33ของฝากจากอดีตคู่หมั้น(เหตุการณ์ก่อนหน้า ห้าปี) ลิลิธลืมตาขึ้นช้า ๆ ความเจ็บปวดแล่นเข้ามาในทุกส่วนของร่างกาย ลำคอแสบจนแทบกลืนน้ำลายไม่ได้ ดวงตาพร่ามัวจากแสงไฟที่สาดเข้ามา เธอกะพริบตาหลายครั้งเพื่อปรับแสงรอบตัว ภาพห้องสีขาวสะอาดค่อย ๆ ชัดเจนขึ้น เสียงเครื่องวัดชีพจรดังเป็นจังหวะเบา ๆ อยู่ข้างเตียง สายน้ำเกลือที่เสียบเข้าทางเส้นเลือดของเธอ สายตาของเธอเลื่อนขึ้นไปเห็นรูปดาวสีแดงที่แขวนอยู่ตรงหัวเตียง ซึ่งมันดูแปลกตามาก ๆ และในตอนที่เธอพยายามจะขยับตัว เธอก็พบว่าข้อมือทั้งสองข้างและข้อเท้าของเธอถูกมัดไว้ด้วยสายรัดแน่นกับเตียงครืด ครืด เสียงขยับตัวและเชือกที่รั้งกับเตียงดังขึ้นเมื่อเธอพยายามจะดึงเชือกนั้นแรง ๆ“นี่มันอะไรกันเนี่ย?” เธออุทานขึ้นมาด้วยความตกใจที่ถูกมัดมือและเท้าขนาดนี้ แต่แม้ว่าเธอพยายามดิ้นแต่กลับมีแรงไม่พอที่จะหลุดพ้นไปได้เลย เชือกยิ่งรัดแน่นมากขึ้นทุกที“อ้าว...ตื่นแล้วเหรอ?” เสียงทุ้มของชายคนหนึ่งดังขึ้นจากมุมห้อง ลิลิธหันไปมอง ชายหนุ่มในชุดสูทหรูยืนถือโทรศัพท์อยู่ เขารีบกดปุ่มเรียกหมอและพยาบาลเมื่อเห็นเธอฟื้นขึ้นมา“คุณ...คือใคร?” ร่างบางขมวดคิ้วมองอีกฝ่ายอย่างหวา
34ดวงใจลิลิธ(มีภาพประกอบ)ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในเมืองปารีส ดวงตาเธอพร่าไปด้วยน้ำตาเมื่อคำพูดของหมอสะท้อนอยู่ในหัว ลิลิธยังคงนั่งนิ่งหลังจากที่หมอพูดจบ ใจเธอเต้นแรงด้วยความตกใจและสับสน เมื่อได้ฟังผลตรวจบอกว่า...เธอกำลังตั้งครรภ์ได้เกือบ ๆ หกสัปดาห์แล้ว ภาพคืนสุดท้ายที่เธอกับดราก้อนมีอะไรกันอย่างลึกซึ้งย้อนกลับเข้ามาในหัวของเธอในทันที เธอพยายามรวบรวมสติและหันไปมองหมอและพยาบาลชาวฝรั่งเศสที่ยืนอยู่ตรงหน้า“แล้วลูกของฉันจะแข็งแรงไหมคะ?” ลิลิธเอ่ยถามด้วยภาษาอังกฤษ น้ำเสียงของเธอสั่นคลอนมือเล็ก ๆ ลูบท้องตัวเองด้วยความกังวลที่ไม่สามารถจะอธิบายออกมาได้เลยทั้งคุณหมอและคุณพยาบาลมองหน้ากันด้วยแววตาเคร่งเครียด ก่อนหมอจะเป็นฝ่ายตอบเธอด้วยท่าทีที่ไม่ค่อยมั่นใจนัก“ตอนนี้เราไม่สามารถบอกได้แน่นอนเพราะอายุครรภ์ยังไม่มาก”“แต่....จากข้อมูลเบื้องต้นแล้ว คุณเคยได้รับยาต้านโรคซึมเศร้า ซึ่งมันเป็นตัวยาที่อาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทั้งทางร่างกายและสมองของเด็กโดยตรง”“ดังนั้นหมอจึงแนะนำว่าถ้าไม่อยากเสี่ยงก็ควรจะ...ยุติการตั้ง...” หมออธิบายเป็นภาษาอังกฤษอย่างใจเย็น เพราะกลัวจะกระทบกระเทือนต่อจิตใจของเธอ“ไ
35baby's first christmas (มีภาพประกอบ) หลังจากที่ลูซิเฟอร์ลืมตาดูโลก เขาก็เป็นผู้ที่เปลี่ยนโลกทั้งใบของลิลิธไปตลอดกาล ในทุกเช้าเธอจะตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่ว่าอยากมีชีวิตอยู่ไปนาน ๆ เพื่อดูการเติบโตของลูกชายคนนี้ สำหรับเธอแล้วหน้าที่ของแม่ ไม่เคยเหนื่อย ไม่เคยบ่น ไม่เคยท้อเลย เพราะทุกวินาทีที่เหลือบนโลกนี้เธอยกให้ลูกชายคนนี้ทั้งหมด “ทำไมพี่ลิลิธถึงตั้งชื่อเจ้าอ้วนว่า...ลูซิเฟอร์เหรอคะ?” ลิเดียเอ่ยถามขณะที่เธอมานั่งช่วยลิลิธเลี้ยงลูซิเฟอร์ในตอนที่เธอกำลังนั่งทำรายงานส่งทางมหา’ลัย“เพราะตามตำนานแล้ว ลูซิเฟอร์คือคู่หูคนเดียวของลิลิธน่ะ” ลิลิธหันไปตบก้นลูกชายที่กำลังถือขวดนมนั่งมองหน้าลิเดียกับลิลิธสลับไปสลับมา“และ ลูซิเฟอร์ ในอีกความหมายคือผู้ที่อยู่เหนืออำนาจแห่งมังกร”“เป็นชายผู้ที่เกิดจากความมืดมิด แต่สามารถส่องแสงสว่างได้ด้วยตนเอง”“ความหมายลึกซึ้งมากเลยนะคะ” ลิเดียนั่งฟังพร้อมกับหันไปเล่นกับเจ้าลูซิเฟอร์ต่อ ขณะที่ลิลิธก็นั่งทำงานไปเรื่อย ๆ พอเสร็จงานหันกลับมาทั้งคุณน้าทั้งคุณหลานก็หลับปุ๋ยนอนซบกันไปก่อนแล้ว“ใครกล่อมใครกันเนี่ย หลับคู่เลย” ลิลิธหยิบผ้าห่มมาห่มให้ทั้งคู่ ใ
🐉______🧝🏻♀️36ความผิดของแม่(มีภาพประกอบ)25 DECEMBERปีที่สี่ของลูซิเฟอร์ คริสต์มาสปีนี้มาเยือนอีกครั้ง แต่บรรยากาศอบอุ่นในบ้านกลับเงียบเหงากว่าที่เคย หลังจากการจากไปของป้าลีเมื่อกลางปีด้วยโรคมะเร็ง บ้านหลังใหญ่ใจกลางกรุงปารีสที่เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของครอบครัว บัดนี้เหลือเพียงลิลิธกับลูซิเฟอร์สองแม่ลูกเท่านั้น เนื่องจากคุณลุงบรูซตรอมใจเรื่องการจากไปของภรรยาอันเป็นที่รัก เลยตัดสินใจย้ายไปอยู่บ้านพักคนชราในชานเมือง และยกทรัพย์สมบัติทุกอย่างให้กับลิลิธกับลูซิเฟอร์ทั้งหมด เพราะตัวท่านทั้งสองไม่มีลูกไม่มีหลาน และพวกท่านก็เอ็นดูลิลิธเหมือนลูกแท้ ๆ ทางด้านของลิเดียและลีออง เมื่อลิเดียเรียนจบ ลีอองก็จำต้องมารับน้องสาวกลับไปอยู่ที่ไทยตามเดิม ทั้งสองก็ไม่ลืมที่จะชวนลิลิธให้ย้ายกลับด้วยกัน แต่ในตอนนั้นเธอไม่มีความคิดที่จะกลับไปไทยเลย เพราะที่ประเทศไทยมีแต่ความทรงจำที่เลวร้าย บวกกับกำลังเปิดแบรนด์เสื้อผ้าเล็ก ๆ ในฝรั่งเศสซึ่งตอนนี้ก็กำลังไปได้ดีมาก ๆ เลยด้วย ดังนั้นวันเกิดปีนี้ของลูซิเฟอร์ จึงเงียบเหงากว่าทุก ๆ ปี ในค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลองนี้ ลูซิเฟอร์ในวัย 4 ขวบ ยังคงสร้างรอยยิ้มให
🐉_______🧝🏻♀️37ที่เดิม...แต่ไม่เหมือนเดิมกรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย เสียงกัปตันเครื่องบินดังผ่านลำโพงในห้องโดยสาร ขณะที่เครื่องบินกำลังลดระดับเพื่อลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ“เรียนท่านผู้โดยสารที่เคารพ ขณะนี้เที่ยวบิน TT431 ของเรากำลังลดระดับเพื่อเตรียมตัวลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย”“ขอขอบพระคุณที่ท่านเลือกเดินทางกับเหนือฟ้าไทยในครั้งนี้ และสำหรับผู้โดยสารชาวไทยทุกท่าน...”“และขอต้อนรับผู้โดยสารไทยทุกคน...กลับบ้าน” เสียงของกัปตันหยุดชั่วครู่ ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงอบอุ่น‘กลับบ้าน?’ ลิลิธสูดลมหายใจลึก ๆ และมองออกไปยังนอกหน้าต่างอีกครั้ง เสียงล้อเครื่องบินกระแทกพื้นรันเวย์ดังขึ้น ลิลิธจับมือลูซิเฟอร์แน่นพลางสูดหายใจลึก ๆ“แม่กลัวเหรอครับ?” ลูซิเฟอร์รีบหันมาใช้มือเล็ก ๆ ของเขากุมมือแม่ตัวเองไว้แน่น“เปล่าครับ...แม่แค่กำลังตื่นเต้นน่ะ” ลิลิธยิ้มกับท่าทีของลูกชายและส่ายหน้าเบา ๆ“พี่เฟอร์ก็ตื่นเต้นเหมือนกันเลย พี่เฟอร์อยากรู้แล้วว่าประเทศไทยจะเหมือนกับฝรั่งเศสไหม?” ลูซิเฟอร์พูดด้วยใบหน้าที่สดใสร่าเริง“…อืมหื้อ” ลิลิธฝืนยิ้มตอบกลับไป เพราะลูซิเฟอร์ยังไม่รู้เลยด
38สบายดีใช่ไหม?“พ่อเขา...” ลิลิธตอบคำถามของหมอด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น“ตายไปนานแล้วค่ะ”เธอหลบสายตาของหมอ พลางกำมือตัวเองแน่นเพื่อปิดบังความสั่นไหวในใจ“อ๋อ...ถ้างั้นหมอต้องขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ” หมอนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง“เอ่อ...แต่ถ้าเราไม่สามารถใช้ไขกระดูกของทั้งพ่อและแม่เด็กได้เนี่ย เราคงต้องรอผลจากธนาคารไขกระดูกครับ” หมออธิบายเพิ่มเติมด้วยใบหน้าที่ดูจะหนักใจมากขึ้น“แล้วมันนานมากไหมคะ?” ลิลิธเอ่ยถามด้วยความกังวลใจ เธอรู้ว่าอาการป่วยของลูกสำคัญ แต่เธอก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าคนคนนั้นจะยอมช่วยลูกของเธอรึเปล่า และเธอก็ไม่อยากจะต้องมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับเขาอีก“ผมไม่แน่ใจเลยครับว่าจะเร็วหรือช้า” หมอถอนหายใจออกมาอีกครั้ง“ตามจริงทางเราได้ส่งข้อมูลของน้องลูซิเฟอร์เข้าสู่ระบบแล้วตั้งแต่ตอนที่คุณแม่มายื่นเรื่องไว้”“ยังไงทางโรงพยาบาลจะเร่งดำเนินการหาผู้บริจาคที่เข้ากันได้ไปเรื่อย ๆ แต่ระหว่างนี้สิ่งที่เราทำได้คือรักษาไปตามอาการ”“แล้วก็ช่วยบำรุงร่างกายเขาให้แข็งแรงที่สุดก่อน ที่สำคัญเลยคือต้องเฝ้าระวังการติดเชื้ออย่างใกล้ชิด”“ยังไงฝากหมอด้วยนะคะ เท่าไหร่ฉันก
39อย่ากลับไปเป็นผู้หญิงคนนั้น“อ้าวเหรอ?” ดราก้อนขมวดคิ้วเล็กน้อย จงใจพูดต่อด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน“แต่เท่าที่ฉันรู้มาคือ…เธอมีมาเฟียเลี้ยงดูอย่างดีไม่ใช่เหรอ?” ร่างสูงจับปลายคางของลิลิธให้เงยหน้าขึ้นสบตากับเขาแบบจัง ๆ“มาเฟีย?” ลิลิธเลิกคิ้วขึ้น ใบหน้าของเธอไม่แสดงความตกใจเลยแม้แต่น้อย“ทำไม...หรือว่ามันรับไม่ได้เรื่องลูกของเรา” เขาถามต่อเหมือนพยายามจะปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมด“มันก็เลยทิ้งเธอ?” สายตาที่ดราก้อนใช้มองลิลิธเริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อยฟุ่บ! คนตัวเล็กยกมือปัดมือของเขาอย่างแรง“เหอะ ๆ ถ้านายจะมโนเก่งขนาดนี้...ไปเขียนนิยายไหมดราก้อน?” ลิลิธถอนหายใจใส่หน้าของเขาและมองดราก้อนแบบหัวจรดเท้าอีกครั้ง“จริง ๆ ตอนนี้ฉันก็...โสดนะ ไม่ได้คบใครจริงจัง” ร่างสูงเอ่ยถามเธอไปด้วยน้ำเสียงเดิมที่เขาเคยใช้“เธออยากจะลองกลับมาคบกันดูไหม?” แววตาของเขาบ่งบอกว่าเขาไม่ได้พูดเล่น ๆ“ถ้าบนโลกนี้มีนายเป็นผู้ชายคนสุดท้ายละก็...ฉันยอมใช้ SEX TOY ต่อไปดีกว่า” “ไม่เอาน่า ปากกับใจตรงกันหน่อยสิ” ดราก้อนกระตุกยิ้มมุมปากอย่างไม่ได้สะทกสะท้านใด ๆ กับคำพูดของอีกฝ่าย“เธอควรจะดีใจมากต่างหาก ที่ฉันเป็นฝ่ายเดินกลับ
40วันเกิดของลูกเรา(มีภาพประกอบ)ณ โรงพยาบาล ROMI เสียงฝีเท้าของลิลิธและดราก้อนดังสะท้อนในโถงทางเดินยาวของโรงพยาบาลอย่างพร้อมเพรียงกัน แต่ดราก้อนเดินตามหลังเธอมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขาไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่ก้าวออกจากรถ เพียงแต่จ้องมองหลังของเธอเพียงเท่านั้น ลิลิธเร่งฝีเท้าเดินมาหยุดอยู่หน้าประตูห้องผู้ป่วยที่มีกระจกใสกั้นอยู่เบื้องหน้า ภายในห้องนั้น ลูซิเฟอร์นอนหลับสนิทบนเตียงผู้ป่วย เครื่องช่วยหายใจและสายให้น้ำเกลือเชื่อมต่ออยู่กับร่างเล็ก ๆ ของเขา แววตาของแม่เต็มไปด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า ริมฝีปากสั่นระริก เธอพยายามกลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้เล็ดลอดออกมา ยิ่งเห็นว่าลูกชายต้องทั้งโดนเจาะจากน้ำเกลือ โดนผ่าตัดมากมาย มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดใจ เพราะถ้าเป็นไปได้เธออยากจะเจ็บแทนลูกชายเสียเหลือเกิน“เดี๋ยวลูกก็หาย อย่าคิดมากเลยน่า” ดราก้อนพยายามหันไปปลอบลิลิธเบา ๆ เสียงของเขาทุ้มลึกแต่นุ่มนวลผิดวิสัย“…” เธอยังคงทำเหมือนว่าไม่มีดราก้อนยืนอยู่ตรงนั้น จนกระทั่งประตูอีกด้านหนึ่งก็ถูกเปิดออก“มากันแต่เช้าเลยนะครับเนี่ย” หมอประจำตัวของลูซิเฟอร์เดินออกมาพร้อมกับแฟ้มเอกสารในมือ เขามีสีหน้าผ่อนคลายมาก
40วันเกิดของลูกเรา(มีภาพประกอบ)ณ โรงพยาบาล ROMI เสียงฝีเท้าของลิลิธและดราก้อนดังสะท้อนในโถงทางเดินยาวของโรงพยาบาลอย่างพร้อมเพรียงกัน แต่ดราก้อนเดินตามหลังเธอมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขาไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่ก้าวออกจากรถ เพียงแต่จ้องมองหลังของเธอเพียงเท่านั้น ลิลิธเร่งฝีเท้าเดินมาหยุดอยู่หน้าประตูห้องผู้ป่วยที่มีกระจกใสกั้นอยู่เบื้องหน้า ภายในห้องนั้น ลูซิเฟอร์นอนหลับสนิทบนเตียงผู้ป่วย เครื่องช่วยหายใจและสายให้น้ำเกลือเชื่อมต่ออยู่กับร่างเล็ก ๆ ของเขา แววตาของแม่เต็มไปด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า ริมฝีปากสั่นระริก เธอพยายามกลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้เล็ดลอดออกมา ยิ่งเห็นว่าลูกชายต้องทั้งโดนเจาะจากน้ำเกลือ โดนผ่าตัดมากมาย มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดใจ เพราะถ้าเป็นไปได้เธออยากจะเจ็บแทนลูกชายเสียเหลือเกิน“เดี๋ยวลูกก็หาย อย่าคิดมากเลยน่า” ดราก้อนพยายามหันไปปลอบลิลิธเบา ๆ เสียงของเขาทุ้มลึกแต่นุ่มนวลผิดวิสัย“…” เธอยังคงทำเหมือนว่าไม่มีดราก้อนยืนอยู่ตรงนั้น จนกระทั่งประตูอีกด้านหนึ่งก็ถูกเปิดออก“มากันแต่เช้าเลยนะครับเนี่ย” หมอประจำตัวของลูซิเฟอร์เดินออกมาพร้อมกับแฟ้มเอกสารในมือ เขามีสีหน้าผ่อนคลายมาก
39อย่ากลับไปเป็นผู้หญิงคนนั้น“อ้าวเหรอ?” ดราก้อนขมวดคิ้วเล็กน้อย จงใจพูดต่อด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน“แต่เท่าที่ฉันรู้มาคือ…เธอมีมาเฟียเลี้ยงดูอย่างดีไม่ใช่เหรอ?” ร่างสูงจับปลายคางของลิลิธให้เงยหน้าขึ้นสบตากับเขาแบบจัง ๆ“มาเฟีย?” ลิลิธเลิกคิ้วขึ้น ใบหน้าของเธอไม่แสดงความตกใจเลยแม้แต่น้อย“ทำไม...หรือว่ามันรับไม่ได้เรื่องลูกของเรา” เขาถามต่อเหมือนพยายามจะปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมด“มันก็เลยทิ้งเธอ?” สายตาที่ดราก้อนใช้มองลิลิธเริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อยฟุ่บ! คนตัวเล็กยกมือปัดมือของเขาอย่างแรง“เหอะ ๆ ถ้านายจะมโนเก่งขนาดนี้...ไปเขียนนิยายไหมดราก้อน?” ลิลิธถอนหายใจใส่หน้าของเขาและมองดราก้อนแบบหัวจรดเท้าอีกครั้ง“จริง ๆ ตอนนี้ฉันก็...โสดนะ ไม่ได้คบใครจริงจัง” ร่างสูงเอ่ยถามเธอไปด้วยน้ำเสียงเดิมที่เขาเคยใช้“เธออยากจะลองกลับมาคบกันดูไหม?” แววตาของเขาบ่งบอกว่าเขาไม่ได้พูดเล่น ๆ“ถ้าบนโลกนี้มีนายเป็นผู้ชายคนสุดท้ายละก็...ฉันยอมใช้ SEX TOY ต่อไปดีกว่า” “ไม่เอาน่า ปากกับใจตรงกันหน่อยสิ” ดราก้อนกระตุกยิ้มมุมปากอย่างไม่ได้สะทกสะท้านใด ๆ กับคำพูดของอีกฝ่าย“เธอควรจะดีใจมากต่างหาก ที่ฉันเป็นฝ่ายเดินกลับ
38สบายดีใช่ไหม?“พ่อเขา...” ลิลิธตอบคำถามของหมอด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น“ตายไปนานแล้วค่ะ”เธอหลบสายตาของหมอ พลางกำมือตัวเองแน่นเพื่อปิดบังความสั่นไหวในใจ“อ๋อ...ถ้างั้นหมอต้องขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ” หมอนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง“เอ่อ...แต่ถ้าเราไม่สามารถใช้ไขกระดูกของทั้งพ่อและแม่เด็กได้เนี่ย เราคงต้องรอผลจากธนาคารไขกระดูกครับ” หมออธิบายเพิ่มเติมด้วยใบหน้าที่ดูจะหนักใจมากขึ้น“แล้วมันนานมากไหมคะ?” ลิลิธเอ่ยถามด้วยความกังวลใจ เธอรู้ว่าอาการป่วยของลูกสำคัญ แต่เธอก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าคนคนนั้นจะยอมช่วยลูกของเธอรึเปล่า และเธอก็ไม่อยากจะต้องมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับเขาอีก“ผมไม่แน่ใจเลยครับว่าจะเร็วหรือช้า” หมอถอนหายใจออกมาอีกครั้ง“ตามจริงทางเราได้ส่งข้อมูลของน้องลูซิเฟอร์เข้าสู่ระบบแล้วตั้งแต่ตอนที่คุณแม่มายื่นเรื่องไว้”“ยังไงทางโรงพยาบาลจะเร่งดำเนินการหาผู้บริจาคที่เข้ากันได้ไปเรื่อย ๆ แต่ระหว่างนี้สิ่งที่เราทำได้คือรักษาไปตามอาการ”“แล้วก็ช่วยบำรุงร่างกายเขาให้แข็งแรงที่สุดก่อน ที่สำคัญเลยคือต้องเฝ้าระวังการติดเชื้ออย่างใกล้ชิด”“ยังไงฝากหมอด้วยนะคะ เท่าไหร่ฉันก
🐉_______🧝🏻♀️37ที่เดิม...แต่ไม่เหมือนเดิมกรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย เสียงกัปตันเครื่องบินดังผ่านลำโพงในห้องโดยสาร ขณะที่เครื่องบินกำลังลดระดับเพื่อลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ“เรียนท่านผู้โดยสารที่เคารพ ขณะนี้เที่ยวบิน TT431 ของเรากำลังลดระดับเพื่อเตรียมตัวลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย”“ขอขอบพระคุณที่ท่านเลือกเดินทางกับเหนือฟ้าไทยในครั้งนี้ และสำหรับผู้โดยสารชาวไทยทุกท่าน...”“และขอต้อนรับผู้โดยสารไทยทุกคน...กลับบ้าน” เสียงของกัปตันหยุดชั่วครู่ ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงอบอุ่น‘กลับบ้าน?’ ลิลิธสูดลมหายใจลึก ๆ และมองออกไปยังนอกหน้าต่างอีกครั้ง เสียงล้อเครื่องบินกระแทกพื้นรันเวย์ดังขึ้น ลิลิธจับมือลูซิเฟอร์แน่นพลางสูดหายใจลึก ๆ“แม่กลัวเหรอครับ?” ลูซิเฟอร์รีบหันมาใช้มือเล็ก ๆ ของเขากุมมือแม่ตัวเองไว้แน่น“เปล่าครับ...แม่แค่กำลังตื่นเต้นน่ะ” ลิลิธยิ้มกับท่าทีของลูกชายและส่ายหน้าเบา ๆ“พี่เฟอร์ก็ตื่นเต้นเหมือนกันเลย พี่เฟอร์อยากรู้แล้วว่าประเทศไทยจะเหมือนกับฝรั่งเศสไหม?” ลูซิเฟอร์พูดด้วยใบหน้าที่สดใสร่าเริง“…อืมหื้อ” ลิลิธฝืนยิ้มตอบกลับไป เพราะลูซิเฟอร์ยังไม่รู้เลยด
🐉______🧝🏻♀️36ความผิดของแม่(มีภาพประกอบ)25 DECEMBERปีที่สี่ของลูซิเฟอร์ คริสต์มาสปีนี้มาเยือนอีกครั้ง แต่บรรยากาศอบอุ่นในบ้านกลับเงียบเหงากว่าที่เคย หลังจากการจากไปของป้าลีเมื่อกลางปีด้วยโรคมะเร็ง บ้านหลังใหญ่ใจกลางกรุงปารีสที่เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของครอบครัว บัดนี้เหลือเพียงลิลิธกับลูซิเฟอร์สองแม่ลูกเท่านั้น เนื่องจากคุณลุงบรูซตรอมใจเรื่องการจากไปของภรรยาอันเป็นที่รัก เลยตัดสินใจย้ายไปอยู่บ้านพักคนชราในชานเมือง และยกทรัพย์สมบัติทุกอย่างให้กับลิลิธกับลูซิเฟอร์ทั้งหมด เพราะตัวท่านทั้งสองไม่มีลูกไม่มีหลาน และพวกท่านก็เอ็นดูลิลิธเหมือนลูกแท้ ๆ ทางด้านของลิเดียและลีออง เมื่อลิเดียเรียนจบ ลีอองก็จำต้องมารับน้องสาวกลับไปอยู่ที่ไทยตามเดิม ทั้งสองก็ไม่ลืมที่จะชวนลิลิธให้ย้ายกลับด้วยกัน แต่ในตอนนั้นเธอไม่มีความคิดที่จะกลับไปไทยเลย เพราะที่ประเทศไทยมีแต่ความทรงจำที่เลวร้าย บวกกับกำลังเปิดแบรนด์เสื้อผ้าเล็ก ๆ ในฝรั่งเศสซึ่งตอนนี้ก็กำลังไปได้ดีมาก ๆ เลยด้วย ดังนั้นวันเกิดปีนี้ของลูซิเฟอร์ จึงเงียบเหงากว่าทุก ๆ ปี ในค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลองนี้ ลูซิเฟอร์ในวัย 4 ขวบ ยังคงสร้างรอยยิ้มให
35baby's first christmas (มีภาพประกอบ) หลังจากที่ลูซิเฟอร์ลืมตาดูโลก เขาก็เป็นผู้ที่เปลี่ยนโลกทั้งใบของลิลิธไปตลอดกาล ในทุกเช้าเธอจะตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่ว่าอยากมีชีวิตอยู่ไปนาน ๆ เพื่อดูการเติบโตของลูกชายคนนี้ สำหรับเธอแล้วหน้าที่ของแม่ ไม่เคยเหนื่อย ไม่เคยบ่น ไม่เคยท้อเลย เพราะทุกวินาทีที่เหลือบนโลกนี้เธอยกให้ลูกชายคนนี้ทั้งหมด “ทำไมพี่ลิลิธถึงตั้งชื่อเจ้าอ้วนว่า...ลูซิเฟอร์เหรอคะ?” ลิเดียเอ่ยถามขณะที่เธอมานั่งช่วยลิลิธเลี้ยงลูซิเฟอร์ในตอนที่เธอกำลังนั่งทำรายงานส่งทางมหา’ลัย“เพราะตามตำนานแล้ว ลูซิเฟอร์คือคู่หูคนเดียวของลิลิธน่ะ” ลิลิธหันไปตบก้นลูกชายที่กำลังถือขวดนมนั่งมองหน้าลิเดียกับลิลิธสลับไปสลับมา“และ ลูซิเฟอร์ ในอีกความหมายคือผู้ที่อยู่เหนืออำนาจแห่งมังกร”“เป็นชายผู้ที่เกิดจากความมืดมิด แต่สามารถส่องแสงสว่างได้ด้วยตนเอง”“ความหมายลึกซึ้งมากเลยนะคะ” ลิเดียนั่งฟังพร้อมกับหันไปเล่นกับเจ้าลูซิเฟอร์ต่อ ขณะที่ลิลิธก็นั่งทำงานไปเรื่อย ๆ พอเสร็จงานหันกลับมาทั้งคุณน้าทั้งคุณหลานก็หลับปุ๋ยนอนซบกันไปก่อนแล้ว“ใครกล่อมใครกันเนี่ย หลับคู่เลย” ลิลิธหยิบผ้าห่มมาห่มให้ทั้งคู่ ใ
34ดวงใจลิลิธ(มีภาพประกอบ)ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในเมืองปารีส ดวงตาเธอพร่าไปด้วยน้ำตาเมื่อคำพูดของหมอสะท้อนอยู่ในหัว ลิลิธยังคงนั่งนิ่งหลังจากที่หมอพูดจบ ใจเธอเต้นแรงด้วยความตกใจและสับสน เมื่อได้ฟังผลตรวจบอกว่า...เธอกำลังตั้งครรภ์ได้เกือบ ๆ หกสัปดาห์แล้ว ภาพคืนสุดท้ายที่เธอกับดราก้อนมีอะไรกันอย่างลึกซึ้งย้อนกลับเข้ามาในหัวของเธอในทันที เธอพยายามรวบรวมสติและหันไปมองหมอและพยาบาลชาวฝรั่งเศสที่ยืนอยู่ตรงหน้า“แล้วลูกของฉันจะแข็งแรงไหมคะ?” ลิลิธเอ่ยถามด้วยภาษาอังกฤษ น้ำเสียงของเธอสั่นคลอนมือเล็ก ๆ ลูบท้องตัวเองด้วยความกังวลที่ไม่สามารถจะอธิบายออกมาได้เลยทั้งคุณหมอและคุณพยาบาลมองหน้ากันด้วยแววตาเคร่งเครียด ก่อนหมอจะเป็นฝ่ายตอบเธอด้วยท่าทีที่ไม่ค่อยมั่นใจนัก“ตอนนี้เราไม่สามารถบอกได้แน่นอนเพราะอายุครรภ์ยังไม่มาก”“แต่....จากข้อมูลเบื้องต้นแล้ว คุณเคยได้รับยาต้านโรคซึมเศร้า ซึ่งมันเป็นตัวยาที่อาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทั้งทางร่างกายและสมองของเด็กโดยตรง”“ดังนั้นหมอจึงแนะนำว่าถ้าไม่อยากเสี่ยงก็ควรจะ...ยุติการตั้ง...” หมออธิบายเป็นภาษาอังกฤษอย่างใจเย็น เพราะกลัวจะกระทบกระเทือนต่อจิตใจของเธอ“ไ
33ของฝากจากอดีตคู่หมั้น(เหตุการณ์ก่อนหน้า ห้าปี) ลิลิธลืมตาขึ้นช้า ๆ ความเจ็บปวดแล่นเข้ามาในทุกส่วนของร่างกาย ลำคอแสบจนแทบกลืนน้ำลายไม่ได้ ดวงตาพร่ามัวจากแสงไฟที่สาดเข้ามา เธอกะพริบตาหลายครั้งเพื่อปรับแสงรอบตัว ภาพห้องสีขาวสะอาดค่อย ๆ ชัดเจนขึ้น เสียงเครื่องวัดชีพจรดังเป็นจังหวะเบา ๆ อยู่ข้างเตียง สายน้ำเกลือที่เสียบเข้าทางเส้นเลือดของเธอ สายตาของเธอเลื่อนขึ้นไปเห็นรูปดาวสีแดงที่แขวนอยู่ตรงหัวเตียง ซึ่งมันดูแปลกตามาก ๆ และในตอนที่เธอพยายามจะขยับตัว เธอก็พบว่าข้อมือทั้งสองข้างและข้อเท้าของเธอถูกมัดไว้ด้วยสายรัดแน่นกับเตียงครืด ครืด เสียงขยับตัวและเชือกที่รั้งกับเตียงดังขึ้นเมื่อเธอพยายามจะดึงเชือกนั้นแรง ๆ“นี่มันอะไรกันเนี่ย?” เธออุทานขึ้นมาด้วยความตกใจที่ถูกมัดมือและเท้าขนาดนี้ แต่แม้ว่าเธอพยายามดิ้นแต่กลับมีแรงไม่พอที่จะหลุดพ้นไปได้เลย เชือกยิ่งรัดแน่นมากขึ้นทุกที“อ้าว...ตื่นแล้วเหรอ?” เสียงทุ้มของชายคนหนึ่งดังขึ้นจากมุมห้อง ลิลิธหันไปมอง ชายหนุ่มในชุดสูทหรูยืนถือโทรศัพท์อยู่ เขารีบกดปุ่มเรียกหมอและพยาบาลเมื่อเห็นเธอฟื้นขึ้นมา“คุณ...คือใคร?” ร่างบางขมวดคิ้วมองอีกฝ่ายอย่างหวา
32จมทะเลน้ำตา(เหตุการณ์ในอดีตตอนที่ดราก้อนขอเลิกลิลิธ) สายตาของทุกคนในงานต่างจับจ้องมาที่ลิลิธ ไลออน และดราก้อน การปะทะคารมของทั้งสามคนสร้างบรรยากาศตึงเครียดที่แผ่ไปทั่วทั้งงาน“ฉันรู้ว่าเธอทำเพื่อประชดฉัน แต่วิธีนี้มันไม่สิ้นคิดไปหน่อยเหรอ?”ดราก้อนดึงตัวลิลิธออกจากอ้อมแขนของไลออน น้ำเสียงของเขาตึงแน่น สายตาคมกริบจับจ้องไปที่เธออย่างเอาเรื่อง“ฉันสิ้นคิดได้มากกว่านี้อีก!”“ถ้านายยังเลือกจะทิ้งฉันไปหานังผู้หญิงคนนั้น!”ลิลิธสะบัดตัวออก น้ำเสียงเธอสั่นเครือ ใบหน้าที่เคยสดใสของเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความแค้น ดวงตาแดงก่ำสะท้อนความเจ็บช้ำในใจ“หยุดทำอะไรโง่ ๆ สักที...เพราะยังไงเราก็ต้องเลิกกันอยู่ดี” ดราก้อนถอนหายใจหนัก ๆ ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา“ทำไม! ทำไมต้องเลิกกัน!” ลิลิธตะโกนถาม น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสั่นสะท้าน“ผู้หญิงที่ชื่อฮันนี่มีดีกว่าฉันตรงไหนฮะ”“อีนั่นมันนอนกับนายและก็เพื่อนพร้อมกันไม่ใช่เหรอ?”ดราก้อนกัดกรามแน่น ใบหน้าของเขาตึงเครียด แต่ไม่พูดอะไร ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอึดอัด“จริงด้วย ฮันนี่ไม่เห็นจะดีเท่าเธอเลยนะ” ไลออนที่ยืนอยู่ไม่ไกลยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มพลา