ตลอดเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ครอบครัวคลาร์กไปพักผ่อนกันที่บ้านพักตากอากาศที่เกาะหลีเป๊ะ พาขวัญก็อยู่รอดปลอดภัยจากคนใจร้ายมาตลอด เพราะบ้านพักที่นี่หลังไม่ได้ใหญ่เท่าบ้านพักที่หัวหิน พาขวัญจึงต้องนอนกับพลอยชมพู เขาเลยไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้เธออีก แถมเวลาที่ใช้เวลาท่องเที่ยว ดำน้ำ เดินเล่นชายหาด ถ่ายรูป ปาร์ตี้ ว่ายน้ำในสระหน้าบ้าน หรือทำกับข้าว เธอก็ตัวติดกับน้องสาวของเขา แทบไม่ห่างกันไปไหนเลย จนเขาไม่สามารถแทรกตัวเข้าไปแกล้งเธอได้ หรือแม้กระทั่งจะแอบกอดให้หายคิดถึง ยังไม่มีโอกาสนั้นเลย คนตัวโตนั่งมองสาวสวยในชุดบิกินีตัวจิ๋วในโทรศัพท์มือถือที่น้องชายส่งมาให้ เพราะได้รับอภิสิทธิ์ของการเป็นตากล้อง ได้ใกล้ชิดและคลุกวงในกับสองสาว ในขณะที่เขาทำได้แค่ยืนดูอยู่เฉยๆ เท่านั้น จะบ่นเธอเรื่องการแต่งตัวก็ทำได้ไม่ถนัด เพราะทุกคนในบ้านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เธอโตเป็นผู้ใหญ่และบรรลุนิติภาวะแล้ว ตอนนี้ เธอก็เปิดเทอมในชั้นปีที่สามมาได้เกือบสองเดือนแล้ว และเขาก็คงรับส่งเธอได้อีกไม่นาน เพราะเทอมสองเธอจัดตารางเรียนล่วงหน้าเอาไว้ ตารางมันไม่ได้เป็นเวลาเช้าถึง
พิรัชย์รู้สึกตัวตื่นตอนที่รถเลี้ยวเข้ามาในเขตรั้วบ้าน จึงปลุกสาวน้อยที่นั่งกอดเขาแล้วหลับเอาแรงมาตลอดทางให้ตื่นขึ้น “พั้นช์ ถึงบ้านเราแล้ว” สาวน้อยลืมตาขึ้นมาอย่างงัวเงีย ขยับตัวลงไปยืนเซๆ ข้างรถ เขาจึงรีบลงมาประคองพาเธอไปส่งที่ประตูห้อง โดยที่เธอพยายามจะดันประตูปิด แต่เขากลับพยายามจะดันตัวเข้ามาในห้องเธอให้ได้ สุดท้าย คนเมาที่ตัวเล็กกว่า จะสู้แรงคนเมาแต่ตัวโตได้อย่างไร เขาปิดประตูล็อกกลอนแล้วลากคนตัวเล็กไปที่ข้างเตียง แล้วจับเธอถอดเสื้อผ้าจนหมดทุกชิ้น และเขาเองก็เช่นกัน สองกายเปลือยเปล่าทิ้งตัวลงนอนกอดกันภายใต้ผ้าห่มผืนหนา โดยที่หญิงสาวดิ้นรนขัดขืนเขา เพราะกลัวว่าเขาจะทำแบบนั้นกับเธออีก “อยู่นิ่งๆ พี่นอนกอดเฉยๆ วันนี้ไม่ทำอะไรหรอกครับ” “แล้วพี่จะแก้ผ้าพั้นช์ทำไมคะ” “แล้วพั้นช์จะนอนทั้งชุดนั้นหรอครับ หื้ม” “แล้วทำไมพี่ไม่กลับไปนอนห้องตัวเองคะ” “พี่คิดถึงเมียพี่นี่นา ไม่ได้นอนกอดกันมาตั้งหลายเดือน พี่คิดถึงพั้นช์สุดๆ” เขากอดกระชับเธอไว้แน่นขึ้นไปอี
ในการเรียนเทอมสองของชั้นปีที่ 3 พาขวัญได้รับอนุญาตให้ขับรถไปเรียนเอง และด้วยตารางเรียนที่ไม่ได้เป็นเวลาตายตัวเช้าถึงเย็นเหมือนเมื่อก่อน จึงมีเวลาว่างและอิสระที่จะเที่ยวเล่นกับเพื่อนๆ ในตอนบ่ายที่ไม่มีคาบเรียนเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งวันศุกร์เธอไม่มีเรียนเลย จึงมักมีเวลาทำแปลงผักสวนครัวอยู่ที่บ้าน และได้ออกไปกินข้าวดูหนังกับเพื่อนในกลุ่ม หรือแม้กระทั่งเหมราช โดยที่เธอจะขออนุญาตแค่พิมพ์มาดาและจะพยายามกลับบ้านก่อนที่เขาจะเลิกงานกลับมา จึงไม่มีปัญหาและโดนบ่นมากมายนักในเทอมนี้ ทำให้เธอรู้สึกมีความสุขมาก “พั้นช์ยื่นเอกสารขอฝึกงานเมื่อไหร่” พิรัชย์เอ่ยถามขึ้นบนโต๊ะอาหารมื้อเช้า ช่วงนี้เขาเองก็ยุ่งกับโปรเจคคอนโดมิเนียมหรูใจกลางแหล่งท่องเที่ยวของเมืองภูเก็ตแห่งใหม่ ที่กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเจรจาหาที่ดินที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งที่ดินที่เขาเล็งเอาไว้เป็นทำเลทอง ที่นายทุนทุกคนต่างหมายปอง แต่เจ้าของก็ยังไม่ยอมตัดสินใจขายให้ใครเสียที “กำลังจะยื่นค่ะ” “อืม ยื่นมาได้เลยนะ พี่สั่งเลขาพี่เอาไว้แล้ว เรื่องนักศึกษาฝึกงานปี
ไม่นาน คนที่กำลังร้อนรุ่มในหัวใจก็กลับถึงบ้าน เขาเข้าไปนั่งรอเธอในห้องนั่งเล่นที่มืดสนิทอยู่นาน เพราะสั่งให้เด็กในบ้านกลับเรือนพักหมดแล้ว และเมื่อมีเสียงรถยนต์แล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน เขาก็รีบเดินออกไปซุ่มดูยัยเด็กดื้อของเขาในมุมมืดทันที “ขอบคุณมากค่ะพี่หมอ วันนี้พั้นช์อิ่มแล้วก็สนุกมาก” เธอพนมมือไหว้ขอบคุณเขาอย่างสวยงามเพื่อเป็นการขอบคบคุณเขา “ไม่เป็นไรครับ คราวหน้าถ้าพั้นช์อยากไปไหน โทรหาพี่เลยนะ ถ้าว่างพี่จะรีบมารับ หรือไม่ว่างก็จะรีบแลกเวร ถ้าแลกได้” “ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ค่ะ แต่ก็ขอบคุณพี่หมอมากนะคะ ที่ดีกับพั้นช์ขนาดนี้ พั้นช์โชคดีจริงๆที่มีพี่ชายแบบพี่หมอ” หญิงสาวยิ้มหวานให้กับเขา มือเล็กกอดนิยายที่เขาซื้อให้เอาไว้แนบอก คืนนี้เธอคงไม่ได้นอน เพราะจะอ่านเรื่องนี้ให้หนำใจ ชายหนุ่มมองสาวน้อยตรงหน้าด้วยดวงตาแสนรัก ที่เขามาหาเธอบ่อยๆ ไลน์หรือโทรหาเธอแทบทุกวัน พาเธอไปดูหนังไปทานข้าวกันสองต่อสองมาหลายครั้ง เธอยังไม่รู้ตัวอีกหรือว่าเขาไม่ได้คิดกับเธอแค่พี่น้อง จนถึงตอนนี้ อีกไม่กี
มือใหญ่กระชากร่างบางมาปะทะอกแกร่ง แล้วอุ้มเธอไปทิ้งตัวทาบทับกันบนเตียงกว้าง เขาก้มหน้าลงประกบปากบดจูบเธออย่างเร่าร้อนรุนแรงจนคนตัวบางที่ดิ้นรนขัดขืนอ่อนระทวยนอนนิ่งๆให้เขารังแกได้ตามใจ เมื่อเห็นว่าคนตัวบางสิ้นฤทธิ์แล้ว ปากหยักจึงค่อยๆ ลดจังหวะลงมาเป็นเนิบนาบเชื่องช้า ก่อนสอดแทรกลิ้นร้อนเข้าไปเกี่ยวพันกับลิ้นของเธอ แล้วกวาดต้อนความหวานในโพรงปากน้อยอยู่นาน จนคนตัวบางต้องส่งเสียงครางในลำคอเพื่อปลดปล่อยความอึดอัดในอก “อื้อออ” “เด็กดื้อ ความผิดของเธอมันมากมายจนพี่ลดโทษให้ไม่ได้อีกแล้ว” เสียงหุ้มแหบพร่า เอ่ยเบาแทบกระซิบ ดวงตาคมกริบกวาดมองใบหน้าหวานที่ดวงตาปรือปรอย ก่อนจะค่อยๆก้มลงมาบดคลึงกลีบปากของเธออย่างนุ่มนวลอ่อนหวานอีกครั้ง แล้วเร่งจังหวะเป็นโหยหาจนคนตัวบางหลับตาพริ้ม มือใหญ่ลูบไล้ไปตามเรือนร่างงาม ก่อนสอดแทรกเข้ามาใต้กระโปรงของเธอ เขาลูบไล้ที่ต้นขาที่สั่นสะท้านนั่น แล้วรูดซิปชุดเดรสตัวสวยแล้วถอดมันทิ้งกองลงที่พื้นข้างเตียงอย่างไม่แยแสมันสักนิด เขาไถลจมูกและปากร้อนออกมาพรมจูบไปจนทั่วแก้มนว
ในอ่างอาบน้ำใบโตที่มีน้ำเต็มปริ่ม ร่างแกร่งนั่งพิงขอบอ่างโดยมีร่างบางนั่งหันหลังแล้วใช้หน้าอกหนั่นแน่นเป็นที่พักพิง มือใหญ่ของคนเอาแต่ใจลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างเย้ายวนแล้วมาลูบวนไปวนมาอยู่ที่หน้าอกอวบเด้งสู้มือของเธอ “พี่พีท อย่าค่ะ” “พี่กำลังถูสบู่ให้พั้นช์อยู่ไง” “พี่ถูไปหลายรอบแล้วนะคะ พั้นช์สะอาดแล้ว” “ไหน สะอาดจริงหรือเปล่า พี่ขอดมก่อน” จมูกโด่งซุกไซ้ที่ซอกคอของเธอ เขาสูดกลิ่นเนื้อตัวสาวจนฉ่ำปอด แล้วตวัดลิ้นปาดไล้ไปจนทั่วซอกคอและใบหูขาว “อ๊ะ พี่พีท” คนตัวบางเริ่มหายใจติดขัด อยากจะขยับตัวหนีแต่ก็ทำไม่ได้ เมื่อแขนแข็งแกร่งและมือใหญ่ร้อนผ่าวของเขา ทั้งกอดรัดและลูบไล้เคล้นคลึงยุ่มย่ามไปทั่วเรือนร่างของเธอ พาขวัญสะดุ้งโหยงเมื่อมือใหญ่ของเขาตรงเข้ากรีดไล้ที่กลีบดอกไม้ของเธอ ที่ตอนนี้มันขับน้ำหวานออกมาเคลือบคลอจนหยาดเยิ้มไปหมดแล้ว “อ่าห์ น้ำเยิ้มแล้ว รู้สึกยังไงครับ บอกพี่ซิ” “มะ ไม่ค่ะ พั้นช์ ไม่รู้สึก อ๊ะ” นิ้วแกร่งบดบี้เบ
ร่างใหญ่รู้สึกตัวตื่นแต่เช้ามืด เพราะรู้สึกถึงความร้อนที่หน้าอกของเขาจนเหงื่อออกไปทั้งตัว จึงใช้มืออังหน้าหน้าผากคนตัวบางก็พบว่าเธอตัวร้อนจี๋ “พั้นช์ ทำไมตัวร้อนขนาดนี้เนี่ย นี่ขนาดพี่ให้กินยาดักไว้ ยังเอาไม่อยู่เลยหรอ” เขารีบลุกขึ้นเปิดไฟจนสว่างจ้า แล้วหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้กับเธอจนอุณหภูมิลดลงเล็กน้อย จึงหาชุดนอนสบายๆ มาใส่ให้แล้วปลุกเธอขึ้นมากินยาแก้ไข้และแก้อักเสบอีกครั้ง “พั้นช์ครับ ตื่นมากินยาก่อน” เธอลืมตาขึ้นมาอย่างมึนงง ขยับตัวลุกขึ้นนั่งก็ต้องสูดปากเพราะรู้สึกเจ็บที่ดอกไม้กลีบบางของเธอเหลือเกิน เธอรับยามากิน แล้วหลับลงไปอย่างง่ายดายอีกครั้งเพราะพิษไข้ ผ่านไปหลายชั่วโมง เขาคอยเช็ดตัวให้เธออยู่หลายครั้ง แต่ร่างบางก็ยังไม่ได้ตัวเย็นลงเลยสักนิด คนตัวโตจึงรีบต่อสายหาหมอน่านฟ้า เพื่อนรักที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ประถม ที่เป็นทั้งหมอและเจ้าของโรงพยาบาลชื่อดัง “ว่าไง ไอ้พีท โทรมาแต่เช้า มึงอย่าบอกนะว่าจะโทรมาเลื่อนนัดกู” ด้วยอาทิตย์หน้า พวกเขามีนัดกันไปสังสรรค์ที่ผับชื่อดัง
หลังจากวันนั้น เขาก็อ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของเธอ เข้ามานอนกับเธอทุกคืน และแน่นอนว่า ตั้งแต่ที่เธอหายป่วย คนหื่นกระหายอย่างเขาก็จับเธอกินทุกคืนเช่นกัน จะเว้นก็แค่วันที่เธอประจำเดือนมา และนั่นก็เป็นโอกาสให้เธอได้เริ่มกินยาคุมกำเนิดเพื่อความปลอดภัยของตัวเธอเอง เพราะตั้งแต่ครั้งแรกที่มีอะไรกัน เขาไม่เคยป้องกัน และทุกครั้งจะต้องแตกกระจายในตัวเธอลึกๆ วันละหลายๆ ครั้ง ถ้าเธอไม่ป้องกันตัวเอง เธอต้องท้องก่อนจะเรียนจบแน่นอน วันนี้เป็นวันแรกที่เธอต้องไปฝึกงานที่บริษัทของเขาพร้อมกับเพื่อนรักอีกสองคน ที่พักหลังๆ ปฐวีมันจะคอยตามรับส่งจริญญาเสมอ อ้างว่ากลัวว่าพายุ คนรักของจริญญา จะหาโอกาสพาเพื่อนรักไปเสียคน ซึ่งก็น่าแปลกที่คนอย่างจริญญายอมให้ปฐวีครอบงำได้แบบนั้น แต่ต่อให้เธอเอ่ยถามไปกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง สองคนนั้นก็ยังยืนกรานว่าไม่มีอะไรมากกว่านั้นจริงๆ โดยเฉพาะจริญญาเพื่อนรักของเธอ นักศึกษาฝึกงานทั้งหมด เข้าไปนั่งรอท่านประธานอยู่ในห้องประชุมแล้ว พร้อมทั้งผู้จัดการแผนกต่างๆ ที่เขาจัดสรรให้นักศึกษาเหล่านี้ไปฝึกงานด้วย ก็มานั่งรอรับเด็กๆ ของตัวเองเข้าแผนก ไม่นาน
เขาจับเธอให้ลุกขึ้นจากกายเขา แล้วจูงมือพาคนตัวน้อยลงไปเล่นน้ำกันในสระโดยที่ไม่ยอมให้เธอใส่ชุดว่ายน้ำสีหวานนั่นอีกสักชิ้น หนุ่มสาวหยอกล้อกันอยู่ในน้ำอีกไม่นาน คนตัวโตที่หื่นกระหายก็แผลงฤทธิ์ใส่เมียสาวอีกครั้ง “พี่พีท” “เรียกพี่ทำไมครับ” “ก็พี่ เอ่อ มัน..” เธอรู้สึกถึงสิ่งที่ดุนดันอยู่ที่หน้าท้องของเธอ ก็ให้หวั่นใจ สามีที่มีความต้องการที่มากล้น กำลังจะจับเธอกินอีกแล้วแน่ๆ “มันต้องการพั้นช์อีกแล้ว ขอกินอีกรอบนะครับ แล้วจะให้ไปนอนกลางวัน” “อือออ พี่พีทเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนเยอะแยะคะ” เขากอดกระชับคนตัวบางแล้วดันเธอไปจนถึงริมขอบสระอย่างที่เขาเคยทำเมื่อนานมาแล้ว แต่ครั้งนี้มันเต็มไปด้วยความสมยอมและยินดีของเธอ “อยู่กับพั้นช์ พี่หิวตลอดเวลาเลย ยิ่งพั้นช์ท้อง พี่ยิ่งหิว ไม่รู้เป็นอะไร ตัวพั้นช์มันหอมกว่าปกติ” เขาช้อนอุ้มที่สะโพกเธอขึ้นมา ก่อนจดจ่อตัวตนที่แข็งเขม็งที่ปากทางรักของเธอ คนตัวบางกอดรัดรอบคอเขาแน่น แล้วกดร่องรักฉ่ำน้ำของเธอให้ครอบครองตัวตนใหญ่โตของเ
สามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันตื่นขึ้นมาในช่วงสายของวันต่อมา เมื่อคืนเข้าหอ เขาปล่อยให้เธอนอนหลับพักผ่อนหลายชั่วโมง ก่อนปลุกเธอมาทานข้าวเย็นแล้วอาบน้ำเตรียมตัวนอน ซึ่งเขาก็จับเธอกินด้วยความหิวกระหายอีกแค่สองครั้งเท่านั้น เพราะภรรยาป้ายแดงที่พ่วงด้วยตำแหน่งว่าที่คุณแม่ยังสาวค่อนข้างอ่อนเพลียจนเห็นได้ชัด เขาจึงเอาแต่ใจกับเธอไม่ลง จึงปล่อยให้เธอนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ สายวันนี้ทั้งเธอและเขาจึงสดชื่น ไม่ได้หลงเหลืออาการอ่อนเพลียแต่อย่างใด “พั้นช์ อาบน้ำแล้วออกไปหาข้าวทานกันนะครับ ป่านนี้ลูกเราหิวแย่แล้ว” “ค่ะ” เขาอุ้มเธอเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพากันออกไปหาร้านอาหารอร่อยๆ ทานกัน แต่โลกก็ดันกลมเหลือเกินเมื่อเขาและเธอบังเอิญเจอกับคู่สามีภรรยาที่เคยมีประเด็นกับพวกเขาทั้งคู่ “เอ่อ สวัสดีครับ คุณพีท คุณพั้นช์” มานเมตต์และภรรยา เดินตรงเข้ามาทักทายพิรัชย์และพาขวัญถึงที่โต๊ะอาหาร ตั้งแต่ที่พ่อเขาถูกตำรวจวิสามัญไปเมื่อเดือนก่อน หลังจากงานศพของพ่อเขาที่คนทั้งคู่อุตส่าห์มาร่วมงานเพื่ออโหสิกรรมใ
ไหนว่าตามใจเธอไง งานแต่งงานในโบสถ์ง่ายๆ ของเขา คือการเชิญแขกมาร่วมงานจนเต็มโบสถ์ขนาดใหญ่ที่บรรจุคนได้นับพัน ไหนจะตกแต่งสถานที่ด้วยดอกกุหลาบนำเข้าสีขาวและดอกลิลลี่แห่งหุบเขา หรือ Lily of the Valley สีขาวน่ารักเต็มโบสถ์ไปหมด ทั้งยังจัดสถานที่สำหรับถ่ายรูปที่สวนข้างโบสถ์เสียหรูหรา ประดับประดาด้วยดอกไม้เมืองนอกสีขาวนานาพันธุ์ ดั่งสวนในฝันของเจ้าหญิงก็ไม่ปาน บ่าวสาวที่งดงามราวเจ้าชายเจ้าหญิง กำลังกล่าวคำปฏิญาณและสวมแหวนแต่งงานให้แก่กัน ก่อนจะมอบจุมพิตที่หวานล้ำต่อหน้าสักขีพยานนับพัน แล้วพากันมาโยนช่อดอกลิลลี่แห่งหุบเขา ให้กับสาวๆที่มายืนรอกันอยู่ที่บันไดหน้าโบสถ์ โดยสาวผู้โชคดีที่รับช่อดอกไม้นั้นได้ก็ไม่ใช่ใครอื่น เป็นจริญญา เพื่อนรักของเจ้าสาวนั่นเอง บ่าวสาวจับจูงมือกันไปขึ้นรถสปอร์ตเปิดประทุนคันหรู แล้วพากันขับออกไป ท่ามกลางเสียงปรบมือและโห่ร้องยินดีของสักขีพยานทั้งหลาย เจ้าสาวคนสวยเอนศีรษะพิงบ่าบึกบึนของเจ้าบ่าวสุดหล่อเอาไว้ แล้วเงยหน้าขึ้นมองสบตากับเขา แล้วก็เป็นเขาที่อดใจไม่ไหว ก้มหน้าลงมาจุ๊บปากของเธอเบาๆ หนึ่งครั้ง เพราะวันนี้
พาขวัญหลับไปหนึ่งคืนเต็มๆ เธอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีในช่วงเช้าของอีกวัน สิ่งแรกที่เธอเห็นนอกจากเพดานสีขาวของโรงยาบาลคือคนตัวโตที่ฟุบหน้านอนหลับอยู่ที่ข้างเตียงของเธอ มือใหญ่จับมือของเธอแน่นจนรู้สึกอุ่นวาบไปทั้งหัวใจ “พี่พีท” พิรัยช์สะดุ้งตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงหวานที่แสนคุ้นเคย แม้มันจะแหบพร่ากว่าเดิมก็ตามที “ที่รัก ตื่นแล้วหรอครับ ขอบคุณพระเจ้า” ร่างใหญ่ลุกขึ้นโอบกระชับร่างบางขึ้นมากอดแนบอก เขาลูบหลังลูบไหล่เพื่อเรียกขวัญให้คนตัวน้อยที่อาจจะยังไม่หายตกใจดี ซึ่งเธอก็กอดเขาตอบเสียแน่นเหมือนกัน “พี่พีท พี่ปลอดภัยดีใช่ไหมคะ มันไม่ได้ทำอะไรพี่ใช่ไหม” “ครับ เราสามคนปลอดภัยดี” คนตัวเล็กขยับตัวออกจากอ้อมอกอันอบอุ่น มองเขาตาแป๋วด้วยไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร ในเมื่อเธอกับเขาเสี่ยงอันตรายกันอยู่ในโกดังนั้นแค่สองคน หรือเธออาจจะฟังผิดไป จึงเอ่ยทวนคำของเขาอีกครั้ง “เราสามคน หรือคะ” “ครับ เราสามคน พี่ พั้นช์ และอีกคนในนี้” มือใหญ่อบอุ่น ลูบหน้าท
พิรัชย์เหยียบคันเร่งแทบมิดเพื่ออยากไปถึงที่หมายให้เร็วที่สุด ทีมบอดี้การ์ดขับตามมาติดๆ แต่เมื่อใกล้ถึงที่หมายก็ต้องขับตามเจ้านายให้ห่างเข้าไว้ เพื่อความปลอดภัยของพาขวัญ พิรัชย์ถึงที่หมายในไม่นาน ตรงหน้าเขาคือโกดังร้างกลางป่า ที่มีคนของนิมมานต์ยืนเฝ้ายามอยู่รอบบริเวณ พวกมันตรงเข้าค้นตัวของเขาแล้วปลดอาวุธที่เขาพกมาทั้งหมด แล้วพาเขาเข้าไปในโกดังนั้นทันที “พั้นช์” เขารีบวิ่งไปหาคนรักสาวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้กลางโกดังที่ทั้งมืดและเหม็นอับนั้น ดีหน่อยที่มันไม่ได้มัดเธอเอาไว้ เพราะคิดว่าสาวน้อยตัวบางอย่างเธอไม่มีพิษมีภัยอะไร “พี่พีท” สาวน้อยโผเข้ากอดเขาแน่น น้ำตาไหลอาบแก้ม เธอกลัวจริงๆ ไม่ใช่กลัวแค่พวกมันจะทำอะไรเธอ แต่เธอกลัวพวกมันจะล่อเขามาฆ่า เหมือนตอนนี้ที่เขาอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว ไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าคนชั่วอย่างไอ้นิมมานต์มันจะทำอะไรกับเขาบ้าง “พี่พีทมาทำไมคะ มันจะฆ่าพี่นะ” “พี่รู้ แต่จะให้พี่ทิ้งพั้นช์ไว้ได้ไง ถ้าพั้นช์เป็นอะไรไป พี่จะอยู่ได้ยังไง” “แล้วถ้าพี่พีทเป็น
หลังจากวันนั้น คลื่นลมก็สงบมาโดยตลอด นิมมานต์ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร และคนของเขาก็พยายามหาหลักฐานมาจนได้นั่นคือคลิปเสียงที่ไอ้คนที่รับจ้างมาฆ่าเขาแอบอัดไว้ทุกครั้งที่มีการนัดเจอกันและพูดคุยรายละเอียดงานทุกอย่าง มีเสียงของมันและนิมมานต์ชัดเจน มันคงรู้ตัวว่ามันคงอาจถูกเก็บได้ทุกเมื่อ จึงรวบรวมหลักฐานเอาผิดนิมมานต์เอาไว้ แล้วฝากเอาไว้ที่เมียของมันเอง โชคดีที่ไอ้นิมมานต์มันพอมีความเป็นคนอยู่บ้าง จึงไม่ได้ตามฆ่าลูกเมียของไอ้สองตัวนั้น จริงๆก็ไม่รู้ว่ามีความเป็นคนหรือประมาท คิดไม่ถึงกันแน่ว่าคนที่มันใช้งานมาหลายครั้ง จะกล้าหักหลังมันแบบนี้ และเขาก็พอมีคนรู้จักที่เป็นตำรวจน้ำดีอยู่บ้าง จึงทำสำเนาหลักฐานเหล่านั้นส่งให้ตำรวจไปชุดหนึ่งเอาไว้เป็นหลักฐานเอาผิดมัน ผ่านมาแล้วหนึ่งเดือนเต็มๆ จนลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของนิมมานต์แต่งงานกับลูกสาวรัฐมนตรีชื่อดัง หลังจากนั้นมันก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง เพราะมันเองก็สืบรู้มาว่าทางเขาได้หลักฐานมาจากเมียไอ้สองตัวนั้นแล้ว ดีที่เขาส่งลูกเมียของไอ้สองตัวนั้นไปอยู่ในที่ปลอดภัยเสียก่อน ไม่อย่างนั้นคงได้มีคนตายตามกันไปอีกหลายศพ
พิรัชย์นั่งฟังรายงานความคืบหน้าของเรื่องที่มีคนจงใจพยายามฆ่าเขาแล้วทำให้เป็นอุบัติเหตุเมื่อวันก่อนด้วยใบหน้าเคร่งเครียด ตอนนี้คนของเขาจับคนร้ายได้แล้วที่ชายแดน มันสารภาพจนหมดเปลือก แต่ในขณะที่กำลังจะพามันทั้งสองคนไปส่งตำรวจ คนของเขาก็โดนถล่มยิง ทั้งเจ็บทั้งตายไปหลายคน ส่วนคนร้ายที่พยายามฆ่าเขาเสียชีวิตทั้งคู่ “ไอ้นิมมานต์ มันกล้าขนาดนี้เลยหรอ” กรามแกร่งขบกันจนขึ้นสันนูน มือใหญ่ทั้งสองกำแน่นเพื่อระงับอารมณ์โกรธ เขาพยายามบังคับไม่ให้ตัวเองตามไปถล่มคนพวกนั้นให้ตายตกตามลูกน้องของเขาไปเสียก่อน “ตอนนี้เราไม่มีหลักฐานที่จะเอาผิดมันได้เลยครับ ไอ้สารเลวสองตัวนั่นก็ตายไปแล้ว ไม่มีโทรศัพท์ติดตัว ไม่มีหลักฐานอะไรบ่งบอกว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับไอ้นิมมานต์เลย เพราะมันสองตัวบอกว่าไอ้นิมมานต์มันจ่ายเป็นเงินสด ไม่มีการโอนผ่านบัญชี ส่วนการเรียกใช้งานก็ให้คนไปตามที่บ้าน นัดพบกันตามที่รกร้างไร้กล้องวงจรปิด” ยิ่งลูกน้องรายงานข้อเท็จจริงเท่าไหร่ เจ้านายหนุ่มยิ่งเครียดขึ้งเท่านั้น หนทางที่จะเอาผิดมันทางกฎหมาย ปิดตายลงทุกที และหนทางที่จะให้
“พีทคะ” ร่างใหญ่ที่เพิ่งเดินออกจากห้องน้ำมาต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่ออยู่ๆ คนรักเก่าในสภาพผ้าเช็ดตัวผืนเดียวไม่ต่างจากเขาวิ่งถลาเข้ามากอดรัดเขาเอาไว้ เขาตื่นมาในห้องของพาขวัญในเวลาค่อนข้างสาย จึงรีบแยกย้ายกันมาอาบน้ำห้องใครห้องมันเพื่อที่จะได้รีบลงไปทานอาหารเช้าให้ทันเวลาเพราะกลัวว่าแม่จะบ่น “ชัญญ่า คุณเข้ามาทำไม” เขาไม่ถามว่าเธอเข้ามาได้ยังไง เพราะรู้ดีว่าเธอคงไปเอากุญแจสำรองจากในตู้นั่นมาแน่นอน เพราะเมื่อคืนเธอก็แอบเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในห้องแต่งตัวของพาขวัญ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ เธอต้องเห็นฉากรักของเขากับพาขวัญแน่นอน “ชัญญ่าเข้ามาหาคุณสิคะ เมื่อก่อนตอนเช้าๆ พีทจะต้องทำอะไรชัญญ่าก่อนจะอาบน้ำแทบทุกวัน ชัญญ่าเลยเข้ามาปรนนิบัติพีทเหมือนที่เคยทำ” เธอยังคงกอดเขาแน่นๆ มือร้อนๆ ก็ลูบไล้ไปทั่วหน้าอกหนั่นแน่น จนปลายยอดอกของเขามันตั้งชันแข็งขึงไปหมด “ผมอิ่มแล้ว ผมมีคนให้ทำด้วยแล้ว เมื่อคืนคุณก็เห็นนี่” ชัญญาภัคชะงักค้างไป ด้วยไม่แน่ใจว่าเขาหมายถึงอะไร หรือเขาจะรู้ต
“พีท พีทคะ” ชัญญาภัคเคาะประตูห้องอดีตคนรักอยู่นาน ร้องเรียกเขาอยู่หลายครั้งก็ไม่มีคนมาเปิดประตูให้ เลยลองบิดลูกบิดประตูดูก็พบว่ามันไม่ได้ล็อก จึงยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ แล้วเดินเข้าไปในห้องที่มืดสนิท มีเพียงแสงจากไฟภายนอกส่องเข้ามาเล็กน้อยเท่านั้น เธอเดินมาหยุดที่เตียงกว้างก็ต้องแปลกใจ บนเตียงนั้นไม่มีเขานอนอยู่ จึงเปิดไฟแล้วเดินหาเขาจนทั่วห้องก็ไม่มี “อย่าบอกนะว่าไปนอนกับนังพั้นช์” เธอรีบเดินตรงดิ่งไปที่ชั้นล่าง เพื่อเปิดตู้ที่เก็บกุญแจสำรอง เพราะเขาเคยบอกเธอว่ากุญแจสำรองของทุกห้องเก็บเอาไว้ที่ไหน ก่อนจะเอากุญแจดอกน้อยที่มีชื่อติดว่าพั้นช์และพีทออกมา เผื่อวันหลังเธอจะได้แอบเข้าห้องเขา เสียงที่ดังแว่วๆ ออกมาจากห้องที่อยู่ด้านในสุดฝั่งตะวันตก ทำให้คนที่ยืนอยู่หน้าประตูกำมือแน่นจนตัวสั่นเทาไปหมด เสียงที่เล็ดลอดออกมาเบาแสนเบาแทบฟังไม่เป็นภาษานั้น เธอรู้ดีว่ามันเป็นเสียงอะไร และเสียงของใคร เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าคำรามลั่นดังขึ้นมาในครั้งสุดท้าย พร้อมๆกับเสียงกรีดร้องของผู้หญิงดังขึ้นกว่าเดิม ก่อนจะ