ผิงอันกับสองแฝดยืนรอจนส่งแขกกลับจนหมดทุกคน งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา คงเป็นงานที่สองแฝดไม่อยากให้จบลงมากที่สุดในชีวิต“ต้องไปแล้วนะอันอัน”เฟยเฟยเดินมาตามน้องสาว เขาและแม่อยู่รอจนงานเลิกตามความต้องการของน้องสาว“ค่ะ ขอให้ของขวัญพวกเขาก่อนแล้วจะตามออกไปนะคะ”เฟยเฟยพยักหน้า เขาพาแม่ออกไปรอข้างหน้าโรงแรม ส่วนผิงอันเดินกลับไปหาสองแฝดที่ยืนหน้าเหมือนคนไร้วิญญาณ พวกเขาพร้อมใจไม่มองหน้าเธอ“จะไม่มองกันหน่อยเหรอคะ ฉันน้อยใจนะ”“ยังจะมาพูดแบบนี้อีกนะ”เคอร์วินหันมาพูด ใครที่ต้องน้อยใจเสียใจกันแน่“คนที่ทิ้งกันมาบอกว่าน้อยใจ ตลกสิ้นดี”คาร์ลเตอร์หัวเราะแห้ง คนที่ควรพูดมันควรเป็นเขามากกว่าไหม ไอ้คำว่าน้อยใจเนี่ย!!!“… ฉันมีของจะให้ทั้งคู่ด้วยนะ อยากได้ไหมถ้าไม่ก็จะไม่ให้”ผิงอันหยิบ ซองที่ห่อขวัญออกมาแต่เมื่อเห็นสองแฝดเมืน เธอก็เลยแกล้งจะไม่ให้“อยาก!/อยาก!”ทั้งสองคนรีบหยิบกล่องของขวัญนั้นมาและสลับสับเปลี่ยนตามชื่อที่อยู่บนกล่องว่าอันไหนเป็นของใคร“ไม่ใช่ของแพงอะไรหรอก แต่ฉันตั้งใจทำให้”“เธอทำเองเหรอ”คาร์ลเตอร์ถามกอดกล่องของขวัญไว้แน่น“ค่ะตั้งใจทำสุดๆ อย่าเพิ่งแกะนะ รอให้ฉันไปก่อน”ที่ห้ามเพราะว่าเ
หนึ่งเดือนต่อมา หลังจากวันที่ผิงอันกลับประเทศจีนไปกับครอบครัว ทั้งสามคนก็ไม่เคยได้ติดต่อกันอีกเลย สองแฝดเองก็เลือกจะรออยู่เงียบไม่วุ่นวาย ไม่ส่งคนไปคอยตามดูเธอ และยังสั่งห้ามลูกน้องทุกคนไม่ให้พูดถึงร่างบางอีกด้วย ในเมื่อแยกย้ายกันไปเติบโต เราก็ไม่ควรไปก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของกัน เพราะตอนนี้คาร์ลเตอร์กับเคอร์วินก็ยังทำใจไม่ได้ สู้ไม่รับรู้เรื่องเธอเลยจะดีกว่ารับรู้แต่ไม่ได้อยู่เคียงข้างกัน แบบนั้นจะยิ่งเจ็บ แล้วพวกเขาคงดูแลหรือรักษาอะไรไม่ได้ ตอนนี้พวกเขาคงอ่อนแอเกินไป…??? แต่หลังจากที่เคลียร์ธุรกิจสุดท้ายนี้ได้สำเร็จล่ะก็! พวกเขาจะไปทวงคนรักคืนสู่อ้อมอกอีกครั้ง! และจะไม่ยอมปล่อยเธอไปแน่ แม้จะเสียใจจนไม่อยากทำอะไร แต่เพราะก็มีหน้าที่ที่ต้องทำและดูแลชีวิตอีกนับพันคน เหล่าบรรดาลูกน้องและพนักงาน มันคือความรับผิดชอบในส่วนจองผู้กุมอำนาจสูงสุดในบอกบริหาร องค์กร ธุรกิจ ไม่ว่าจะธุรกิจเบื้องหน้าที่ขาวสะอาดหรือธุรกิจเบื้องหลังอันดำมืด… แน่นอนว่าเบื้อหน้าทุกคนรู้จักคาร์ลเตอร์กับเคอร์วินว่าเป็นบริษัทส่งออกอาหารที่ใหญติดอันดับต้นๆของโลก และไหนจะคลับไฮโซอีกมากมาจทั้งในและต่างประเทศ แต่เบื้องลึกเบื
คาร์ลเตอร์หันกลับมาเมื่อรู้ว่าคนที่เข้ามาคือเคอร์วิน มันไม่เห็นบอกว่าจะเข้าบริษัท แต่ก็นิสัยแบบนี้แหละ ไม่บอกคิดอะไรก็ทำเลย และยังใจร้อนอีก เขาถึงได้คอยเป็นห่วงอยู่ตลอด ก็เหลือกันแค่สองคนพี่น้องนี่นะ จะไม่ให้ห่วงได้ไง“จะมาทำไมไม่บอกก่อน”“ทำไมต้องบอก หรือมึงแอบซ่อนผู้หญิงไว้เหรอ”มองซ้ายมองขวาหยอกล้อคาร์ลเตอร์ เขารู้ว่าไม่มีอะไรอย่างนั้นหรอก ก็ตั้งแต่พวกเขาได้เจอผิงอัน ผู้หญิงคนอื่นก็ไม่เคยได้มาเฉียดเข้าใกล้ รวมถึงอยู่ในสายตา“กวนตีน แล้วมีอะไร”คาร์ลเตอร์ส่ายหัวเอือมระอาความกวนโอ๊ยของน้องชายฝาแฝด“ได้รับอีเมลหรือยัง”เคอร์วินเดินมานั่งลงที่โซฟาสีดำเอนตัวผิง ยกมือพาดไปกับโซฟา“จากตระกูลใหญ่น่ะเหรอ ได้แล้วแต่ไม่ได้เปิดอ่าน”คาร์ลเตอร์ตอบกลับพร้อมนั่งลงโซฟาฝั่งตรงข้ามเคอร์วิน“ตอนแรกกูก็ไม่ได้อ่าน แต่ส่งมาไม่หยุดกูเลยยอมเปิดอ่าน”“…”“มึงจะไม่ถามหน่อยเหรอว่าในข้อความเขียนมาว่าไงบ้าง”“กูไม่ได้อยากรู้เรื่องของตระกูลใหญ่”“อาการป่วยของตาแก่คงแย่ลง คุณอาบอกว่าให้พวกเรากลับไปที่บ้านใหญ่” ตาแก่ที่เคอร์วินพูดถึงก็คือท่านปู่ ผู้เป็นบิดาของพ่อสองแฝดและหัวหน้าตระกูลดูรองซ์“เรียกท่านปู่ดีๆ”คาร์ลเตอ
French in Paris 🇫🇷 คฤหาสน์ตระกูลดูรองซ์🕍“ไม่ได้กลับมานานแค่ไหนแล้วนะ”น้ำเสียงผู้เป็นน้องชายเอ่ยออกมาขณะรถหรูยี่ห้อโรลส์รอยซ์ขับผ่านรูปปั้นนกฟีนิกซ์เพลิงที่ตั้งเด่นสง่าประดับอยู่หน้าประตูรั้วคฤหาสน์ตระกูลดูรองซ์ สไตล์ของคฤหาสน์คือกรีกโรมินผสมกลิ่นอายของปรารีสร่วมสมัยใหม่ แน่นอนว่า คฤหาสน์ใหญ่โตที่คนนอกอยากเข้า คนในอยากออก…ที่กล่าวมาไม่ได้เกินจริง คนในที่พูดถึงคือพวกเขาเองสัญลักษณ์นกฟีนิกซ์เพลิงแสดงอำนาจให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาคนทั่วไปและยังเป็นหนึ่งในห้าตระกูลของตราประจำสัญลักษณ์สัตว์เทพในตำนาน สืบทอดต่อกันมารุ่นต่อรุ่นตั้งแต่ปี1951 แน่นอนว่าที่กล่าวถึงนั้นยังมีอีกห้าตระกูล ก็คือกลุ่มเพื่อนสนิทของสองแฝด พวกเขามีสายสัมพันธ์อันดีต่อกันมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่คุณตา พวกท่านเองก็ต่างเป็นเพื่อนกันมาก่อนเหมือนกับพวกเขาในตอนนี้“ห้าปี ห้าปีนับตั้งแต่เราก้าวเท้าออกจากคฤหาสน์ของท่านปู่ เราไม่ได้กลับมาที่นี่ตั้งแต่ตอนนั้น”คาร์ลเตอร์หันไปตอบน้องชายฝาแฝด ความคิดที่จะโบยบินด้วยปีกของตัวเองนั้น เคยคิดว่าจะไม่กลับมาในกรงทองนี้อีก แต่สุดท้ายก็เดินกลับมาด้วยตัวเอง ยังไงสายเลือดเดียวกันก็ตัดกันไม่ขา
พ่อบ้านเดินนำพาทั้งสองคนเข้าไปในคฤหาสน์ ก่อนจะเดินไปขึ้นลิฟต์ พวกเขาก็ได้เดินผ่านอาดักซ์ น้องชายคนเล็กของพ่อ ลูกชายของปู่อีกคน แต่เป็นลูกกับภรรยาคนที่สาม ส่วนพ่อของคาร์ลเตอร์กับเคอร์วินเป็นลูกของภรรยาคนแรกหรือก็คือคุณผู้หญิงที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฏหมายเพียงหนึ่งเดียว“ไม่เจอกันนานเลยนะ ยิ่งโตยิ่งเหมือนพ่อนะพวกแก”สองแฝดไม่ค่อยชอบอาดักซ์พวกเขาไม่สนใจหรือคิดที่กล่าวทักทายด้วยซ้ำ“ญาติผู้ใหญ่คุยด้วยแท้ๆ ปีกกล้าขาแข็งไม่เปลี่ยน คิดว่าเป็นหลานคนโปรดจะทำอะไรก็ได้งั้นสิ”ขวับ!“แน่นอน อย่างน้อยการที่อยากทำอะไรของพวกฉันมันก็มีประโยชน์มากกว่าไม่ทำอะไรนอกจากใช้นามสกุลตระกูลเป็นกะลาคุมหัว!”“มึงว่าใครไอ้เคลว์”“ก็ยืนหันหน้าพูดด้วย หรืออาคิดว่าฉันกำลังพูดกับหมา!แต่แถวนี้ก็ไม่มีหมานะนอกจากอา?”เคอร์วินไม่เกรงกลัวแม้คนตรงหน้าจะมีศักดิ์เป็นอา“มึง คิดว่าท่านพ่อจะยกทุกอย่างให้พวกแกหรอ! ไอ้เด็กเมื่อวานซืน!”“พอ! ท่านปู่นอนป่วยอยู่ยังจะมาหาเรื่องไอ้เคลว์อยู่ได้ ถ้าอามีวุฒิภาวะมาพอก็ควรหยุดได้แล้ว”คาร์ลเตอร์กล่าวเสียงเรียบแต่ดุดัน ทำเอาดักซ์นิ่งสงบปากไปได้แป๊บนึงก่อนจะเอ่ยออกมาอีก“เห็นว่าพ่อฉันอยากเ
จึก! “หยุดได้แล้ว คาร์ลเตอร์!” ปลายแหลมคมมีดที่กำลังจะปักลงกลางอกชายวัยกลางคนสุดด้ามได้ถูกห้ามจากเสียงแหบแห้งของชายสูงอายุ ผู้นำตระกูลดูรองซ์ อองเดรเดินออกมาจากลิฟต์พร้อมกับผู้ดูแลข้างกาย มือที่เหี่ยวแห้งเปลี่ยนไปตามกาลเวลาแตะลงบนบ่าหลานชายบีบเบาๆ แต่คาร์ลเตอร์เพียงดึกมีดที่แทงเข้าไปแค่ปลายออกเท่านั้น แต่เขายังคงใช้มือทั้งห้านิ้วบีบคออาตัวเองไว้แน่นแทบจะกำได้ทั้งรอบคอ ดักซ์ดวงตาเบิกโพลงนัยตาแดงก่ำ “แค่กๆ อึกพะพ่อ..”เขายังคงดิ้นทุรนทุราย แรงที่มีเหลือก็เริ่มที่จะหมด ภาวนาให้พ่ออย่างอองเดรช่วยตัวเองจากน้ำมือหลานชาย “ยังไงนี่ก็ลูกชายปู่ ปู่จะสั่งสอนมันเอง”น้ำเสียงชายชราที่พูดอย่างสงบแต่คนฟังรู้ดีว่าหมายถึงอะไร ดักซ์ก็แค่หมากตัวหนึ่งที่ปู่เขาเป็นผู้ควบคุม อำนาจปกครองยังอยู่ในมือของอองเดรถึงแม้ท่านจะแก่ชรามากแล้วก็ตามแต่ทุกคนยังให้ความเคารพและเกรงกลัวอำนาจ และเขาที่เป็นหลานก็ควรต้องทำตามคำสั่งกับเชื่อฟัง ถึงนี่จะเป็นเรื่องที่อยากขัดคำสั่งที่สุดในชีวิตของคาร์ลเตอร์เลยก็ว่าได้ “น่าหงุดหงิด! ” ตุบ! ร่างหนาของดักซ์ถูกปล่อยเป็นอิสระโล่งลงสู่พื้น เขาลงไปนอนกลิ้งตัวไปมาหงายตัวขึ้นนอน
“แกยังมีหน้ามาพูดถึงออสตินแบบนี้อีกรึ! พี่ชายพี่สะใภ้ตายก็เพราะไปช่วยคนไร้ค่าอย่างแก” “ทั้งที่มีชีวิตรอดมาแต่ก็ไม่สำนึก เคยทำอะไรให้ตาแก่อย่างฉันสบายใจไหม เรื่องธุรกิจตระกูลแกไม่ต้องหวังว่าจะได้ดูแลแม้แต่ธุรกิจเดียวและฉันทำทุกอย่างตามความจริงที่รู้และเห็นอย่างยุติธรรม” แน่นอนว่าอองเดรมองเห็นทุกอย่างทะลุปรุโปร่ง ใครควรได้ไม่ได้อะไร คนที่มีความสามารถกับคนที่ไร้ความสามารถก็มองออกได้ในทันที “สิ่งที่เป็นของคาร์ลเตอร์กับเคอร์วินไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่ายหรือคิดจะแย่งไปได้!” “และฉันไม่ได้ลืมว่ามีหลานกี่คน! พวกนั้นก็จะได้ในสิ่งที่เป็นของตัวเอง พามันออกไป!” “อึก!” “นายท่าน!” ดักซ์ถูกหิ้วปีกออกไป เพียงไม่กี่วินาทีต่อมาที่ลูกชายถูกลากออกไป คนเป็นพ่อที่แสร้งทำว่าแข็งแรงทรุดตัวลงต่อหน้าหัวหน้าพ่อบ้าน คนดูแลและบอดี้การ์ด หรือนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผู้นำตระกูลจะได้โต้เถียงกับลูกชายคนเล็ก แต่อย่างน้องก่อนตายเขาก็ได้เจอหลานชายทั้งสองคนอันเป็นที่รักเปรียบเสมือนหัวใจของชายแก่คนนี้ หลังจากนั้นเพียงสามชั่วโมง ตระกูลดูรองซ์ก็ได้พบกับความโศกเศร้า ผู้นำตระกูลได้จากไปอย่างสงบด้วยโรคหัวใจ
หนึ่งสัปดาห์หลังผ่านพ้นพิธีงานศพท่านอองเดรไปอย่างเรียบง่ายแต่ก็จัดขึ้นอย่างสมเกียรติของท่าน จัดขึ้นตามพิธีกรรมของศาสนาคริสต์ วันสุดท้ายในการฝังร่างท่านที่สุสานตระกูล สองพี่น้อง คาร์ลเตอร์กับเคอร์วินได้ให้คำมั่นสัญญาต่อหน้าหลุมศพท่านปู่ว่าจะรับหน้าที่ดูแลตระกูลต่อ ตามเจตนารมณ์ของท่านปู่"ผมจะดูแลตระกูลให้ดีเหมือนที่ปู่ปกป้องตระกูลเรามาตลอดจดช่วงสุดท้ายของชีวิต และจะทำมันให้ดีกว่าเดิม พักผ่อนนะปู่"คาร์ลเตอร์กุมมือประสานเข้าด้วยกันก้มหน้าทำความเคารพและเอ่ยต่อหน้าหลุมศพอองเดรอย่างหนักแน่น"ไม่ต้องกังวลนะปู่ ฉันจะเป็นผู้นำตระกูลที่สมบูรณ์แบบให้มากกว่าปู่แน่นอนละก็อีกเรื่องฉันรักปู่นะขอบคุณที่พยายามทำหน้าที่พ่อกับแม่ดูแลตอนพวกฉันยังเด็ก อยู่ในนั้นหวังว่าจะไม่อึดอัดนะปู่...""ปู่คงดีใจนะที่มึงยอมเรียกท่านว่าปู่สักที ตอนที่ท่านยังอยู่ ปู่เขาอยากได้ยินมึงเรียกว่าปู่มาตลอด""มึงก็พูดไปเรื่อยกูก็เรียกปู่ออกจะบ่อย ฉันไปละนะตาแก่ไว้จะมาเยี่ยมพร้อมหลานสะใภ้นะ"เคอร์วินถอนหายใจเฮือกใหญ่แรงๆ ยกมือโบกไปมาและหันหลังไปยืนรอคาร์ลเตอร์ พลางหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบถึงเขาจะชอบพูดหยอกล้อหรือทำตัวนิสัยเด็กน
พรึ่บ ผิงอันเงยหน้าขึ้นมองทันทีหลังได้ยินชื่อตระกูลดูรองซ์? นามสกุลสองแฝดนี่ งั้นแปลว่าเธอกำลังจะได้ไปเจอพวกเขาแล้ว ตึกตัก ตึกตัก แค่คิดจังหวะอัตราการเต้นของหัวใจของเธอก็เต้นแรงขึ้น มันแทบจะออกมาเต้นข้างนอกได้เลย"เราไม่ไปได้ไหมป๊า"เฟยเฟยเอ่ยถามอย่างกังวล ‘เรา’ในที่นี้หมายถึง ผิงอัน ไม่ต้องไปได้ไหม เขาไม่ต้องการให้น้องสาวกลับไปเจอสองแฝดอีก อุส่าเลี่ยงมาได้ตั้งหลายเดือน ไม่ทันไรจะกลับไปเจอกันอีกแล้ว ป๊าไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผิงอันกับสองคนนั้น รู้แค่ว่าพวกเขาหาเธอเจอ "ไม่ได้ ตระกูลดูรองซ์มีอำนาจและอยู่ดูแลตระกูลเรามาตลอดหลายปี ถึงแกจะไม่ชอบพวกสองแฝดแค่ไหนก็เก็บความไม่ชอบนั้นไว้ในใจซะ พวกเขาหาน้องสาวแกเจอนะควรจะขอบคุณด้วยซ้ำ"ถ้าวันนั้นตัวเขาไม่มีงานต้องไปเขาก็อยากไปขอบคุณสองแฝดด้วยตัวเอง ที่มอบนางฟ้าตัวน้อยกลับคืนสู่อ้อมอกเขา"ป๊าอะ ป๊าไม่เข้าใจผมหรอก""ป๊าจะไม่พูดซ้ำนะอาเฟย ไปเคลียร์งานที่มีให้เสร็จก่อนอาทิตย์หน้าเราจะไปพร้อมกันคุณด้วยที่รัก""ค่ะ ฉันต้องไปอยู่แล้วงานสำคัญอย่างนี้""ผิงอันไม่มีสอบอะไรใช่ไหมลูก"จางอี้หันไปมองลูกสาวคนสวยที่กำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่นี่คงเพราะอยาก
นครเซียงไฮ้🍡 ณ เมืองหนึ่งในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ เมืองแห่งความรุ่งโรจน์ทางเศรษฐกิจ นครเซี่ยงไฮ้ เมืองที่ไม่เคยหลับใหล ที่ใครหลากหลายคนอยากจะมาท่องเที่ยว และยังมีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ในเมืองนี้ เต็มไปด้วยวัฒนธรรมมากมายของประเทศจีนและคนในเมือง ที่สำคัญเมืองเซียงไฮ้นั้นอยู่ติดทะเลทำให้มีท่าเรือมากมาย และแน่นอนว่าเมืองใหญ่โตแบบนี้และท่าเรือหลายร้อยท่าเรือก็ต้องมีคนควบคุมดูแลไม่ให้เกิดความเสียหาย เจ้าของหลักก็อยู่ในเมืองนี้มานานแล้ว และคนที่ควบคุมเมืองนี้อยู่ก็คือตระกูลฟ่าน ใช่นั่นก็คือตระกูลของครอบครัวผิงอัน ตระกูลฟ่านคอยดูแลท่าเรือกับคนในเมือมานานหลายชั่วอายุคนตั้งแต่เริ่มก่อตั้งตระกูล แต่ละเมืองในจีนจะมีแต่ละตระกูลคอยควบคุมดูแลในส่วนของวันนี้หัวหน้าตระกูลฟ่าน จางอี้ได้เรียกทุกคนในครอบครัวมาพูดคุยเรื่องการเดินทางออกจากเมืองไปต่างประเทศ"ทำไมวันนี้เรียกรวมด่วนตัวล่ะครับป๊า ผมมีงานด่วนต้องไปทำต่อที่กวางโจว"ลูกชายคนโตเปิดปากเอ่ยถามเมื่อนั่งลงที่เก้าอี้ เดินตามมาด้วยน้องสาวคนสวยของเขา ผิงอันหรืออีกชื่อคืออันอัน อยู่ที่ประเทศจีนส่วนใหญ่จะเรียกเธอว่าอันอัน แต่ส่วนตัวเธอชอบชื
"ทนายพอร์ชเชิญอ่านต่อ""ครับ และในส่วนทรัพย์สินของภรรยาทั้งสามที่เสียไปเมื่อสองปีก่อน ที่ไม่เคยเปิดเผยทรัพย์สมบัติ คุณผู้หญิง เธอขอมอบให้กับลูกๆ ตามสายเลือดของพวกเธอ ยกเว้นคุณหญิงอัลลาคุณแม่ของคุณชายออสตินมอบให้กับหลานชายฝาแฝดของเธอแทนลูกชายที่จากไป โดยจะทำการส่งมอบให้แล้วเสร็จภายในสามวัน""ส่วนคฤหาสน์ฝั่งซ้ายมอบให้อังเดรลูกชายคนที่สอง กับที่ดินห้าพันไร่ ตำแหน่งประทานบริษัทเหมืองทองคำสาขาสอง และเงินสดหนึ่งล้านดอลลาร์ ส่วนสร้อยเพชรหนึ่งร้อยกล่องกับเงินห้าหมื่นดอลลาร์มอบให้แอนดิสัน ดูรองซ์หลานสาว บริษัทเครื่องดื่มน้ำแร่ที่ประเทศอิตาลี ตำแหน่งประธานมอบให้แอนโทนีดูรองซ์หลานชาย พร้อมเงินสดอีกหนึ่งแสนดอลลาร์""ถัดมาในคฤหาสน์ฝั่งขวามอบให้ลูกชายคนเล็ก ดักซ์ ดูรองซ์ กับเงินสดหนึ่งล้านดอลลาร์ เครื่องประดับอย่างละหนึ่งร้อยกล่อง กับเช็คเงินสดสิบล้านดอลลาร์มอบให้หลานสาวฝาแฝดทั้งสองคน ไดอาน่า ดิสนี่ย์ ดูรองซ์""และสุดท้ายเงินสดหนึ่งร้อยล้านดอลลาร์ขอมอบให้มูลนิธิในเครืออย่างเท่าๆกัน""จบการอ่านพินัยกรรม..." หลังจากอ่านพินัยกรรมจบทนายก็ขอตัวลาไปจัดการทำเรื่องโอนย้ายชื่อให้มาเป็นของสองแฝด เปลื่ยนชื่อใ
สองพี่น้องเดินบนทางที่ทำจากหินอ่อนเกรดพรีเมี่ยมที่ปู่ชอบตามทางโรยกรีบกุหลาบสีฟ้า ระหว่างสองข้างทางเดินมีบอดี้การ์ดยืนเรียงแถวหน้ากระดานตั้งแต่หน้าหลุมศพยาวไปถึงทางออก ทุกคนพากันก้มหัวและกล่าวเรียกทำความเคารพท่านผู้นำตระกูลทั้งสองคน หลังจากวันนี้จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการพร้อมกับเปิดพินัยกรรม แน่นอนว่าเรื่องนี้คงจะเป็นปัญหาภายใน อาจมีคนที่ไม่พอใจจนทำอะไรโง่ๆก็เป็นได้แต่พวกเขาจะไม่ยอมให้ใครมันมาทำลายตระกูลของเราที่มีมาอย่างยาวนี้แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นคนในหรือคนนอก ถ้าไม่ดีหรือมีแผนการทำลายตระกูลพวกเขาก็พร้อมจะตัดคนพวกนั้นออกจากตระกูล เคอร์วินเองก็ต้องขึ้นมาเป็นท่านผู้นำ สองคนพี่น้องพวกเขาคือหนึ่งเดียวกัน ความแข็งแกร่งความสามารถที่ซ่อนไว้นับจากนี้พวกเขาจะได้ใช้มันสักที! 14/01/2023 คฤหาสน์ตระกูลดูรองซ์🕍วันนี้มีการอ่านพินัยกรรม ทุกคนที่มีความเกี่ยวข้องกับอองเดร ทายาทจะได้รู้เรื่องราวที่ถูกเขียนไว้ในพินัยกรรม ทนายที่จะมาอ่านเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือ และเป็นคนสนิทของอองเดรที่ทำงานอยู่ด้วยกันมาทุกช่วงชีวิต จะไม่มีการเล่นตุกติกหรือปลอมแปลงเอกสารอะไรขึ้นมาใหม่ ทุกคำที่จะได้อ่านหลังจากนี้
หนึ่งสัปดาห์หลังผ่านพ้นพิธีงานศพท่านอองเดรไปอย่างเรียบง่ายแต่ก็จัดขึ้นอย่างสมเกียรติของท่าน จัดขึ้นตามพิธีกรรมของศาสนาคริสต์ วันสุดท้ายในการฝังร่างท่านที่สุสานตระกูล สองพี่น้อง คาร์ลเตอร์กับเคอร์วินได้ให้คำมั่นสัญญาต่อหน้าหลุมศพท่านปู่ว่าจะรับหน้าที่ดูแลตระกูลต่อ ตามเจตนารมณ์ของท่านปู่"ผมจะดูแลตระกูลให้ดีเหมือนที่ปู่ปกป้องตระกูลเรามาตลอดจดช่วงสุดท้ายของชีวิต และจะทำมันให้ดีกว่าเดิม พักผ่อนนะปู่"คาร์ลเตอร์กุมมือประสานเข้าด้วยกันก้มหน้าทำความเคารพและเอ่ยต่อหน้าหลุมศพอองเดรอย่างหนักแน่น"ไม่ต้องกังวลนะปู่ ฉันจะเป็นผู้นำตระกูลที่สมบูรณ์แบบให้มากกว่าปู่แน่นอนละก็อีกเรื่องฉันรักปู่นะขอบคุณที่พยายามทำหน้าที่พ่อกับแม่ดูแลตอนพวกฉันยังเด็ก อยู่ในนั้นหวังว่าจะไม่อึดอัดนะปู่...""ปู่คงดีใจนะที่มึงยอมเรียกท่านว่าปู่สักที ตอนที่ท่านยังอยู่ ปู่เขาอยากได้ยินมึงเรียกว่าปู่มาตลอด""มึงก็พูดไปเรื่อยกูก็เรียกปู่ออกจะบ่อย ฉันไปละนะตาแก่ไว้จะมาเยี่ยมพร้อมหลานสะใภ้นะ"เคอร์วินถอนหายใจเฮือกใหญ่แรงๆ ยกมือโบกไปมาและหันหลังไปยืนรอคาร์ลเตอร์ พลางหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบถึงเขาจะชอบพูดหยอกล้อหรือทำตัวนิสัยเด็กน
“แกยังมีหน้ามาพูดถึงออสตินแบบนี้อีกรึ! พี่ชายพี่สะใภ้ตายก็เพราะไปช่วยคนไร้ค่าอย่างแก” “ทั้งที่มีชีวิตรอดมาแต่ก็ไม่สำนึก เคยทำอะไรให้ตาแก่อย่างฉันสบายใจไหม เรื่องธุรกิจตระกูลแกไม่ต้องหวังว่าจะได้ดูแลแม้แต่ธุรกิจเดียวและฉันทำทุกอย่างตามความจริงที่รู้และเห็นอย่างยุติธรรม” แน่นอนว่าอองเดรมองเห็นทุกอย่างทะลุปรุโปร่ง ใครควรได้ไม่ได้อะไร คนที่มีความสามารถกับคนที่ไร้ความสามารถก็มองออกได้ในทันที “สิ่งที่เป็นของคาร์ลเตอร์กับเคอร์วินไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่ายหรือคิดจะแย่งไปได้!” “และฉันไม่ได้ลืมว่ามีหลานกี่คน! พวกนั้นก็จะได้ในสิ่งที่เป็นของตัวเอง พามันออกไป!” “อึก!” “นายท่าน!” ดักซ์ถูกหิ้วปีกออกไป เพียงไม่กี่วินาทีต่อมาที่ลูกชายถูกลากออกไป คนเป็นพ่อที่แสร้งทำว่าแข็งแรงทรุดตัวลงต่อหน้าหัวหน้าพ่อบ้าน คนดูแลและบอดี้การ์ด หรือนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผู้นำตระกูลจะได้โต้เถียงกับลูกชายคนเล็ก แต่อย่างน้องก่อนตายเขาก็ได้เจอหลานชายทั้งสองคนอันเป็นที่รักเปรียบเสมือนหัวใจของชายแก่คนนี้ หลังจากนั้นเพียงสามชั่วโมง ตระกูลดูรองซ์ก็ได้พบกับความโศกเศร้า ผู้นำตระกูลได้จากไปอย่างสงบด้วยโรคหัวใจ
จึก! “หยุดได้แล้ว คาร์ลเตอร์!” ปลายแหลมคมมีดที่กำลังจะปักลงกลางอกชายวัยกลางคนสุดด้ามได้ถูกห้ามจากเสียงแหบแห้งของชายสูงอายุ ผู้นำตระกูลดูรองซ์ อองเดรเดินออกมาจากลิฟต์พร้อมกับผู้ดูแลข้างกาย มือที่เหี่ยวแห้งเปลี่ยนไปตามกาลเวลาแตะลงบนบ่าหลานชายบีบเบาๆ แต่คาร์ลเตอร์เพียงดึกมีดที่แทงเข้าไปแค่ปลายออกเท่านั้น แต่เขายังคงใช้มือทั้งห้านิ้วบีบคออาตัวเองไว้แน่นแทบจะกำได้ทั้งรอบคอ ดักซ์ดวงตาเบิกโพลงนัยตาแดงก่ำ “แค่กๆ อึกพะพ่อ..”เขายังคงดิ้นทุรนทุราย แรงที่มีเหลือก็เริ่มที่จะหมด ภาวนาให้พ่ออย่างอองเดรช่วยตัวเองจากน้ำมือหลานชาย “ยังไงนี่ก็ลูกชายปู่ ปู่จะสั่งสอนมันเอง”น้ำเสียงชายชราที่พูดอย่างสงบแต่คนฟังรู้ดีว่าหมายถึงอะไร ดักซ์ก็แค่หมากตัวหนึ่งที่ปู่เขาเป็นผู้ควบคุม อำนาจปกครองยังอยู่ในมือของอองเดรถึงแม้ท่านจะแก่ชรามากแล้วก็ตามแต่ทุกคนยังให้ความเคารพและเกรงกลัวอำนาจ และเขาที่เป็นหลานก็ควรต้องทำตามคำสั่งกับเชื่อฟัง ถึงนี่จะเป็นเรื่องที่อยากขัดคำสั่งที่สุดในชีวิตของคาร์ลเตอร์เลยก็ว่าได้ “น่าหงุดหงิด! ” ตุบ! ร่างหนาของดักซ์ถูกปล่อยเป็นอิสระโล่งลงสู่พื้น เขาลงไปนอนกลิ้งตัวไปมาหงายตัวขึ้นนอน
พ่อบ้านเดินนำพาทั้งสองคนเข้าไปในคฤหาสน์ ก่อนจะเดินไปขึ้นลิฟต์ พวกเขาก็ได้เดินผ่านอาดักซ์ น้องชายคนเล็กของพ่อ ลูกชายของปู่อีกคน แต่เป็นลูกกับภรรยาคนที่สาม ส่วนพ่อของคาร์ลเตอร์กับเคอร์วินเป็นลูกของภรรยาคนแรกหรือก็คือคุณผู้หญิงที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฏหมายเพียงหนึ่งเดียว“ไม่เจอกันนานเลยนะ ยิ่งโตยิ่งเหมือนพ่อนะพวกแก”สองแฝดไม่ค่อยชอบอาดักซ์พวกเขาไม่สนใจหรือคิดที่กล่าวทักทายด้วยซ้ำ“ญาติผู้ใหญ่คุยด้วยแท้ๆ ปีกกล้าขาแข็งไม่เปลี่ยน คิดว่าเป็นหลานคนโปรดจะทำอะไรก็ได้งั้นสิ”ขวับ!“แน่นอน อย่างน้อยการที่อยากทำอะไรของพวกฉันมันก็มีประโยชน์มากกว่าไม่ทำอะไรนอกจากใช้นามสกุลตระกูลเป็นกะลาคุมหัว!”“มึงว่าใครไอ้เคลว์”“ก็ยืนหันหน้าพูดด้วย หรืออาคิดว่าฉันกำลังพูดกับหมา!แต่แถวนี้ก็ไม่มีหมานะนอกจากอา?”เคอร์วินไม่เกรงกลัวแม้คนตรงหน้าจะมีศักดิ์เป็นอา“มึง คิดว่าท่านพ่อจะยกทุกอย่างให้พวกแกหรอ! ไอ้เด็กเมื่อวานซืน!”“พอ! ท่านปู่นอนป่วยอยู่ยังจะมาหาเรื่องไอ้เคลว์อยู่ได้ ถ้าอามีวุฒิภาวะมาพอก็ควรหยุดได้แล้ว”คาร์ลเตอร์กล่าวเสียงเรียบแต่ดุดัน ทำเอาดักซ์นิ่งสงบปากไปได้แป๊บนึงก่อนจะเอ่ยออกมาอีก“เห็นว่าพ่อฉันอยากเ
French in Paris 🇫🇷 คฤหาสน์ตระกูลดูรองซ์🕍“ไม่ได้กลับมานานแค่ไหนแล้วนะ”น้ำเสียงผู้เป็นน้องชายเอ่ยออกมาขณะรถหรูยี่ห้อโรลส์รอยซ์ขับผ่านรูปปั้นนกฟีนิกซ์เพลิงที่ตั้งเด่นสง่าประดับอยู่หน้าประตูรั้วคฤหาสน์ตระกูลดูรองซ์ สไตล์ของคฤหาสน์คือกรีกโรมินผสมกลิ่นอายของปรารีสร่วมสมัยใหม่ แน่นอนว่า คฤหาสน์ใหญ่โตที่คนนอกอยากเข้า คนในอยากออก…ที่กล่าวมาไม่ได้เกินจริง คนในที่พูดถึงคือพวกเขาเองสัญลักษณ์นกฟีนิกซ์เพลิงแสดงอำนาจให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาคนทั่วไปและยังเป็นหนึ่งในห้าตระกูลของตราประจำสัญลักษณ์สัตว์เทพในตำนาน สืบทอดต่อกันมารุ่นต่อรุ่นตั้งแต่ปี1951 แน่นอนว่าที่กล่าวถึงนั้นยังมีอีกห้าตระกูล ก็คือกลุ่มเพื่อนสนิทของสองแฝด พวกเขามีสายสัมพันธ์อันดีต่อกันมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่คุณตา พวกท่านเองก็ต่างเป็นเพื่อนกันมาก่อนเหมือนกับพวกเขาในตอนนี้“ห้าปี ห้าปีนับตั้งแต่เราก้าวเท้าออกจากคฤหาสน์ของท่านปู่ เราไม่ได้กลับมาที่นี่ตั้งแต่ตอนนั้น”คาร์ลเตอร์หันไปตอบน้องชายฝาแฝด ความคิดที่จะโบยบินด้วยปีกของตัวเองนั้น เคยคิดว่าจะไม่กลับมาในกรงทองนี้อีก แต่สุดท้ายก็เดินกลับมาด้วยตัวเอง ยังไงสายเลือดเดียวกันก็ตัดกันไม่ขา