10
อย่าทิ้งกันไปได้ไหม
⏳
ห้าปีที่แล้ว…
ณ คอนโดฯ
ที่เดิม...ห้องเดิม...โซฟาตัวเดิม
“สิบล้าน…ค่ายกเลิกการหมั้นของเรา” น้ำเสียงของเขาเย็นชาและกรีดลึกเข้าไปในใจของเธอ
“ตามที่พ่อของเธอ...เคยขอเอาไว้” ดราก้อนยื่นซองสีน้ำตาล ซองใหญ่เกือบ ๆ สองปึกหนา ๆ ยัดใส่มือของลิลิธเชิงบังคับให้เธอรับมันเอาไว้
“...” คนตัวเล็กค่อย ๆ ก้มหน้ามองดูเงินสดที่อยู่ในซองนั้น มือของเธอสั่นเทาไปหมด
“ดราก้อน...” ลิลิธไม่ได้ตั้งใจจะรับซองเงินนั้น แต่ดราก้อนก็ยัดมันใส่มือของเธอเอาไว้แน่น สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดยิ่งกว่าเงินในมือ คือสายตาเย็นชาของคนที่เธอรัก
“หวังว่าเงินก้อนนี้...มันจะมากพอที่ทำให้เธอออกไปจากชีวิตของฉันจริง ๆ ซะทีนะ…ลิลิธ” สายตาของเขาเย็นชาและปราศจากความรู้สึกใด ๆ
“แล้วถ้าฉันไม่เอาเงินนี้เลยแม้แต่บาทเดียว” ลิลิธสูดหายใจลึก รวบรวมความกล้า ก่อนจะเอ่ยเสียงสั่นแต่แฝงความหนักแน่น
“นายจะไม่ทิ้งฉันไปได้ไหม...”
“ยังไงฉันก็ต้องไปอยู่ดีลิลิธ” คำถามของเธอทำให้ดราก้อนนิ่งเงียบไปชั่วครู่ แต่สุดท้ายแล้วเขาก็เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด ก่อนจะหยิบคีย์การ์ดคอนโดฯ และกุญแจรถหรูวางลงที่โต๊ะตรงหน้าของเธอ
“ฉันให้...หวังว่าจะพอนะ!” ร่างสูงพูดเพียงเท่านั้น ก่อนจะเดินตรงไปที่ประตูบานใหญ่
“ดราก้อน ๆ” คนตัวเล็กร้องไห้พร้อมกับก้มลงกอบโกยทั้งเงินและคีย์การ์ดคอนโดฯ กุญแจรถ ทุกอย่างที่เขาให้เธอมาและวิ่งตามไปรั้งดราก้อนเอาไว้
“ฉันไม่เอาอะไรเลย...ไม่เอาเลย...นายเลิกกับผู้หญิงคนนั้นแล้วกลับมาหาฉันได้ไหม?” เธอยัดซองเงินและทุกอย่างที่เขายกให้คืนไปจนหมด
“ฉันไม่เหลือใครแล้วจริง ๆ อย่าทิ้งฉันไปได้ไหม?” น้ำตาของลิลิธเริ่มไหลออกมาโดยที่เธอไม่สามารถกลั้นมันได้อีกต่อไป
“แล้วตลอดห้าปีที่ผ่านมาล่ะ...นายไม่เคยรักฉันเลยสักนิดเหรอ?” คำถามนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่ยากจะอธิบายออกมาได้ ทั้งคู่เป็นคู่หมั้นหมายมานานเกือบห้าปี สำหรับเธอดราก้อนคือทุกสิ่งทุกอย่าง แต่สำหรับเขาเธอแทบไม่มีความหมายอะไรเลยจริง ๆ น่ะเหรอ
ดราก้อนนิ่งเงียบ มองเธอด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะพูดคำที่ทำให้หัวใจของเธอพังทลายลงไปอย่างสิ้นเชิง
“เธอเองก็น่าจะรู้ดีแก่ใจนะ...ว่าทำไมฉันถึงรักเธอไม่ลง!” คำพูดนั้นฟังดูเรียบง่าย แต่กลับกรีดหัวใจของเธอจนแทบขาดเป็นเสี่ยง ๆ
“ฉันขอโอกาสอีกครั้งได้ไหม นายอยากให้ฉันเป็นแบบไหนนายบอกมาได้เลย”
“ฉันยินดีจะเปลี่ยนแปลงตัวเองทุกอย่างเลย” ลิลิธร้องไห้สะอึกแทบขาดใจ เธอหลับตาลงพยายามเก็บเศษซากของความรู้สึกที่แตกสลาย มือของเธอโอบกอดท่อนแขนแกร่งของเขาไว้แน่นรั้งไม่ให้ไป
“พอเถอะ มันจบแล้วลิลิธ ปล่อยฉันให้มีความสุขสักทีเถอะนะ” คำพูดนั้นเหมือนถูกตอกย้ำลึกลงไปในหัวใจของเธอจนแทบแตกสลาย แววตาของเขาไม่แสดงถึงความลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว ทำให้เธอรู้ว่าทุกสิ่งที่เธอหวังไว้พังทลายลงไปหมด
“นายรักผู้หญิงคนนั้น มากขนาดนั้นเลยเหรอ?” คำพูดของดราก้อนทำให้น้ำตาของเธอไหลอาบสองข้างแก้ม มือเล็ก ๆ ค่อย ๆ ยอมปล่อยออกจากแขนของเขาอย่างช้า ๆ
“….” ดราก้อนเลือกที่จะไม่ตอบอะไรอีก เขาหันหลังเดินปิดประตูเตรียมจะก้าวออกไปจากคอนโดฯ หรูแห่งนี้ แค่เพียงแสงสว่างจากด้านนอกห้องสาดส่องเข้ามากระทบกับดวงตาของเธอ
หญิงสาวก็แทบไม่มีเรี่ยวแรงจะหยัดยืนต่อไปได้แล้ว เธอรวบรวมกำลังที่พอมี รีบวิ่งตามไปกอดรั้งร่างสูงเอาไว้ก่อนที่เขาจะทิ้งเธอไปจริง ๆ
ฟุ่บ!! แขนของเธอรั้งรอบเอวเขาจากด้านหลัง กอดเขาแน่นราวกับกลัวว่าถ้าเธอปล่อย เขาจะหายไปจากชีวิตของเธอตลอดกาล น้ำตาของเธอไหลลงอาบแก้มร้อนผ่าว
“ฉันยอมแล้ว...ยอมปล่อยนายแล้ว” เสียงของเธอสั่นเครือและขาดห้วง แต่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่อัดอั้นมานาน
“แต่ก่อนที่นายจะทิ้งฉันไป...นายช่วยทำเหมือนรักฉันเป็นคืนสุดท้ายได้ไหม?” คนตัวเล็กเอ่ยขอร้องทั้งน้ำตาอาบสองข้างแก้ม
“ฉันขอแค่นี้จริง ๆ.....ฉันไม่ได้ต้องการอะไรเลยจริง ๆ” เธอพูดพร้อมกับคืนเงินและสิ่งของทุกอย่างคืนให้เขาไป
ดราก้อนนิ่งไป ราวกับกำลังต่อสู้กับความรู้สึกที่เขาพยายามซ่อนมาตลอด เขาไม่ขยับ ไม่พูดอะไร แต่ยืนนิ่งให้เธอกอดไว้อย่างนั้น
“นายแค่อยู่กับฉันและแกล้งทำเหมือนว่ารักฉัน...เป็นคืนสุดท้ายได้รึเปล่า?” ลิลิธเอ่ยขอความรักจากคนใจร้าย ด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
“ถือว่าเป็น...คำขอสุดท้ายจากฉันได้ไหม?” มือของเธอค่อย ๆ ลูบจากหน้าท้องขึ้นไปลูบเบา ๆ ที่อกซ้ายของเขา
ดราก้อนเม้มริมฝีปากแน่น เขายังคงเย็นชาและไม่ได้มีท่าทีอ่อนโยนใด ๆ ต่อคำขอนั้น
“แค่คืนเดียวเอง...แล้วฉันจะไม่ร้องขออะไรจากนายอีกเลย” เธอกอดเขาแน่นขึ้น เหมือนพยายามยื้อเศษเสี้ยวความรักที่เหลือเพียงน้อยนิด น้ำตาของเธอไหลลงอาบหน้าไม่หยุด
“เธอแน่ใจเหรอ.....ว่าเธอจะแลกคืนนี้ด้วยเงินสิบล้านน่ะ?” เขาค่อย ๆ หันกลับมา ประคองใบหน้าเธอเงยขึ้นสบสายตาของเขา
“...นะ...แน่ใจ” คนตัวเล็กพยักหน้าตอบกลับไปทั้งน้ำตา
“ได้...คืนนี้ฉันจะอยู่กับเธอจนกว่าฟ้าสว่าง” ดราก้อนพยักหน้ารับข้อเสนอนั้น ก่อนจะใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้าที่ร้อนผ่าวของลิลิธ
คนตัวเล็กเขย่งสุดปลายเท้าของเธอ และเงยหน้าขึ้นไปประทับจูบอีกฝ่ายทั้งน้ำตา เธอบดขยี้ริมฝีปากของเขา และพยายามดื่มด่ำกับรสชาติจูบสุดท้ายของชายอันเป็นที่รัก
🐉_____🧝🏻♀️
สามารถเพิ่มเติมความฟิน ความอิน และอ่านรีวิวเรื่องนี้ได้ที่พื้นที่ในเน็ต
#อยู่ในตะเกียงแก้ว
#lilithsdragonพันธะสวาทมังกร
#พันธะสวาทมังกร
#เพลงลิลิธถึงดราก้อน
#ลิลิธดราก้อน
11คืนที่มีแค่เพียงเรา(มีภาพประกอบ)ภายในคอนโดฯ หรูที่เงียบสงัด เสียงลมหายใจของลิลิธยังคงสั่นระรัวริมฝีปากเล็กยังคงตักตวงความสุขสุดท้ายจากริมฝีปากของเขาทั้งน้ำตา“ต่อให้ยื้อเวลาเอาไว้...สุดท้ายเธอก็ต้องเจ็บอยู่ดีนะ” ดราก้อนถอนริมฝีปากออกจากจูบสุดท้าย แววตาของเขาไร้ความรู้สึกใด ๆ แม้เพียงเสี้ยวเดียวที่เธอหวังจะได้เห็นความอ่อนโยน เขายังคงมองเธอด้วยสายตาเรียบนิ่ง ราวกับเธอเป็นเพียงธาตุอากาศสำหรับเขาไปแล้ว“ฉันรู้...ดราก้อน...ฉันรู้แล้วว่าไม่รัก” ร่างเล็กในอ้อมแขนเขาเริ่มสะอื้น เธอกำเสื้อของเขาไว้แน่นอย่างไม่ยอมปล่อย น้ำตาไหลอาบแก้มในขณะที่เธอซบหน้าลงบนอกแกร่ง ความเงียบงันของดราก้อนคือคำตอบที่เจ็บปวดที่สุด“แต่ฉันแค่อยากเก็บความทรงจำดี ๆ ของเรา...ไว้ในใจของฉัน” เสียงของเธอสั่นเครือ“ให้มันเป็นค่ำคืนสุดท้าย”“ที่มีแค่เราได้ไหม?”“มีแค่ดราก้อน กับลิลิธ แค่นี้ได้ไหม?” เธอพึมพำออกมาด้วยน้ำเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยินดราก้อนยังคงนิ่งเงียบ เขาไม่ตอบคำถามนั้น แต่กลับยกมือขึ้นลูบผมของเธอเบา ๆ ซึ่งเป็นการกระทำที่เหมือนจะปลอบประโลม แต่กลับทำให้หัวใจของลิลิธยิ่งแตกสลาย”ได้...คืนนี้มีแค่เธอกับฉัน” ดราก้
12ลืมเรื่องของเราเสียงหอบเหนื่อยของทั้งคู่สอดประสานกันในความเงียบงัน ผิวกายแนบชิดสนิทกัน ร่องรักของเธอดูดกลืนกินแท่งรักเข้าไปในตัวจมมิดด้าม“ฉะ...ฉัน...ไม่...ไม่ไหวแล้ว (กรี๊ด)” เธอกรีดร้องในลำคอลั่น กลางกายกระตุกเร่า ร่องรักตอดรัดแน่นจนยากจะเคลื่อนไหว มือหนาบีบข้อเท้าของเธอจนแทบแหลกคามือสวบ... ตับ ตับ ตับ!! เสียงเรือนร่างของทั้งคู่กระทบกระทั่งดังก้องไปทั่วห้องมือหนาลูบจับเรียวขาสวยของเธอที่พาดอยู่บนไหล่กว้าง แล้วบีบขยำที่ข้อเท้าของเธอจนแทบแหลกคามือ สะโพกหนักถาโถมกายกระแทกซ้ำลึกเข้าไปในตัวของเธอ ก่อนจะบดขยี้ควงแท่งรักวนซ้ำ ๆ ภายในร่องรักที่ร้อนระอุนั้น“ซี้ด... อื้อ ...อื้อ” คนตัวเล็กครางเสียงสั่น ร่างบางบิดเกร็งกระตุกถี่รับแรงกระแทกที่หนักหน่วงนั้นสวบ...ตับ ตับ ตับ... ร่างสูงถอนแก่นกายออกเกือบสุดและดันสวนเข้าไปในตัวของเธอจมมิดด้ามซ้ำ ๆ“ซี้ด...อะ...โอ้...จุก...อะ...อื้อดรา...ก้อน” ฝ่ามือเล็กบีบมือของเขาแน่น เธอรู้สึกเหมือนใจแทบขาดความเสียวซ่านที่ได้รับมันทรมานเหลือจะทนร่างบางกัดริมฝีปากแน่นเธอหลับตาปี๋ และดิ้นพล่านในวินาทีที่เธอแตะถึงจุดสุดยอดติดกันถึงสองครั้งติดกัน เรียวขาของ
13ยิ่งวิ่งตาม...ยิ่งไกลห่าง(ภาพประกอบ มีในนิยายทุกเรื่องของอยู่ในตะเกียงแก้ว แต่ถ้าทางแอปที่ท่านอ่านไม่รองรับ*** แอปคือคนตั้งกฏค่ะ ไม่ใช่นักเขียน ดรีมและ ไฮโนเวลไรท์ไม่สะดวกส่งให้นักอ่านทุกคน และทุกเรื่อง เพราะมีภาพประกอบเยอะมาก*** บางภาพเคลื่อนไหวได้ และที่สำคัญคือจำนวนนักอ่านก็เยอะมากเช่นกัน ถ้าสนใจอ่านแบบมีภาพประกอบ(ฟรีในเรื่อง) ติดต่อเพจ : อยู่ในตะเกียงแก้วค่ะ )“ถ้าไม่มีนาย...ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าจะอยู่ได้ยังไง?” เสียงของเธอเบาและแผ่วจนแทบไม่ได้ยิน ลิลิธไม่รู้เลยว่าตัวเองดื่มไวน์ไปแล้วกี่แก้ว เพราะดราก้อนเป็นคนรินเติมให้เธออยู่แบบนั้น“.....” ดราก้อนไม่ได้ตอบอะไร เขาเพียงกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น ร่างกายของทั้งคู่แนบสนิทจนไม่มีช่องว่าง“ฉัน...ขอโทษนะ” น้ำเสียงของเขาแฝงความอ่อนโยนที่เธอไม่เคยได้ยินบ่อยนัก มันเป็นคำขอโทษที่เจ็บปวดมากมายเหลือเกินสำหรับเธอลิลิธกัดริมฝีปากแน่นจนเลือดซิบ เธอค่อย ๆ ยกมือขึ้นแตะใบหน้าของเขาอย่างแผ่วเบาปลายนิ้วเล็กไล้ไปตามกรอบหน้าที่เธอจดจำได้ดี แม้ในความมืดดวงตาของเธอยังคงสะท้อนแววแห่งความรักที่ลึกซึ้งและความเจ็บปวดที่ยากจะอธิบายได้“หะหื้อ หื้อ...หื
14ไม่เหลืออะไรเลย(เหตุการณ์ เกิดขึ้นเมื่อ ห้าปีก่อนหน้า)ลิลิธยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียงกอดหมอนที่ยังมีกลิ่นกายของคนรักเอาไว้แน่น มือเล็กกำผ้าห่มดึงขึ้นมาเช็ดคราบน้ำตายังคงไหลออกมาไม่ยอมหยุดเสียงโทรศัพท์มือถือยังคงสั่นอยู่ข้างเตียงอย่างต่อเนื่อง ไม่ยอมหยุด มันยังคงครืด...ครืด ...ครืด สั่นแล้วสั่นเล่า จนท้ายที่สุดเธอก็จำต้องลุกขึ้นมาเพื่อรับสายนั้นและทันทีที่กดรับเสียงปลายสายก็ตะโกนสวนกลับมาในทันทีบทสนทนาทางโทรศัพท์(คิดจะหนีหนี้ที่พ่อมึงก่อเอาไว้ใช่ไหมฮะ...ถึงไม่รับสายโทรศัพท์ของกูน่ะ) เสียงตวาดจากชายแก่ทำให้ลิลิธชะงักไปเล็กน้อย“แต่…หนี้ของพ่อตามจริงแล้วลิลิธก็ขายบ้านขายรถ ขายที่ดินทุกอย่างที่มีใช้ให้กับเจ้าหนี้ทุกคนไปหมดแล้วนะคะ”“คือมันอาจจะใช้ได้ไม่ทั้งหมดแต่ตอนนี้มันไม่เหลือทรัพย์สินอะไรให้ขายแล้วจริง ๆ ค่ะ” เธอพยายามควบคุมลมหายใจเพื่อจะตอบโต้ แต่เสียงของเธอกลับแผ่วเบาเหมือนลมกระซิบ“หนี้ที่พ่อเขาติดเอาไว้มันเยอะมาก ๆ ลิลิธก็พยายามแล้วจริง ๆ ค่ะ” ลิลิธอ้อนวอนชายวัยหกสิบทั้งน้ำตา(กูไม่สนหรอกว่า...มึงพยายามแล้วรึยัง แต่หนี้กูที่พ่อมึงยืมไปเกือบสามสิบล้าน ไม่ใช่สามสิบบาท)(มึงใช
15ผู้หญิงที่เขา(ไม่)รัก(เหตุการณ์ เกิดขึ้นเมื่อ ห้าปีก่อนหน้า)ลิลิธกำโทรศัพท์ไว้แน่นอกซ้ายรู้สึกเจ็บหน่วง ๆ อย่างยากจะอธิบายได้ ความเงียบในห้องที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่พึ่งพิง บัดนี้กลับทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกล้อมด้วยกำแพงแห่งความกลัว เสียงลมหายใจของเธอหนักหน่วง“แต่ครั้งนี้ฉันไม่ได้...เรียกร้องความสนใจจริง ๆ นะ” เธอพึมพำกับตัวเอง น้ำเสียงเบาหวิวแต่เต็มไปด้วยความแน่วแน่ในความสิ้นหวังลิลิธปาดน้ำตา เธอรู้สึกกลัวและอ้างว้างเหมือนโลกใบนี้มันกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ คนตัวเล็กเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าและหยิบเอาเสื้อผ้าของดราก้อนมานอนกอดไว้แน่นหลังจากที่เธอพยายามตั้งสติสักพักใหญ่ ๆ ลิลิธก็รีบเก็บข้าวของสำคัญเพื่อเตรียมจะย้ายออกไปอยู่ที่อื่นชั่วคราวในทันที เธอเตรียมกระเป๋าเดินทางใบเล็กออกมาก่อนจะเริ่มเก็บของใช้จำเป็นใส่กระเป๋าอย่างเร่งรีบ ความคิดในหัวสับสนวุ่นวาย แต่ความหวาดระแวงจากชายแปลกคนนั้น ที่ก็ไม่รู้เป็นลูกน้องของเจ้าหนี้คนไหนส่งมากันแน่“ถ้ามันตามเรามาถึงที่นี่ได้ ที่อื่นก็คงไม่ปลอดภัยอยู่ดี” ลิลิธทำได้แค่ถอนหายใจ ขณะมือยังคงเก็บเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวลงกระเป๋าในตอนที่เธอทำความสะอา
16ถ้าโลกนี้...ไม่มีฉัน(เหตุการณ์ในอดีต)“อื้อ...อื้อ” คนตัวเล็กน้ำตาไหลรินหยดลงแผ่นกระดาษจนหมึกที่เขียนเลอะเทอะไปหมด จนแทบอ่านไม่ออกเลยว่าเขียนอะไรลงไปบ้าง เธอจึงตัดสินใจวางกระดาษนั้นลงที่เบาะข้าง ๆ และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถือด้วยมือที่สั่น ๆ เมื่อปลายนิ้วกดปุ่มอัดวิดีโอได้...ลิลิธพยายามจะอ้าปากพูดแต่เธอก็จุกอกจนเหมือนพูดอะไรไม่ออก“ฉัน...ฮะอื้อ” คนตัวเล็กพูดไปก็สะอึกไป“ขอโทษนะที่ฉันไม่ได้โทรไปลานายด้วยตัวเอง” ลิลิธปาดน้ำตาและกัดฟันฝืนยิ้มไปที่กล้อง“...แต่ฉันคิดว่าถึงโทรไปนายก็คงไม่ว่างรับสายอยู่ดี” เธอพยายามหัวเราะทั้งน้ำตา“อื้อ...หะ...หื้อ” ลิลิธสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะจ้องไปที่กล้องตรงหน้าทั้งน้ำตา“ในวันที่ฉันไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว...นายต้องมีความสุขมาก ๆ นะ” ลิลิธมองดูตัวเองในกล้องด้วยสายตาที่ว่างเปล่า“อ้อ.....แล้วไม่ต้องรู้สึกผิดกับการตัดสินใจของฉันนะ” หญิงสาวยิ้มทั้งน้ำตา“เพราะว่าฉัน...คิดดีแล้วจริง ๆ” ลิลิธค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นจ้องมองผืนน้ำสีดำสนิทที่ทอดยาวออกไปจนสุดสายตา ดวงตาแดงช้ำของเธอสะท้อนแสงจันทร์ที่กำลังลอยเด่นอยู่กลางฟ้า“ฉันคิดดี...แล้ว...ฮื้อ ๆ ๆ” เธอพูดย้ำอีกครั
17บทเรียนรัก(มีภาพประกอบ)(เหตุการณ์ในอดีต จุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่)บนเตียงของดราก้อนริมฝีปากของทั้งคู่จูบกันอย่างดูดดื่มไม่ห่างจากกันแม้แต่เสี้ยววินาที ความรักของหนุ่มสาวในวัยนี้มันร้อนแรง เร่าร้อน และยากเกินจะหักห้ามใจได้ดราก้อนจ้องมองแฟนสาวของเขาด้วยแววตาที่ลึกล้ำและเต็มไปด้วยความปรารถนาในตัวของเธอ ผิวของเขาแนบชิดจนเธอสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น มือหนาของเขาลูบไล้ที่แก้มของเธอเบา ๆ ก่อนจะเลื่อนลงมาตามแนวกรอบคอ นิ้วมือที่อ่อนโยนเกลี่ยผมที่ปรกหน้าผากเธอออกอย่างแผ่วเบาเขาไม่ได้รีบร้อนและรุนแรงใด ๆ แต่กระทำทุกอย่างลงไปอย่างนุ่มนวลฟุ่บ! คนตัวเล็กยกขึ้นกุมทับฝ่ามือหนาของเขา“ทำ...เบา ๆ นะ ฉัน...กลัวนะ” ลิลิธเอ่ยบอกดราก้อนไปด้วยความกังวลใจเล็กน้อยเพราะมันเป็นครั้งแรกของเธอจริง ๆ“ไม่ต้องกลัว...เจ็บแค่ตอนแรกเท่านั้นแหละ” เสียงกระซิบแผ่วเบาดังข้างหูของเธอ“ไม่ต้องเกร็งนะ เดี๋ยวฉันเป็นคนทำเอง “ ดราก้อนค่อย ๆ กดร่างบางนอนราบลงไปกับโซฟาอย่างนุ่มนวล และโน้มใบหน้าเข้าไปจูบเธอซ้ำอีกครั้งก่อนจะค่อย ๆ เคลื่อนต่ำลงจากริมฝีปากของเธอลิ้นอุ่นของเขาแตะเบา ๆ บนแก้มก่อนจะลากลงมาที่แนวกราม เธอ
18รักเกินจะเผื่อใจ(มีภาพประกอบ)(เหตุการณ์ในอดีตช่วงวัยรุ่นของทั้งคู่)“อัก...อื้อ...โห่ว... ซี้ด” เสียงหอบหายใจของลิลิธเริ่มกระท่อนกระแท่นมากขึ้น ความร้อนภายในร่างกายของเธอเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และเธอเริ่มสูญเสียการควบคุมตัวเอง ร่างบางเกร็งกระตุกเร่า ๆ บนหน้าตักแกร่งของคนรัก“ดะ...ดราก้อน...ดราก้อน!! ไม่ไหว...อื้อ...อะ...โอ๊ย...ไม่ ๆ ไม่” เสียงของเธอขาดหายไปอีกครั้งเมื่อเขาเร่งจังหวะการเคลื่อนไหวของเขา ทำให้เธอต้องกัดริมฝีปากแน่นเพื่อไม่ให้เสียงครางเล็ดลอดออกมาสัมผัสของเขาทำให้ความกลัวในใจของเธอคลายลงทีละน้อย“เสียวโคตร...โอ่ว...อะ...อ๊ะ” ดราก้อนโน้มใบหน้าลงมาใกล้จนลมหายใจของเขาแทบจะสัมผัสผิวแก้มของเธอลิลิธหลับตาลงช้า ๆ ใบหน้าสวยเงยขึ้นอย่างช้า ๆ ปล่อยให้สัมผัสของเขาประทับลงที่ริมฝีปากอย่างแผ่วเบา รสจูบที่อ่อนโยนค่อย ๆ ลึกซึ้งขึ้นตามจังหวะหัวใจที่เต้นแรงของพวกเขาทั้งสอง ขณะที่แท่งรักอาบเลือดบริสุทธิ์ยังคงกระแทกเข้าหาซ้ำ ๆ“ฉันต้องการเธอ...เธอแค่คนเดียว” น้ำเสียงของเขาก้องกังวานในหัว ราวกับคำมั่นสัญญาที่ไม่มีวันลบเลือนไปได้“ฉัน...เสียว...อื้อ ๆ ๆ จุก...อื้อจุกมาก ๆ” ลิลิธพึมพำเสียง
40วันเกิดของลูกเรา(มีภาพประกอบ)ณ โรงพยาบาล ROMI เสียงฝีเท้าของลิลิธและดราก้อนดังสะท้อนในโถงทางเดินยาวของโรงพยาบาลอย่างพร้อมเพรียงกัน แต่ดราก้อนเดินตามหลังเธอมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขาไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่ก้าวออกจากรถ เพียงแต่จ้องมองหลังของเธอเพียงเท่านั้น ลิลิธเร่งฝีเท้าเดินมาหยุดอยู่หน้าประตูห้องผู้ป่วยที่มีกระจกใสกั้นอยู่เบื้องหน้า ภายในห้องนั้น ลูซิเฟอร์นอนหลับสนิทบนเตียงผู้ป่วย เครื่องช่วยหายใจและสายให้น้ำเกลือเชื่อมต่ออยู่กับร่างเล็ก ๆ ของเขา แววตาของแม่เต็มไปด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า ริมฝีปากสั่นระริก เธอพยายามกลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้เล็ดลอดออกมา ยิ่งเห็นว่าลูกชายต้องทั้งโดนเจาะจากน้ำเกลือ โดนผ่าตัดมากมาย มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดใจ เพราะถ้าเป็นไปได้เธออยากจะเจ็บแทนลูกชายเสียเหลือเกิน“เดี๋ยวลูกก็หาย อย่าคิดมากเลยน่า” ดราก้อนพยายามหันไปปลอบลิลิธเบา ๆ เสียงของเขาทุ้มลึกแต่นุ่มนวลผิดวิสัย“…” เธอยังคงทำเหมือนว่าไม่มีดราก้อนยืนอยู่ตรงนั้น จนกระทั่งประตูอีกด้านหนึ่งก็ถูกเปิดออก“มากันแต่เช้าเลยนะครับเนี่ย” หมอประจำตัวของลูซิเฟอร์เดินออกมาพร้อมกับแฟ้มเอกสารในมือ เขามีสีหน้าผ่อนคลายมาก
39อย่ากลับไปเป็นผู้หญิงคนนั้น“อ้าวเหรอ?” ดราก้อนขมวดคิ้วเล็กน้อย จงใจพูดต่อด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน“แต่เท่าที่ฉันรู้มาคือ…เธอมีมาเฟียเลี้ยงดูอย่างดีไม่ใช่เหรอ?” ร่างสูงจับปลายคางของลิลิธให้เงยหน้าขึ้นสบตากับเขาแบบจัง ๆ“มาเฟีย?” ลิลิธเลิกคิ้วขึ้น ใบหน้าของเธอไม่แสดงความตกใจเลยแม้แต่น้อย“ทำไม...หรือว่ามันรับไม่ได้เรื่องลูกของเรา” เขาถามต่อเหมือนพยายามจะปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมด“มันก็เลยทิ้งเธอ?” สายตาที่ดราก้อนใช้มองลิลิธเริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อยฟุ่บ! คนตัวเล็กยกมือปัดมือของเขาอย่างแรง“เหอะ ๆ ถ้านายจะมโนเก่งขนาดนี้...ไปเขียนนิยายไหมดราก้อน?” ลิลิธถอนหายใจใส่หน้าของเขาและมองดราก้อนแบบหัวจรดเท้าอีกครั้ง“จริง ๆ ตอนนี้ฉันก็...โสดนะ ไม่ได้คบใครจริงจัง” ร่างสูงเอ่ยถามเธอไปด้วยน้ำเสียงเดิมที่เขาเคยใช้“เธออยากจะลองกลับมาคบกันดูไหม?” แววตาของเขาบ่งบอกว่าเขาไม่ได้พูดเล่น ๆ“ถ้าบนโลกนี้มีนายเป็นผู้ชายคนสุดท้ายละก็...ฉันยอมใช้ SEX TOY ต่อไปดีกว่า” “ไม่เอาน่า ปากกับใจตรงกันหน่อยสิ” ดราก้อนกระตุกยิ้มมุมปากอย่างไม่ได้สะทกสะท้านใด ๆ กับคำพูดของอีกฝ่าย“เธอควรจะดีใจมากต่างหาก ที่ฉันเป็นฝ่ายเดินกลับ
38สบายดีใช่ไหม?“พ่อเขา...” ลิลิธตอบคำถามของหมอด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น“ตายไปนานแล้วค่ะ”เธอหลบสายตาของหมอ พลางกำมือตัวเองแน่นเพื่อปิดบังความสั่นไหวในใจ“อ๋อ...ถ้างั้นหมอต้องขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ” หมอนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง“เอ่อ...แต่ถ้าเราไม่สามารถใช้ไขกระดูกของทั้งพ่อและแม่เด็กได้เนี่ย เราคงต้องรอผลจากธนาคารไขกระดูกครับ” หมออธิบายเพิ่มเติมด้วยใบหน้าที่ดูจะหนักใจมากขึ้น“แล้วมันนานมากไหมคะ?” ลิลิธเอ่ยถามด้วยความกังวลใจ เธอรู้ว่าอาการป่วยของลูกสำคัญ แต่เธอก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าคนคนนั้นจะยอมช่วยลูกของเธอรึเปล่า และเธอก็ไม่อยากจะต้องมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับเขาอีก“ผมไม่แน่ใจเลยครับว่าจะเร็วหรือช้า” หมอถอนหายใจออกมาอีกครั้ง“ตามจริงทางเราได้ส่งข้อมูลของน้องลูซิเฟอร์เข้าสู่ระบบแล้วตั้งแต่ตอนที่คุณแม่มายื่นเรื่องไว้”“ยังไงทางโรงพยาบาลจะเร่งดำเนินการหาผู้บริจาคที่เข้ากันได้ไปเรื่อย ๆ แต่ระหว่างนี้สิ่งที่เราทำได้คือรักษาไปตามอาการ”“แล้วก็ช่วยบำรุงร่างกายเขาให้แข็งแรงที่สุดก่อน ที่สำคัญเลยคือต้องเฝ้าระวังการติดเชื้ออย่างใกล้ชิด”“ยังไงฝากหมอด้วยนะคะ เท่าไหร่ฉันก
🐉_______🧝🏻♀️37ที่เดิม...แต่ไม่เหมือนเดิมกรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย เสียงกัปตันเครื่องบินดังผ่านลำโพงในห้องโดยสาร ขณะที่เครื่องบินกำลังลดระดับเพื่อลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ“เรียนท่านผู้โดยสารที่เคารพ ขณะนี้เที่ยวบิน TT431 ของเรากำลังลดระดับเพื่อเตรียมตัวลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย”“ขอขอบพระคุณที่ท่านเลือกเดินทางกับเหนือฟ้าไทยในครั้งนี้ และสำหรับผู้โดยสารชาวไทยทุกท่าน...”“และขอต้อนรับผู้โดยสารไทยทุกคน...กลับบ้าน” เสียงของกัปตันหยุดชั่วครู่ ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงอบอุ่น‘กลับบ้าน?’ ลิลิธสูดลมหายใจลึก ๆ และมองออกไปยังนอกหน้าต่างอีกครั้ง เสียงล้อเครื่องบินกระแทกพื้นรันเวย์ดังขึ้น ลิลิธจับมือลูซิเฟอร์แน่นพลางสูดหายใจลึก ๆ“แม่กลัวเหรอครับ?” ลูซิเฟอร์รีบหันมาใช้มือเล็ก ๆ ของเขากุมมือแม่ตัวเองไว้แน่น“เปล่าครับ...แม่แค่กำลังตื่นเต้นน่ะ” ลิลิธยิ้มกับท่าทีของลูกชายและส่ายหน้าเบา ๆ“พี่เฟอร์ก็ตื่นเต้นเหมือนกันเลย พี่เฟอร์อยากรู้แล้วว่าประเทศไทยจะเหมือนกับฝรั่งเศสไหม?” ลูซิเฟอร์พูดด้วยใบหน้าที่สดใสร่าเริง“…อืมหื้อ” ลิลิธฝืนยิ้มตอบกลับไป เพราะลูซิเฟอร์ยังไม่รู้เลยด
🐉______🧝🏻♀️36ความผิดของแม่(มีภาพประกอบ)25 DECEMBERปีที่สี่ของลูซิเฟอร์ คริสต์มาสปีนี้มาเยือนอีกครั้ง แต่บรรยากาศอบอุ่นในบ้านกลับเงียบเหงากว่าที่เคย หลังจากการจากไปของป้าลีเมื่อกลางปีด้วยโรคมะเร็ง บ้านหลังใหญ่ใจกลางกรุงปารีสที่เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของครอบครัว บัดนี้เหลือเพียงลิลิธกับลูซิเฟอร์สองแม่ลูกเท่านั้น เนื่องจากคุณลุงบรูซตรอมใจเรื่องการจากไปของภรรยาอันเป็นที่รัก เลยตัดสินใจย้ายไปอยู่บ้านพักคนชราในชานเมือง และยกทรัพย์สมบัติทุกอย่างให้กับลิลิธกับลูซิเฟอร์ทั้งหมด เพราะตัวท่านทั้งสองไม่มีลูกไม่มีหลาน และพวกท่านก็เอ็นดูลิลิธเหมือนลูกแท้ ๆ ทางด้านของลิเดียและลีออง เมื่อลิเดียเรียนจบ ลีอองก็จำต้องมารับน้องสาวกลับไปอยู่ที่ไทยตามเดิม ทั้งสองก็ไม่ลืมที่จะชวนลิลิธให้ย้ายกลับด้วยกัน แต่ในตอนนั้นเธอไม่มีความคิดที่จะกลับไปไทยเลย เพราะที่ประเทศไทยมีแต่ความทรงจำที่เลวร้าย บวกกับกำลังเปิดแบรนด์เสื้อผ้าเล็ก ๆ ในฝรั่งเศสซึ่งตอนนี้ก็กำลังไปได้ดีมาก ๆ เลยด้วย ดังนั้นวันเกิดปีนี้ของลูซิเฟอร์ จึงเงียบเหงากว่าทุก ๆ ปี ในค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลองนี้ ลูซิเฟอร์ในวัย 4 ขวบ ยังคงสร้างรอยยิ้มให
35baby's first christmas (มีภาพประกอบ) หลังจากที่ลูซิเฟอร์ลืมตาดูโลก เขาก็เป็นผู้ที่เปลี่ยนโลกทั้งใบของลิลิธไปตลอดกาล ในทุกเช้าเธอจะตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่ว่าอยากมีชีวิตอยู่ไปนาน ๆ เพื่อดูการเติบโตของลูกชายคนนี้ สำหรับเธอแล้วหน้าที่ของแม่ ไม่เคยเหนื่อย ไม่เคยบ่น ไม่เคยท้อเลย เพราะทุกวินาทีที่เหลือบนโลกนี้เธอยกให้ลูกชายคนนี้ทั้งหมด “ทำไมพี่ลิลิธถึงตั้งชื่อเจ้าอ้วนว่า...ลูซิเฟอร์เหรอคะ?” ลิเดียเอ่ยถามขณะที่เธอมานั่งช่วยลิลิธเลี้ยงลูซิเฟอร์ในตอนที่เธอกำลังนั่งทำรายงานส่งทางมหา’ลัย“เพราะตามตำนานแล้ว ลูซิเฟอร์คือคู่หูคนเดียวของลิลิธน่ะ” ลิลิธหันไปตบก้นลูกชายที่กำลังถือขวดนมนั่งมองหน้าลิเดียกับลิลิธสลับไปสลับมา“และ ลูซิเฟอร์ ในอีกความหมายคือผู้ที่อยู่เหนืออำนาจแห่งมังกร”“เป็นชายผู้ที่เกิดจากความมืดมิด แต่สามารถส่องแสงสว่างได้ด้วยตนเอง”“ความหมายลึกซึ้งมากเลยนะคะ” ลิเดียนั่งฟังพร้อมกับหันไปเล่นกับเจ้าลูซิเฟอร์ต่อ ขณะที่ลิลิธก็นั่งทำงานไปเรื่อย ๆ พอเสร็จงานหันกลับมาทั้งคุณน้าทั้งคุณหลานก็หลับปุ๋ยนอนซบกันไปก่อนแล้ว“ใครกล่อมใครกันเนี่ย หลับคู่เลย” ลิลิธหยิบผ้าห่มมาห่มให้ทั้งคู่ ใ
34ดวงใจลิลิธ(มีภาพประกอบ)ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในเมืองปารีส ดวงตาเธอพร่าไปด้วยน้ำตาเมื่อคำพูดของหมอสะท้อนอยู่ในหัว ลิลิธยังคงนั่งนิ่งหลังจากที่หมอพูดจบ ใจเธอเต้นแรงด้วยความตกใจและสับสน เมื่อได้ฟังผลตรวจบอกว่า...เธอกำลังตั้งครรภ์ได้เกือบ ๆ หกสัปดาห์แล้ว ภาพคืนสุดท้ายที่เธอกับดราก้อนมีอะไรกันอย่างลึกซึ้งย้อนกลับเข้ามาในหัวของเธอในทันที เธอพยายามรวบรวมสติและหันไปมองหมอและพยาบาลชาวฝรั่งเศสที่ยืนอยู่ตรงหน้า“แล้วลูกของฉันจะแข็งแรงไหมคะ?” ลิลิธเอ่ยถามด้วยภาษาอังกฤษ น้ำเสียงของเธอสั่นคลอนมือเล็ก ๆ ลูบท้องตัวเองด้วยความกังวลที่ไม่สามารถจะอธิบายออกมาได้เลยทั้งคุณหมอและคุณพยาบาลมองหน้ากันด้วยแววตาเคร่งเครียด ก่อนหมอจะเป็นฝ่ายตอบเธอด้วยท่าทีที่ไม่ค่อยมั่นใจนัก“ตอนนี้เราไม่สามารถบอกได้แน่นอนเพราะอายุครรภ์ยังไม่มาก”“แต่....จากข้อมูลเบื้องต้นแล้ว คุณเคยได้รับยาต้านโรคซึมเศร้า ซึ่งมันเป็นตัวยาที่อาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทั้งทางร่างกายและสมองของเด็กโดยตรง”“ดังนั้นหมอจึงแนะนำว่าถ้าไม่อยากเสี่ยงก็ควรจะ...ยุติการตั้ง...” หมออธิบายเป็นภาษาอังกฤษอย่างใจเย็น เพราะกลัวจะกระทบกระเทือนต่อจิตใจของเธอ“ไ
33ของฝากจากอดีตคู่หมั้น(เหตุการณ์ก่อนหน้า ห้าปี) ลิลิธลืมตาขึ้นช้า ๆ ความเจ็บปวดแล่นเข้ามาในทุกส่วนของร่างกาย ลำคอแสบจนแทบกลืนน้ำลายไม่ได้ ดวงตาพร่ามัวจากแสงไฟที่สาดเข้ามา เธอกะพริบตาหลายครั้งเพื่อปรับแสงรอบตัว ภาพห้องสีขาวสะอาดค่อย ๆ ชัดเจนขึ้น เสียงเครื่องวัดชีพจรดังเป็นจังหวะเบา ๆ อยู่ข้างเตียง สายน้ำเกลือที่เสียบเข้าทางเส้นเลือดของเธอ สายตาของเธอเลื่อนขึ้นไปเห็นรูปดาวสีแดงที่แขวนอยู่ตรงหัวเตียง ซึ่งมันดูแปลกตามาก ๆ และในตอนที่เธอพยายามจะขยับตัว เธอก็พบว่าข้อมือทั้งสองข้างและข้อเท้าของเธอถูกมัดไว้ด้วยสายรัดแน่นกับเตียงครืด ครืด เสียงขยับตัวและเชือกที่รั้งกับเตียงดังขึ้นเมื่อเธอพยายามจะดึงเชือกนั้นแรง ๆ“นี่มันอะไรกันเนี่ย?” เธออุทานขึ้นมาด้วยความตกใจที่ถูกมัดมือและเท้าขนาดนี้ แต่แม้ว่าเธอพยายามดิ้นแต่กลับมีแรงไม่พอที่จะหลุดพ้นไปได้เลย เชือกยิ่งรัดแน่นมากขึ้นทุกที“อ้าว...ตื่นแล้วเหรอ?” เสียงทุ้มของชายคนหนึ่งดังขึ้นจากมุมห้อง ลิลิธหันไปมอง ชายหนุ่มในชุดสูทหรูยืนถือโทรศัพท์อยู่ เขารีบกดปุ่มเรียกหมอและพยาบาลเมื่อเห็นเธอฟื้นขึ้นมา“คุณ...คือใคร?” ร่างบางขมวดคิ้วมองอีกฝ่ายอย่างหวา
32จมทะเลน้ำตา(เหตุการณ์ในอดีตตอนที่ดราก้อนขอเลิกลิลิธ) สายตาของทุกคนในงานต่างจับจ้องมาที่ลิลิธ ไลออน และดราก้อน การปะทะคารมของทั้งสามคนสร้างบรรยากาศตึงเครียดที่แผ่ไปทั่วทั้งงาน“ฉันรู้ว่าเธอทำเพื่อประชดฉัน แต่วิธีนี้มันไม่สิ้นคิดไปหน่อยเหรอ?”ดราก้อนดึงตัวลิลิธออกจากอ้อมแขนของไลออน น้ำเสียงของเขาตึงแน่น สายตาคมกริบจับจ้องไปที่เธออย่างเอาเรื่อง“ฉันสิ้นคิดได้มากกว่านี้อีก!”“ถ้านายยังเลือกจะทิ้งฉันไปหานังผู้หญิงคนนั้น!”ลิลิธสะบัดตัวออก น้ำเสียงเธอสั่นเครือ ใบหน้าที่เคยสดใสของเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความแค้น ดวงตาแดงก่ำสะท้อนความเจ็บช้ำในใจ“หยุดทำอะไรโง่ ๆ สักที...เพราะยังไงเราก็ต้องเลิกกันอยู่ดี” ดราก้อนถอนหายใจหนัก ๆ ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา“ทำไม! ทำไมต้องเลิกกัน!” ลิลิธตะโกนถาม น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสั่นสะท้าน“ผู้หญิงที่ชื่อฮันนี่มีดีกว่าฉันตรงไหนฮะ”“อีนั่นมันนอนกับนายและก็เพื่อนพร้อมกันไม่ใช่เหรอ?”ดราก้อนกัดกรามแน่น ใบหน้าของเขาตึงเครียด แต่ไม่พูดอะไร ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอึดอัด“จริงด้วย ฮันนี่ไม่เห็นจะดีเท่าเธอเลยนะ” ไลออนที่ยืนอยู่ไม่ไกลยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มพลา