โรงเรียนอนุบาลเป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้วที่กองทัพเข้ามาเป็นครอบครัวพ่อลูกกับเก้าทัพซึ่งวันนี้เก้าทัพก็มารับลูกชายด้วยตัวเองเหมือนเช่นเคยและเจ้าตัวแสบของเขาก็ยังไม่เคยเอ่ยปากเรียกเขาว่าพ่อเลยสักครั้ง เด็กน้อยยังคงเรียกแค่เก้าเหมือนเดิมประหนึ่งว่าพ่อคือเพื่อนเล่นที่พี่ทัพมักจะเล่นเพื่อนแบบเขาอยู่เสมอ“พี่ทัพครับ” เมื่อเดินออกมาหน้าโรงเรียนเก้าทัพก็กวักมือเรียกลูกชายที่เดินคุยมากับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหน้าตาน่ารักเชียว ก่อนที่กองทัพจะวิ่งดุกดิกเข้ามาหาเก้าทัพแล้วแบมือมาตรงหน้าทำเอาเก้าทัพถึงกับงงว่าลูกชายต้องการขออะไรจากเขา“เก้าพี่ทัพขอตังค์หน่อยจะเอาไปซื้อขนมเลี้ยงใบเฟิร์น”คำขอของลูกชายทำเอาเก้าทัพถึงกับทำหน้าเหวอออกมาด้วยความคิดไม่ถึงว่าตัวแค่นี้จะซื้อขนมเลี้ยงสาวเสียแล้วในขณะที่สาวน้อยใบเฟิร์นยืนรอลูกชายของเขาด้วยรอยยิ้มหวานทำเอาเก้าทัพรีบควักเงินให้ลูกชายทันที เมื่อได้เงินแล้วกองทัพก็เดินไปคว้าแขนของใบเฟิร์นพาเดินไปซื้อขนม เก้าทัพได้แต่ถอนหายใจกับความช่างหว่านเสน่ห์ของลูกชายโตมานี่ไม่ต้องคิดเลยหญิงตบกันแย่งชัวร์“กินให้อร่อยนะ เดี๋ยววันหลังทัพเลี้ยงอีก พ่อทัพรวยจะกินเยอะแค่ไหนก็ได้”
เมื่อนับดาวไม่อยู่เก้าทัพก็อาสาเป็นคนทำมื้อเช้าให้ลูกชายตัวน้อยโดยที่จินกับฮารุมีหน้าที่วิ่งไล่จับกองทัพที่วิ่งซนไปทั่วห้องนอนให้มาอาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียน ซึ่งกว่าจะเสร็จเรียบร้อยจินกับฮารุตัวก็เลอะเต็มไปด้วยแป้งฝุ่นจากฝีมือของกองทัพที่เทแป้งฝุ่นใส่สองหนุ่มบอดี้การ์ดด้วยความสนุกสนาน“มาครับพี่ทัพ มื้อเช้าวันนี้เก้าทำแกงจืดเต้าหู้หมูสับ ไข่เจียวหมูสับและก็หมูทอดกระเทียมของโปรดพี่ทัพด้วยนะ”เก้าทัพเลื่อนเก้าอี้ให้ลูกชายตัวน้อยที่รีบปีนขึ้นมานั่งก่อนที่จะมองอาหารตรงหน้าด้วยสายตาที่ไม่ไว้วางใจ เพราะตั้งแต่ที่มาใช้ชีวิตอยู่เป็นครอบครัวเดียวกัน เก้าทัพยังไม่เคยทำอาหารให้กองทัพกินเลยสักครั้งส่วนใหญ่จะเป็นฝีมือของแม่นับดาวที่กองทัพคุ้นชินรสมืออยู่แล้วว่าแม่ทำอาหารอร่อยเพียงใดกลิ่นอาหารที่หอมโชยลอยมาเตะจมูกทำเอากองทัพแอบกลืนน้ำลายด้วยความหิว เพราะมื้อเช้าเป็นมื้อแรกของวัน กองทัพจัดเป็นเด็กที่ไม่เคยอดมื้อเช้าเลยสักครั้ง เก้าทัพเมื่อเห็นลูกชายนั่งจ้องอาหารด้วยความระแวงเขาก็ลงมือตักแกงจืดมาใส่บนจานของลูกชายที่เงยหน้ามองบิดาด้วยความไม่ไว้ใจ“กินได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ไม่ใช่ว่าแอบแกล้งทัพนะเก้า” กองท
หลังจากที่กลับมาที่โต๊ะแล้วเก้าทัพก็นั่งคุยกับพอร์ชต่ออีกครึ่งชั่วโมงก็ขอตัวกลับ เพราะนี่ก็เป็นเวลาเกือบสามทุ่มแล้ว ปกติเวลานี้คือเวลาเข้านอนของเด็กชายกองทัพ แต่วันนี้ลูกชายตัวน้อยกลับไม่รู้สึกง่วงแต่อย่างใด เพราะขุนพลหอบของเล่นกลับมาฝากหลานที่ยิ้มร่าด้วยความดีใจเมื่อเห็นของเล่นมากมายที่ลุงขุนพลซื้อมาฝาก“แล้วเจอกันเพื่อน”เก้าทัพโบกมือลาพอร์ชพร้อมกับเด็กชายกองทัพที่ทั้งโบกมือพร้อมทั้งส่งจูบให้คุณป้าคนสวยตามประสาเด็กน้อยก่อนที่สองพ่อลูกจะเดินจูงมือกันออกมาจากผับ ซึ่งกองทัพก็ไม่ได้อยู่นิ่ง ๆ วิ่งอ้อมหน้าอ้อมหลังบิดาด้วยความซุกซนตลอดทางเดินจนตอนนี้กลายเป็นว่าวิ่งเล่นไปมาตามถนนโดยที่มีเก้าทัพคอยวิ่งไล่ตามด้วยความเป็นห่วงณ ลานจอดรถมีใครบางคนที่กำลังสตาร์ตรถรอจังหวะอยู่แล้วกระตุกยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจเมื่อเห็นกองทัพวิ่งเล่นอยู่บนทางเดินที่ไร้ผู้คน ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับบอสที่จะได้แก้แค้นเก้าทัพที่บังอาจเอาปืนมายิงขู่เขาในผับแค้นนี้ต้องชำระเขาไม่ยอมถูกหยามศักดิ์ศรีโดยที่ไม่ได้แก้แค้นอย่างแน่นอน“พี่ทัพครับระวังรถด้วยนะครับลูก”เก้าทัพร้องบอกลูกน้อยด้วยความเป็นห่วง ตอนนี้กองทัพวิ่งโฉบไ
เพล้ง!!!เสียงแก้วน้ำตกกระทบกับพื้นทำเอานักศึกษาที่กำลังกินข้าวเช้าอยู่ต่างพากันหันมามองนับดาวที่ตัวสั่นด้วยความตกใจ น้ำหวานเพื่อนสนิทของนับดาวรีบลุกขึ้นจากที่นั่งมาหาเพื่อนที่เงยหน้าขึ้นมองนักข่าวสาวรายงานข่าวเรื่องอุบัติเหตุ ชื่อของเก้าทัพ พิสิฐกุลวัตรดิลกโชว์หราอยู่หน้าจอทำเอาน้ำหวานถึงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ“นะ น้ำหวาน ฮึก ฮือ พี่เก้า พี่เก้า ฮือ”นับดาวร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด ในใจนึกห่วงเก้าทัพจนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวก่อนที่นับดาวจะรีบวิ่งไปหาแม๊กประธานชมรมค่ายอาสาในครั้งนี้เพื่อขอเดินทางกลับก่อนกำหนด ถึงแม้ว่าเธอจะติด F วิชานี้ก็ตาม เพราะให้เธอทนอยู่ทำกิจกรรมต่อไปโดยที่เก้าทัพนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเธอทำไม่ได้และทนไม่ได้อย่างแน่นอน แค่รู้ว่าเก้าทัพเจ็บใจเธอเจ็บเสียยิ่งกว่าซึ่งแม๊กก็อนุญาตให้นับดาวเดินทางกลับกรุงเทพแต่โดยดี เพราะเรื่องทางบ้านของนับดาวนั้นสำคัญกว่าก่อนที่นับดาวจะรีบวิ่งกลับไปที่หอประชุมที่เป็นที่พักชั่วคราวสำหรับนักศึกษาออกค่าย ก่อนที่จะรีบเก็บข้าวของเครื่องใช้ใส่กระเป๋าซึ่งผู้ใหญ่บ้านอาสาจะไปส่งที่สถานีขนส่ง แต่เมื่อเดินออกมาที่หน้าค่ายจินกับฮารุกลับมา
โรงพยาบาล Nตึก ตึก ตึกเมื่อลงจากรถนับดาวก็วิ่งตรงไปที่ตึกผู้ป่วย VIP ทันทีด้วยความร้อนใจ เพราะไม่รู้ว่าตอนนี้พี่เก้าทัพของเธอจะฟื้นขึ้นมาหรือยัง อีกทั้งลูกชายตัวน้อยของเธอจะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่อาจรู้ได้เลยตุ้บในใจนึกกังวลไปหมดจนทำให้นับดาวไม่ทันระวังวิ่งสะดุดขาตัวเองล้มลงหัวเข่ากระแทกกับพื้นอย่างแรงจนเข่าแตกเลือดซิบ จินที่ตามมารีบเข้ามาพยุงนับดาวให้ลุกขึ้นด้วยความเป็นห่วงทันที“เดินไหวไหมครับคุณนับดาว”จินถามนับดาวที่ทำสีหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวดก่อนที่นับดาวจะพยักหน้ารับถึงแม้จะรู้สึกเจ็บที่หัวเข่ามากแค่ไหน แต่เธอก็ยังเดินไหว ก่อนที่นับดาวจะค่อย ๆ ออกเดินไปช้า ๆ โดยที่มีจินช่วยประคองจนกระทั่งเดินมาจนถึงหน้าห้องผู้ป่วยที่มีชื่อของเก้าทัพติดเอาไว้นับดาวค่อย ๆ เปิดประตูเข้ามาช้า ๆ น้ำเสียงที่สดใสร่าเริงของลูกชายตัวน้อยทำเอานับดาวถึงกับยิ้มออกมาด้วยหัวใจที่พองโตเมื่อในวันนี้ลูกชายของเธอยอมเรียกพี่เก้าทัพว่าพ่อแล้ว“พ่อค้าบ พี่ทัพป้อน” มือเล็กหยิบแอปเปิลที่ปอกเรียบร้อยแล้วจ่อไปที่ปากของบิดาที่อ้าปากรับด้วยรอยยิ้ม เด็กน้อยยิ้มกว้างจนตาหยีที่บิดากินแอปเปิลที่ตัวเองป้อนจนหมด“อร่อยไหมค้าบ
“กำหนดถอดเข็มน้ำเกลือออกคือวันพรุ่งนี้ไม่ใช่หรือไง จะรีบถอดไปไหน”วายุมองหน้าน้องเมียที่ส่งยิ้มแป้นจนตาหยีมาให้เขาเมื่อเขามาตรวจดูอาการแล้วเก้าทัพร้องขอให้เขาถอดเข็มน้ำเกลือออกทั้ง ๆ ที่ยังไม่ถึงเวลา แต่เก้าทัพกลับบอกเขาว่าอาการดีขึ้นมากแล้วไม่ต้องการน้ำเกลือ เขาจึงจำใจถอดออกให้ตามคำร้องขอ เพราะอาการของเก้าทัพก็ดีขึ้นตามลำดับมากจริง ๆ อาจจะเป็นเพราะว่าได้กำลังใจที่ดีจากครอบครัวและอายุยังน้อยเลยทำให้เก้าทัพฟื้นตัวไว“ผมหายดีแล้วนะครับพี่เขย อยากใช้มือสะดวก ๆ บ้างจะได้หยิบจับอะไรได้ถนัดมือหน่อย มีเข็มเสียบคามือไว้ทำอะไรไม่ค่อยสะดวก”เก้าทัพตอบวายุยิ้ม ๆ แต่คนรู้ทันมีหรือจะดูไม่ออกว่าจุดประสงค์ของน้องเมียที่อยู่ในวัยกำลังหนุ่มกำลังแน่นหมายถึงอะไรที่จับสะดวก หึหึ นอนป่วยหลายวันคงเบื่อน่าดู วันนี้เลยไล่ลูกชายไปอยู่กับปู่เพื่อจับเมียกินสินะร้ายไม่เบาเลยนะเจ้าเด็กแสบ วายุคิดอยู่ในใจก่อนที่จะยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วส่ายหน้าไปมาช้า ๆ“ก็อย่าจับแรงนักล่ะเดี๋ยวจะช้ำเอาได้” วายุพูดทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องตามด้วยนางพยาบาลที่ส่งยิ้มให้เก้าทัพด้วยความเอ็นดูก่อนที่จะรีบเดินตามคุณหมอออกไป
ในที่สุดเก้าทัพก็ได้ออกจากโรงพยาบาลมาพักฟื้นที่บ้านซึ่งเขาก็ไม่ได้พักอยู่นิ่ง ๆ ตามที่วายุสั่ง แต่กลับดูแลลูกชายตัวน้อยที่ทำตัวน่ารักกับเขาเสียจนพ่อแบบเขาหลงลูกชายจนโงหัวไม่ขึ้นหลงกว่าเมียก็ลูกนี่แหละครับทุกคนพี่ทัพของพ่อเก้าน่ารักมากตั้งแต่ที่เกิดอุบัติเหตุกองทัพก็คอยอ้อนคอยตามติดบิดาในทุก ๆ วัน ยกเว้นเวลาเข้านอนที่เด็กน้อยยอมเชื่อฟังบิดาด้วยการนอนที่ห้องของตัวเองไม่มานอนแทรกตรงกลางระหว่างบิดากับมารดา“อร่อยไหมครับพี่ทัพกับข้าวฝีมือของพ่อ”เช้าวันนี้เก้าทัพตื่นแต่เช้ามาเตรียมมื้อเช้าให้เมียตัวน้อยที่เมื่อคืนถูกเขาจัดหนักจนสลบคาอกกับลูกชายแสนซนที่เล่นซนไม่ยอมนอนทั้งคืนอย่างมีความสุขก่อนที่จะถามลูกชายที่กำลังเคี้ยวข้าวด้วยความเอร็ดอร่อย ไม่ว่าจะกี่เมนูที่เขาทำให้กองทัพกินลูกชายของเขามักกินหมดทุกครั้งไปโดยที่ไม่เคยติหรือตำหนิว่าไม่อร่อยเลยสักครั้ง“อร่อยมาก ๆ ค้าบ พ่อเก้าของพี่ทัพทำกับข้าวอร่อยที่สุดเลย”คำชมของลูกชายทำเอาหัวใจของคนเป็นพ่อพองโตอย่างมีความสุขส่วนนับดาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ถึงกับยิ้มออกมากับความน่ารักของลูกชายที่ขยันอ้อนพ่อบ่อยมากตั้งแต่ที่มีเหตุการณ์ที่ทำให้เก้าทัพเจ็บหน
หลังจากที่เก้าทัพหายดีจนร่างกายแข็งแรงแล้วงานก็เข้าทันที เพราะแบรนด์นาฬิกาของพี่ฟ้าต้องการให้เก้าทัพไปถ่ายโฆษณาเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ให้อีกครั้ง ซึ่งเก้าทัพปฏิเสธทันที เพราะเขาไม่ชอบงานแบบนี้อยู่แล้ว แต่พอร์ชกลับมาคุกเข่าขอร้องอ้อนวอนเขาถึงที่บ้าน มันทำให้เขาอดที่จะรู้สึกเห็นใจเพื่อนไม่ได้ จนในที่สุดเขาก็กลับเข้าไปในวงการหน้ากล้องอีกครั้งทำให้วันหยุดสุดสัปดาห์เขาไม่มีเวลาดูแลกองทัพ นับดาวจึงต้องพาลูกชายไปฝากคุณปู่ให้ช่วยดูแลหนึ่งวัน เพราะเธอเองก็มีกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยเช่นกัน“นับรบกวนคุณพ่อด้วยนะคะ พอดีคุณแม่ปรานีท่านป่วยนับเลยไม่กล้าไปรบกวนท่านน่ะค่ะ”นับดาวบอกกฤษฎิ์ที่อุ้มเด็กชายกองทัพอยู่ในอ้อมแขนด้วยสีหน้าที่เกรงใจ เพราะวันนี้เธอมีกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยส่วนพี่เก้าทัพก็มีงานถ่ายแบบโฆษณาของพี่พอร์ช เด็กชายกองทัพจึงไม่มีคนดูแล ครั้นจะทิ้งไว้กับบรรดาพี่เลี้ยงที่บ้านก็กลัวจะงอแงจนทุกคนเอาไม่อยู่ซึ่งสุดท้ายแล้วเก้าทัพก็ให้นับดาวพาลูกมาส่งให้คุณปู่ที่ดูแล้วว่ากองทัพมักเกรงใจและไม่ค่อยดื้อเท่าไรเวลาที่อยู่กับปู่“ไม่เป็นไรพ่อว่าง ช่วงนี้งานไม่เยอะไม่ค่อยได้ตรวจคนไข้สักเท่าไร ได้แต่นั่งทำงาน