ตันติกรหยัดกายลุกขึ้นแล้วปลดกางเกงยีนส์ราคาแพงออก รวมถึงบ๊อกเซอร์ที่อยู่ด้านในไปให้พ้นทาง เผยแท่งเนื้อร้อนที่มีขนาดใหญ่และยาวล้อมไปด้วยเส้นเลือดปูดโปนจนเห็นได้ชัด ร่างสูงกระชากคนตัวเล็กให้ลุกนั่ง ก่อนที่มาเฟียต้วนยืนขึ้นตัวตรง จับแก่นกายขนาดใหญ่เกินมาตรฐานตีไปที่ริมฝีปากสวย แล้วใช้มือที่ว่างบีบบนแก้มทั้งสองให้อ้าออกเพื่อจะยัดแท่งเนื้อร้อนเข้าไปในปากเล็ก กอบัวส่ายหน้ารัว ๆ พยายามขัดขืนแต่ก็ไม่เป็นผล มาเฟียหนุ่มกระตุกยกยิ้มเมื่อความเป็นชายได้เข้าไปในปากของหญิงสาวจนสำเร็จ"อือ อ๊อก!" หญิงสาวเบิกตาค้างดวงตาคลอหน่วยไปด้วยหยดน้ำตา "ระวังฟันของเธอด้วย...ถ้ามันเป็นแผลแม้แต่นิดเดียวเธอได้หลับคาคxxของฉันแน่" กอบัวไม่มีทางเลือกยอมจำนนทำตามความต้องการของมาเฟียหนุ่มที่ดูแสนจะป่าเถื่อน"~อ่า~" ใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นมองเพดานแล้วคำรามออกมาด้วยความกระสันซ่าน ก่อนจะหลุบตามองคนตัวเล็กที่กำลังดูดเลียปลายหัวหยัดสีแดงก่ำราวดั่งกินไอศกรีม "เธอทำดีมาก ซี๊ดดดด" มาเฟียหนุ่มแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจ กอบัวหลับตาทำโดยภายในใจของเธอนึกรังเกียจไม่ว่าจะเป็นท่อนเอ็นที่อยู่ในปาก และแม้แต่การกระทำที่โหดร้าย ดิบเถื่อนของม
ภาพสุดท้ายในหัวก่อนที่กอบัวจะสลบไหล เธอมองเห็นใบหน้าที่หล่อเหลากระตุกยกยิ้ม พร้อมกับเสียงครางกระเส่าซ่านอย่างสาสมใจช่วงสายของวันต่อมา..สาวน้อยร่างบางค่อย ๆ ลืมตา พร้อมกับความเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย โดยเฉพาะที่บริเวณช่วงล่างของเธอ ดวงตาโตกลมกวาดสายตาไปรอบ ๆ ห้องก็พบกับความว่างเปล่าไร้สิ่งมีชีวิตนอกจากเธอ กอบัวเปิดผ้าห่มที่คลุมตัว หยดน้ำตาก็รินออกมาเมื่อเธอเห็นเรือนร่างที่เปลิอยเปล่าแสนจะบอบซ้ำ เธอกัดฟันข่มความเจ็บปวดหยัดกายลุกนั่งเอาหลังพิงหัวเตียง ก่อนจะคว้าผ้าขนหนูที่พับไว้ที่โต๊ะข้าง ๆ หัวเตียงมาพันรอบกาย ปลายเท้าเรียวสวยลงแตะที่พื้นทั้งสองข้าง ร่างบางลุกขึ้นยืนแต่ทว่า..พรึ่บ! เธอฟุบล้มลงไปที่พื้นราวกับคนไร้เรียวแรง มือเล็กยกขึ้นปาดน้ำตาที่ยังคงไหลไม่หยุด เธอขบกรามแน่นต้านทานความเจ็บปวดที่ทิ่มแทงแล้วค่อย ๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นอีกครั้ง กอบัวก้าวขาเดินอย่างไม่เป็นธรรมชาติเนื่องจากบาดเจ็บตรงส่วนล่างที่โดนกระทำอย่างรุนแรง และป่าเถื่อน ปลายเท้าบางหยุดชะงักแล้วเอื้อมไปเปิดประตูห้องน้ำ ก่อนจะเข้าไปชำระร่างกายที่เปรอะเปื้อนไปด้วยกลิ่นคาวโลกีของปีศาจร้ายใช้เวลานานพอสมควรกว่าที่เจ้าของร่างอรช
"ไอ้เชี่ยต้วน!" หมอคินน์สบถคำด่าใส่เพื่อนที่ดูไม่รู้ร้อนรู้หนาว"หึ" อีกฝ่ายก็ได้กลั้วหัวเราะแล้วส่งสายตาไปยังสาวน้อยที่นอนหลับอยู่บนเตียงของเขา ซึ่งไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้มานอนบนเตียงนี้แม้แต่คนเดียว"มึงได้เด็ดปีกนางฟ้าแล้วหนิ..ก็ปล่อยน้องเขาไปเถอะ" มาเฟียหนุ่มหันขวับไปจ้องหน้าหมอสูติฯ แล้วกระตุกยิ้มร้าย"กูไม่อยากได้แค่ปีกแล้วว่ะ..." ว่าแล้วก็ใช้สายตาพราวระยับจ้องไปที่กอบัวแทบจะกลืนกิน"...กูอยากได้ทั้งตัว" "อย่าบอกนะว่ามึง...""กูยังไม่คิดที่จะมีครอบครัวเหมือนมึง" มาเฟียหนุ่มรีบพูดขัดขึ้นโดยที่หมอคินน์ยังพูดไม่จบประโยค"เหอะ ๆ" หมอสูติฯหนุ่มหล่อกลั้วหัวเราะพร้อมกับส่ายหน้า"กูแค่อยากเอามาไว้เป็นของเล่น" หัวคิ้วหนาของหมอคินน์ย่นเข้าด้วยใบหน้าสงสัย เพราะที่ผ่านมามาเฟียหนุ่มไม่ชอบที่จะผูกติดกับหญิงสาวคนไหนมาก่อน ส่วนใหญ่แล้วก็เสร็จจ่ายจบแยกย้ายกันไป "ของเล่น?" "หึ" มาเฟียต้วนยกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ เขายังคงติดใจความสาวที่สดใหม่ของหญิงสาวตัวเล็กจึงไม่คิดที่จะปล่อยไปง่าย ๆ "กูขอเตือนมึงไว้..." คณาธิปหรือหมอคินน์ลอบหายใจเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยประโยคสุดท้าย "...ระวังจะมานั่งเสียใจแบบกู" ค
"คุณอาครับผมอยากรู้ว่าบัวไปไหนกันแน่..." จอมทัพกล่าวถามคนเป็นพ่อของแฟนสาวด้วยนัยน์ตาที่มีแววกังวลและเป็นห่วงคละเคล้ากันไป"...จนป่านนี้บัวยังไม่กลับมาเลยผมกลัวว่าบัวจะเกิดเรื่อง""ไม่มีอะไรหรอกหน่า" เอกสิทธิ์ทักท้วงขึ้นแต่ซ่อนสีหน้าและแววตามีความหวั่นวิตกอยู่ไม่น้อย"ไม่มีอะไรแบบนั้นเหรอครับ..ถ้างั้นคุณอาก็รู้นะสิว่าบัวไปไหน บอกผมมาเถอะ ผมจะไปรับเธอกลับ...""ไม่ต้อง!" พ่อของแฟนสาวตวาดปฏิเสธทันที "ทำไมล่ะครับ" "เดี๋ยวบัวก็กลับมา" น้ำเสียงแผ่วเบาแฝงสั่นไหว เอกสิทธิ์ก้มหน้าลงแล้วนึกตำหนิตัวเองในใจ จอมทัพเบือนหน้าลอบหายใจด้วยความรู้สึกสงสัย และเป็นห่วงกอบัวเป็นอย่างมาก เพราะคนเป็นพ่อของแฟนสาวไม่ยอมปริปากบอกอะไรเลย ประตูห้องผ่าตัดเปิดออกมา ชายวัยกลางคนรวมถึงชายหนุ่มอายุน้อยต่างลุกขึ้นแล้วก้าวขายาวไปยังคุณหมอเจ้าของคนไข้ที่ทำการผ่าตัด"คุณหมอ ภรรยาผมเป็นยังไงบ้าง" เอกสิทธิ์กล่าวถามคุณหมอด้วยความหวังว่าคนที่อยู่ในห้องจะต้องปลอดภัย"การผ่าตัดเป็นไปด้วยดี เดี๋ยวพยาบาลจะพาคนไข้ไปยังห้องพักฟื้นนะครับ" รอยยิ้มบ่งบอกแสดงความดีใจ และโล่งอกเปื้อนบนใบหน้าชายวัยกลางคนอย่างเห็นได้ชัด "ขอบคุณครับค
"อย่าทำอะไรผมเลยครับ ผมผิดไปแล้ว" ชายวัยกลางคนคุกเข่าต่อหน้ามาเฟียหนุ่มที่มีอายุน้อยกว่าด้วยสีหน้าซีดเผือกราวกับคนตายแววตาปรากฏความอ้อนวอนร้องขอชีวิต"หึ.." มาเฟียหนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้โดยขาทั้งสองอ้าออกจากกันมือข้างหนึ่งถือกระบอกปืนสั้นสีดำด้าน ส่วนมืออีกข้างคีบบุหรี่ไว้ เขาแค่นหัวเราะในลำคอออกมาเบา ๆ "...กูเคยบอกมึงแล้วใช่ไหมว่ากูเกลียดคนประเภทไหนมากที่สุด" ว่าจบก็สูบบุหรี่เข้าปอดก่อนจะพ่นควันสีเทาออกมา"คุณต้วน ผะ ผมขอโอกาสอีกสักครั้ง" "กูไม่เคยให้โอกาสกับคนทรยศว่ะ" ใบหน้าหล่อเหลามองไปที่ชายรุ่นใหญ่ด้วยนัยน์ตาอาฆาตเปี่ยมด้วยไอสังหาร ก่อนจะทิ้งบุหรี่ลงพื้นแล้วใช้เท้าขยี้"คุ คุณต้วน.." ชายรุ่นใหญ่เบิกตาค้างเมื่อเห็นมาเฟียหนุ่มยกปลายกระบอกปืนสีดำด้านเล็งมาที่เขาด้วยความหวาดกลัวแทบเสียสติ"พร้อมจะตายหรือยัง..หืม?" น้ำเสียงเยือกเย็นขบฟันแน่นกล่าวถามชายตรงหน้า ขณะที่เล็งอาวุธร้ายในมือไปที่ขมับ"ฮึก..อย่าฆ่าผะ..." ปัง! ยังไม่ทันได้พูดจบประโยคชายรุ่นใหญ่ก็ล้มลงพร้อมกับเลือดที่ไหลออกมาจากขมับมาเฟียหนุ่มยืนขึ้นเต็มความสูงก่อนจะยื่นปืนให้กับลูกน้องคนสนิท"เก็บกวาดให้เรียบร้อย""ครับ"
มาเฟียหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลาเปิดประตูเข้าไปในห้อง VVIP ก็พบกับ คณาธิป หรือ หมอคินน์ หนึ่งในเพื่อนสนิทของเขา ซึ่งตันติกรมีเพื่อนสนิทอยู่สามคน ส่วนสองคนนั้นก็คือ ศิลา และ อี้เฉิน "ไอ้หมอ..." คณาธิปตวัดสายตามองไปยังคนที่เข้ามาใหม่แล้วยกยิ้มมุมปาก "...มานานหรือยังวะ" มาเฟียหนุ่มกล่าวถามพร้อมกับนั่งลงตรงข้ามกับเพื่อนสนิทก่อนจะหยิบขวดวิสกี้ราคาแพงรินใส่แก้วทรงเตี้ย แล้วคีบน้ำแข็งใส่ลงไปหนึ่งก้อน"มึงไปไหนมา" ต้วนไม่ตอบได้แต่แสยะยิ้มแล้วยกแก้ววิสกี้กระดกเข้าปากพรวดเดียว "มึงก็รู้จะถามเพื่อ?...." ว่าจบ ก็คว้าขวดวิสกี้มารินใส่แก้วอีกรอบ"...ของกูยังแข็งแรงอยู่ไม่เหมือนของมึงที่ทำยังไงก็ไม่ขึ้น หึ" มาเฟียหนุ่มกลั้วหัวเราะเยาะเย้ยหมอคินน์ที่ 'นกเขาไม่ขัน'"ไอ้เชี่ยต้วน!" คณาธิปสบถด่าออกมาอย่างหัวเสีย"ให้เกียรติกูหน่อย..กูเป็นมาเฟียนะไอ้หมอ" ต้วนเอ่ยปรามแบบทีเล่นทีจริง"ครับ คุณมาเฟียต้วน" อีกฝ่ายกล่าวอย่างประชดประชัน ก่อนจะยกแก้วิสกี้กระดกดื่ม ในขณะที่มาเฟียหนุ่มมองไปยังชั้นล่างผ่านกระจกใสบานใหญ่ "หาเหยื่อ?" สิ้นเสียง มาเฟียหนุ่มก็หันมายักคิ้วและกระตุกยกยิ้ม"วันไนท์?" "กูไม่ทำแบบนั้นแน่
"บัวไปเรียนก่อนนะคะ" นักศึกษาสาวใบหน้าสวยแต่งแต้มเครื่องสำอางอย่างพอเหมาะ รูปร่างอ้อนแอ้นส่วนสูงเพียงร้อยห้าสิบห้าขนาดไซซ์มินิน่ารัก กล่าวบอกกับพ่อแม่ของเธอก่อนจะออกจากบ้าน "บัว..." หญิงสาวหยุดชะงักแล้วหันไปที่เสียงเรียก "...วันนี้ถ้าเรียนหนักก็ไม่ต้องไปทำงานนะ" คนเป็นพ่อบอกกับลูกสาวด้วยความห่วงใย เพราะที่ผ่านมากอบัวช่วงแบ่งเบาค่าใช้จ่ายทางบ้านได้เยอะมาก ซึ่งเธอยอมทำงานพาร์ทไทม์หลังเลิกเรียน ไม่ว่างานอะไรที่เป็นงานสุจริต และไม่เสี่ยงกับชีวิตจนเกินไปเธอก็พร้อมที่จะทำ "บัวไหวค่ะ พ่อไม่ต้องเป็นห่วง" ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มหวานให้คนเป็นพ่อ "ถ้าไม่ไหวก็บอกนะ""ค่ะ" กอบัวตอบกลับเสียงใสก่อนจะก้าวขาเดินออกจากประตู ระหว่างที่เธอกำลังเดินไปที่หน้าบ้าน ก็มีรถยนต์ที่คุ้นเคยขับเข้ามาจอดพอดี "นึกว่าจะมาไม่ทันบัวซะแล้ว" ชายหนุ่มหน้าตาดีรูปร่างสมส่วนส่วนสูงร้อยแปดสิบลงมาจากรถแล้วก้าวขายาวเดินไปดักหน้าหญิงสาว แล้วคว้ากระเป๋าของเธอมาถือไว้ราวกับเป็นหน้าที่"ขอบคุณนะจอม" กอบัวกล่าวขอบคุณแล้วฉีกยิ้มกว้างให้กับจอมทัพ ชายหนุ่มคลี่ยิ้มกลับก่อนจะรีบเดินไปเปิดประตูให้กอบัวภายในรถ"บัวก็คิดว่าจอมจะไม่มาซะแล
"นั่น..พี่อี้เฉินนี่" ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มหวานออกมาทันทีเมื่อเธอได้เจอกับดาราหนุ่มชาวจีนที่ชื่นชอบกอบัวลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วรีบเดินไปดักหน้าดาราหนุ่มใบหน้าที่หล่อเหลาทันที "มีอะไรให้ช่วยไหมครับ" ร่างบางได้แต่ยืนเก้อเขินไม่ยอมปริปากพูดอะไรทำให้ อี้เฉินต้องเป็นคนเปิดปากถาม ในขณะที่มาเฟียหนุ่มที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ลอบมองด้วยสายตาโลมเลียราวกับจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว"เอ่อ..คือว่า..." กอบัวรู้สึกประหม่ามากเพราะไม่คิดว่าจะได้เจอกับดาราที่เธอชื่นชอบตัวเป็น ๆ อยู่ตรงหน้า"อยากได้เงิน?" สิ้นเสียง หญิงสาวก็หันขวับไปที่มาเฟียหนุ่ม"บัวไม่ได้ต้องการเงินค่ะ..." ว่าจบก็สูดลมหายใจเข้าปอดแล้วพ่นออกมาก่อนจะหันมาพูดกับอี้เฉิน"...บัวเป็นแฟนคลับพี่อี้เฉินคือ..บัวอยากจะขอลายเซ็นพี่ได้ไหมคะ""หึ" ตันติกรแค่นหัวเราะในลำคอแล้วส่ายหน้า"ได้สิ จะให้เซ็นตรงไหนครับ" อี้เฉินเอ่ยออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มดูเป็นกันเอง "เซ็นตรงนี้ค่ะ" กอบัวยื่นกระเป๋าสะพายสีขาวใบโปรดให้กับดาราหนุ่มชาวจีนเซ็นทันที "ชื่อบัวใช่ไหมครับ" อี้เฉินกล่าวถามชื่อของหญิงสาวก่อนจะเซ็นข้อความอะไรบางอย่าง"กอบัวค่ะ" พอได้คำตอบอี้เฉินก็เขียนข้อความใส่ไปใน
"คุณอาครับผมอยากรู้ว่าบัวไปไหนกันแน่..." จอมทัพกล่าวถามคนเป็นพ่อของแฟนสาวด้วยนัยน์ตาที่มีแววกังวลและเป็นห่วงคละเคล้ากันไป"...จนป่านนี้บัวยังไม่กลับมาเลยผมกลัวว่าบัวจะเกิดเรื่อง""ไม่มีอะไรหรอกหน่า" เอกสิทธิ์ทักท้วงขึ้นแต่ซ่อนสีหน้าและแววตามีความหวั่นวิตกอยู่ไม่น้อย"ไม่มีอะไรแบบนั้นเหรอครับ..ถ้างั้นคุณอาก็รู้นะสิว่าบัวไปไหน บอกผมมาเถอะ ผมจะไปรับเธอกลับ...""ไม่ต้อง!" พ่อของแฟนสาวตวาดปฏิเสธทันที "ทำไมล่ะครับ" "เดี๋ยวบัวก็กลับมา" น้ำเสียงแผ่วเบาแฝงสั่นไหว เอกสิทธิ์ก้มหน้าลงแล้วนึกตำหนิตัวเองในใจ จอมทัพเบือนหน้าลอบหายใจด้วยความรู้สึกสงสัย และเป็นห่วงกอบัวเป็นอย่างมาก เพราะคนเป็นพ่อของแฟนสาวไม่ยอมปริปากบอกอะไรเลย ประตูห้องผ่าตัดเปิดออกมา ชายวัยกลางคนรวมถึงชายหนุ่มอายุน้อยต่างลุกขึ้นแล้วก้าวขายาวไปยังคุณหมอเจ้าของคนไข้ที่ทำการผ่าตัด"คุณหมอ ภรรยาผมเป็นยังไงบ้าง" เอกสิทธิ์กล่าวถามคุณหมอด้วยความหวังว่าคนที่อยู่ในห้องจะต้องปลอดภัย"การผ่าตัดเป็นไปด้วยดี เดี๋ยวพยาบาลจะพาคนไข้ไปยังห้องพักฟื้นนะครับ" รอยยิ้มบ่งบอกแสดงความดีใจ และโล่งอกเปื้อนบนใบหน้าชายวัยกลางคนอย่างเห็นได้ชัด "ขอบคุณครับค
"ไอ้เชี่ยต้วน!" หมอคินน์สบถคำด่าใส่เพื่อนที่ดูไม่รู้ร้อนรู้หนาว"หึ" อีกฝ่ายก็ได้กลั้วหัวเราะแล้วส่งสายตาไปยังสาวน้อยที่นอนหลับอยู่บนเตียงของเขา ซึ่งไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้มานอนบนเตียงนี้แม้แต่คนเดียว"มึงได้เด็ดปีกนางฟ้าแล้วหนิ..ก็ปล่อยน้องเขาไปเถอะ" มาเฟียหนุ่มหันขวับไปจ้องหน้าหมอสูติฯ แล้วกระตุกยิ้มร้าย"กูไม่อยากได้แค่ปีกแล้วว่ะ..." ว่าแล้วก็ใช้สายตาพราวระยับจ้องไปที่กอบัวแทบจะกลืนกิน"...กูอยากได้ทั้งตัว" "อย่าบอกนะว่ามึง...""กูยังไม่คิดที่จะมีครอบครัวเหมือนมึง" มาเฟียหนุ่มรีบพูดขัดขึ้นโดยที่หมอคินน์ยังพูดไม่จบประโยค"เหอะ ๆ" หมอสูติฯหนุ่มหล่อกลั้วหัวเราะพร้อมกับส่ายหน้า"กูแค่อยากเอามาไว้เป็นของเล่น" หัวคิ้วหนาของหมอคินน์ย่นเข้าด้วยใบหน้าสงสัย เพราะที่ผ่านมามาเฟียหนุ่มไม่ชอบที่จะผูกติดกับหญิงสาวคนไหนมาก่อน ส่วนใหญ่แล้วก็เสร็จจ่ายจบแยกย้ายกันไป "ของเล่น?" "หึ" มาเฟียต้วนยกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ เขายังคงติดใจความสาวที่สดใหม่ของหญิงสาวตัวเล็กจึงไม่คิดที่จะปล่อยไปง่าย ๆ "กูขอเตือนมึงไว้..." คณาธิปหรือหมอคินน์ลอบหายใจเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยประโยคสุดท้าย "...ระวังจะมานั่งเสียใจแบบกู" ค
ภาพสุดท้ายในหัวก่อนที่กอบัวจะสลบไหล เธอมองเห็นใบหน้าที่หล่อเหลากระตุกยกยิ้ม พร้อมกับเสียงครางกระเส่าซ่านอย่างสาสมใจช่วงสายของวันต่อมา..สาวน้อยร่างบางค่อย ๆ ลืมตา พร้อมกับความเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย โดยเฉพาะที่บริเวณช่วงล่างของเธอ ดวงตาโตกลมกวาดสายตาไปรอบ ๆ ห้องก็พบกับความว่างเปล่าไร้สิ่งมีชีวิตนอกจากเธอ กอบัวเปิดผ้าห่มที่คลุมตัว หยดน้ำตาก็รินออกมาเมื่อเธอเห็นเรือนร่างที่เปลิอยเปล่าแสนจะบอบซ้ำ เธอกัดฟันข่มความเจ็บปวดหยัดกายลุกนั่งเอาหลังพิงหัวเตียง ก่อนจะคว้าผ้าขนหนูที่พับไว้ที่โต๊ะข้าง ๆ หัวเตียงมาพันรอบกาย ปลายเท้าเรียวสวยลงแตะที่พื้นทั้งสองข้าง ร่างบางลุกขึ้นยืนแต่ทว่า..พรึ่บ! เธอฟุบล้มลงไปที่พื้นราวกับคนไร้เรียวแรง มือเล็กยกขึ้นปาดน้ำตาที่ยังคงไหลไม่หยุด เธอขบกรามแน่นต้านทานความเจ็บปวดที่ทิ่มแทงแล้วค่อย ๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นอีกครั้ง กอบัวก้าวขาเดินอย่างไม่เป็นธรรมชาติเนื่องจากบาดเจ็บตรงส่วนล่างที่โดนกระทำอย่างรุนแรง และป่าเถื่อน ปลายเท้าบางหยุดชะงักแล้วเอื้อมไปเปิดประตูห้องน้ำ ก่อนจะเข้าไปชำระร่างกายที่เปรอะเปื้อนไปด้วยกลิ่นคาวโลกีของปีศาจร้ายใช้เวลานานพอสมควรกว่าที่เจ้าของร่างอรช
ตันติกรหยัดกายลุกขึ้นแล้วปลดกางเกงยีนส์ราคาแพงออก รวมถึงบ๊อกเซอร์ที่อยู่ด้านในไปให้พ้นทาง เผยแท่งเนื้อร้อนที่มีขนาดใหญ่และยาวล้อมไปด้วยเส้นเลือดปูดโปนจนเห็นได้ชัด ร่างสูงกระชากคนตัวเล็กให้ลุกนั่ง ก่อนที่มาเฟียต้วนยืนขึ้นตัวตรง จับแก่นกายขนาดใหญ่เกินมาตรฐานตีไปที่ริมฝีปากสวย แล้วใช้มือที่ว่างบีบบนแก้มทั้งสองให้อ้าออกเพื่อจะยัดแท่งเนื้อร้อนเข้าไปในปากเล็ก กอบัวส่ายหน้ารัว ๆ พยายามขัดขืนแต่ก็ไม่เป็นผล มาเฟียหนุ่มกระตุกยกยิ้มเมื่อความเป็นชายได้เข้าไปในปากของหญิงสาวจนสำเร็จ"อือ อ๊อก!" หญิงสาวเบิกตาค้างดวงตาคลอหน่วยไปด้วยหยดน้ำตา "ระวังฟันของเธอด้วย...ถ้ามันเป็นแผลแม้แต่นิดเดียวเธอได้หลับคาคxxของฉันแน่" กอบัวไม่มีทางเลือกยอมจำนนทำตามความต้องการของมาเฟียหนุ่มที่ดูแสนจะป่าเถื่อน"~อ่า~" ใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นมองเพดานแล้วคำรามออกมาด้วยความกระสันซ่าน ก่อนจะหลุบตามองคนตัวเล็กที่กำลังดูดเลียปลายหัวหยัดสีแดงก่ำราวดั่งกินไอศกรีม "เธอทำดีมาก ซี๊ดดดด" มาเฟียหนุ่มแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจ กอบัวหลับตาทำโดยภายในใจของเธอนึกรังเกียจไม่ว่าจะเป็นท่อนเอ็นที่อยู่ในปาก และแม้แต่การกระทำที่โหดร้าย ดิบเถื่อนของม
เรือนร่างนุ่มนิ่มนอนพลิกตัวบนเตียงขนาดคิงไซส์ขาวสะอาด เธอบิดตัวเล็กน้อยหลังจากการหลับไหล แล้วจ้องมองไปรอบ ๆ ห้องด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความฉงนสนเท่ห์ ร่างบางรีบหยัดกายลุกขึ้น กำลังจะใช้เท้าเรียวสวยแตะลงที่พื้นห้องแอดดดดด เธอต้องหยุดชะงักแล้วตวัดสายตามองไปที่ต้นเสียง ดวงตากลมเบิกกว้างอย่างตกตะลึง เมื่อปรากฏร่างชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งใบหน้าหล่อคมเข้มแฝงความดุดันนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อน สวมใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนปลดกระดุมจนเผยให้เห็นรอยสักรูปนกฟินิกซ์ที่หน้าอก รวมถึงกล้ามเนื้อที่เรียงกันเป็นลอนบริเวณหน้าท้อง ปลายเท้าหนากำลังเดินตรงมาที่เธอ ด้วยใบหน้าเปื้อนด้วยรอยยิ้มที่แสนเจ้าเล่ห์ "พี่ต้วน!" กอบัวสบถเรียกชื่อของชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงตื่นตระะหนก ระหว่างที่เท้าเรียวของเธอแตะลงที่พื้นแล้วกำลังจะลุกขึ้น แต่ทว่า..."หึ" ตันติกรใช้มือหนาผลักร่างบางล้มลงไปนั่งที่ขอบเตียง"พะ พี่จะทำอะไร...." กอบัวกล่าวถามพร้อมกับกวาดสายตามองไปทั่วอย่างหวาดระแวง เพราะสถานที่แห่งนี้ไม่คุ้นชินเลย"...บัวมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ" แววตาของเธอสั่นระริก เช่นเดียวกับริมฝีปาก ในขณะที่พยายามค้นหาคำตอบว่าเธอมาอยู่ที่แห่งนี้ได้
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด เมื่อรู้ว่าปลายตัดสาย มาเฟียหนุ่มขว้างปาโทรศัพท์หรูราคาเหยียบแสนด้วยความแรงของอารมณ์ที่เดือดดาลจนแตกกระจายเป็นชิ้น ๆ เขาขบกรามแน่นจนเห็นเส้นเลือดปูดโปนที่ขมับ"กอบัว..เธอท้าทายฉันงั้นเหรอ" ไม่เคยมีใครที่กล้าตัดสายมาเฟียหนุ่มที่โหดเหี้ยมเหมือนดั่งหญิงสาวที่เป็นแค่นักศึกษาธรรมดา ใบหน้าหล่อเหลาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำด้วยแรงโทสะ"ใครอยู่ข้างนอก เรียกไอ้กฤษมาหากูหน่อย" เขาแผดเสียงก้องดังกังวานชวนขนลุกยามประกาศในคนด้านนอกรับรู้ ใช้เวลาไม่นานลูกน้องคนสนิทของมาเฟียต้วนก็เข้ามาอย่างรีบร้อน"คุณต้วนมีอะไรให้ผมรับใช้เหรอครับ" กฤษมือขวาคนสำคัญกล่าวถามด้วยน้ำเสียงนุ่มลึกอย่างสุภาพ เมื่อเห็นสีหน้าของเจ้านายแล้วก็รู้ทันทีว่าต้องวางตัวยังไง "มึง ทำสัญญาจำนองบ้านของกอบัวไปหรือยัง""กำลังดำเนินการอยู่ครับ..." กฤษตอบรับพร้อมขมวดคิ้วสงสัย"...เอ่อ คุณต้วนจะให้เพิ่มเติมอะไรหรือเปล่า" มือขวากล่าวถามราวกับรู้ว่าเจ้านายของตนต้องการอะไร"หมายเหตุสำคัญลงไปว่า..." ริมฝีปากหนาแสยะยิ้มร้ายก่อนจะเอ่ยประโยคสุดท้าย"...เพิ่มเงินให้อีกสองแสนแต่ต้องเอาลูกสาวมาขัดดอก" "ได้ครับ" กฤษรับปากอย่างว่าง่าย"รี
มาเฟียต้วนยืนถือแก้วเหล้าไล่สายตาดูความเรียบร้อย และสอดส่องความปลอดภัยให้กับลูกค้าทั่วไป รวมถึงลูกค้าระดับVIP ผ่านกระจกใสบานใหญ่บนชั้นสอง แอดดด เสียงประตูทำให้สายตาคมกริบตวัดหันไปมอง ก่อนจะเดินไปนั่งวางมาดบนโซฟาหรู พร้อมกับกระดกดื่มน้ำเหล้าสีอำพันลงคอพรวดเดียวหมดแก้ว ตึก ตึก ตึก ระหว่างที่ฝีเท้าหนักเดินเข้ามายืนตรงหน้าแล้วก้มโค้งคำนับก่อนจะยื่นแฟ้มเอกสารสำคัญให้กับมาเฟียหนุ่ม"อะไร?" น้ำเสียงทุ้มเข้มกล่าวถามและไม่ได้รับมันมา"สัญญาการจำนองบ้านครับ" ได้ฟังแบบนั้น มาเฟียรุ่นน้องก็ย่นคิ้วเข้าหากัน"มึงเอามาให้กูทำไม" ปากหนาเอ่ยด้วยสีหน้าไปสบอารมณ์เพราะเขาไม่จำเป็นต้องมาดูเอกสารไร้สาระแบบนี้"บ้านที่ทางเรารับจำนองเป็นบ้านของผู้หญิงที่ชื่อกอบัวครับ..." สิ้นเสียง มาเฟียหนุ่มก็คว้าแฟ้มเอกสารในมือลูกน้องมาทันที"....พ่อของเธอเป็นคนเอามาจำนองเห็นว่าต้องใช้เงินด่วน" กฤษ ลูกน้องมือขวาอธิบายต่อในขณะที่เจ้านายดึงเอกสารออกมาดูอย่างตั้งใจ "หึ" เขาแสยะยิ้มร้ายด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์"เอ่อ..คุณต้วนจะ..""รับไว้สิ..แต่ระบุในสัญญาเป็นกรณีพิเศษไว้ด้วย" ริมฝีปากหนากระตุกยกยิ้ม"ได้ครับ" มือขวาคนสนิทรับคำสั
DND Clupมาเฟียหนุ่มก้าวเท้าเดินขึ้นมาชั้นสองของผับโดยไม่เหลียวมองใคร เขามุ่งตรงไปยังห้องvvipเป็นห้องสำหรับไว้รองรับเพื่อนสนิทเท่านั้น แอ๊ดด ฝ่ามือหนาเปิดประตูเข้าไป ทำให้ดวงตาทั้งสามต่างจ้องมาที่เขา "มาเร็วเหมือนกันหนิ" ศิลาประธานบริษัทยักษ์ใหญ่เอ่ยขึ้นพร้อมกับยกแขนจ้องมองไปที่นาฬิกาข้อมือของตัวเอง ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าหนักแน่นเดินตรงมานั่งลงบนโซฟาหนังสีดำด้าน ก่อนจะคว้าขวดวิสกี้ขึ้นมารินใส่แก้วทรงเตี้ยที่ไม่มีเจ้าของ "ใครกันที่ทำให้นกเขาไอ้หมอฟื้นขึ้นชีพ" มาเฟียหนุ่มเปลี่ยนท่านั่งเป็นไขว้ห้างวาดมาดแล้วแกว่งแก้วเหล้าในมือวนไปมาก่อนจะกระดกขึ้นดื่มพรวดเดียว"เห็นว่าเป็นนักศึกษาฝึกงานที่โรงพยาบาลของมันน่ะ...." บอสหนุ่มหันไปที่หมอคินน์แล้วกล่าวถามเพื่อความแน่ใจว่าข้อมูลที่ได้ยินมาไม่ผิดเพี้ยน"....ใช่ไหมไอ้หมอ" "อืม" หมอคินน์ตอบกลับสั้น ๆ พร้อมกับยิ้มกรุ่มกริ่ม"ชื่ออะไรเหรอพี่หมอ" ดาราหนุ่มชาวจีนถามขึ้นด้วยใบหน้าสงสัยและอยากรู้"ชนชนก" "หึ..อย่าบอกนะมึงจะลอกคราบคาสโนว่า?" มาเฟียต้วนตั้งคำถามในขณะที่ยกขวดวิสกี้รินลงไปในแก้วของตัวเอง"ก็ไม่แน่""ว้าว..สงสัยพี่หมอคินน์จะได้สละโสดเป
โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง กอบัวเดินวนเวียนไปมาอยู่หน้าห้องตรวจฉุกเฉินด้วยความรู้สึกไม่ค่อยดีถาโถมใส่ แม้พยายามสั่งตัวเองไม่ให้คิดมาก แต่คนที่อยู่ในห้องนั้นเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดของเธอ จึงไม่สามารถที่จะข่มความรู้สึกนั้นได้ ในขณะที่ตันติกรมาเฟียหนุ่มที่นั่งบนเก้าอี้กระติกปลายเท้าไม่แคร์ใครจ้องมองร่างบางที่เดินวนไปวนมาจนรู้สึกรำคาญ จึงลุกขึ้นแล้วเดินไปคว้ามือหญิงสาว"แม่เธอไม่เป็นอะไรหรอกหน่า..." เขาเบือนหน้าไปพ่นหายใจออกมาเฮือกยาวอย่างเซ็ง ๆ "...รู้ไหมว่าเธอทำให้ฉันเวียนหัวจะแย่" "..." คนตัวเล็กแหงนหน้าขึ้นมองชายร่างสูงแล้วย่นคิ้วด้วยใบหน้าสงสัย"ก็เธอเล่นเดินวนไปเวียนมาจนฉันเวียนหัวแทบจะอ้วกอยู่แล้ว" "พี่กลับไปก่อนก็ได้ค่ะ ขอบคุณ...""ทำไมฉันต้องกลับ?" ใบหน้าสวยก้มลงพร้อมกับเม้มปากทั้งสองเข้ากันแน่น "..." ภายในใจอยากจะพูดแต่ก็ไม่กล้าที่จะบอกออกไป เพียงเพราะคนตรงหน้าก็เสมือนกับเป็นผู้มีพระคุณที่เป็นคนพาแม่ของเธอมายังโรงพยาบาลได้ทันท่วงทีแม้ว่าเธอเองจะไม่ได้ร้องขอ"หยุดเดินวนไปวนมาได้แล้ว" ปากหนาเอ่ยด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์นัก เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมจะต้องมานั่งทนรอคนป่วยที่