ผมรู้สึกตัวขึ้นมองรอบๆ ห้องที่มีแต่ความว่างเปล่า ทุกคนไปไหนกันหมดนะ นี่ผมเผลอหลับไปนานแค่ไหนเนี่ย ผมผงกหัวขึ้นสำรวจแผลตัวเองที่มันยังเจ็บอยู่ไม่น้อยเลยอาจเป็นเพราะผมเย็บแผลสองรอบด้วยมั้ง แล้วทิ้งหัวลงหมอนอีกครั้งพลางหลับตาลง อยากลุกแต่ลุกไม่ขึ้น ปวดเนื้อปวดตัวไปหมดแถมยังปวดหัวเอามากๆ ด้วย ผมเอามือขึ้นบีบขมับตัวเองเบาๆ เพื่อให้มันทุเลาลง“ตื่นแล้วเหรอดิน เป็นไงบ้าง เจ็บแผลมากไหม ปวดหัวเหรอ มะ...หนูดาช่วยนะ” ผมลืมตาขึ้นมองคนตัวเล็กตรงหน้าเอ่ยถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงพลางเอามือมานวดหัวให้ รู้สึกดีขึ้นแฮะไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอนวดหัวให้หรือเพราะได้อยู่ใกล้ๆ เธอกันแน่“หมอไวน์บอกว่าดินมีไข้เพราะแผลอักเสบ แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว แต่ดินต้องอยู่ที่นี่อีกสองสามวัน รอดูแผลก่อน เออ ละ…อุ๊บบบบ”อื้ออออออ~~//>ผมไม่รอให้เธอพูดจบดึงรั้งท้ายทอยเธอเข้ามาจูบอย่างโหยหา ลิ้นร้อนถูกส่งเข้าฉกชิมความหวานในปากเล็กนั่น ผมไม่มีวันยอมให้ใครได้รู้เป็นอันขาดว่าปากยัยเตี้ยนี้หวานแค่ไหน เธอต้องมีแค่ผมคนเดียวเท่านั้น“เฮ้ยๆ ๆ ใจเย็นไหมมึง” ไอ้พวกมารผจญ หนูดารีบดันตัวออกจากผมทันทีที่ได้ยินเสียงไอ้เฮียวา เข้ามา
“ฉันยังไม่ได้จัดการพวกนายเลยนะ ที่รวมหัวกันหลอกฉันอะ” แล้วหนูดาก็หันไปชี้หน้าคาดโทษพวกมันเรียงตัว ผมนอนมองพวกมันด้วยหน้าตาที่เยาะเย้ยสุดๆ นานๆ จะมีคนมาปราบพวกมันได้“เออ ไอ้ดิน เมื่อกี้น้องเค้กโทรมาว่าไงนะ” ไอ้เฮียหมอเอ่ยถามพลางยักคิ้วใส่ผม“หื้มมม?” เอาแล้วไง..ไอ้พวกห่านี่“ดิน!” หนูดาก็หันขวับมาหาผมทันที สายตาแบบนี้ กูตายชัวร์ ไอ้หมอแม่ง...เล่นกูแล้วไหมล่ะ“ไหน โทรศัพท์มีที่ไหนละ ไม่มี ไอ้หมออย่ากวนตีน” ผมรีบปฏิเสธหนูดาแล้วหันไปด่าไอ้หมอ“แต่กูเห็นมึงคุยอยู่นะ อ้าวน้องเค้กเหรอวะ กูนึกว่าน้องริต้าซะอีก” ไอ้เฮียวาพูดขึ้นด้วยหน้าตาแบบอินโนเซนต์สุด แต่กูอยากโดดถีบหน้ามันสุดๆ ไอ้พวกเวรนี้คงจะเอาไว้ไม่ได้ซะแล้ว แล้วดูสายตาเมียกู ยุขึ้นง่ายจังวะ ตาเขียวปั้ดขนาดนี้ ไม่ได้ตายดีแง่งๆ“ไอ้สัส กูไม่ตลก” ผมผงกหัวขึ้นด่าพวกมัน แต่ไม่มีใครสลดสักคน แม่ง ยังทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ใส่กูอีก เดี๋ยวเหอะมึง...ถ้าใครพูดขึ้นอีกกูลุกไปต่อยจริงๆ ด้วย หนูดายิ่งขี้หึงอยู่ด้วย เดี๋ยวก็ฆ่ากูหมกห้องพอดี“ไม่มีไรหรอกหนูดา อย่าไปเชื่อ ไอ้ดินมันไม่ทำแบบนั้นหรอกต่อหน้าหนูดาแน่ เชื่อฉันสิ ฮ่าๆ ๆ ๆ” ไอ้ยูตะเสริมขึ้นอีก ไอ้เ
หลายวันผ่านไป……ฉันกำลังเร่งทำงานบนโต๊ะให้เสร็จทันเวลาเลิกงานไม่อยากให้ดินมารอ กลัวจะเจอกับผู้ชายคนนั้นเข้าอีก...ดินคอยมารับมาส่งฉันไม่ห่างถ้าดินไม่ว่างจริงๆ ก็จะเป็นธามหรือไม่ก็ยูตะที่มารับแทน ตั้งแต่เหตุการณ์วันนั้นดินก็ไม่เคยปล่อยให้ฉันกลับบ้านเองเลยสักครั้ง ฉันเองก็เริ่มสนิทสนมกับพวกเพื่อนๆ เขามากขึ้นและรับรู้ว่าแท้จริงแล้วพวกนั้นไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิดแค่กวนตีนแล้วก็ปากหมาสุดๆ เท่านั้นเองแต่อยู่ด้วยแล้วก็สนุกดีจะมีก็แต่พลอยใสที่นานๆ จะเจอก็มีด่ากันตีกันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว และฉันก็กล้าที่จะเปิดเผยเรื่องของเรามากขึ้น…เป๊ะ ทันเวลาพอดี ฉันรีบเก็บของบนโต๊ะเพื่อจะกลับบ้าน ป่านนี้ดินคงจะมารอแล้ว และก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ ฉันเดินลงมาเห็นดินจอดรถรออยู่หน้าอาคาร“มานานยัง” ฉันเอ่ยถามดินทันทีที่ขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว“สักพัก” ดินตอบพลางหยิบถุงขนมส่งมาให้ฉัน ตาลุกวาวเลย ของโปรดฉันมาอีกแล้ววววว ทุกวันจะต้องมีอันนี้มาให้ฉัน มันคือเอแคร์เจ้าอร่อยที่อยู่ใกล้ๆ ม.ของดิน เขาดันหลงพาฉันไปกินก็เลยกลายเป็นว่าต้องซื้อมาให้ทุกวัน ฉันรับมาและส่งยิ้มหวานไปให้ดิน“อื้มมมม...อร่อยมากเลยอะ” ฉันหลับหูหล
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง“ช้านม่ายยยเมา...ยายยพลอยเสียยยต่างหากกกที่มาวววว”“เมื่อกี้...เธออออ เรียกกกกช้านนนนว่ารายยย ฮะ! ยายยยยเตี้ยยยยย”“โอ๊ยยยย ยืนก็จะไม่ไหวกันอยู่ ยังจะมาทำเก่ง ไม่ได้แดกเหล้าเลยกู มันสองคนล่อกันซะเกลี้ยง” ไอ้ยูมันบ่นให้ผู้หญิงสองคนที่ตอนนี้เมาเละทั้งคู่ ผมมองคนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนตักผม และยังชี้โบ้ชี้เบ้ใส่ยัยพลอย ทั้งที่ก็ทรงตัวไม่อยู่แหละ ผมต้องโอบเอวเธอไว้เพราะกลัวเธอจะตก“ดินนนนน...หนูดาาาาา ม่ายยยยด้ายยยยมาววว” เธอหันมาซบอกผม และใช้นิ้วคลึงปากผมเล่น“อือออ” ผมจับมือเธอออกและมาพาดไว้ที่คอผมแทน“คริ...คริ จายยยยเต้นนแรงงงงจังหนูดาอยากกกอ้อนดินนนน” ผมอดยิ้มให้กับความน่ารักของยัยเตี้ยนี้ไม่ได้เลย ใช่ตอนนี้ใจผมเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาอยู่แล้วววว“กูรู้แหละ ทำไมไอ้เหี้ยนี่ถึงหลง”“หลงเชี่ยไร….” ผมล่ะสายตาจากคนตัวเล็กบนตักแล้วหันไปด่าไอ้ยู ไอ้นี่แม่งพูดมากตลอด“นึกว่าเสือ...ก็แมวดีๆ นี่แหละหว้าาาา”“ฮ่าๆ ๆ ๆ เออช่าย เพื่อนธามพูดถูกใจจริงๆ”ด้วยความหมั่นไส้ ผมเลยหยิบน้ำแข็งปาใส่พวกมันสองตัวที่หัวเราะกันคิกคัก ก่อนจะอุ้มร่างคนตัวเล็กขึ้น“มึงจะกลับแล้วเหรอ”“เออ มึงด
อร๊ายยยยยยยปึง!“เฮ้ย! เป็นอะไร” ดินพังประตูห้องน้ำแล้ววิ่งเข้ามาจับตัวฉันพลิกไปพลิกมาเพื่อสำรวจว่ามีอะไรเกิดขึ้น“ดะ...ดิน ไอ้เด็กหื่น! ทำบ้าอะไรขนาดนี้เนี่ย ห้ะ” ฉันหันไปตวาดใส่ดินหลังจากที่มองตัวเองอยู่หน้ากระจก ร่องรอยจากกิจกรรมเมื่อคืนมันทำให้ฉันตกใจแทบช็อก ไอ้เด็กบ้านี่ไปอดอยากมาจากไหน ทำไมถึงหื่นขนาดนี้ ตั้งแต่คอลงมาจนถึงหน้าท้องถูกแต้มด้วยรอยเป็นจ้ำๆ เต็มไปหมดจนแทบไม่มีที่ว่างเลย“โฮะ...ตกใจหมด” ดินขมวดคิ้วเข้าหากันพลางทำหน้าหงุดหงิดใส่ฉัน แล้วก็ถอดเสื้อกล้ามของตัวเองออก โอ้แม่เจ้าฉันรีบเอามือทั้งสองข้างขึ้นปิดปากตัวเองแน่นแล้วกลืนน้ำลายลงคอเอื้อกใหญ่“นะ...นี่ ฝีมือคะ...ใคร” ฉันเอ่ยถามเสียงตะกุกตะกัก นี่ไม่ใช่ฉันแน่ๆ ฉันไม่มีวันทำขนาดนี้หรอก รอยบนตัวเขาก็ไม่ต่างจากฉันเลย เหมือนจะเยอะกว่าด้วยซ้ำ ใครกันเป็นคนทำ ไม่นะ ฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย อะไรเข้าสิงฉัน“เหอะ...เด็กนั่งดริ้งค์เมื่อคืนอะ” ดินตอบฉันแล้วทำลอยหน้าลอยตา หน้อยยยย ไอ้เด็กบ้า รู้อยู่ว่าเป็นฉัน...ยังจะมากวนประสาทอีก“ไอ้…” ดินรีบยกมือขึ้นชี้หน้าฉันก่อนที่ฉันจะหลุดคำด่าออกมาให้เขาได้ยิน ฉันเลยได้แต่เม้มปากเข้าหากันแน่
“ทางนี้ครับ นายน้อย” ห้ะ! ผู้ชายคนเมื่อกี้เรียกดินว่าอะไรนะ...แล้วดินก็พาฉันเดินตามผู้ชายคนนั้นไปหยุดที่โต๊ะอาหารที่มีอาหารหลายอย่างวางอยู่เป็นที่เรียบร้อย ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ออกให้ฉันนั่ง“ไง...ไอ้ลูกชาย ให้ป๊ามารอตั้งนาน” เสียงนั่นทำให้ฉันเด้งขึ้นยืนตรงโดยอัตโนมัติทั้งๆ ที่ก้นกำลังจะแตะเก้าอี้อยู่แล้วเชียว ฉันไม่กล้าที่จะมองหน้าท่านด้วยซ้ำ ดินพาฉันมาหาท่านทำไมกันนะ“หนูดา” ดินเรียกชื่อฉันแล้วชี้ไปทางป๊าเขาเพื่อเตือนสติว่าฉันต้องทำอะไร“สะ...สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือขึ้นไหว้ท่านอย่างกล้าๆ กลัวๆ ท่านรับไหว้ฉันอย่างเป็นกันเอง“ฮ่าๆ ๆ ไม่ต้องกลัวฉัน นั่งลงๆ” ฉันส่งยิ้มแหยๆ ไปให้ท่านพลางหย่อนก้นลงบนเก้าอี้ข้างๆ ดิน ทำไม่ดินไม่คิดจะบอกให้ฉันเตรียมตัวเลยสักนิด น่าโมโหชะมัด“ป๊า มีธุระอะไรกับผม”“เปล่า ฉันไม่ได้มีกับแก มีกับแม่หนูนี่ต่างหาก”แกร้งงงง“ขะ...ขอโทษค่ะ” ฉันเผลอทำช้อนหลุดมือจนทั้งสองหันมามองฉันเป็นตาเดียว ท่านมีธุระอะไรกับฉันนะ ใจเย็นหนูดา ใจเย็น...ฟู่ว์...ฉันพยายามหายใจเข้าลึกอย่างผ่อนคลาย ฉันตื่นเต้นเกินไปแล้วมือไม้สั่นไปหมด“เรื่องอะไร!” ดินกระแทกช้อนลงกับจานและถามออกไปอย่างเอาเรื่
@คอนโดฉันเดินตามดินขึ้นมาบนคอนโดและปิดประตูลงอย่างเบามือที่สุด ระหว่างทางไม่มีใครพูดอะไรสักคำ โคตรจะเกลียดบรรยากาศแบบนี้เลย เฮ้ออออ….ทำไมเขาถึงใจร้อนได้ขนาดนี้นะ ฉันเห็นเขาเดินไปนั่งลงที่โซฟาเลยตามไปนั่งข้างๆ แต่เขากลับลุกยืนเฉย อะ...อ้าว! ยืนก็ยืน ทั้งๆ ที่ก้นฉันยังไม่ทันแตะโซฟาด้วยซ้ำ ฉันเลยชะโงกหน้าไปมองดินแล้วส่งยิ้มหวานๆ ไปให้ แต่สายตาที่ส่งกลับมามันทำให้ฉันต้องหุบยิ้มลงทันทีและดึงหน้ากลับมาอยู่ตรงๆ เหมือนเดิม“ดิน วันนี้เราไปซื้ออะไรมาทำกินกันเนอะ หนูดาอยากกินกับข้าวฝีมือดินอะ ดินทำอาหารอร้อย...อร่อย” ฉันพยายามหาเรื่องคุยกับดินทั้งทีก็รู้ว่าตอนนี้เขาร้อนขนาดไหน แต่ฉันต้องเอาน้ำเย็นเข้าลูบ ต้องคุยกับเขาดีๆ เพื่อเขาจะเข้าใจฉันมากขึ้น แต่ก็ไร้เสียงตอบรับจากคนตัวสูง“ดินคงไม่อยากทำ งั้นเราไปคาเฟ่น้องหมากันไหม หนูดาคิดถึงพวกเขาจะแย่ ไม่ได้ไปตั้งนานแหละ” ก็ยังเงียบกริบ เอาไงดี...เอาไงดี ฉันไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ถ้าเขาไม่พูดไม่ตอบโต้แบบนี้ ฉันต้องเป็นบ้าแน่ๆ“งั้นเราไปสนามแข่งกันเนอะ จะได้จะ…”“เข้าเรื่องซะที!” ดินหันมาตวาดลั่นพลางบีบไหล่ทั้งสองข้างฉันแน่น เขากัดฟันแน่นจนฉันได้ยินเสียงม
เพี้ยะ////ฉันฟาดฝ่ามือลงไปที่หน้าเขาอย่างแรงจนหน้าเขาสะบัดไปอีกทาง คำพูดหยาบคาย หักหาญน้ำใจฉันแบบนั้นหลุดออกมาจากปากคนที่ฉันรักและไว้ใจที่สุดได้ยังไงกัน น้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุด หมดกันทุกอย่างที่ถูกสร้างมา ฉันไม่มีคำพูดหรือคำอธิบายใดๆ อีกเลยเขาหันกลับมามองฉันด้วยแววตาที่อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด เขาน่าจะมีสติพอที่จะรับรู้แล้วสินะว่าตัวเองพูดอะไรออกมา แต่มันไม่ทันแล้วไหมล่ะ ดินค่อยๆ เอื้อมมือหนามาหาฉัน ซึ่งฉันก็กำลังถอยออกให้ห่างจากเขาและตัดสินใจหันหลังให้เขาแทน ฉันไม่อยากให้เขาเห็นน้ำตาของฉันอีกแล้ว ไม่อยากให้เขาสมเพชฉันไปมากกว่านี้อีกแล้วครืดดดด ครืดดดดด“ห้ะ! อะไรนะ ฉันรีบไปเดี๋ยวนี้”ฉันได้ยินดินพูดกับใครบางคนในโทรศัพท์ก่อนจะเดินเข้ามาสวมกอดฉันจากด้านหลัง ฉันไม่มีแม้แต่แรงจะขัดขืนทั้งที่ไม่อยากให้เขามาแตะต้องตัวฉันแม้แต่ปลายเล็บเลยด้วยซ้ำ“รอดินอยู่ที่นี่นะ อย่าไปไหน” ดินพูดอยู่ข้างหูฉัน นี่เป็นประโยคที่อบอุ่นที่สุดตั้งแต่ฉันได้ยินมา แต่ถ้ามันไม่ใช่ในเวลาแบบนี้ก็คงจะดีไม่น้อยเลยแหละ ในหัวฉันตอนนี้ไม่มีคำพูดไหนเข้าไปแทนที่ประโยคหยาบๆ นั่นได้ฟอดดดดด///ดินกดจมูกลงมาที
วันนี้ดินพาฉันมาฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลของตามคำแนะนำของคุณหมอคนเดียวของกลุ่ม แต่วันนี้ฉันดูสดชื่นและมีความสุขแบบบอกไม่ถูก ยิ่งได้เห็นหน้าดิน ได้จับ ได้กอด ได้หอมนะ ยิ่งมีความสุขเข้าไปใหญ่จนยิ้มไม่หุบเลยแหละ คิ คิ“เป็นไรเนี่ย” ดินถามขึ้นระหว่างที่เรานั่งรอหมอเรียกอยู่ด้านหน้าเคาน์เตอร์แล้วฉันเอาแต่คล้องแขนเขาพลางใช้จมูกโด่งซุกไปมาอยู่ที่แขนดินแบบนั้นไปยอมปล่อย“ไม่รู้อ่ะ อยากได้กลิ่นตัวดิน” ฉันพูดเสียงอู้อี้เมื่อจมูกยังกดอยู่ที่แขนของเขา รู้สึกเหมือนตัวเองหื่นยังไงก็ไม่รู้ แต่มันห้ามไม่ได้เลยอ่ะ“หื้มม”ฉันเหลือบมองหน้าดินเห็นเขาแอบเขินหน่อยๆ ด้วยนะ คิ คิ น่ารักที่สุดเลย หลัวฉัน...ของฉันคนเดียว“เชิญคุณนีรดาร์ ห้องตรวจ 1 ค่ะ”เอ๊ะ…! เรียกแล้ว ฉันกับดินพากันเดินเข้ามาในห้องตรวจ 1 ตามที่เสียงที่ประกาศเรียกเมื่อกี้ ฉันเห็นหมอผู้หญิงคนนี้แล้วไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่เลย เอาแต่มองดินอยู่ได้ ตั้งแต่นั่งอยู่ตรงนั้นจนฉันขึ้นนอนบนเตียงเพื่อจะอัลตราซาวด์ดูเบบี๋น้อยในท้องฉัน มันก็ตื่นเต้นอยู่หรอกแต่ใจดันจดจ่ออยู่หมอคนนั้นกับหลัวฉันเนี่ยแหละ“ดิน! หันมาหาหนูดา”“ดินดูเบบี๋อยู่ เนี่ยหนูดาดูดิ เห็นไหม”
“ดิน สุขสันต์วันเกิดนะ หนูดารักดิน นี้ของขวัญวันเกิด” หนูดาเดินเข้ามากอดผมแล้วพูดขึ้นพร้อมกับยัดบางอย่างใส่มือผมก่อนจะผละออกแล้วทำท่าเขินๆ ผมเลยยกมือขึ้นมาดูว่าเธอเอาอะไรให้ผม“เห่ย!” ผมอุทานเสียงหลง เผลอยิ้มออกมาอย่างดีใจ ลืมความโกรธเมื่อกี้นี้ไปจนหมดสิ้นแล้วดึงหนูดาเข้ามากอดอีกครั้งพลางก้มจูบที่หัวเธอเบาๆ นี้เป็นของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดในชีวิตผมเลย ผมกำลังจะเป็นพ่อคน เรากำลังจะมีเจ้าตัวเล็กด้วยกัน เรากำลังจะกลายเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ“หายโกรธนะ ป๊ะป๋า จุ๊บ” หนูดาดันตัวออกแล้วเขย่งขึ้นมาจุ๊บที่ปากผมทีหนึ่ง ผมส่ายหน้าน้อยๆ ให้กับความเล่นใหญ่เล่นจริงของเมียตัวแสบ แต่คำว่า ป๊ะป๋า เนี่ยมันทำให้ผมอยู่ไม่เป็นสุขเลยจริงๆ หน้าร้อนผ่าวไปหมด“หึ ไม่เอาเล่นใหญ่แบบนี้แล้วนะ จะช็อกว่ะ”ปัง...ปังฮิ้ววววว….ฮิ้วววววโห...แม่งเล่นใหญ่จริงว่ะ มีพลุสายรุ้งด้วย..นี่ขนาดวันเกิดยังเล่นใหญ่ขนาดนี้ ถ้างานแต่ง..กูว่ามีนอนในโรงแกล้งกูแหง...หึ แล้วก็ตามมาด้วยเสียงแซวต่างๆ นานาของให้พวกเวรนั่น“ว่าแต่เพิ่งปล่อย ทำไม” ผมก็อดที่จะสงสัยไม่ได้เพราะหนูดเพิ่งจะตกลงกับป๊าเมื่อไม่กี่วันนี้เองว่าจะมีหลานให้ท่าน“3
ผมออกมาเคลียร์งานที่ผับตั้งแต่เช้าเพราะวันนี้วันหยุด ปกติหนูดาจะเป็นคนทำแต่วันนี้ยัยเตี้ยของผมไม่ค่อยสบาย ผมเลยกะว่าจะมาเคลียร์งานให้เสร็จแต่เช้า สายๆจะได้พาเมียไปหาหมอผมนั่งเคลียร์งานอยู่ในห้องสักพักก็มีคนเปิดประตูห้องทำงานของผมเข้ามาอย่างถือวิสาสะแกร่ก...แอ๊ดดดด“อุ้ย! ขอโทษค่ะ คือป้าไม่รู้ว่านายน้อยจะเข้ามาแต่เช้า” ป้าแม่บ้านวางอุปกรณ์ทำความสะอาดลงแล้วรีบยกมือไหว้ผมด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน นี่ผมน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอวะ“ป้าจะไหว้ผมทำไม ป้าจะทำความสะอาดใช่ไหม ทำเลยครับ ไม่เป็นไร” แล้วผมก็ยกมือไหว้ป้าคืน นรกได้กินหัวผมพอดีให้คนรุ่นราวคราวเดียวกับป๊ามายกมือไหว้แบบนี้ แล้วป้าก็เอามือลงส่งยิ้มมาให้ผมก่อนจะหันไปหยิบอุปกรณ์แล้วทำความสะอาดตามหน้าที่ของท่านครืดดดด...ครืดดดดผมรีบหยิบมือถือออกจากกระเป๋าทันทีเพราะคิดว่าเป็นสายเรียกเข้าจากเมียแต่ไม่ใช่ เบอร์ใครวะ...ผมเลื่อนสไลด์เพื่อรับสาย“ครับ ผมปฐพี อะไรนะ! ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้” ผมรีบคว้ากุญแจรถแล้วออกมาจากห้องทำงานทันทีพลางกดมือถือหาเฮียหมอไปด้วย ไอ้เฮียหมอแม่งก็ไม่รับสายซะทีวะ…ตืดดดดด...ตืดดดดด[อะไรของแม่งวะ โทรทำเหี้ยไร]“ไอ้เฮีย มึงรีบไ
“พอๆๆ ไอ้ห่านี่ก็ไม่เกรงใจป๊าเลย ไว้กลับไปทำที่ห้องโน้น ความจริงเรื่องเนี่ยไอ้ดินมันไม่รู้หรอก มันก็เพิ่งรู้ก่อนหน้าหนูไม่นานเนี่ยแหละ แผนป๊าเอง”“ห้ะ! นี่ท่าน” ฉันถึงกับพูดลืมอายไปเลย ไม่เคยคิดเลยว่ามาเฟียที่น่าเกรงขามแบบท่านจะมาทำอะไรเพื่อแกล้งฉันแบบนี้ อะไรเข้าสิงท่าฟ่ะ ทำไมท่านถึงทำแบบนี้นะ เหงาหรือว่าอะไร สองพ่อลูกนี่ทำตัวได้น่าโมโหชะมัด ถ้าไม่ติดว่าเป็นป๊าดินล่ะก็ ฉันไม่ปล่อยไปแน่...ฉันเลยหันกลับไปหาลูกชายตัวดีของท่านแทน“ไอ้เด็กบ้า กลับไปนายเจอดีแน่”“อ้าว ทำไมเป็นดินอะ” ดินพูดขึ้นหน้าตาเลิ่กลั่กแล้วชี้นิ้วเข้าหาตัวเองแบบงงๆ“ก็ฉันทำท่านได้ไหมล่ะ นายเป็นลูกก็รับไปสิ” ฉันพูดพลางเอามือขึ้นกอดอกด้วยท่าทางฟึดฟัดพอสมควร ความจริงอยากทำมากกว่านี้อีก...แต่ทำไม่ได้“ป๊าเล่นไรเนี่ย เห็นไหมผมซวยเลย” แล้วดินก็หันไปพูดกับป๊าตัวเองอย่างหัวเสีย“ก็ฉันอยากเห็นกะตานี่หว่า ว่าลูกสะใภ้ฉัน ใจเด็ด ใจกล้า อย่างที่เขาพูดกันจริงรึเปล่า แต่เกินคาดไม่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างหนูจะยอมตายแทนลูกชายฉันได้ แกนี่มันโชคดีจริงๆ ฮ่าๆๆ” ท่านพูดขึ้นแล้วเดินเข้าไปตบไหล่ลูกชายตัวเองเบาๆ ก่อนจะหัวเราะขึ้นอย่างชอบใจ
สองอาทิตย์ต่อมา…..หลังจากที่ฉันและดินไปส่งพ่อกับแม่ไปเมกาเพื่อรักษาตัวเสร็จเรียบร้อยก็บินกลับมาที่เชียงใหม่ทันทีเพราะคนของป๊าโทรมาบอกว่าท่านมีเรื่องกับคนในแก๊งที่หักหลังท่านสถานการณ์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไร แล้วดินก็ดูร้อนใจมาก ฉันลอบมองดินเป็นระยะๆ ขณะที่นั่งอยู่ในรถไฟเหาะ เฮ้อออ...ทำไมเขาถึงขับรถเร็วแบบนี้นะ“ดิน เบาลงหน่อยดีไหม” ฉันเอื้อมมือไปจับแขนดินเพื่อดึงสติเขากลับมา ฉันคิดว่าใจดินคงไปอยู่กับป๊าแล้วละ ดินถอนหายใจออกมาก่อนจะผ่อนคันเร่งลงนิดหนึ่งสักพักรถก็เคลื่อนมาจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ฉันไม่เคยได้มาสักครั้ง เวลาท่านอยากเจอดินหรือมีงานต้องคุยส่วนมากก็จะไปหาดินที่ผับแล้วก็ภัตตาคารอะไรทำนองนั้นแต่ไม่เคยนัดดินมาที่นี่เลยฉันวิ่งตามดินมาหยุดอยู่กลางห้องโถงใหญ่กลางบ้านแต่ไม่เห็นใครเลย เงียบสงัดจนน่าแปลกใจ ดินก็คงคิดแบบนั้นเหมือนกันเขาคว้ามือฉันไปจับไว้แน่นแล้วหันซ้ายหันขวามองอย่างระวังตัวพรึบบบบปึกกกก“ดิน”ดินดึงตัวฉันเข้าไปกอดจากหลังแล้วกดหัวลงเหมือนพยายามจะบังตัวฉันไว้จากอะไรสักอย่างก่อนฉันจะได้ยินเสียงของแข็งกระทบเข้าร่างกายดินอย่างจังเพราะฉันสัมผัสได้จากการแรงกระแทกและดินก็ทรุดเ
“ดิน ทำไมวันนั้นดินถึงรู้ว่าหนูดาอยู่ไหน ทำไมดินถึงไปช่วยหนูดาได้ล่ะ” ฉันเอ่ยถามและเหลือบตาขึ้นมองหน้าดิน เรื่องนี้มันข้องใจฉันมากเลยว่าจะถามตั้งนานแหละ“ก็ไปเจอมือถือหนูดาในรถแท็กซี่ที่จอดอยู่แถวนั้น”“มือถือ...แล้วทำไมถึงเจออะ”“ก็มือถือไง”ฉันดันตัวเองขึ้นหรี่ตามองหน้าดินแล้วเขาก็ทำเป็นลอยหน้าลอยตาไม่สนใจ มือถือ….มือถือ โฮะ นี่เขาแอบเปิด GPS ในมือถือฉันงั้นเหรอ“นายมันร้ายกาจที่สุด” ฉันมองเขาตาขวางพลางดีดตัวเองขึ้นจากตักเขาแล้วล้มตัวลงนอนบนเตียง งั้นเขาก็รู้หมดเลยดิว่าฉันไปไหนบ้าง...ร้ายกาจมากกกก แต่จะว่าไปถ้าเขาไม่ทำแบบนี้วันนั้นคงไปช่วยฉันไม่ทันแน่ๆ“หนูดา ดินจะให้พ่อหนูดาไปรักษาที่เมกา” อยู่ๆ ดินก็พูดในสิ่งที่ฉันไม่คาดคิดออกมา เขาเป็นบ้าไปแล้วเหรอ ทำแบบนั้นได้ยังไง นั่นพ่อฉันนะ จะให้เขาเป็นคนมาดูแลแบบนี้ได้ไง ฉันไม่ยอมหรอก ค่ารักษาแพงจะตาย ฉันจะมีปัญญาหามาใช้เขาเหรอ“ห้ะ! ไม่ได้นะ”“เดี๋ยว ฟังดินให้จบก่อน หนูดาอยากให้พ่อหายไหม แม่ก็อยากให้พ่อหายเหมือนกันพ่อเองท่านก็อยากหาย หมอที่โน่นเก่งมากนะ ใช้เวลาไปถึงปีหรอก เรื่องค่ารักษาดินจัดการเอง ดินคุยกับแม่แล้ว จัดการเรื่องทุกอย่างแล้ว
“บาย อีชะนี”“บาย อีผีทั้งหลาย”ฉันเดินออกมาส่งพวกอีผีทั้งหลาย หึ ไม่ได้เจอกันนานเม้าท์มอยกันตั้งแต่บ่ายจนเย็น ฉันหันหลังกำลังจะเดินกลับเข้าบ้านแต่สายตาก็ดันไปสะดุดกับอะไรบางอย่างตรงสวนข้างบ้านเลยเปลี่ยนทิศทางทันทีเดินไปยืนพิงเสาชิงช้าในสวนมองดูสองแม่ลูกเขาช่วยกันปลูกต้นไม้เหอะ...ดินกลายเป็นลูกรักของแม่ไปเฉยเลย เพราะฉันไม่ชอบการมาทำอะไรแบบนี้ที่สุดไม่เคยมาช่วยแม่ปลูกต้นไม้เลยสักครั้ง แต่ก็อดยิ้มให้กับความน่ารักน่าเอ็นดูของดินไม่ได้ เวลาเขาอยู่กับแม่ฉันดินกลายเป็นแค่เด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้นเอง ดินเองก็คงจะคิดถึงแม่เขาไม่น้อยเหมือนกัน“ดิน กลับได้แล้ว ไม่ชินทางอะ เดี๋ยวมืดแล้วจะแย่” ฉันเอ่ยบอกดินเพราะเห็นว่านี่มันเย็นมากแล้ว เดี๋ยวเขาจะกลับลำบาก โรงแรมก็อยู่ตั้งไกล ดินหันมาพยักหน้าให้ฉันก่อนจะลุกขึ้นปัดเนื้อปัดตัวที่เต็มไปด้วยขี้ดิน ฉันส่ายหน้าไปมาก่อนจะเดินเข้าไปเอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดทำความสะอาดตามเนื้อตัวและถอดผ้ากันเปื้อนออกให้เขา“รีบกลับไปไหนล่ะ มาวันเดียวเองเหรอ” แม่ถามขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าดินทำท่าจะกลับ แม่ต้องคิดว่าดินกลับไปเชียงใหม่แน่ๆ“อ๋อ เปล่าฮะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ดินมาใหม่”“ดิ
“นี่จ้ะ อีกสักพักก็คงมาแล้วแหละ เห็นโทรมาบอกแม่ว่าเพื่อนๆ จะมากินข้าวเที่ยงที่บ้าน แม่ก็เลยออกไปซื้อของมานี่ไง ตามสบายเลยนะดิน” ท่านยื่นแก้วน้ำมาให้ผมแล้วเดินไปหยิบของพวกนั้นเข้าไปเก็บในครัว ผมเลยเดินไปหยิบกรอบรูปที่วางเรียงกันอยู่หลายอันขึ้นมาไล่ดู พัฒนาการของเมียผม หึ บ้านนี้คงจะรักลูกสาวคนนี้มากมีแต่รูปหนูดาเต็มบ้านไปหมดผมเดินดูไปรอบๆ บ้านอย่างถือวิสาสะ แม่หนูดานี่เก่งเนอะดูแลบ้านคนเดียวให้เรียบร้อยเป็นระเบียบขนาดนี้ได้ แล้วผมก็มาสะดุดกับห้องใต้บันได ที่ข้างในเหมือนมีเตียงคนป่วยแบบในโรงพยาบาล หรือว่า….“เข้าไปทักพ่อเขาซะหน่อยไหม” ท่านเดินมาจากด้านหลังและเอ่ยขึ้นจนผมสะดุ้งเพราะผมมัวแต่ชะเง้อมองในห้องนั้นอยู่ แล้วท่านก็เดินผ่านผมเข้าไปในห้องผมเลยเดินตามท่านเข้าไป พ่อหนูดาป่วยหนักจริงๆ ด้วย หนูดาถึงได้ยอมไปทำงานไกลบ้านก็เพราะอย่างงี้นี้เอง...ผมยกมือไหว้ท่านเพราะเห็นว่าท่านลืมตาอยู่แต่ก็ไม่รู้ว่าท่านจะเห็นผมรึเปล่า“พ่อดูสิ ใครมา แฟนลูกสาวตัวดีของพ่อไง หล่อใช่ไหมล่ะ” แม่ของหนูดาพูดขึ้น แล้วพ่อก็หันมองแม่แบบช้าๆ ก่อนจะกะพริบตาให้ มันหมายถึงท่านรับรู้รึเปล่านะ ท่านหันกลับมามองที่ผมอีกค
หลายวันต่อมา…“อ้าว ทำไมมึงยังอยู่อะ” ไอ้ยูเปิดประตูเข้ามาแล้วถามขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นผมนั่งดกเหล้าอยู่บนโซฟา แล้วมันก็พากันมานั่งพลางหยิบแก้วมาใส่น้ำแข็ง ผมหันไปมองมันตาขวาง ยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ ทักเหี้ยไรไม่รู้เรื่อง“กูยังไม่ตาย สัส”“เออ กูรู้ กูหมายถึงมึงไม่ได้ไปกับเมีย โฮะ..นี่มึงโดนเทเหรอวะ ฮ่าๆๆๆ” ไอ้เหี้ยยูนี่แม่งปากดีฉิบ มันพูดขึ้นพลางยิ้มเยาะผมอย่างสะใจ น่าเตะปากฉิบ ขยี้ปมกูดีจัง“เท พ่อง” ผมหันไปด่ามันก่อนยกเหล้าขึ้นดกอย่างเอาเป็นเอาตายใช่...ผมโดนเท ด้วยเหตุผลที่ว่า หนูดากลัวแม่จะช็อกที่อยู่ดีๆ ก็พาผู้ชายไปบ้านแถมตกลงจะแต่งงานกันแล้วด้วย เธอเลยขอกลับไปเคลียร์กับพ่อแม่ก่อน แล้วรอบหน้าค่อยให้ผมไป... น่าหงุดหงิดฉิบหาย“โดนเทชัวร์” ไอ้ห่านี้ก็ไม่จบ ผมเลยหยิบน้ำแข็งในถังเต็มกำมือแล้วปาใส่มันด้วยความหมั่นไส้“ไอ้สัส มึงไปนั่งไกลๆ เลย” ไอ้ธามพูดขึ้นพลางก้มลงปัดน้ำแข็งบนตักตัวเองที่โดนลูกหลงไปด้วย“เออ ไล่กู จำไว้นะมึง” ไอ้ยูก็ขยับออกมานั่งที่โซฟาอีกตัวด้วยท่าทีงอนๆ เหมือนผู้หญิงฉิบหาย แล้วมันก็ด่ากันตามประสามันแกร่กกก..พวกผมหันไปมองที่ประตูทันที วันนี้พวกเฮียๆ ไม่อยู่นี่หว่า แ