ครืดดดด ครืดดดดผมเอื้อมมือไปควานหามือถือทั้งที่ตายังคงปิดสนิทอยู่แล้วหยิบมันมาเลื่อนสไลด์เพื่อรับสาย[หนูดา ทำอะไรอยู่ลูก ยังนอนไม่ตื่นอีกเหรอลูกสาวแม่]แม่! ผมเบิกตากว้างแล้วรีบยกมือถือออกมาดูสายเรียกเข้าก่อนจะแนบหูใหม่อีกรอบ นี่มันมือถือหนูดาแล้วสายที่โทรเข้ายังเป็นแม่เธออีก ผมหันไปมองร่างเล็กที่ยังคงหลับใหลอยู่ในอ้อมกอดของผมก่อนจะตอบกลับไปยังปลายสาย“หนูดา ยังหลับอยู่น่ะครับ เดี๋ยวผมปลุกให้นะครับ”[อะ...อ๋อ ไม่เป็นไรลูก ให้หนูดานอนต่อเหอะ เดี๋ยวตื่นแล้วค่อยโทรหาแม่ก็ได้ ว่าแต่แม่โทรมาปลุกดินรึเปล่าลูก?]ผมขมวดคิ้วเข้าหากันทันทีที่ท่านเรียกชื่อผม แต่ผมไม่เคยเห็นหนูดาพูดเรื่องผมเลยนะเวลาคุยโทรศัพท์กับแม่“อ๋อ เปล่าฮะ...เอ๊ย! ครับ ผมตื่นสักพักแล้วครับ” ผมจำใจพูดไปแบบนั้นเพื่อให้ท่านสบายใจแถมยังหลุดคำลงท้ายที่ผมเคยใช้พูดกับแม่เป็นประจำอีก...จนกลับคำแทบไม่ทัน[สบายๆ เลยลูก พูดยังไงก็ได้ คิดซะว่าแม่เป็นแม่ดินอีกคนก็ได้นะ ว่าแต่ลูกสาวแม่ตื่นสายอีกแล้ว ไม่ไหวเลยจริงๆ หนูดาน่ะดื้อจะตาย ดินคงเหนื่อยแย่]เสียงท่านฟังแล้วอบอุ่นดีจัง พอได้ยินแล้วรู้สึกเหมือนคุยกับแม่ผมอยู่เลย แถมท่านยังใจดีให้
พรวดดดด...แค่กกกๆๆๆพอฉันกดเข้าไปดูน้ำที่อยู่ในก็พุ่งออกมาจนสำลัก ฉันรีบวางแก้วลงแล้วเช็ดปากอย่างลวกๆ อีกมือก็ยังเลื่อนอ่านคอมเมนต์พวกนั้นอย่างหัวร้อนสุดๆ ใครอนุญาตให้ไอ้เด็กบ้านั่นมันโพสต์แบบนี้แถมยังติดแท็กฉันอีก แล้วดูเพื่อกูแต่ละตัว ตายกูตายยย รู้กันไปถึงไหนแล้ววะเนี่ย ว่าแต่ทำไมเขารู้ ig ฉันฟะ ไม่เคยบอกเลยนะจำได้...ครืดดดด….ครืดดดดดอุ๊ต๊ะ...ตายยยๆๆๆฉันอุทานออกมาเสียงหลงเมื่อมีสายเรียกเข้าของอีสามตัวนั่นทำให้ฉันตกใจจนมือถือแทบจะร่วงจากมือดีนะคว้าไว้ทัน ต่อมเผือกทำงานไวจริงๆ นะพวกห่านี่ ไม่รับหรอก หึ้ยยยย...แค่คิดก็ขนลุกแล้ว ฉันจะไปจัดการกับไอ้ตัวแสบในห้องน้ำนั่นก่อน ร้ายกาจ...ร้ายกาจที่สุดปึงงๆๆๆๆ“ออกมาเดี๋ยวนี่นะ! ไอ้ดินบ้า” ฉันทุบประตูห้องน้ำอย่างแรงเพื่อเรียกให้คนข้างในออกมา ฉันต้องให้เขาลบโพสต์นั้นเดี๋ยวนี้“อะไรเมีย ผัวโป๊อยู่นะ” ดินตะโกนออกมาจากห้องน้ำด้วยน้ำเสียงที่ยียวนกวนประสาทสุดๆ“อย่ามากวนตีน ออกมะ….”แกร่กกก...แอ๊ดดดดดอื้อออออตุบ...ตุบ...ตุบดินเปิดประตูออกมาแล้วรั้งเอวฉันเข้าไปบดจูบอย่างรุนแรงและป่าเถื่อนพอฉันจะเบี่ยงหนีเขาก็เอามืออีกข้างขึ้นล็อกท้ายทอยฉันไว้แ
วันต่อมา......@ผับ“เร็วจังนะ พวกมึง”ดินเปิดประตูห้อง VIP แล้วเอ่ยทักพวกเพื่อนๆ เขาที่นั่งกันอยู่ครบองค์ประชุม ก่อนจะเดินไปนั่งโซฟาที่ว่างอยู่แล้วดึงฉันนั่งลงข้างๆ ซึ่งฉันยังอยู่ในอาการมึนๆ งงๆ ทำไมเขาถึงมาที่นี่อีกไม่มีผับอื่นให้นั่งแล้วรึไงนะ ถามก็บอกแค่ว่าพวกนี้ชวนมา แต่มันจำเป็นต้องที่นี่เหรอ“ไหนอะของ” วาโยยื่นมือมาทางดินแล้วเอ่ยขึ้นเหมือนกับขออะไรสักอย่าง ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร“แป๊บ เดี๋ยวมานะ” ดินบอกวาโยก่อนหันมาบอกฉันแล้วลุกออกไปจากห้องทันทีที่ประตูปิดลงฉันก็หันกลับมาจ้องหน้าพวกที่เหลือ หรี่ตามองพวกนั้นเรียงตัว แล้วก็เป็นอย่างที่คิดทุกคนมีอะไรปิดบังฉันอยู่ รับรู้ได้จากการหลบตาฉันของทุกคนแต่ฉันยังไม่ทันได้อ้าปากถามอะไรก็มีพนักงานคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามาซะก่อน“ทำไมมองผมแบบนั้นล่ะครับ ผมเป็นผู้ชายนะ” พนักงานชายคนนั้นพูดขึ้นหลังจากที่ถูกจับจ้องด้วยสายตาที่ปลื้มปริ่มจากผู้ชายทั้งหกคนในห้อง เหอะ...ก็มาช่วยชีวิตพวกนี้ไว้ไงจะไม่หันมองแบบนั้นได้ไง แล้วพนักงานคนนั้นก็ค่อยๆ เดินเอามิกเซอร์มาวางอย่างหวาดระแวงก่อนจะหันหลังกลับแต่ยังไม่ทันถึงประตูพวกนั้นก็เอ่ยเรียกเขาไว้โดยพร้อมเพร
“แล้ว...หนูดาต้องทำตัวยังไง”“ไม่ต้องเลย หนูดาแค่เลี้ยงลูกอยู่บ้านก็พอ” แล้วสีหน้าเขาก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือแถมยังดูอารมณ์ดีโคตรๆ อีกด้วย ไบโพร่ารึเปล่าวะ แต่เดี๋ยวนะ...อะไรคือเลี้ยงลูกอยู่บ้าน เฮ้ย! ใครบอกว่าฉันจะมีลูกกับเขา พูดอะไรเนี่ย….ฮึ้ยยย“จะบ้าเหรอ ลูกเลิกอะไร ใครบอกว่าจะมีให้”“ต้องมีดิ พร้อมทุกอย่างแล้ว อีกไม่กี่เดือนดินก็เรียนจบ ถ้ามีลูกตอนนี้ ก็พอดีเลยจะได้มีรูปลูกอยู่ในงานแต่งเราด้วยไง”โอ้โห...เชื่อในความมโนของนาง คิดได้ไงเนี่ย...แต่ก็รู้สึกดีนะที่รู้ว่าดินจริงจังกับฉันขนาดนี้ ความจริงเป็นเมียมาเฟียก็ดีนะ เท่จะตาย...รึจะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้“มโนเก่งนะเรา”“พูดจริง นี่ไง” แล้วดินก็ล้วงไปในกระเป๋าแจ็คเก็ตหยิบกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ มาให้ฉัน ฉันหรี่ตามองเขาก่อนจะหยิบกล่องนั่นมาเปิดดู โฮะ...แหวน...ฉันเงยหน้ามองเขาด้วยอาการที่แบบงงๆ นี่เป็นวิธีขอแต่งงานของเขาเหรอ เหอะ...เชื่อเขาเลยดินมองฉันแบบอมยิ้มหน่อยๆ ก่อนจะหยิบแหวนออกมาจากกล่องแล้วสวมที่นิ้วนางข้างซ้ายให้ฉันซึ่งมันพอดิบพอดีกับนิ้วฉันมากๆ แล้วเขาหันไปหยิบแก้วมาชงเหล้าแก้เขิน ฉันคิดว่าเขาต้องเขินหนักมากแน่ๆ หึ ฝันฉ
หลายวันต่อมา…“อ้าว ทำไมมึงยังอยู่อะ” ไอ้ยูเปิดประตูเข้ามาแล้วถามขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นผมนั่งดกเหล้าอยู่บนโซฟา แล้วมันก็พากันมานั่งพลางหยิบแก้วมาใส่น้ำแข็ง ผมหันไปมองมันตาขวาง ยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ ทักเหี้ยไรไม่รู้เรื่อง“กูยังไม่ตาย สัส”“เออ กูรู้ กูหมายถึงมึงไม่ได้ไปกับเมีย โฮะ..นี่มึงโดนเทเหรอวะ ฮ่าๆๆๆ” ไอ้เหี้ยยูนี่แม่งปากดีฉิบ มันพูดขึ้นพลางยิ้มเยาะผมอย่างสะใจ น่าเตะปากฉิบ ขยี้ปมกูดีจัง“เท พ่อง” ผมหันไปด่ามันก่อนยกเหล้าขึ้นดกอย่างเอาเป็นเอาตายใช่...ผมโดนเท ด้วยเหตุผลที่ว่า หนูดากลัวแม่จะช็อกที่อยู่ดีๆ ก็พาผู้ชายไปบ้านแถมตกลงจะแต่งงานกันแล้วด้วย เธอเลยขอกลับไปเคลียร์กับพ่อแม่ก่อน แล้วรอบหน้าค่อยให้ผมไป... น่าหงุดหงิดฉิบหาย“โดนเทชัวร์” ไอ้ห่านี้ก็ไม่จบ ผมเลยหยิบน้ำแข็งในถังเต็มกำมือแล้วปาใส่มันด้วยความหมั่นไส้“ไอ้สัส มึงไปนั่งไกลๆ เลย” ไอ้ธามพูดขึ้นพลางก้มลงปัดน้ำแข็งบนตักตัวเองที่โดนลูกหลงไปด้วย“เออ ไล่กู จำไว้นะมึง” ไอ้ยูก็ขยับออกมานั่งที่โซฟาอีกตัวด้วยท่าทีงอนๆ เหมือนผู้หญิงฉิบหาย แล้วมันก็ด่ากันตามประสามันแกร่กกก..พวกผมหันไปมองที่ประตูทันที วันนี้พวกเฮียๆ ไม่อยู่นี่หว่า แ
“นี่จ้ะ อีกสักพักก็คงมาแล้วแหละ เห็นโทรมาบอกแม่ว่าเพื่อนๆ จะมากินข้าวเที่ยงที่บ้าน แม่ก็เลยออกไปซื้อของมานี่ไง ตามสบายเลยนะดิน” ท่านยื่นแก้วน้ำมาให้ผมแล้วเดินไปหยิบของพวกนั้นเข้าไปเก็บในครัว ผมเลยเดินไปหยิบกรอบรูปที่วางเรียงกันอยู่หลายอันขึ้นมาไล่ดู พัฒนาการของเมียผม หึ บ้านนี้คงจะรักลูกสาวคนนี้มากมีแต่รูปหนูดาเต็มบ้านไปหมดผมเดินดูไปรอบๆ บ้านอย่างถือวิสาสะ แม่หนูดานี่เก่งเนอะดูแลบ้านคนเดียวให้เรียบร้อยเป็นระเบียบขนาดนี้ได้ แล้วผมก็มาสะดุดกับห้องใต้บันได ที่ข้างในเหมือนมีเตียงคนป่วยแบบในโรงพยาบาล หรือว่า….“เข้าไปทักพ่อเขาซะหน่อยไหม” ท่านเดินมาจากด้านหลังและเอ่ยขึ้นจนผมสะดุ้งเพราะผมมัวแต่ชะเง้อมองในห้องนั้นอยู่ แล้วท่านก็เดินผ่านผมเข้าไปในห้องผมเลยเดินตามท่านเข้าไป พ่อหนูดาป่วยหนักจริงๆ ด้วย หนูดาถึงได้ยอมไปทำงานไกลบ้านก็เพราะอย่างงี้นี้เอง...ผมยกมือไหว้ท่านเพราะเห็นว่าท่านลืมตาอยู่แต่ก็ไม่รู้ว่าท่านจะเห็นผมรึเปล่า“พ่อดูสิ ใครมา แฟนลูกสาวตัวดีของพ่อไง หล่อใช่ไหมล่ะ” แม่ของหนูดาพูดขึ้น แล้วพ่อก็หันมองแม่แบบช้าๆ ก่อนจะกะพริบตาให้ มันหมายถึงท่านรับรู้รึเปล่านะ ท่านหันกลับมามองที่ผมอีกค
“บาย อีชะนี”“บาย อีผีทั้งหลาย”ฉันเดินออกมาส่งพวกอีผีทั้งหลาย หึ ไม่ได้เจอกันนานเม้าท์มอยกันตั้งแต่บ่ายจนเย็น ฉันหันหลังกำลังจะเดินกลับเข้าบ้านแต่สายตาก็ดันไปสะดุดกับอะไรบางอย่างตรงสวนข้างบ้านเลยเปลี่ยนทิศทางทันทีเดินไปยืนพิงเสาชิงช้าในสวนมองดูสองแม่ลูกเขาช่วยกันปลูกต้นไม้เหอะ...ดินกลายเป็นลูกรักของแม่ไปเฉยเลย เพราะฉันไม่ชอบการมาทำอะไรแบบนี้ที่สุดไม่เคยมาช่วยแม่ปลูกต้นไม้เลยสักครั้ง แต่ก็อดยิ้มให้กับความน่ารักน่าเอ็นดูของดินไม่ได้ เวลาเขาอยู่กับแม่ฉันดินกลายเป็นแค่เด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้นเอง ดินเองก็คงจะคิดถึงแม่เขาไม่น้อยเหมือนกัน“ดิน กลับได้แล้ว ไม่ชินทางอะ เดี๋ยวมืดแล้วจะแย่” ฉันเอ่ยบอกดินเพราะเห็นว่านี่มันเย็นมากแล้ว เดี๋ยวเขาจะกลับลำบาก โรงแรมก็อยู่ตั้งไกล ดินหันมาพยักหน้าให้ฉันก่อนจะลุกขึ้นปัดเนื้อปัดตัวที่เต็มไปด้วยขี้ดิน ฉันส่ายหน้าไปมาก่อนจะเดินเข้าไปเอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดทำความสะอาดตามเนื้อตัวและถอดผ้ากันเปื้อนออกให้เขา“รีบกลับไปไหนล่ะ มาวันเดียวเองเหรอ” แม่ถามขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าดินทำท่าจะกลับ แม่ต้องคิดว่าดินกลับไปเชียงใหม่แน่ๆ“อ๋อ เปล่าฮะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ดินมาใหม่”“ดิ
“ดิน ทำไมวันนั้นดินถึงรู้ว่าหนูดาอยู่ไหน ทำไมดินถึงไปช่วยหนูดาได้ล่ะ” ฉันเอ่ยถามและเหลือบตาขึ้นมองหน้าดิน เรื่องนี้มันข้องใจฉันมากเลยว่าจะถามตั้งนานแหละ“ก็ไปเจอมือถือหนูดาในรถแท็กซี่ที่จอดอยู่แถวนั้น”“มือถือ...แล้วทำไมถึงเจออะ”“ก็มือถือไง”ฉันดันตัวเองขึ้นหรี่ตามองหน้าดินแล้วเขาก็ทำเป็นลอยหน้าลอยตาไม่สนใจ มือถือ….มือถือ โฮะ นี่เขาแอบเปิด GPS ในมือถือฉันงั้นเหรอ“นายมันร้ายกาจที่สุด” ฉันมองเขาตาขวางพลางดีดตัวเองขึ้นจากตักเขาแล้วล้มตัวลงนอนบนเตียง งั้นเขาก็รู้หมดเลยดิว่าฉันไปไหนบ้าง...ร้ายกาจมากกกก แต่จะว่าไปถ้าเขาไม่ทำแบบนี้วันนั้นคงไปช่วยฉันไม่ทันแน่ๆ“หนูดา ดินจะให้พ่อหนูดาไปรักษาที่เมกา” อยู่ๆ ดินก็พูดในสิ่งที่ฉันไม่คาดคิดออกมา เขาเป็นบ้าไปแล้วเหรอ ทำแบบนั้นได้ยังไง นั่นพ่อฉันนะ จะให้เขาเป็นคนมาดูแลแบบนี้ได้ไง ฉันไม่ยอมหรอก ค่ารักษาแพงจะตาย ฉันจะมีปัญญาหามาใช้เขาเหรอ“ห้ะ! ไม่ได้นะ”“เดี๋ยว ฟังดินให้จบก่อน หนูดาอยากให้พ่อหายไหม แม่ก็อยากให้พ่อหายเหมือนกันพ่อเองท่านก็อยากหาย หมอที่โน่นเก่งมากนะ ใช้เวลาไปถึงปีหรอก เรื่องค่ารักษาดินจัดการเอง ดินคุยกับแม่แล้ว จัดการเรื่องทุกอย่างแล้ว
วันนี้ดินพาฉันมาฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลของตามคำแนะนำของคุณหมอคนเดียวของกลุ่ม แต่วันนี้ฉันดูสดชื่นและมีความสุขแบบบอกไม่ถูก ยิ่งได้เห็นหน้าดิน ได้จับ ได้กอด ได้หอมนะ ยิ่งมีความสุขเข้าไปใหญ่จนยิ้มไม่หุบเลยแหละ คิ คิ“เป็นไรเนี่ย” ดินถามขึ้นระหว่างที่เรานั่งรอหมอเรียกอยู่ด้านหน้าเคาน์เตอร์แล้วฉันเอาแต่คล้องแขนเขาพลางใช้จมูกโด่งซุกไปมาอยู่ที่แขนดินแบบนั้นไปยอมปล่อย“ไม่รู้อ่ะ อยากได้กลิ่นตัวดิน” ฉันพูดเสียงอู้อี้เมื่อจมูกยังกดอยู่ที่แขนของเขา รู้สึกเหมือนตัวเองหื่นยังไงก็ไม่รู้ แต่มันห้ามไม่ได้เลยอ่ะ“หื้มม”ฉันเหลือบมองหน้าดินเห็นเขาแอบเขินหน่อยๆ ด้วยนะ คิ คิ น่ารักที่สุดเลย หลัวฉัน...ของฉันคนเดียว“เชิญคุณนีรดาร์ ห้องตรวจ 1 ค่ะ”เอ๊ะ…! เรียกแล้ว ฉันกับดินพากันเดินเข้ามาในห้องตรวจ 1 ตามที่เสียงที่ประกาศเรียกเมื่อกี้ ฉันเห็นหมอผู้หญิงคนนี้แล้วไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่เลย เอาแต่มองดินอยู่ได้ ตั้งแต่นั่งอยู่ตรงนั้นจนฉันขึ้นนอนบนเตียงเพื่อจะอัลตราซาวด์ดูเบบี๋น้อยในท้องฉัน มันก็ตื่นเต้นอยู่หรอกแต่ใจดันจดจ่ออยู่หมอคนนั้นกับหลัวฉันเนี่ยแหละ“ดิน! หันมาหาหนูดา”“ดินดูเบบี๋อยู่ เนี่ยหนูดาดูดิ เห็นไหม”
“ดิน สุขสันต์วันเกิดนะ หนูดารักดิน นี้ของขวัญวันเกิด” หนูดาเดินเข้ามากอดผมแล้วพูดขึ้นพร้อมกับยัดบางอย่างใส่มือผมก่อนจะผละออกแล้วทำท่าเขินๆ ผมเลยยกมือขึ้นมาดูว่าเธอเอาอะไรให้ผม“เห่ย!” ผมอุทานเสียงหลง เผลอยิ้มออกมาอย่างดีใจ ลืมความโกรธเมื่อกี้นี้ไปจนหมดสิ้นแล้วดึงหนูดาเข้ามากอดอีกครั้งพลางก้มจูบที่หัวเธอเบาๆ นี้เป็นของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดในชีวิตผมเลย ผมกำลังจะเป็นพ่อคน เรากำลังจะมีเจ้าตัวเล็กด้วยกัน เรากำลังจะกลายเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ“หายโกรธนะ ป๊ะป๋า จุ๊บ” หนูดาดันตัวออกแล้วเขย่งขึ้นมาจุ๊บที่ปากผมทีหนึ่ง ผมส่ายหน้าน้อยๆ ให้กับความเล่นใหญ่เล่นจริงของเมียตัวแสบ แต่คำว่า ป๊ะป๋า เนี่ยมันทำให้ผมอยู่ไม่เป็นสุขเลยจริงๆ หน้าร้อนผ่าวไปหมด“หึ ไม่เอาเล่นใหญ่แบบนี้แล้วนะ จะช็อกว่ะ”ปัง...ปังฮิ้ววววว….ฮิ้วววววโห...แม่งเล่นใหญ่จริงว่ะ มีพลุสายรุ้งด้วย..นี่ขนาดวันเกิดยังเล่นใหญ่ขนาดนี้ ถ้างานแต่ง..กูว่ามีนอนในโรงแกล้งกูแหง...หึ แล้วก็ตามมาด้วยเสียงแซวต่างๆ นานาของให้พวกเวรนั่น“ว่าแต่เพิ่งปล่อย ทำไม” ผมก็อดที่จะสงสัยไม่ได้เพราะหนูดเพิ่งจะตกลงกับป๊าเมื่อไม่กี่วันนี้เองว่าจะมีหลานให้ท่าน“3
ผมออกมาเคลียร์งานที่ผับตั้งแต่เช้าเพราะวันนี้วันหยุด ปกติหนูดาจะเป็นคนทำแต่วันนี้ยัยเตี้ยของผมไม่ค่อยสบาย ผมเลยกะว่าจะมาเคลียร์งานให้เสร็จแต่เช้า สายๆจะได้พาเมียไปหาหมอผมนั่งเคลียร์งานอยู่ในห้องสักพักก็มีคนเปิดประตูห้องทำงานของผมเข้ามาอย่างถือวิสาสะแกร่ก...แอ๊ดดดด“อุ้ย! ขอโทษค่ะ คือป้าไม่รู้ว่านายน้อยจะเข้ามาแต่เช้า” ป้าแม่บ้านวางอุปกรณ์ทำความสะอาดลงแล้วรีบยกมือไหว้ผมด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน นี่ผมน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอวะ“ป้าจะไหว้ผมทำไม ป้าจะทำความสะอาดใช่ไหม ทำเลยครับ ไม่เป็นไร” แล้วผมก็ยกมือไหว้ป้าคืน นรกได้กินหัวผมพอดีให้คนรุ่นราวคราวเดียวกับป๊ามายกมือไหว้แบบนี้ แล้วป้าก็เอามือลงส่งยิ้มมาให้ผมก่อนจะหันไปหยิบอุปกรณ์แล้วทำความสะอาดตามหน้าที่ของท่านครืดดดด...ครืดดดดผมรีบหยิบมือถือออกจากกระเป๋าทันทีเพราะคิดว่าเป็นสายเรียกเข้าจากเมียแต่ไม่ใช่ เบอร์ใครวะ...ผมเลื่อนสไลด์เพื่อรับสาย“ครับ ผมปฐพี อะไรนะ! ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้” ผมรีบคว้ากุญแจรถแล้วออกมาจากห้องทำงานทันทีพลางกดมือถือหาเฮียหมอไปด้วย ไอ้เฮียหมอแม่งก็ไม่รับสายซะทีวะ…ตืดดดดด...ตืดดดดด[อะไรของแม่งวะ โทรทำเหี้ยไร]“ไอ้เฮีย มึงรีบไ
“พอๆๆ ไอ้ห่านี่ก็ไม่เกรงใจป๊าเลย ไว้กลับไปทำที่ห้องโน้น ความจริงเรื่องเนี่ยไอ้ดินมันไม่รู้หรอก มันก็เพิ่งรู้ก่อนหน้าหนูไม่นานเนี่ยแหละ แผนป๊าเอง”“ห้ะ! นี่ท่าน” ฉันถึงกับพูดลืมอายไปเลย ไม่เคยคิดเลยว่ามาเฟียที่น่าเกรงขามแบบท่านจะมาทำอะไรเพื่อแกล้งฉันแบบนี้ อะไรเข้าสิงท่าฟ่ะ ทำไมท่านถึงทำแบบนี้นะ เหงาหรือว่าอะไร สองพ่อลูกนี่ทำตัวได้น่าโมโหชะมัด ถ้าไม่ติดว่าเป็นป๊าดินล่ะก็ ฉันไม่ปล่อยไปแน่...ฉันเลยหันกลับไปหาลูกชายตัวดีของท่านแทน“ไอ้เด็กบ้า กลับไปนายเจอดีแน่”“อ้าว ทำไมเป็นดินอะ” ดินพูดขึ้นหน้าตาเลิ่กลั่กแล้วชี้นิ้วเข้าหาตัวเองแบบงงๆ“ก็ฉันทำท่านได้ไหมล่ะ นายเป็นลูกก็รับไปสิ” ฉันพูดพลางเอามือขึ้นกอดอกด้วยท่าทางฟึดฟัดพอสมควร ความจริงอยากทำมากกว่านี้อีก...แต่ทำไม่ได้“ป๊าเล่นไรเนี่ย เห็นไหมผมซวยเลย” แล้วดินก็หันไปพูดกับป๊าตัวเองอย่างหัวเสีย“ก็ฉันอยากเห็นกะตานี่หว่า ว่าลูกสะใภ้ฉัน ใจเด็ด ใจกล้า อย่างที่เขาพูดกันจริงรึเปล่า แต่เกินคาดไม่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างหนูจะยอมตายแทนลูกชายฉันได้ แกนี่มันโชคดีจริงๆ ฮ่าๆๆ” ท่านพูดขึ้นแล้วเดินเข้าไปตบไหล่ลูกชายตัวเองเบาๆ ก่อนจะหัวเราะขึ้นอย่างชอบใจ
สองอาทิตย์ต่อมา…..หลังจากที่ฉันและดินไปส่งพ่อกับแม่ไปเมกาเพื่อรักษาตัวเสร็จเรียบร้อยก็บินกลับมาที่เชียงใหม่ทันทีเพราะคนของป๊าโทรมาบอกว่าท่านมีเรื่องกับคนในแก๊งที่หักหลังท่านสถานการณ์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไร แล้วดินก็ดูร้อนใจมาก ฉันลอบมองดินเป็นระยะๆ ขณะที่นั่งอยู่ในรถไฟเหาะ เฮ้อออ...ทำไมเขาถึงขับรถเร็วแบบนี้นะ“ดิน เบาลงหน่อยดีไหม” ฉันเอื้อมมือไปจับแขนดินเพื่อดึงสติเขากลับมา ฉันคิดว่าใจดินคงไปอยู่กับป๊าแล้วละ ดินถอนหายใจออกมาก่อนจะผ่อนคันเร่งลงนิดหนึ่งสักพักรถก็เคลื่อนมาจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ฉันไม่เคยได้มาสักครั้ง เวลาท่านอยากเจอดินหรือมีงานต้องคุยส่วนมากก็จะไปหาดินที่ผับแล้วก็ภัตตาคารอะไรทำนองนั้นแต่ไม่เคยนัดดินมาที่นี่เลยฉันวิ่งตามดินมาหยุดอยู่กลางห้องโถงใหญ่กลางบ้านแต่ไม่เห็นใครเลย เงียบสงัดจนน่าแปลกใจ ดินก็คงคิดแบบนั้นเหมือนกันเขาคว้ามือฉันไปจับไว้แน่นแล้วหันซ้ายหันขวามองอย่างระวังตัวพรึบบบบปึกกกก“ดิน”ดินดึงตัวฉันเข้าไปกอดจากหลังแล้วกดหัวลงเหมือนพยายามจะบังตัวฉันไว้จากอะไรสักอย่างก่อนฉันจะได้ยินเสียงของแข็งกระทบเข้าร่างกายดินอย่างจังเพราะฉันสัมผัสได้จากการแรงกระแทกและดินก็ทรุดเ
“ดิน ทำไมวันนั้นดินถึงรู้ว่าหนูดาอยู่ไหน ทำไมดินถึงไปช่วยหนูดาได้ล่ะ” ฉันเอ่ยถามและเหลือบตาขึ้นมองหน้าดิน เรื่องนี้มันข้องใจฉันมากเลยว่าจะถามตั้งนานแหละ“ก็ไปเจอมือถือหนูดาในรถแท็กซี่ที่จอดอยู่แถวนั้น”“มือถือ...แล้วทำไมถึงเจออะ”“ก็มือถือไง”ฉันดันตัวเองขึ้นหรี่ตามองหน้าดินแล้วเขาก็ทำเป็นลอยหน้าลอยตาไม่สนใจ มือถือ….มือถือ โฮะ นี่เขาแอบเปิด GPS ในมือถือฉันงั้นเหรอ“นายมันร้ายกาจที่สุด” ฉันมองเขาตาขวางพลางดีดตัวเองขึ้นจากตักเขาแล้วล้มตัวลงนอนบนเตียง งั้นเขาก็รู้หมดเลยดิว่าฉันไปไหนบ้าง...ร้ายกาจมากกกก แต่จะว่าไปถ้าเขาไม่ทำแบบนี้วันนั้นคงไปช่วยฉันไม่ทันแน่ๆ“หนูดา ดินจะให้พ่อหนูดาไปรักษาที่เมกา” อยู่ๆ ดินก็พูดในสิ่งที่ฉันไม่คาดคิดออกมา เขาเป็นบ้าไปแล้วเหรอ ทำแบบนั้นได้ยังไง นั่นพ่อฉันนะ จะให้เขาเป็นคนมาดูแลแบบนี้ได้ไง ฉันไม่ยอมหรอก ค่ารักษาแพงจะตาย ฉันจะมีปัญญาหามาใช้เขาเหรอ“ห้ะ! ไม่ได้นะ”“เดี๋ยว ฟังดินให้จบก่อน หนูดาอยากให้พ่อหายไหม แม่ก็อยากให้พ่อหายเหมือนกันพ่อเองท่านก็อยากหาย หมอที่โน่นเก่งมากนะ ใช้เวลาไปถึงปีหรอก เรื่องค่ารักษาดินจัดการเอง ดินคุยกับแม่แล้ว จัดการเรื่องทุกอย่างแล้ว
“บาย อีชะนี”“บาย อีผีทั้งหลาย”ฉันเดินออกมาส่งพวกอีผีทั้งหลาย หึ ไม่ได้เจอกันนานเม้าท์มอยกันตั้งแต่บ่ายจนเย็น ฉันหันหลังกำลังจะเดินกลับเข้าบ้านแต่สายตาก็ดันไปสะดุดกับอะไรบางอย่างตรงสวนข้างบ้านเลยเปลี่ยนทิศทางทันทีเดินไปยืนพิงเสาชิงช้าในสวนมองดูสองแม่ลูกเขาช่วยกันปลูกต้นไม้เหอะ...ดินกลายเป็นลูกรักของแม่ไปเฉยเลย เพราะฉันไม่ชอบการมาทำอะไรแบบนี้ที่สุดไม่เคยมาช่วยแม่ปลูกต้นไม้เลยสักครั้ง แต่ก็อดยิ้มให้กับความน่ารักน่าเอ็นดูของดินไม่ได้ เวลาเขาอยู่กับแม่ฉันดินกลายเป็นแค่เด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้นเอง ดินเองก็คงจะคิดถึงแม่เขาไม่น้อยเหมือนกัน“ดิน กลับได้แล้ว ไม่ชินทางอะ เดี๋ยวมืดแล้วจะแย่” ฉันเอ่ยบอกดินเพราะเห็นว่านี่มันเย็นมากแล้ว เดี๋ยวเขาจะกลับลำบาก โรงแรมก็อยู่ตั้งไกล ดินหันมาพยักหน้าให้ฉันก่อนจะลุกขึ้นปัดเนื้อปัดตัวที่เต็มไปด้วยขี้ดิน ฉันส่ายหน้าไปมาก่อนจะเดินเข้าไปเอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดทำความสะอาดตามเนื้อตัวและถอดผ้ากันเปื้อนออกให้เขา“รีบกลับไปไหนล่ะ มาวันเดียวเองเหรอ” แม่ถามขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าดินทำท่าจะกลับ แม่ต้องคิดว่าดินกลับไปเชียงใหม่แน่ๆ“อ๋อ เปล่าฮะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ดินมาใหม่”“ดิ
“นี่จ้ะ อีกสักพักก็คงมาแล้วแหละ เห็นโทรมาบอกแม่ว่าเพื่อนๆ จะมากินข้าวเที่ยงที่บ้าน แม่ก็เลยออกไปซื้อของมานี่ไง ตามสบายเลยนะดิน” ท่านยื่นแก้วน้ำมาให้ผมแล้วเดินไปหยิบของพวกนั้นเข้าไปเก็บในครัว ผมเลยเดินไปหยิบกรอบรูปที่วางเรียงกันอยู่หลายอันขึ้นมาไล่ดู พัฒนาการของเมียผม หึ บ้านนี้คงจะรักลูกสาวคนนี้มากมีแต่รูปหนูดาเต็มบ้านไปหมดผมเดินดูไปรอบๆ บ้านอย่างถือวิสาสะ แม่หนูดานี่เก่งเนอะดูแลบ้านคนเดียวให้เรียบร้อยเป็นระเบียบขนาดนี้ได้ แล้วผมก็มาสะดุดกับห้องใต้บันได ที่ข้างในเหมือนมีเตียงคนป่วยแบบในโรงพยาบาล หรือว่า….“เข้าไปทักพ่อเขาซะหน่อยไหม” ท่านเดินมาจากด้านหลังและเอ่ยขึ้นจนผมสะดุ้งเพราะผมมัวแต่ชะเง้อมองในห้องนั้นอยู่ แล้วท่านก็เดินผ่านผมเข้าไปในห้องผมเลยเดินตามท่านเข้าไป พ่อหนูดาป่วยหนักจริงๆ ด้วย หนูดาถึงได้ยอมไปทำงานไกลบ้านก็เพราะอย่างงี้นี้เอง...ผมยกมือไหว้ท่านเพราะเห็นว่าท่านลืมตาอยู่แต่ก็ไม่รู้ว่าท่านจะเห็นผมรึเปล่า“พ่อดูสิ ใครมา แฟนลูกสาวตัวดีของพ่อไง หล่อใช่ไหมล่ะ” แม่ของหนูดาพูดขึ้น แล้วพ่อก็หันมองแม่แบบช้าๆ ก่อนจะกะพริบตาให้ มันหมายถึงท่านรับรู้รึเปล่านะ ท่านหันกลับมามองที่ผมอีกค
หลายวันต่อมา…“อ้าว ทำไมมึงยังอยู่อะ” ไอ้ยูเปิดประตูเข้ามาแล้วถามขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นผมนั่งดกเหล้าอยู่บนโซฟา แล้วมันก็พากันมานั่งพลางหยิบแก้วมาใส่น้ำแข็ง ผมหันไปมองมันตาขวาง ยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ ทักเหี้ยไรไม่รู้เรื่อง“กูยังไม่ตาย สัส”“เออ กูรู้ กูหมายถึงมึงไม่ได้ไปกับเมีย โฮะ..นี่มึงโดนเทเหรอวะ ฮ่าๆๆๆ” ไอ้เหี้ยยูนี่แม่งปากดีฉิบ มันพูดขึ้นพลางยิ้มเยาะผมอย่างสะใจ น่าเตะปากฉิบ ขยี้ปมกูดีจัง“เท พ่อง” ผมหันไปด่ามันก่อนยกเหล้าขึ้นดกอย่างเอาเป็นเอาตายใช่...ผมโดนเท ด้วยเหตุผลที่ว่า หนูดากลัวแม่จะช็อกที่อยู่ดีๆ ก็พาผู้ชายไปบ้านแถมตกลงจะแต่งงานกันแล้วด้วย เธอเลยขอกลับไปเคลียร์กับพ่อแม่ก่อน แล้วรอบหน้าค่อยให้ผมไป... น่าหงุดหงิดฉิบหาย“โดนเทชัวร์” ไอ้ห่านี้ก็ไม่จบ ผมเลยหยิบน้ำแข็งในถังเต็มกำมือแล้วปาใส่มันด้วยความหมั่นไส้“ไอ้สัส มึงไปนั่งไกลๆ เลย” ไอ้ธามพูดขึ้นพลางก้มลงปัดน้ำแข็งบนตักตัวเองที่โดนลูกหลงไปด้วย“เออ ไล่กู จำไว้นะมึง” ไอ้ยูก็ขยับออกมานั่งที่โซฟาอีกตัวด้วยท่าทีงอนๆ เหมือนผู้หญิงฉิบหาย แล้วมันก็ด่ากันตามประสามันแกร่กกก..พวกผมหันไปมองที่ประตูทันที วันนี้พวกเฮียๆ ไม่อยู่นี่หว่า แ