หลายวันต่อมา..."พรุ่งนี้งานวันเกิดนายใช่ไหม ควันหลง""อืม""แล้วตกลงนี่แม่นายจะจัดให้ไหม""แม่มันอยากจัด แต่ไอ้เจ้าของวันเกิดไม่อยากให้จัด""อ้าว ทำไมล่ะ""มันไม่ชอบให้คนมาที่บ้านเยอะ ๆ เธอก็รู้""แต่ทุกปีที่ผ่านมาก็จัดนะ""ก็เพราะว่าทุกปีที่ผ่านมาห้ามไม่ได้ไง แต่ปีนี้มันขอร้องแม่มันแบบจริงจัง""วันเกิดทั้งทีนะ ไม่จัดจริงเหรอ อย่างน้อยก็ไปจัดที่ผับก็ได้""ไม่""ชิ"นาเนียร์รู้สึกอารมณ์เสีย หลังจากที่ได้พูดกับเพื่อนสนิทอย่างควันหลง เพราะเขานั้นพูดน้อยมาก แต่ชอบทำให้เธออารมณ์เสียอยู่ตลอดหญิงสาวไม่สนใจเขาแต่หันกลับมาสนใจนั่งทานข้าวของตัวเองต่อแต่ในตอนที่กำลังนั่งทานข้าวอยู่ หางตาของเธอก็ชำเลืองไปเห็นคนที่ตัวเองไม่ได้เห็นหน้าหลายวัน เนื่องจากช่วงนี้งานของเธอมีค่อนข้างเยอะ ทำให้ไม่มีเวลาไปนั่งอ่อยชายหนุ่มรุ่นน้องที่ร้านหมูกระทะที่เขาทำงานพาร์ตไทม์เลยซึ่งเขากำลังเดินถือจานข้าวผ่านมาทางที่เธอนั่งอยู่พอดี หญิงสาวจึงรีบยกมือขึ้นโบกเพื่อทักทายพอชายหนุ่มรุ่นน้องเห็นก็รีบก้มหัวทักทายเขาพร้อมกับเดินผ่านไป ทำให้เธอที่ยกมือโบกค้างอยู่ รีบชักมือกลับด้วยท่าทางอารมณ์ไม่ดี"อะไรกัน คิดว่าจะเดินมาหา
หลังจากที่หมดคาบเรียนในวิชาแรกของบ่ายเรียบร้อยแล้ว ภีมก็รีบเก็บของใส่กระเป๋า พร้อมกับเดินตามเพื่อนสนิทอย่างโต้งลงมายังชั้นล่างของอาคารโดยปกติแล้วชายหนุ่มจะมีเรียนวิชาต่อไป แต่เนื่องด้วยอาจารย์ยกคลาสกะทันหัน ทำให้เขาเลิกเรียนก่อนเวลาจากที่หญิงสาวรุ่นพี่ต้องเป็นคนรอเขา แต่ตอนนี้ดันเป็นเขาที่ต้องรอเธอแทน ชายหนุ่มจึงคิดว่าจะไปนั่งรอที่หน้าคณะ เผื่อว่าตอนรุ่นพี่สาวเลิกเรียนแล้ว เดินผ่านอาจจะเห็นเขาได้ชัด"วันนี้กลับกับกูไหม กูขับมอเตอร์ไซค์มา" โต้งหันมาพูดกับเขา แต่ภีมดันส่ายหน้าปฏิเสธ"ทำไม""พอดีกูมีนัด""นัดกับสาวที่ไหนเอ่ย""สาวที่ไหนล่ะ รุ่นพี่เรานี่แหละ""รุ่นพี่ไหนวะ กูรู้จักไหม""พี่เนียร์ไง""พี่เนียร์ คือใช่คนที่กูรู้จักไหม""คณะวิศวะ ก็มีคนชื่อเนียร์คนเดียวไม่ใช่เหรอ" เขาตอบเพื่อนไปพร้อมกับส่ายหน้าไปมา แล้วเดินมานั่งลงโต๊ะไม้หินอ่อนตรงบริเวณที่ตัวเองชอบนั่งประจำ ซึ่งโต้งก็รีบวิ่งมานั่งลงด้านข้าง"ตกลงมึงกับพี่เขาคือยังไงกันแน่ ทำไมถึงมีนัดกัน""พี่เขาก็แค่บอกว่าอยากกินข้าวด้วยแค่นั้น""แสดงว่าพี่เขาสนใจมึง""พี่เขาจะมาสนใจกูทำไมล่ะ มึงไม่เห็นสภาพกูหรือไง แตกต่างกับพี่เขาขนาดนี
"ถึงแล้ว"นาเนียร์ขับรถเข้ามาจอดบริเวณด้านหน้าหอพักของชายหนุ่มรุ่นน้อง พอรถจอดสนิทแล้วเธอก็หันไปบอกคนที่นั่งอยู่ด้านข้าง"ครับพี่เนียร์ สำหรับวันนี้อาหารอร่อยมาก ผมขอบคุณมากนะครับที่เลี้ยงผม""เราขอบคุณพี่หลายครั้งแล้วนะ" หญิงสาวตอบไปแบบนั้น เพราะตั้งแต่ทานข้าวกันเสร็จ ชายหนุ่มรุ่นน้องพูดขอบคุณเธอหลายครั้งแล้ว"เดี๋ยวไว้เงินเดือนผมออก ผมขอเลี้ยงพี่บ้างได้ไหมครับ""ได้สิคะ""งั้นผมขอไปก่อนนะ""ฝนตกหนักขนาดนี้ ยังต้องไปทำงานอีกเหรอ""ใช่ครับ""แล้วเราจะไปยังไง ให้พี่รอไหม ยังไงร้านที่เราทำงาน ก็อยู่ติดคอนโดพี่""ไม่เป็นไรหรอกครับ กว่าจะถึงเวลาทำงานฝนก็คงหยุดตกพอดี""ดื้อจริง ๆ เลย""งั้นผมไปก่อนครับ" ภีมยกมือไหว้เธอ พร้อมกับเปิดประตูลงไป แล้วรีบวิ่งเข้าไปภายในหอพักของตัวเองส่วนเธอพอมองเห็นชายหนุ่มรุ่นน้องเข้าไปในหอพักของตัวเองเรียบร้อยแล้ว ก็ขับรถออกมาเพื่อจะกลับคอนโดของตัวเองที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากวันต่อมา...หลังจากที่ขับรถมาถึงมหาลัยแล้ว หญิงสาวก็เดินลงจากรถ ก็มองเห็นกลุ่มเพื่อนที่นั่งคุยเม้ามอยกันอยู่ เธอจึงรีบเดินเข้าไปร่วมกลุ่ม"ไมวันนี้มึงมาสายจัง""สายอะไร เหลืออีกตั้งสิบกว่
"พี่ขอจูบน้องภีมได้ไหมคะ"ถ้อยคำจากปากของรุ่นพี่สาว ส่งผลต่อความรู้สึกของคนป่วยอย่างภีมเป็นอย่างมาก จนเขาต้องกลั้นยิ้มไว้“พะ…พี่เนียร์” พลันบรรยากาศที่ผ่อนคลายก็ถูกแทนที่ด้วยบรรยากาศอันวาบหวิว เมื่อใบหน้าสวยของนาเนียร์เริ่มโน้มเข้าหา ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มรุ่นน้อง จวบจนริมฝีปากสัมผัสกัน ดวงตาสองคู่ที่สบประสานในตอนแรกต่างหลับพริ้มลงมือหนาหยาบร้อนผ่าว อันเนื่องมาจากพิษไข้ ยกขึ้นรั้งท้ายทอยบางของหญิงสาวให้อยู่ตำแหน่งเดิม เขาบดเบียดริมฝีปากเข้ากับกลีบปากอ่อนนุ่ม ที่เริ่มรุกอย่างเงอะงะร่างอรชรโอนอ่อนลงตามแรงปรารถนา นาเนียร์รู้สึกว่าจูบนี้ทั้งร้อนรุ่มและซาบซ่านจนเธอแทบยั้งตัวเองไม่อยู่ ทุกอย่างเป็นไปตามสัญชาติญาณของเธอและเขาลิ้นร้อนตวัดเลีย เกี่ยวพันกันดูดดื่ม เสียงจูบดังทั่วห้องนอนขนาดปานกลางของชายหนุ่ม มือหนาลูบไล้บีบคลึงไปตามสัดส่วนของหญิงสาวรุ่นพี่ หลังจากอุ้มขยับขึ้นมานั่งเกยบนตัวเขาอย่างเพลินมือไม่ต่างจากนาเนียร์ ที่สองมือนุ่มก็ลูบสัมผัสไปตามลอนกล้ามเนื้อของหนุ่มรุ่นน้องไม่รู้ว่าบทจูบนั้นยาวนานแค่ไหน ทว่ารู้ตัวอีกที บนร่างบอบบางก็หลงเหลืออยู่เพียงชุดชั้นในเข้าเซ็ตลายลูกไม้สี
หลังจากที่นอนหลับพักผ่อนได้ไม่นาน นาเนียร์ก็ลืมตาตื่นมา เพราะรู้สึกถึงไอร้อนจากพิษไข้ที่แผ่ออกมาจากผิวกายของคนที่นอนกอด ปลุกให้หญิงสาวรู้สึกตัวตื่นขึ้นในยามเย็นของวัน นาเนียร์เห็นแบบนั้นพอจะขยับตัวลุกขึ้น คนที่นอนกอดอยู่กลับกอดกระชับแน่นกว่าเดิม พร้อมกับลืมตาตื่นขึ้นมาจ้องมองเธอด้วยสายตาเขม่น แต่เขาไม่ได้พูดอะไร เธอที่เห็นอยู่ก็รู้สึกเอ็นดูจึงใช้มือลูบบริเวณแก้มที่มีสีแดงก่ำของคนไม่สบาย "พี่จะลุกไปเอาผ้ามาเช็ดตัวให้เราไงคะ ปล่อยก่อน" "แต่ผมอยากกอดพี่อยู่แบบนี้" "อย่างอแงสิคะ พอพี่เช็ดตัวให้เสร็จแล้ว เดี๋ยวจะมานอนให้กอดทั้งคืนเลย โอเคไหม" โดยพอนาเนียร์พูดออกไปแบบนั้น คนที่กอดเธออยู่ก็ชักมือกลับด้วยความไม่พอใจเท่าไหร่ส่วนเธอพอเป็นอิสระก็รีบลุกขึ้นพร้อมกับเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า สำรวจหาชุดของเจ้าของห้องมาสวมใส่โดยพอใส่เสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กที่ระเบียงที่ก่อนหน้านี้ตัวเองมาตากเอาไว้ แล้วเดินกลับเข้ามาในห้องพร้อมกับเดินเข้าไปในห้องน้ำ ใช้ผ้าชุบกับน้ำหมาด ๆ แล้วเดินกลับมาหาเด็กหนุ่ม ที่กำลังนอนซมอยู่ "ยกแขนขึ้นหน่อย พี่จะได้เช็ดใต้รักแร้" คนที่ไม่สบายก็ยกแขนขึ้นตามท
"อร่อยไหม" นาเนียร์เอ่ยถามชายหนุ่มรุ่นน้องออกไป"อร่อยครับ""อร่อยก็กินเยอะ ๆ พี่ตั้งใจสั่งมาให้น้องภีมกินโดยเฉพาะเลย จะได้บำรุงร่างกาย" เธอตักไก่ตุ๋นโสมไปวางไว้บนจานข้าวของคนอายุน้อยกว่า"ขอบคุณครับ" ชายหนุ่มตักข้าวกินด้วยความเอร็ดอร่อยซึ่งหญิงสาวเห็นแล้วก็รู้สึกดีใจว่าสิ่งที่ตัวเองสั่งมาให้กับหมาเด็ก แล้วเขารู้สึกชื่นชอบมาก"ไม่ต้องตักให้ผมแล้วครับ เต็มจานแล้วเนี่ย""ก็พี่อยากให้น้องภีมกินเยอะ ๆ นี่นา ร่างกายจะได้ฟื้นฟูเร็ว" นาเนียร์ใช้มือลูบแก้มป่องของคนที่กำลังเคี้ยวอาหาร "แล้วพรุ่งนี้เรามีเรียนไหม""มีครับ""พี่ว่าพักก่อนไหม พักอีกสักวัน""ผมไม่เป็นอะไรแล้วครับ ตอนนี้ก็รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว""ทำไมถึงดื้อแบบนี้นะเจ้าหมาเด็ก""แล้วพรุ่งนี้พี่เนียร์มีเรียนไหมครับ""มีค่ะ มีเรียนตอนเก้าโมงเลย""อ้าว งั้นพี่ก็ต้องรีบกลับห้องสิครับ นี่มันจะสี่ทุ่มแล้วนะ""ทำไมรีบไล่พี่จัง ได้พี่แล้วก็เฉดหัวพี่ทิ้งเหรอเนี่ย" หญิงสาวพูดออกมาด้วยความน้อยใจแบบไม่ได้จริงจังอะไร แต่เธออยากดูปฏิกิริยาของเจ้าหมาเด็ก ว่าเขาจะพูดยังไงต่อ ถ้าเห็นเธอหน้าบึ้งแบบนี้"มะ...ไม่ใช่นะครับ ผมไม่ได้ไล่พี่"".....""ผมแค่เห
ขณะที่รุ่นพี่สาวขับรถเข้ามาภายในมหาวิทยาลัย ภีมก็รีบหันไปบอก เพื่อให้คนที่กำลังตั้งใจขับรถนั้นจอด เนื่องจากชายหนุ่มไม่อยากให้เธอกลับเข้าไปจอดอยู่บริเวณหน้าคณะ"พี่เนียร์ครับ ช่วยจอดให้ผมตรงนี้หน่อย""ทำไมล่ะ ยังไม่ถึงคณะเราเลยนะ""ผมกลัวว่าคนจะเห็นตอนผมลงจากรถพี่ครับ ผมกลัวเดี๋ยวคนจะมองเราไม่ดี""กลัวทำไมล่ะ ใครมันอยากจะมองยังไงก็ช่างมัน ไม่ต้องสนใจค่ะ" รุ่นพี่สาวยื่นมือมาจับที่แก้มของเขาพร้อมกับลูบไปมาเบา ๆ แล้วหันกลับไปสนใจขับรถของตัวเองไปอย่างตั้งใจส่วนเขาก็ได้แต่นั่งเกร็งหลังจากที่คนด้านข้างขับรถเข้ามาจอดบริเวณลานจอดรถของคณะ ซึ่งโดยตอนนี้พอมองไปรอบ ๆ แล้ว มีนักศึกษาหลายสิบคนกำลังเดินขวักไขว่ไปมา แถมยังมีบางส่วนที่นั่งพูดคุยเมาท์มอยกันอย่างสนุกสนานที่โต๊ะม้าหินอ่อนด้านหน้าอาคารเรียน"กลัวอะไรขนาดนั้น มันไม่มีใครสนใจเราหรอก""ไม่จริงครับ พี่เนียร์ฮอตจะตาย ใคร ๆ ก็สนใจ""แล้วใคร ๆ ที่ว่าเนี่ย รวมถึงน้องภีมคนนี้ด้วยไหมคะ""พะ...พี่เนียร์""เราไปกินข้าวที่โรงอาหารกันเถอะ น้องภีมจะได้กินยาด้วย""จะทันเหรอครับ เหลืออีกแค่ครึ่งชั่วโมงเองนะ""ทันสิคะ"ก๊อก! ก๊อก!โดยที่ชายหนุ่มกำลังพูดคุย
ชายหนุ่มเดินมาซื้อชาไข่มุกให้กับคนตัวเล็ก หลังจากที่ก่อนหน้านี้พี่เขาส่งข้อความมาบอกว่าให้รอกลับห้องด้วยกัน เดี๋ยวพี่เขาจะไปส่ง ซึ่งในครั้งแรกภีมได้ปฏิเสธไปแล้ว แต่รุ่นพี่สาวก็ยังดึงดันว่าจะไปส่ง ทำให้เขาไม่สามารถปฏิเสธได้อีกพอเลิกเรียนแล้วเขาจึงมานั่งรอ แต่นั่งไปนั่งมาแล้วรู้สึกอยากกินอะไรเย็น ๆ จึงเดินออกมาที่หน้ามหาวิทยาลัย ที่มีร้านคาเฟ่หลายร้านตั้งอยู่ ซึ่งในตอนที่กำลังจะวิ่งข้ามถนนนั้น โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าก็ดังสั่นขึ้นมาพอดี เขาเลยรีบหยิบขึ้นมาดู พอเห็นเบอร์ที่โชว์อยู่บนหน้าจอ ก็พบว่าเป็นเบอร์คุ้นเคย แต่ชายหนุ่มเลือกที่จะกดตัดสายและปิดเครื่อง พร้อมกับวิ่งข้ามถนนมาโดยทันที"คืนนี้ไปไหม""ไม่""ทำไมล่ะ วันศุกร์ทั้งทีนะ""ไม่อยากไป""แกแปลกนะยัยเนียร์ ปกติวันศุกร์แกไม่เคยพลาดเลย""คนเราเที่ยวแทบทุกวันมันก็เบื่อเป็นนะ""เบื่อหรือว่านัดกับใครไว้ พูดความจริงมา""ฉันนัดกับน้องภีมไว้""กูว่าแล้ว แต่น้องมันมีทำงานไม่ใช่เหรอ""กะ...(นาเนียร์)/พี่เนียร์ครับ(ภีม)"ระหว่างที่นาเนียร์กำลังพูดคุยอยู่กับเพื่อนสาวประเภทสองอย่างจีจี้อยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงเรียกจึงรีบหันไปตามเสียงก็พบว่าเป็นชา
เพนต์เฮาส์หรู ชั้นบนสุดใจกลางเมืองหลวง ซึ่งทางด้านนอกระเบียงกว้าง มีสระว่ายน้ำส่วนตัวที่ตั้งอยู่ในชั้นเดียวกันหลังจัดการทำความสะอาดร่างกายและอุ้มแฟนสาวไปนอนบนเตียงเรียบร้อย ตัวเขาเองก็พยายามข่มตาให้หลับไปด้วย แต่เพราะว่าร่างกายที่ยังตื่นตัวอยู่ เลยทำให้สุดท้าย ภีมตัดสินใจออกมาว่ายน้ำอยู่ในสระส่วนตัวประจำที่พักแห่งนี้เขายังรู้สึกมีอารมณ์ค้างคา แต่จะให้ปลุกเธอขึ้นมาทำอีกรอบก็คงไม่ดี เพราะแฟนเขากำลังอยู่ในช่วงเรียนรู้งาน ซึ่งคงเหนื่อยมาก เขานั้นไม่อยากเอาแต่ใจจนเกินไปประมาณหนึ่งชั่วโมงเศษแล้วที่นาเนียร์หลับไป ในที่สุดหญิงสาวรู้สึกตัวตื่น เพราะเธอยังคงติดค้างอยู่ในความรู้สึก ว่าอยากใช้เวลาในคืนพิเศษกับเจ้าของวันเกิดให้มากกว่านี้หญิงสาวค่อย ๆ ขยับร่างกายลุกขึ้นนั่งบนเตียงกว้าง และก้มมองสำรวจตัวเองที่อยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่งของเจ้าของห้อง ก่อนริมฝีปากอิ่มจะยกยิ้มบางไม่ว่าจะกี่ครั้ง การได้สวมใส่เสื้อผ้าของแฟนหนุ่ม ก็ทำให้เธอรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก คงจะเป็นความรู้สึกที่ว่า กำลังถูกโอบกอดอยู่ตลอดเวลาล่ะมั้งทว่าเมื่อมองไปยังข้างกาย เธอกลับไม่พบคนที่ควรจะนอนอยู่ด้วยกันคิ้วเรียวขมวดเข้
วันต่อมา..."อะไรวะ นี่ไม่คิดจะมาง้อ แถมยังไม่โทรหาจริงดิ" ภีมบ่นพึมพำออกมาด้วยความหัวเสีย เพราะหลังจากเมื่อวานที่เขานอนรอให้แฟนสาวโทรมาง้อทั้งคืน แต่เธอก็ไม่โทรเลย แถมผ่านมาวันนี้อีก ทั้งที่เป็นวันเกิดของเขาแท้ ๆ ถึงจะไปทำงานไกลถึงสิงคโปร์ แต่การส่งข้อความมาอวยพรวันเกิดเขา มันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรนี่ "หรือจะเบื่อกันแล้วนะ" ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาแฟนสาว แต่โทรยังไงเธอก็ไม่รับเหมือนเมื่อวานเลย "หรือจะคุยงานอยู่ เลยปิดเครื่องนะ" เขาได้แต่ถอนหายใจออกมาพรืดยาว พร้อมกับเดินออกจากลิฟต์ เพื่อจะกลับห้องของตัวเอง ภีมใช้คีย์การ์ดแตะเข้าไปในเพนต์เฮาส์หรูของตัวเอง พร้อมกับเดินเข้ามาด้านใน แต่ก็ต้องตกใจ เพราะตอนนี้ในห้องของเขา กลับเต็มไปด้วยลูกโป่งที่ลอยเต็มห้องไปหมด ซึ่งพอชายหนุ่มเห็นแบบนั้นก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ แล้วรีบเดินตามหาแฟนสาวของตัวเอง "พี่เนียร์ อยู่ไหนครับ" ภีมตะโกนออกมาเสียงดัง พร้อมกับเดินเข้าไปในครัว แต่กลับไม่มีใครอยู่เลย ชายหนุ่มจึงเลือกที่จะเดินเข้าไปในห้องนอน ก็ต้องตกใจตะลึงตาค้างกับภาพตรงหน้า "อะไรเนี่ย"ชายหนุ่มจับจ้องหญิงสาวไม่วางตา มองสำรวจเรือนร่างเย้ายวนในชุดบ
หลายเดือนต่อมา... "ป่านนี้พี่เนียร์จะทำอะไรอยู่เนี่ย" หลังจากที่ภีมเรียนวิชาคาบสุดท้ายของวันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มก็รีบขับรถเฟอร์รารี่สีดำของตัวเองมาตามถนน มุ่งตรงสู่บริษัทของแฟนสาว ที่อยู่ไกลจากมหาวิทยาลัยของเขาค่อนข้างมากในตอนนี้เขาเรียนอยู่ปีสอง ส่วนแฟนสาวอย่างนาเนียร์ หญิงสาวได้เรียนจบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และตอนนี้เธอก็ได้เข้าไปทำงานในบริษัทพ่อของตัวเอง "คิดถึงจัง" ชายหนุ่มบ่นพึมพำ พร้อมกับร้องเพลงคลออยากมีความสุข ครั้งแรกเขาว่าจะโทรถามเธอก่อน ว่าหญิงสาวว่างไหม แต่พอคิดดูอีกที อยากไปเซอร์ไพรส์มากกว่า ไม่รู้ว่าถ้าเห็นเขาแล้วจะตกใจมากแค่ไหนและที่เขาตัดสินใจไปหาหญิงสาวที่บริษัทในครั้งนี้ เนื่องจากเขาไม่ได้เจอหน้าเธอมาหลายวันแล้ว เพราะพี่เขาหลังจากที่เรียนจบ ก็ได้ย้ายกลับไปอยู่บ้าน ส่วนภีมก็ย้ายมาอยู่เพนต์เฮาส์ที่พ่อของตัวเองให้คนเตรียมเอาไว้ให้ แล้วงานร้านหมูกะทะที่เขาเคยทำหลังจากเลิกเรียน ตอนนี้ก็ไม่ได้ทำแล้ว เพราะผู้เป็นพ่อสั่งห้าม โดยท่านให้เหตุผลว่าอยากให้ตั้งใจเรียนมากกว่า ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่ได้ขัดอะไร เพราะตอนนี้เขาอยู่ปีสอง งานก็เข้าข้างเยอะ แทบไม่มีเวลาทำอะไรเลย พอข
"มานั่งสิ"พอพ่อของเขาพูดออกมาแบบนั้น พี่ชายของเขาอย่างภาม ก็เดินนำแฟนสาวมานั่งลงที่โต๊ะอาหาร ส่วนแฟนกับลูกของเธอ ก็นั่งลงด้านข้าง"ใบบัวครับ นี่พ่อของผม""สวัสดีค่ะคุณพ่อ หนู 'ใบบัว' นะคะ ส่วนตัวเล็กนี่ชื่อ 'ใบบุญ' ค่ะ สวัสดีคุณปู่เร็วลูก""สวัสดีค่ะคุณปู่ หนูชื่อใบบุญค่ะ เป็นลูกสาวของคุณแม่ใบบัว" เด็กหญิงตัวน้อยพูดน้ำเสียงเจี๊ยวจ๊าวชวนน่าฟัง"น่ารักจังเลย อายุกี่ขวบแล้ว" พ่อของเขาที่นั่งอยู่ ก็เลยสอบถามพี่สะใภ้ด้วยความเอ็นดูหลานสาวตัวน้อย"ห้าขวบแล้วค่ะคุณพ่อ""เข้าโรงเรียนแล้วใช่ไหม""ใช่ค่ะ"พ่อของเขาก็เอ่ยพูดคุยกับพี่สะใภ้ถามเกี่ยวกับสารทุกข์สุขดิบ จนพี่ชายของเขาที่นั่งอยู่ก็ยังไม่ได้แนะนำพี่น้องให้รู้จัก จึงเอ่ยพูดแทรกขึ้นมา"มาต่อกันดีกว่าครับใบบัว นี่พี่ชายของผมชื่อภูมิ""สวัสดีค่ะคุณภูมิ เราน่าจะอายุเท่ากันนะคะ""คุณใบบัวรู้ได้ยังไงครับ""คุณภามบอกค่ะ""อ๋อครับ""แล้วนี่น้องชายของผม ชื่อภีม และนั่งด้านข้างนั้นที่นาเนียร์แฟนของไอ้ภีมมัน""สวัสดีค่ะพี่ใบบัว""สวัสดีจ๊ะน้องนาเนียร์ ยินดีที่ได้รู้จักนะ""สวัสดีครับพี่สะใภ้ ผมภีมนะ""พะ...พี่สะใภ้อะไรกันล่ะค่ะ พี่กับคุณภาม ยังไม่แ
หลายวันต่อมา...ครืด ครืดภีมลืมตาตื่นเพราะได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังรบกวน โดยเขารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าใครโทรมา พอเห็นว่าเป็นอายุทธ เลขาพ่อของตัวเอง ชายหนุ่มกดรับสายทันที เพราะกลัวว่าคนที่นอนกอดเขาอยู่จะตื่น เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันหยุด เขาอยากให้แฟนสาวนอนหลับได้เต็มอิ่ม"ครับคุณอา" ชายหนุ่มตอบเสียงอู้อี้กับปลายสาย(เพิ่งตื่นเหรอครับ)"ใช่ครับคุณอา"(ผมขอโทษด้วยที่โทรมารบกวนตั้งแต่เช้า แต่พอดีคุณภูเพิ่งแจ้งอาเมื่อกี้ ว่าให้โทรบอกเราว่าให้มาทานข้าวด้วยกันที่บ้านเย็นนี้)"เย็นนี้เหรอครับ" เขาพูดทวนพร้อมกับก้มมองคนที่นอนซบอกเขาอยู่(ใช่ หรือว่าเราไม่ว่าง)"ก็ไม่ได้ว่างอะไรครับ พอดีผมมีทำงานตอนเย็น แต่ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวผมจะลาก็ได้"(ครับ แล้วคุณภูก็ให้คุณภีมชวนแฟนมาด้วย ท่านอยากเจอ)"ผมจะลองชวนเธอนะครับ แต่ไม่รู้ว่าเธออยากไปหรือเปล่า" เพราะเขาก็ไม่สามารถที่จะตัดสินแทนแฟนสาวตัวเองได้ ต้องสอบถามความสมัครใจของเธอก่อนว่าอยากไปหรือเปล่า(ครับคุณภีม งั้นอาขอวางสายก่อนนะ""ครับคุณอา" ภีมตอบออกไปพร้อมกับกดตัดสาย และยื่นเอาโทรศัพท์ไปวางไว้ที่เดิมและในขณะนั้นเอง คนที่นอนกอดเขาอยู่ก็ค่อย ๆ กระชับกอ
"ลงไปกันเถอะ"โดยพอคนด้านข้างพูดออกมาแบบนั้น ภีมจึงรีบดันเปิดประตู พร้อมกับเดินลงมายืน ชายหนุ่มมองสำรวจบ้านหลังขนาดไม่ใหญ่มาก"ไปกัน"ราชาเดินนำเขาเข้ามาในบ้าน ส่วนเขาก็รีบเดินตามมาติด ๆ ซึ่งพอเข้ามาด้านในแล้วภีมก็พบกับชายหญิงคู่หนึ่ง ที่กำลังนั่งอยู่ห้องโถงของบ้าน โดยเขาเดาว่าน่าจะเป็นพ่อกับแม่ของแฟนสาวตัวเอง เพราะใบหน้าของชายกลางวัย ค่อนข้างเหมือนกับคนตัวเล็กมาก"อาศักดิ์ น้านันต์สวัสดีครับ""อ้าวราชา สวัสดีลูก แล้วนั่นใครมาด้วยเหรอ""อ๋อ นี่ภีมแฟนของยัยเนียร์ครับ"โดยพอราชาแนะนำเขา ภีมจึงรีบยกมือไหว้ทั้งสองคนอย่างนอบน้อม ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม"หะ! แฟนของลูกสาวอา""ใช่ครับ""ทำไมลูกสาวอา ไม่พาแฟนมาแนะนำให้อารู้จักบ้างเนี่ย" พ่อของคนรัก ก็เดินมายืนอยู่ตรงหน้าเขา"คบกับลูกสาวพ่อนานหรือยัง""จะสองเดือนแล้วครับ""ก็ไม่นาน ลูกสาวพ่อเป็นยังไงบ้าง ดื้อไหม""ไม่เลยครับ พี่เนียร์ไม่เคยดื้อกับผมเลย""พี่เนียร์... เรียกแบบนี้แสดงว่าเป็นรุ่นน้องของลูกสาวพ่อ""ใช่ครับ ผมเพิ่งอยู่ปีหนึ่งครับ""คิดยังไงมาคบกับลูกสาวพ่อ"โดยพอคนด้านหน้าถามมาแบบนั้น เขาก็มีน้ำเสียงอ้ำอึ้ง เพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะตอบไปยัง
นาเนียร์ลืมตาตื่นขึ้นมาในเวลาเช้าที่สดใส พร้อมกับรู้สึกปวดเนื้อปวดตัวไปหมด เพราะโดนคนด้านข้างรังแกทั้งคืนเธอมองตัวเองที่อยู่ในอ้อมกอดของแฟนหนุ่ม ก็รู้สึกไม่ค่อยสบายตัว จึงพยายามที่จะขยับตัวออกแต่ก็โดนคนที่กอด ดึงไปกอดเอาไว้แน่นกว่าเดิม"ปล่อยก่อน""พี่จะไปไหน จะหนีผมเหรอ""จะหนีไปไหนได้ล่ะ ห้องพี่ก็อยู่นี้ ส่วนที่บอกให้ปล่อยคือพี่ปวดฉี่ อยากเข้าห้องน้ำ" พอเธอพูดแบบนั้น คนที่กอดเธออยู่ก็ยอมปล่อยซึ่งหญิงสาวพอเป็นอิสระแล้ว ก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินเข้าห้องน้ำ เพื่อจัดการธุระของตัวเองทันทีโดยพอทำทุกอย่างเสร็จแล้ว ก็รีบเดินกลับมา ก็เห็นเข้ากับคนร่วมห้อง กำลังนั่งอยู่ปลายเตียงพร้อมกับจ้องมองเธออยู่"มานี่ครับ""อะไรอีก น้องภีมไปหาอาบน้ำได้แล้ว วันนี้ตัวเองมีเรียนเช้าไม่ใช่เหรอ""เดินมานี่ครับ"เธอถอนหายใจออกมาพรืดยาว แต่ก็ยอมเดินไปหาคนที่กำลังนั่งยิ้มให้เธออยู่ซึ่งพอนาเนียร์เดินไปถึง ชายหนุ่มก็รีบดึงเธอไปนั่งลงบนตักของเขาทัน"ยิ้มหน่อยสิครับ ยังไม่หายโกรธผมอีกเหรอครับ""สิ่งที่ตัวเองทำ คิดว่าพี่จะหายโกรธง่าย ๆ เหรอ""พี่เนียร์"คนที่กำลังนั่งกอดเธออยู่ จากที่มีสีหน้ายิ้มแย้มก็เริ่มหุบยิ้ม"ส
จากตอนแรกที่เป็นฝ่ายโวยวายเรียกร้องจากอีกฝ่าย กลับกลายเป็นว่าตอนนี้เธอกลับหน้าร้อนเสียเองภีมยกยิ้มกว้างด้วยความพอใจ ริมฝีปากหยักแนบประกบลงบนกลีบปากนุ่ม แล้วเริ่มรุกล้ำ สอดส่งเรียวลิ้นเข้าไปในโพรงปากนุ่มทันทีรสจูบในครั้งนี้เป็นไปอย่างลึกล้ำและนุ่มนวล เหมือนกับว่าเขากำลังต้องการปลอบประโลมเธอด้วยสัมผัสทางกายสองชายหญิงแลกเปลี่ยนรสจูบกัน จนบรรยากาศเริ่มอบอวลไปด้วยความปรารถนามากขึ้นเสียงดูดดังขึ้นภายในห้องนอนกว้าง มือสองคู่ต่างลูบไล้สัมผัสกันอย่างโหยหาในอ้อมกอดของกันและกันเสื้อผ้าที่เคยปกปิดเรือนร่างของคนทั้งสอง ต่างหลุดลุ่ย ร่วงหล่นระเกะระกะ จนผิวเนื้อบางส่วนโผล่พ้นออกมาจากเนื้อผ้าสัมผัสร้อนจากฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่าง และสัดส่วนเว้าโค้งบนร่างกายหญิงสาว บีบคลึงบางจุดเพื่อปลุกเร้าให้ความต้องการของคนใต้ร่างปะทุขึ้นถึงขีดสุด“อึก อื้มม” เสียงครางดังแผ่วออกมาจากลำคอเรียวเล็ก บ่งบอกถึงความพึงพอใจในสัมผัสและรสจูบนี้ภีมปลดเปลื้องเสื้อผ้าบนร่างนวลออกจนหมด เผยผิวกายขาวเนียนและนุ่มมือ เรือนร่างเปลือยเปล่า ไร้ซึ่งสิ่งใดปกปิด แม้แต่ชั้นในก็ไม่หลงเหลือติดกาย“อื้มม พี่เนียร์แฉะไปหมดแล้วครั
พอเลิกเรียนแล้วภีมก็รีบตรงมายังคอนโดของแฟนสาว ด้วยพอลิฟต์เปิดออก เขาก็รีบเดินออกมา พอเดินมาถึงหน้าห้อง ก็ใช้คีย์การ์ดที่ตัวเองมีอยู่ แตะเข้าไปในห้อง"กลิ่นอะไร" ชายหนุ่มบนพึมพำออกมา เพราะหลังจากที่เขาเปิดประตูเข้ามาในห้องแล้ว ก็ได้กลิ่นเหมือนอะไรไหม้แต่เขาก็ไม่สนใจ เดินหาคนรักตัวเอง แต่ไม่พบเธอที่ด้านนอกห้องเลย จึงเดินเข้าไปในห้องนอน พอเปิดประตูแล้วก็มองเห็นแฟนสาวของตัวเองที่กำลังนั่งอยู่ปลายเตียง พร้อมกับจ้องมองมาทางเขา ซึ่งภีมเห็นแบบนั้นก็รีบเดินเข้าไปกอดคนตัวเล็กแต่พอเขากำลังจะกอด คนด้านหน้ากลับเบี่ยงตัวหนี"เป็นอะไรครับ แล้วมือไปโดนอะไรมาทำไมมีแผล" เขาถามคนที่สีหน้าไม่ค่อยดี พร้อมกับมีน้ำตาที่คลอเบ้าอยู่ ภีมเห็นแบบนั้นก็รู้สึกเป็นห่วง แถมมือของเธอยังมีพลาสเตอร์พันรอบนิ้ว".....""พี่เนียร์""น้องภีมเป็นใครกันแน่คะ""ครับ?" โดยพอได้ยินคำถามจากแฟนสาว เขาก็เริ่มงงไปหมดแล้ว เพราะไม่รู้ว่าคนตรงหน้าสื่อถึงอะไร "ผมไม่เข้าใจ""น้องภีมเป็นใครกันแน่""ผมก็ภีมแฟนพี่เนียร์ไงครับ" เขาตอบไปแบบนั้นพร้อมกับนั่งลงด้านข้างหญิงสาว แล้วดึงมือของเธอมาจับเอาไว้ แต่เธอดันชักมือกลับพร้อมกับทำสีหน้าไม่ค