเป็นบุคคลล้มละลายแถมยังมีหนี้สินจนท่วมหัวส่วนลูกสาวเพียงคนเดียวก็กำลังศึกษาระดับมหาวิทยาลัยปีสาม ด้านภรรยานั้นเสียชีวิตไปตั้งแต่ลูกสาวยังเล็กด้วยโรคประจำตัว'เปียโน' ลูกสาวอันเป็นที่รักและยังเป็นทุกอย่างของนิลภพเขายอมทำงานหนักเพื่อเลี้ยงลูกอยากให้ลูกสาวสุขสบายเพราะเขาคิดว่าลูกขาดแม่จึงอยากเติมเต็มให้ทุกอย่าง แต่ใครจะไปคิดละว่าบริษัทจะถึงคราวเคราะห์เพียงแค่มีคนลักลอบข้อมูลให้คู่แข่งนิลวรรณหรือ เปียโน เธอค่อนข้างบอบบางคงเพราะผู้เป็นบิดาเลี้ยงมาเหมือนไข่ในหิน และตั้งแต่เกิดเรื่องกับครอบครัวเธอ เธอก็พยายามช่วยพ่อทุกอย่างจากที่ไม่เคยทำอะไรก็หันมารับงานร้านกาแฟ ร้านขนมช่วงวันหยุดหญิงสาวใบหน้าสะสวยดวง
หลังจากที่เปียโนกลับมาจากมหาวิทยาลัยแล้ว เธอก็มุ่งหน้าเดินทางมาที่โรงพยาบาลที่พ่อของเธอรักษาตัวจากอุบัติเหตุ "พ่อเป็นอย่างไรบ้างคะ""มาแล้วเหรอลูก"เสียงแหบพร่าเปล่งออกมาถามลูกสาว ในสายตาของนิลภพเปียโนยังเป็นเพียงเด็กน้อยสำหรับเขาเสมอรอยยิ้มของเปียโนฉีกขึ้นกว้างเธอสาวเท้าเข้าไปใกล้ ๆ เตียงผู้ป่วย นิลภพไม่ได้นอนพักที่ห้องพิเศษแต่อย่างใดเพราะตอนนี้ตัวเขาไม่ได้มีเงินเหมือนเมื่อก่อนการรักษาตัวทำได้เพียงนอนพักที่ห้องผู้ป่วยรวมเท่านั้น"หนูรีบกลับมากลัวพ่อจะเหงา""เหงาที่ไหนล่ะ ดูสิข้าง ๆ ก็มีแต่เพื่อน"ชายวัยเกือบหกสิบพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้ม แม้ว่าตามร่างกายจะมีแต่รอยฟกช้ำก็ตามที"แล้วคุณหมอบอกหรือเปล่าคะว่าจะให้พ่อกลับบ้านวันไหน""พ่อก็ไม่รู้แต่เห็นว่าพ่อต้อง x-ray อีกรอบ"" x-ray ??"คำพูดของพ่อทำเอาเปียโนชะงักเล็กน้อย เธอรู้ได้เลยว่าต้อง x-ray ส่วนไหนทว่าตอนนี้เธอยังไม่มีแม้เงินที่ต้องเตรียมผ่าตัด"พ่อค่ะ เดี๋ยวหนูมานะ"เปียโนสาวเท้าออกจากเตียงผู้ป่วยมุ่งหน้าออกไปที่แผนกอายุรกรรมระบบประสาทและสมองเธออยากจะขอคุยกับคุณหมอเรื่องการผ่าตัดหากจะผ่าตัดตอนนี้เธอไม่มีเงินมากขนาดนั้นใบหน้าสวยคมดวงต
เสียงเพลงขับกล่อมเบา ๆ ภายในห้องส่วนตัวขนาดใหญ่ ชายหนุ่มร่างสูงกว่าร้อยเก้าสิบเซนติเมตรรูปร่างสูงโปร่งกล้ามเนื้อกระชับได้สัดส่วน ผมของเขาดำขลับเล็กน้อยดวงตาสีฟ้าใสแต่ดูเย็นชาเป็นนิจมือหนายกแก้วลวดลายหรูภายในแก้วมีน้ำเมาสีเข้มก่อนที่เขาจะยกมันเทลงลำคอเกร็งแอ๊ดเสียงเปิดประตูของผู้ที่เข้ามาใหม่ ก่อนที่ดวงตาคู่นั้นจะเหลือบขึ้นมองเล็กน้อย ใบหน้าที่นิ่งสนิทนี้ไม่ได้แสดงกิริยาใด ๆ ออกมา ทันทีที่แก้ววางลงที่เดิมเสียงเข้มนั้นก็โปร่งขึ้นถาม"มาแต่หัววันขนาดนี้ท่านประธานคงมีเรื่องเครียดสินะ" คนที่เอ่ยถามเสียงราบเรียบนี้คือเจ้าของเลานจ์แหล่งผ่อนคลายของนักธุรกิจหลายคน 'เควิน'"นิดหน่อย โครงการใหม่ค่อนข้างล่าช้า วิศวกรคุมงานก็เกิดป่วยกะทันหัน"น้ำเสียงห้วนห้าวพร้อมทั้งล้วงบุหรี่ขึ้นมาจุด จนไฟสว่างโร่ เขาสูบมันเข้าไปจนเต็มปอดก่อนที่จะพ่นควันสีหม่นออกมา กิริยาเหล่านี้ทำเอาผู้ที่เป็นเจ้าของรวมทั้งเป็นเพื่อนสนิทต้องส่ายหัว ใช่ว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เคยเกิดความผิดพลาดกับงานใหญ่มันมาคู่กันเสมอเควิน เดินเข้าไปช้า ๆ ก่อนที่จะหย่อนก้นลงนั่งข้าง ๆ ชายหนุ่มลูกครึ่งเจ้าของคอนโดมิเนียมหลายพันล้านบาทและโครงการอ
ร่างสูงกว่าร้อยเก้าสิบกระโจนตัวไปผลักที่อกของชายร่างท้วมใหญ่ ดวงตาของเขาแฝงไปด้วยความน่ากลัวหนำซ้ำยังจ้องหน้าเสี่ยใหญ่เขม็ง"คะ คุณติน ไม่มีอะไรหรอกครับผมแค่เห็นว่าน้องเขาเมาเลยอยากช่วย"เสี่ยโชคโกหกหน้าตายพร้อมทั้งกวาดสายตามามองเปียโนที่ยืนตัวสั่นเทาเล็กน้อย "ไปได้แล้ว""ครับ" เสียงเข้มโพล่งบอกชายร่างท้วมตรงหน้า ออสตินเป็นที่รู้จักในวงการ อสังหา ฯ มากไม่ว่าจะรุ่นใหญ่รุ่นเล็กก็ต้องรู้จักเขา ไม่เพียงเท่านั้นอิทธิพลที่อยู่ในมือของหนุ่มคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ก็พ่อของเขาเป็นทายาทของตระกูลเก่าแก่ไม่เพียงกิจการที่อยู่ในไทยยังมีกิจการร้านอาหารที่อยู่ต่างประเทศที่เป็นของครอบครัวฝั่งมารดาอีก"ขอบคุณมากนะคะ" เสียงหวานยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณชายหนุ่มตรงหน้า ด้วยท่าทีตื่นกลัวเล็กน้อย เปียโนกำลังจะสาวเท้าออกไปจากบริเวณนั้นด้วยซ้ำ แต่เสียงเข้มก็ต้องรั้งเธอไว้อีกครั้ง"เดี๋ยว!"เปียโนชะงักหยุดเท้านิ่ง ใบหน้าของเธอก้มต่ำจนแทบมองไม่เห็นความสวย"เธอพึ่งมาทำงานที่นี่เหรอ""คะ ค่ะ" ตอบเสียงสั่น จนออสตินต้องสาวเท้าเข้ามาใกล้คนตัวเล็ก แต่เหตุนั้นทำให้เปียโนต้องถอยหลังอัตโนมัติ"เป็นเด็กนั่งดริ้งเหรอ แล้วอย่าง
วันถัดมาเปียโนตัดสินใจแล้วว่าข้อเสนอของออสตินนั้นน่าจะเป็นทางเลือกที่พอจะช่วยพ่อของเธอได้รับการผ่าตัด ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ที่เขาเสนอมาแบบนั้นต้องการอะไรถึงแม้ว่าเธอจะถูกเลี้ยงมาราวกับคุณหนูสุขสบายก็ใช่ว่าจะไม่รู้ถึงจุดประสงค์ของคนรวย ๆ เสียเมื่อไหร่ร่างเล็กนั่งชั่งใจอยู่สักพักก่อนที่เธอจะยกมือถือขึ้นมาแนบที่ใบหู เบอร์โทรที่ต่อสายออกไปนั้น แน่นอนว่าเป็นเบอร์ของหนุ่มหล่อร่างสูงตืด ตืด รอสัญญาณอยู่สักพักทันทีที่ปลายสายกดรับพร้อมเสียงเข้มก็ทำเอาหัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้น"สวัสดีครับ""......""ฮัลโหล"ดูเหมือนความกลัวจะวิ่งแทรกเข้ามาทำให้เปียโนแทบจะเปล่งเสียงไม่ออก ไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดคำไหนก่อนดีทว่าระหว่างนั้นปลายสายเองก็ทำท่าเหมือนจะว่างเสียด้วยซ้ำ"สะ สวัสดีค่ะ""ครับ""เอ่อ คือจำหนูได้ไหมคนที่คุณช่วยในเลานจ์วันนั้น"ปลายสายเงียบไปสักพักเหมือนเป็นช่วงต่อลมหายใจให้เธอ เปียโนเองก็เริ่มผ่อนลมออกจากปากช้า ๆ "อ้อ.....""คือหนูอยากจะฟังข้อเสนออีกครั้งค่ะ""ข้อเสนองั้นเหรอ ฉันคิดว่าเธอจะไม่สนใจมันเสียอีก""คือ......""เอาเถอะ หากเธอสนใจละก็เย็นนี้มาเจอฉันที่เลานจ์""คะค่ะ"ปลายสายว่างกะทันหัน ท
สวนดอกไม้กว้างใหญ่ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วบริเวณนั้น เปียโนเข้ามาอยู่ที่บ้านของออสตินได้สองวันแล้ว ตั้งแต่ที่เขาออกคำสั่งไม่ให้เธอไปทำงานที่เลานจ์ ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอจะเป็นบุคคลว่างงาน ไม่รู้ว่าจะไปสมัครงานที่ไหนร่างเล็กยืนอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ในบ้านของเขา ส่วนเจ้าของคฤหาสน์หรูก็คงออกไปทำงานที่เขาต้องรับผิดชอบ ส่วนนิลภพพ่อของเธอก็ยังไม่ได้ออกจากโรงพยาบาลคนที่ทำหน้าที่แวะเวียนไปดูแลก็คือแมงเม่าและโอโซนระหว่างที่ยืนเหม่ออยู่นั้น เสียงมือถือของเธอก็ดังขึ้นครืด ครืด มือเล็กล้วงมือถือที่เก็บไว้ในกระเป๋ากางเกง เมื่อเห็นว่าเบอร์ที่ต่อสายเข้ามาเป็นเบอร์ของโอโซน เปียโนเลยรีบตัดสินใจรับ"สวัสดีค่ะ"(เปียยุ่งอยู่หรือเปล่า พี่โทรหาเปียก็ไม่ค่อยรับสาย แล้วนี่ทำงานอยู่ที่ไหน)"ก็ แถว ๆ พุทธมณฑลค่ะ"(แล้วพรุ่งนี้จะได้มารับคุณลุงออกจากโรงพยาบาลไหม)"พ่อออกจากโรงพยาบาลพรุ่งนี้เหรอคะ เมื่อวานหนูก็โทรถามทางโรงพยาบาลทำไมคุณหมอไม่เห็นบอกอะไร"(เขาพึ่งจะบอกพี่เมื่อเช้าเหมือนกัน)"พี่โซนคะ หากเปียไม่ได้ไปฝากพี่เป็นธุระด้วยนะคะ"(งานยุ่งมากเลยเหรอ พี่ว่ามาทำงานกับพี่ไม่ดีกว่าหรือไง อีกอย่างจะได้อยู่ใกล้พ่
วันต่อมาแมงเม่านั่งอุ้มน้องแมวตัวสีขาวอยู่ที่ม้านั่งภายในรั่วมหาลัย แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันหยุดแต่เธอก็จำเป็นต้องนัดโอโซนออกมาพบเพราะต้องการให้เขาช่วยเหลือเรื่องการเลี้ยงดูสำลี ไม่นานนักร่างสูงใบหน้าหล่อเหลาดูสะอาดเกลี้ยงเกลาก็เดินเข้ามาที่โต๊ะของแมงเม่า"นัดพี่มามีอะไร" เขาถามก็จริงแต่สายตามองไปที่แมวตัวสีขาวที่อยู่ในอ้อมกอดของแมงเม่า"พี่เห็นแล้วใช่ไหมว่านี่คือแมว คือหนูจะบอกว่าแมวตัวนี้เป็นแมวของเปียโน ตอนนี้คุณลุงก็ป่วยเปียโนก็ต้องทำงานยัยเปียไม่กล้ารบกวนพี่ หนูเลยอาสาเอามาฝากพี่เลี้ยงไว้ก่อนได้ไหม หากคุณลุงดีขึ้น เดี๋ยวหนูจะเอาไปคืนเปียเอง"โอโซนไม่ได้พูดโต้ตอบแต่ก็อุตส่าห์เอื้อมมือมาอุ้มสำลีไปอยู่ในอ้อมกอดตัวเอง (เหมียว)"น่ารักดี น่ารักเหมือนเจ้าของ" สิ่งที่แมงเม่าได้ยินทำเอาเธอต้องเบ้ปากแต่ก็ไม่ได้พูดแทรกปล่อยให้ชายหนุ่มร่างสูงได้เชยชมแมวน้อยน่ารัก"ว่าแต่ เปียเขาไม่อยากไปทำงานที่อื่นบ้างหรือไง พี่ก็เสนอไปแล้วแท้ ๆ ""ขอเวลาให้มันหน่อยแล้วกัน อีกอย่างมันคงไม่ได้ไปทำที่เลานจ์แล้วละ ป่านนี้ก็คงมีงานที่ใหม่""งานที่ใหม่อย่างนั้นเหรอ ทำไมเขาไม่บอกพี่สักคำ""ก็คงไม่อยากให้พี่เสียใจม
ณ โรงพยาบาลคนที่มาถึงก่อนเป็นคนแรกคือรุ่นพี่ที่มหาลัยโอโซนนั่งจ้องหน้าของเปียโนเขม็งสิ่งที่เขาอยากถามมากที่สุดคือการหายตัวไปของสาวตรงหน้า แต่พอปากจะขยับเอ่ยถามเปียโนก็ตัดบทลงเสียก่อน"ขอบคุณพี่โซนมากนะคะที่เป็นธุระจัดการห้องพักให้พ่อ และขอบคุณพี่อีกครั้งเรื่องพยาบาลพิเศษเอาไว้เปียมีเงินเมื่อไหร่จะใช้พี่คืน"คำพูดของเธอทำเอาหนุ่มหล่อทายาทนักธุรกิจต้องพ่นลมร้อนออกจากปาก เขาไม่ได้ต้องการเงินคืนแม้แต่น้อยแต่สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดน่าจะเป็นความสัมพันธ์ของเธอและเขามากกว่า"เปีย พี่รู้เรื่องแล้วนะที่เปียไปทำงานที่เลานจ์""ค่ะ?""พี่บอกตามตรงว่าพี่ไม่โอเคสักนิด พี่ไม่ชอบให้เปียไปอยู่ในสถานที่แบบนั้น พี่เคยเสนอไปแล้วเรื่องงานหากอยากทำงานทำไมไม่บอกพี่ละ""เอ่อ คือเปียเกรงใจพี่""และอีกอย่าง พี่ไม่รู้ว่าเปียเอาเงินค่าผ่าตัดมากมายมาจากไหน หากเปียไปกู้มาละก็ พี่ยินดีใช้หนี้แทน ส่วนงานก็เข้าไปทำที่บริษัทพี่ได้เลย"สิ่งที่โอโซนไม่รู้คือจำนวนเงินมากมายนั้นเปียโนเธอได้มาจากที่ไหน แต่สิ่งที่เขาคิดคือเปียโนน่าจะกู้มา ส่วนหญิงสาวเธอไม่ได้พูดอะไรมากมายกลัวว่าคนที่นั่งตรงหน้าจะจับพิรุธเธอได้"เปียต้องข
ทนทุกข์กับสภาพจิตใจอย่างหาที่สุดไม่ได้ หลังจากที่ตอบสนองตัณหาเขาแล้วออสตินก็ไม่ลืมข้อแลกเปลี่ยนนั้น ยอมคืนมือถือให้เธอโดยง่ายหลังจากที่ได้มือถือคืนมาแล้วในช่วงเช้าของอีกวันเปียโนก็รีบเปิดเครื่องและติดต่อกับทางโรงพยาบาลในทันที"ว่าไงนะคะมีคนย้ายพ่อไปที่ห้องพิเศษ ว่าแต่รู้ไหมคะว่าเขาเป็นใคร"(คนที่เป็นธุระจัดการ ชื่อ อนันต์ธวัช ค่ะ)หญิงสาวนิ่งอึ้งไปหลายวินาที เพราะชื่อที่หลุดออกมาจากปากนางพยาบาลคือรุ่นพี่ของเธอ(เขายังจ้างพยาบาลพิเศษให้ด้วยนะคะ เห็นบอกว่าคุณไม่สบาย)"อ้อ ค่ะ"หลังจากที่เปียโนวางสายความรู้สึกเธอในตอนนี้เอ่อล้นปลื้มปริ่มใจอย่างบอกไม่ถูก ขณะเธอทุกข์ใจก็ยังมีรุ่นพี่ที่เป็นเหมือนญาติอีกคนด้านมาเฟียหนุ่มเจ้าของโครงการหรู เขานั่งจิบกาแฟยามเช้าอย่างใจเย็น ใบหน้าคมเหมือนจะไร้ความกังวลใด ๆ แถมในตอนนี้ดูเหมือนจะมีความสุขด้วยซ้ำ"นายครับ""มีอะไร" น้ำเสียงเยือกเย็นเปล่งถามกลับมาแต่เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองธนาด้วยซ้ำ"เรื่องที่นายให้ผมไปตามสืบ เรื่องพ่อของเด็กเปียโน เธอไม่ได้โกหกครับนายตอนนี้พ่อของเธอป่วยนอนพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล"ใบหน้านิ่งเยือกเย็นดุจน้ำแข็งค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นม
เมื่อเห็นว่าร่างนั้นเริ่มหน้าแดงขึ้นถนัดตาชายหนุ่มร่างสูงก็คลายมือออกมาจากลำคอของเธอ แต่อย่างนั้นยังอุตส่าห์ยกนิ้วมือมาเกลี่ยข้างแก้ม พร้อมเสียงที่พูดออกมาเบา ๆ"ไม่ต้องห่วงหรอกเธออยู่กับฉัน ทำให้ฉันพอใจก็พอหากฉันเบื่อที่จะเล่นกับเธอเมื่อไหร่ฉันจะปล่อยเธอไปเอง"เปียโนสะบัดใบหน้าสวยหลบนี้นิ้วเรียวยาวของเขา ยิ่งความรู้สึกเธอตอนนี้มันบ่งบอกได้ว่าเธอเริ่มรังเกียจเขาเข้าไส้"อยากได้มือถืองั้นเหรอ ได้สิแต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนะ" ประโยคนั้นทำเอาเธอต้องหันมาสบตาเขา รอยยิ้มที่เขาส่งมาให้เธอ เปียโนพอรู้ว่าสิ่งที่เขาอยากแลกก็คือตัวเธอนั่นเองเปียโนหลับตาลงชั่วขณะเมื่อลืมตาขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาของคนร่างสูง เธอก็ฝืนทำตามข้อแลกเปลี่ยนบ้า ๆ เพื่อต้องการมือถือคืนท่อนแขนเรียวยาวคล่องไปที่ลำคอเกร็งของชายร่างสูงตรงหน้า เธอเขย่งเท้าขึ้นเล็กน้อยหมายจะจูบที่ริมฝีปาก การกระทำที่เก้ ๆ กัง ๆ นั้นมันทำให้ออสตินรู้สึกอึดอัดจนเขาต้องช้อนร่างเธอขึ้นมาอุ้ม"คุณ""ชักช้าไม่ได้ดั่งใจ"ร่างของเปียโนโดนเขาอุ้มมาว่างลงที่เตียงนอนกว้าง รอยยิ้มของเขาเหยียดยิ้มฉายแววเจ้าเล่ห์ ก่อนที่จะโน้มตัวลงมาจูบ เขาดูดดื่มปลายลิ้นและร
ดูท่าว่าคนตัวสูงจะไม่ฟังด้วยซ้ำว่าเปียโนเธอมีเหตุจำเป็นจริง ๆ ที่จะต้องไปแต่สิ่งที่เขาทำนั้น คือการดึงตัวเธอกลับมาที่เตียงนอนอีกครั้ง พร้อมออกคำสั่ง"ฉันไม่อนุญาตให้เธอไปไหน เธอก็ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น""คุณติน แต่นี่มันเป็นเรื่องสำคัญนะคะ""แล้ว?"เปียโนอดกลั้นพร้อมทั้งกัดฟันแน่นรู้สึกว่าเขาไม่เห็นคนอื่นสำคัญเท่าตัวเองจริง ๆ พอเขาพูดจบก็สั่งให้แม่บ้านเฝ้าเปียโนเอาไว้ส่วนตัวเขาก็เดินออกมาข้างนอกห้อง"ไอ้ธนา!!!""ครับนาย" เสียงที่แผดดังลั่นคฤหาสน์หลังใหญ่ทำให้ธนาต้องรีบวิ่งเข้ามาหาเจ้านายตนเอง"มึงไปสืบเรื่องของเธอดูสิว่า สิ่งที่เธอพูดมาจริงหรือเปล่า""ครับ"เมื่อธนาเร่งออกจากตัวบ้านหลังใหญ่ ออสตินก็เอี้ยวตัวกลับไปมองที่ห้องที่เขาพึ่งจะออกมาเมื่อครู่ พร้อมน้ำเสียงที่เอ่ยพูดกับตัวเองเบา ๆ "หากเธอโกหกฉันละก็ฉันเอาเธอตายแน่"มหาวิทยาลัย"อะไรนะคะ เปียโนติดต่อไม่ได้และไม่ได้ไปเฝ้าพ่องั้นเหรอ"แมงเม่านิ่งอึ้งไปหลายวินาที โดยปกติแล้วเพื่อนของเธอจะไม่ไปไหนยิ่งพ่อป่วยแบบนี้เปียโนไม่น่าจะทิ้งให้อยู่คนเดียวด้วยซ้ำ นอกเสียจากจะมีเรื่องกับเพื่อนสาวเธอ"เมื่อวานทั้งวันหนูก็ไม่ได้โทรหาเปียโนเลย เอ้...
เขาไม่ฟังเสียงร้องห้ามใด ๆ จากคนตัวเล็กแต่สิ่งที่ออสตินทำคือฉีกเสื้อยืดที่เธอสวมใส่จนขาดวิ่นแคว๊ก"กรี๊ดดด คุณติน" มิหนำซ้ำเขายังกดจมูกโด่งลั่นลงที่ซอกคอของเปียโน เรียวปากหยักได้รูปดูดเม้มจนเกิดรอยแดงเต็มไปหมด"ฮื้อ ปล่อยนะ" เธอทั้งร้องขอและร้องไห้ในคราวเดียวกัน แต่เพราะช่วงนี้คนตัวเล็กพักผ่อนน้อยจึงทำให้เธอเกิดหมดสติในอ้อมกอดเขาพรึ่บเมื่อเห็นว่าร่างเล็กหยุดนิ่งไม่ขัดขืนต่อสู้ ออสตินจึงละใบหน้าคมนั้นขึ้นมอง "เปียโน อย่ามาแกล้งสลบแถวนี้"แต่เธอก็ไม่ได้ตอบโต้ หญิงสาวหลับตานิ่ง ร่างกายของเธอค่อนข้างที่จะอ่อนเพลีย ออสตินช้อนเธอขึ้นมาอุ้มในท่าเจ้าสาว ก่อนที่เขาจะพาเธอมาที่เตียงกว้าง จากนั้นก็เรียกธนาคนสนิทเขามาพบ"ไปตามหมอมา""ครับนาย" กลัวว่าเธอจะเป็นอันตราย ออสตินเลยสั่งลูกน้องให้ตามหมอมาตรวจอาการของเปียโนเวลาผ่านไปสักพักหมอก็ถูกพาตัวเข้ามาในห้องหรูของออสติน "อยู่ ๆ เธอก็เป็นลม"เป็นประโยคบอกเล่าของออสติน เมื่อบอกหมอแบบนั้นเขาก็เดินออกไปรอข้างนอกปล่อยให้หมอได้ตรวจเปียโนโดยละเอียด ทว่า เพียงแค่หมอเห็นเสื้อผ้าของเธอที่ขาดวิ่นรอยจ้ำแดงที่คอก็พอรับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่กล้าพูดเพ
รถหรูเคลื่อนตัวมาได้ไกลพอสมควร อยู่ ๆ เขาก็สั่งให้ลูกน้องจอดสนิท"จอด! มึงลงไปได้แล้ว" เสียงเข้มดุดันสั่งให้ธนาลงจากรถคำสั่งนั้นมันทำให้เปียโนต้องมองตามร่างของคนสนิมเขา"จอดทำไมค่ะ?" หญิงสาวทำหน้าเหมือนจะงวยงงอยู่สักนิดเพราะเห็นว่าถนนเส้นนี้ท่าทางจะเปลี่ยว หรือเพราะว่าเธอเอาเงินเขามาแล้วขาดการติดต่อเขาเลยอยากจะทำร้ายเธอแววตาหวาดกลัวเริ่มแสดงออกชัดเจน เปียโนเริ่มมองฝั่งถนนทั้งสองข้าง ด้านนอกมีคนของเขายืนคุมอยู่"เธอรู้ใช่ไหมว่าฉันเสียเวลาตามหาเธอนานเท่าไร""คือ หนูมีเหตุผล พอดี.....ฮีบ" ชายหนุ่มไม่รอให้เธอได้พูดอะไรมาก เขาเอื้อมมือมาบีมที่คางของเธอแน่นขึ้นจนคนตัวเล็กรู้สึกถึงความเจ็บ"หนูเจ็บ""อย่ามาเล่นลิ้น ตอนที่ฉันให้เงินเธอฉันเคยบอกเธอว่ายังไงจำไม่ได้หรือเธอแกล้งลืม"ใบหน้าของเปียโนเริ่มบิดเบี้ยวเพราะแรงบีบของฝ่ามือชาย ปากเล็กเริ่มห่อขึ้นรูปจนเธอต้องรีบยกมือมาแกะมือเขาแต่มันก็ไม่เป็นผล เขายังบีบแน่นแต่พอเห็นว่าเธอน่าจะเจ็บจนมีน้ำตาเขาก็เริ่มปล่อยมือออกฮึก!น้ำตาของเปียโนไหลออกมาอาบแก้มแต่เธอก็พยายามอดกลั้นไม่ให้มีเสียงสะอื้นร่ำไห้ เธอรู้สึกเจ็บบริเวณข้างแก้มรู้สึกเหมือนกรามมันจ
วันเวลาผ่านไปจากสองวันก็เป็นหนึ่งอาทิตย์การตอบสนองด้านการผ่าตัดของนิลภพดีขึ้นตามลำดับจนได้ออกจากห้องไอซียูมาพักฟื้นที่ห้องธรรมดาได้ปกติ ส่วนเปียโนก็มีหน้าที่เฝ้าไข้พ่อไม่ห่างกาย และยังคงเดินทางกลับไปที่ห้องเพื่อให้อาหารสำลีทุกวัน ห้องพัก(อพาร์ตเมนต์) "สำลีช่วงนี้แกต้องอยู่คนเดียวก่อนรู้ไหม พ่อยังต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล แกอาจจะเหงาหน่อยนะแต่ไม่ต้องห่วงฉันไม่ทิ้งแกแน่นอน" เหมียว พูดจบก็ยิ้มให้แมวสีขาวขนฟูเธอมองมันด้วยความรักเจ้าสำลีกำลังก้มหน้ากินอาหารจากในถาด ส่วนเปียโนเธอก็มองอยู่อย่างนั้นรู้สึกว่าการเกิดเป็นสัตว์ก็น่าจะดีเหมือนกันไม่ต้องรับรู้อะไรมาก ไม่ต้องแบกรับสภาพหนี้สินที่มากมายระหว่างที่ใช้ความคิดเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น ก๊อก ก๊อก ร่างเล็กหันไปมองตามเสียงเธอย่นคิ้วเรียวลงเล็กน้อยไม่รู้ว่าใครที่มาเคาะเรียกตอนนี้ ถึงอย่างนั้นก็ต้องลุกขึ้นเดินออกไปเปิดประตูห้อง แอ๊ดด "มาหาใครคะ" เมื่อเห็นชายหญิงคู่หนึ่งยืนอยู่ที่หน้าห้องเธอก็รีบเอ่ยถามตามมารยาทกลัวว่าจะมีคนเคาะห้องผิด "เธอใช่ไหมลูกสาว นิลภพ" "ใช่ค่ะ" "เราสองคนมาตามสัญญาที่เขียนไว้ในใบเงินกู้ ครบสัญญาที่ต