ฉันก้มหน้า เหมือนน้ำตาจะไหล กลัวทุกอย่างมันจะเหมือนที่พ่อเคยทำกับแม่ ฉันไม่อยากอ่อนแอตั้งแต่เริ่มเลย แต่มันกลัวจริง ๆ ไม่อยากรู้สึกแบบนี้ แต่ทำยังไงก็ทำไม่ได้ จนเขาจับมือฉัน แล้วก้มลงมา “ไม่กลับมา แต่ไปนอนด้วยกัน” พูดจบเขาก็ดึงมือฉันออกไปจากห้อง คือห้องเขา มันอยู่ถัดไปสองห้องจริง ๆ ซึ่งในห้อง เท่าที่เห็นหลัก ๆ ก็มีแต่หนังสือ ฉันล่ะไม่อยากจะเชื่อ ว่าคนเรียนหนัก หนอนหนังสือแบบเขา จะแซ่บกระเส่าอะไรเบอร์นี้ พอเขาไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉันก็ไปนอนรอที่เตียงทันที นอนเล่นมือถือ แอบมองเขาไป จนสักพักคุณหมอศัลเขาขึ้นมานอนข้าง ๆ พร้อมกับหนังสือหนึ่งเล่ม “มานี่มา” เขากางแขนออกข้างนึง แล้วพยักหน้าให้ฉันขยับเข้าไป แหม… อีกมือเนี่ย ไม่ยอมวางหนังสือเลยนะพ่อคุณ “อ่านอะไร ง่วงไม่ใช่เหรอ?” “อืม ง่วงแต่ต้องอ่าน” ทำไมเมื่อกี้ ไม่คิดว่าฉันเป็นหนังสือบ้าง! ฉันมองตามหนังสือที่เขาเปิดทีละหน้า ทีละหน้า ไม่รู้มันคือหนังสือบ้าอะไร มีแต่ตับไตไส้พุงชี้ระโยงระยางไปหมด ถึงจะเป็นภาพขาวดำจำลองขึ้น กูเห็นแล
ฉันมองตามหลังแม่ จนลับตา ทำไมแม่ต้องตึงขนาดนี้? แค่พูดถึงไม่ได้เลยเหรอ? บอกตรง ๆ ฉันรู้สึกไม่โอเคเลย ฉันไม่รู้นะ ว่าแม่เจออะไรมา เพราะท่านไม่เคยบอก ถามก็ไม่เคยตอบ แต่ที่ฉันพอจะดูออก ก็คือแม่ดูโกรธและเศร้ามาก ฉันรอแม่สักพัก จนสเต็กที่สั่งมาเสิร์ฟ แม่ก็ไม่มาสักที อะไรของแม่ เรื่องนี้ฉันควรถามใครดีวะ ที่ผ่านมาฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้เลย เพราะฉันไม่เคยคบใคร แต่พอมาคบกับหมอเท่านั้นแหละ ก็มารู้ว่าแม่ไม่ชอบหมออีก! เออ... ทำไมต้องหมอล่ะ? ถ้าแม่ไม่เคยมีเรื่องอะไรกับหมอ? ฉันเห็นใคร ๆ เขาก็ชอบอาชีพนี้กันทั้งนั้น ดูมีเกียรติ ดูเท่จะตาย คิด ๆ ไปก็เครียด ฉันต้องคบกับนาวาแบบนี้ไปนานแค่ไหน ต้องทำยังไง โอ้ย ๆ พ่อแท้ ๆ ก็ไม่มี จะมีผัวทั้งทีก็ยุ่งยาก! “เจ้าปลาย” ฉันหลุดจากภวังค์ทันที เมื่ออยู่ ๆ แม่ก็กลับมา แต่ทำไมตาแม่ ถึงแดงแบบนั้นล่ะ แม่ไปร้องไห้มาเหรอเนี่ย? ฉันไม่กล้าถาม ได้แต่มอง พยายามทำตัวปกติทุกอย่าง ฉันเข้าใจ แม่คงจะไม่ไหวจริง ๆ ถึงได้ไปแอบร้องไห้คนเดียวแบบนั้น “แม่คะ เอ่อ... สเต็กมาแล้ว ร้อน ๆ กินก่อนนะ” ฉันจึงโน้มไปหั่นสเ
ทำไงดี ทำไงดี? ฉันรู้ ว่าใบไม้มันไม่ปากโป้ง แต่ใบไม้มันชอบกวนตีน มันชอบใช้ความลับขู่ใช้งานฉันตลอด โดยเฉพาะเรื่องที่มันให้ฉันช่วยโกหกพ่อบอส! ‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’ “เจ๊ เป็นอะไรไหม หนูตามหมอนะ” ตามทำผีอะไร! “เอาไง” เขาหันมาถามฉันทันที เมื่อใบไม้เริ่มดึงประตูรถไม่หยุด ‘กึก กึก กึก’ ใบไม้! แกหยุดเกรี้ยวกราดได้ไหม จะอะไรขนาดนี้ ฉันรู้นะ ว่ามันรู้ รู้ว่าฉันอยู่กับผู้ชาย... ไม่งั้นมันไม่กดดันฉัน จนฉันจนมุมแบบนี้หรอก! ‘กึก กึก กึก’ นั่นไงยิ่งทำ “แดดแรง ฉันไม่อยากเห็นคนเป็นลม” คนข้าง ๆ สมกับเป็นหมอจริง ๆ ตอนนี้ฉันก็จะเป็นลมเหมือนกัน คิดอะไรไม่ออกเลย อยากจะกรี๊ดดัง ๆ เหมือนที่เคยทำ แต่ก็อายเขา “เออ ๆ เปิดก็เปิด!” แล้วเขาก็พยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะปลด ล็อคให้ กึก! ทันใดนั้น ใบไม้ก็เปิดประตูฝั่งคนขับออกทันที ก่อนที่มันจะเบิกตากว้าง เมื่อเห็นคนที่นั่งอยู่ไม่ใช่ฉัน เนียนนะ แกรู้ว่าไม่ใช่ฉันแต่แรก! “อ้าว หมอ? พี่หนูล่ะ อ้าวเจ๊” กูเริ่มเกลียดน้องตั
ผมอยากให้เธอมั่นใจ ผมรู้ว่าปลายฟ้า เธอกลัวที่จะมีความรัก ถ้าเราอยู่กันแบบนี้ และผมไม่หนักแน่นพอ มันคงจะไม่ดีกับความรู้สึกเธอ และเราก็จับมือกันเข้ามาในร้าน นั่งข้าง ๆ กัน ทำทุกอย่างเหมือนคู่รักปกติทั่วไป แต่ที่ไม่ปกติคงจะเป็นผม ที่คอยแต่มองหน้าเธอ มองรอยยิ้มสดใส ๆ มองแก้มป่อง ๆ ที่มันทำผมหายเหนื่อยจากการผ่าตัดสี่ชั่วโมงได้ ในพริบตา “กินอะไรดี” ปลายฟ้าเปิดเมนู แล้วชี้ไปที่รูปอาหาร ทีละรูป ทีละรูป “ตามใจอ้วน” พอผมตอบ เธอก็อมยิ้ม แล้วเริ่มสั่งอาหารทันที ผมเป็นคนง่าย ๆ เธอสั่งอะไรมา ผมก็กินได้ทั้งนั้น เอาที่เธอชอบ และอยากกินเถอะ “ผ่าตัดเป็นไงบ้าง โอเคไหม” โอเคสิ ยิ้มแบบนี้โคตรโอเคเลย ใจผมจะละลายอยู่แล้ว! “โอเค อาจารย์หมอช่วยเยอะ” “เห็นเลือดแบบนั้น ถามจริง กินข้าวลงไหม” เมื่ออาหารทยอยมาเสิร์ฟ เธอก็ยิงคำถามชวนอ้วกใส่ผมเลย “ฉันชินแล้ว...” “แบบเห็นตับไตไส้พุงน่ะเหรอชิน โห... ขนลุก” ผมจะไม่ชิน ก็เพราะเธอพูดถึงมัน ตอนผมกำลังตักข้าวเข้าปากนี่ล่ะ “เปลี่ยนเรื่องเถอะ
ฉันจะไม่ไหวแล้ว... กับอนุภาคความหล่อเขา ฉันหลงไปหมด หลงผิวขาว ๆ หลงจมูกโด่ง ๆ หลงสายตานิ่ง ๆ ของเขา มันเป็นสายตาที่นิ่ง แต่มีอะไรแฝงอยู่... ซึ่งยิ่งมองยิ่งน่าค้นหา ฉันไม่อยากให้เขา ลุกไปจากตัวเลย “งั้นเอาออกก่อนนะ” ฉันรีบกอดเอวเขาไว้ทันที เมื่อเอวหนา ๆ นั้น กำลังขยับออกช้า ๆ ไม่ได้! ฉันจะไม่ยอมให้เขาไปไหนทั้งนั้น “ไม่เอา ไม่อยากอุ่น ๆ เหรอ... ไม่เอาออกไปนะ” “อ้วน...” “งื้อ ไม่เอา... อีกรอบนะ” “ขอพักหนึ่งชั่วโมง เราต้องทำอย่างอื่นกันบ้าง” ทำอะไรล่ะ ฉันไม่เห็นมีอะไรน่าทำเลย นอกจาก ทำเขา ดูสิ ผิวเขาเนียนมาก ตอนแม่เขาท้อง แม่เขากินอะไรเข้าไป ทำไมลูกชาย ถึงผิวขาวใสได้ขนาดนี้ งานดีทุกอย่างเลย ฉันทนไม่ไหว เริ่มเขี่ยจุกนมสีชมพูเขาช้า ๆ ก่อนจะลูบไล้ไปตามแผงอกขาว ๆ ตรงหน้า จนเจ้าของร่างใหญ่ที่ทับอยู่ เขามองตามลงมา และเจอสายตาออดอ้อนฉันเข้าไป “พลีส” “นอกจากผ่าตัด ฉันต้องเก็บแรงไว้กินเธอสินะ” ฉันอมยิ้ม แล้วยื่นแขนไปคล้องคอเขาทันที จนมือใหญ่... ค่อย
เขาขมวดคิ้วชนกัน... แล้วมองฉันสลับกับนาฬิกาบนหัวเตียง “พรุ่งนี้เคสเช้า... ต้องกลับ” ฉันทำหน้ามุ่ย โผเข้าไปกอดเขา ก่อนที่จะเอาแก้มป่อง ๆ ถูเบา ๆ ที่แผงอกขาวตรงหน้า “งื้อ... ไม่อยากให้ไปไหนเลย” “อ้วน...” “ทำไม เค้างอแงไปเหรอ” “อ้อนเก่งไป… กินยา และอย่าลืมยาคุม” เขายื่นน้ำเปล่าให้ฉันอีกรอบ จนฉันยอมถอนกอดออกมา แล้วหยิบน้ำกับยาที่เขาให้..กินทีละเม็ด ทีละเม็ด “นอนเลยไหม...” “ให้นอนเร็วจัง อยากกลับแล้วเหรอ?” เขาไม่ตอบ แต่พยุงฉันกลับไปที่เตียง ก่อนที่จะเอนตัวลงมาพร้อม ๆ กัน แล้วสวมกอดจากด้านหลังแน่น “ต้องกลับ ไม่ได้เอาหนังสือมาด้วย” เสียงนุ่ม ๆ ของเขา กระซิบฉันจากข้างหลัง จนแก้มฉันสองข้างเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมา ก่อนที่ลมหายใจอุ่น ๆ ที่รดลงช้า ๆ นั้นจะไล่ลงมาตามต้นคอ ทำอะไรก็มีเสน่ห์ไปหมด... ทำไมฉันรู้สึกแบบนี้นะ… ฉันรู้สึกอยากมีอะไรกับเขาตลอดเวลาเลย “ติดอ่านหนังสือเหรอ?” “อืม” โอ้ย... เซ็กซี่จัง “ทำไม ไม่
ฉันถอนกอดออกมาทันที จากที่ซึ้งน้ำตาไหลอาบแก้ม อยู่ ๆน้ำตามันก็แห้งไป ไม่ให้แห้งได้ไง! ดูคำพูดน้องสาวฉันสิ ไหนจะหน้าตานิ่ง ๆ ที่ไม่แสดงความรู้สึกอะไรของมันอีก โอ้ย... บอกเลย ต่อไปนี้ฉันจะไม่ซึ้งอะไรกับมันแล้ว ใบไม้มันเล่นฉัน หลายรอบมาก! “เออ ไม่ซึ้งก็ได้ แต่ขอบใจแกมากนะใบ” “อืม เจ๊ไปหาพ่อเถอะ ไปอวดที่ดิวงานได้หน่อย พ่อรออยู่” ฉันพยักหน้าเบา ๆ แล้วเปิดประตูเข้าไปในตึก จนเดินไปหยุดยืนนิ่ง ๆ ที่หน้าห้องพ่อบอส ที่พ่อบอสปิดเงียบ ไม่ยอมบอกฉัน ที่ไหนได้ ท่านก็ไม่รู้เรื่องพ่อแท้ ๆ ฉันเลย ทำไมแม่ปิดเก่งแบบนี้นะ เก็บความลับตัวเองมายี่สิบกว่าปี พ่อฉันท่านไม่มีความดีอะไรเลยรึไง แม่ถึงได้จงเกลียดจงชันท่านนัก ‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’ “เชิญครับ” พอฉันเปิดประตูเข้าไป พ่อบอสก็ส่งยิ้มให้ทันที ทำฉันรู้สึกแปลกใจนิด ๆ เพราะจากที่ฟังคลิปเสียงเมื่อกี้ พ่อบอสดูอารมณ์เสียมาก “ไงลูก เก่งนะเนี่ย” ฉันรีบเดินอ้อมโต๊ะทำงาน เข้าไปกอดพ่อบอสทันที “หนูรักพ่อนะ ขอบคุณที่รักและเอ็นดูหนู” พ่อบอสลูบผมฉันเบา ๆ จนฉ
ทาสงั้นเหรอ น้ำปั่นมันกวนฉันตลอดเลย ฉันอยากจะแกล้งรับปาก แล้วทำลืม ๆ มันไปซะ ฉัน: งั้นกูไม่ว่าง NamPun: เพื่อนร๊าก… ฉัน: เออ! ของฝากมีป่ะ ถ้าไม่มี ไม่ให้ขึ้นรถ NamPun: มี หิ้วผู้ชายมาด้วยสองสามคน กิกิ ฉัน: งั้นมาให้ไว! NamPun: เออ ๆ กูขึ้นเครื่องละ บาย ฉันวางมือถือลง แล้วก้มอ่านเอกสารบนโต๊ะต่อ ซื้อจริงเหรอวะ ที่ซื้อคอนโดเดียวกัน ชั้นเดียวกัน คืออยากอยู่ใกล้ฉันใช่ม้าา บ้า! เขินอ่ะตัวเอง ฉันเทเย็นตาโฟใส่ถ้วย แล้วกินไปเล่นมือถือไป รอคุณหมอศัลเขาทักมา จนสักพักใหญ่ ๆ เสียงกริ่งหน้าห้องก็ดังขึ้น ‘กริ่ง กริ่ง’ รออะไรล่ะ! กดแบบนี้เบบี๋ฉันแน่นอน... ฉันรีบวางทุกอย่างในมือ แล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่ง ตรงไปเปิดประตู ‘แอด...’ “มาเอาเอกสารคืน” หน้านิ่ง ๆ แต่สายตามีเลศนัย “เอกสารอะไร ไม่รู้เรื่อง” “อ้วน...” “ทำไมถึงซื้อคอนโดที่นี่ บอกมาก่อน ถ้าคำตอบไม่ถูกใจ ไม่ให้เอกสาร”
“พ่อครับ ผู้หญิงที่ผมคบด้วยเอาแต่ใจมาก ผมจะเลิกแล้วล่ะ ปวดหัว” ผมหันมองลูกชายที่นั่งเบาะข้างแวบนึง ลูกชายอายุสิบสี่ จะมีแฟนก็ไม่แปลก แต่ที่แปลกคือเปลี่ยนบ่อยเหลือเกิน แล้วแต่ละคนที่เลิกก็จะมาปรึกษาผมแบบนี้ กับแม่เขาไม่ปรึกษาหรอก เพราะปลายฟ้าจะบอกแค่ว่าให้ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ คุย แต่ผมไม่... “อืม ก็เลิกสิ ถ้าปวดหัวก็เลิก อย่าให้กระทบการเรียน” ลูกชายเม้มปากแล้วพยักหน้าอย่างมั่นใจ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ไอโฟนรุ่นใหม่ออกมาจากกระเป๋ากางเกงนักเรียน ลูกไฮโซออกรุ่นไหนก็จัดรุ่นนั้น ฝีมือแม่เขา นั่นแหละ ชอบสอนให้ลูกฟุ่มเฟือย ซึ่งผมเตือนแล้วเตือนอีกเพราะอดห่วงตอนส่งไปเรียนอังกฤษไม่ได้ ถ้าลูกใช้เงินไม่คิดแบบนี้ ผมกับเมียได้กินแกลบกินเกลือแน่ “พี่ณเพชรจะเลิกกับผู้หญิงอีกแล้วอ่ะ ณพิม มาดูเร็ว ๆ” สองแสบรีบเกาะเบาะ ยื่นหน้ามาดูจอโทรศัพท์กับพี่ชาย แต่ณเพชรรีบเก็บใส่กระเป๋าไว้แล้วเบือนหน้าหนี “เอ้า ทำไมเก็บแล้วล่ะคะ ปรึกษาได้นะ ณพิมก็ผู้หญิง” ณพิมยังใจจดใจจ่ออยากดูโทรศัพท์ แต่ณพลอยเธอมีเป้าหมายใหม่ ลุกขึ้นเกาะเบาะผม ก่อนจะยื่นแขนเล็ก ๆ ขอ
สิบปีผ่านไป... “ณภัทร ณเพชร กลับได้แล้ว” ไม่อยากจะเชื่อ ตอนนี้ฉันเป็นยายแก่ที่ยืนโบกไม้โบกมือหน้าโรงเรียนมัธยม ฉันมารอรับลูกกับหลานทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เว้นแต่หลานสาว ที่หมอนาวาพ่อพวกเธอเป็นคนไปรับเอง เพราะณพลอย ณพิมเรียนโรงเรียนประถมที่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมาก ก็พ่อเจ้าหล่อนเล่นหวงขนาดนั้น ฉันบอกให้ย้ายโรงเรียนมาเรียนกับปลายฝนก็ไม่ยอม! หมอนาวาไม่อยากคาดสายตาไปไหน เขาทำงานที่โรงพยาบาลใกล้ ๆ ว่างเขาก็แว๊บไปดูลูกได้ตลอด ส่วนณเพชรรายนั้นไม่น่าห่วงแล้ว เพราะเขาโตเป็นหนุ่มอายุสิบสี่เรียนโรงเรียนเดียวกับน้า แหงล่ะอะไรก็น้า ๆ เขาน่ะตัวติดน้าอย่างกับอะไร เด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน แถมหน้าตาก็ไม่ไกลกันมาก บางทีฉันก็แก่จนเรียกผิดเรียกถูก ไม่รู้คนไหนลูกคนไหนหลาน ยิ่งทั้งสองกำลังเข้าสู่วัยรุ่น วัยกำลังโตที่นั่งเล่นเกมส์ เหล่หญิง และอ่านหนังสือกัน เรื่องอ่านหนังสือต้องยอมรับลูกชายฉันณภัทร เขาสอนหลานได้ดีมาก เขาติวหนังสือให้กันจนติดท็อปโรงเรียนทั้งคู่ ผิดกับปลายฝนลูกสาวบุญธรรม รายนั้นเธอชอบวาดรูปชอบศิลปะ ทุกครั้งที่หนุ่ม ๆ ทวนวิชา
สรุปแม่ฉันก็ได้เด็กคนนั้นมาเลี้ยง ใช่ค่ะเธอน่ารักจริง ๆ เรียบร้อยมาก ณภัทรก็ดูรักมาก กลับจากโรงเรียนก็หอม ตื่นเช้าจะไปโรงเรียนก็หอม ฉันพาสองสาวไปเลี้ยงที่นั่นบ่อย เห็นแทบทุกช็อตทุกตอน และเห็นอีก ว่าแม่แทบไม่ต้องเลี้ยงเจ้าหนูคนนั้น เธอเหมือนเด็กที่สงบเสงี่ยมเจียมตัว เอาแต่มองหน้าทุกคนแล้วยิ้ม เจ็บปวดอะไรก็ต้องเจ็บปวดจริง ๆ ถึงจะร้องแอ๊ะออกมา แค่ร้องแอ๊ะนะ เรื่องร้องงอแง แม่บอกว่านอกจากวันแรกที่เห็นที่โรงพยาบาล แม่ก็ไม่ได้เห็นอีกเลย “ปลายฝนไม่ร้องแบบนี้ แม่รู้ได้ไงคะว่าน้องหิว?” “กะเวลาเอาสิ ปลายฝนจะหิวและทำอะไรตามเวลาเป๊ะ ๆ แล้วสองสาวล่ะ อยู่กับลูกที่บ้านดื้อไหม?” “ไม่ดื้อค่ะ จะว่าไปตอนนี้หนูเริ่มชินแล้ว หน้าที่แม่ยิ่งใหญ่จริง ๆ แบบว่า เหนื่อยจนชินค่ะ” แม่ขำเบา ๆ พร้อมกับเขย่าขวดนมเตรียมป้อนปลายฝน ก่อนที่ฉันจะอุ้มณพลอยเข้าเต้าอีกคน และนั่งมองน้องไปด้วย ปลายฝนเป็นเด็กที่ไม่เหมือนเด็ก แววตาเธอเหมือนผู้ใหญ่ที่เฝ้าสังเกตและสำรวจตลอดเวลา ฉันไม่อยากเชื่อ ว่าเด็กเดือนกว่า ๆ จะรู้เรื่องและทำอะไรทุกอย่างเป
คุณน้ำหวานยิ้มให้ฉัน เหมือนเป็นรอยยิ้มแห่งความหวัง เราเป็นแม่คนและมีหลานเหมือน ๆ กัน เราดูกันออก แล้วคุณน้ำหวานก็พาฉันไปที่ห้องเด็กอ่อนทันที ที่ตอนนี้ในห้อง มีตำรวจสองสามคนยืนคุยกับกุมารแพทย์ “เรื่องถึงไหนแล้วคะ?” คุณน้ำหวานถามทันทีเมื่อเดินไปถึง ฉันจึงค่อย ๆ เดินอ้อมไปดูเด็กผู้หญิงคนนั้นที่เตียงเด็ก ตายแล้ว เหมือนที่คุณน้ำหวานพูดเลย เธอน่ารักจิ้มลิ้มจริง ๆ ตอนเธอร้องไห้ฉันรู้สึกเศร้าใจตาม อยากจะอุ้มขึ้นมาโอ๋มาก ‘อุแว้~ อุแว้~’ มีรอยมดกัดเต็มแก้ม น่าสงสารจริง ๆ ทำไมถึงทิ้งได้ลง ลูกทั้งคนนะ “ดูจากกล้องวงจรปิด มีคนอุ้มเด็กมาทิ้งราว ๆ เจ็ดโมงเช้าครับ ลักษณะรูปร่างคล้ายผู้หญิง เธอสวมหมวกบัตเก็ตกับมาสก์ปิดปาก และเธอเอียงตัวหลบเหมือนรู้จักมุมกล้องเป็นอย่างดี” คุณน้ำหวานพยักหน้ารับ พลางก้มมองเจ้าตัวเล็กที่ร้องงอแงไปด้วย “เห็นป้ายทะเบียนรถไหมคะ?” “ไม่เห็นครับ เพราะเธอเดินมา และเธอก็เดินเท้าเปล่าด้วย” แล้วฉันกับคุณน้ำหวาน ก็หันไปถามพร้อมกัน “เท้าเปล่า?” จริงอยู
“ณพิม เหมือนอ้วนตอนเด็ก ๆ” คุณหมอเขามองหน้าณพิมสลับกับฉัน ดูสายตาเขาสิ มันเป็นประกายมาก ถ้าถอดมาสก์ปิดปากออก ฉันคงได้เห็นรอยยิ้มกว้าง ๆ ของเขา “แต่ณพลอยเหมือนเบบี๋นะ เค้าอยากให้ลูกมีลักยิ้มเหมือนเบบี๋จัง” “ไม่แน่ณพลอยอาจจะมี ใช่ไหมครับ ลูกสาวพ่อ” ละมุนจริง ๆ เลยกับลูกสาวเนี่ย “จ้า ลูกสาวหมอนาวา” ฉันล้อเขาเสียงอ่อน เพราะตอนนี้รู้สึกเพลียมาก ก่อนที่พยาบาลเธอจะช่วยอุ้มสอง ณ มาถ่ายรูปครอบครัวกัน วิสัญญีแพทย์ก็จะพูดอะไรสักอย่าง จนฉันเผลอหลับไป “ณเพชรอย่าเสียงดังนะลูก แม่หลับอยู่” เสียงสามีฉันนี่น่า โอ้ย... รู้สึกตึง ๆ ท้องจัง “ปะป๊าณเพชรอยากนอนกับแม่ น้องออกมารึยังครับ?” “น้องอยู่ที่ห้องเด็กอ่อนแล้วครับ เช้า ๆ เดี๋ยวพ่อจะพาไปหาน้องนะ ตอนนี้ณเพชรต้องนอนลูก” “ปะป๊า ณเพชรอยากไปตอนนี้เลยครับ” “รอครับ ณเพชรต้องรู้จักรอ ตอนนี้ตีสี่นะ รบกวนคนอื่นเขา” แล้วเสียงเล็ก ๆ ของลูกชายก็เงียบไป ถ้าให้ฉันเดา ตอนนี้เขาคงเดินกอดผ้าทำหน้าบึ้งใส่พ่ออยู่ โถลูก... แม่ไม่ไหวจริง ๆ
ณเพชรปราบพ่อนาวาอยู่หมัด หลังจากวันนั้น ความบันเทิงก็เกิดขึ้นนับไม่ถ้วน เมื่อฉันต้องเข้าแอ็ดมิทที่โรงพยาบาลเพื่อรอคลอด แน่นอนพ่อนาวาต้องเลี้ยงณเพชรมากกว่าเดิม หนำซ้ำบางวันมีณภัทรมาด้วย รายนั้นเขาไม่เถียงพี่เขยหรอก แต่ณเพชรนี่สิ สายกวนประสาทพ่อ “ปะป๊า วันก่อนณเพชรเอาเรื่องปะป๊าไปถามคุณครู คุณครูบอกว่า... “ “อะไรนะณเพชร?” “ครับ ปะป๊าไม่อธิบายเรื่องช้างน้อย ณเพชรเลยถามคุณครูครับ” คุณหมอนาวาทรุดนั่งข้าง ๆ ลูกชาย ก่อนจะชันเข่าขึ้นมากอดไว้ “ชีวิตกูเนี่ยนะ” “ชีวิตปะป๊าทำไมครับ ช้างน้อยปะป๊าโกรธณเพชรเหรอ?” เขาเงยหน้าขึ้น มองฉันขอความช่วยเหลือ เพราะคำว่าช้างน้อย ฉันสอนณเพชรพูดเองล่ะ เอ่อ ของพ่อไม่มีคำว่า ‘น้อย’ นะลูก ช้างเลยล่ะ! “ถ้าณเพชรไม่ลืมเรื่องนี้ พ่อนี่แหละจะโกรธ” ณเพชรเงียบ และหันไปหาณภัทร จนน้าเขาชี้นิ้วไปจิ้มอกหลานเบา ๆ “ฟังน้า อย่าทำให้พ่อโกรธเข้าใจไหม เดี๋ยวโตขึ้นพ่อไม่ให้ตังค์ไปโรงเรียน” สอนหลานน่ารักเชี
เรื่องดุลูก ปากคุณหมอศัลนี่ไวจริง ๆ ฉันต้องอุ้มณเพชรไปห่าง ๆ เขา จนลูกหลับถึงได้กลับมาขึ้นเตียงนอนเหมือนเดิม ณเพชรเป็นแบบนี้จนถึงสามขวบ เป็นลูกชายที่ติดแม่เหมือนนาวีลูกซินน์ และฉันไม่สามารถที่จะโอ๋ประคบประหงมเขาได้เหมือนแต่ก่อน เพราะตอนนี้ฉันก็ท้องจวนคลอดแล้ว ใช่ค่ะ กว่าจะท้องแฝดได้ ฉันกับคุณหมอศัลเราปั๊มกันนานเหลือเกิน แต่เราภูมิใจนะ ที่ท้องแฝดและได้ผู้หญิงเหมือนที่ตั้งใจ ลูกสาวสองคนห่างจากพี่ชายสามปี พอดิบพอดีที่จะเป็นเพื่อนกับลูกสาวไออุ่น นึกไม่ถึงล่ะสิ! ไออุ่นท้องแล้ว ฮ่า ๆ ฉัน น้ำปั่น ซินน์ รู้ข่าวปุ๊บ ก็นัดกันไปขำใส่หน้ามันปั๊บ! เพราะน้ำปั่นโอมเพี้ยง ๆ ใส่ท้องมันทุกครั้งที่เจอกัน ตอนนี้มันท้องได้สี่เดือนแล้ว แถมได้ลูกสาวด้วย มันหงุดหงิดเวียร์หนักมาก นั่งยันนอนยันว่าคลอดคนนี้จะทำหมันเหมือนซินน์ อย่าว่าแต่ไออุ่นเลยฉันก็จะทำหมันเหมือนกัน เพราะณเพชรไม่ได้เลี้ยงง่ายเหมือนเดิม ยิ่งพูดได้ยิ่งแสบ รู้ทุกเรื่อง! ยิ่งกับณภัทรน้าเขา คือเข้าขากันดีมาก แต่โชคดีที่ณเพชรเขาไม่เถียงฉัน เขาเถียงพ่อแทน! เถียงเหมือนที่คุณหมอ
คุณหมอศัลดูช็อกนิด ๆ แต่ก็ไม่พูดอะไร จนเขาเปิดประตูห้องออกไป ฉันถึงพาลูกกลับไปนอนที่เตียงเด็กและรีบอาบน้ำ แต่งหน้าแต่งตัวเรียบร้อยก็พอดิบพอดีที่ลูกตื่น อาจจะช้าไปบ้าง เพราะฉันต้องสุ่มเดินไปดูว่าณเพชรตื่นรึยังเพราะเขาตื่นมา เขาจะมองเพดานเงียบ ๆ ไม่ส่งเสียงร้องอะไร พอเขาตื่นฉันก็อาบน้ำแต่งตัวให้ เรื่องอาหารเด็กอ่อน ให้เขาไปกินที่บ้านกับน้าณภัทรแล้วกัน ฉันไม่ว่างทำ ถึงลูกจะเลี้ยงง่ายแต่ไม่ใช่ฉันไม่เหนื่อย เหนื่อยมาก! ฉันเป็นคุณแม่ยังสาวที่หุ่นดีจนผู้ชายมองเหลียวหลัง จะบอกอะไรให้ แต่ก่อนหุ่นฉันเฉย ๆ มาก! รูปทรงก็ไม่ค่อยชัดและได้สัดส่วน แต่หลังจากคลอดลูกเท่านั้นแหละ คนละคนกันเลยนมตูดมาเต็ม! ซึ่งฉันชอบมาก... สามีก็ชอบ จัดการลูกเรียบร้อยฉันก็ขับรถออกจากคอนโด เราสองแม่ลูกแวะซุปเปอร์กันนิดหน่อย ฉันซื้อแครอท ซื้อบรอกโคลี ณเพชรเขาไม่ดื้อนะ เขาแค่มองตามมือฉันว่าฉันหยิบจับอะไร บ้างก็อยากจับด้วยเพราะสงสัย เป็นแบบนี้จนฉันซื้อของเสร็จ พอถึงบ้านฉันก็เอาผักทุกอย่างไปล้างให้เขานั่งเล่นที่พื้น สีส้มของแครอทสีชัดเจน บรอกโคลีก็เขียว
ฉันยกมือบีบแขนคุณหมอศัลเบา ๆ บีบจนเขาเงยหน้าที่ซุกตามซอกคอ ขึ้นมาจุมพิตที่ริมฝีปากฉัน “ขอแฝดหญิงนะคะที่รัก” “ครับ” รับปากฉันเสร็จเขาก็ก้มลงประทับริมฝีปากบบาง ก่อนจะเลื่อนมือที่จับตรงหัวไหล่ ลงมาดึงสายชุดนอน ชุดนอนสายเดี่ยวถูกเขาเกี่ยวสาย ถอดออกอย่างง่ายดาย ฉันตั้งใจใส่เพื่อจะให้นมลูกง่าย ๆ แต่ไม่คิดว่ามันจะง่ายถึงขนาดปลดได้แค่ปลายนิ้วแบบนี้ เมื่อสองเต้าที่เปลือยเปล่าประจันหน้าเขา ริมฝีปากที่พรมจูบเบา ๆ ก็ไล่ลงไปหามัน เขาส่งแค่ปลายลิ้นอุ่น ๆ ตวัดวนเท่านั้น สลับกับมือใหญ่ ที่ลูบคลำตามฐานเต้าเบา ๆ “อื้ม~” ไม่นานฉันก็ถูกถอดพันธการช่วงล่างอย่างรวดเร็ว ตามด้วยมือใหญ่ที่ใช้ปลายนิ้ว ถูตามแยกสวาทฉัน เขาเริ่มกดนิ้วกลางลงเบา ๆ เพื่อกระตุ้นน้ำสวาท บ้างก็พยายามดันมันเข้าไป และถูรอบ ๆ แบบนั้น แต่ทุกอย่างถูกกระทำอย่างเบามือ “อ่ะ อื้ม~ เสียวจัง” ฉันเริ่มบีบไหล่ ที่ขยับต่ำลงไปเรื่อย ๆ ตามหว่างขา โดยที่นิ้วยาวเขายังละเลงเล่นตุ่มกระสันช้า ๆ อยู่แบบนั้น เมื่อริมฝีปากไล่ลงไปถึงยอดที่เขาโปรดปราน เขาก็ลงลิ้นทักทายมันทั