“คุณขนมปัง! / คุณขนมปัง!” เสียงเรียกไล่ตามรถที่ขับออกไปทั้งฮาร์ทกับธีร์ยืนอึ้งเห็นว่าที่นายหญิงขับรถออกไปไม่บอกกล่าว ทำอย่างกับกำลังหนีออกไปอย่างนั้นแหละ..!??? บรื้นนน ขนมปังเหยียบคันเร่งมิดไมล์ สลับเท้าเหยียบเบรกหมุนพวงมาลัยเลี้ยวรถออกจากประตูทางเข้ารีสอร์ตอย่างชำนาญการ ไม่เสียแรงเลยที่เธอไปฝึกหัดขับรถมานานสามเดือนก่อนสอบใบขับขี่ ครูฝึกได้สอนวิชาให้มานิดหน่อยก็จำ ๆ มา “ก็ตามให้เจอละกันนะคะ” “ดีนะที่เราตัดสินใจหนีออกมา ไหนดูซิ เข้าตัวเมืองไปทางไหน” กดเปิดจีพิเอสนำทาง “อยากขอโทษพวกฮาร์ท เพราะไอ้จอมบงการคนเดียวฉันเลยต้องหนีออกมา! เที่ยวคนเดียวคงไม่เหงาเกินไปหรอกนะ..” “ก่อนอื่นควรเปลี่ยนชุดก่อนอย่างแรก” ระหว่างขับรถจะไปเข้าตัวเมืองเธอจึงแวะไปโลตัสก่อนเพื่อซื้อเสื้อผ้าเปลี่ยนใส่สำหรับเล่นน้ำวันสงกรานต์ เลือกซื้อองค์ประกอบเสื้อผ้าพร้อมต่อไปก็ต้องเป็นเมคอัพ ซึ่งเธอก็เสิร์ชจาก TikTok บิวตี้บล็อกเกอร์ อินฟลู รีวิวเครื่องสำอางกันน้ำ “ไม่แต่งอะไรมากแต่ขออันที่ทนและอยู่นานที่สุดพอ” เมื่อเดินเลือกเครื่องสำอางครบตามที่ต้องการเธอจึงเดินไปจ่ายเงิน ระหว่างที่กำลังรอพนักงานคิดเงินอยู
ปรายฟ้าใส่เป็นเสื้อเกาะอกผูกไหล่เป็นโบสีขาว ทับด้วยเสื้อคลุม ส่วนด้านกระโปรงเป็นสีดำสั้นเลยเข่าขึ้นมา ถักเปียสองข้างแล้วผูกโบเก็บดาวใส่เสื้อครอปสายเดี่ยวสีม่วงพลาสเทลกากเพชร กางเกงสีขาวยาวทรงขาม้า ผมทำทรงอาหมวยคือมัดผมสองข้างแล้วม้วนเป็นกลม ๆ ติดกิ๊บสีม่วงขาวบนหัวพราวฝนใส่เกาะอกสีดำทับด้วยเสื้อครอปสีขาวกับกางเกงสีดำ และมัดผมสองข้างแล้วแต่ละข้างจะถักเปียประมาณสี่ช่อเล็ก ใช้สียางหลากสีให้ความรู้สึกสดใสคะนิ้งใส่เป็นเสื้อผูกคอสีฟ้าแบบครึ่งตัวตามาด้วยเสื้อคลุมสีดำกับกางสีขาวขายาวแบบเดียวกับเก็บดาว มัดผมเป็นโบว์และติดกิ๊บดอกไม้และสุดท้ายขนมปังใส่กางเกงซับในสีดำทับกางเกงทรงบาร์บี้สีขาวที่มีผ้าซับรองอีกรอบและเนื้อผ้าที่หนาพอสมควร เกาะอกสีดำทับด้วยเสื้อครอปสายเดี่ยวสีขาวมีลายดอกไม้สีฟ้าเล็ก ๆ “ถักเปียให้หน่อยได้ไหมอะเก็บดาว” ขนมปังอ้อนขอให้เก็บดาวช่วยถักเปียให้เธอ เก็บดาวไม่ปฏิเสธเต็มใจช่วยและยังเอาอุปกรณ์ตกแต่งผมมาติดให้ขนมปัง เป็นกิ๊บดอกไม้สีขาวเล็ก ๆ ติดตามเปีย ซึ่งเก็บดาวถักเปียเดียวให้กับขนมปัง“พร้อมไหมคะสาว” ปรายฟ้าเอ่ยถามเพื่อนทั้งสี่คน“พร้อมค่า!”สี่สาวที่เหลือก็พร้อมใจกันตอบออก
“ถ้าวิธีของพวกมึงทำให้กูเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์” “เตรียมตัวกันไว้ได้เลย” น้ำเสียงเย็นยะเยือกจ้องมองลูกทีละคนอย่างคาดโทษ บอดี้การ์ดทั้งสี่หนุ่มต่างพากันหลบสายตาคมกริบนั้นในทัน“เจอแน่นอนครับ ผมจะเอาสายตาไว้คอยมองหาแค่คุณขนมปังเลยครับ” แต่ความจริงจะเอาไปไว้คอยมองสาว ๆ เสียมากกว่า“เขาเล่นกันแค่ที่เดียว ยังไงเราก็ขับรถวนจนเจอกันแน่นอนครับ แต่อาจจะใช้เวลาสักหน่อยนะครับเจ้านาย” ฟิล์มพูดต่อจากธีร์“เออ กูเจอเธอเมื่อไหร่กลับ”“ครับ/ครับ/ครับ/ครับ” พวกเขาตอบรับทันทีอีวานลองโทรศัพท์ไปติดแต่เธอไม่รับจงใจยั่วโมโหกันอีกแล้ว!“เจ้านายครับ ใส่ไว้ในกระเป๋ากันน้ำดีกว่าครับ” “จำเป็น?”“จำเป็นสิครับ พวกผมก็ยังใส่เลย”“ปลอดภัยไว้ก่อนครับ”ธีร์ยื่นกระเป๋าสำหรับใส่โทรศัพท์ให้ผู้เป็นเจ้านาย ไม่งั้นโทรศัพท์ราคาแพงเกือบเจ็ดหมื่นของเจ้านายได้พังแน่ถึงสรรพคุณจะบอกว่ากันน้ำได้ แต่เราก็ควรระมัดระวังไว้ก่อนดีกว่าตัวเมืองปากช่อง ขับรถจากเขาใหญ่เข้าตัวเมืองปากช่อง ยังไม่ทันพ้นทางลงเขาใหญ่อีวานก็ได้เจอกับมหามวลชนที่ต่างพากันสาดน้ำใส่กันไปมาทั้งสองฝั่งข้างทาง ขณะนั้นเองก็มีรถกระบะขับมาจอดเทียบข้างรถกระบะอีวาน
จนกระทั่งกลับรถมาฝั่งตรงข้ามขณะที่จอดรถติดอยู่นั้นอีวานได้สะดุดกับใบหน้าคุ้นเคยที่เขาคอยตามหามาทั้งวันอีวานลงจากรถเดินตรงเข้าไปหาเธอที่กำลังเดินมาโดยที่มีชายหนุ่มมากมายรายล้อมอยากจะปะแป้งทั้งห้าสาวแสนสวย เขาเดินฝ่าผู้คนไปหาเธอหมับ! สองมือยื่นออกไปจับหัวไหล่เล็ก“เจอตัวสักทีนะ”“อีวาน..?!”เธอไม่ได้ตกใจที่เขาเจอเธอหรอกนะ แต่ตกใจที่เขาอยู่ในสภาพหน้าเปื้อนแป้งตัวเปียกชุ่ม และยังสะพายปืนฉีดน้ำอันใหญ่สีแดงเหลืองมาด้วยนี่สิ“กลับบ้าน”“ไม่เอา จะเล่นน้ำคุณเองก็ดูจะชอบเหมือนกันใช่ไหมล่ะ ก็เล่นด้วยกันเลยสิ”“ไม่ได้อยากเล่น ฉันแค่ทำตัวกลมกลืน”“เหรอ ดูจะทำตัวกลมกลืนแบบสุด ๆ ไปเลยนะคะ”ไม่เพียงแต่พูดเปล่าเธอยังล้วงมือลงไปในถังแป้งตัวเองแล้วปะแป้งลงบนแก้มอีวาน“น่ารัก” เธอชมเขา ขนมปังในตอนนี้คือกำลังสนุกเต็มที่ แถมในร่างกายยังมีแอลกอฮอล์อยู่พอประมาณ ทำให้ร่าเริงเป็นพิเศษ แต่ถ้าสร่างเมาเมื่อไหร่คงมีเรื่องให้ได้เคลียร์กันอีกรอบ!“ดื่มเบียร์มาเหรอ?”“นิดหน่อยค่ะ”“เออคุณคะนี่เพื่อน ๆ ที่มหาวิทยาลัยฉันเอง ปรายฟ้า เก็บดาว พราวฝน และคะนิ้ง”“ทุกคน คนนี้คุณอีวานนะ”“สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณอ
เสียงกลุ่มชายหนุ่มวัยอายุราว ๆ สามสิบประมาณสี่ถึงห้าคนกำลังให้ความสนใจมายังกลุ่มหญิงสาวแสนสวยทั้งห้าคน “อุ้ย สาว ๆ รถคันนั้นสวยกันจังวะ~” “ไหน โอ้เอวดีกันฉิบ!” “ไปขอปะแป้งหน่อยดีกว่า” “ไปทำที่มากกว่าปะแป้งกันไม่ดีกว่าหรือไง” “เฮ้ยพวกมึงไปรถคันนั้น” “ไม่มีผู้ชายด้วยว่ะ” “ทำอะไรได้สะดวกสบายดี” ผู้ชายกลุ่มนั้นพากันเดินมุ่งตรงมายังรถกระบะของพวกเธอ ความขาดสติกับความหื่นกามกำลังจะทำให้พวกเขาได้รับความเดือดร้อนครั้งใหญ่ โดยที่ไม่รู้เลยว่าผู้หญิงที่พวกเขาคิดจะลวนลามนั้นมีใครคอยดูแลปกป้องพวกเธออยู่! “ไอ้อาร์มอมึงไปซื้อเบียร์ ส่วนมึงไปบอกให้เขาเติมน้ำใส่ถัง” อีวานสั่งอาร์มอกับธีร์คนละหน้าที่ให้ไปทำ “เดี๋ยวผมไปซื้อแป้งเองครับ” ส่วนฟิล์มเสนอตัวไปซื้อแป้งดินสอพอง ไม่ใช่แค่พวกเขาที่เล่น เพื่อน ๆ นายหญิงก็ต้องการเช่นกัน “ส่วนมึงไปซื้อน้ำแข็งมาใส่ถังน้ำกับกระติกสำหรับไว้ใส่ดื่ม” หันไปสั่งฮาร์ทต่อ “ได้ครับ” ลูกน้องทั้งสี่คนได้รับหน้าที่ให้ไปซื้อของก็เดินแยกไปจัดการ ส่วนอีวานหันมาหาขนมปังบอกเธอว่าเขาจะเดินไปหาซื้อขนมมาให้ “ฉันจะไปซื้อขนม รอตรงนี้ห้ามลงจากรถเด็ดขาด” “ได้ค่ะ ไม่ลงไปไหนอยู
“พวกผมจัดการมันให้เอง มือคุณผู้หญิงไม่ควรแตะต้องสิ่งสกปรก” ธีร์เอ่ยขึ้นก่อนจะหันไปจับถุงน้ำแข็งในมือฮาร์ทแล้วเหวี่ยงใส่หน้าพวกมันรวดเดียว สามคนล้มลงไปนั่งที่พื้นไอ้เลวที่โดนอีวานเหยียบจมคาตีนมันนอนดีดดิ้นอยู่ที่พื้น เขาเลื่อนเท้าขึ้นมาเหยียบใต้คางมัน“อ๊ากกปล่อยกู ปล่อยกู”“ใครก็ได้ช่วยด้วย”“มึงคิดว่าใครเขาอยากจะช่วยคนต่ำช้าอย่างมึง!” น้ำเสียงเขาเต็มไปด้วยความเดือดดาลผั๊วะ อีวานเตะใบหน้านั้นจนเลือดมันไหลกบปาก เอื้อมมือลงไปบีบคอ เขายกตัวชายคนนั้นให้ลุกขึ้นยืน แล้วต่อยไปที่ท้องมันอีกรอบเข้าตรงลิ้นปี่ มันจุกจนล้มนั่งตัวงอ“ผมขอโทษ ผมจะไม่ทำแล้วพี่” มันยกมือขึ้นไหว้ขอโทษอีวาน เลือดในปากก็ไหลออกมาไม่หยุดขณะที่พูด“ผมเมา ผมขอโทษ ผมผิดไปแล้วพี่”ผั๊วะ! ๆ อีวานชกเข้าไปที่หน้ามันรัว ๆ ระบายความโกรธที่บังอาจมาแตะต้องเธอ และยังกล้าทำให้เธอได้รับบาดเจ็บถึงขั้นเลือดตกยางออก“กล้ามายุ่งกับเธอ”“แปลว่ามึงก็เตรียมตัวมาตายแล้ว”“มือนี้ใช้ไหมที่มึงใช้มาแตะต้องเธอ”อีวานเหยียบมือมันบดขยี้จนมือนั้นถลอกเลือดไหล มันร้องโหยหวนเหมือนพวกเปรต“อ๊ากกโอ๊ย ฮือช่วยด้วย ผมขอโทษ”ประชากรมากมายตรงนั้นไม่มีใครกล้
ระหว่างขับรถออกจากการเล่นสงกรานต์ มีสายตาคู่หนึ่งคอยจับจ้องการกระทำของอีวานทุกอย่างมาสักพักอย่างเงียบ ๆ เพื่อหาช่องโหว่เล่นงาน “จุดอ่อนมึงคือเธอนี่เอง” “น่าสนุกดีว่ะ” ชายหนุ่มปริศนากับน้ำเสียงสงบนิ่งพูดออกอย่างพึงพอใจเมื่อได้มาเห็นจุดอ่อนของอีวานด้วยตาตัวเอง หลังจากนี้ถ้าเขาลงมือคงง่ายขึ้นมาก “แล้วไว้เจอกันนะสาวน้อย” ระหว่างเดินทางกลับอีวานดึงเธอมากอดแนบอกแกร่ง พร้อมมือที่คอยลูบหลังอย่างอ่อนโยน เขาพูดปลอบใครไม่เป็นหรือแม้กระทั่งแสดงออกยังไม่เคยทำกับใคร แต่ตอนนี้เขากำลังทำทุกสิ่งที่ไม่เคยทำกับผู้หญิงในอ้อมกอด “อีวานคะ แล้วคนพวกนั้นจะกลับมาทำร้ายพวกเราไหมคะ?” “ฉันกลัว” “คิดว่าคนกระจอกแบบนั้นมีปัญหาทำอะไรได้เหรอ” “ไม่ต้องกลัว ฉันจะทำให้มันไม่กล้าไปทำอะไรใครอีก” “แจ้งคุณเจ็บไหม” ขนมปังลูบหลังมืออีวาน เขาใช้แรงไปขนาดนั้นอาจจะรู้สึกเจ็บเหมือนกัน “ไม่เจ็บ” “แล้วอยู่กับฉันเธอไม่ต้องกลัวใคร เพราะคนเดียวที่เธอควรจะกลัวมีแค่ฉันคนเดียวเท่านั้น” ขนมปังไม่ได้ตอบอะไรแต่ก็เป็นความจริงที่เขาได้พูดออกมา เพราะถ้าเปรียบเทียบกันแล้ว ชายหนุ่มข้างกายเธอน่ากลัวกว่าไอ้พวกสารเลวนั้นหลายร้อยเท่า
ไร่มาร์วิน & รีสอร์ต 🌳 เมื่อมาถึงรีสอร์ตฮาร์ทก็พากลุ่มเพื่อนนายหญิงไปยังที่พักที่ดีที่สุดปล่อยให้ทุกคนในนอนหลับพักผ่อนแล้วช่วงเย็นจะมานั่งปิ้งย่างทำอาหารเย็นกินกันริมสระว่ายน้ำในโซน vvip “คุณอาบน้ำเสร็จแล้วมาหาฉันที่ห้องด้วยนะคะ” “แล้วทำไมไม่อาบด้วยกัน” “ไม่เอา เดี๋ยวคุณไม่หยุดแค่อาบน้ำอีก” พูดจบก็วิ่งหนีขึ้นห้อง อีวานยิ้มอย่างเอ็นดูก็จริงแหละใครเขาหยุดแค่อาบน้ำกันล่ะ ก็ต้องทำมากกว่านั้นสิถึงจะถูกต้อง “มึงไปจัดการไอ้พวกนั้น คงไม่ต้องบอกว่าต้องใช้วิธีไหน” อีวานพูดขึ้นเมื่ออยู่กับฮาร์ทแค่สองคน “รับทราบครับ ผมจะทำลายมือที่อาจมาแตะต้องคุณผู้หญิง” เขาโค้งตัวแล้วเดินออกไป อย่าคิดว่ามันจะจบง่าย ๆ สำหรับคนที่กล้ามาแตะต้องผู้หญิงของเขา อย่างน้อยมันควรจะเสียนิ้วสักนิ้ว หรือบางทีควรตัดมือสักข้างทิ้งไปเลย.. ปาร์ตี้ริมสระ 🍻 เสียงเพลงเปิดคลอไปพลาง ๆ พร้อมเสียงสนทนาพูดคุยกันอย่างสนุกสนานของห้าสาวและมีบอดี้การ์ดหนุ่มคอยทำหน้าที่ย่างเนื้อปิ้งหมู ธีร์ทำข้าวผัดกับต้มยำกุ้งมาเสิร์ฟ “อื้ออร่อยมากธีร์ คุณลองชิมค่ะ” ขนมปังชมฝีมือการทำอาหารของธีร์แล้วตักข้าวผัดป้อนอีวาน “คิดถูกนะเ
“เฮ้อ เหนื่อยอะ”ขนมปังฟุบหน้าลงทิ้งตัวนอนบนหน้าอกแกร่ง เสียงหายเธอหอบเหนื่อยอย่างคนที่ผ่านการวิ่งมาสิบห้านาทีแต่เปลี่ยนเป็นการทำให้เขากับเธอได้ปลดปล่อยความสุขทางกาย“แค่นี้เหนื่อยแล้ว?”“ค่ะ เหนื่อยแล้ว ฉันขอยอมแพ้ค่ะ”ระหว่างที่พูดก็ยังคงหายใจด้วยความเหนื่อยล้า ทำไมตอนเขาทำเธอไม่เห็นว่าอีวานจะบ่นออกมาเลยว่าเหนื่อยมากเลย เริ่มสงสัยแล้วว่ามาเฟียหนุ่มเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน เธอทำแค่เกร็งขาขยับขึ้นลงนี้ยังรู้สึกเหนื่อยจนหายใจแทบไม่ทัน“ยอมแพ้อย่างนี้ก็ต้องทำตามที่ฉันสั่งน่ะสิ”“ค่ะ สั่งมาเลย”แก่นกายใหญ่ไซซ์ 60 ยังคงเสียบคากระตุกหงึก ๆอยู่ด้านในสวดดอกไม้แสนสวยของขนมปัง อีวานลูบก้นงอนเนียนนุ่มบีบขย้ำเบา ๆ“แล้วคุณจะให้ฉันทำอะไรล่ะคะ”“ช่วยตัวเองให้ฉันดู ตอนนี้!”“คะ!!!”“ฉันได้ยินอะไรผิดไปหรือเปล่า”ขนมปังเงยหน้าขึ้นมามอง นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเบิกกว้าง อยากให้สิ่งที่เธอได้ยินนั้นเป็นการเข้าใจผิด เพราะเขาเพิ่งพูดว่าให้เธอ ‘ช่วยตัวเองให้เขาดู’ ใช่ไหม“เธอได้ยินไม่ผิดหรอกเด็กดื้อ”“อีวาน..ฉัน”“เธอแพ้เองนะ จะไม่ก็ได้แต่เราก็ไม่มีเรื่องต้องคุยกันอีกก็เท่านั้น”“…” ขนมปังเม้มปากเข้ากันแน่นพร้อมหลบ
แกร๊ก ปึง! เสียงประตูบ้านเปิดออกแล้วปิดกระแทกอย่างแรงบ่งบอกว่าอารมณ์คนที่ปิดประตูนั้นกำลังอารมณ์เดือดแบบสุด ๆ ขนมปังที่นั่งเงียบ ๆ รออีวานอยู่ที่โซฟายังสะดุ้งจนหัวใจเต้นแรง แต่ก็พยายามเก็บอาการรีบเปลี่ยนสีหน้าที่ตกใจแสดงออกว่าบึ้งตึง ‘ฉันจะไม่ยอมพูดกับเขาก่อน’ ‘ไอ้คนเย็นชา’ ‘…!’ ผิดคาดจากที่ขนมปังคิดเอาไว้ว่าอีวานจะโวยวายเดินมาหาเรื่องหรือพูดเคลียร์เรื่องเลย์ตัน แต่สิ่งที่อีวานทำคือการเดินผ่านเธอไปโดยไม่มองหน้า เขาทำเหมือนเธอเป็นอากาศ… ขนมปังอึ้งไปเลยเพราะอีวานไม่เคยเมินเธอแบบนี้มาก่อน ขนมปังจึงรีบลุกเดินไปจับแขนอีวาน เขาเอียงหน้าหันกลับมามองสายตายังคงเฉยชาใส่เธอเหมือนเดิม ขนมปังขยับปากเล็กเอ่ยถาม “อีวาน” “มีอะไร” “คุณไม่ได้จะคุยกับฉันเหรอคะ” “ฉันบอกเหรอว่าจะคุย?” “ก็คุณบอกให้ฉันกลับมาที่บ้าน..” “ฉันคิดว่าคุณจะเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้น แล้วทำไมถึงได้เมินใส่กันล่ะคะ” เธอเม้มริมฝีปากลงแล้วคลายออกด้วยความสับสน ดวงตากลมโตสบตากับนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลแววตาของเขาฉายให้เห็นความเย็นชา “เธอพูดเองไม่ใช่เหรอว่าไม่มีเรื่องจะพูดกับฉันแล้ว งั้นก็ไม่จำเป็นต้องนั่งอธิบายอะ
“พาเธอออกไป!”“คะ..ครับ”บอดี้การ์ดเข้ามาจับแขนเล็กพยายามจะดึงให้คนที่เคารพดั่งนายหญิงพาเธอออกไปจากบ้านพักตากอากาศตามคำสั่งของนายท่าน ขนมปังขืนตัวไม่ไปตามแรงที่ดึงตัวเธอ ขนมปังหันกลับมาพูดทักท้วงอีกรอบ“อีวาน คุณจะเอาแบบนี้ใช่ไหมคะ?”“จะไม่ยอมฟังกันเลยใช่ไหมคะ?”“คิดว่าพูดในสถานการณ์ตอนนี้มันฟังขึ้นไหมล่ะ”“ฉันบอกให้ไปรอที่บ้าน”“ฉันไม่อยากพูดซ้ำประโยคเดิมหลายรอบขนมปัง”น้ำเสียงไร้ความอ่อนโยน นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลไม่สั่นคลอเลยแม้แต่เศษเสี้ยว“โอเค ได้ค่ะ”“ฉันทำได้แค่ต้องฟังแล้วก็ทำตามคำสั่งคุณเท่านั้นใช่ไหม”“ใช่ เธอควรฟังคำสั่งของฉัน”“งั้นขอบอกอะไรไว้อย่างหนึ่งค่ะ”“ถ้าคุณเลือกจะไม่ฟังกันแล้ว หลังจากนี้ฉันก็จะไม่พูดอะไรอีกแล้วค่ะ”ขนมปังมองไปที่อีวานด้วยแววตาน้อยใจ ส่วนอีวานกลับมองเธอด้วยสายตาเรียบเฉยแววตาที่ว่างเปล่าไม่บ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกใด ๆ ออกมาเลย สายตาคู่นั้นเย็นชาราวกับน้ำแข็ง กำแพงที่เกือบถูกหลอมละลายกับถูกปกคลุมด้วยกำแพงเหล็กอันใหม่…ที่ดูแล้วจะทำลายยากกว่าเดิมอีก“ไม่ต้องจับ ฉันเดินเองได้ค่ะ”ขนมปังสะบัดตัวออกจากลูกน้องของอีวานแล้วหันหลังเดินออกไปรอเขาอยู่ที่บ้านพักตากอาก
เฮือก! พรึบ!“เชี่ย! กูฝันเหรอวะ..?!”อีวานสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาจากความฝัน แล้วดันเป็นฝันร้ายด้วยที่เกี่ยวกับขนมปัง… ครั้งแรกในหลายสิบปีเลยก็ว่าได้ที่เขาหลับแล้วฝัน หรือเพราะเขาป่วยเหรอถึงได้ฝันอะไรที่ไม่มีทางเกิดขึ้นจริง?!“น้ำตา?” อีวานลูบข้างแก้มตัวเองพบว่ามีน้ำตาเปียกอยู่ ทำให้เขาสับสนมากกว่าเดิม ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะร้องไห้เพราะแค่ฝัน.. ความฝันแบบไหนกันนะที่ทำให้มาเฟียสะดุ้งตื่นได้มันคงเป็นความฝันที่กระทบจิตใจเขา ถึงทำให้คนที่แข็งแกร่งดังหินผาตกอยู่ในอาการตื่นตระหนก…“เชี่ยกูเป็นอะไรวะ”พลางนึกถึงสิ่งที่ทำให้เขาร้องไห้ได้ซึ่งในความฝันนั้นเป็นภาพที่มีคนพยายามทำร้ายขนมปังอย่างรุนแรง เหตุผลที่เขาตกใจจนตื่นเพราะเธอเสียชีวิตในอ้อมกอดของเขาโดยที่อีวานไม่สามารถช่วยหรือทำอะไรได้เลย…“มันไม่ใช่เรื่องจริง มึงก็แค่ฝัน”ใครมันจะกล้ามาทำร้ายผู้หญิงของอีวาน!! ใครอนุญาตให้แตะต้องเธอ คนเดียวที่สามารถทำอะไรเธอได้มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้น!!!“ขนมปัง..”อีวานหันซ้ายหันขวามองหาผู้หญิงของตัวเองที่ยามนี้ไร้วี่แววของขนมปัง ผิดปกติมากที่เธอไม่นอนอยู่ข้างกายเขาหรืออยู่ในห้องนอน บรรยากาศในตอนนี้เงียบสงบเหมือน
เลย์ตันไม่สนใจเขาหันไปต่อยกำแพงต่อเต็มแรงกลายเป็นว่าเขาไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใด ๆ เลยถึงแม้เลือดจะออกมาเยอะมาก พอได้เห็นเธออารมณ์น้อยเนื้อต่ำใจทวีคูณตอกย้ำว่าเขาคือคนขี้แพ้ ผู้หญิงที่เขาอยากได้อีวานก็เป็นคนที่ได้ “คุณเลย์ตันพอได้แล้วจะทำร้ายตัวเองไปทำไมคะ!!”เธอลุกขึ้นมาอีกครั้งสวมกอดจากด้านหลังพยายามดึงให้เขาถอยห่างด้วยแรงทั้งหมดที่มี เลย์ตันพยายามจะสะบัดเธอออก คราวนี้ขนมปังกอดติดแน่เหมือนกาว“ไม่! ปล่อยผม!”“ฉันขอร้องไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่ามีเรื่องชกต่อยอีกนี่อะไรยังไม่ทันผ่านวันเลยคุณก็เป็นแบบนี้อีกแล้ว”“คุณห้ามผมทะเลาะกับมัน ผมก็ไม่ทำ”“ตอนนี้ผมต่อยกำแพงไม่ได้ต่อยมันผมผิดอะไร”‘…จริงด้วยเขาไม่ได้มีเรื่องกับอีวาน…’“แล้วกำแพงห้องผิดอะไรคะคุณถึงไปชกเขาอยู่ได้”“ผมทำอะไรไม่ได้เลยใช่ไหมต่อยกำแพงก็ผิด งั้นให้ผมต่อยจนมือแตกตายไปเลยคุณไม่ต้องมาสนใจ”“เอาเวลานี้ไปสนใจไอ้อีวานเถอะครับ!”ขนมปังปล่อยมือออกจากตัวเลย์ตันวิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลงั้นคงต้องลองวิธีนี้ดู‘ไหนว่าจะช่วยแค่ครั้งเดียวไงขนมปัง..’“หึ กลับไปเถอะแค่นี้ผมก็สมเพชตัวเองมากพอแล้ว”เขาแค่นหัวเราะให้กับชีวิตตัวเองเลย์ตันที่กำลังจะ
“ให้ไปช่วยหยุดใครนะคะ?”ขนมปังเอียงคอลงเล็กน้อยแล้วถามซ้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าที่ฟังไปเมื่อครู่เธอไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม“นายท่านเลย์ตันครับ คุณขนมปังช่วยหยุดไม่ให้เจ้านายผมทำร้ายตัวเองด้วยนะครับ” บอดี้การ์ดอีกคนที่มาด้วยเอ่ยบอกน้ำเสียงจริงจังใบหน้ากังวลสายตาก็สั่นไหวดูยังไงก็ไม่ใช่คำพูดของคนโกหก“มีเรื่องอะไรกันคะ แล้วทำไมถึงต้องเป็นฉันที่จะไปหยุดเขาล่ะคะ?”หมับ! “เอ๊ะ!”“ไม่มีเวลาแล้วครับ!”บ็อบบี้ถือวิสาสะยื่นมือออกไปคว้าข้อมือเล็กแล้วดึงลากให้เดินไปกับเขาจะต้องบอกว่ากิ่งวิ่งกิ่งเดินเร็วเสียมากกว่าพรึบ! ฟิ้วว!!“เฮ้ย! ทำไรวะ!”ฮาร์ทตะโกนออกมาสุดเสียงด้วยความตกใจเร็วกว่าสมองคือมือได้ยื่นออกไปหวังจะคว้าข้อมือหรือแขนนายหญิงแต่ช้ากว่าบ็อบบี้เขาจึงจับได้เพียงลมในอากาศ“คุณบ็อบบี้ใจเย็นก่อนค่ะฉันตามไม่ทันแล้ว”“ขอโทษนะครับที่ต้องทำแบบนี้มีแค่วิธีนี้เราถึงจะไปได้ทันนะครับ”บ็อบบี้เอ่ยขอโทษแต่ยังคงพาขนมปังออกตัววิ่งแบบที่เธอจะสับขาตามไม่ทันอยู่แล้ว กระทั่งวิ่งมาถึงประตูทางเข้าบ้านพักตากอากาศ บ็อบบี้ปล่อยมือขนมปังทรุดตัวลงไปนั่งคุกเข่าก้มหน้า“ทำอะไรคะ! ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”“ขอโทษนะค
ขนมปังหยิบกล่องปฐมพยาบาลเบื้องต้นขึ้นมาวางไว้ที่ตักตัวเองมือก็หยิบหาอุปกรณ์สำหรับเช็ดล้างทำความสะอาด เธอใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์สำหรับล้างแผลเตรียมจะเช็ดลงบนใบหน้าให้อีวาน“คงจะเจ็บมากเลยใช่ไหมคะ”ขนมปังมองสำรวจบาดแผลมากมายบนใบหน้าที่เคยสะอาดสะอ้านแต่ตอนนี้กับสะบักสะบอม คิ้วแตก ปากแตก คางแตก และตามแก้มก็มีรอยฟกช้ำแดงบางอันก็เริ่มกลายเป็นสีม่วง ๆ ‘ต่อยกันเอาเป็นเอาตายเลยไหมเนี่ย’“มันคงไม่เจ็บเท่ากับที่เธอบอกว่าผิดหวังในตัวฉัน”“…”เธอนิ่งอึ้งไปพักหนึ่งหลังจากได้ยินคำพูดอีวาน ในเวลาปกติเขาไม่น่าจะเอ่ยอะไรแบบนี้ออกมาให้เธอได้ยิน เดาได้เลยว่าเขาเมาพันเปอร์เซ็นต์ ไวน์สองขวดว่างเปล่าถูกวางอยู่ข้างกายกลับกลิ่นหอมของไวน์ที่ออกมาเวลาที่เขาพูด“คุณอีวานรู้สึกเจ็บเป็นด้วยเหรอคะ”“คิดว่าเป็นคนที่ไม่มีความรู้สึกอะไรแล้วซะอีก”ขนมปังเอ่ยถามเชิงประชดพร้อมกับมือที่คอยเช็ดทำความสะอาดคราบเลือดบนใบหน้าเขาเมื่อทำความสะอาดคราบเลือดออกจนหมด ก็เริ่มหยิบหลอดยาบีบลงที่นิ้วแล้วทาให้เขาต่อ“ถ้าเป็นคนอื่นพูดก็คงไม่รู้สึกอะไร...”“แล้วฉันก็เป็นคนนะจะไม่มีความรู้สึกเลยได้ไง..”“อืม..แล้วฉันสำคัญกับคุณมากถึงขนาดที่มาแ
หมับ! หมับ!ร่างบางก้าวเท้าเดินเข้าไปหาสองหนุ่มยื่นมือทั้งสองข้างออกไปจับเสื้อเชิ้ตประมาณกระดุมเม็ดที่สามเพื่อให้พวกเขาหันกลับมามองยังเธอ ขนมปังออกแรงดึงกระชากให้เข้ามาใกล้แล้วเอ่ยคำสั่งสอนคล้ายคำขู่…“อย่าสร้างความวุ่นวายได้ไหมคะ?!”เสียงหวานเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่ายกับพฤติกรรมของพวกเขา“ถ้าฉันรู้ว่าพวกคุณทะเลาะกันในระหว่างที่ฉันทำงาน แล้วให้คนพูดอะไรที่มันไม่เป็นความจริงอีก ฉันจะไม่อดทนกับคุณทั้งสองคนแล้วนะคะ”“…”“…”“จะอายุสามสิบกันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอจะให้เด็กอายุยี่สิบสองมาคอยบอกคอยเตือนเหรอคะ?”แต่ละประโยคทำเอามาเฟียหนุ่มทั้งสองยืนหน้าเจื่อนอย่างกับว่าตัวจะหดเล็กลงเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่เธอเอ่ยปากพูดตักเตือน“เป็นถึงประธานทั้งคู่ควรมีวุฒิภาวะมากกว่านี้หรือเปล่าคะ? แต่นี่อะไรเจอหน้ากันทีไรก็มาทะเลาะต่อยตีกันและยังทำต่อหน้าลูกน้องอีก”“…”“…”สองหนุ่มพี่น้องได้แต่ยืนนิ่งเงียบกริบไม่มีใครปริปากพูดสิ่งใด แค่ความคิดว่าจะเอ่ยต่อว่าเธอออกมายังไม่กล้า ‘ทำไมฉันถึงไม่กล้าพูดอะไรเลยวะ!’ เลย์ตันตั้งคำถามภายในใจ‘อีวาน มึงเป็นอะไรวะยอมเธอขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่..’ อีวานเองก็ตีกับความคิดความรู้สึกตั
หมับ! หมับ!ร่างบางก้าวเท้าเดินเข้าไปหาสองหนุ่มยื่นมือทั้งสองข้างออกไปจับเสื้อเชิ้ตประมาณกระดุมเม็ดที่สามเพื่อให้พวกเขาหันกลับมามองยังเธอ ขนมปังออกแรงดึงกระชากให้เข้ามาใกล้แล้วเอ่ยคำสั่งสอนคล้ายคำขู่…“อย่าสร้างความวุ่นวายได้ไหมคะ?!”เสียงหวานเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่ายกับพฤติกรรมของพวกเขา“ถ้าฉันรู้ว่าพวกคุณทะเลาะกันในระหว่างที่ฉันทำงาน แล้วให้คนพูดอะไรที่มันไม่เป็นความจริงอีก ฉันจะไม่อดทนกับคุณทั้งสองคนแล้วนะคะ”“…”“…”“จะอายุสามสิบกันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอจะให้เด็กอายุยี่สิบสองมาคอยบอกคอยเตือนเหรอคะ?”แต่ละประโยคทำเอามาเฟียหนุ่มทั้งสองยืนหน้าเจื่อนอย่างกับว่าตัวจะหดเล็กลงเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่เธอเอ่ยปากพูดตักเตือน“เป็นถึงประธานทั้งคู่ควรมีวุฒิภาวะมากกว่านี้หรือเปล่าคะ? แต่นี่อะไรเจอหน้ากันทีไรก็มาทะเลาะต่อยตีกันและยังทำต่อหน้าลูกน้องอีก”“…”“…”สองหนุ่มพี่น้องได้แต่ยืนนิ่งเงียบกริบไม่มีใครปริปากพูดสิ่งใด แค่ความคิดว่าจะเอ่ยต่อว่าเธอออกมายังไม่กล้า ‘ทำไมฉันถึงไม่กล้าพูดอะไรเลยวะ!’ เลย์ตันตั้งคำถามภายในใจ‘อีวาน มึงเป็นอะไรวะยอมเธอขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่..’ อีวานเองก็ตีกับความคิดความรู้สึกตั