ฉันได้แต่จ้องหน้าขาว ๆ จมูกโด่งของเขา... บ้า ทำไมมันดึงดูดกันขนาดนี้ ฉันละสายตาไปไหนไม่ได้เลย ใจก็เต้นแรง แรงจนแทบจะทะลุออกมาแล้ว!
“จะกอดฉันอีกนานไหม ฉันร้อน” และเขาก็มองไปที่แขนฉัน ก่อนที่ฉันจะดึงสติกลับมาได้ แล้วรีบกลับมายืนปกติทันที
“แหะ ๆ เอ่อ... นี่ ขอบใจนะ ที่เอากระเป๋ามาคืน” เขาพยักหน้าแล้วยื่นให้ฉันอีกรอบ
“ฉันคิดว่าเธอ จำเป็นต้องใช้ของบางอย่างในนั้น รีบรับไว้สิ รำคาญ”
ของบางอย่าง ที่จำเป็นต้องใช้? เฮ้ย ยาคุม!
ฉันรีบคว้ากระเป๋ามาเปิดดูทันที ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างสงสัย เขารู้ได้ไง! ว่ากระเป๋าฉันมียาคุม?
“นายเปิดกระเป๋าฉันเหรอนาวา?”
“นี่! กระเป๋าเธอมันตกที่พื้น ของเธอกระจัดกระจายเต็มรถ ก็ต้องเก็บสิ!”
“เอ่อ… แล้ว แล้ว… นายเห็นไอ้ยาแผงนี้เหรอ คือฉันไม่ได้กินเพื่อ”
“ฉันไม่ได้ถาม” เพล้ง หน้ากูแตกกระจาย หล่นลงไปกองที่พื้น
“แหะ ๆ ไม่บอกก็ได้” แล้วเขาก็หันหลังเดินออกไป ก่อนที่ฉันจะเห็นเขาเอามือปิดปากตัวเอง แล้วหาวไปด้วย
เขาง่วง?
“นาวา นายง่วงเหรอ?” เขายกมือขึ้นไม่ให้ฉันยุ่ง ก่อนจะล้วงกระเป๋าเดินไปต่อ ฉันได้แต่มองตามหลังเขา ตายจริง ถ้าเขาง่วงแล้วขับรถมันไม่ปลอดภัยแน่ ๆ
“นาวา กินกาแฟก่อนไหม” ฉันรีบเดินกระเพลก ๆ ไปคว้าแขนเขา ก่อนที่จะโดนเขาจับมือออก แล้วหันมามองอย่างเซ็ง ๆ
หวงเนื้อหวงตัว?
“เธอรู้ไหม ว่าชวนผู้ชายกินกาแฟในห้อง มันหมายความว่าไง”
“อะไร? ก็หมายความว่า นายอาจจะหลับในระหว่างทาง ต้องเติมคาเฟอีนด่วนไง”
“อย่ายิ้มได้ไหมวะ” กูผิด?
“ทำไมยิ้มไม่ได้ ป่ะ ๆ กินกาแฟสักแก้วก่อนค่อยกลับ ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ทำอะไรนายแน่นอน”
ฉันดึงแขนเขาเข้าห้องทันที ทั้งที่ตัวเองทรมานก้นใจแทบขาด แต่ไม่พลาดที่จะลากผู้ชายเข้าห้องนะจ๊ะ
เดี๋ยว! ไม่ใช่แบบนั้น!
พอเข้ามาในห้อง ฉันก็ดันเขานั่งลงโซฟาทันที ก่อนที่จะเดินอ้อมไปที่เคาน์เตอร์ แล้วกดกาแฟสดให้เขาหนึ่งแก้ว
“แล้วแฟนเธอ?”
“อ๋อ ๆ แฟนฉันไปขับแท็กซี่น่ะ”
“...”
“ล้อเล่น! ฉันไม่มีแฟนหรอก นายกลัวโดนชกรึไง”
“หยุดยิ้มสักที รำคาญตา” อะไรวะ เหมือนหมาบ้าเลย กูยิ้มก็ผิด ทำอะไรก็ผิดไปหมด
“แล้วให้ทำไง นายเรียนจบยัง ฉันได้ข่าวว่านายยังเรียนไม่จบอยู่คนเดียว”
“อืม สาขาฉันเรียนหลายปี... ฉันแค่กลับมาอินเทริน”
“แฟนคิดถึงแย่เลยเนอะ” ขมวดคิ้วใส่ฉันทันที
“เหอะ แค่คิดก็รำคาญ” เขาซดกาแฟในแก้วพรวดเดียว แล้วลุกขึ้นทันที
ไม่ร้อนเหรอวะ
“กะ กลับแล้วเหรอ หายง่วงรึยัง” เขาหันหลังให้ฉันแล้วเดินไปที่ประตู
“ปกติเธอดึงผู้ชายเข้าห้อง ด้วยชุดนี้ตลอดเลยเหรอ”
ฉันก้มดูชุดตัวเองใส่ทันที ก็ชุดนอนส่ายเดี่ยวกับเสื้อคลุมบาง ๆ มันทำไมวะ ก็ไม่ได้เซ็กซี่นะ
หรือเปล่า?
“ก็...”
ปัง! ฉันไม่ทันเงยหน้าขึ้น เขาก็เปิดประตูออกไปจากห้อง แล้วปิดประตูใส่หน้าฉัน!
ก่อนที่ฉันจะนั่งงง และลุกขึ้นไปเก็บแก้วกาแฟเขาแทน จนตามันเผลอมองรอยริมฝีปาก ที่มีคราบกาแฟนิด ๆ บนขอบแก้ว
เซ็กซี่ดีจัง
คิดอะไรวะกู แค่มองคราบกาแฟก็นึกถึงหน้าเขาแล้ว ดูโรคจิตเนอะ แต่ก็แปลก... ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้หล่อขนาดนี้นี่น่า ทำไมวันนี้อยู่ใกล้ ๆ แล้ว หล่อจัง...
อ๊าก... ออกไปจากหัวกูเดี๋ยวนี้!
มึงจะถูกผู้ชายหายใจรดครั้งเดียว แล้วเป็นแบบนี้ไม่ได้นะปลายฟ้า ผู้ชายน่ะอันตราย จำที่แม่พูดไม่ได้รึไง!
ฉันรีบแกะยาคุมกิน แล้วกลับไปที่เตียงนอน... เก็บความรู้สึกที่อยากมีผัวไว้ก่อน ถ้าไม่ได้อยากมีผัว อยากมีลูกจริง ๆ อยู่ใกล้ผู้ชายคนอื่นจะเป็นแบบนี้ไหม? แต่กับไทม์ เรากอดกันแน่นจะตายก็ไม่นี่หว่า!
ฉันเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นมาอีกทีก็สายแล้ว และตอนนี้ก้นฉันก็ระบมหนักมาก ขยับแทบจะไม่ได้ บ้าเอ้ย! เมื่อคืนก็ไม่ได้เจ็บขนาดนี้นี่น่า จะช้ำไหมเนี่ย ฉันพยายามพลิกตัวดูอยู่หลายครั้ง แต่พลิกยังไงก็มองไม่เห็น!
ทำไงดีเนี่ย!
ฉันจึงเอื้อมไปหยิบมือถือบนหัวเตียง กดโทรหาฟร้อนคอนโด ได้โปรด... ส่งรถโรงบาลมารับกูที ไม่ไหวแล้ว
พอเขารับปากจะประสานงานให้ ฉันก็โทรหาน้องสาวตัวเองต่อ หวังให้นางมาอยู่เป็นเพื่อน และเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ เพราะฉันลุกไม่ไหวแน่ ๆ ไม่อยากไปโรงพยาบาลชุดนี้ด้วย!
Calling | BAIMAI
ใบไม้เป็นน้องสาวฉันเอง เป็นลูกสาวพ่อบอส หรือลุงบอสนั่นล่ะ เรารักกันมาก มีอะไรช่วยเหลือกันตลอด และทุกเรื่อง ไม่เชื่อก็รอดู
(ฮัลโหล...)
“ใบไม้ เจ๊ล้มก้นกระแทกพื้น มาช่วยเจ๊หน่อยสิ ฮือ ๆ”
(หนูไม่ใช่หมอ...)
ไอ้เด็กคนนี้! “ไม่ได้ให้มารักษา แต่มาเปลี่ยนชุดให้หน่อยสิ ฮือ ๆ เจ๊ยังใส่ชุดนอนอยู่เลยไม้เอ้ย” (เฮ้อ หนูบอกแล้วให้หาแฟน เออ ๆ เดี๋ยวไป) ตอบเสร็จก็ตัดสายไปเลย ฉันลุกไม่ไหว จะลุกไปแปรงฟันยังไม่ได้เลย เข้าใจกันหน่อย! ไม่นาน ใบไม้ที่อยู่คอนโดตึกถัดไปก็เปิดประตูเข้ามา ไม่ต้องแปลกใจ ทำไมนางเข้ามายืนหน้านิ่งตรงหน้าฉันได้ เพราะห้องนี้ พ่อบอสซื้อให้ฉันกับใบไม้อยู่ตอนมหาลัย เราจึงมีคีย์การ์ดคนละใบ “ใบไม้ หยิบเครื่องสำอางกับโทนเนอร์มาด้วยสิ” ใบไม้มองหน้าฉันเซ็ง ๆ ก่อนจะหาถุงพลาสติก โกยเครื่องสำอางบนโต๊ะฉันใส่ แล้วเดินมานั่งบนเตียง “ลุกไม่ไหวเลยเหรอ” “อื้อ... บีบโทนเนอร์ให้เจ๊หน่อย เร็ว ๆ เดี๋ยวรถโรงบาลมา” ใบไม้ดูเซ็งฉันมาก แต่นางก็ทำตามที่ฉันสั่งทุกอย่าง แม้กระทั่งเปลี่ยนเสื้อผ้า และแต่งหน้าให้ “เอ่อเจ๊... บอกตรง ๆ เหมือนแต่งหน้าศพ” ใบไม้! “ปากเหรอนั่น! เออ อย่าบอกพ่อบอสกับแม่กิ่งนะ ไม่อยากให้ท่านเป็นห่วง” เบะปากใส่ฉันทันที “ยัดเยียดบาปให้หนูอีกแล้ว” “ตร
“ไม่ถอดไม่ได้เหรอ?” เขาถอนหายใจ แล้วยกนาฬิกาข้อมือดู “เธอรู้ไหม ฉันต้องตรวจคนไข้อีกกี่คน อย่าทำให้ฉันและคนอื่นเสียเวลา” ก็คนมันเขินนี่หว่า! ก้นนะเว้ยไม่ใช้ข้อศอก! ฉันจำใจค่อย ๆ ปลดกระดุมกางเกงขาสั้นตัวเอง จนเขาหันหน้าไปอีกทาง ฉันถึงดันมันลงไปช้า ๆ แล้วรีบหาผ้ามาคลุมไว้ “นอนคว่ำด้วย” ลำบากฉิบ! พอถอดได้ ฉันก็ค่อย ๆ พลิกตัวนอนคว่ำ ก่อนจะรีบเอามือไขว้หลัง ไปจัดแจงเอาผ้าปิดไว้ โอ้โห... กูเย็นมากค่ะตอนนี้ ก่อนที่เขาจะหันหน้ากลับมา แล้วเดินมาชิดเตียงตรวจ และ... และ กำลังจะเปิดผ้าออก! “นาวา! ไม่เปิดไม่ได้เหรอ” “อะไรอีก ไม่เปิด ฉันจะรู้ได้ไงว่ามันช้ำไหม?” ฉันหลับตาปี๋ ไม่กล้าถามอะไรเขาต่อ เพราะยังไง เขาก็ต้องเห็นก้นฉัน! จนเขาค่อย ๆ ดึงผ้าออกช้า ๆ ทำฉันขนลุกซู่ขึ้นมาทันที กูอยากเอาหน้าซุกหมอน ให้ใจขาดตายตรงนี้เลย! พอเปิดผ้าออก เขาเหมือนนิ่งไปสักพัก คงมองก้นฉันอยู่มั้ง... จนฉันสัมผัสได้ถึง มือเย็น ๆ ที่แตะลงเบา ๆ ตามผิว ฮือ... สัมผัสแรกจากมือชาย! “โอ๊ะ โอ้ย... เจ็บอ
“แม่คะ ถ้าให้แม่เปรียบความรัก กับอะไรสักอย่าง แม่จะเปรียบมันเหมือนอะไร?” คำถามแรกบนโต๊ะอาหาร เมื่อฉันกำลังจะจากจังหวัดภูเก็ตในอีกไม่กี่ชั่วโมงนี้ จนแม่ผู้ถูกถามตกใจ เงยหน้าขึ้นมาทันที ท่านคงจะสงสัย ว่าทำไมอยู่ ๆ ฉันถามอะไรแบบนี้ เฮ้อ... จะบอกว่าไงดี ฉันแก่แล้ว! ฉันอยากมีผัว แต่ฉันไม่กล้าจริง ๆ ฉันกลัวไปหมด กลัวโดนเท กลัวผิดหวัง เพราะอะไรน่ะเหรอ? เพราะฉันเอง ยังไม่มีพ่อแท้ ๆ กับเขาเลย แม่เป็นซิงเกิ้ลมัม ฉันเป็นเด็กกำพร้าพ่อ แต่โชคดีของฉัน ที่ลุงบอส ลุงแท้ ๆ รับฉันเป็นลูกแทน และยังมีแม่เมย์ลิน พ่อที เจ้าของอนันธารากรุ๊ป รับฉันเป็นลูกบุญธรรมอีก แต่มันก็เท่านั้น ใจฉัน ฉันยังอยากตามหาพ่อแท้ ๆ อยู่ดี ไม่รู้ว่าท่านเป็นใคร อยู่ที่ไหน ทำไมแม่ฉันถึงได้ปิดเงียบ ไม่บอกอะไรฉันเลย และดูท่าจะเกลียดพ่อมากด้วย “ถ้าให้แม่เปรียบ ก็คง... เหมือนอะไรสักอย่างที่น่าขยะแขยง” ฉันถึงกลับนั่งนิ่ง เมื่อได้ยินคำตอบจากปากแม่ ฉันบอกแล้ว ว่าแม่ เกลียดพ่อ แม่เกลียดความรัก และพร่ำสอนฉันมาตลอดว่า ความรักน่ะ ไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด ไม่ต้อ
“มึงช้าตลอดซินน์” ไออุ่นเบะปากใส่ซินน์ทันทีเมื่อมันเดินมาถึงโต๊ะ ก่อนจะหยิบแก้วมาชงเหล้าให้ “ขอเข้ม ๆ นะเพื่อน” เข้ม ๆ “เข้มอะไร พ่อมึงมา กูเห็นออร่าพ่อมึง” ฉันชี้ไปที่ห้องวีไอพีชั้นบน จนมันถอนหายใจใส่ “พ่อแม่พวกมึงไม่หวงบ้างเหรอ ถามจริง” ฉันอดขำมันไม่ได้เลย หน้าบูดบึ้งสุด ๆ “หวงทำไม พวกกูโตแล้ว” ฉันเอามือปิดปากหัวเราะ มีแต่ไอ้ซินน์ที่ถอนหายใจใส่พวกเรา เออ โดนพ่อคุมแบบนี้ เป็นใคร ใครก็เซ็ง! เฮ้ย! เดี๋ยว ๆ ตอนนี้มันซดเหล้าที่ไออุ่นชงให้หมดแก้วแล้ว! “โอ้ย! อดอยากมาจากไหนเนี่ย” ไออุ่นรีบตีมือซินน์ดัง เพียะ “โอ้ย มึงอ่ะ ชงมาด่วน ๆ เลย จะได้รีบเต้น รีบกลับ กลัวใจคุณพ่อว่ะ” มันพูดไปมองหาพ่อตัวเองไป “เออ ๆ เห็นซดเหล้าพรวด ๆ แบบนี้ แล้วคิดถึงน้ำปั่นเลย ไม่รู้เรียนที่อังกฤษเป็นไงบ้าง ได้หลัวฝรั่งแล้วมั้ง ฮ่า ๆ” ไออุ่นชงเหล้า และเต้นไปด้วย เหมือนที่มันพูดถึงนั่นแหละ ฉันมีเพื่อนอีกคนชื่อน้ำปั่น ตอนนี้มันไปอบรมวิชาชีพที่อังกฤษ นางเป็นสัตวแพทย์ ฉันเต้นสักพักก็เผลอไปเห็นนาวิ
ฉันได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ แล้วกัดฟันตอบเขาไป “ฉันไม่เคยรู้เลย ว่าฉันเคยอ้วนด้วย” เขาเอามือล้วงกระเป๋า มองฉันหัวจรดเท้า “ไม่เคย ตอนนี้ก็อ้วน” ฉันถึงกลับอ้าปากค้าง! เขาเป็นผู้ชายคนแรก ที่บอกว่าฉันอ้วน! กูเอวยี่สิบสี่เองนะ พูดอะไรเกรงใจกางเกงไซส์เอสกูบ้าง! “เหอ ๆ โอเค… ฉันไม่ถือ เพราะนายเป็นคนแรก ที่ว่าฉันอ้วน ตานายคงไม่ถึงเอวเอสฉัน” “อืม ตามใจ แล้วเธอ?” เขาชี้มาที่ฉันสลับกับถนน คงจะถามว่าฉันรออะไรสินะ “อ๋อ ฉันรอแฟนมารับ” หมั่นไส้ บอกว่าแฟนมารับซะเลย “อืม ๆ” เขาพยักหน้าเบา ๆ แล้วเปิดประตูขึ้นรถไป ฉันเองได้แต่ยืนรอแท็กซี่ คันไหนขับผ่าน ก็ไม่ใครจอดรับฉันเลย! จนแล้วจนเล่า จนมันดึกขึ้นเรื่อย ๆ หาว~ “แฟนเธอขับแท็กซี่เหรอ” ฉันเอามือปิดปากตัวเองที่หาวแทบไม่ทัน เมื่ออยู่เขา ก็เดินมายืนข้าง ๆ “อืม ๆ ทะเลาะกันนิดหน่อย” เขามองไปที่ถนนแล้วหัวเราะเบา ๆ หัวเราะที่กูหาวปากกว้างแน่ ๆ “หึหึ โกหกเก่งนะ” “โกหก? เอ่อ แล้วนายลงมา ทำไม
“ไม่ถอดไม่ได้เหรอ?” เขาถอนหายใจ แล้วยกนาฬิกาข้อมือดู “เธอรู้ไหม ฉันต้องตรวจคนไข้อีกกี่คน อย่าทำให้ฉันและคนอื่นเสียเวลา” ก็คนมันเขินนี่หว่า! ก้นนะเว้ยไม่ใช้ข้อศอก! ฉันจำใจค่อย ๆ ปลดกระดุมกางเกงขาสั้นตัวเอง จนเขาหันหน้าไปอีกทาง ฉันถึงดันมันลงไปช้า ๆ แล้วรีบหาผ้ามาคลุมไว้ “นอนคว่ำด้วย” ลำบากฉิบ! พอถอดได้ ฉันก็ค่อย ๆ พลิกตัวนอนคว่ำ ก่อนจะรีบเอามือไขว้หลัง ไปจัดแจงเอาผ้าปิดไว้ โอ้โห... กูเย็นมากค่ะตอนนี้ ก่อนที่เขาจะหันหน้ากลับมา แล้วเดินมาชิดเตียงตรวจ และ... และ กำลังจะเปิดผ้าออก! “นาวา! ไม่เปิดไม่ได้เหรอ” “อะไรอีก ไม่เปิด ฉันจะรู้ได้ไงว่ามันช้ำไหม?” ฉันหลับตาปี๋ ไม่กล้าถามอะไรเขาต่อ เพราะยังไง เขาก็ต้องเห็นก้นฉัน! จนเขาค่อย ๆ ดึงผ้าออกช้า ๆ ทำฉันขนลุกซู่ขึ้นมาทันที กูอยากเอาหน้าซุกหมอน ให้ใจขาดตายตรงนี้เลย! พอเปิดผ้าออก เขาเหมือนนิ่งไปสักพัก คงมองก้นฉันอยู่มั้ง... จนฉันสัมผัสได้ถึง มือเย็น ๆ ที่แตะลงเบา ๆ ตามผิว ฮือ... สัมผัสแรกจากมือชาย! “โอ๊ะ โอ้ย... เจ็บอ
ไอ้เด็กคนนี้! “ไม่ได้ให้มารักษา แต่มาเปลี่ยนชุดให้หน่อยสิ ฮือ ๆ เจ๊ยังใส่ชุดนอนอยู่เลยไม้เอ้ย” (เฮ้อ หนูบอกแล้วให้หาแฟน เออ ๆ เดี๋ยวไป) ตอบเสร็จก็ตัดสายไปเลย ฉันลุกไม่ไหว จะลุกไปแปรงฟันยังไม่ได้เลย เข้าใจกันหน่อย! ไม่นาน ใบไม้ที่อยู่คอนโดตึกถัดไปก็เปิดประตูเข้ามา ไม่ต้องแปลกใจ ทำไมนางเข้ามายืนหน้านิ่งตรงหน้าฉันได้ เพราะห้องนี้ พ่อบอสซื้อให้ฉันกับใบไม้อยู่ตอนมหาลัย เราจึงมีคีย์การ์ดคนละใบ “ใบไม้ หยิบเครื่องสำอางกับโทนเนอร์มาด้วยสิ” ใบไม้มองหน้าฉันเซ็ง ๆ ก่อนจะหาถุงพลาสติก โกยเครื่องสำอางบนโต๊ะฉันใส่ แล้วเดินมานั่งบนเตียง “ลุกไม่ไหวเลยเหรอ” “อื้อ... บีบโทนเนอร์ให้เจ๊หน่อย เร็ว ๆ เดี๋ยวรถโรงบาลมา” ใบไม้ดูเซ็งฉันมาก แต่นางก็ทำตามที่ฉันสั่งทุกอย่าง แม้กระทั่งเปลี่ยนเสื้อผ้า และแต่งหน้าให้ “เอ่อเจ๊... บอกตรง ๆ เหมือนแต่งหน้าศพ” ใบไม้! “ปากเหรอนั่น! เออ อย่าบอกพ่อบอสกับแม่กิ่งนะ ไม่อยากให้ท่านเป็นห่วง” เบะปากใส่ฉันทันที “ยัดเยียดบาปให้หนูอีกแล้ว” “ตร
ฉันได้แต่จ้องหน้าขาว ๆ จมูกโด่งของเขา... บ้า ทำไมมันดึงดูดกันขนาดนี้ ฉันละสายตาไปไหนไม่ได้เลย ใจก็เต้นแรง แรงจนแทบจะทะลุออกมาแล้ว! “จะกอดฉันอีกนานไหม ฉันร้อน” และเขาก็มองไปที่แขนฉัน ก่อนที่ฉันจะดึงสติกลับมาได้ แล้วรีบกลับมายืนปกติทันที “แหะ ๆ เอ่อ... นี่ ขอบใจนะ ที่เอากระเป๋ามาคืน” เขาพยักหน้าแล้วยื่นให้ฉันอีกรอบ “ฉันคิดว่าเธอ จำเป็นต้องใช้ของบางอย่างในนั้น รีบรับไว้สิ รำคาญ” ของบางอย่าง ที่จำเป็นต้องใช้? เฮ้ย ยาคุม! ฉันรีบคว้ากระเป๋ามาเปิดดูทันที ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างสงสัย เขารู้ได้ไง! ว่ากระเป๋าฉันมียาคุม? “นายเปิดกระเป๋าฉันเหรอนาวา?” “นี่! กระเป๋าเธอมันตกที่พื้น ของเธอกระจัดกระจายเต็มรถ ก็ต้องเก็บสิ!” “เอ่อ… แล้ว แล้ว… นายเห็นไอ้ยาแผงนี้เหรอ คือฉันไม่ได้กินเพื่อ” “ฉันไม่ได้ถาม” เพล้ง หน้ากูแตกกระจาย หล่นลงไปกองที่พื้น “แหะ ๆ ไม่บอกก็ได้” แล้วเขาก็หันหลังเดินออกไป ก่อนที่ฉันจะเห็นเขาเอามือปิดปากตัวเอง แล้วหาวไปด้วย เขาง่วง? “นาวา น
ฉันได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ แล้วกัดฟันตอบเขาไป “ฉันไม่เคยรู้เลย ว่าฉันเคยอ้วนด้วย” เขาเอามือล้วงกระเป๋า มองฉันหัวจรดเท้า “ไม่เคย ตอนนี้ก็อ้วน” ฉันถึงกลับอ้าปากค้าง! เขาเป็นผู้ชายคนแรก ที่บอกว่าฉันอ้วน! กูเอวยี่สิบสี่เองนะ พูดอะไรเกรงใจกางเกงไซส์เอสกูบ้าง! “เหอ ๆ โอเค… ฉันไม่ถือ เพราะนายเป็นคนแรก ที่ว่าฉันอ้วน ตานายคงไม่ถึงเอวเอสฉัน” “อืม ตามใจ แล้วเธอ?” เขาชี้มาที่ฉันสลับกับถนน คงจะถามว่าฉันรออะไรสินะ “อ๋อ ฉันรอแฟนมารับ” หมั่นไส้ บอกว่าแฟนมารับซะเลย “อืม ๆ” เขาพยักหน้าเบา ๆ แล้วเปิดประตูขึ้นรถไป ฉันเองได้แต่ยืนรอแท็กซี่ คันไหนขับผ่าน ก็ไม่ใครจอดรับฉันเลย! จนแล้วจนเล่า จนมันดึกขึ้นเรื่อย ๆ หาว~ “แฟนเธอขับแท็กซี่เหรอ” ฉันเอามือปิดปากตัวเองที่หาวแทบไม่ทัน เมื่ออยู่เขา ก็เดินมายืนข้าง ๆ “อืม ๆ ทะเลาะกันนิดหน่อย” เขามองไปที่ถนนแล้วหัวเราะเบา ๆ หัวเราะที่กูหาวปากกว้างแน่ ๆ “หึหึ โกหกเก่งนะ” “โกหก? เอ่อ แล้วนายลงมา ทำไม
“มึงช้าตลอดซินน์” ไออุ่นเบะปากใส่ซินน์ทันทีเมื่อมันเดินมาถึงโต๊ะ ก่อนจะหยิบแก้วมาชงเหล้าให้ “ขอเข้ม ๆ นะเพื่อน” เข้ม ๆ “เข้มอะไร พ่อมึงมา กูเห็นออร่าพ่อมึง” ฉันชี้ไปที่ห้องวีไอพีชั้นบน จนมันถอนหายใจใส่ “พ่อแม่พวกมึงไม่หวงบ้างเหรอ ถามจริง” ฉันอดขำมันไม่ได้เลย หน้าบูดบึ้งสุด ๆ “หวงทำไม พวกกูโตแล้ว” ฉันเอามือปิดปากหัวเราะ มีแต่ไอ้ซินน์ที่ถอนหายใจใส่พวกเรา เออ โดนพ่อคุมแบบนี้ เป็นใคร ใครก็เซ็ง! เฮ้ย! เดี๋ยว ๆ ตอนนี้มันซดเหล้าที่ไออุ่นชงให้หมดแก้วแล้ว! “โอ้ย! อดอยากมาจากไหนเนี่ย” ไออุ่นรีบตีมือซินน์ดัง เพียะ “โอ้ย มึงอ่ะ ชงมาด่วน ๆ เลย จะได้รีบเต้น รีบกลับ กลัวใจคุณพ่อว่ะ” มันพูดไปมองหาพ่อตัวเองไป “เออ ๆ เห็นซดเหล้าพรวด ๆ แบบนี้ แล้วคิดถึงน้ำปั่นเลย ไม่รู้เรียนที่อังกฤษเป็นไงบ้าง ได้หลัวฝรั่งแล้วมั้ง ฮ่า ๆ” ไออุ่นชงเหล้า และเต้นไปด้วย เหมือนที่มันพูดถึงนั่นแหละ ฉันมีเพื่อนอีกคนชื่อน้ำปั่น ตอนนี้มันไปอบรมวิชาชีพที่อังกฤษ นางเป็นสัตวแพทย์ ฉันเต้นสักพักก็เผลอไปเห็นนาวิ
“แม่คะ ถ้าให้แม่เปรียบความรัก กับอะไรสักอย่าง แม่จะเปรียบมันเหมือนอะไร?” คำถามแรกบนโต๊ะอาหาร เมื่อฉันกำลังจะจากจังหวัดภูเก็ตในอีกไม่กี่ชั่วโมงนี้ จนแม่ผู้ถูกถามตกใจ เงยหน้าขึ้นมาทันที ท่านคงจะสงสัย ว่าทำไมอยู่ ๆ ฉันถามอะไรแบบนี้ เฮ้อ... จะบอกว่าไงดี ฉันแก่แล้ว! ฉันอยากมีผัว แต่ฉันไม่กล้าจริง ๆ ฉันกลัวไปหมด กลัวโดนเท กลัวผิดหวัง เพราะอะไรน่ะเหรอ? เพราะฉันเอง ยังไม่มีพ่อแท้ ๆ กับเขาเลย แม่เป็นซิงเกิ้ลมัม ฉันเป็นเด็กกำพร้าพ่อ แต่โชคดีของฉัน ที่ลุงบอส ลุงแท้ ๆ รับฉันเป็นลูกแทน และยังมีแม่เมย์ลิน พ่อที เจ้าของอนันธารากรุ๊ป รับฉันเป็นลูกบุญธรรมอีก แต่มันก็เท่านั้น ใจฉัน ฉันยังอยากตามหาพ่อแท้ ๆ อยู่ดี ไม่รู้ว่าท่านเป็นใคร อยู่ที่ไหน ทำไมแม่ฉันถึงได้ปิดเงียบ ไม่บอกอะไรฉันเลย และดูท่าจะเกลียดพ่อมากด้วย “ถ้าให้แม่เปรียบ ก็คง... เหมือนอะไรสักอย่างที่น่าขยะแขยง” ฉันถึงกลับนั่งนิ่ง เมื่อได้ยินคำตอบจากปากแม่ ฉันบอกแล้ว ว่าแม่ เกลียดพ่อ แม่เกลียดความรัก และพร่ำสอนฉันมาตลอดว่า ความรักน่ะ ไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด ไม่ต้อ