บทที่2 First impression
หลินเป็นพนักงานออฟฟิศที่เงินเดือนเยอะกว่าเด็กจบใหม่ไม่กี่บาท ตื่นเช้ามาทำงานตกเย็นกลับบ้านไปเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์แก้เครียด ใช้ชีวิตวนลูปไปวันๆ เป้าหมายในชีวิตของเขาคืออยากรวย แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงให้ได้เงินมา แล้วต้องมีเท่าไหร่ถึงจะเรียกว่ารวย เขาชอบของแบรนด์เนมแต่เงินเดือนที่ได้แต่ละเดือนแทบไม่พอยาไส้ นานๆจะได้ซื้อของพวกนี้สักชิ้น เงินเก็บเพื่ออนาคตติดลบ ชีวิตนี้เขาไม่ได้คิดถึงอนาคตการมีครอบครัวที่อบอุ่นอะไรเพราะพื้นฐานครอบครัวของเขาก็ไม่ได้ดี บ้านแตกสาแหรกขาด พ่อมีชู้ แม่ก็ฟ้องหย่าตามระเบียบเงินที่ได้มาก็พอจุนเจือครอบครัวเราสองแม่ลูกให้อยู่สบายได้อีกหลายปีจนส่งหลินเรียนจบ แม่ของเขาเปิดร้านขายขนมเบเกอรี่เล็กๆ พอมีรายได้มาบ้าง ชีวิตความเป็นอยู่ไม่หวือหวาอะไรเลย
และอีกหนึ่งเหตุผลที่ไม่คิดถึงเรื่องครอบครัวคงเป็นเพราะ เขาเป็นไบที่ได้ทั้งชายและหญิง ถามว่าเคยรับไหม ยังไม่เคย แต่ถามว่าเคยลองกับของเล่นไหมตอบเลยว่าใช่ และเขาค่อนข้างชอบมันด้วย แต่ยังไม่เคยทำกับคนจริง ชีวิตที่ไม่ยึดติดเรื่องความสัมพันธ์ทำให้เขาทำอะไรแบบสุดเหวี่ยง
วันศุกร์เป็นเหมือนวันสวรรค์เปิดของพนักงานออฟฟิศแบบหลิน เย็นวันศุกร์เขามักจะออกไปเที่ยวกลางคืน เมามายกับกลุ่มเพื่อนที่คบกันมาตั้งแต่มัธยมปลาย สนุกเฮฮา เมาปลิ้น และแยกย้ายกันกลับบ้าน หรือบางทีก็แยกย้ายกันกลับไปกับคู่ขาที่ถูกใจในคืนนั้น
วันนี้ก็คืนศุกร์หรรษาหลินออกมาเที่ยวผับกับเพื่อนอีกสามคนคือ ศิลา สกาย มอส ทั้งสี่แต่งตัวมีสไตล์เป็นของตัวเอง คาแรคเตอร์ชัดโดดเด่น และเป็นที่หมายตาของชายหญิงนักท่องราตรีเสมอ
“ไงมึง มาสุดท้ายตลอด” สกายหนุ่มใบหน้าคม ผิวขาว ตาสีคาราเมล ผมสีบลอนด์สว่างเอ่ยแซวหลินที่มักจะมาคนสุดท้ายเสมอ
“แน่นอนสิครับ เหยื่อจะได้เห็นกูเยอะๆ” หลินทำสีหน้าทะเล้นใส่เพื่อน
“วันนี้มึงมุ่งเรื่องนี้เลยว่างั้น ของขาดหรอวะฮ่าๆ” ศิลาเล่นบ้าง ศิลาหนุ่มหน้าไทย จมูกโด่ง ผิวน้ำผึ้ง ผมดำขลับ ตาสีน้ำตาลเข้ม
“คนที่มุ่งจริงๆ คงไม่ใช่กูแล้วมั้ง..” หลินเบนสายตาไปมองมอสที่ตอนนี้มีสาวสวยเซ็กซี่นั่งตักนัวเนียกันไม่สนโลกอยู่
“ปล่อยมันไปเถอะ แม่งเก็บกด งานมันเครียด” สกายพูดติดตลก
ชั้นสองโซนวีไอพี
“คุณทินกรรับอะไรดีคะ” ผู้จัดการสาวเอ่ยถามหลังเจ้านายนั่งลงที่โซฟา
“ผมขอวิสกี้” เสียงเข้มตอบกลับราบเรียบ มือหนาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดปูดโปน จากการออกกำลังกายสม่ำเสมอ ปลดกระดุมเสื้อสูทตัวนอกออก เพื่อให้นั่งได้สบายขึ้
ทินกรนักธุรกิจหนุ่มที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุน้อย ด้วยพื้นฐานชีวิตเขาดีมาตั้งแต่ต้น ครอบครัวประกอบอสังหาริมทรัพย์ ทำให้เขาได้มีโอกาสเข้าเรียนที่โรงเรียน และมหาวิทยาลัยชั้นนำ ซึ่งเต็มไปด้วยคอนเนคชั่นมากมาย เขาเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวตั้งแต่อายุยี่สิบปีบริบูณ์ ทางบ้านเองก็สนับสนุน เขาจึงกล้าได้กล้าเสีย คิดการใหญ่และมันค่อยๆสำเร็จตามเป้าหมายทีละอย่าง จนตอนนี้อายุของเขาย่างเข้าสามสิบเจ็ดปีแล้ว ทุกอย่างมั่นคง มีเงินเยอะใช้สามชาติก็ไม่หมด ที่สำคัญคือเขายังไม่แต่งงาน คุณหญิงคุณนายต่างพาลูกสาวมาเสนอให้เขาอยู่ร่ำไป เพราะด้วยฐานะการเงิน และรูปร่างหน้าตาเขาก็ถือว่าเป็นสเปคของคนทั่วไปที่จัดว่า หล่อมาก
สายตาคมกวาดมองบรรยากาศด้านล่าง ผ่านกระจกจากห้องวีไอพี ผับนี้เขาเปิดมาแล้วห้าปี ผลตอบรับดีมาก เพราะอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย และตึกออฟฟิศสำนักงานหลายแห่ง
ทินกรเอนหลังผิงพนักโซฟาบุนวมราคาแพง มือถือแก้ววิสกี้ที่ผู้จัดการนำมาเสิร์ฟ ยกขึ้นจิบรับรสร้อนแรงของเครื่องดื่ม วันนี้เขามีเรื่องให้ปวดหัวนิดหน่อย เนื่องจากการคุยธุรกิจไม่ราบรื่นอย่างที่คิด เพราะอีกฝ่ายเงื่อนไขเยอะจนน่าหงุดหงิด นาทีนี้เขาต้องการปลดปล่อยความเครียดนี้ใส่ใครสักคน มี sex ที่ดิบเถื่อนรุนแรง และวาบหวาม ต้องการใครสักคนมาตอบสนองความใคร่นี้ เขาชื่นชอบเซ็กส์แบบSM ทำกับคู่ขาแรงได้ตามใจ ชอบที่เรือนร่างอีกฝ่ายเต็มไปด้วยรอยแดงที่เขาทำมันไว้อย่างจงใจ และได้รับความยินยอมด้วยดีจากอีกฝ่าย..
สายตาที่เลื่อนมองผ่านไปเรื่อยเปื่อยอยู่นั้น ดันสะดุดเข้ากับใครบางคน รูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าหล่อสะดุดตาแม้อยู่ท่ามกลางแสงไฟสลัว ใบหน้าดูดื้อรั้น และทะเล้นยามหยอกล้อเพื่อน หากจับมาใส่ปลอกคอทำให้เชื่อง นอนอ้าขาครางหงิงเหมือนหมาใต้ร่างเขา มันคงเป็นภาพที่สวยไม่หยอก รูปร่างภายใต้เสื้อผ้าที่สวมใส่นั่นจะเป็นแบบไหนกันนะ
ทินกรจินตนาการถึงอีกฝ่ายต่างๆนานา อยากลองลิ้มรสเซ็กส์ของร่างโปร่งที่ตนหมายตา ว่าจะเผ็ดร้อนแสบลิ้น หรือหวานละมุนกันแน่
เหนือสิ่งอื่นใด นอกจากต้องตาต้องใจรูปร่างหน้าตานั่นแล้ว ใบหน้าตอนที่ยิ้มแย้มของเขา ทำให้นักธุรกิจหนุ่มอย่างทินกร ใจเต้นขึ้นมาได้ หลังจากที่มันสงบมาหลายปี มันจะเรียก Love at first sight ได้ไหมนะ..
ฉับพลันทันคิด จะไขข้อข้องใจทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องหัวใจ หรือเซ็กส์ คงต้องลองคุยกับอีกฝ่ายดูก่อน ทินกรไม่เคยจีบใคร นี่คือข้อเท็จจริงหนึ่งเรื่องที่ทุกคนไม่เคยรู้ และวันนี้เอง เขาอยากลองจีบคนคนนั้นดูสักครั้ง
ภายในผับชั้นล่าง หลินชนแก้วกับเพื่อนรอบโต๊ะ เขาดื่มได้แก้วที่สามก็มีพนักงานเดินมาหา ที่ป้ายติดอกเสื้อเขียนไว้ว่า ‘ผู้จัดการ’ ในใจคิดว่า เขาคงไม่ได้ทำผิดกฎอะไรใช่ไหม แต่เคยมาที่นี่หลายครั้งก็ไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เขาหันมองหญิงสาวด้วยใบหน้าฉงนเล็กน้อย เพื่อนเขาเองก็มองตาม “ขอโทษที่รบกวนนะคะ ไม่ทราบว่าคุณผู้ชายสะดวกคุยไหมคะ” เธอพูดด้วยคำพูดสุภาพ ด้วยเสียงเพลงที่ดังจึงเข้าไปพูดที่ข้างหูของหลิน “ครับ มีอะไรหรือเปล่า?” หลินตอบกลับเธอด้วยท่าทางเดียวกัน “มีคนสนใจอยากคุยกับคุณค่ะ” เธอบอกเหตุผลของการมาหาอีกฝ่าย “ใครเหรอครับ?” หลินพอเข้าใจที่อีกฝ่ายพูด “ห้องวีไอพีข้างบนค่ะ” เธอผายมือไปที่กระจกทึบ มองไม่เห็นอะไรเลย “คุณผู้ชายสะดวกไหมคะ” ห้องวีไอพีของที่นี่ค่าเปิดโต๊ะขั้นต่ำต้องห้าหมื่นถึงจะเข้าไปที่นั่นได้ อีกฝ่ายคงรวยมากพอที่จะจ่ายกับการเที่ยวเล่นยามค่ำคืนเช่นนี้ได้ หอมกลิ่นเงินมาแต่ไกล หลินใช้เวลาประมวลผลในหัวเล็กน้อย จะลองขึ้นไปดูสักครั้ง ถือว่าเป็นบุญก้นที่ได้นั่งในห้องวีไอพีของที่นี่ ถ้าข้างในเป็นลุงแก่หรืออาซ้อแก่ๆค่อยปฏิเสธแล้วเดินลงมาก็ไม่สาย แต่ถ้าอีกฝ่ายเป็นคุณหนูคุณชายมห
ริมฝีปากทั้งสองคนบดเบียดกันไปมา ลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดแลกของเหลวภายในปากกันเป็นพันละวัน จูบนี้มันรุนแรงและหนักหน่วงมากสำหรับหลิน เขาจะผละใบหน้าออกมาหายใจ แต่อีกฝ่ายกลับกดท้ายทอยเขาไว้แน่น เหมือนอยากให้เขาขาดอากาศหายใจก็ไม่ปาน ทินกรจูบเก่งมาก คมเขี้ยวขบเม้มริมฝีปากบางจนเลือดซิบ ทั้งสองแลกจูบกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร แต่พอรู้ตัวอีกที หลินกลับถูกทินกรจับพลิกนอนลงที่โซฟาแล้ว ขาทั้งสองถูกแทรกกลางด้วยกายแกร่งของทินกร มือหนาล้วงเข้าไปใต้เสื้อของหลิน ลูบไล้ไปตามกล้ามเนื้อลีนสวย หัวแม่มือขยับเข้าไปบดบี้ยอดอกสีอ่อนจนเสียวสะท้าน ร่างกายหลินสะดุ้งทุกครั้งที่ยอดอกถูกบดบี้รุนแรงด้วยมือของทินกร “อึก ฮ่า..” หลินถอนจูบออกมาหายใจถี่กระชั้นขึ้น จากการถูกเล้าโลมที่รุนแรง โคตรตื่นเต้นเลยว่ะ นี่คือสิ่งที่หลินรู้สึกในตอนนี้ “หึ พี่ซาดิสม์นะ หลินจะไหวไหม?” เสียงเข้มบอกสิ่งที่ตนเองเป็นเวลามีเซ็กส์ “ทำรุนแรงได้ ถ้าผมไม่ไหวจะบอกแล้วกันครับ” หลินไม่ใช้เวลาคิดนาน เพราะอารมณ์ตอนนี้มันพุ่งพร่านเกินกว่าจะมานั่งคิดอะไรหยุมหยิมแบบนี้ “อืม” จมูกโด่งซุกไซ้ที่ซอกคอขาว มือเองก็ไม่อยู่นิ่งปลดกระดุมเสื้อจนหมด เผยให้เห
ผมใช้ฟันงับที่ซองถุงยางอย่างว่าง่าย ฉีกซองถุงยางด้วยปากให้มันขาดออก “เด็กดี..” เขาเอ่ยชมผม มือหนาลูบหัวชมผมเหมือนให้รางวัลสัตว์เลี้ยงแสนรู้ที่ทำตามคำสั่งเจ้านายอย่างถูกต้อง เขาใส่ถุงยางเรียบร้อยแล้วกลับมาเล้าโลมผม ปากพรมจูบที่ท้ายทอย สลับขบกัดมัน มือข้างหนึ่งเขาเล่นที่ยอดอกบวมแดง ขยี้มันจนแสบและเสียว ผมแอ่นอกรับแบบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ระหว่างที่ผมโฟกัสอยู่กับมือหนาที่ชำเรายอดอกอยู่นั้น แก่นกายขนาดใหญ่ก็ชำแรกเข้ามาในรูจีบฉ่ำแฉะ “อ๊ะ เบาได้ไหมผมเจ็บ อือ ฮู่ว” มันเจ็บเหมือนข้างในมันฉีกขาด ขนาดของเขามันใหญ่กว่าดิลโด้ที่ผมเคยเล่น ขาสั่นแทบพะยุงตัวเองไม่อยู่ ดีที่มีมือเขาช้อนเอวผมเอาไว้ “ทนหน่อยนะ เดี๋ยวก็เสียวแล้ว” แก่นกายใหญ่ถูกแช่ไว้ให้ผมปรับตัวอยู่หลายนาที เราจูบกันแทบไม่ผละออก มือเขาทั้งปรนเปรอที่ยอดอกและกลางกายของผมที่มันแข็งพร้อมปลดปล่อย เขาชักรูดมันรวดเร็วขึ้นบีบเจลหล่อลื่นใส่ยิ่งเกิดเสียงเฉอะแฉะลามก ปลุกปั่นอารมณ์จนผมลืมความเจ็บ “อ่า อ๊ะ ใกล้แล้วเร็วอีกครับแด๊ด” ผมเริ่มเกร็งตัวจะปลดปล่อย “ฮึ่ม รัดแน่นจริง” เขาขยับเอวเข้าออกช้าๆ ให้ผมเคยชินกับมัน มือยังคงชักรูดไอ้หนูของผมอยู่เช่
บทที่1 Morning Game เอี๊ยด อ๊าด เสียงร่างกายขยับลงจากเตียงด้วยชุดนอนยับยู่ยี่ ตาเรียวหันมองร่างสูงอีกคนที่ยังหลับอยู่ คนตื่นนอนลุกขึ้นไปดื่มน้ำเพราะคอแห้งจากอุณหภูมิต่ำเพียงสิบองศาเซลเซียสจากแอร์คอนดิชั่น คุณแด๊ดเขาขี้ร้อน แด๊ดที่พูดถึงคือคนที่กำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียง ชื่อของเขาคือ ทินกร อัครกิจ ชื่อเล่นอาทิตย์ นักธุรกิจหนุ่ม วัย37 ปี ถึงจะใกล้เข้าเลข4 แล้วแต่ใบหน้าและหุ่นเขามันดีจนใครหลายๆคนต้องอิจฉา ลอนกล้ามหน้าท้อง กล้ามแขน และแผ่นหลังที่กำยำเพราะดูแลสุขภาพออกกำลังกายสม่ำเสมอ งานอดิเรกที่คุณทินกรชอบทำนอกจากออกกำลังกาย คงเป็นการเลี้ยงเด็ก เด็กในที่นี้ไม่ใช่ลูก แต่เป็น sugar baby เขาใช้เงินสิ้นเปลืองกับเรื่องนี้มากเลยล่ะ และเด็กคนนั้นก็คือคนที่กำลังดื่มน้ำอยู่ตอนนี้ เขามีชื่อว่าหลิน อายุ 26 ปี ถึงอายุจะไม่ได้เด็กแล้วก็เถอะ แต่ด้วยรูปร่างหน้าตาผิวพรรณของเขาดันตรงไทป์ที่คุณแด๊ดชอบ เขาเลยเหมือนหนูตกถังข้าวสารดีๆนี่เอง จากพนักงานออฟฟิศธรรมเลยได้งานเสริมอีกอย่างคือเป็นเด็กเลี้ยงของคุณแด๊ดเขา แล้วถ้าถามว่าทำไมเขาถึงตกลงรับข้อเสนอนี้ ก็เพราะว่าเขามันหัวสูง อยากใช้ของแพงแบรนด์เนมแบบที่ค