หนุ่มๆสาวๆเดินชมบ้านพักหลังใหญ่ติดชายหาดสองหลังคู่กัน บนชายหาดทรายขาวละเอียดของจังหวัดภูเก็ต ตอนแรกหนุ่มสาวลงความเห็นว่าจะไปแค่พัทยา แต่ก็มาเปลี่ยนใจเอาวินาทีสุดท้ายเพราะปฐวีได้ส่วนลดรีสอร์ตหรูที่เป็นบ้านพักหลังเดี่ยวๆ มีสระว่ายน้ำเล็กๆ ส่วนตัว และอ่างจากุชชีมาถึงสองหลัง เมื่อแบ่งห้องพักกันเรียบร้อยแล้วจึงเปลี่ยนเสื้อผ้า ออกมาเดินเล่นและถ่ายรูปริมชายหาด โดยที่สาวๆ ใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นสีสวย ตามสไตล์ของคนที่มาเที่ยวทะเล “เดี๋ยวผมถ่ายรูปให้นะครับจุ๋ม” เสียงทุ้มของพายุ แฟนหนุ่มของจริญญาที่มาร่วมทริปนี้ด้วยเอ่ยขึ้นหลังจากเอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องพัก แล้ววิ่งตามสาวๆมาติดๆ “ได้ค่ะ” จริญญาในชุดบิกินีตัวจิ๋วสีเขียวน้ำทะเล ที่ตัวบราแทบปิดหน้าอกไม่มิด ท่อนล่างเป็นกางเกงยีนสีขาวตัวสั้นจู๋จนแทบเห็นแก้มก้นกลมกลึงขาวผ่องของเธอ ทำเอาพายุที่วิ่งตามมากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ แฟนสาวที่เขาตามจีบมาครึ่งค่อนปี โคตรเซ็กซี่ จนเลือดในกายหนุ่มแล่นพล่านไปหมด “เซ็กซี่จังครับ แฟนของผมสวยที่สุด” พา
ค่ำคืนแรก หนุ่มสาวจัดปาร์ตี้หน้าบ้านหลังใหญ่ ดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน จนหนุ่มสาวทุกคนเริ่มจะเมา “จุ๋มดื่มอีกนิดสิครับ ไวน์นี่รสชาติดีมากเลยนะ” พายุชนแก้วกับจริญญาแล้วคะยั้นคะยอให้เธอดื่มอีกแก้ว เพราะต้องการให้เธอเมา แล้วเขาจะได้ล่อลวงเธอออกมาแอบมีอะไรกันที่ห้องรับแขก ในเมื่อไม่ยอมไปเปิดห้องนอนกับเขา เอาแบบเร่งด่วนก็ได้ ขี้คร้าน พรุ่งนี้คงยอมให้เขาไปเปิดห้องนอนด้วยกันเอง “จุ๋มเมาแล้วนะคะ ไม่ไหวแล้วพายุ” “อีกแก้วนะ” เธอยอมทำตามที่เขาต้องการ กระดกไวน์ในแก้วนั้นจนหมด และเธอก็รู้สึกมึนมากจริงๆ ทางด้านพาขวัญ เธอนั่งดื่มกับปฐวี จิบกันเบาๆเพราะกลัวจะเมา โดยที่สายตาของเขาแทบจะมองไปที่จริญญาตลอดเวลาจนเธออดที่จะสงสัยไม่ได้ ว่าทำไมเขาถึงดูเป็นห่วงและไม่พอใจในตัวเพื่อนคนนี้ขนาดนี้ “วี พี่พีทโทรมา พั้นช์ขอไปรับสายแป๊บนึงนะ” เธอเดินเลี่ยงออกมารับสายที่ห้องนอนของเธอในบ้านอีกหลังที่ติดกัน เพื่อที่เสียงเพลงจะได้ไม่ดังเข้าไปในโทรศัพท์ เพราะกลัวเขารู้ว่าเธอมีปาร์ตี้และดื่มกินกันอย่
“คราวนี้ก็เตรียมตัวรับบทลงโทษของเธอได้แล้ว พาขวัญ” เขาก้มลงประกบปากบดจูบเธออย่างเร่าร้อนหิวกระหายเหมือนคนขาดน้ำมาแรมปีก็ไม่ปาน จนเธอหัวหมุนเคว้ง ทำตามที่เขาต้องการอย่างไม่มีอิดออด เขาซุกไซ้ที่ซอกคอของเธอแล้วไล้เลียดูดดึงเบาๆ จนเธอขนลุกซู่ไปทั่วร่าง มือใหญ่เคล้นคลึงหน้าอกอวบของเธอไปด้วย ยิ่งเร้าอารมณ์ให้เธอกระเจิดกระเจิงเกินห้ามใจ “อื้อ พี่พีท อื้มมมมม” หน้าอกอวบใหญ่ทั้งสองข้าง ถูดเขาตวัดลิ้นลามเลียดูดดึงอย่างเมามัน มืออีกข้างก็เลื่อนลงไปกรีดไล้รอยแยกของดอกไม้ดอกโตของเธอ “อ่าห์ เยิ้มแล้ว น้ำเยอะจัง” เขาแทรกกายเข้ากลางขาของเธอแล้วจับขาทั้งสองข้างของเธออ้าออกจนกว้าง ก่อนจะกดจูบไปที่เนินเนื้ออวบอูมเพื่อขออนุญาตรุกล้ำพื้นที่หวงแหน ลิ้นสากตวัดเลียปาดไล้ที่กลีบดอกไม้สีหวาน สลับกับตวัดลิ้นสะกิดระรัวที่ติ่งเกสรที่ไวต่อความรู้สึกของเธอ จนขาเรียวงามสั่นพั่บๆ “อ๊ายยย อื้อ อื้อ อ๊ายยย” สาวน้อยกรีดร้องดังลั่นอย่างลืมอาย หูอื้อตาพร่ามัว ร่างงามค่อยๆหยัดเกร็งตามธ
เมื่อจริญญาอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดที่พร้อมจะนอนเสร็จแล้ว ก็มีสายจากปฐวีโทรเข้ามา เธอไม่อยากจะรับเลย แต่ก็กลัวว่าถ้าไม่รับคงได้เป็นเรื่องแน่ๆ จึงกดรับสายเขาไป “มีอะไรอีก วี” “พูดกับผัวให้มันเพราะๆหน่อย” “ไอ้บ้า ฉันไม่มีผัว มีอะไร ถ้าไม่มีจะวาง ฉันจะนอนแล้ว” “ออกมาหาฉันข้างนอกหน่อย ฉันรอเธออยู่ที่ต้นไม้ข้างบ้านเรา” “ไม่ ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับนาย” “ถ้าเธอไม่ออกมา ฉันจะบุกเข้าไปหาเธอในห้องนอนเดี๋ยวนี้ เอาให้ทั้งบ้านรู้เลยว่าเราเป็นอะไรกัน” “อย่านะ” “ฉันให้เวลาเธอสองนาที ถ้าไม่ออกมา เจอกันในห้องได้เลย เมียรัก” “ไอ้บ้า” ไม่เกินสองนาที จริญญาที่ใส่ชุดพร้อมนอนก็เดินออกมาหาเขาอย่างเงียบเชียบที่ใต้ต้นไม้ข้างบ้านพัก “นายมีอะไรว่ามา” ปฐวีกวาดตามองร่างบางของเพื่อนรักที่วันนี้ใส่เสื้อยืดตัวโตและกางเกงเอวยืดขาสั้นจู๋ แทบไม่โผล่ออกมาจากชายเสื้อด้วยซ้ำ “แต่งตัวแบบนี้นอนหรอ จะไปอ่อยไอ้พายุรึไง อยากมากนักใช่ไหม”
พาขวัญตื่นแต่เช้าตรู่ เพื่อจะกลับห้องพักอย่างเนียนๆ ไม่ให้เพื่อนคนอื่นสงสัย แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อกลับเข้าห้องมาแล้วไม่มีเพื่อนรักของเธอนอนอยู่ในห้อง จึงตกใจเล็กน้อยเพราะคิดว่าเพื่อนอาจไปนอนกับคนรักที่อยู่ห้องข้างๆกัน แต่พอคิดดีๆ ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะในห้องนั้นยังมีปฐวีนอนอยู่ด้วยทั้งคน เลยคิดว่าจริญญาอาจออกไปเดินเล่นด้านนอก จึงรีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะออกไปตามหาเพื่อนรัก ร่างบางเปิดประตูบ้านออกมาก็ต้องแปลกใจ เมื่อเจอเข้ากับจริญญาและปฐวี ที่เดินเคียงข้างกันมาถึงหน้าประตูบ้าน ท่าทางปฐวีดูอิ่มเอม ไม่ได้ดูใบหน้าบึ้งตึงเหมือนกับเมื่อวานเลยสักนิด “จุ๋ม วี ไปไหนกันมาแต่เช้า” แต่เช้าที่ไหน ไปมาตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้วต่างหากล่ะ “ฉันตื่นไปเดินเล่นมาน่ะ เจอวีพอดี เลยเดินกลับมาด้วยกัน” “อ๋อ ไปอาบน้ำกันก่อนเถอะ จะได้ไปหาอาหารเช้าทานกัน พั้นช์หิวแล้ว” “อืม รอแป๊บนะพั้นช์ หนุ่มสาวรีบกลับเข้าห้องใครห้องมันเพื่ออาบน้ำทันที เพราะกลัวว่าถ้ายืนอยู่นานกว่านี้อาจมีพิรุธอะไรออกมาก็ได้
พาขวัญและพิรัยช์กลับมาถึงบ้านได้ไม่นาน ครอบครัวคลาร์กพร้อมด้วยบอดี้การ์ดกลุ่มใหญ่ ก็เดินทางกันมาถึงประเทศไทยและคงใช้เวลาอยู่พักผ่อนกันที่นี่อีกนาน เพราะช่วงนี้กลุ่มมาเฟียของวิลเลียมก็สงบลงหลังจากที่พ่อเขาจัดให้ชุดใหญ่ไฟกะพริบ โทษฐานที่คอยส่งคนมาป่วนในโรงแรมและกาสิโนของพ่อจนเสียหายไปหลายล้านดอลล่าร์ แถมเหตุการณ์ตอนที่พิรัชย์โดนรถยนต์ปริศนาขับปาดหน้า ยังเป็นคนที่ไอ้วิลเลียมมันส่งมาป่วน แต่มันก็ป่วนเขาได้ไม่นาน เพราะคนของพ่อ ส่งพวกมันไปลงนรกอย่างไร้ร่องรอยตอนที่มันพยายามหนีหัวซุกหัวซุนข้ามชายแดนผ่านเส้นทางธรรมชาติ ซึ่งเรื่องนี้ ก็ยังไม่ให้พิมพ์มาดาและพาขวัญได้รับรู้ เมื่อทุกคนทักทายกันเสร็จ พอลก็ขอตัวขึ้นไปนอนพัก เพราะเคลียร์งานจนดึกดื่นทุกคืน เพื่อให้ได้กลับมาอยู่กับภรรยาสุดที่รักให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ จึงทำให้ในตอนนี้ เหลือแค่หนุ่มสาวและพิมพ์มาดาเท่านั้น การสนทนาทุกอย่างจึงกลับมาเป็นภาษาไทยอีกครั้ง “พั้นช์ ไม่ได้เจอกันปีกว่า โตขึ้นมากเลย เป็นสาวเต็มตัวแล้ว สวยกว่าเดิมมากเลยนะเนี่ย” พลอยชมพูตรงเข้าสวมกอดน้องสาว
คืนนั้นพิรัชย์และพชร นั่งดื่มกันอยู่ที่บาร์เหล้าข้างห้องอาหาร จะว่าไปสองปีที่ผ่านมาที่เขากลับมาอยู่ไทย น้องชายของเขาก็ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น นิ่งขึ้น ดูมีมาดร้ายลึก ไม่ได้ดูร้ายโจ่งแจ้งแบบเด็กๆ เหมือนเมื่อก่อน “พี่ว่าแกโตขึ้นนะแพท” “ครับ สถานการณ์มันบังคับให้ต้องเป็นแบบนั้น เพราะปีสุดท้ายของการเรียนโท พ่อก็พาไปฝึกงานให้ร่วมบริหารโรงแรมและกาสิโนแล้ว การเจอปัญหาหรือเรื่องยุ่งยาก มันทำให้ผมค่อยๆ เติบโตขึ้น นี่ก็คงอยู่ที่ไทยได้ไม่นานหรอกครับ เดี๋ยวคงต้องตามพ่อกลับไป ทิ้งยัยพลอยไว้อยู่เที่ยวเล่น เห็นว่าจะพักสักครึ่งปีแล้วจะกลับไปวุ่นวายหาที่เรียนต่อ” “ยังไงก็ฝากแกดูแลพ่อกับยัยพลอยด้วยล่ะ โดยเฉพาะยัยพลอย ได้ข่าวว่าบอดี้การ์ดอยู่ไม่ทนซักคน เล่นแหกกฎของการรักษาความปลอดภัยตลอด” “ครับ จะให้กลับมาอยู่ที่ที่ค่อนข้างห่างไกลไอ้พวกนั้นอย่างที่ไทยก็ไม่ยอม อยากจะอยู่ในดงเสือ แต่ก็ไม่เคยทำตามกฎได้เลยจนพ่อปวดหัว พ่อก็น้ำท่วมปาก จะว่าอะไรมากก็ไม่กล้า ลูกสุดที่รักของเขานี่” แล้วสองหนุ่มก็หัวเราะออกมาพร้อมกันในความร้ายกาจของลูกส
ตลอดเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ครอบครัวคลาร์กไปพักผ่อนกันที่บ้านพักตากอากาศที่เกาะหลีเป๊ะ พาขวัญก็อยู่รอดปลอดภัยจากคนใจร้ายมาตลอด เพราะบ้านพักที่นี่หลังไม่ได้ใหญ่เท่าบ้านพักที่หัวหิน พาขวัญจึงต้องนอนกับพลอยชมพู เขาเลยไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้เธออีก แถมเวลาที่ใช้เวลาท่องเที่ยว ดำน้ำ เดินเล่นชายหาด ถ่ายรูป ปาร์ตี้ ว่ายน้ำในสระหน้าบ้าน หรือทำกับข้าว เธอก็ตัวติดกับน้องสาวของเขา แทบไม่ห่างกันไปไหนเลย จนเขาไม่สามารถแทรกตัวเข้าไปแกล้งเธอได้ หรือแม้กระทั่งจะแอบกอดให้หายคิดถึง ยังไม่มีโอกาสนั้นเลย คนตัวโตนั่งมองสาวสวยในชุดบิกินีตัวจิ๋วในโทรศัพท์มือถือที่น้องชายส่งมาให้ เพราะได้รับอภิสิทธิ์ของการเป็นตากล้อง ได้ใกล้ชิดและคลุกวงในกับสองสาว ในขณะที่เขาทำได้แค่ยืนดูอยู่เฉยๆ เท่านั้น จะบ่นเธอเรื่องการแต่งตัวก็ทำได้ไม่ถนัด เพราะทุกคนในบ้านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เธอโตเป็นผู้ใหญ่และบรรลุนิติภาวะแล้ว ตอนนี้ เธอก็เปิดเทอมในชั้นปีที่สามมาได้เกือบสองเดือนแล้ว และเขาก็คงรับส่งเธอได้อีกไม่นาน เพราะเทอมสองเธอจัดตารางเรียนล่วงหน้าเอาไว้ ตารางมันไม่ได้เป็นเวลาเช้าถึง
เขาจับเธอให้ลุกขึ้นจากกายเขา แล้วจูงมือพาคนตัวน้อยลงไปเล่นน้ำกันในสระโดยที่ไม่ยอมให้เธอใส่ชุดว่ายน้ำสีหวานนั่นอีกสักชิ้น หนุ่มสาวหยอกล้อกันอยู่ในน้ำอีกไม่นาน คนตัวโตที่หื่นกระหายก็แผลงฤทธิ์ใส่เมียสาวอีกครั้ง “พี่พีท” “เรียกพี่ทำไมครับ” “ก็พี่ เอ่อ มัน..” เธอรู้สึกถึงสิ่งที่ดุนดันอยู่ที่หน้าท้องของเธอ ก็ให้หวั่นใจ สามีที่มีความต้องการที่มากล้น กำลังจะจับเธอกินอีกแล้วแน่ๆ “มันต้องการพั้นช์อีกแล้ว ขอกินอีกรอบนะครับ แล้วจะให้ไปนอนกลางวัน” “อือออ พี่พีทเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนเยอะแยะคะ” เขากอดกระชับคนตัวบางแล้วดันเธอไปจนถึงริมขอบสระอย่างที่เขาเคยทำเมื่อนานมาแล้ว แต่ครั้งนี้มันเต็มไปด้วยความสมยอมและยินดีของเธอ “อยู่กับพั้นช์ พี่หิวตลอดเวลาเลย ยิ่งพั้นช์ท้อง พี่ยิ่งหิว ไม่รู้เป็นอะไร ตัวพั้นช์มันหอมกว่าปกติ” เขาช้อนอุ้มที่สะโพกเธอขึ้นมา ก่อนจดจ่อตัวตนที่แข็งเขม็งที่ปากทางรักของเธอ คนตัวบางกอดรัดรอบคอเขาแน่น แล้วกดร่องรักฉ่ำน้ำของเธอให้ครอบครองตัวตนใหญ่โตของเ
สามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันตื่นขึ้นมาในช่วงสายของวันต่อมา เมื่อคืนเข้าหอ เขาปล่อยให้เธอนอนหลับพักผ่อนหลายชั่วโมง ก่อนปลุกเธอมาทานข้าวเย็นแล้วอาบน้ำเตรียมตัวนอน ซึ่งเขาก็จับเธอกินด้วยความหิวกระหายอีกแค่สองครั้งเท่านั้น เพราะภรรยาป้ายแดงที่พ่วงด้วยตำแหน่งว่าที่คุณแม่ยังสาวค่อนข้างอ่อนเพลียจนเห็นได้ชัด เขาจึงเอาแต่ใจกับเธอไม่ลง จึงปล่อยให้เธอนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ สายวันนี้ทั้งเธอและเขาจึงสดชื่น ไม่ได้หลงเหลืออาการอ่อนเพลียแต่อย่างใด “พั้นช์ อาบน้ำแล้วออกไปหาข้าวทานกันนะครับ ป่านนี้ลูกเราหิวแย่แล้ว” “ค่ะ” เขาอุ้มเธอเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพากันออกไปหาร้านอาหารอร่อยๆ ทานกัน แต่โลกก็ดันกลมเหลือเกินเมื่อเขาและเธอบังเอิญเจอกับคู่สามีภรรยาที่เคยมีประเด็นกับพวกเขาทั้งคู่ “เอ่อ สวัสดีครับ คุณพีท คุณพั้นช์” มานเมตต์และภรรยา เดินตรงเข้ามาทักทายพิรัชย์และพาขวัญถึงที่โต๊ะอาหาร ตั้งแต่ที่พ่อเขาถูกตำรวจวิสามัญไปเมื่อเดือนก่อน หลังจากงานศพของพ่อเขาที่คนทั้งคู่อุตส่าห์มาร่วมงานเพื่ออโหสิกรรมใ
ไหนว่าตามใจเธอไง งานแต่งงานในโบสถ์ง่ายๆ ของเขา คือการเชิญแขกมาร่วมงานจนเต็มโบสถ์ขนาดใหญ่ที่บรรจุคนได้นับพัน ไหนจะตกแต่งสถานที่ด้วยดอกกุหลาบนำเข้าสีขาวและดอกลิลลี่แห่งหุบเขา หรือ Lily of the Valley สีขาวน่ารักเต็มโบสถ์ไปหมด ทั้งยังจัดสถานที่สำหรับถ่ายรูปที่สวนข้างโบสถ์เสียหรูหรา ประดับประดาด้วยดอกไม้เมืองนอกสีขาวนานาพันธุ์ ดั่งสวนในฝันของเจ้าหญิงก็ไม่ปาน บ่าวสาวที่งดงามราวเจ้าชายเจ้าหญิง กำลังกล่าวคำปฏิญาณและสวมแหวนแต่งงานให้แก่กัน ก่อนจะมอบจุมพิตที่หวานล้ำต่อหน้าสักขีพยานนับพัน แล้วพากันมาโยนช่อดอกลิลลี่แห่งหุบเขา ให้กับสาวๆที่มายืนรอกันอยู่ที่บันไดหน้าโบสถ์ โดยสาวผู้โชคดีที่รับช่อดอกไม้นั้นได้ก็ไม่ใช่ใครอื่น เป็นจริญญา เพื่อนรักของเจ้าสาวนั่นเอง บ่าวสาวจับจูงมือกันไปขึ้นรถสปอร์ตเปิดประทุนคันหรู แล้วพากันขับออกไป ท่ามกลางเสียงปรบมือและโห่ร้องยินดีของสักขีพยานทั้งหลาย เจ้าสาวคนสวยเอนศีรษะพิงบ่าบึกบึนของเจ้าบ่าวสุดหล่อเอาไว้ แล้วเงยหน้าขึ้นมองสบตากับเขา แล้วก็เป็นเขาที่อดใจไม่ไหว ก้มหน้าลงมาจุ๊บปากของเธอเบาๆ หนึ่งครั้ง เพราะวันนี้
พาขวัญหลับไปหนึ่งคืนเต็มๆ เธอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีในช่วงเช้าของอีกวัน สิ่งแรกที่เธอเห็นนอกจากเพดานสีขาวของโรงยาบาลคือคนตัวโตที่ฟุบหน้านอนหลับอยู่ที่ข้างเตียงของเธอ มือใหญ่จับมือของเธอแน่นจนรู้สึกอุ่นวาบไปทั้งหัวใจ “พี่พีท” พิรัยช์สะดุ้งตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงหวานที่แสนคุ้นเคย แม้มันจะแหบพร่ากว่าเดิมก็ตามที “ที่รัก ตื่นแล้วหรอครับ ขอบคุณพระเจ้า” ร่างใหญ่ลุกขึ้นโอบกระชับร่างบางขึ้นมากอดแนบอก เขาลูบหลังลูบไหล่เพื่อเรียกขวัญให้คนตัวน้อยที่อาจจะยังไม่หายตกใจดี ซึ่งเธอก็กอดเขาตอบเสียแน่นเหมือนกัน “พี่พีท พี่ปลอดภัยดีใช่ไหมคะ มันไม่ได้ทำอะไรพี่ใช่ไหม” “ครับ เราสามคนปลอดภัยดี” คนตัวเล็กขยับตัวออกจากอ้อมอกอันอบอุ่น มองเขาตาแป๋วด้วยไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร ในเมื่อเธอกับเขาเสี่ยงอันตรายกันอยู่ในโกดังนั้นแค่สองคน หรือเธออาจจะฟังผิดไป จึงเอ่ยทวนคำของเขาอีกครั้ง “เราสามคน หรือคะ” “ครับ เราสามคน พี่ พั้นช์ และอีกคนในนี้” มือใหญ่อบอุ่น ลูบหน้าท
พิรัชย์เหยียบคันเร่งแทบมิดเพื่ออยากไปถึงที่หมายให้เร็วที่สุด ทีมบอดี้การ์ดขับตามมาติดๆ แต่เมื่อใกล้ถึงที่หมายก็ต้องขับตามเจ้านายให้ห่างเข้าไว้ เพื่อความปลอดภัยของพาขวัญ พิรัชย์ถึงที่หมายในไม่นาน ตรงหน้าเขาคือโกดังร้างกลางป่า ที่มีคนของนิมมานต์ยืนเฝ้ายามอยู่รอบบริเวณ พวกมันตรงเข้าค้นตัวของเขาแล้วปลดอาวุธที่เขาพกมาทั้งหมด แล้วพาเขาเข้าไปในโกดังนั้นทันที “พั้นช์” เขารีบวิ่งไปหาคนรักสาวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้กลางโกดังที่ทั้งมืดและเหม็นอับนั้น ดีหน่อยที่มันไม่ได้มัดเธอเอาไว้ เพราะคิดว่าสาวน้อยตัวบางอย่างเธอไม่มีพิษมีภัยอะไร “พี่พีท” สาวน้อยโผเข้ากอดเขาแน่น น้ำตาไหลอาบแก้ม เธอกลัวจริงๆ ไม่ใช่กลัวแค่พวกมันจะทำอะไรเธอ แต่เธอกลัวพวกมันจะล่อเขามาฆ่า เหมือนตอนนี้ที่เขาอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว ไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าคนชั่วอย่างไอ้นิมมานต์มันจะทำอะไรกับเขาบ้าง “พี่พีทมาทำไมคะ มันจะฆ่าพี่นะ” “พี่รู้ แต่จะให้พี่ทิ้งพั้นช์ไว้ได้ไง ถ้าพั้นช์เป็นอะไรไป พี่จะอยู่ได้ยังไง” “แล้วถ้าพี่พีทเป็น
หลังจากวันนั้น คลื่นลมก็สงบมาโดยตลอด นิมมานต์ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร และคนของเขาก็พยายามหาหลักฐานมาจนได้นั่นคือคลิปเสียงที่ไอ้คนที่รับจ้างมาฆ่าเขาแอบอัดไว้ทุกครั้งที่มีการนัดเจอกันและพูดคุยรายละเอียดงานทุกอย่าง มีเสียงของมันและนิมมานต์ชัดเจน มันคงรู้ตัวว่ามันคงอาจถูกเก็บได้ทุกเมื่อ จึงรวบรวมหลักฐานเอาผิดนิมมานต์เอาไว้ แล้วฝากเอาไว้ที่เมียของมันเอง โชคดีที่ไอ้นิมมานต์มันพอมีความเป็นคนอยู่บ้าง จึงไม่ได้ตามฆ่าลูกเมียของไอ้สองตัวนั้น จริงๆก็ไม่รู้ว่ามีความเป็นคนหรือประมาท คิดไม่ถึงกันแน่ว่าคนที่มันใช้งานมาหลายครั้ง จะกล้าหักหลังมันแบบนี้ และเขาก็พอมีคนรู้จักที่เป็นตำรวจน้ำดีอยู่บ้าง จึงทำสำเนาหลักฐานเหล่านั้นส่งให้ตำรวจไปชุดหนึ่งเอาไว้เป็นหลักฐานเอาผิดมัน ผ่านมาแล้วหนึ่งเดือนเต็มๆ จนลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของนิมมานต์แต่งงานกับลูกสาวรัฐมนตรีชื่อดัง หลังจากนั้นมันก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง เพราะมันเองก็สืบรู้มาว่าทางเขาได้หลักฐานมาจากเมียไอ้สองตัวนั้นแล้ว ดีที่เขาส่งลูกเมียของไอ้สองตัวนั้นไปอยู่ในที่ปลอดภัยเสียก่อน ไม่อย่างนั้นคงได้มีคนตายตามกันไปอีกหลายศพ
พิรัชย์นั่งฟังรายงานความคืบหน้าของเรื่องที่มีคนจงใจพยายามฆ่าเขาแล้วทำให้เป็นอุบัติเหตุเมื่อวันก่อนด้วยใบหน้าเคร่งเครียด ตอนนี้คนของเขาจับคนร้ายได้แล้วที่ชายแดน มันสารภาพจนหมดเปลือก แต่ในขณะที่กำลังจะพามันทั้งสองคนไปส่งตำรวจ คนของเขาก็โดนถล่มยิง ทั้งเจ็บทั้งตายไปหลายคน ส่วนคนร้ายที่พยายามฆ่าเขาเสียชีวิตทั้งคู่ “ไอ้นิมมานต์ มันกล้าขนาดนี้เลยหรอ” กรามแกร่งขบกันจนขึ้นสันนูน มือใหญ่ทั้งสองกำแน่นเพื่อระงับอารมณ์โกรธ เขาพยายามบังคับไม่ให้ตัวเองตามไปถล่มคนพวกนั้นให้ตายตกตามลูกน้องของเขาไปเสียก่อน “ตอนนี้เราไม่มีหลักฐานที่จะเอาผิดมันได้เลยครับ ไอ้สารเลวสองตัวนั่นก็ตายไปแล้ว ไม่มีโทรศัพท์ติดตัว ไม่มีหลักฐานอะไรบ่งบอกว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับไอ้นิมมานต์เลย เพราะมันสองตัวบอกว่าไอ้นิมมานต์มันจ่ายเป็นเงินสด ไม่มีการโอนผ่านบัญชี ส่วนการเรียกใช้งานก็ให้คนไปตามที่บ้าน นัดพบกันตามที่รกร้างไร้กล้องวงจรปิด” ยิ่งลูกน้องรายงานข้อเท็จจริงเท่าไหร่ เจ้านายหนุ่มยิ่งเครียดขึ้งเท่านั้น หนทางที่จะเอาผิดมันทางกฎหมาย ปิดตายลงทุกที และหนทางที่จะให้
“พีทคะ” ร่างใหญ่ที่เพิ่งเดินออกจากห้องน้ำมาต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่ออยู่ๆ คนรักเก่าในสภาพผ้าเช็ดตัวผืนเดียวไม่ต่างจากเขาวิ่งถลาเข้ามากอดรัดเขาเอาไว้ เขาตื่นมาในห้องของพาขวัญในเวลาค่อนข้างสาย จึงรีบแยกย้ายกันมาอาบน้ำห้องใครห้องมันเพื่อที่จะได้รีบลงไปทานอาหารเช้าให้ทันเวลาเพราะกลัวว่าแม่จะบ่น “ชัญญ่า คุณเข้ามาทำไม” เขาไม่ถามว่าเธอเข้ามาได้ยังไง เพราะรู้ดีว่าเธอคงไปเอากุญแจสำรองจากในตู้นั่นมาแน่นอน เพราะเมื่อคืนเธอก็แอบเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในห้องแต่งตัวของพาขวัญ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ เธอต้องเห็นฉากรักของเขากับพาขวัญแน่นอน “ชัญญ่าเข้ามาหาคุณสิคะ เมื่อก่อนตอนเช้าๆ พีทจะต้องทำอะไรชัญญ่าก่อนจะอาบน้ำแทบทุกวัน ชัญญ่าเลยเข้ามาปรนนิบัติพีทเหมือนที่เคยทำ” เธอยังคงกอดเขาแน่นๆ มือร้อนๆ ก็ลูบไล้ไปทั่วหน้าอกหนั่นแน่น จนปลายยอดอกของเขามันตั้งชันแข็งขึงไปหมด “ผมอิ่มแล้ว ผมมีคนให้ทำด้วยแล้ว เมื่อคืนคุณก็เห็นนี่” ชัญญาภัคชะงักค้างไป ด้วยไม่แน่ใจว่าเขาหมายถึงอะไร หรือเขาจะรู้ต
“พีท พีทคะ” ชัญญาภัคเคาะประตูห้องอดีตคนรักอยู่นาน ร้องเรียกเขาอยู่หลายครั้งก็ไม่มีคนมาเปิดประตูให้ เลยลองบิดลูกบิดประตูดูก็พบว่ามันไม่ได้ล็อก จึงยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ แล้วเดินเข้าไปในห้องที่มืดสนิท มีเพียงแสงจากไฟภายนอกส่องเข้ามาเล็กน้อยเท่านั้น เธอเดินมาหยุดที่เตียงกว้างก็ต้องแปลกใจ บนเตียงนั้นไม่มีเขานอนอยู่ จึงเปิดไฟแล้วเดินหาเขาจนทั่วห้องก็ไม่มี “อย่าบอกนะว่าไปนอนกับนังพั้นช์” เธอรีบเดินตรงดิ่งไปที่ชั้นล่าง เพื่อเปิดตู้ที่เก็บกุญแจสำรอง เพราะเขาเคยบอกเธอว่ากุญแจสำรองของทุกห้องเก็บเอาไว้ที่ไหน ก่อนจะเอากุญแจดอกน้อยที่มีชื่อติดว่าพั้นช์และพีทออกมา เผื่อวันหลังเธอจะได้แอบเข้าห้องเขา เสียงที่ดังแว่วๆ ออกมาจากห้องที่อยู่ด้านในสุดฝั่งตะวันตก ทำให้คนที่ยืนอยู่หน้าประตูกำมือแน่นจนตัวสั่นเทาไปหมด เสียงที่เล็ดลอดออกมาเบาแสนเบาแทบฟังไม่เป็นภาษานั้น เธอรู้ดีว่ามันเป็นเสียงอะไร และเสียงของใคร เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าคำรามลั่นดังขึ้นมาในครั้งสุดท้าย พร้อมๆกับเสียงกรีดร้องของผู้หญิงดังขึ้นกว่าเดิม ก่อนจะ