White:Talkผมเริ่มเหงื่อตกทั้งที่ในห้องเปิดเครื่องปรับอากาศ เพราะร่างนุ่มนิ่มที่นั่งบนตักผมเป็นสาเหตุ ปายใส่ชุดนอนลายการ์ตูนเหมือนเด็ก ๆ ผมเห็นทีแรกยังแอบขัน แต่ตอนนี้มันขันไม่ออกเพราะเจ้าลูกชายด้านล่างดันจะขันแทน!มีผู้หญิงเนื้อตัวนุ่มนิ่มนั่งบนตักตั้งนานสองนาน ผมไม่ใช่พระอิฐพระปูนนะครับจะได้ไม่รู้สึกอะไรผมได้กลิ่นหอมหวานจากตัวปาย กลิ่นสบู่อ่อน ๆ ลอยมาแตะจมูก ใบหน้าผมเกยคางปายไว้ตอนเธอดิ้นผมนุ่มดำขลับของเธอก็ปัดมาโดนจมูกผมเบา ๆ ผมนุ่มลื่นมีกลิ่นแชมพูหอม ๆ จนผมลืมตัวสูดดมเข้าปอดลึกปายหอมไปทั้งตัว เนื้อตัวนุ่มนิ่มที่ผมโอบกอดก็เล็กกะทัดรัดน่าทะนุถนอมพอผมขู่ไม่ให้ขยับเพราะเจ้าลูกชายผมกำลังจะตื่น ดูเหมือนปายจะนิ่งขึงไปท่าทางตื่นกลัวทันที....แต่ดูเหมือนช้าไปแล้ว ตอนนี้ลูกชายผมมันเริ่มแผลงฤทธิ์ ดูจากอาการตกใจของปายคงจะรู้สึกได้ว่าของแข็งที่ดันบั้นท้ายตัวเองอยู่มันคืออะไร“อ๊ะ! ” ปายสะดุ้ง พร้อมกับอุทานด้วยความตกใจเสียงของปายมันเร้าอารมณ์เป็นบ้า...ผมกัดฟันข่มอารมณ์ตัวเองไม่ให้มันกระเจิดกระเจิง แต่ก็ยากเต็มทนจิตสำนึกฝ่ายดีบอกให้ผมปล่อยเธอไป แต่จิตสำนึกฝ่ายร้ายบอกให้ผมจัดการปายซะมีเหยื
ไวท์ก้มหน้ามาไซ้ซอกคอฉัน ปากก็บอกเสียงพึมพำ“เดี๋ยวปล่อย...ถ้าเสร็จธุระนะ”เสร็จบ้าเสร็จบอ! ฉันก่นด่าเขาในใจอย่างเกรี้ยวกราด“ไม่นะ ตอนนี้ปายยังไม่พร้อม” ฉันประท้วงเสียงสั่น เดินหน้ากล่อมเขาต่อ “ปายขอเวลานะ... นะไวท์ อื้อ...”ไวท์ไม่ฟังคำขอร้องของฉัน เขาเลื่อนจากซอกคอมาประกบจูบฉันอย่างแรงก่อนแทรกเรียวลิ้นตามมา ปลายลิ้นร้อน ๆ สัมผัสไปทั่วทุกตาราง การกระทำทุกอย่างดุดันร้อนแรงจนฉันเหมือนจะขาดอากาศหายใจตาย เสียงจูบยังคงดังต่อเนื่องเขาไม่ปล่อยให้ปากฉันเป็นอิสระ ทั้งบดทั้งคลึงขบเม้มจนฉันรู้สึกเจ็บ ฉันตัวอ่อนระทวยทันที พอรู้ว่าฉันลดอาการต่อต้าน ไวท์ก็เลื่อนมือที่จับกุมฉันไว้มาที่เสื้อก่อนจะเลิกเสื้อฉันขึ้นจนมันเลิกอยู่เหนือทรวงอกบราลูกไม้สีขาวปรากฏขึ้นแก่สายตา ก่อนที่ฉันส่งเสียงร้องห้ามไวท์ก็ดึงมันขึ้นแล้วใช้สองมือเข้าไปกอบกุมทรวงอกขาวสล้างทันที“อ๊ะ!” ฉันแอ่นกายขึ้นอัตโนมัติ รู้สึกเหมือนถูกไฟช็อต ความรู้สึกหวามหวาบผสมความกลัวทำให้ฉันทำตัวไม่ถูกจึงร้องไห้ออกมาด้วยความสับสนไวท์ชะงักเมื่อสัมผัสถึงความเปียกชื้นบนใบหน้าฉัน ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากไปจูบซับน้ำตา แผ่วเบาและอ่อนโยน เขายังไม่มีทีท่าว่
หลายวันต่อมาฉันนัดเจอไวท์อีกครั้งที่ร้านเบเกอรี่ใจกลางเมือง เป็นร้านเบเกอรี่ชื่อดังที่ติดอันดับในเว็บไซต์ คืนนั้นฉันถึงบ้านเฉียดฉิวกับพี่เชนพอดี พอฉันเข้าบ้านไม่ถึงห้านาทีเสียงรถพี่เชนก็เข้ามา ฉันวิ่งขึ้นห้องอย่างรวดเร็วกลัวพี่เชนจะสงสัยว่าทำไมฉันยังลงมาทำอะไรข้างล่าง พอตอนเช้าฉันเข้าไป อาบน้ำ เห็นตัวเองในกระจกก็อดตกใจไม่ได้เมื่อเจอรอยแดงเป็นจ้ำทั่วลำคอและเนินอก ฉันคงไม่อินโนเซนส์จนคิดว่าเป็นรอยยุงกัดหรอก จะเป็นฝีมือใครล่ะถ้าไม่ใช่ไวท์ จะออกไปข้างนอกก็กลัวตกเป็นเป้าสายตาอย่าว่าแต่ข้างนอกเถอะ นอกห้องตอนพี่เชนอยู่ฉันยังไม่กล้า พี่เชนยิ่งเป็นเพลย์บอยนักรัก แค่มองแวบเดียวก็รู้ว่ารอยอะไร สองสามวันที่ผ่านมาฉันจึงอ้างว่าไม่สบาย หยุดเรียนมันซะเลย ดีที่ช่วงนี้เพิ่งพ้นการสอบใกล้จะปิดภาคเรียนพอดี ได้แต่หมกตัวอยู่แต่ในห้องจนวันนี้รอยตามเนื้อตัวพอจะจางจนทา รองพื้นปิดทับได้จึงกล้าออกมาข้างนอกฉันมาถึงหน้าร้านเบเกอรี่ก่อน มองเวลาตรงข้อมือก็พบว่าฉันมาก่อนสิบนาที ฉันจึงหยิบโทรศัพท์มือถือแชทบอกไวท์ทางไลน์ หลังจากวันนั้นฉันก็แลกไลน์กับไวท์ ส่วนเบอร์โทร.ไวท์บอกว่าได้จากเจนถึงได้โทร.หาฉันได้ หลายวันที่ผ่
ไวท์ยิ้มกว้างทันทีเมื่อได้ยินประโยคนี้ ฉันยิ่งเขินเข้าไปใหญ่ จึงกระทุ้งไวท์แล้วบอกให้มองจอเพราะหนังกำลังจะฉายแล้วตลอดเวลาที่ดูหนัง ไวท์กุมมือฉันไว้ตลอด ฝ่ามือร้อน ๆ ของไวท์ดูแข็งแรงพร้อมที่จะปกป้องใครสักคน ฉันรู้สึกดียามมีใครคอยกุมมือ ไม่เหมือนตอนที่ไวท์แกล้งเมื่อเราเจอกันในครั้งแรก ครั้งนี้ต่างออกไป เรานัดเจอกัน มาดูหนังกินข้าวด้วยกัน ฐานะในตอนนี้อาจจะอิหลักอิเหลื่อแต่ฉันไม่ได้คบแฟนผู้ชายจริง ๆ ไมค์ก็คือเพื่อนรักฉัน พอถึงวันที่ฉันบอกความจริง ไวท์คงจะสบายใจได้มากกว่านี้เราดูหนังกันเงียบ ๆ พอถึงฉากซึ้งไวท์ก็กระชับมือฉันแน่นขึ้น ตลอดเวลาหัวใจฉันมันพองโตจนแทบระเบิด ความนุ่มนวลของไวท์ทำให้ฉันละลาย ในใจฉันประกาศว่าตอนนี้ฉันตกหลุมรักไวท์เข้าเต็มเปา ฉันชอบ ฉันรู้สึกดีที่มีผู้ชายคนนี้อยู่ข้าง ๆ ถึงแม้การเจอกันครั้งแรกมันจะไม่สวยเท่าไรแต่ตอนนี้ทุกอย่างมันสวยงามไปหมดนี่สินะที่เขาเรียกว่าคนมีความรักมักมองทุกอย่างเป็นสีชมพูเมื่อหนังจบหลายคนทยอยกันลุกขึ้น ฉันและไวท์ก็เช่นกัน พอออกมาจากโรงหนังไวท์ก็หันมาบอกฉัน“ปายรีบกลับไหม”“ทำไมเหรอ” ฉันมองเวลาอีกครั้ง เผลอแป๊บเดียวก็จะบ่ายสามโมงแล้ว เวลาผ่า
พอ ๆ พวกมึง เด็กกูนะเว้ย แหม ป้อต่อหน้าต่อตาเชียวนะ” ไวท์บอกเสียงกวน ๆ ก่อนล้มตัวลงนั่งคั่นกลาง“แน่ะ มีหวง ไอ้บอมกูว่าเราจะได้น้องสะใภ้เร็ว ๆ นี้ว่ะ”“เออ ๆ เฮ้ย ไอ้รบมาทักทายว่าที่น้องสะใภ้ดิ๊” พี่บอมตะโกนเรียกพี่พันรบ พี่พันรบจึงวางไม้คิวบนโต๊ะก่อนเดินมาเขาหยุดอยู่ที่ฉัน แล้วจ้องเขม็ง...เขาจะจับฉันกินหรือเปล่า ฉันมองเขาเจื่อน ๆ พี่พันรบยังคงจ้องฉันนานเกือบห้านาที ก่อนจะพูดขึ้น“อืม ก็ดี” ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เอาเบียร์มาวาง “อ่ะ ฉลองต้อนรับน้องสะใภ้กันหน่อย”อะไรคือก็ดี ฉันทำหน้างงมองเขาเดินไปเปิดตู้แช่เบียร์ พี่พันรบคนนี้หล่อ แต่นิสัยแปลก ๆฉันนั่งมองพวกเขาชนแก้วกัน ในมือฉันถือแก้วที่บรรจุน้ำอัดลมไว้ ฉันไม่ค่อยชอบดื่มของมึนเมา ถึงจะไปสิงผับตามพี่เชนบ่อย ๆ แต่ถ้าเลี่ยงได้ฉันก็เลี่ยง ฉันมองนาฬิกาตรงข้อมืออีกครั้งตอนนี้เกือบสองทุ่ม พวกเขาสังสรรค์เฮฮากันมาหลายชั่วโมง ฉันก็นั่งฟังเงียบ ๆ มีหลุดหัวเราะบ้างกับมุกตลกพี่บอมพี่เวียร์ ดูเหมือนพวกเขาจะเข้าขากันดีอย่างกับตลกคาเฟ่ ส่วนพี่พันรบหน้าตาดูดุดันขนาดนั้น แต่พอรู้จักไปสักพักก็แค่หน้าตาที่ดุ นิสัยกวน ๆ ขี้แกล้งเข้าขากับไวท์ทีแรกที่เขาทำ
“ปายตื่น ๆ ถึงบ้านแล้ว”เสียงปลุกของไวท์ทำให้ฉันลืมตาขึ้น ความจริงฉันไม่ได้หลับ แค่แกล้งหลับเพราะไม่อยากเห็นหน้าไวท์ ที่เขาทำมันสนุกนักหรือไงที่มาเล่นกับความรู้สึกคนอื่นแบบนี้ ฉันอาจจะผิดที่ปากหาเรื่อง ปากไม่ดีกับเขาก่อน แต่ฉันไม่รู้นี่นาว่าการพูดอะไรไปโดยไม่คิดสุดท้ายมันทำร้ายจิตใจคนฟังขนาดไหน ขนาดที่เขาเข้ามาพัวพันฉันเพราะอยากเอาคืน และไม่คิดว่าเรื่องมันจะมาไกลถึงขนาดนี้ไกลจนฉันตกหลุมรักเขา และต้องเจ็บปวดกับความจริงที่ได้รู้ฉันเปิดประตูลงจากรถก่อนหันมามองเขาผ่านกระจก ไวท์เลื่อนกระจกลง เขายังคงส่งยิ้ม ท่าทางอ่อนโยนเป็นธรรมชาตินี่ถ้าไม่ได้ยินกับหูฉันก็คงโง่ไปอีกนาน...“ไวท์ไปก่อนนะ เจอกันที่มหา’ ลัย”ฉันโบกมือลา ปรับสีหน้าให้ยิ้มแย้ม“บาย แล้วเจอกัน”แต่พอหันหลังเดินเข้าบ้านตัวเอง น้ำตามากมายจากไหนไม่รู้ก็ร่วงพรูออกมาไม่หยุด เสียงรถเคลื่อนตัวออกไปไกล ฉันยังคงยืนอยู่หน้าประตูบ้าน สุดท้ายก็ทรุดตัวลงสองมือยกมากดหน้าอกตัวเองแรง ๆ กดให้มันบรรเทาความเจ็บปวดในใจได้บ้างทำไม... ฉันทำผิดมากเลยเหรอ เขาถึงเอาคืนด้วยการเหยียบย่ำความรู้สึกฉันแบบนี้ ความอบอุ่น อ่อนโยนที่ฉันได้รับ มันคือละครฉากหน
White:Talkปึก!ผมโยนโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะอย่างไม่ไยดี ก่อนยกแก้วเหล้าขึ้นแล้วเทเข้าปาก ปายไม่ตอบข้อความไม่รับโทรศัพท์ผม ทั้งที่เมื่อวานยังดี ๆ อยู่ วันนี้ก็ไม่โผล่ไปมหา’ ลัย จู่ ๆ ก็หายเงียบไปแบบนี้รู้สึกไม่ดีชะมัด!“เบา ๆ ไอ้ไวท์ มึงหงุดหงิดงุ่นง่านแบบนี้ทั้งวัน เป็นอะไรวะ”ไอ้บอมดึงแก้วเหล้าจากมือผม แต่ผมกระชากกลับมองมันตาขวาง ก่อนเทเหล้าใส่แก้วต่อ ตอนนี้ผมอารมณ์ไม่ดีอย่างมาก เพื่อนก็เพื่อนเถอะ ผมอัดแน่ถ้ามากวนอารมณ์ผม“ถอย ๆ ไอ้บอมอย่าไปกวนมัน ปล่อยมันแดกเหล้าดับอารมณ์ไป” เป็นไอ้รบที่เข้าใจผม มันรู้ว่าตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์จะคุยกับใคร ในใจผมมันเหมือนมีไฟกองหนึ่งสุมอยู่ ผมยกเหล้าขึ้นดื่มเหมือนน้ำเปล่าแก้วแล้วแก้วเล่า หลังจากทั้งวันไม่เจอปาย ติดต่อก็ไม่ได้ ตอนแรกผมกะจะไปดูเธอที่บ้าน แต่ก็นะ ทำไมผมต้องดิ้นรนขนาดนั้น เราไม่ใช่แฟนกัน ที่ผมเข้าหาเธอเพราะอยากเอาคืนต่างหาก ขืนทำท่าเป็นห่วงปายจะได้ใจ รอให้เธอเลิกกับแฟนก่อนเถอะ ที่ทำให้ผมหงุดหงิดทั้งวันแบบนี้ ผมจะเอาคืนทั้งต้นทั้งดอกสุดท้ายผมเลยมาหาเหล้าแดกที่ผับไอ้รบ หาไรทำแก้ว่างจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน แต่มันก็อดยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูไม่ได้ว่าปายได้ต
ครืด...ครืด....ครืดเสียงโทรศัพท์ที่ฉันตั้งสั่นไว้เคลื่อนไหวรัว ๆ ฉันนิ่วหน้าก่อนยกขึ้นมาดูเป็นไวท์อีกแล้ว ดูเหมือนการที่ฉันเงียบหายไปมันทำให้เขากระวนกระวาย เพราะวันนี้ทั้งวันสายเรียกเข้าขึ้นเตือนสองร้อยกว่าสายที่ยังไม่ได้รับ ฉันเม้มปาก จ้องมองไฟกะพริบบนหน้าจอ“เป็นอะไรปาย”ไมค์ที่กำลังดูหนังหันมามองฉัน ถามด้วยความสงสัย“เปล่า ไม่มีอะไร” ฉันวางโทรศัพท์ลงกับโต๊ะ คว่ำหน้าจอไว้ มันก็ยังสั่นไม่หยุด“ใครโทร.มา ฉันเห็นมันสั่นทั้งวัน....อย่าบอกนะว่า”“อือ...ไวท์” ฉันเคยเล่าเรื่องไวท์ให้ไมค์ฟังไมค์จึงพอจะจำได้“รับสายซะดังทั้งวัน ฉันรำคาญ คุยเสร็จต้องเล่าให้ฉันฟัง” ไมค์บอกก่อนหันไปสนใจหนังต่อฉันถอนหายใจ ใจหนึ่งก็อยากจะปิดเครื่องไปซะ อีกใจก็อยากรับ อยากรู้ว่าเขาจะว่ายังไงกับการที่ฉันหายไปทั้งวันแบบนี้ สุดท้ายก็ตัดสินใจกดรับฉันกำลังจะอ้าปาก เสียงในสายกลับดังขึ้นก่อน“สนุกมากสินะ ปั่นหัวกันเล่น”ฉันทำหน้างง ดึงโทรศัพท์มาดูเบอร์บนหน้าจอ...เป็นเบอร์ไวท์ แต่ จู่ ๆ เขาก็พูดจาแปลก ๆ แถมเสียงอ้อแอ้ ไปเมาหัวราน้ำที่ไหนมาอีกล่ะ ฉันคิดก่อนจะส่งเสียงตอบกลับ“ถ้าเมาไม่ต้องมาคุย หายเมาค่อยโทร.มาละกัน”“ห
สะพานบุญโขกู้สุ่ย บ้านแพมบกไวท์พาฉันมาที่สะพานไม้ไผ่ แหล่งท่องเที่ยวอีกทีหนึ่งของแม่ฮ่องสอน ห่างไกลจากตัวเมืองประมาณสิบกิโลเมตร ตลอดการเดินทางลำบากมาก ทั้งชันและแคบ โชคดีที่ไม่ใช่ฤดูฝน ถนนเลยพอให้รถสปอร์ตขับผ่านไปได้ แต่กว่าจะถึงที่หมายฉันแอบสงสารรถคันหรูที่ตอนนี้มันคงจะคลุกฝุ่นจนหมอง เมื่อรถจอดฉันหันไปมองเขาอย่างแปลกใจที่เขารู้จักสถานที่แบบนี้ด้วย นึกว่าเด็กเมืองกรุงอย่างเขาจะพาฉันไปในเมือง เที่ยวห้างสรรพสินค้า ดูหนังอะไรแบบนี้“มองอะไรปาย”“รู้จักที่แบบนี้ด้วยเหรอ เมื่อก่อนเคยมาเที่ยว? ”“ไม่เคย นี่มาครั้งแรก และไม่เคยมาแม่ฮ่องสอนด้วย”“หืม...”“สมัยนี้มันยุคสี่จีนะยายบ๊อง แค่ค้นหาสถานที่เที่ยวจังหวัดนั่นนี่มันก็เจอแล้ว จีพีเอสก็มี มาไม่ถูกก็ไม่รู้จะพูดยังไง”ไวท์พูดจบก็ยกมือขึ้นเขกหัวฉันเบา ๆ ฉันย่นจมูกใส่ ก็คนมันไม่ทันได้นึกถึงนี่ แม่ฮ่องสอนก็มีหลายอำเภอ ฉันยังเที่ยวไม่ทั่วเลย ก็เลยแปลกใจที่เขารู้จักที่นี่เราสองคนลงจากรถ สะพานบุญโขกู้สุ่ยตั้งอยู่หน้าหมู่บ้านแพมบก บริเวณทางเข้ามีร้านค้าชุมชนตั้งอยู่ ขายทั้งอาหาร เครื่องดื่ม ไวท์เดินเข้าไปซื้อน้ำเปล่ามาสองขวด ก่อนยื่นให้ฉันหนึ่งขว
ฉันยืนมองคนงานพากันยกลังส้มขึ้นรถบรรทุกของลูกค้าที่มาซื้อถึงในสวน ตั้งแต่กลับจากกรุงเทพฯ งานที่รออยู่ก็ล้นมือ ประกอบกับเป็นช่วงที่คนงานลางานเพื่อกลับไปทำนา คนงานในสวนจึงมีไม่พอ ทั้งวันฉันต้องดูแลงานในสวน แล้วก็ต้องไปจัดการงานในรีสอร์ตอีกต่อหนึ่ง โชคดีที่ตอนนี้ยังไม่ใช่ช่วงเทศกาลนักท่องเที่ยวยังไม่มากนัก ก็ไม่รู้ทำไมแม่ถึงได้ปิดบังฉันว่าไม่มีปัญหาอะไร งานที่สวนปกติ ทั้งที่ฉันกลับมาเห็นมันไม่ใช่ที่แม่บอกเลย คนงานไม่พอ งานล้นมือ ไม่อยากจะคิดถ้าฉันไม่กลับมาด้วย แม่จะต้องหัวหมุนดูแลคนเดียวไม่มีเวลาพักผ่อนแน่ ๆ“เรียบร้อยหรือยังจ๊ะปาย” แม่เดินมามือข้างนึงถือขวดน้ำก่อนจะยื่นให้ฉัน“ขอบคุณค่ะ” ฉันยื่นมือมารับ แล้วเปิดฝายกน้ำขึ้นดื่มด้วยความกระหาย พอดื่มจนพอใจก็ตอบคำถามแม่ “อีกล็อตหนึ่งก็ครบแล้วค่ะ ปายจะเช็คอีกรอบหนึ่งก็เสร็จ”“เหนื่อยไหม กลับมาก็ไม่ได้พักเลย”“ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ แต่ก่อนปายก็ช่วยแม่นี่ งานในสวนปายคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็กแม่ก็รู้ สบายมากค่ะ”“ขอบใจนะลูก หมดรอบนี้ก็คงจะได้พักแล้วล่ะ แล้วนี่ก็มาเกือบอาทิตย์แล้วยังไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย เพื่อนฝูงก็พากันถามหา วันก่อนแม่เจอตั้มที่ตลาดยังถา
ผมเปิดประตูห้องก่อนก้าวเข้าไป ห้องตกแต่งโทนเรียบง่าย เครื่องเรือนหรูหรามีระดับ แต่ผมกลับไม่ชอบมัน มาค้างหนึ่งเดือนแค่ครั้งสองครั้ง ไม่สนว่าผู้ชายคนนั้นจะว่ายังไง ปกติถ้าไม่ยุ่งอยู่กับงานสังสรรค์ ติดอีหนู ผู้ชายคนนั้นก็ไม่นึกถึงผมหรอก เราต่างคนต่างอยู่มานานแล้ว ผมอยากจะไปค้างกับแม่ ย้ายไปอยู่ด้วยแต่ก็กลัวทำให้แม่เดือดร้อนจากผู้ชายบ้าอำนาจผมล้มตัวลงนอนบนเตียง กางแขนกางขาเหม่อมองเพดาน สุดท้ายเพราะยังไม่สร่างเมาดีก็ผล็อยหลับไปอีกครั้ง..เช้าวันต่อมา“เออ ดี! โผล่หัวมากลางดึก เช้ามาก็ไป เห็นบ้านฉันเป็นโรงแรมหรือยังไง”น้ำเสียงกระแทกแดกดันดังขึ้นทันทีที่ผมกำลังจะเดินผ่าน ผู้ชายคนนั้นนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ แต่ตอนนี้หันมามองผมด้วยสีหน้าบึ้งตึง“ผมมีธุระ”ผมตอบแค่นั้นก่อนทำท่าจะก้าวขาเดินต่อ“เฮอะ! หน้าอย่างแกมีธุระด้วย”“พ่อมีอะไรจะพูดก็รีบพูดมาดีกว่า ผมจะรีบไป”“เย็นนี้กลับมาด้วย ฉันจะพาแกไปทำความรู้จักคุณมานพ ท่านเป็นรัฐมนตรีฯ เย็นนี้เป็นวันเกิดท่าน”“ทำไมผมต้องไป ผมไม่รู้จักท่านเสียหน่อย เชิญพ่อไปคนเดียวเถอะ”“แกต้องไป! ฉันจะพาแกไปรู้จักลูกสาวคนเดียวของท่าน”“อ๋อ กะให้ผมไปดูตัว ทำ
“ก็พี่ไม่บอกว่าปายไปไหน”พี่เชนมองผมด้วยหางตา สุดท้ายก็ยอมเอ่ยปาก“ปายกลับบ้าน”บอกแค่นี้? แล้วผมจะตรัสรู้เรอะ! ผมสบถในใจส่วนฉากหน้าก็ฉีกยิ้ม ทำตัวเป็นน้องเขยที่ดี ไม่โต้เถียง“บ้าน? บ้านที่ไหน พี่บอกเส้นทางให้ผมที”“มึงจะตามน้องกูไป”“ครับ ผมจริงจัง ผมจะไปหาปาย ผมจะเข้าไปคุยกับแม่ปายว่าเรียนจบเราจะแต่งงานกัน เราจะ....”“พอ! มึงพล่ามอะไรของมึงวะ! เฮอะ แดกเหล้าจนเหม็นหึ่ง เมาหนักนะมึง คุยไปถึงเรื่องอนาคตแต่งการแต่งงาน ถามพี่อย่างกูสักคำไหม”“ผมแต่งกับปายไม่ได้แต่งกับพี่นี่”“ถุย! เห็นแก่ที่มึงเมาเหมือนหมา กูไม่เอาเรื่องเอาความอะไรมึงก็แล้วกัน ปายกลับแม่ฮ่องสอน นอกนั้นมึงไปตามหาเอาเอง ไป ๆ กูตอบคำถามแล้วก็ไสหัวไป มึงจะง้อ จะจีบอะไรอย่าลากกูไปยุ่ง ทีหลังอย่ามาถามเรื่องปายกะกู กูไม่ได้ขัดขวางมึง แต่ก็ไม่ได้ชอบมึงถึงขนาดยินดีที่มึงคบกับน้องกู”ผมฟังพี่เชนพล่าม พี่แกมองผมด้วยสายตาหงุดหงิด ก่อนจะเดินหมุนตัวเข้าร้านไปตุบ!ไอ้พันรบเดินมาถึงตัวผมเมื่อไรไม่รู้ มันตบบ่าผมดังตุบ“พี่เมียมึงเหรอ”เสียงไอ้บอมถาม มันเดินมาหยุดข้างผม“เออ”“หน้าคุ้น ๆ”“อยู่มหา’ ลัยเดียวกับเราไง” ผมตอบไอ้รบ “เรียนทัน
White Talksหลายวันผ่านไปโครม!ผมเตะเก้าอี้ที่มันขวางทางจนปลิวไปอยู่แทบเท้าไอ้พันรบ วันนี้ผมมานั่งกินเหล้าที่ผับของมัน ส่วนไอ้บอมกับไอ้เวียร์มันบอกจะตามมาดึก ๆ ผมหันไปมองเก้าอี้ที่นอนตะแคงอย่างเฉยชา เดินไปถึงโต๊ะแล้วนั่งลงก่อนยกแก้วที่มันชงไว้ขึ้นมาดื่มฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ไหลผ่านคอยิ่งทำให้ผมร้อน หงุดหงิด กระสับกระส่ายปึก!ผมวางแก้วเหล้าอย่างแรงเป็นการระบายอารมณ์“มึงเป็นอะไรไอ้ไวท์”มันมองผม แล้วถาม“ไม่รู้”ผมตอบแค่นั้นก่อนยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มต่อ ไอ้รบเป็นคนไม่ค่อยพูดมันเงียบ ๆ มึน ๆ พอเห็นผมไม่บอกมันก็แดกเหล้าต่อ เราสองคนยกแก้วเหล้าขึ้นเงียบ ๆ คนในร้านยังไม่มีเพราะยังเป็นช่วงหัวค่ำ จะมีก็แต่เจ้าของร้านอย่างมันที่บ้ามาแดกเหล้าเป็นเพื่อนผมตั้งแต่หัววันนี่แหละไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไร พอเงยหน้าขึ้นจากแก้วเหล้าคนก็แออัดเต็มร้าน เสียงเพลงดังกระหึ่ม ไอ้รบลุกขึ้นบอกว่าจะไปดูลูกน้องหลังร้านหน่อย ผมโบกมือไล่มันไปก่อนนั่งกินเหล้าเงียบ ๆ มีผู้หญิงสองสามคนที่เดินโฉบไปโฉบมา ท่าทางเชื้อเชิญผม ผมแค่ยิ้มก่อนกลับไปสนใจเหล้าในแก้วต่อไม่มีอารมณ์ สวยแค่ไหนก็เถอะ ผมอยากเจอปายแค่นั้นใช่ หลายวันมานี่ปายไม่
“ไวท์โอเคนะ มีอะไรระบายให้ปายฟังได้”“โอเคสิ ตอนนี้ไวท์โอเค ขอแค่มีปายอยู่ข้าง ๆ ไวท์ก็พอ”“อะไรกัน แล้วถ้าวันไหนฉันไม่อยู่ข้างนายล่ะ” ฉันพูดขึ้นเล่น ๆ แต่ไวท์กลับเงียบไปอึดใจก่อนตอบกลับ“ไม่มีวันนั้น เพราะไวท์จะไม่ยอมให้ปายทิ้งไวท์แน่ ๆ ปายก็รู้ว่าชีวิตไวท์มีคนที่สำคัญกับไวท์แค่ไม่กี่คนและปายเป็นหนึ่งในนั้น”ฉันฟังเสียงเขาที่ดูเข้มขึ้นก็รู้สึกแปลก ๆ จะว่าดีใจมันก็ไม่เชิง คำพูดของไวท์มันฟังดูเหมือนเขายึดติดกับฉันมากเกินไป และมันไม่ดีเท่าไร...เราไม่ควรจะเอาชีวิตกันและกันมาผูกติดกันมากเกินไป“เอ่อ...เอาเป็นว่าตอนนี้ปายกำลังดูใจ พิจารณาไวท์ ให้โอกาสไวท์อยู่ ไวท์คงรู้ใช่ไหมว่าตอนนี้อยู่ในช่วงที่ปายกำลังให้โอกาส”ฉันอดย้ำความสัมพันธ์ของเราไม่ได้“รู้ครับ และไวท์จะไม่ทำให้ปายหลุดลอยไปอีกแล้ว” เสียงไวท์ตอบกลับมาจริงจังและแฝงไปด้วยความหมายบางอย่างที่ฉันทำเป็นมองข้าม รู้อยู่หรอกว่าเขาแสดงความเป็นเจ้าของ แต่ฉันเป็นคนไม่ใช่สิ่งของ ฉันไม่ใช่ของใคร ฉันก็คือฉัน แต่ถ้าพูดตรงไปฉันก็กลัวว่าเขาจะโมโหอะไรขึ้นมาอีก คงต้องค่อย ๆ คุย แบ่งความสัมพันธ์ให้ชัดเจน ฉันเป็นแค่แฟนของเขาน้ำเสียงไวท์สั่นนิด ๆ ฉันจึ
เช้าวันต่อมาฉันตื่นอีกทีก็เจ็ดโมงเช้า พอลุกขึ้นมองตัวเองในชุดของเมื่อวานก็ทำหน้าย่น เหม็นเหงื่อตัวเอง จึงเดินหยิบผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำ เสียงโทรศัพท์มือถือดังแทบจะทันทีที่ปิดประตูห้องน้ำ ฉันจึงไม่ออกไปรับคิดว่าอาบน้ำเสร็จค่อยโทร.กลับพอเสร็จธุระส่วนตัว ฉันจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู สายแรกเป็นของไมค์...อีกสายเป็นของไวท์ฉันเลือกโทร.กลับหาไมค์ก่อน ไม่นานไมค์ก็รับสาย“ปาย! เมื่อวานมีอะไรกัน”ฉันยื่นโทรศัพท์ออกห่างหู เสียงไมค์ดังแว้ดจนแสบแก้วหูไปหมด“แกจะร้องลั่นหาพระแสงอะไรฮะ แล้วทำไมรู้? ”“ก็บนโลกออนไลน์เขาแชร์กันเป็นพันแล้วยะ...ที่มันดังน่ะเพราะผู้ชายของแกนะรู้เปล่า”“ผู้ชายของฉัน? ”“เออสิ ฉันก็เพิ่งรู้ว่าไวท์เป็นลูกชายคนเดียวของนักการเมืองชื่อดัง บ้านเขาน่ะรวยมาก แกเรียนที่เดียวกับเขาไม่คุ้นนามสกุลเขาเลยหรือ นามสกุล...”“คนละไวท์หรือเปล่า” ฉันบอกอย่างไม่ค่อยเชื่อ หรือมันก็อาจจริงก็ได้ เพราะฟังนามสกุลที่ไมค์บอกก็เป็นนามสกุลไวท์จริง ฉันแค่รู้ว่าไวท์เป็นลูกหลานคนรวย ดูจากคอนโดฯ บ้านพักตากอากาศที่ไป หรือรถที่ขับ เพียงแต่ฉันไม่ได้สนใจลึกขนาดนั้นว่าเขาเป็นลูกใครหลานใคร เมื่อก่อนเราต่างคนต่างอย
พอฉันเดินเข้าบ้านก็เห็นแม่นั่งรอตรงโซฟา พี่เชนที่คุยโทรศัพท์หน้าตาเคร่งเครียดเดินลงบันไดมา ก่อนจะหยุดตรงหน้าฉัน พอกดวางสายก็พูดขึ้น“ปาย นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมไอ้ไวน์เข้าโรงพยาบาล มันบอกว่าปายพาแฟนไปอัดมัน”ฉันเดินผ่านพี่เชนมานั่งลงข้างแม่“เอาล่ะ ปายจะเล่าทีเดียวนะ พี่เชนจะเชื่อน้องหรือเพื่อนตัวเองก็พิจารณาเอา ส่วนแม่หนูสาบานว่าเรื่องที่เล่าเป็นเรื่องจริง ไม่โกหกพกลมสักนิดเดียว”แล้วฉันก็เล่าตั้งแต่แม่บอกให้ฉันไปเดินเล่นกับพี่ไวน์ จู่ ๆ พี่ไวน์ก็ตาขวางทำตัวรุ่มร่ามกับฉัน แสดงท่าทางเป็นเจ้าของทั้งที่มันไม่ใช่ ฉันถามแม่ว่าที่พาไปร้านอาหารก็เพราะมีแผนจะพาฉันไปดูตัวหวังจับคู่ให้ลูกชายเพื่อนใช่ไหม แม่ที่นั่งฟังฉันเล่าจนจบ ก็พูดขึ้น“ใช่ แม่ติดต่อกับอุ่นมาได้เกือบเดือนมีคุยกันเรื่องอนาคตของลูก ๆ เราสนิทกันมากจนมีความคิดที่จะดองกัน แล้วอีกอย่าง ไวน์ก็เป็นเพื่อนเชน แม่เคยสอบถามเชน นิสัยใจคอไวน์ก็ไม่เลว สุภาพ อ่อนโยน เรียนเก่ง”“แล้วนี่มันสมัยไหนแล้วคะ!” ฉันอดตัดพ้อด้วยความน้อยใจไม่ได้ ความคิดที่จะจับคู่ฉันกับลูกชายเพื่อนทำให้มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ มันไม่ใช่ความทรงจำที่ดีเลยจริง ๆ ความรู้สึ
ไวท์พุ่งปราดเข้ามา ฉวยจังหวะที่พี่ไวน์ตะลึงดึงฉันออก พอพ้นอ้อมกอดพี่ไวน์ฉันรีบหลบอยู่ด้านหลังมือจิกหลังไวท์แน่น“น้องปาย! กลับมาหาพี่!”เสียงพี่ไวน์ตะคอกอย่างโกรธจัด ฉันขยุ้มหลังเสื้อไวท์ รู้สึกกลัวจนตัวสั่น“บ้าหรือเปล่าวะ ปายเป็นเมียกูจะไปหามึงทำไม”“ไม่จริง ปายเป็นคู่หมั้นกู มึงนั่นแหละมาเสือกทำไม เรื่องของผัวเมีย”ฉันทนไม่ไหวยื่นหน้าไปด่าไอ้พี่ไวน์ทันที“มโนแล้ว ปายไม่ได้เป็นอะไรกับพี่!”“เมียเหรอ กล้าพูดนะ ขอเอาเลือดปากมึงออกบ้างเถอะ....”ไวท์คำรามก่อนพุ่งไปชกอีกฝ่ายดังเปรี้ยง! เพราะทางนั้นไม่ทันได้ตั้งตัวจึงล้มไปกองที่พื้นอย่างหมดท่า และพอจะลุกขึ้นมาไวท์ก็เข้าไปคร่อมก่อนประเคนหมัดไม่ยั้งผลัวะ!เสียงกำปั้นกระทบเนื้อทำให้ฉันส่งเสียงร้องห้ามอย่างตกใจ ความจริงอยากจะให้ไวท์อัดไอ้คนขี้โมเมจนสลบเหมือดอยู่หรอก แต่เพราะนี่เป็นร้านอาหาร ตอนนี้มีลูกค้าสองคนที่กำลังจะกลับยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปหรืออัดคลิป แล้วแม่ฉันและน้าอุ่นก็ยังอยู่ในร้าน“ไวท์! หยุด พอแล้ว!”เสียงไอ้พี่ไวน์ร้องแหกปากดังลั่นพลางปัดกำปั้นท่าทางดูไม่ได้ ใบหน้า จมูกเริ่มมีเลือดออก ฉันจึงร้องห้ามอีกครั้ง ไวท์ยังคงชกอีกฝ่าย ฉัน