อีวานที่มาเอาเอกสารที่ห้องทำงาน ติดกับห้องนอน ให้เพื่อนซึ่งกำลังจะเปิดประตูออกมาแต่ได้ยินเสียงหวานใสที่คุ้นหู เขาเลยยังไม่ออกไป บทสนทนานี้ทำให้เขาได้เข้าใจความรู้สึกของเธอ… ปรากฎว่าสองแฝดไม่ได้นอนอยู่ในห้อง สงสัยคงยังพูดคุยกับเพื่อนกันอยู่มั้ง ไม่ก็อาจจะไปนอนห้องส่วนตัวของเขา เพราะห้องนี้ใช้นอนสำหรับสามคน คือเธอ และสองแฝด เอาของเสร็จแล้ว สองสาวก็พากันเดินออกมา แต่ต้องชะงักกันไปเลยทั้งสองคน เพราะตอนนี้อีวานกำลังยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าพวกเธอ “คุณอีวาน / คุณ..ทำไมมาอยู่ตรงนี้” ขนมปังหวังไว้เหลือเกินว่าเขาคงจะไม่ได้อยู่หรือได้ยินตั้งแต่แรกที่เธอพูดคุยกับผิงอันหรอกใช่ไหม “ฉันขอคุยกับขนมปัง” “เอ่อ อ๋อค่ะ แกฉันไปนั่งรอตรงห้องนั่งเล่นนะ” ผิงอันเดินไปรอเพื่อนตรงห้องนั่งเล่น ที่อยู่ถัดไปจากห้องสมุด ชั้นนี้มีหลายโซนมาก เหมาะแล้วที่เป็นชั้นบนสุด แต่ผิงอันคงไม่รู้ว่าชั้นนี้มีโซนลับอยู่ด้วย.. “มีอะไรกับฉันเหรอคะ” “ต้องมีอะไร? ถึงจะคุยได้เหรอ?” สีหน้าที่นิ่ง และน้ำเสียงที่เย็นชาทำขนมปังรู้สึกตัวชาแปลกๆ “เปล่าค่ะ แล้วสรุปมีอะไรคะ” “…” “ถ้าไม่มีฉันจะไปหาเพื่อนแล้วนะคะ” เพราะเขาเอ
ห้องประชุมลับ ชั้นบนสุดของคฤหาสน์ไม่ได้มีแต่เพียงห้องนอนใหญ่ หรือห้องบรรณาการความสะดวกสบายแค่อย่างเดียว แต่ด้านในของห้องสมุดมีห้องลับถูกซ่อนอยู่หลังกำแพงชั้นหนังสือ ที่มีเพียงทายาทสายเลือดตรงเท่านั้นที่เปิดได้ เพราะต้องใช้เลือด..ในการเปิดประตูห้องลับนี้ และในเวลานี้แก๊งมาเฟียที่ขึ้นชื่อว่าทรงอิทธิพล มีอำนาจ และมีความสำคัญระดับชาติ ติดหนึ่งในห้าแก๊งที่น่ากลัวที่สุดในโลก กำลังรวมตัวกันอยู่ในห้องลับตระกูลดูรองซ์ นานแล้วที่พวกเขาไม่ได้มาประชุมจริงจังรวมตัวกันอย่างนี้ แต่เพราะนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่กว่าแค่การโกงเงิน มาเฟียหกคนที่นั่งล้อมโต๊ะกลมตัวใหญ่ พวกเขาทั้งหกคนมีสีหน้าที่ต่างกันออกไป คาร์ลเตอร์มีสีหน้าเรียบนิ่ง แต่สายกับกังวล ไม่ได้กังวลเรื่องวิธีการจีดการ แตาเขาเป็นห่วงคนที่อยู่ข้างหลัง ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือเคอร์วิน อาจเป็นจุดเปลี่ยน เขาเลยเรียกรวมตัวเพื่อนๆ ส่วนเคอร์วินสีหน้าออกชัดเจนว่ากำลังไม่พอใจ และโกรธมาก ถ้าพี่ชายไม่ห้ามเอาไว้เขาคงจะออกไปฆ่าพวกมันให้หมด!!!! ลูเซียโน่ที่มีสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่สะทกสะท้านต่ออะไร แม้เรื่องตรงหน้าอาจแลกด้วยเลือด ชีวิต.. อีวานคีบชิก้
‘ ปู่ขอโทษนะ ที่ไม่สามารถอยู่ปกป้องพวกแกได้แล้ว และขอโทษที่ไม่สามารถปกป้องพ่อแม่ของพวกแก ความผิดทั้งหมดมาจากกระทำของปู่คนนี้เอง ที่เลี้ยงลูกมาได้ไม่ดี ทำให้มีความคิดแก่งแย่งชิงดี แตกแยก ปู่พยายามแล้วที่จะให้ครอบครัวเป็นครอบครัว แต่ก็ไม่เคยทำได้ ปู่รู้เรื่องคนที่อยู่เบื้อหลังการตายของพ่อแม่พวกแกมานานแล้ว… แต่ปู่ก็ไม่กล้าที่ลงมือ เพราะคนที่ทำ ก็คือลูกชาย คืออาพวกแก ถ้าพวกแกได้อาจจดหมายนี้ แสดงว่าปู่ไม่อยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว… ปู่ไม่เด็ดขาดพอจะจัดการสั่งการ หรือลงโทษ คงเพราะนั่นก็เป็นลูกชายปู่เหมือนกัน สงสัยใช่ไหมว่าทำไมปู่เลือกจะบอก ทำไมไม่ปล่อยให้ความลับนี้มันตายไปกับปู่ ปู่เพิ่งคิดได้ก็ตอนช่วงสุดท้ายของชีวิต คนทำผิดควรได้รับการลงโทษไม่ว่านั่นจะเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขที่เราสร้างขึ้นมา และเรื่องนี้พวกแกควรได้รู้ความจริงนี้ แล้วจะจัดการยังไง ก็ตามที่พวกแกต้องการ ขอโทษนะที่ทำให้พวกแกจมอยู่กับความเจ็บปวด ปู่รักพวกแกนะ คาร์ลเตอร์ เคอร์วิน ’ “ไอ้พวกเหี้ยนั่น ยังเรียกตัวเองว่าคนได้อีกเหรอวะ!” เรนเดลแทบจะกำแก้วในมือแตก อีวานถึงกับต้องดึงแก้วไวน์ออกจากมือเรนเดล “เข้าประเด็
เรนเดลผู้เป็นดั่งมันสมองของกลุ่ม สมองเขาเหมือนกลไกหุ่นยนต์ เขามักมีแผนการดีๆ และรอบคอบมาให้เพื่อนเสมอ ไม่มีใครเคยเอาชนะแผนการของเรนเดลได้เลย หลายต่อหลายครั้งที่เรนเดลเป็นคนคิด แผนจะสำเร็จเสมอ ไม่เคยพลาดเลยสักครั้ง ใครที่เข้ามาอยู่ในแผนของเขาถือว่าพลาดมาก เพราะคุณจะไม่สามารถรอดไปไหนได้แล้ว… เพื่อนทุกคนในกลุ่มถึงไว้วางใจถ้าเป็นแผนการมาจากเรนเดล “คิดอะไรออกแล้วสินะ” อีวานยกยิ้ม เพียงฟังคำพูดของเรนเดลก็รู้ได้ในทันที “มึงมีความคิดยังไง” เคอร์วินเอ่ยถามเรนเดล “หึ อามึงต้องการทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกมึงได้ใช่ไหม” “ตอนนี้ ถึงอามึงจะได้มรดกไปมากแค่ไหน ก็ยังไม่พอใจในสิ่งที่มีกันสักที” “แล้วถ้าไอ้คนที่มันเคยมี เคยได้ เคยใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสิ่งที่ต้องการมาตลอดทั้งชีวิต” เรนเดลกล่าวเสียงเรียบมุมปากยกยิ้ม “แล้วไม่เหลืออะไรสักอย่าง หลานที่พวกมันเกลียดนักเกลียดหนาได้ครอบครองทุกอย่างที่เป็นของมันไปเพิ่มอีก” “จะต้องเจ็บปวดทรมานใช่ไหมที่มึงกำลังจะบอกกู” คาร์ลเตอร์พูดต่อจากเรนเดล “ถูกต้อง ในเมื่อฆ่าให้ตายก็เปล่าประโยชน์ สู้เราเล่นสนุกกับมันให้เหมือนตายทั้งเป็น” “สนุกกว่าตั้งเยอะ” อี
ผิงอันที่ได้อ่านข้อความ จากที่ง่วงๆ ตื่นเต็มตา ลุกขึ้นนั่ง แล้วรีบตอบไปทันทีว่าเธอจะรีบกลับ พอไปเช็กเที่ยวบิน มีพรุ่งนี้ที่สามารถกลับได้ ชั่วขณะหนึ่งที่ผิงอันมีความคิดบางอย่างเกิดขึ้นในใจ ช่วงเวลาที่เธออยู่กับสองแฝดมันทำให้เธอลืมทุกอย่าง ลืมว่าตัวเองมีหน้าที่อะไร ต้องทำอะไร ตอนนี้อยู่ในจุดไหน บางทีนี่อาจทำให้เธอต้องกลับมาทบทวนตัวเองอีกครั้งว่ากำลังทำอะไรอยู่กัน… ผิงอันลุกจากเตียงไปหาสองแฝดที่ห้องแต่ก็ไม่เจอเลยเดินหาทั่วคฤหาสน์ จนสองคนกลับเข้ามาพอดี “ฉันมีเรื่องจะบอกค่ะ..” ทั้งสามคนมานั่งอยู่ที่ห้องโถง เหมือนกับวันแรกที่ได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง แต่ต่างตรงที่ทั้งสามคนนั่งแยกกันคนละโซฟา… “มีอะไร” “บอกมาสิ ทำไมหน้าตาดูกังวล เกิดอะไรขึ้น” เคอร์วินรัวคำถาม ผิงอันนั่งก้มหน้ากำมือเข้าหากันแน่น ถอนหายใจก่อนจะเปล่งเสียงพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ “พรุ่งนี้.. ฉันคงต้องกลับจีนก่อนนะคะ!” “ทำไม เธอยังเหลือเวลาอีกหนึ่งสัปดาห์ไม่ใช่เหรอ” “ตามจริงฉันลามาแค่งานรับตำแหน่งพวกคุณเฉยๆค่ะ ป๊าม๊าคงไปขอเวลาวันหยุดให้เพิ่ม..” “งั้นก็อยู่ต่อสิ จะรีบกลับทำไม” คาร์ลเตอร์มองร่างบางที่เอาแต่ก้มหน้า
หนึ่งสัปดาห์ถัดมา หลังจากวันนั้นที่ได้รับรู้ความรู้สึกภายในใจอย่างตรงไปตรงมาของผิงอัน จริงๆ ลึกในใจ พวกเขารับรู้ความรู้สึกของเธอมานานแล้ว ตลอดเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันนั่นแหละ แต่อยากได้ยินจากปากเธอเองมากกว่า สองแฝดไม่กังวลในเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสามคนอีกต่อไป เธอสัญญาว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ว่างจากมหาวิทยาลัย จะสองวัน สามวัน หนึ่งวัน ผิงอันจะคอยโทรศัพท์มาพูดคุย หรือเผลอๆ เธอก็จะมาหาทั้งสองคนที่นี่เลย!!! “ฉันจะมาหาอีกนะคะ วันหยุดเมื่อไหร่..” “ไม่ต้อง” “..” “เดี๋ยวไปหาเอง” “จริงเหรอคะ!” “เคยโกหกหรือไง” “งั้นเราสามคนมาเกี่ยวก้อยสัญญาค่ะ..” “ประทับสัญญา!” นิ้วโป้งเล็กแตะประทับนิ้วโป้งเรียวยาวทั้งของแฝดพี่และแฝดน้อง “ทำอะไรเป็นเด็กไปได้นะเธอ จุ๊บ!” “แล้วเจอกัน จุ๊บ!” ส่วนสองแฝดเองก็ได้ให้คำมั่นสัญญา รับปากว่าถ้าเคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อย จะขึ้นเครื่องบินส่วนตัวไปหาที่ประเทศจีน ไม่ต้องให้เธอลำบาก นั่งเครื่องบินปกติ ข้ามน้ำข้ามทะเล ข้ามทวีป เดินทางแสนไกล ให้เหนื่อยเปล่าๆ พวกเขาบอกให้เธอรออยู่ที่นั่น พวกเขาจะไปหาเธอเอง… จะไปหาแน่นอน… สัญญาไว้แล้ว… ห้องทำงานคา
⚠️ตอนนี้มีการใช้คำหยาบคายรุนแรง⚠️ ⚠️ไม่ชอบสามารถข้ามได้เลยค่ะ⚠️ เช้าวันเสาร์ท้องฟ้าที่สดใสน่ามอง ท้องฟ้าที่ดูเหมือนกำลังมีความสุข แต่ในเวลาช่วงบ่ายมันกลับแปรเปลี่ยนเป็นสีเทาหม่นดูอึมครึมไม่สดใส ก้อนเมฆก่อตัวจับกันเป็นก้อน ดูท่าแล้ววันนี้พายุฝนคงจะก่อตัวโหมกระหน่ำเทลงมาเสียแล้ว.. ฝาแฝดหลานชายแห่งตระกูลดูรองซ์ลงจากรถยนต์สุดหรูหรา ที่มีเพียงห้าคันในโลก และอีกสี่คันก็เป็นของเพื่อนทั้งสี่คน คาร์ลเตอร์และเคอร์วินมองดูป้ายชื่อบริษัท “เพิ่งเคยได้มาครั้งแรกเลยนะ” “เข้าไปด้านในกัน” seafood’duronx company ( บริษัท ดูรองซ์ซีฟู้ด จำกัด ) หนึ่งในหุ้นที่อองเดรเคยยกให้ลูกชายคนรองนั้นยังมีอีกหนึ่งบริษัท นั่นคือบริษัทส่งออกเกี่ยวกับอาหารทะเล ในตอนนั้นคนที่มีหุ้นมากที่สุดคืออองเดรและออสตินลูกชายคนโต.. อองเดรมีหุ้น40% ออสตินลูกชายคนโตมีหุ้น15% อังเดรลูกชายคนกลางที่ไม่มีสักเปอร์เซ็นต์… แต่แล้วระดับการถือหุ้นก็เปลี่ยนไป… เพราะเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ? เอ๊ะหรือว่าบางคนจะอยากให้เกิดขึ้น ! โศกนาฏกรรมที่ออสตินและภรรยาได้ถูกฆาตกรรม เป็นประวัติการณ์ครั้งใหญ่ของตระกูลดูร
เหมือนโดนแช่แข็ง สายตาคมที่มองมาทางพวกเขา พนักงานที่จับกลุ่มพากันก้มหน้าลงพื้นไม่กล้าสบตาเคอร์วิน บางคนอาจคิดสินะว่าทำไมพวกเขาถึงไม่พุ่งเป้าไปที่บริษัทเหมืองทองคำ แต่กลับเป็นบริษัทส่งออกอาหารทะเล แล้วใครบอกว่าเขาจะไม่พุ่งเป้าไปที่นั่นกันล่ะ แต่ในเมื่อเราเลือกจะจัดการ เราต้องทำจากสิ่งที่รักมากที่สุด สองแฝดและลูกน้องอีกสี่คนขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนที่เป็นห้องผู้บริหาร เพียงแค่สองแฝดก้าวเท้าออกจากลิฟต์ ลูกน้องอังเดรก็เกิดความแปลกใจ และตกใจไปตามๆกัน ไม่เคยเห็นทั้งสองคนมาที่นี่มาก่อนเลย บอดี้สองคนเดินไปขวางทางมาเฟียหนุ่มที่งสองเอาไว้ไม่ให้เดินเข้าไปด้านใน “เฮ้ย! กล้าดียังไงมาขวางทางนายท่าน!” ไทกิตะคอกเสียงดังสนั่น “ได้นัดไว้หรือเปล่าครับ ถ้าไม่รบกวนกลับไปด้วยครับ” “โหไอ้นี่ มึงกล้าพูดกับนายท่านแบบนี้เลยเหรอวะ!” คาร์ลเตอร์ยกมือห้ามไทกิเอาไว้ “หลบไป” “ไม่ได้ครับ บริเวณนี้มีเพียงผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่เข้าไปได้” อัสมาร์บอดี้การ์ดที่คอยดูแลอังเดรเอ่ยบอกเสียงเรียบ “หึ” เคอร์วินแค่นหัวเราะในลำคอ ก้าวเท้าเดินมาด้านหน้าสองก้าว “มึงลืมอะไรไปหรือเปล่า” “กู พี่กู คื
“เซอร์ไพรส์อะไรครับ ตื่นเต้นเลย”คาร์ลเตอร์ถามเสียงหวาน “พี่หันได้ยัง พี่อยากรู้แล้ว อันอันจะเซอร์ไพรส์อะไร” เคอร์วินใจร้อนมากตอนนี้ “อย่าเพิ่งค่ะ” | “หันมาได้แล้วค่ะ” พรึบ! “เซอร์ไพรส์!!!” สองแฝดยืนอ้าปากค้าง จ้องตาไม่กะพริบ กับภาพของภรรยาสาวที่ใส่ชุดทูพีชสุดเซ็กซี่ สีแดงของผ้าตัดกับผิวขาวอมชมพูของเธอยิ่งทำให้เด่นกว่าเดิม “ฉันตั้งใจใส่มาเพื่อพี่สองคนเลยค่ะ” ผิงอันเตรียมชุดทูพีชสุดเซ็กซี่นี้มาเพื่อพวกเขาโดยเฉพาะ “เกาะนี้มีแค่เราใช่ไหมล่ะคะ..” ผิงอันพูดเสียงหวาน ส่งสายตายั่วยวน มือเล็กก็ค่อยๆ แกะดึงส่วนบนที่เป็นสายผูกอยู่ด้านหลังออก จากที่ตอนแรกมีสิ่งปกปิดยอดปทุมถันสีชมพู กลับเปิดเทอมออกมา “ผิงอัน..” เคอร์วินกลืนน้ำลาย ช้า ๆ “พี่จะทนไมาไหวแล้วนะครับ” คาร์ลเตอร์รับรู้ถึงความซู่ซ่าในร่างกายตัวเอง “ก็ไม่ได้บอกให้ทนนี่คะ..” สองแฝดเดินไปประกบผิงอัน ขนาบข้างติดกันโดยมีเธออยู่ตรงกลาง จากที่สวมใส่เสื้อผ้าก็ถูกถอดออกทีละชิ้น คาร์ลเตอร์ไล่จูบเธอตั้งแต่หน้าผาก ลงมาที่แก้ม จมูก ปาก คอ หน้าอก และหน้าท้องน้อย… ส่วนเคอร์วินก็ซุกซนอยู่กับหลังคอของเธอ ย้ายมือมาจับบีบหน้าอกใหญ่จนล้นออกมาต
วันนี้วันดีที่ครอบครัวใหญ่อย่างฝาแฝดคาร์ลเตอร์,เคอร์วิน คู่พี่น้องตระกูลดูรองซ์และภรรยาสาวสวยกับลูกชายตัวน้อยทั้งสามคน เดินทางมาประเทศไทยตามแพลนที่วางไว้ครั้งก่อนเรื่องเที่ยวพักผ่อน ท้องฟ้าโปร่งใส พระอาทิตย์ส่องแสงให้ความอบอุ่นไม่ได้ร้อนมากเหมือนช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เพราะว่าได้เข้าสู่ช่วงฤดูหนาว อากาศจึงไม่ร้อน และทะเลหน้าหนาวก็สวยมากอีกด้วย ในเวลานี้สองแฝดกำลังขับรถไปส่งลูกชายฝาแฝดทั้งสามคนที่บ้านโรมิโอ ระหว่างที่ขับรถไปคนเป็นพ่อก็ชวนลูกคุย คาร์ลเตอร์แทนตัวเองกับลูกว่า ปะป๊า เคอร์วินแทนตัวเองกับลูกว่า แด๊ดดี้ “เราเตรียมของให้ลูกครบแน่นะ” เคอร์วินหันไปพูดกับพี่ชายที่ขับรถ “อืม เช็กแล้ว กระเป๋าเป้คนละใบ กับของเล่น” พี่ชายตอบน้องชายฝาแฝด “บอกไอ้โรมยังว่าใกล้ถึงแล้ว” คาร์ลเตอร์ถามเสียงเรียบ “ไลน์ไปบอกเมื่อกี้ ไอ้โรมบอกว่าเดี๋ยวจะพาเด็ก ๆ ไปเที่ยวเขาใหญ่พรุ่งนี้” “เหรอดีเลยสิ เคย์เดนน่าจะชอบ” เคย์เดนสนใจเรื่องป่าไม้ แปลกมาทั้งที่ตัวแค่นี้แต่เจอสิ่งที่รักแล้ว “ปะป๊า แด๊ดดี้ จะพาพวกเราไปนอนบ้านเพชรชมพูจริง ๆ เหรอครับ” ลูกชายคนเล็กสุดของบ้านเอ่ยถามอย่างตื่นเต้น “ใช่ครับ เคย์เดน
เคอร์วินพูดจบก็เดินไปเล่นกับลูกชายคนกลาง ชวนลูกคุยถึงชื่อไดโนเสาร์สัตว์ดึกดำบรรพ์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว “ว้าว! สีตาสวยจริงด้วย!” รูบี้ใช้สองมือโอบใบหน้าเคย์เดนจ้องไปใกล้ ๆ “อื้ออ่อนเอ็บอะ” (อื้อ! ปล่อยเจ็บนะ) “รูบี้ไม่ทำแบบนั้นะลูก น้องจะเจ็บ” ลูกแก้วห้ามปรามลูกสาว รูบี้รีบปล่อยมือ แล้วชวนกันเล่น สักพักเบรย์เดนที่แยกตัวอยู่คนเดียวก็เริ่มชวนรูบี้ให้ดูในสิ่งที่ตัวเองชอบ “เหรอ มันชื่ออะไรอะ” “ไทรเซราทอป” “โอ๊ะ เบรย์เดนมีจุดสีดำที่จมูกนี่” รูบี้ตื่นเต้นกับไฝเสน่ห์ “เคย์เดนก็มีอะตรงปาก แม่หนูอยากมีจุดดำบ้าง!” “แต่หนูก็มีลักยิ้มไงคะ น้าชอบลักยิ้มหนูมากเลย”ผิงอันเอ่ยอ้าแขนออก รูบี้วิ่งไปกอด “วันนี้หนูมีของขวัญมาให้น้องด้วยไม่ใช่เหรอเอาไปให้น้องสิคะ เลือกเลยค่ะว่าจะให้ใครอันไหน” ลูกแก้วหยิบกล่องกำมะหยี่สีดำสนิทสามกล่องไปให้ลูกสาว รูบี้เปิดทั้งสามกล่องขึ้นมา ทำท่าคิดว่าจะให้ใครอันไหนดี ของขวัญนี้เธอเลือกมาเองตอนไปบริษัทของพ่อ “อันนี้ให้อาร์เดนนะ” กล่องกำมะหยี่สีดำที่ใส่ทับทิมสีเลือดนกพิราบทั้งสีที่สดและใสแวววาว 9 การัตไปให้อาร์เดน “ส่วนอันนี้ เบรย์เดน” อีกกล่องคือ อเล็กซาน
3 ปีผ่านไป.. โรมิโอกับลูกแก้วและลูกสาวคนสวยในวัยสามขวบแปดเดือน ‘รูบี้’ มาหา และเอาของขวัญมาให้หลานชายที่อายุครบสามขวบ แต่ก็มาหลังจากที่จัดงานวันเกิดไปแล้ว เพราะสัปดาห์ก่อนพวกเขาไม่ว่างเลยมาวันนี้แทน (โรมิโอ-เรื่องมาเฟียพันธนาการรัก) “เป็นไงมึงไม่เจอกันนานเลย” “สบายดี เลี้ยงลูกสามคนสนุกดี พวกมึงล่ะเลี้ยงลูกสามคนเหมือนกันสนุกเลยสิ” โรมิโอแกล้งพูดหยอกล้อคาร์ลเตอร์กับเคอร์วิน ความจริงโรมิโอกับลูกแก้วมีเพียง ‘รูบี้’ เป็นลูกสาวทางสายเลือดเพียงคนเดียว แต่อีกสองคนคือ โอลิเวียร์และโอเรน ลูกสาวและลูกชายบุญธรรม หรือก็คือหลานแท้ ๆ นั่นแหละ “เออ ไม่ได้นอนกันเลยแหละ ดีที่จ้างพี่เลี้ยงมาช่วย” คาร์ลเตอร์เอ่ยตอบเพื่อน พร้อมกับเข้าไปกอดคอ “อิจฉามึงนะมีลูกสาว ไหนขอลุงอุ้มหน่อยครับ” เคอร์วินเข้าไปอุ้มรูบี้ที่ยืนจับขากางเกงพ่อ พร้อมยิ้มหวานให้พวกลุงๆ อวดลักยิ้มที่ได้มาจากแม่ของเธอ “ก็รีบปิดอู่ไวเกินพวกมึง” “สามคนทีเดียวก็สงสารผิงอันมากแล้ว แต่มีลูกสาวสักคนก็คงดี”คาร์ลเตอร์เอ่ยต่อมองไปทางหลาน พลางคิดว่าถ้าเขามีลูกสาวบ้างจะเป็นไงนะ บ้านคงมีสีสันขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่า “พวกมึงก็มาเป็นพ่อทูน
เวลาผ่านไปไม่กี่เดือนหลังขอแต่งงานเธอก็ได้รับรู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ได้เกือบสองเดือน และมากกว่านั้นคือผิงอันได้มีโซ่ทองคล้องใจ ถึงสามเส้นให้กับคาร์ลและเคอร์วิน เธอมีลูกชายฝาแฝดถึงสามคน! เป็นการตั้งครรภ์ที่เสี่ยงมากและพวกเขาก็ทำการปิดอู่ไปตลอดกาล…เพราะสองแฝดไม่อาจทนเห็นเธอทรมานอีกแล้ว การตั้งท้องทายาทให้พวกทีเดียวถึงสามคนไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นได้เลย แต่ผิงอันก็ให้ได้ ช่วงระยะเวลาเก้าเดือนที่เธออุ้มท้องลูกน้อยทั้งสามคน สองพี่น้องรู้สึกสงสารภรรยาตัวเองยิ่งนักเพราะมีเด็กอยู่ในท้องถึงสามคนเพียงแค่ สี่-ห้า เดือนท้องก็ใหญ่เหมือนจะใกล้คลอด เธอต้องทนปวดร้าวร่างกายเพื่อลูกพวกเขา สองแฝดคอยดูแลเธอไม่ห่าง เอาใจใส่ทุกอย่าง เพราะกลัวเธอจะคิดมากเรื่องร่างกายที่เปลี่ยนไป เพราะสำหรับผู้หญิงบางคนเรื่องรูปร่างก็สำคัญไม่ต่างจากการดูแลเส้นผม…ท้องเธอขยายใหญ่ จนเกิดรอยแตกลายขึ้นที่พุง กลับกันผิงอันไม่กังวลใจอะไรเลย มีแต่สองคนนั่นแหละที่เอาแต่กังวล จนร้องไห้แทนเธอ เอ็นดูพวกเขาจริงๆก่อนเธอคลอด“ฮือ ขอโทษนะครับที่ทำให้ทรมาน” เคอร์วินพูดไปร้องไห้ไป มือก็บีบนวดไหล่ให้เธอไปด้วย“ฮึก เจ็บมากใช่ไหม ให้นวดตรงไหน
พอทานอาหารเสร็จเคอร์วินก็เปลี่ยนมาขับรถพาเธอไปสะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3 (Alexander III Bridge) เพราะว่าสะพานนั้นอยู่ใกล้กลับสถานที่พิเศษของทริปนี้ที่พวกเขาอยากทำเซอร์ไพรส์ให้กับเธอ…ทั้งสามคนเดินเที่ยวเล่นกันหลายที่ นอนพักโรงแรมที่ใหม่ใกล้ๆแถวนั้น แล้วก็พาเธอออกมาเที่ยวต่อตามที่ผิงอันอยากไป แล้วเก็บเซอร์ไพรส์ไว้อย่างสุดท้ายเวลาก็ผ่านไปเรื่องจนพระอาทิตย์ที่เคยส่องแสงก็โบกลาลับไปกับขอบฟ้า เปลี่ยนพระจันทร์ที่มาทำหน้าที่แทนในการส่องสว่างสีขาวนวล“เหนื่อยหรือยัง”“ยางง”“โกหกแล้วที่รัก”“ไม่ได้โกหกสักหน่อย พูดจริงนะคะ”“แต่หิวมากกว่า..” ผิงอันลูบห้อง“ได้นิ เพราะที่สุดท้ายของวันนี้เป็นที่ ที่จะพาไปดินเนอร์”“แต่ต้องปิดตาก่อนนะ”“อุ้ย เป็นเซอร์ไพรส์เหรอคะ”“อืม”คาร์ลเตอร์หยิบผ้าขึ้นมาปิดตาเธอ พาไปขึ้นรถ รถหรูเปิดประทุนขับแล่นไปเรื่อยๆ สายลมในยามกลางคืนพัดผ่านมือผิงอันที่ยกขึ้นสัมผัสกับอากาศ“ถึงแล้วครับ”คาร์ลเตอร์เปิดประตู ประคองผิงอันลงมาจากรถ ค่อยแกะผ้าปิดตาเธอให้เปิดออกให้เห็นหอไอเฟลแสนสวยที่เธอใฝ่ฝันว่าจะได้มาเห็นกับคา มันปรากฏตรงหน้าเธอแล้ว“กรี๊ด! สวยมาก”“แต่ทำไมมีคนเลยล่ะ..”ผิงอั
หมับ! พรึบ! อีวานรำคาญที่จะพูด จับเธอยัดใส่ไปในรถปิดประตูรถซูเปอร์คาร์เสียงดัง นักศึกษาแถวนั้นต่างมองและให้ความสนใจ ตามจริงก็มองกันตั้งแต่ที่เขาขับซูเปอร์คาร์มาจอดแล้วแหละ“นี่ฉันมีเรื่องต้องทำนะ จะให้ฉันไปอิตาลีทำไม!”“ก็ฉันอยาก”“เอ้า! บ้าเหรอคะ! สมองคุณนี่มีไหมอะ ฉันมีพ่อมีแม่ลูกหายไปท่านก็เป็นห่วง”“ฉันจัดการให้คนไปบอกแล้วว่าเธอจะไปค่ายที่ต่างประเทศอาทิตย์หนึ่ง และฉันก็ใช้โทรศัพท์เธอส่งข้อความไปบอกพ่อแม่เธอแล้ว”“โทรศัพท์? อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนที่คุณจับโทรศัพท์! นี่อีวาน ถามจริง เป็นอะไร”“เป็นผัวเธอ!” เขาหันมาพูดหน้าตาเฉย ก่อนจะเหยียบคันเร่งออกรถอย่างแรง จนร่างบางต้องรีบดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดตัวทันทีมีทางไหมที่เธอจะหลุดพ้นจากคนตรงหน้า เขามันทั้งโรคจิตทั้งบ้าอำนาจ!!“ถ้ากำลังคิดว่ามีวิธีไหนที่จะไปจากฉัน ก็หยุดคิดซะตั้งแต่ตอนนี้”“เพราะมันไม่มีทางนั้นหรอก”“ก็มาดูกันค่ะว่าจะมีหรือไม่มี!”“หึ ได้ จะรอดู”“เออ!”“พูดเพราะๆ อยากโดนเหมือนเมื่อคืน?”“…”เรื่องราวของพวกเขามันช่างซับซ้อน ไม่มีการตกลงว่าจะเป็นอะไรกัน แต่ก็ไม่ยอมปล่อยกันไป จะจบลงแบบไหนกันนะ…23/03/2023ฝรั่งเศส กรุงปารีสอาก
“ทำไม หวั่นไหวเหรอ” ‘คนอะไรมั่นหน้ามั่นใจเกินไปแล้ว!’“เปล่าหรอกค่ะ กลัวอดใจฆ่าพี่ไม่ได้มากกว่า!”ร่างบางไม่อยากจะต่อปากต่อคำเถียงกับเจริคต่อแล้ว เพราะพูดไปเขาก็มาที่บ้านของเธอเหมือนเดิม เธอเบื่อหน้าเขาจริงๆ ไม่ต้องบอกว่าเกลียดเลยจะถูก!ตุบ! ดิสนีย์เดินเข้ามาใกล้เจริค ยกเท้าขึ้น กระทืบเท้าลงไปที่เท้ามาเฟียหนุ่มเต็มแรง“โอ๊ย! ยัยเด็กแสบ!”ถ้าเป็นคนอื่นที่มาทำกับเขาแบบนี้ ไม่รอดน้ำมือ พวกมันคงโดนตัดขาทิ้งไปนานแล้วหมับ! เขาเอื้อมไปคว้าข้อมือเล็กที่กำลังจะเดินหนี กระชากเธอให้หันกลับมา ปลายจมูกเรียวก้มไปชิดใบหน้าเล็กจนปลายจมูกแตะกัน“งั้นทนต่อไปนะ เพราะพี่จะมาทุกวัน”“พี่เจริค!” เธอผลักให้เขาออกห่าง แต่ข้อมือยังคงถูกจับไว้แน่น“เธอไม่ได้เกลียดพี่จริงๆหรอกใช่ไหม”“ไม่ค่ะ เกลียดจริง เกลียดจนไม่อยากเห็นหน้า เกลียดชนิดที่ถ้าเห็นหน้าพี่ฉันอยากจะควักลูกตาตัวเองออกมา หรือบางทีก็อยากจะกลั้นใจให้ตายทุกครั้งที่เจอหน้าคุณ! ปล่อย!” น้ำเสียงโกรธเกรี้ยวตะเบ่งเสียงดังกระแทกหน้ามาเฟียหนุ่ม เด็กน้อยน่ารักคนนั้นไม่มีอีกแล้ว“โอเค พรุ่งนี้เจอกันใหม่”“ใครอยากเจอ! ไม่ต้องมา!”เขาปล่อยมือ หันหลังเดินกลับออกไ
“อันอันกับเฟยเฟยออกไปก่อนได้ไหมลูก ม๊ากับป๊ามีเรื่องต้องคุยกับพี่ๆเขาสักหน่อย” หลิวอันหันมาพูดกับลูกสาวและลูกชาย“อ๋อค่ะ ได้ค่ะเดี๋ยวพาพี่เฟ้ยไปดูสวนดอกไม้ที่หนูเพิ่งปลูก” สองพี่น้องลุกออกจากโต๊ะไปก่อน ทีนี้ก็เหลือพ่อแม่ผิงอันและสองแฝด“มีอะไรจะคุยเหรอครับ” คาร์ลเตอร์เปิดประโยคถาม“จะแต่งงานกันเมื่อไหร่ คิดไว้บ้างไหม” หัวหน้าครอบครัวตระกูลฟ่านเอ่ยถาม“อาไม่ได้จะเร่งอะไรนะ แต่ถ้าเร็วหน่อยก็ดี”“น้าจะได้วางใจไม่กังวล อีกอย่างน้าอยากให้จัดพิธีของจีนด้วย และแน่นอนว่าส่วนเสริมเพิ่มเติมอยากจัดงานกันแบบอื่นก็ย่อมได้ แต่ช่วยจัดแบบจีนให้น้าด้วยนะ”หลิวอันย้ำชัดว่าเธอต้องการแค่นี้ถ้าเรื่องพิธีแต่งงานไม่ได้เร่ง แต่เร็วก็ดี ความหมายก็คืออยากให้แต่งงานกันเร็วๆ หลิวอันผู้เป็นแม่จะได้วางใจได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ที่ลูกสาวเป็นฝั่งเป็นฝา“ครับ แน่นอนว่าเรื่องแต่งงานพวกผมคิดกันมาตลอด ไม่ได้อยากทำให้น้องเสียหายเลยด้วย ที่ให้มาอยู่กันก่อนแต่ง” เคอร์วินในโหมดจริงจัง นานๆจะได้เห็นมุมนี้“แต่เพราะผมอยากทำให้มันพิเศษที่สุด และแม้เป็นการขอแต่งงาน ผมก็อยากทำให้เธอประทับใจและจดจำไปตลอด”สองแฝดมองหน้ากัน เพราะตาม