คุณผู้หญิงหลิวอันยืนร้องไห้พร้อมกับกอดผิงอันอย่างนั้นไม่ยอมปล่อย ความที่คิดว่าเสียลูกสาวไปตั้งแต่สิบสามปีที่แล้ว แต่ตอนนี้ลูกสาวที่คิดว่าหายจากไปกลับมายืนอยู่ตรงหน้า ไม่ใช่ความฝัน ลูกสาวสุดที่รักกลับมาหาเธอแล้ว“ม๊าดีใจ ดีใจจริงๆ”“ไม่คิดไม่ฝันว่าม๊าจะได้เจอหนูอีก ฮึก”“เฮียก็ดีใจ คิดว่าชาตินี้คงไม่ได้เจอเราแล้ว”เฟยเฟยโอบกอดน้องสาวเพียงคนเดียวของเขาไว้แน่นเช่นเดียวกับแม่ที่กอดไม่ปล่อย ผิงอันหรือ ฟ่านอันอันลูกสาวคนเล็กของตระกูลฟ่าน ตระกูลอำนาจที่ทั่วทั้งมาเก๊าเกรงกลัว“หนู หนูก็ดีใจค่ะที่ได้เจอคนในครอบครัว แต่คุณมั่นใจได้ไงคะว่าหนูเป็นลูกสาว” ผิงอันยังไม่กล้าที่จะเอ่ยเรียกแม่ เธอยังงงอยู่เลยไม่สามารถเรียกได้เต็มปากว่าผผู้หญิงตรงหน้าเป็นแม่…“หนูจำม๊ากับคนอื่นไม่ได้เลยเหรอ…”“หนูจำไม่ได้ค่ะ คือหนู..”“ไม่เป็นไรม๊าเข้าใจ ม๊าได้ยินมาก่อนหน้านี้แล้วว่าหนูความจำเสื่อม ม๊าจะเล่าให้ฟังตั้งแต่แรก ที่หนูหายไป..”คาร์ลเตอร์ปล่อยให้ทั้งสามคนได้พูดคุยกัน แต่มีเขากับเคอร์วินนั่งอยู่ห่างออกมาไม่ไปลนัก ยังคงมองเห็นทั้งสามคนในห้อง ยังไงสำหรับผิงอันแล้วตอนนี้ก็เป็นเรื่องไม่น่าเชื่อ เธอเองก็คงสับสน คนที
“กลับบ้านกันนะอันอัน” “คะ..!?” “ตอน..ตอนนี้เลยเหรอคะ” “ตอนนี้แหละ ไม่มีเวลาไหนจะเหมาะเท่านี้แล้วลูก เกือบสิบปีที่เราต้องแยกจากกันมันนานพอแล้ว ม๊าอยากพาหนูกลับไปในที่ที่ของหนู” ร่างบางตาโตตกใจกับคำพูดของแม่..แม่ที่เพิ่งได้พบกันครั้งแรกหลังจากที่เธอต้องอยู่คนเดียวมาเป็นสิบปี และตอนนี้ท่านกำลังบอกให้ผิงอันกลับไปมาเก๊า ที่ซึ่งเธอจำอะไรไม่ได้.. “แต่..หนู..” “ทุกคนที่มาเก๊ารอหนูอยู่นะ ยังต้องมีแต่อะไรอีกม๊ากับเฮียและทุกคนต้องการหนูนะลูก”คำพูดของหญิงวัยกลางคนที่เว้าวอนให้ลูกสาวกลับบ้านยิ่งทำให้ร่างบางกดดัน เธอหันไปมองทางสองแฝด “ครอบครัวที่แท้จริงรออันอันอยู่นะครับ กลับบ้านกันนะน้องสาวของเฮีย”เฟยเฟยลูบผมเธอพร้อมกับคำพูดจริงจังกับน้ำเสียงที่อ้อนวอนต้องการให้ผิงอันกลับมาเก๊าด้วยกัน “หรือหนูไม่อยากกลับไปกับม๊า หนูไม่รักม๊าไม่ต้องการม๊าเหรอลูก…”น้ำตาที่เพิ่งเหือดหายพลันกลับมาอีกครั้งเมื่อรู้สึกว่าลูกไม่อยากกลับบ้านไปกับตัวเอง ‘เพราะอะไร ทำไม’ เกิดคำถามขึ้นมากมายในใจของผู้เป็นแม่และพี่ชาย ผิงอันรู้สึกตกใจเมื่อได้ฟังที่คนเป็นแม่และพี่ชายพูด มันค่อนข้างกะทันหันมากสำหรับคนที่เพิ่งเจอครอบค
“คือว่า..“จะให้เธอตอบอะไร เธอก็ไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไรกับพวกเขา พวกเราไม่เคยพูดเรื่องสถานะกันด้วยซ้ำ“พูดสิ ว่าเราเป็นอะไรกัน”เคอร์วินหันไปกดดันให้เธอพูด “พูดให้ครอบครัวเธอเข้าใจ ผิงอัน”คาร์ลเตอร์ยกยิ้มหันไปทางเฟยเฟยแต่คำตอบกลับของผิงอันทำสองแฝดนิ่งชะงัก ทำตัวไม่ถูกและไม่เข้าใจ “เราไม่ได้เป็นอะไรกันค่ะ แต่เป็นความจริงที่หนูมีอะไรกับพวกเขา..”เธอตอบออกไปตามที่ตัวเองเข้าใจและเป็นความจริงที่สุดในความสัมพันธ์ของพวกเรา!! มือที่จับเอวบางปล่อยออกทันที เช่นเดียวกับคาร์ลเตอร์ก็ปล่อยมือที่กุม “หนูขอคุยกับพวกเขาก่แนได้ไหมคะ ม๊ากับเฮียช่วยออกไปก่อนได้ไหม”“แต่ พวกมัน!”“ขอร้องค่ะ”เฟยเฟยที่กำลังเอ่ยปากประท้วงไม่ยอมแต่เมื่อได้ยินกับเห็นสีหน้าน้องสาว จึงยอมที่จะออกไปพร้อมกับนายแม่“อย่าแตะต้องน้องสาวกู”ทิ้งท้ายคำขู่ ตายเป็นตายถ้าพวกมันทำอะไรน้องสาวเขาล่ะก็ อย่าหาว่าไม่ไว้หน้ากันเลยปัง! สิ้นเสียงที่ประตูปิดลงสองแฝดก็ยังคงยืนนิ่งไม่ได้พูดอะไรจนผ่านไปพักหนึ่งเคอร์วินถึงเลือกจะพูด“ไม่ได้เป็นอะไรกันงั้นเหรอ! พูดมาได้ไงวะ!” ปึ้ง! ร่างหนาเตะเข้าไปที่โต๊ะอย่างแรงจนมันล้มลง เขาแทบจะระเบิดอารมณ์ความโกรธทั
ร่างบางสะอื้นร้องไห้อยู่ภายใต้อ้อมกอดแสนอบอุ่นจากสองแฝด นานสองนานกว่าที่ผิงอันจะผลักตัวให้ออกห่างทั้งสองคน ก่อนเอ่ยคำขาดที่ทำร้ายความรู้ชายร่างหนาบแทบยืนไม่ไหว เมื่อได้ยินคำนั้น“ฉันจะกลับมาเก๊าค่ะ” “ห๊ะ! ทำไมล่ะ ทำไมเธอยังจะไปอีก!”เคอร์วินตกใจจนตะโกนเสียงดังใส่ร่างบาง ไม่พอยังเขย่าตัวเธอแรงๆอีก “โอ๊ย! ฉันเจ็บนะ!”คาร์ลเตอร์รีบยกมือขึ้นห้ามไม่ให้น้องชายฝาแฝดขึ้นเสียงใส่เธอกับการกระทำที่รุนแรง“ขอโทษ…”เคอร์วินพอรู้ว่าเธอเจ็บ รีบปล่อยและขอโทษเสียงเรียบ“ทำไม” คาร์ลเตอร์เอ่ยถามเสียงเบา สายตาเขาสั่นไหวอยู่วูบนึงอย่างไม่เคยมาก่อน แต่ก็รีบทำให้กลับมาเป็นปกติ ทุกความรู้สึกที่เจ็บปวดมันจะถูกซ่อนเอาไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยนี้… ถึงแม้คนตรงหน้าจะคือเธอ เขาก็ไม่อยากให้เห็นความอ่อนแอนี้“ในเมื่อฉันเจอครอบครัวที่แท้จริงแล้ว ฉันก็ไม่จำเป็นที่ต้องอยู่ประเทศไทย”พูดเสียงเรียบ “ที่นี่ไม่ใข่ที่ของฉันแต่แรกแล้วนี่นา พวกคุณ..”น้ำเสียงนิ่งสงบกว่าที่เคย เธอไม่แม้จะมองหน้าหรือสบตาสองแฝดด้วยซ้ำ กลืนคำพูดที่อยากพูดลงคอ ถึงเธอพูดไปก็ดูจะทำให้เรื่องมันบานปลาย “ไม่ไปไม่ได้เหรอผิงอัน”เคอร์วินหวังจะเอื้อมไปจับแต่
หลังจากไปพูดคุยกับแม่และพี่พี่ชายว่าเธอจะยอมกลับไปมาเก๊าด้วย แต่มีข้อแม้ว่าต้องให้เธออยู่ฉลองงานวันเกิดของสองแฝดจนจบงานโดยรวมไปถึงส่งแขกที่มา และเธอยังห้ามไม่ให้ถามเธอเกี่ยวกับเรื่องราวความสัมพันธ์อันคลุมเครือระหว่างคาร์ลเตอร์และเคอร์วิน แน่นอนว่าคนเป็นแม่และพี่ชายพร้อมที่จะทำตามทุกคำขอที่เธอว่ามา ขอแค่เพียงเธอกลับมาเก๊าก็พอ…ภายในงานเฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิด คาร์ลเตอร์และเคอร์วิน ผิงอันได้พบเพื่อนสาวคนสนิท ขนมปัง เธอมากับอีวาน หนึ่งในเพื่อนสนิทของสองแฝด ความสัมพันธ์ขนมปังกับอีวานจะเป็นยังไงเธอคงจะไม่ไปก้าวก่ายรอให้เพื่อนเล่าให้ฟังจะดีที่สุด“ฉันไปคุยกับเพื่อนก่อนได้ไหมคะ”“ทำตามที่ต้องการ”คาร์ลเตอร์ตอบกลับผิงอันก่อนจะหันไปสนใจพูดคุยกับผู้ทรงอิทธิพล เขาเริ่มแสดงออกว่าไม่สนใจแต่ในใจกับเจ็บปวดสุดๆ“คุยเสร็จแล้วรีบกลับมานะ เวลาที่เธอยอกจะให้ต้องห้ามขาดแม้แต่วินาทีเดียว”เคอร์วินคว้าเอวเธอเข้ามากอดพร้อมหอมแก้ม เขาไม่โกหกความรู้สึกตัวเองและยังแสดงออกอย่างชัดเจน“ค่ะ คิดเวลาที่ขาดไปเลยจะมาใช้คืนตามที่ขาดหายไปให้นะคะ”“เธอพูดแล้วนะ”“ค่ะ ให้ฉันไปหาเพื่อนได้ยัง”“ก็ไปสิ” เขายอมปล่อยเธอให้เป็นอิ
ผิงอันกับสองแฝดยืนรอจนส่งแขกกลับจนหมดทุกคน งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา คงเป็นงานที่สองแฝดไม่อยากให้จบลงมากที่สุดในชีวิต“ต้องไปแล้วนะอันอัน”เฟยเฟยเดินมาตามน้องสาว เขาและแม่อยู่รอจนงานเลิกตามความต้องการของน้องสาว“ค่ะ ขอให้ของขวัญพวกเขาก่อนแล้วจะตามออกไปนะคะ”เฟยเฟยพยักหน้า เขาพาแม่ออกไปรอข้างหน้าโรงแรม ส่วนผิงอันเดินกลับไปหาสองแฝดที่ยืนหน้าเหมือนคนไร้วิญญาณ พวกเขาพร้อมใจไม่มองหน้าเธอ“จะไม่มองกันหน่อยเหรอคะ ฉันน้อยใจนะ”“ยังจะมาพูดแบบนี้อีกนะ”เคอร์วินหันมาพูด ใครที่ต้องน้อยใจเสียใจกันแน่“คนที่ทิ้งกันมาบอกว่าน้อยใจ ตลกสิ้นดี”คาร์ลเตอร์หัวเราะแห้ง คนที่ควรพูดมันควรเป็นเขามากกว่าไหม ไอ้คำว่าน้อยใจเนี่ย!!!“… ฉันมีของจะให้ทั้งคู่ด้วยนะ อยากได้ไหมถ้าไม่ก็จะไม่ให้”ผิงอันหยิบ ซองที่ห่อขวัญออกมาแต่เมื่อเห็นสองแฝดเมืน เธอก็เลยแกล้งจะไม่ให้“อยาก!/อยาก!”ทั้งสองคนรีบหยิบกล่องของขวัญนั้นมาและสลับสับเปลี่ยนตามชื่อที่อยู่บนกล่องว่าอันไหนเป็นของใคร“ไม่ใช่ของแพงอะไรหรอก แต่ฉันตั้งใจทำให้”“เธอทำเองเหรอ”คาร์ลเตอร์ถามกอดกล่องของขวัญไว้แน่น“ค่ะตั้งใจทำสุดๆ อย่าเพิ่งแกะนะ รอให้ฉันไปก่อน”ที่ห้ามเพราะว่าเ
หนึ่งเดือนต่อมา หลังจากวันที่ผิงอันกลับประเทศจีนไปกับครอบครัว ทั้งสามคนก็ไม่เคยได้ติดต่อกันอีกเลย สองแฝดเองก็เลือกจะรออยู่เงียบไม่วุ่นวาย ไม่ส่งคนไปคอยตามดูเธอ และยังสั่งห้ามลูกน้องทุกคนไม่ให้พูดถึงร่างบางอีกด้วย ในเมื่อแยกย้ายกันไปเติบโต เราก็ไม่ควรไปก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของกัน เพราะตอนนี้คาร์ลเตอร์กับเคอร์วินก็ยังทำใจไม่ได้ สู้ไม่รับรู้เรื่องเธอเลยจะดีกว่ารับรู้แต่ไม่ได้อยู่เคียงข้างกัน แบบนั้นจะยิ่งเจ็บ แล้วพวกเขาคงดูแลหรือรักษาอะไรไม่ได้ ตอนนี้พวกเขาคงอ่อนแอเกินไป…??? แต่หลังจากที่เคลียร์ธุรกิจสุดท้ายนี้ได้สำเร็จล่ะก็! พวกเขาจะไปทวงคนรักคืนสู่อ้อมอกอีกครั้ง! และจะไม่ยอมปล่อยเธอไปแน่ แม้จะเสียใจจนไม่อยากทำอะไร แต่เพราะก็มีหน้าที่ที่ต้องทำและดูแลชีวิตอีกนับพันคน เหล่าบรรดาลูกน้องและพนักงาน มันคือความรับผิดชอบในส่วนจองผู้กุมอำนาจสูงสุดในบอกบริหาร องค์กร ธุรกิจ ไม่ว่าจะธุรกิจเบื้องหน้าที่ขาวสะอาดหรือธุรกิจเบื้องหลังอันดำมืด… แน่นอนว่าเบื้อหน้าทุกคนรู้จักคาร์ลเตอร์กับเคอร์วินว่าเป็นบริษัทส่งออกอาหารที่ใหญติดอันดับต้นๆของโลก และไหนจะคลับไฮโซอีกมากมาจทั้งในและต่างประเทศ แต่เบื้องลึกเบื
คาร์ลเตอร์หันกลับมาเมื่อรู้ว่าคนที่เข้ามาคือเคอร์วิน มันไม่เห็นบอกว่าจะเข้าบริษัท แต่ก็นิสัยแบบนี้แหละ ไม่บอกคิดอะไรก็ทำเลย และยังใจร้อนอีก เขาถึงได้คอยเป็นห่วงอยู่ตลอด ก็เหลือกันแค่สองคนพี่น้องนี่นะ จะไม่ให้ห่วงได้ไง“จะมาทำไมไม่บอกก่อน”“ทำไมต้องบอก หรือมึงแอบซ่อนผู้หญิงไว้เหรอ”มองซ้ายมองขวาหยอกล้อคาร์ลเตอร์ เขารู้ว่าไม่มีอะไรอย่างนั้นหรอก ก็ตั้งแต่พวกเขาได้เจอผิงอัน ผู้หญิงคนอื่นก็ไม่เคยได้มาเฉียดเข้าใกล้ รวมถึงอยู่ในสายตา“กวนตีน แล้วมีอะไร”คาร์ลเตอร์ส่ายหัวเอือมระอาความกวนโอ๊ยของน้องชายฝาแฝด“ได้รับอีเมลหรือยัง”เคอร์วินเดินมานั่งลงที่โซฟาสีดำเอนตัวผิง ยกมือพาดไปกับโซฟา“จากตระกูลใหญ่น่ะเหรอ ได้แล้วแต่ไม่ได้เปิดอ่าน”คาร์ลเตอร์ตอบกลับพร้อมนั่งลงโซฟาฝั่งตรงข้ามเคอร์วิน“ตอนแรกกูก็ไม่ได้อ่าน แต่ส่งมาไม่หยุดกูเลยยอมเปิดอ่าน”“…”“มึงจะไม่ถามหน่อยเหรอว่าในข้อความเขียนมาว่าไงบ้าง”“กูไม่ได้อยากรู้เรื่องของตระกูลใหญ่”“อาการป่วยของตาแก่คงแย่ลง คุณอาบอกว่าให้พวกเรากลับไปที่บ้านใหญ่” ตาแก่ที่เคอร์วินพูดถึงก็คือท่านปู่ ผู้เป็นบิดาของพ่อสองแฝดและหัวหน้าตระกูลดูรองซ์“เรียกท่านปู่ดีๆ”คาร์ลเตอ
“เซอร์ไพรส์อะไรครับ ตื่นเต้นเลย”คาร์ลเตอร์ถามเสียงหวาน “พี่หันได้ยัง พี่อยากรู้แล้ว อันอันจะเซอร์ไพรส์อะไร” เคอร์วินใจร้อนมากตอนนี้ “อย่าเพิ่งค่ะ” | “หันมาได้แล้วค่ะ” พรึบ! “เซอร์ไพรส์!!!” สองแฝดยืนอ้าปากค้าง จ้องตาไม่กะพริบ กับภาพของภรรยาสาวที่ใส่ชุดทูพีชสุดเซ็กซี่ สีแดงของผ้าตัดกับผิวขาวอมชมพูของเธอยิ่งทำให้เด่นกว่าเดิม “ฉันตั้งใจใส่มาเพื่อพี่สองคนเลยค่ะ” ผิงอันเตรียมชุดทูพีชสุดเซ็กซี่นี้มาเพื่อพวกเขาโดยเฉพาะ “เกาะนี้มีแค่เราใช่ไหมล่ะคะ..” ผิงอันพูดเสียงหวาน ส่งสายตายั่วยวน มือเล็กก็ค่อยๆ แกะดึงส่วนบนที่เป็นสายผูกอยู่ด้านหลังออก จากที่ตอนแรกมีสิ่งปกปิดยอดปทุมถันสีชมพู กลับเปิดเทอมออกมา “ผิงอัน..” เคอร์วินกลืนน้ำลาย ช้า ๆ “พี่จะทนไมาไหวแล้วนะครับ” คาร์ลเตอร์รับรู้ถึงความซู่ซ่าในร่างกายตัวเอง “ก็ไม่ได้บอกให้ทนนี่คะ..” สองแฝดเดินไปประกบผิงอัน ขนาบข้างติดกันโดยมีเธออยู่ตรงกลาง จากที่สวมใส่เสื้อผ้าก็ถูกถอดออกทีละชิ้น คาร์ลเตอร์ไล่จูบเธอตั้งแต่หน้าผาก ลงมาที่แก้ม จมูก ปาก คอ หน้าอก และหน้าท้องน้อย… ส่วนเคอร์วินก็ซุกซนอยู่กับหลังคอของเธอ ย้ายมือมาจับบีบหน้าอกใหญ่จนล้นออกมาต
วันนี้วันดีที่ครอบครัวใหญ่อย่างฝาแฝดคาร์ลเตอร์,เคอร์วิน คู่พี่น้องตระกูลดูรองซ์และภรรยาสาวสวยกับลูกชายตัวน้อยทั้งสามคน เดินทางมาประเทศไทยตามแพลนที่วางไว้ครั้งก่อนเรื่องเที่ยวพักผ่อน ท้องฟ้าโปร่งใส พระอาทิตย์ส่องแสงให้ความอบอุ่นไม่ได้ร้อนมากเหมือนช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เพราะว่าได้เข้าสู่ช่วงฤดูหนาว อากาศจึงไม่ร้อน และทะเลหน้าหนาวก็สวยมากอีกด้วย ในเวลานี้สองแฝดกำลังขับรถไปส่งลูกชายฝาแฝดทั้งสามคนที่บ้านโรมิโอ ระหว่างที่ขับรถไปคนเป็นพ่อก็ชวนลูกคุย คาร์ลเตอร์แทนตัวเองกับลูกว่า ปะป๊า เคอร์วินแทนตัวเองกับลูกว่า แด๊ดดี้ “เราเตรียมของให้ลูกครบแน่นะ” เคอร์วินหันไปพูดกับพี่ชายที่ขับรถ “อืม เช็กแล้ว กระเป๋าเป้คนละใบ กับของเล่น” พี่ชายตอบน้องชายฝาแฝด “บอกไอ้โรมยังว่าใกล้ถึงแล้ว” คาร์ลเตอร์ถามเสียงเรียบ “ไลน์ไปบอกเมื่อกี้ ไอ้โรมบอกว่าเดี๋ยวจะพาเด็ก ๆ ไปเที่ยวเขาใหญ่พรุ่งนี้” “เหรอดีเลยสิ เคย์เดนน่าจะชอบ” เคย์เดนสนใจเรื่องป่าไม้ แปลกมาทั้งที่ตัวแค่นี้แต่เจอสิ่งที่รักแล้ว “ปะป๊า แด๊ดดี้ จะพาพวกเราไปนอนบ้านเพชรชมพูจริง ๆ เหรอครับ” ลูกชายคนเล็กสุดของบ้านเอ่ยถามอย่างตื่นเต้น “ใช่ครับ เคย์เดน
เคอร์วินพูดจบก็เดินไปเล่นกับลูกชายคนกลาง ชวนลูกคุยถึงชื่อไดโนเสาร์สัตว์ดึกดำบรรพ์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว “ว้าว! สีตาสวยจริงด้วย!” รูบี้ใช้สองมือโอบใบหน้าเคย์เดนจ้องไปใกล้ ๆ “อื้ออ่อนเอ็บอะ” (อื้อ! ปล่อยเจ็บนะ) “รูบี้ไม่ทำแบบนั้นะลูก น้องจะเจ็บ” ลูกแก้วห้ามปรามลูกสาว รูบี้รีบปล่อยมือ แล้วชวนกันเล่น สักพักเบรย์เดนที่แยกตัวอยู่คนเดียวก็เริ่มชวนรูบี้ให้ดูในสิ่งที่ตัวเองชอบ “เหรอ มันชื่ออะไรอะ” “ไทรเซราทอป” “โอ๊ะ เบรย์เดนมีจุดสีดำที่จมูกนี่” รูบี้ตื่นเต้นกับไฝเสน่ห์ “เคย์เดนก็มีอะตรงปาก แม่หนูอยากมีจุดดำบ้าง!” “แต่หนูก็มีลักยิ้มไงคะ น้าชอบลักยิ้มหนูมากเลย”ผิงอันเอ่ยอ้าแขนออก รูบี้วิ่งไปกอด “วันนี้หนูมีของขวัญมาให้น้องด้วยไม่ใช่เหรอเอาไปให้น้องสิคะ เลือกเลยค่ะว่าจะให้ใครอันไหน” ลูกแก้วหยิบกล่องกำมะหยี่สีดำสนิทสามกล่องไปให้ลูกสาว รูบี้เปิดทั้งสามกล่องขึ้นมา ทำท่าคิดว่าจะให้ใครอันไหนดี ของขวัญนี้เธอเลือกมาเองตอนไปบริษัทของพ่อ “อันนี้ให้อาร์เดนนะ” กล่องกำมะหยี่สีดำที่ใส่ทับทิมสีเลือดนกพิราบทั้งสีที่สดและใสแวววาว 9 การัตไปให้อาร์เดน “ส่วนอันนี้ เบรย์เดน” อีกกล่องคือ อเล็กซาน
3 ปีผ่านไป.. โรมิโอกับลูกแก้วและลูกสาวคนสวยในวัยสามขวบแปดเดือน ‘รูบี้’ มาหา และเอาของขวัญมาให้หลานชายที่อายุครบสามขวบ แต่ก็มาหลังจากที่จัดงานวันเกิดไปแล้ว เพราะสัปดาห์ก่อนพวกเขาไม่ว่างเลยมาวันนี้แทน (โรมิโอ-เรื่องมาเฟียพันธนาการรัก) “เป็นไงมึงไม่เจอกันนานเลย” “สบายดี เลี้ยงลูกสามคนสนุกดี พวกมึงล่ะเลี้ยงลูกสามคนเหมือนกันสนุกเลยสิ” โรมิโอแกล้งพูดหยอกล้อคาร์ลเตอร์กับเคอร์วิน ความจริงโรมิโอกับลูกแก้วมีเพียง ‘รูบี้’ เป็นลูกสาวทางสายเลือดเพียงคนเดียว แต่อีกสองคนคือ โอลิเวียร์และโอเรน ลูกสาวและลูกชายบุญธรรม หรือก็คือหลานแท้ ๆ นั่นแหละ “เออ ไม่ได้นอนกันเลยแหละ ดีที่จ้างพี่เลี้ยงมาช่วย” คาร์ลเตอร์เอ่ยตอบเพื่อน พร้อมกับเข้าไปกอดคอ “อิจฉามึงนะมีลูกสาว ไหนขอลุงอุ้มหน่อยครับ” เคอร์วินเข้าไปอุ้มรูบี้ที่ยืนจับขากางเกงพ่อ พร้อมยิ้มหวานให้พวกลุงๆ อวดลักยิ้มที่ได้มาจากแม่ของเธอ “ก็รีบปิดอู่ไวเกินพวกมึง” “สามคนทีเดียวก็สงสารผิงอันมากแล้ว แต่มีลูกสาวสักคนก็คงดี”คาร์ลเตอร์เอ่ยต่อมองไปทางหลาน พลางคิดว่าถ้าเขามีลูกสาวบ้างจะเป็นไงนะ บ้านคงมีสีสันขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่า “พวกมึงก็มาเป็นพ่อทูน
เวลาผ่านไปไม่กี่เดือนหลังขอแต่งงานเธอก็ได้รับรู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ได้เกือบสองเดือน และมากกว่านั้นคือผิงอันได้มีโซ่ทองคล้องใจ ถึงสามเส้นให้กับคาร์ลและเคอร์วิน เธอมีลูกชายฝาแฝดถึงสามคน! เป็นการตั้งครรภ์ที่เสี่ยงมากและพวกเขาก็ทำการปิดอู่ไปตลอดกาล…เพราะสองแฝดไม่อาจทนเห็นเธอทรมานอีกแล้ว การตั้งท้องทายาทให้พวกทีเดียวถึงสามคนไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นได้เลย แต่ผิงอันก็ให้ได้ ช่วงระยะเวลาเก้าเดือนที่เธออุ้มท้องลูกน้อยทั้งสามคน สองพี่น้องรู้สึกสงสารภรรยาตัวเองยิ่งนักเพราะมีเด็กอยู่ในท้องถึงสามคนเพียงแค่ สี่-ห้า เดือนท้องก็ใหญ่เหมือนจะใกล้คลอด เธอต้องทนปวดร้าวร่างกายเพื่อลูกพวกเขา สองแฝดคอยดูแลเธอไม่ห่าง เอาใจใส่ทุกอย่าง เพราะกลัวเธอจะคิดมากเรื่องร่างกายที่เปลี่ยนไป เพราะสำหรับผู้หญิงบางคนเรื่องรูปร่างก็สำคัญไม่ต่างจากการดูแลเส้นผม…ท้องเธอขยายใหญ่ จนเกิดรอยแตกลายขึ้นที่พุง กลับกันผิงอันไม่กังวลใจอะไรเลย มีแต่สองคนนั่นแหละที่เอาแต่กังวล จนร้องไห้แทนเธอ เอ็นดูพวกเขาจริงๆก่อนเธอคลอด“ฮือ ขอโทษนะครับที่ทำให้ทรมาน” เคอร์วินพูดไปร้องไห้ไป มือก็บีบนวดไหล่ให้เธอไปด้วย“ฮึก เจ็บมากใช่ไหม ให้นวดตรงไหน
พอทานอาหารเสร็จเคอร์วินก็เปลี่ยนมาขับรถพาเธอไปสะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3 (Alexander III Bridge) เพราะว่าสะพานนั้นอยู่ใกล้กลับสถานที่พิเศษของทริปนี้ที่พวกเขาอยากทำเซอร์ไพรส์ให้กับเธอ…ทั้งสามคนเดินเที่ยวเล่นกันหลายที่ นอนพักโรงแรมที่ใหม่ใกล้ๆแถวนั้น แล้วก็พาเธอออกมาเที่ยวต่อตามที่ผิงอันอยากไป แล้วเก็บเซอร์ไพรส์ไว้อย่างสุดท้ายเวลาก็ผ่านไปเรื่องจนพระอาทิตย์ที่เคยส่องแสงก็โบกลาลับไปกับขอบฟ้า เปลี่ยนพระจันทร์ที่มาทำหน้าที่แทนในการส่องสว่างสีขาวนวล“เหนื่อยหรือยัง”“ยางง”“โกหกแล้วที่รัก”“ไม่ได้โกหกสักหน่อย พูดจริงนะคะ”“แต่หิวมากกว่า..” ผิงอันลูบห้อง“ได้นิ เพราะที่สุดท้ายของวันนี้เป็นที่ ที่จะพาไปดินเนอร์”“แต่ต้องปิดตาก่อนนะ”“อุ้ย เป็นเซอร์ไพรส์เหรอคะ”“อืม”คาร์ลเตอร์หยิบผ้าขึ้นมาปิดตาเธอ พาไปขึ้นรถ รถหรูเปิดประทุนขับแล่นไปเรื่อยๆ สายลมในยามกลางคืนพัดผ่านมือผิงอันที่ยกขึ้นสัมผัสกับอากาศ“ถึงแล้วครับ”คาร์ลเตอร์เปิดประตู ประคองผิงอันลงมาจากรถ ค่อยแกะผ้าปิดตาเธอให้เปิดออกให้เห็นหอไอเฟลแสนสวยที่เธอใฝ่ฝันว่าจะได้มาเห็นกับคา มันปรากฏตรงหน้าเธอแล้ว“กรี๊ด! สวยมาก”“แต่ทำไมมีคนเลยล่ะ..”ผิงอั
หมับ! พรึบ! อีวานรำคาญที่จะพูด จับเธอยัดใส่ไปในรถปิดประตูรถซูเปอร์คาร์เสียงดัง นักศึกษาแถวนั้นต่างมองและให้ความสนใจ ตามจริงก็มองกันตั้งแต่ที่เขาขับซูเปอร์คาร์มาจอดแล้วแหละ“นี่ฉันมีเรื่องต้องทำนะ จะให้ฉันไปอิตาลีทำไม!”“ก็ฉันอยาก”“เอ้า! บ้าเหรอคะ! สมองคุณนี่มีไหมอะ ฉันมีพ่อมีแม่ลูกหายไปท่านก็เป็นห่วง”“ฉันจัดการให้คนไปบอกแล้วว่าเธอจะไปค่ายที่ต่างประเทศอาทิตย์หนึ่ง และฉันก็ใช้โทรศัพท์เธอส่งข้อความไปบอกพ่อแม่เธอแล้ว”“โทรศัพท์? อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนที่คุณจับโทรศัพท์! นี่อีวาน ถามจริง เป็นอะไร”“เป็นผัวเธอ!” เขาหันมาพูดหน้าตาเฉย ก่อนจะเหยียบคันเร่งออกรถอย่างแรง จนร่างบางต้องรีบดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดตัวทันทีมีทางไหมที่เธอจะหลุดพ้นจากคนตรงหน้า เขามันทั้งโรคจิตทั้งบ้าอำนาจ!!“ถ้ากำลังคิดว่ามีวิธีไหนที่จะไปจากฉัน ก็หยุดคิดซะตั้งแต่ตอนนี้”“เพราะมันไม่มีทางนั้นหรอก”“ก็มาดูกันค่ะว่าจะมีหรือไม่มี!”“หึ ได้ จะรอดู”“เออ!”“พูดเพราะๆ อยากโดนเหมือนเมื่อคืน?”“…”เรื่องราวของพวกเขามันช่างซับซ้อน ไม่มีการตกลงว่าจะเป็นอะไรกัน แต่ก็ไม่ยอมปล่อยกันไป จะจบลงแบบไหนกันนะ…23/03/2023ฝรั่งเศส กรุงปารีสอาก
“ทำไม หวั่นไหวเหรอ” ‘คนอะไรมั่นหน้ามั่นใจเกินไปแล้ว!’“เปล่าหรอกค่ะ กลัวอดใจฆ่าพี่ไม่ได้มากกว่า!”ร่างบางไม่อยากจะต่อปากต่อคำเถียงกับเจริคต่อแล้ว เพราะพูดไปเขาก็มาที่บ้านของเธอเหมือนเดิม เธอเบื่อหน้าเขาจริงๆ ไม่ต้องบอกว่าเกลียดเลยจะถูก!ตุบ! ดิสนีย์เดินเข้ามาใกล้เจริค ยกเท้าขึ้น กระทืบเท้าลงไปที่เท้ามาเฟียหนุ่มเต็มแรง“โอ๊ย! ยัยเด็กแสบ!”ถ้าเป็นคนอื่นที่มาทำกับเขาแบบนี้ ไม่รอดน้ำมือ พวกมันคงโดนตัดขาทิ้งไปนานแล้วหมับ! เขาเอื้อมไปคว้าข้อมือเล็กที่กำลังจะเดินหนี กระชากเธอให้หันกลับมา ปลายจมูกเรียวก้มไปชิดใบหน้าเล็กจนปลายจมูกแตะกัน“งั้นทนต่อไปนะ เพราะพี่จะมาทุกวัน”“พี่เจริค!” เธอผลักให้เขาออกห่าง แต่ข้อมือยังคงถูกจับไว้แน่น“เธอไม่ได้เกลียดพี่จริงๆหรอกใช่ไหม”“ไม่ค่ะ เกลียดจริง เกลียดจนไม่อยากเห็นหน้า เกลียดชนิดที่ถ้าเห็นหน้าพี่ฉันอยากจะควักลูกตาตัวเองออกมา หรือบางทีก็อยากจะกลั้นใจให้ตายทุกครั้งที่เจอหน้าคุณ! ปล่อย!” น้ำเสียงโกรธเกรี้ยวตะเบ่งเสียงดังกระแทกหน้ามาเฟียหนุ่ม เด็กน้อยน่ารักคนนั้นไม่มีอีกแล้ว“โอเค พรุ่งนี้เจอกันใหม่”“ใครอยากเจอ! ไม่ต้องมา!”เขาปล่อยมือ หันหลังเดินกลับออกไ
“อันอันกับเฟยเฟยออกไปก่อนได้ไหมลูก ม๊ากับป๊ามีเรื่องต้องคุยกับพี่ๆเขาสักหน่อย” หลิวอันหันมาพูดกับลูกสาวและลูกชาย“อ๋อค่ะ ได้ค่ะเดี๋ยวพาพี่เฟ้ยไปดูสวนดอกไม้ที่หนูเพิ่งปลูก” สองพี่น้องลุกออกจากโต๊ะไปก่อน ทีนี้ก็เหลือพ่อแม่ผิงอันและสองแฝด“มีอะไรจะคุยเหรอครับ” คาร์ลเตอร์เปิดประโยคถาม“จะแต่งงานกันเมื่อไหร่ คิดไว้บ้างไหม” หัวหน้าครอบครัวตระกูลฟ่านเอ่ยถาม“อาไม่ได้จะเร่งอะไรนะ แต่ถ้าเร็วหน่อยก็ดี”“น้าจะได้วางใจไม่กังวล อีกอย่างน้าอยากให้จัดพิธีของจีนด้วย และแน่นอนว่าส่วนเสริมเพิ่มเติมอยากจัดงานกันแบบอื่นก็ย่อมได้ แต่ช่วยจัดแบบจีนให้น้าด้วยนะ”หลิวอันย้ำชัดว่าเธอต้องการแค่นี้ถ้าเรื่องพิธีแต่งงานไม่ได้เร่ง แต่เร็วก็ดี ความหมายก็คืออยากให้แต่งงานกันเร็วๆ หลิวอันผู้เป็นแม่จะได้วางใจได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ที่ลูกสาวเป็นฝั่งเป็นฝา“ครับ แน่นอนว่าเรื่องแต่งงานพวกผมคิดกันมาตลอด ไม่ได้อยากทำให้น้องเสียหายเลยด้วย ที่ให้มาอยู่กันก่อนแต่ง” เคอร์วินในโหมดจริงจัง นานๆจะได้เห็นมุมนี้“แต่เพราะผมอยากทำให้มันพิเศษที่สุด และแม้เป็นการขอแต่งงาน ผมก็อยากทำให้เธอประทับใจและจดจำไปตลอด”สองแฝดมองหน้ากัน เพราะตาม