สามวันนี้ผมเหนื่อยมาก...แต่เหนื่อยกว่าผมก็คือเจแปน ที่ต้องเดินเอามือมาให้ผมดมเรื่อยๆในห้องนักบิน ฟังไม่ผิดหรอก!เราบินด้วยกัน ผมหาแลกไฟลท์บินกับเจแปนจนได้ ซึ่งไฟลท์แรกของการขึ้น BC ของเธอก็คือ...เวียนนา,ประเทศออสเตรียสิบกว่าชั่วโมงที่บินไป และสองวันที่อยู่นั่นเราเจออากาศหนาวๆติดลบมาอย่างหนักหน่วง จนวันนี้แลนด์ดิ้งกลับ..เจแปนเธอได้หวัดแถมมาด้วย เธอไม่สบายไอและมีน้ำมูก แลนด์เสร็จผมต้องรีบพาเธอกลับมาพักผ่อนที่คอนโดแต่ไม่ทันได้แตะคีย์การ์ดเข้าห้องงานก็เข้าผมแล้ว พ่อแม่ผมอยู่ๆก็เดินออกมาจากลิฟต์! แม่เดินดุ่มๆมือหนึ่งข้างหิ้วกระเป๋าส่วนอีกข้างดึงแขนพ่อ ท่านกำลังตรงมาที่เราสองคน ก่อนจะหยุดจ้องหน้าผมอย่างเอาเรื่อง"ต้นไม้ เรามีเรื่องต้องคุยกัน" เจแปนยิ้มแล้วยกมือไหว้พ่อแม่ผม จนผมหันไปเห็นว่าหน้าเธอเริ่มซีด..จึงรีบแตะคีย์การ์ดเปิดประตูให้ก่อน"แปปนะครับ เจแปนต้องนอน-_-"แต่แม่ไม่ฟังผมเลย ทันทีที่ผมเปิดประตูให้เจแปนเข้าไป แม่ก็รีบแทรกผม!!..และดึงพ่อเข้าตาม เจแปนเธอคงคิดว่ามันน่าเกลียดมากถ้าหากตรงเข้าห้องนอน เธอจึงเดินอ้อยอิ่งไปนั่งที่โซฟา..แล้วเอาหมอนมากอดแทนส่วนผมรีบลากกระเป๋าเก็บเซ็งๆและปิด
(อะไรนะคะกัปตัน พูดขำๆหรือพูดจริง?!)"พูดจริง เจแปนมีปัญหากับกวาง เพราะกวางจะแย่งไอ้ไคล์จากพี่สาวผม ซึ่งมันมีเรื่องราวมาจากความแค้นที่พี่ผมไล่พี่สาวกวางออกจากงานนั่นแหละ..."และผมก็เล่าทุกอย่างให้เจ๊นาเดียร์ฟังลวกๆ เล่าแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่มีใส่สีหรือเติมไข่แต่อย่างใด แถมบอกเธอไปด้วย..ว่าเจแปนท้อง ผมไม่อยากให้แฟนผมเครียด(โอ้ย มันร่านเงียบค่ะอีกวาง เรื่องตบเนี่ย..กัปตันไม่ต้องจ้างนาเดียร์หรอกค่ะ เดี๋ยวจัดให้ฟรีๆ คนบ้าอะไรโดนขนาดนี้ยังกวนตีนไม่เลิก มันโรคจิตแน่ๆเลยค่ะ)"เก็บเงียบก่อนนะ ถ้าเจแปนรู้เรื่องนี้...ผมกลัวว่ายัยนั่นจะเครียด..จนส่งผลถึงเด็ก"(ค่ะ เอ้อกัปตันคะ...ได้ข่าวมาว่าหลังไฟล์ทสิงคโปร์ที่กัปตันพูดถึง เจแปนได้ขึ้น BC เลยนิคะ หรือว่า..กวางมันจะเคืองเรื่องนั้น?)เออว่ะ! ผมหูตาสว่างขึ้นมาทันที ผมว่า..มันอาจจะมีส่วนก็ได้ที่กวางจะหมั่นไส้เจแปนอีก..เพราะตัวเองโดนสอบอยู่คนเดียว ส่วนเจแปนได้อัพขึ้น BC ซะงั้น ซึ่งพอนึกๆคำที่กวางพูดที่สนามบิน เธอดูเป็นคนไม่ยอมอะไรง่ายๆ และอยากเอาชนะคนอื่นชิบหาย!"ผมต้องจัดการยัยนั่นขั้นเด็ดขาดแล้วล่ะ กวางได้บอกรายละเอียดไว้ในไลน์กลุ่มไหม ว่าสายการบิน
ไคล์เอ็ดฉันเสียงดัง..อีกนิดนึงคือจะกินหัวฉันแล้ว ก็ฉันพูดจริงๆ..วันที่ได้การ์ดสีทองงานแต่งพี่ไทม์ ฉันหยุดมองเพื่อนพี่เขาแต่ละคนไม่ได้เลยเว้ย ใจจะขาด..กูนึกว่าวงบอยแบรนด์ที่บินตรงมางานแต่งพี่เขา"เรื่องนี้..แกจะฝากคนอื่นคุยได้ไง แกเป็นน้องพี่ปลายฟ้านะและเป็นเพื่อนสนิทฉัน พี่เขารับฟังอยู่แล้ว พรุ่งนี้นะ..เดี๋ยวนัดให้เลย เจอใครก่อนดี..พี่เวียร์แล้วกัน^^"ใจเย็นๆนะตัวกู กรี๊ดผัวคนอื่นมันบาปอุส่าห์ข้ามพี่หมอนาวาแฟนพี่สาวตัวเองแล้วนะ เจอเเฟนเพื่อนเจ๊ปลายฟ้าเข้าไป ลืมผิดชอบชั่วดีไปหมด"แล้วแต่ อย่านานล่ะ..พี่เขายังไม่ขายหุ้นแน่นะ-_-""แน่สิ"คุยกับทิชาเสร็จ..ฉันกับอิไม้ก็แยกกันกลับ ก่อนฉันกับไคล์จะแวะรับก้านแก้วที่โรงพยาบาล แล้วแวะซื้ออะไรไปกินที่คอนโดด้วยกันเย็นนี้ตุ๊ดหมอมากินข้าวกินปลาที่ห้องฉัน นางบ่นอุบอิบเรื่องงาน เรื่องผัว เรื่องพยาบาลที่อ่อยนาง จนไคล์เขานั่งขำ ตั้งแต่มันพูดประโยคแรกยันประโยคสุดท้าย"จริงๆนะผัวไคล์ พยาบาลอ่อยเค้า..เค้าอยากจะแปลงร่างใส่พวกมัน ว่าอยากมีผัวแบบไคล์..ไม่ได้อยากมีเมีย^[]^"-_- นั่งข้างกันควงแขนออดอ้อน กูคือคนอื่นสินะ?!!"ฮ่าๆ ทำไมไม่บอกเขาตรงๆล่ะครับ^^" นี่
ฉันเบือนหน้าหนีกับความดีดของทิชา ..จนสักพัก มันลากฉันเดินไปกดลิฟต์อีกฝั่ง ซึ่งเป็นฝั่งชั้นสำนักงานของตึงZER และเมื่อเราขึ้นมาถึง เราก็ตรงไปที่ห้องผู้บริหารทันทีใช่ห้องผู้บริหารก็คือห้องพี่เวียร์... -////-"คุณทิชาที่นัดไว้ใช่ไหมคะ เชิญค่ะ^^" ถึงหน้าห้องเลขาก็รีบลุกขึ้นถาม เธอรีบๆรนๆเดินออกมาจากโต๊ะทำงาน เหมือนกลัวว่าฉันกับทิชาจะมาก่อการร้ายยังไงอย่างงั้นแหละก้อก ก้อก ก้อก"ขออนุญาตค่ะ.." เลขาเคาะแล้วเปิดประตู ก่อนที่เธอจะผายมือเชิญเราด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม จนฉันเข้าไปเห็นพี่เวียร์นั่งเซ็นเอกสารอยู่ที่โต๊ะทำงาน พี่เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาสนใจฉันกับทิชาเลยสักนิด เอาแต่เซ็นๆและอ่านๆเอกสาร..จนฉันกับทิชา เราไปหยุดยืนที่หน้าโต๊ะทำงาน แล้วยกมือไหว้"พี่เวียร์สวัสดีค่ะ ทิชาพาใบไม้มาแล้วนะ^^""สวัสดีค่ะ" ฉันรีบยกมือไหว้ และมองสำรวจห้องทำงานที่โคตรเนี้ยบ จนหันกลับมาเห็นพี่เวียร์เขากำลังมองอยู่สบตาทีกูแทบช็อค...ละ หล่อมาก!!!! =_="สวัสดีครับ ไปนั่งที่โซฟาก่อนสิ " ทิชารีบสะกิดฉันให้หลุดออกจากภวังค์ ก่อนจะกึ่งดึงกึ่งลากให้ฉันไปนั่งที่โซฟาขวามือแม่ง..แอร์เย็นยิ่งกว่าห้องดับจิต พี่เวียร์หล่อน่าเกรงขา
พี่นาเดียร์กับพี่แพทมาหาฉันถึงคอนโดกัปตันต้นไม้ ..ทุกคนกึ่งเดินกึ่งวิ่งชวนฉันขึ้นห้องอย่างร้อนใจ จนตอนนี้เรานั่งกันที่โซฟาใหญ่กลางห้องสี่คนโดยที่มีฉัน กัปตัน พี่แพท และพี่นาเดียร์..."จากที่สืบๆในประวัติ กวางมันอยู่บ้านโครงการแถวชานเมืองค่ะ เราก็เลยกะจะไปดักตบมันแถวนั้น ขับไปขับมาตามแผนที่..นาเดียร์ก็ถึงโครงการหมู่บ้านมัน แต่พอจะเลี้ยวเข้าไปเท่านั้นแหละ ก็เห็นกวางมันจอดรถริมถนนทะเลาะกับแฟนพอดี!"ฉันกับกัปตันมองหน้ากันทันที จนพี่แพทเปิดคลิปที่ถ่ายจากมือถืออย่างแอบๆนั้นให้ดูกด PLAY ปุ๊บ..ฉันก็เห็นแฟนกวาง กำลังกระชากข้อมือดึงกวางขึ้นรถ แต่เธอพยายามสะบัดและเดินหนีอยู่หลายครั้ง แต่ไม่ว่าจะสบัดจะเดินไปไหน...กวางก็หนีไม่พ้น! เธอโดนจับได้และโดนลากขึ้นรถทันที ก่อนที่แฟนกวางจะปิดประตูรถใส่ด้วยอารมณ์โกรธ..และชี้หน้าขู่ผ่านกระจกรถทึบๆนั่นคลิปตัดไป..ที่แฟนกวางเดินอ้อมไปอีกฝั่งและขึ้นรถขับเลี้ยวเข้าหมู่บ้านไปขณะที่พี่แพทขอโทรศัพท์คืน เลื่อนๆเตรียมเปิดคลิปอื่น..พี่แพทก็เล่าไปด้วย"พวกเราเลยค่อยๆขับตามเข้าไป แบบตามห่างๆนะ..จนเห็นรถแฟนมันจอดที่หน้าบ้านหลังนึง ไปถึงปุ๊บ...ผู้ชายก็เดินอ้อมไปเปิดประต
"กัปตันรู้ดีจังเลยนะคะ อยู่กลุ่มนั้นด้วยล่ะสิ" ฉันถามแล้วกลอกตามองบน จนคนข้างๆขยับมาใกล้ๆ"ไม่ต้องแซะ เธอกดออกจากกลุ่มให้ฉันไม่ใช่รึไง ฉันไม่เข้าแล้วล่ะวงการนั้น กำลังจะมีเมียมีลูก..ต้องเป็นคนดี" พี่แพทกับพี่นาเดียร์เบะปากอย่างหมั่นไส้ อย่าว่าแต่พี่เขาเลยฉันก็ด้วย"พอๆหวานเกินไปแล้วค่ะ ขอต่อเลยนะคะ หลังจากโดนแฟนประจาน กวางก็เอามือปิดหน้าปิดตาพยายามลุกขึ้นวิ่งหนี แต่เหมือนยัยนั่นจะจำแพทได้! พอนางเห็นแพทก็รีบพุ่งมาหาเลย"พี่นาเดียร์เว้นช่วงให้พี่แพทพูดต่อ"ตอนนั้นกวางมันขอร้องให้ช่วยมันหนี และพาไปโรงพยาบาล รู้สึกสงสารนะ..เห็นว่าเป็นผู้หญิงด้วยกัน ก็เลยมองไปที่แฟนมันแวบนึง..เพราะกลัวโดนลูกปืนตามหลัง แต่แปลก..แฟนมันไม่มาวุ่นวายอะไรเลยนะ ยืนกอดอกมองเฉยๆ แถมยังบอกให้พี่พากวางมันไปโรงพยาบาลเถอะ...."?! แล้วพี่นาเดียร์ก็พูดต่อ.."นาเดียร์คิดๆแล้ว แฟนกวางคงไม่ได้อยากฆ่าไม่ได้อยากทำร้ายหรอก แต่คงเห็นคลิปแล้วห้ามมืิอไม่ไหว เอ้อ..ได้ยินคนแถวนั้นพูดด้วยนะ ว่ากวางมีลูกเล็กสองขวบ เป็นแม่คนแถมยังเป็นเมียน้อยผู้ชายถึงสามคน รับจ๊อบขายตัวบนเครื่องอีก คือแบบ..บริหารจิมิเก่งมาก>.กัปตันเงียบไปพักนึงเหมือ
"เอาอะไรคะ มีไอ้ตัวเล็กของกัปตันอยู่นะ>\\\ฉันเบือนหน้าหนี ก่อนจะเช็ดปากอีกทีเพราะรู้สึกถึงกลิ่นน้ำขาวขุ่นในปาก"ฉันอยากส่งตัวแทนไปคุยกับลูก อย่าขัดสิ""ทำไมคะ..ถ้าขัด จะข่มขืนเจแปนเหรอ?-///-" เขายิ้มที่มุมปากแล้วโอบเอวฉันดึงเข้าไปหา ก่อนที่จะไซร้ตามซอกคอ..และใช้มือดึงสายชุดนอนฉันลงมาจนมันหล่นฟุบ..ไปอยู่ที่เอว"อ๊าย กัปตัน! ข่มขื่นเจแปนอีกแล้ว ไม่อายลูกเหรอคะ?" ฉันยกแขนสองข้างบังตัว เพราะนอกจากสายตาเขาที่จู่โจม มือก็เริ่มขยับเขยื้อนตามไปด้วย"อายทำไม..บางทีไอ้ตัวเล็กอาจจะติดวันที่ฉันข่มขืนเธอก็ได้...ทบทวนเสร็จ เราก็รำลึกความหลังหน่อยเป็นไง""ว้าย~ เบาๆสิคะ " ฉันร้องเสียงหลง..เมื่อถูกกัปตันอุ้มขึ้นไปนั่งบนตักโดยไม่ทันตั้งตัว จนหว่างขาขาวใต้ผืนกระโปรง..มันสัมผัสกับแก่นกายที่แข็งผงาดเบื้องล่างนั้นคือ..ถ้ากัปตันแหวกแพนตี้ฉันออกเมื่อไหร่..มันก็เข้าไปข้างในได้ทันที และยิ่งตอนนี้..เขาขยับมือใหญ่บีบตามต้นขาช้าๆ ก่อนจะเคลื่อนขึ้นมา..เกี่ยวนิ้วเข้าขอบแพนตี้ฉัน..."จะถอดดีๆหรือให้ฉันกระชากจนขาด..." ?!?"กะ กระชากเลยเหรอคะ?... ไม่สงสารไอ้ตัวเล็กเหรอ?" กัปตันที่กำลังก้มไซร้ตามอก..เขาเงยหน้าขึ้
พี่ราตรีกับพิมพาเดินถือแก้วสตาบัคหัวเราะคิกคักเข้ามา แต่พอหันมาเห็นหน้าพี่เวียร์..พวกเธอก็หยุดนิ่ง..และมองหน้ากัน"คุณสองคน..คือคณะกรรมการสอบวินัย?-_-""ใช่ค่ะ..มีธุระอะไรรึป่าวคะ?""สอบวินัยพนักงานเสร็จ สอบวินัยตัวเองด้วยนะ ผมอยากรู้..ว่าพวกคุณบอกเหตุผลที่เข้างานสายแบบนี้ยังไง? ..เหตุผลดีๆที่มันนอกเหนือจากแก้วสตาบัคที่พวกคุณถือ-_-"ทุกคนเงียบกริบ แม้กระทั่งเสียงหายใจก็ยังไม่ได้ยิน ..พนักงานทุกคนในชั้นนี้ มองมาที่ฉันสลับกับพี่เวียร์ด้วยความสงสัย ว่าคนหล่อๆที่ยืนเอามือล้วงกระเป๋าตำหนิอยู่น่ะเป็นใครเขามากับฉันรึป่าวใช่..มากับฉัน ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้จะทำตัวยังไง..ถ้าต่อไปฉันต้องเข้าสอบกับคณะกรรมการที่มีพี่ราตรีกับพี่พิมพา พี่เขาจะเคืองพี่เวียร์..ถึงขั้นหันมาแกล้งฉันรึป่าว?TT"พี่ใบไม้คะ..คือ" พี่ใบไม้ยกมือห้ามฉัน แล้วพยักหน้าเบาๆ..โดยที่สายตายังคงจับจ้องไปที่พี่เวียร์ ที่ตอนนี้เขากำลังรอคำตอบจากพี่ๆคณะกรรมการอยู่"พอดีรถติดค่ะ ไม่ทราบว่าคุณมาติดต่ออะไรคะ?^^"พี่เวียร์ไม่ตอบหันมามองฉันแล้วพยักหน้าเรียก จนฉันต้องรีบลุกขึ้นยืน แล้วเดินกล้าๆกลัวๆไปยืนข้างๆพี่เขา และพี่ไทม์..ก็ลุกขึ้นเดินตามหล
ฉันขยับตัวซ้ายทีขวาทีบนโซฟา ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ที่เพิ่งวางหมาดๆ ขึ้นมากดโทรหาพี่เชนอีกครั้งแต่โทรเท่าไหร่พี่เชนก็ไม่รับ แถมสายหลังๆยังปิดเครื่องอีกต่างหากเขาขับรถอยู่ ติดประชุม หรือยุ่ง? ทำไมไม่บอกฉันบ้าง นี่จะมืดค่ำแล้วนะฉันเป็นห่วง และท้องฉันก็แก่มากด้วย ทำไมพี่เชนกล้าทิ้งฉันไว้แบบนี้ตุบๆฉันคลำท้องป่องๆที่โดนลูกถีบทันที ตอนนี้ฉันลุกขึ้นแทบจะไม่ไหวแล้ว อยู่ๆก็เริ่มหน่วงไปทั่วเชิงกราน ปวดมากๆอยู่เป็นระยะๆ"โอ๊ะ โอ้ยยยย...ปวดท้อง พี่เชน พี่เชนอยู่ไหน!"ใจเย็นๆลูก ทำไมต้องปวดวันที่พ่อไม่อยู่ด้วย!"พี่เชนนนนนน"ฉันไม่รู้จะทำยังไง จะเอื้อมหยิบโทรศัพท์กดโทรอีกครั้งก็ไม่ได้ ได้แต่ร้องเรียกกระวนกระวายบนโซฟาร้องจนน้ำตาไหลอาบแก้มร้องจนตัวเองเหนื่อย และนอนซมเม็ดเหงื่อที่เกาะไปตามใบหน้าไม่ไหวแล้ว...ตายแน่ๆ ฉันตายแน่ๆ เจ้าแฝดไม่ใจเย็นช่วยฉันเลยกริ่ง~ กริ่ง กริ่ง~เสียงกริ่งที่ดังขึ้นหน้าประตู ทำร่างที่ไร้เรี่ยวแรงของฉันฟื้นกลับมา ฉันลืมตาที่ปรืออยู่เบิกกว้าง และเมื่อหันขวับมองไปที่ประตูก็เห็นเงาร่างโตของใครยืนอยู่ตรงนั้นพอดี"ช่วยด้วย ! ชะ..ช่วยด้วยค่ะ!"'ส่งพัสดุครับ!' รู้แล้วคุณบุรุษไ
เรื่องท้องไม่ท้อง..คงต้องเอาไว้ก่อน เพราะตอนนี้ฉันกับพี่เชนถูกดึงกลับไปนั่งร่วมโต๊ะกับผู้ใหญ่แล้ว และทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวว่าฉันควรมีลูกแฝด มีแข่งกับพี่เจแปนไปเลย"ไม่ไหวครับๆ คนเดียวก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่?^^" พี่เชนตอบยิ้มๆแล้วตักนู่นตักนี่ให้ฉันกิน"ไม่ไหว? เออๆเดี๋ยวยกโซลให้ไปเลี้ยงหนึ่งวัน คงไม่อยากมีลูกไปเลย" พี่กัปตันพูดนิ่งๆ..แต่ชวนทุกคนขำกลิ้งทั้งโต๊ะ แต่มีคนทำหน้าไม่พอใจคือหลานชายตัวแสบ ที่นั่งมองหน้าพ่อและเคาะช้อนพลาสติกลงจาน แกร้กๆ~โวยวายเสียงแจ๋นลั่นร้าน"แอ๊ แอ้~!""เอาเข้าไปๆ จะทำสงครามกับพ่ออีกแล้วโซล^^""แสบจริงๆหลานลุง แสบเหมือนใคร^^" พี่ฮาวายจิ้มแก้มโซลจนแก้มป่องๆยุบลง บอกเลยใครๆก็หมั่นเขี้ยวเจ้าแสบจนพี่เจแปนก้มลงถามลูก.."แสบเหมือนพ่อใช่ไหมโซล?^^""แอ้~~^^" เห็นมั้ย..โซลตอบแม่ทันที น่ารักน่าตี จนถูกพ่อกับแม่รุมหอมแก้มหอมหัวหลังจากกินข้าวงานเลี้ยงเล็กๆง่ายๆ..เราก็แยกย้ายกันกลับ พ่อแม่พี่เชนนอนโรงแรมที่สนามบินกลับกันพรุ่งนี้เช้า ส่วนฉันกับสามีกลับคอนโดนอน และแน่นอนมีฉลองกันเล็กๆในห้อง..ก็คือการปั๊มลูก เราจัดกันทันทีที่มาถึง กินหัวกินหางกินกลางตลอดตัวจนหมดแรง..."จ
เปิดออกมาก็เห็นลูกโป่งอัดแก๊สสีชมพู ผูกกับกระถางต้นไม้มุมระเบียง และบนผนังมีริบบิ้นหลากสีติดเป็นลูกศรชี้ลงไปข้างล่าง...ฉันจึงรีบเดินไปเกาะราวระเบียงชะเง้อมองตาม สอดส่องสายตาลงไปตามลูกศรบนผนัง..จนเห็นคนคุ้นเคยคนนึงยืนอยู่ข้างล่าง ข้างๆสระว่ายน้ำส่วนกลางของคอนโด ก่อนเขาจะเงยขึ้นเมื่อเห็นฉันยืนอยู่..และป้องปากตะโกนว่า"กลับมาแล้วค้าบบบบบบ!!^[]^"ฉันยิ้มทั้งน้ำตา..ที่เริ่มคลอออกมาสองข้าง อยากจะตะโกนกลับแต่กลัวห้องอื่นรำคาญ จึงตัดสินใจเดินกลับเข้าห้องไปหยิบโทรศัพท์ ออกมาโทรหาพี่เชนแทนฉันยกโทรศัพท์แนบหนูก้มมองคนข้างล่างยิ้มแป้น ...ห้องฉันอยู่ชั้นห้า ถึงจะเห็นหน้าเขาไม่ค่อยชัด แต่ฉันเห็นรอยยิ้มกว้างๆเขาชัดแจ๋วCalling P'Chain"ฮัลโหล..กลับมาแล้วเหรอคะ?^^" พี่เชนยิ้มแล้วโบกมือให้ฉัน ก่อนจะพูดตอบกลับมาว่า(กลับมาแล้ว..ไม่ไปไหนแล้ว ทนไม่ไหว..คิดถึงใจจะขาด)บ้าๆฉันเขินนะ หยุดเขินไม่ได้เลย>\\พี่เชนอ่ะ แล้วนี่ให้ไทเปใส่เวลส์เจ้าสาวทำไมคะ...แค่กลับมาเอง^^" ฉันทำถาม ถึงจะรู้ลึกๆว่า..เขาน่าจะเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน(อ้าวไม่เซอร์ไพรส์เหรอ? เฮ้อ..นี่พี่เซอร์ไพรส์ไม่เก่งใช่ไหม?)ฉันยิ้มมองคนล่างตัดเพ้
"ข้ามขั้นเลยเหรอ^^?""ข้ามเลยค่ะ ถ้าเทกันอีกอย่างน้อยไทเปก็ต้องได้อะไรบ้าง ว่าไงคะ..กล้าเทกันไหมคะ^^"พี่เชนดึงจมูกฉันทีนึงแล้วอมยิ้ม"หมั่นเขี้ยวจริงๆไม่กล้าครับ งั้นพรุ่งนี้ไปอำเภอกันเลยนะ^^"ฉันพยักหน้าหงึกๆแล้วกอดคอพี่เชนทันที ก่อนที่จะดันโน๊ตบุ๊คเขาไปห่างๆ..แล้วเอนตัวนอนราบลงโซฟา ไม่ต้องเดาว่าเกิดอะไรขึ้น ข้าวไม่ต้องกินแล้ว..ให้พี่เชนบริหารลิ้น บริหารนิ้ว บริหารเอวก่อนอิ่มกันจุกๆฉันกับพี่เชนก็ปรึกษาหารือกันเรื่องวีซ่า โดยพี่เชนให้ความเห็นว่า เราจดทะเบียนสมรสก่อนค่อยขอวีซ่ากัน และพี่เชนจะสปอนเซอร์ค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่างเพราะฉันมันคงว่างงานไม่มีอาชีพจากนั้นหลังเรียนจบ..เราจะกลับมาจัดงานแต่งเล็กๆกันที่ประเทศไทย เพราะพี่เชนเขาไม่อยากทำงานที่อเมริกาและอยู่ที่นั่น เขาคิดถึงส้มตำปูปลาร้าร้านหน้าปากซอยที่เขากินประจำ พูดถึงก็ทำหน้าเศร้า..ทำหน้าตาน่าสงสารใส่ฉัน-_-หลังจากบริหารช่วงล่างกันทั้งคืน เช้าวันต่อมาฉันกับพี่เชนก็ไปจดทะเบียนสมรสกัน เราจดไม่ถึงชั่วโมงก็เสร็จ ได้ทะเบียนมาฉันก็เช็คและแปลเอกสาร เพื่อเตรียมยื่นวีซ่าขอติดตามสามี อุ๊ย..สามี สามี เขินจัง..สามีภรรยาถูกต้องตามกฏหมายด้วยนะ"อ
สองเต้าหยุดชะงัก พร้อมกับฉันที่ค่อยๆเบิกตากว้างแล้วหันไปมองเจ้าของคำหวาน"พี่เชน...0//0""พี่รักไทเป พี่รู้แล้วว่าพี่รักไทเปจริงๆ" ได้ยินอีกครั้งน้ำตาฉันก็หยดเพาะลงแก้มขาว ก่อนฉันจะจ้องเขาน้ำตา..และค่อยๆก้มลงจุมพิตที่ริมฝีปากคู่สวยนั่น มันเป็นจุมพิตที่เนิ่นนาน นานจนวงแขนกว้างสวมกอดฉัน และดันจนเราแนบชิดกัน"รักแล้วยังไงคะ..รักแล้วจะแช่ของพี่เชนไว้แบบนี้เหรอ?.." ฉันถอนจูบประคองแก้มเขาถามเบาๆ และจ้องตาเป็นประกายของเขาไปด้วย ฉันไม่อยากร้องไห้เลย แต่ทำไมน้ำตาไหลก็ไม่รู้"ทำไม..แช่ไว้ไม่ได้เหรอ? คลอเคลียแบบนี้พี่ว่า..พี่คงได้เสียตัวอีก^^" ฉันปาดน้ำตาแล้วตีแขนพี่เชนดังเพียะ..จนเขารีบกระชับกอดและจับฉันลงไปนอนบนเตียงทันทีจากนั้นร่างใหญ่ก็ค่อยๆขยับถอดแก่นกายเปียกๆออกมา เขาขยับถูไถกับกลีบกุหลาบช้าๆจนมันผงาดขึ้นอีกครั้ง..."พะ..พี่เชน อื้ม~~ ไหวเหรอคะ?""พี่ตุนไว้เพียบ...แต่รอบนี้นานหน่อยนะ"และฉันก็เสียตัวอีกรอบ ไม่สิพี่เชนเสียตัวต่างหาก ไอ้เค้กช็อคโกแล็ตกับข้าวเหล้าไวน์ พี่เชนไม่ได้กินไม่ได้แตะหรอก เรามีอะไรกันจนสลบเหมือบกันทั้งคู่ รู้สึกตัวตื่นอีกทีก็เช้าตรู่อิ่มจนจุกกันไปเลยเช้า..ฉันนอนคว่ำ
"ฉันขอเวลาคิด ถึงฉันอยากกลับไปแค่ไหน เธอต้องเข้าใจฉันนะพิมดาว..ว่าฉันต้องเซฟตัวเองด้วย คนเคยเจ็บมา คนเคยถูกทิ้งมา..ฉันใช้เวลาไม่น้อยเลยนะกว่าจะยืนด้วยขาตัวเองได้"ฉันพูดทั้งน้ำตาและมองพิมดาวไปด้วย จนมือที่จับมือฉันค่อยๆคลาย..และแตะเบาๆ"โอเคๆฉันเข้าใจ แต่อย่าเผลอใจให้คนอื่นนะ ถ้าเรื่องนี้เธอดึงคนอื่นเข้ามา มันจะวุ่นวายไปใหญ่ ให้มันมีแค่เธอกับพี่เชนก็พอ ฉันเป็นกำลังใจให้เธอนะไทเป..ทุกๆเรื่องเลยสู้ๆ"ฉันพยักหน้าหงึกๆเหมือนเด็กสามขวบที่โดนโอ๋ จนพิมดาวลุกขึ้นมากอดและลูบหลังฉัน เธอลูบเบาๆแต่เหมือนฉันได้กำลังใจมหาศาล จนสักพัก..ฉันหยุดร้องไห้ ปาดน้ำหูน้ำตาที่ไหลเงยหน้าขึ้นมองเธอ"ฉันจะลองดู..แต่เธออย่าบอกเขาได้ไหม ว่าฉันรู้สึกยังไง""โถ่ไทเป..ไม่บอกพี่เชนก็รู้ กับพี่เชนเธอเคยห้ามใจตัวเองได้เหรอ? แววตาเธอมันฟ้องจะตาย " ฉันเงียบกริบเม้มปากนิดๆคิดตามคำพูดพิมดาวก็จริง..พิมดาวพูดถูก ฉันควบคุมไม่ได้เลย ยิ่งเจอเขาความต้องการฉันยิ่งมาก ฉันต้องการเขา อยากกอดเขา อยากทุกๆอย่าง และเมื่อวานฉันพยายามสุดๆที่จะไม่กระโจนใส่เขาคุยกับพิมดาวเสร็จฉันก็กลับคอนโดนอน ฉันไม่อยากไปไหนแล้วจริงๆ อยู่ๆก็อยากกลับห้องมา
"ก็...เอ่อ เห็นไทเปรักเขาไงฉันก็เลย..อยากให้ไทเปทำตามหัวใจดู^^"ฉันดึงแก้วกาแฟกลับจับหลอดดูดและจ้องตาพิมดาว พยายามจับผิดตาโตๆนั่น ว่าจะวอกแวกหรือหลบตาฉันรึป่าว แต่ไม่..พิมดาวยังยิ้มปกติไม่มีอะไร แถมเธอยังชวนฉันสั่งอาหารว่างมากินรองท้องอีกจนเราสองคนอยู่ในความเงียบ และฉันนั่งทวนงานส่งบก. พิมดาวก็ถามฉันขึ้นมา"เธอ..จะกลับไปคุยกับเขาคนนั้นมั๊ย?^^" ถามไปเขี่ยเค้กฝอยทองในจานไป เอ๊ะ..สั่งมากินหรือสั่งมาเขี่ย ตั้งแต่มาเนี่ยพิมดาวยังไม่ทำอะไรสักอย่าง งานก็ไม่ทำหนังสือก็ไม่อ่าน มีแต่เล่นโทรศัพท์เป็นพักๆและจ้องหน้าฉัน"ไม่รู้เหมือนกัน ดูก่อน" ฉันตอบเรียบๆและเปรยตามองเพื่อนสนิทแวบนึง"แต่ใจเธอสั่นใช่มั๊ยล่ะ?^^" เมื่อเจอคำถามติดต่อกัน ฉันก็ละสายตาจากนิยายที่ทวน...หันไปมองเธอ"ทำแบบสอบถามอะไรอยู่ ถามไม่หยุดเลยนะ-__-""ป่าว แค่อยากรู้ว่าเพื่อนรู้สึกยังไง^^" พิมดาวยิ้มหวานกลบเกลื่อนแล้วเขี่ยเค้กฝอยทองต่อ ฉันจึงหันมองซ้ายมองขวามองรอบๆร้านกาแฟ ว่ามีอะไรผิดปกติไหม? ทำไมคำพูดคำจาและคำถามมันแปลกๆ ปกติพิมดาวไม่ใช่คนชอบซักไซร้แบบนี้นี่"ถ้าถามความรู้สึก...ฉันก็ใจสั่นหวั่นไหวนั่นแหละ แต่ฉันไม่กลับไปง่ายๆหรอ
"ทำไมต้องขอนอนกับไทเป บ้านช่องไม่มีแล้วเหรอคะ?" ฉันถามแล้วหันไปทางอื่น ใครจะไปกล้าสบตาเขา เดี๋ยวเขารู้ว่าฉันอยากและอดอยากปากแห้งมานานเอ๊ะหรือฉันจะเล่นด้วย..ยอมปล่อยตัวหน่อยให้หายคอแห้ง"พี่คิดถึงไทเปไง.." พูดจบมือใหญ่พี่เชนก็วางบนขาฉัน แถมเขายังบีบเบาๆเบาๆ จนตอนนี้หน้าฉันชาหูฉันอื้อไปหมด คนมันเคยๆเขารู้..รู้ว่าฉันชอบให้สัมผัสตรงไหนแล้วตอนนี้มือเขาก็เอาใหญ่..ขยับขึ้นมาเรื่อยๆ บีบเข้าตามหว่างขา ก่อนจะหยุดตรงเนินสาวอวบอั๋นที่เขาเคยสัมผัสมา และสอดมือเข้าไปจนฉันขนลุกซู่ไปทั้งตัวเขาขับรถจับพวงมาลัยมือเดียว มืออีกข้างก็ซุกซนล้วงเข้าไปในขอบกระโปรงฉัน แล้วทำไมฉันไม่ห้ามเนี่ย..ฉันเอาแต่มองออกไปนอกหน้าต่าง ปล่อยตัวอ่อนปวกเปียกและร้อนวูบวาบไปทั้งตัว แถมยังแยกขาพลีชีพให้เขาส่งมือเข้าไปถึงเกษร จนหยุดทักทายสองกลีบกุหลาบที่เปียกพร้อม..ช้าๆเน้นๆอย่างช่ำชอง"ถ้าไม่ให้นอนด้วย..พี่แวะโรงแรมนะ" ฉันบิดตัวจิกสองเท้าลงพื้น เมื่อพี่เชนถามและเขี่ยรัวมาก เขาเขี่ยรัวจนฉันไม่ทนความเสียวซ่านและกลั้นเสียงคราง รีบยกมือขึ้นกัดส่ายหน้ารัวๆ"มะ..ไม่ ไม่ค่ะ เอามือออกไป เอา..ออก""ไม่อยากเอาออก อยากเอาเข้า" พูดจบพี่เช
โรคนิมโฟมาเนีย โรคเฮงซวยที่ฉันเป็นมาเจ็ดปีเต็ม.. ตอนนี้มันหายไปแล้ว..หายไปพร้อมๆกับเขาคนนั้น คนที่ฉันเห็นเขาเป็นคนรัก เห็นเขาเป็นคู่นอน เห็นเขาเป็นพี่ชายที่แสนอบอุ่นและดีพร้อม'พี่ไม่ได้คิดกับไทเปแบบนั้น , ถ้าเจอใครถูกใจเริ่มใหม่ได้เลยนะ'คำพวกนี้สุภาพแต่...เจ็บมาก เจ็บเหมือนจะตาย ฉันคิดว่าตัวเองจะไม่ไหวโดดตึกผูกคอตายในห้องแล้ว แต่คิดไปคิดมา เกิดทั้งทีฉันต้องใช้ชีวิตให้คุ้มกว่านี้ เคยมีความสุขสุดๆตอนได้ผู้ชายคนนั้นมาเป็นของตัวเอง มันก็ถึงเวลาแล้วที่ฉันจะทุกข์ใจบ้าง เพราะทุกๆอย่างมันไม่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มหลังจากที่เสียพี่เชนไป ฉันนั่งร้องไห้เป็นเผาเต่า มองไปทางไหนก็คิดถึงแต่หน้าเขา โซฟาตรงนี้ก็เคยได้กัน บาร์ที่ครัวก็เคยโก้งโค้งให้เขามาแล้ว อย่าว่าแต่ห้องนอนห้องน้ำฉันกับพี่เชนเคยมาหมด เหลือแค่ระเบียงที่ยังไม่ได้ทำ กะจะลองสักครั้ง แต่เสียดาย..เขาทิ้งฉันก่อนหลังจากพี่สาวแต่งงานมีครอบครัวและพี่เชนทิ้งฉัน ..ฉันก็ตัวคนเดียว ไปไหนคนเดียว กินข้าวคนเดียว มันเหงามาก แต่ยิ่งจมปลักฉันก็ยิ่งแย่ ฉันจึงไปปรึกษาจิตแพทย์พี่หมอธันวา เขาบอกฉันให้มูฟออน...ออกมาจากมุมเดิมๆเปลี่ยนบรรยากาศให้ตัวเอง ถ้าวันไ