แกร๊ก เสียงบิดประตูห้องนอนขนาดพอเหมาะ นั่นคือห้องของขนมปัง ประตูไม้สีน้ำตาลถูกเปิดออกประมาณเกือบเที่ยงคืน ไม่ใช่ใครที่ไหนที่เปิด เป็นอีวานนั่นแหละ มาเฟียหนุ่มกลับมาเข้าที่บ้าน หลังจากไปดูงานที่ไร่และไปคุยเรื่องเทศกาลที่ใกล้เข้ามา กับของที่จะนำไปจัดขายในงานอาทิตย์หน้า เขาตรงเข้าไปยังห้องร่างบาง และสามารถเข้าไปได้โดยง่าย เพราะเธอไม่ได้ล็อกประตู‘ทำไมไม่ล็อกประตู!’‘ควรโดนดุ!’ถึงที่นี่จะเป็นบ้านอีวาน มีระบบรักษาความปลอดภัย บอดี้การ์ดคอยเฝ้าดู กล้องวงจรปิดรอบบ้าน และคงไม่มีไอ้โง่ที่ไหนกล้าเข้ามาบ้านหลังนี้ได้ แต่เขาก็อยากให้เธอรู้จักระมัดระวังตัวให้มากกว่านี้ นี่อะไรนอนหลับไม่ล็อกประตู ‘เฮ้อ!’ ‘นอนหลับสบายใจเลยนะยัยตัวแสบ!’ขนมปังนอนหลับตาพริ้มน่ารักน่าเอ็นดู เขาเดินไปยังปลายเท้าเล็กที่ซุกอยู่ใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ เปิดผ้าห่มยกขึ้นเล็กน้อยให้เห็นช่วงข้อเท้าถึงปลายเท้า เอียงคอดูบริเวณเท้าที่มีผ้าพันแผลเอาไว้“ทำไมไม่ยอมล้างแผล”อีวานเดินกลับออกไป เข้าไปที่ห้องนอนส่วนตัว หยิบอุปกรณ์สำหรับล้างแผลเดินกลับมาหาขนมปัง และลงมือแกะผ้าพันแผลเก่าตั้งแต่เช้าออก“อื้อ อุ้ย คุณ! ฉันตกใจนะคะ เข้ามาทำอะไรด
“เพื่อน? อื้ม..เพื่อนแบบไหนคะ?! สมัยนี้มีเพื่อนหลายแบบนะคะ!?” เพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว เพื่อนนอน และFWB!!! สารพัดคำกล่าวอ้างว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่เพื่อนอย่างบริสุทธิ์ใจ คำว่าเพื่อนถูกใช้ไปในทางที่ชายกับหญิงแค่ไม่ต้องการผูกมัดกันด้วยสถานะของคนรัก แต่ก็ทำทุกอย่างเหมือนแฟน แต่ไม่ใช่ และใครจะไปมีคนอื่นก็ย่อมได้..“ก็แค่เพื่อน จะต้องให้มีกี่แบบ สำหรับฉันเพื่อนก็คือเพื่อน ไม่มีทางเป็นมากกว่านั้นไปได้” เขาเงยหน้ามาตอบ แล้วก้มไปพันผ้าพันแผลให้เธอต่อ“คราวนี้ถึงตาเธอตอบบ้างแล้ว”“ฉันกลัวค่ะ”“กลัวว่าคุณมีแฟนอยู่แล้วแต่ก็ยังมาวุ่นวาย ฉันไม่ต้องการไปเป็นมือที่สามของใคร ไม่อยากเดือดร้อนด้วย เพราะถ้าหากว่าคุณมีใครอยู่แล้วก็อย่ามายุ่งกับฉันเลยค่ะ” น้ำเสียงหนักแน่นพูดออกมาจากใจจริง คงไม่มีผู้หญิงดี ๆ ที่ไหนจะอยากไปเป็นชู้หรือมือที่สามในความสัมพันธ์ของคู่ใคร ทุกคนอยากจะเป็นตัวจริง และคนเดียวในใจผู้ชาย!“มือที่สาม ชู้ นอกใจ ฉันรังเกียจเรื่องพวกนั้นที่สุด ฉันไม่คิดจะเป็นคนที่ตัวเองไม่ชอบหรอกนะ” อีวานเงยหน้าขึ้นมาสบตาขนมปัง“ฉันไม่เคยมีแฟน และไม่คิดจะมี”“เรื่องพวกนั้นจะไม่มีทางเกิดขึ้น”“…” ทำไมเธอต้องรู้ส
ใบหน้าสวยหวานหันกลับไปจ้องยังนัยน์ตาสีฟ้าอมสีน้ำเงิน ดวงตาของอีวานเหมือนกับสีท้องทะเลในตอนกลางวัน เขาไม่มีทีท่าจะหลบหรือถอยหนีแต่อย่างใดเลย แม้ว่าเธอยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนปลายจมูกแทบจะไปชนเขาอยู่แล้ว แต่เป็นเธอเองที่ต้องยอมถอยออกมาเพราะ อีวานเล่นเอาหน้าขยับมาใกล้เธอจนรู้สึกถึงไออุ่น ๆ จากลมหายใจ “นับจากวันนี้สัก..อืมม..สองปีเป็นไงคะ?” เธอเอียงคอลงเล็กน้อยจ้องเขาตาปริบ ๆ “หมายถึงอะไร” อีวานขมวดคิ้วสีดำคมเข้มเข้าหากัน เขาไม่เข้าใจกับสิ่งที่เธอพูดขึ้นมา“ก็นับตั้งแต่วันนี้ เรามาเป็นของเล่นให้กันดีไหมคะ ในระยะเวลาสองปี และเมื่อครบกำหนด เราก็เลิกยุ่งวุ่นวายต่อกัน” เสียงหวานใสเอ่ยตอบ น้ำเสียงเอาจริงเอาจัง“ ? หลักเกณฑ์แพ้ชนะคืออะไร” เสียงเข้มเอ่ยถาม“ถ้ามีฝ่ายไหนรู้สึกมากกว่า คนที่รู้สึกมากกว่าก็ต้องยอมรับว่าเป็นฝ่ายแพ้ แล้วจะต้องทำตามที่คนชนะต้องการค่ะ”“ถ้ารู้สึกต้องบอกว่ารู้สึกนะคะ ห้ามหลอกหัวใจตัวเอง” เธอยืนมือไปวางทาบหน้าอกข้างซ้ายของอีวาน สัมผัสได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจอีวานนิ่งเงียบไม่ตอบโต้ สายตาเขามาดูว่างเปล่า เธอไม่รู้เลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ขนมปังปล่อยมือลงเมื่อจ้อง
“สถานะเราเท่ากันแล้วนะคะคุณอีวาน ของเล่นชิ้นใหม่”“เป็นแค่ของเล่น จะเล่นยังไงก็ได้ใช่ไหมคะ คุณยูนิคอร์นตาฟ้า” พูดจบประโยคนั้นเธอก็ยื่นริมฝีปากอวบอิ่มอมชมพูประกบปากจุมพิตริมฝีปากบางนุ่มของอีวาน“อย่าลืมทำตามสัญญาของคนชนะนะคะ”“ฉันขอเตือนเธอไว้อย่างหนึ่ง ฉันไม่เคยแพ้ใคร”“ไม่เคยแพ้ ก็ไม่ได้แปลว่า คุณจะไม่มีวันแพ้นี่คะ ไม่มีใครชนะไปตลอดสักหน่อยนี่คะ..”“ฉันเองก็ไม่ยอมแพ้เรื่องนี้เหมือนกัน”“ฉันก็ไม่คิดว่าตัวเองจะมาแพ้คุณเพราะเรื่องนี้เหมือนกัน แต่คุณก็ห้ามหลอกตัวเองด้วยถ้าสุดท้ายแล้ว หัวใจคุณมันรักฉัน”“รู้อะไรไหม”“เธอเป็นผู้หญิงคนแรกเลยที่ทำให้ฉันอยากหัวเราะออกมาให้ดังที่สุด”“เหรอ? งั้นก็หัวเราะออกมาเลยสิคะ” ขนมปังยังคงต่อปากต่อคำไม่ลดละ“เธอเถียงเก่งจริงนะ”“ก็มีปากนี่คะ!!”“ลองพูดมาอีกสิ” อีวานเอ่ยเสียงเรียบ“ถ้าฉันพูดแล้วคุณจะทำอะไรฉันไม่ทราบคะคุณอีวาน คนจอมบงการ บังคับทุกคนให้เป็นอย่างใจตัวเอง”“ฉันก็จะใช่ปากตัวเองทำให้เธอเงียบ”“คุณมันคงนิสัยเสียที่สุดในโลก”จุ๊บ!“อื้อ!”“ฉันบอกแล้วนะว่าจะใช้ปากตัวเองทำให้เธอเงียบ”“อีวาน! ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่คุณคิดจะทำอะไรก็ทำได้ตามใจนะคะ”อีวาน
“เราเป็นคน เพราะงั้นคุณค่าเราเท่ากันค่ะ”“…”“อย่าลืมทำตามสัญญาของคนชนะนะคะ” ขนมปังพูดย้ำขึ้นอีกรอบเป็นครั้งที่สอง เธอเอียงคอแล้วก้มหน้าเล็กน้อย แล้วส่งสายตายียวนกวน ๆ ไปให้อีวาน“ฉันขอเตือนเธอไว้อย่างหนึ่ง ฉันไม่เคยแพ้ใคร” น้ำเสียงทุ้มต่ำฟังแล้วระรื่นหู ยื่นมือมาบีบปลายจมูกเล็กเบา ๆ“ไม่เคยแพ้ ก็ไม่ได้แปลว่า คุณจะไม่มีวันแพ้นี่คะ ไม่มีใครชนะไปตลอดสักหน่อย..”“เพราะฉันเองก็จะไม่ยอมแพ้เรื่องนี้เหมือนกันค่ะ”อีวานยกยิ้มมุมปากขึ้นมาเล็กน้อยให้กับความกล้าหาญของเธอ ออกจะมั่นใจเหลือเกินนะว่าจะชนะเขา“งั้นวันนี้เราจะมาเล่นอะไรกันดี?” เสียงทุ้มต่ำพูดพร้อมโน้มตัวลงมาใกล้อีกครั้ง“คะ อะไร เริ่มพรุ่งนี้สิคะ ตอนนี้ดึกมากแล้ว ฉันจะนอน” สองมือเล็กดันหน้าอกแกร่งไว้ แต่ตัวเองดันถูกเขาต้อนจนมุมขนมปังนอนราบไปกับเตียง เธอเอียงคอหลบจุมพิตร้ายจากอีวาน“หยุดนะคะ”อีวานโน้มใบหน้าไปจนใกล้แล้วกดปลายจมูกโด่งลงไปบนแก้มเนียนนุ่ม ฟอดด!“ทำไมต้องหยุด?”“ก็ฉันบอกจะนอนแล้วไงคะ!!!”“แต่ฉันไม่ให้นอน”“อ๊ะ! อีวาน!” ขนมปังเรียกชื่อเขาเสียงดังอย่างตกใจเมื่อกำลังถูกชายหนุ่มใช้มืออีกข้างจับไปตรงต้นขา ลูบไล้ไปมา“เดี๋ยว! เ
ขวับ!“อุ้ย!” พรึบ เธอรีบหลบทันทีเมื่อเขาหันหน้ามามอง ก็ไม่เข้าตัวเองว่าจะหลบทำไม เธอก็แค่มายืนมองนั่นมองนี่เฉย ๆ “แล้วเราจะหลบเขาทำไมล่ะเนี่ย”ขนมปังจึงค่อย ๆ โผล่หน้าออกมา อีวานยังคงยืนมองมายังเธอเหมือนเดิม“ฮ่า ฮ่า สวัสดียามเช้าค่ะ” เธอยกแขนขึ้นมาโบกมือทักทายเขา ก่อนจะรีบดึงหน้าต่างปิดแล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปห้องอาบน้ำ ลืมไปแล้วมั้งว่าเท้าตัวเองเป็นแผลอีวานสั่งวานลูกน้องเสร็จ เขาก็กลับเข้ามาในบ้าน แล้วยังถือวิสาสะเข้ามานั่งรอขนมปัง วันนี้เขาจะลองชวนเธอไปเที่ยวเล่นในฟาร์ม ไม่ได้ส่องโซเชี่ยลเธอนะ อค่เห็นผ่าน ๆ มาว่าเธอชอบสัตว์…20 นาทีผ่านไปอีวานนั่งอยู่ปลายเตียง เขามองไปยังประตูห้องอาบน้ำนั่งเงียบไม่ได้มีท่าทีอะไร เหมือนกับกำลังนั่งฟังเธออาบน้ำอย่างตั้งใจอย่างนั้นแหละแกร๊ก เสียงประตูห้องอาบน้ำเปิดออก“คุณ..กรี๊ด!” ขนมปังยืนนิ่งไปเกือบสิบวิก่อนจะกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ เพราะเธอกำลังเดินตัวเปล่าไม่มีอะไรปกปิดเนื้อหนังออกมาจากห้องอาบน้ำ เธอรีบวิ่งไปหลบหลังประตูห้องน้ำอย่างไว“เข้ามาทำอะไรคะ แล้วมาทำไมเนี่ย” โอ๊ย! เธออยากจะบ้าตาย เมื่อกี้เขาเห็นอะไรไปบ้าง คงไม่ทันเห็นใช่ไหม ไม่สิ ค
อีวานใช้สองแขนกอดรัดเธอเอาไว้ในอ้อมกอด เขาไม่ยอมปล่อยให้เธอเป็นอิสระ ใบหน้าหล่อไร้หนวดเคราซุกลงไปตรงตามซอกคอขาวเนียนนุ่ม ทำให้เขาได้สูดดมกลิ่นหอมละมุนของเธอที่มาจากสบู่อ่อน ๆ กลิ่นหอมของเธอมันทำให้เขารู้สึกสดชื่น “ฉันอยากให้ครบห้าวันแล้ว”“ทำไมคะ?”“อยากจะเล่นกับเธอเร็ว ๆ”“เธอไม่อยากเล่นกับฉันเหรอ” เขาพลิกตัวเธอให้หันกลับมามองหน้า พร้อมเอียงคอลงเล็กน้อย สายตาอ้อนเหมือนลูกหมานั่นมันอะไร!!! ‘ฉัน…เกลียดตัวเองเองจัง ที่แพ้เพราะเขาหล่อ..’‘ไม่! ฉันจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด’ครั้งแรกที่เธอได้เห็นสายตาแบบนี้จากเขา แปลกใจที่เขาก็ทำมันเป็นด้วย“คุณ! บางทีห้าวันประจำเดือนก็อาจจะยังไม่หมดนะคะ สามารถเป็นต่อไปได้อีก มันก็แล้วแต่ช่วง ฉันไม่สามารถรู้ได้หรอกว่ามันจะไม่มาหลังจากครบห้าวันไหม ตามที่คุณไปอ่านจากบทความในอินเทอร์เน็ต”ขนมปังหันหน้าหนี พร้อมกับร่ายยาวเป็นบทความ ยิ่งกว่า คนตัวเล็กกลัวเหลือเกินว่าความจะแตกถ้าถูกเขาจับได้ว่าโกหก แล้วยิ่งเขามาทำหน้าตาออดอ้อนแบบที่ไม่เคยนี้อีก เธอยิ่งกลัวว่าจะแพ้! เธอไม่อยากใจอ่อนเพียงแค่เขาหล่อเลย ตรงสเปก เสียงทุ้มน่าฟัง ทำไมคนเลวถึงต้องเกิดมาตรงสเปก เธอไม่เข้าใจ
อีวานยืนพิงรถกอล์ฟสีดำอยู่หน้าบ้าน เขามองดูคนตัวเล็กเดินมาด้วยสีหน้าร่าเริง พอได้มองดูอย่างละเอียด ใบหน้าที่ไร้เครื่องสำอางของเธอมันสวยยิ่งกว่าเดิมแก้มแดงอมชมพูอ่อน ๆ เพราะเลือดฟาดโดยธรรมชาติ ปากเป็นกระจับอมชมพูเหมือนลูกพีช ขนตางอนยาวเรียงสวยกับตากลมโตเหมือนลูกกวางพระเจ้าคงรักเธอมาก ถึงได้สร้างเธอมาสวยขนาดนี้“คุณคะ”“ไปกันเลยไหมคะ..?” เธอเอ่ยเสียงหวานถาม เพราะอีวานไม่ยอมพูดอะไร เอาแต่จ้องหน้าเธอ“อืม ขึ้นรถ”“คุณดูแลไร่มานานหรือยังเหรอคะ แล้วเป็นเจ้าของเองเลยไหม หรือว่ามีหุ้นส่วนด้วย”“เป็นธุรกิจของตระกูล ฉันรับช่วงต่อมาอีกที”“แล้วชอบสิ่งที่กำลังทำไหมคะ การดูแลฟาร์มทำไร่”“…”“ถ้าเธอไม่ชอบอะไรสักอย่าง เธอก็จะไม่ทำมันเพียงแค่เพราะว่าตัวไม่ชอบแค่นั้นเหรอ?”“ค่ะ ก็ถ้าไม่ชอบจะไปทำมันทำไมละคะ ไปทำสิ่งที่ตัวเองชอบ อยู่กับมันแล้วมีความสุขจะไม่ดีกว่าเหรอคะ” “ฉันเลือกจะอยู่กับสิ่งที่ชอบมากกว่าสิ่งที่ควรทำค่ะ”“สิ่งที่ต้องทำมันก็ต้องทำนั่นแหละฉันเข้าใจ”“แต่ถ้าหากเรามีโอกาสได้เลือก” “ก็เลือกสิ่งที่ชอบดีกว่าค่ะ”อีวานไม่ตอบคำถามอะไร มันไม่จำเป็นอะไรเลย ว่าเธอจะต้องมารับรู้เรื่องราวในชีวิต
“ฉันไม่น่าหลับเลยเสียดายจัง”“น่าจะได้พูดคุยสนิทกับเพื่อน ๆ คุณให้มากกว่านี้ ไม่อยากโดนมองว่าทำลายบรรยากาศเลยค่ะ”“ไม่เป็นไร ไม่มีใครคิดแบบนั้นหรอกนะ และก็ยังเหลือเวลาให้ได้สนุกอีกหลายวัน”“จริงนะคะ..”“อืม อย่าคิดมาก”อีวานพูดปลอบใจเธอ เขากลัวเธอจะงอแงที่ตัวเองหลับไปทั้งที่ยังอยากสนุกต่อ“เธอรออาบน้ำต่อฉันละกัน”อีวานกำลังถอดเสื้อผ้าเตรียมไปอาบน้ำอีกรอบ พอเขาอาบเสร็จก็มารอเธอบนเตียง ส่วนเธอพออาบน้ำเสร็จเดินออกมาพร้อมผ้าขนหนูที่พันไว้รอบตัวแต่ไม่สามารถบดบังเนินหน้าอกใหญ่โตนั้นได้“หนาวจังเลยค่ะ ขนาดเปิดน้ำอุ่นแล้วก็ไม่ช่วยเลย”“รู้ไหมมันมีวิธีทำให้หายหนาวอยู่นะ” อีวานปิดหนังสือที่อ่านรอเธอลง กวาดสายตามองเธอโดยเฉพาะหน้าอกที่เป็นจุดเด่นให้เขาวางสายตา“วิธีไหนคะ”อีวานลุกขึ้นเดินตรงไปหาเธอ ดึงร่างบางเข้ามาแนบชิดทำให้บริเวณเต้านมสวยแนบชิดติดกับหน้าอกแกร่งที่เปลือยเปล่าของมาเฟียหนุ่ม เขากระตุกผ้าขนหนูเธอออกจนมันหลุดไปอยู่ปลายเท้าร่างบาง“ทำอะไรคะ!”เธอมีอาการตกใจกับสิ่งที่อีวานทำนั่นคือการที่เขาใช้สองมือบีบก้นเธออย่างแรง“วิธีที่จะช่วยให้เธอหายหนาว”‘ทำไมเธอถึงได้น่า..กดลงเตียงแบบนี้วะ’“
หมับ!“ไอ้ขายาวฝากหยิบมาให้ฉันด้วยนะ ฉันก็อยากดื่มไวน์เหมือนกันอะ” เนเรียยื่นมือออกไปจับแขนอีวานก่อนที่เขาจะได้ลุกออกไป เธอแค่จะวานให้เขาหยิบแก้วไวน์มาให้เธอด้วยเหมือนกัน แต่การกระทำนี้ดูจะสร้างความไม่พอใจให้ขนมปังอย่างแรง“โอเค ยัยขาสั้น” “โอ๊ย ไอ้บ้านี่อย่ามาผลักหัวฉันนะ!”อีวานผลักหัวเพื่อนสาวคนสนิทเบา ๆ ขนมปังมองทุกอิริยาบถของทั้งคู่ข่มอารมณ์ความหึงที่ผุดขึ้นมาจนหน้าเธอแดงก่ำ!‘ใจเย็นไว้ขนมปัง’‘ท่อนเอาไว้ว่าเขาเป็นเพื่อนกัน’“ถ้าไม่ให้ผลักจะให้ดึงเหรอยัยขาสั้น”“ก็ลูบหัวฉันเหมือนที่ลูบหัวสาว ๆ สิจ๊ะ!”ขนมปังเบือนหน้าหันหนีไปอีกทางไม่อยากมองความสนิทสนมระหว่างอีวานกับเพื่อนสาวแสนสวยของเขาที่หยอกล้อกันตาอหน้าเธอ จนเกิดความรู้สึกหึง..‘บอกฉันว่าอย่าสนใจใครแต่ตัวเองกับหยอกล้อกับเพื่อนตัวเองไม่แคร์กันเลย!’“ไหนลองลูบหน่อยสิคะคุณอีวาน”“พูดไร้สาระเนเรีย”อีวานกวาดสายตาไปมองทางขนมปังทันทีว่าเธอมีท่าทีอย่างไรกับคำพูดเนเรีย ขนมปังถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เขาก็รู้ได้เลยว่าเธอกำลังไม่พอใจ“ไร้สาระอะไร ความจริงทั้งนั้น”“คนต่อไปจะเป็นสาวชนชาติไหนล่ะคะคุณเพื่อน”“เธอนี่มันผู้หญิงนิสัยเสีย”“แม
อีวานที่นั่งสนใจแค่ขนมปังก็ยังต้องแวะพูดถึงความสัมพันธ์ของลูเซียโน่กับสาวในความลับ “ไอ้สัตว์อย่ามาพากันรุมกูได้ไหม กูเอาเรื่องตัวเองอยู่เว้ยไม่ต้องให้ใครช่วย พวกมึงนั่นแหละเอาเรื่องความสัมพันธ์ของตัวเองให้รอดก่อน” “ที่พูดรอมาก็มีเหตุผล แต่กูจะรอดูเลยว่าคนที่บอกว่าเอาอยู่สภาพจะเป็นยังไง” เจริคเอ่ยขึ้นเบา ๆ ถ้าเพื่อนจัดการปัญหาตัวเองได้มันก็ดี แต่เห็นมาเยอะแล้วที่พูดว่าเอาอยู่สุดท้ายก็เจ็บเจียนตายทุกคน… ยังไม่เจอกับตัวก็เลยยังกล้าพูด เราสามารถอวดเก่งกับความสัมพันธ์คนอื่นได้แต่ไม่ใช่กับความสัมพัทธ์ของตัวเอง “พี่เจคคะ” “ว่าไงครับ” “อยากลองดื่มไวน์จังเลยค่ะ” เธอชี้ไปที่แก้วไวน์ในมือเจริค “พี่ว่าไม่ดีนะครับ เรายังเด็กอยู่” เจริควางมือลงบนหัวดิสนีย์ลูบสองที เธอทำหน้ามุ่ยใส่เขาทันทีไม่พอใจ “หนูอยากลองดื่มอ่ะ นะ ๆๆๆ ได้ไหมคะ” “ไม่ได้ครับ” เจริคทำเสียงเข้ม “เชอะ! ไม่ขอจากพี่ก็ได้” เธอหันไปทางพี่ชายคนรอง คนที่ตามใจเธอที่สุด “โดนงอนแล้วดิ ชอบตามใจดีนักโดนงอนซะบ้างมึง” คาร์ลเตอร์หันไปพูดกับเจริค “พี่ชายคะ น้องอยากดื่มค่ะ ขอดื่มไวน์ได้ไหม” “แก้วเดียวพอนะ” “เย้ ได้ค่ะ
แคมป์ปิ้ง 🏕 เมื่ออาหาร เครื่องดื่ม และของทานเล่นถูกจัดเตรียมพร้อมเรียบร้อยสำหรับรับประทาน ทุกคนก็เริ่มเข้ามานั่งล้อมวงรอบกองไฟเป็นรูปวงกลม ลำดับการนั่ง ให้คาร์ลเตอร์เป็นจุดแรก ต่อมาถัดมาทางซ้ายมือคือเคอร์วิน เรนเดล ลูเซียโน่ ขนมปัง อีวาน เนเรีย ดิสนีย์ เจริค ที่นั่งติดอยู่ทางขวามือคาร์ลเตอร์ “ลองกินอันนี้ดู” อีวานหั่นสเต๊กเนื้อวัวให้ขนมปังลองชิม เขามองแก้มเนียนเคี้ยวตุ่ย ๆ “อื้ม! อร่อยค่ะ” “อร่อยก็กินเยอะ ๆ น้ำหนักเธอลงไปเยอะเลยนะจากที่อุ้มเมื่อวาน” “คะ!!!” “แฮ่ม! เพื่อนยังนั่นกันอยู่ตรงนี้เนอะ” ลูเซียโน่ยิ้มมุมปากมองอีวานมันทำเหมือนตรงนี้มีแค่มันกับน้องไปได้ไอ้นี่ “อ้าว มีมึงอยู่ตรงนี้ด้วยเหรอ กูมองไม่เห็น คิดว่าเป็นอากาศ” “ขนมปังดูเอานะครับคนแบบนี้” ลูเซียโน่หันหน้าฟ้องขนมปัง ทำหน้าล้อเลียนอีวานเมื่อโดนดุ “อีวานทำไมพูดกับเพื่อนแบบนั้นคะไม่น่ารักเลย” ขนมปังหันมองตาขวาง “พี่ลูเซียโน่จะเสียใจนะคะ” พอเธอพูดประโยคนั้นจบอีวานก็เอื้อมมือไปประคองใบหน้าเธอให้หันมามองเขาแล้วเอ่ยพูดน้ำเสียงจริงจัง “อย่าไปสนใจความรู้สึกมันหรือใคร สนใจแค่ฉันก็พอนี่ไม่ใช่คำขอแต่
เมื่อเห็นว่าอีวานกำลังจ้องเขม็งไปทางอาร์มอ ขนมปังจึงรีบอธิบาย ไม่อยากให้ลูกน้องเขาโดนดุ“ขอโทษนะที่ออกมาช้า”“ไม่เป็นไรค่ะ คุณคงจะสนุกเลยอยู่นานเป็นคนสุดท้ายเลย”ทั้งคำพูดและรอยยิ้ม เธอช่างไร้เดียงสา โลกของเขากับเธอต่างกันขนาดนี้ แล้วจะให้เขาดึงเธอมาอยู่ในโลกดำมืดนี้ได้ยังไง…ตัดมาที่เจริคเขาเดินอุ้มกระต่ายขนปุยสีน้ำตาลไปให้ดิสนีย์“พี่เอากระต่ายมาฝาก”“น่ารักมากเลยค่ะพี่เจค หนูชอบมาก”เธออุ้มกระต่ายมาแนบอก ก่อนจะทำสิ่งที่เจริคก็ไม่ขาดคิด คือการเข้ามากอดเขาโดยที่เธอไม่สนสายตาใครเลย เพราะการกอดมันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเธอที่เติบโตมาในต่างประเทศ“ขอบคุณนะคะ เป็นของฝากที่ดีที่สุดเลย”“ครับ ดีใจที่เราชอบ”“วันนี้เรามาทำสเต๊กกันกินดีกว่าไหมวะ”ลูเซียโน่ที่อยากกินสเต๊กจึงเอ่ยขึ้น“เอาดิ กูอยากกินพอดี” เรนเดลตอบ“แล้วคนอื่นอยากกินอะไรอีก เดี๋ยวสั่งให้ลูกน้องกูไปซื้อมาเพิ่ม”เคอร์วินเสนอแล้วก็ยังอาหารอื่น ๆ อีกมากมาย เข่น สปาเกตตี พิซซ่า ปิ้งมาชเมลโล่ ปิ้งมัน และที่ขาดไม่ได้เลยคือเครื่องดื่ม วอดก้า ไวน์ขาว ไวน์แดง น้ำผลไม้สำหรับพวกเธอที่บางครั้งอาจจะไม่อยากดื่ม“ไอ้ลูซกับไอ้อีวานไปเตรียมเนื้อ
Camping 🏕 บ้านไม้กลางป่าตั้งอยู่ในที่ดินตระกูลมาร์ติเนซ เป็นบ้านพักตากอากาศสองชั้นขนาดใหญ่ ถูกสร้างขึ้นตามคำสั่งอีวาน เพื่อใช้สำหรับพักผ่อนจากกิจกรรมล่าสัตว์กับกลุ่มเพื่อนสนิท บ้านหลังนี้จึงมีถึงหกห้องนอน การดีไซน์ห้องนอนแต่ละห้องก็เป็นตามความต้องการของหกหนุ่ม และยังมีห้องนั่งเล่น รวมถึงมีห้องใต้ดิน การล่าสัตว์จบลงแล้วสามสาวมีผู้ติดตามคอยดูแลอยู่ห่าง ๆ ไม่ได้เข้าไปวุ่นวายในเส้นทาง ถึงสองสาวอย่างขนมปัง ดิสนีย์ ไม่ได้ไล่ล่าสัตว์ตัวไหนเลยก็ตาม ส่วนเนเรียก็ยิงนกไปได้สองตัว นอกนั้นพวกเธอก็เดินเล่นแล้วออกมารอหนุ่ม ๆ ที่บ้านพักตากอากาศกับบอดี้การ์ดหนุ่มหลายคน“ทานมาการองกันไหมครับ เดี๋ยวผมไปเอาออกมาให้ครับ” อาร์มอกับบอดี้การ์ดของหนุ่ม ๆ แก๊งบรูทิชคอยดูแลผู้หญิงทั้งสามคนอย่างใกล้ชิด ถึงจะอยู่ในเขตตระกูลมาร์ติเนซที่ไม่มีใครเข้ามาได้แต่กับพวกสัตว์ไม่ใช่แบบนั้น“หรือนายหญิงอยากทานขนมปังทาแยมสตรอว์เบอร์รี่ไหมครับ”“เอาทั้งคู่มาไว้ก็ได้อาร์มอ” ขนมปังเอ่ยบอก เธอกำลังอร่อยกับน้ำส้มคั้นถ้ามีขนมด้วยยิ่งดี“เสียงนกร้องนี่ไพเราะจัง”“พวกพี่ ๆ เขาคงจริงจังกันมากเลยนะคะ”ดิสนีย์ชวนคุย ขยับขาไปตามจังหว
Part - Rendel (เรนเดล)เรนเดลเดินก้าวช้า ๆ และผิวปากไปด้วย และเสียงผิวปากของเขายิ่งสร้างความหวาดหวั่นให้กับนักโทษที่พยายามหลบซ่อน“เสียงความกลัวมันดังออกมาจนได้ยินแล้วนะ”เรนเดลหยุดยืนอยู่ตรงโขดหินก้อนใหญ่เขาสัมผัสได้ว่ามีคนหลบอยู่ด้านหลังโดยที่ตัวเขาไม่ต้องดูจีพีเอสเลยด้วยซ้ำ“ยังจะแอบอยู่เหรอ?” น้ำเสียงเยือกเย็นเอ่ยถามเอนตัวพิงโขดหิน หยิบบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นมาสูบอย่างใจเย็น“ผมยอมแล้วครับไว้ชีวิตผมได้ครับ”“ผมขอโอกาสในการแก้ตัว”พรึบ! ฉึก!“อึก! อึกอ่อก”เรนเดลชักดาบตระกูลออกมาจากฝักดาบที่เก็บไว้ข้างเอวปาดคอชายคนนั้นทันทีที่มันมานั่งคุกเข่าอ้อนวอนขอโอกาส มันยังไม่ได้ในทันทีหรอก“พวกมึงนี่เหมือนกันหมด พูดแบบนี้ทุกปี”“เบื่อจะฟัง”ปัง!เรนเดลเตะให้มันนอนลงแล้วยิงไปที่ท้องของมัน เพราะผู้ชายคนนั้นคิดที่จะยื่นมือมาแตะต้องตัวเขา เลือดพวกมันไม่สมควรโดนตัวเขา“รอบนี้กูจะไม่ออกไปเป็นคนสุดท้าย”Part - Jerik (เจริค)เพียงแค่เจริคก้าวเท้าเข้ามาในเส้นทางล่าสัตว์ บรรยากาศรอบตัวเขาก็ดูเงียบสงบจนน่ากลัว ใบหน้าไร้ความรู้สึกและเบื่อหน่าย“เลิกซ่อนแล้วออกมา”“อย่าทำให้เสียเวลา”“สามวิเท่านั้น”“1”“2”“ออ
เริ่มการล่าสัตว์!เมื่อการล่าสัตว์เริ่มต้นขึ้น ความหื่นกระหายในการฆ่ามันก็ทำให้เลือดในกายพวกเขาพุ่งสูบฉีด ทั้งหกหนุ่มแทบอดใจไม่ไหวที่จะได้ทรมานเหล่านักโทษพวกนั้น“มาเริ่มกันเลยไหม พร้อมนะ” แกร๊ก! เสียงขยับกระบอกปืนลูกซองปิดลงหลังใส่ลูกกระสุนเสร็จ อีวานยกปืนขึ้นวางบนบ่าตัวเอง“ของแบบนี้กูพร้อมตั้งแต่เกิดแล้วว่ะ”ลูเซียโน่เอ่ยเสียงเข้มขยับปืนกำเอาไว้แน่นแล้วออกเดินไปก่อนใครเพื่อน“หึ” อีวานแค่นหัวเราะเบา ๆ“ไว้เจอกันที่แคมป์ ใครช้าสุดต้องจ่ายให้เพื่อนละหนึ่งล้านอย่าลืม”“กูยอมเป็นคนสุดท้าย” คาร์ลเตอร์เอ่ยเขาไม่ชอบแข่งขันกับใครอยู่แล้ว“ก็เห็นพูดแบบนี้มาสี่ปีแล้ว แต่มึงก็ออกมาคนแรกตลอดเลยนะเพื่อน” เรนเดลยกคิ้วเลิกสูงขึ้นมอง คาร์ลเตอร์ยิ้มจาง ๆ พลางยกไหล่ขึ้นทำไม่รู้ไม่ชี้แล้วเดินไปเส้นทางตัวเอง“รอบนี้ก็คงเป็นไอ้อีวานนั่นแหละที่ออกมาคนสุดท้าย”เคอร์วินที่เช็กกระบอกปืนอยู่ขึ้นแล้วมองไปยังอีวานที่กำลังเดินมุ่งหน้าไปยังเส้นทางของตัวเอง“ไม่ก็อาจจะเป็นไอ้เจค” เรนเดลหันไปมองเจริค“ไม่หรอก รอบนี้กูตั้งใจจะออกมาคนแรก”เจริคเอ่ยเสียงเรียบด้วยใบหน้าอันสงบนิ่ง ถือปืนลูกซองคู่ใจที่สลักชื่อกับนามสก
ตัดมาที่เจริคยังคงยืนมองเดสทินีหรือชื่อที่คนสนิทมักจะเรียกเธอว่าดิสนีย์ ร่างบางยืนจับ ๆ อาวุธสามอย่างนั้น แต่ตัดสินใจไม่ได้สักทีว่าควรจะใช้อันไหน“เลือกได้ไหมยัยตัวแสบ”“ยังค่ะ พี่เจคช่วยดิสนีย์เลือกไหมคะ”“ได้ครับ”“หน้าไม้เหมาะกับมือใหม่แบบเรามากกว่านะ”เขายื่นหน้าไม้ไปให้เธอ ดิสนีย์หยิบหน้าไม้พลิกไปพลิกมา“แล้วมันต้องทำยังไงคะ” เธอเงยหน้ามามองเจริคยิ้มจาง ๆ เธอไม่เคยหยิบจับอะไรพวกนี้เลยน่ะสิ“มา เดี๋ยวพี่สอนใช้”เจริคสอนจนเธอใช้คล่องมือ แต่ไม่คิดว่าประโยคที่เธอพูดต่อมาคือการขอให้เขาช่วยสอนวิธีใช้ปืนลูกซอง“แต่ฉันอยากลองใช้ปืนด้วยค่ะ พี่เจคช่วยสอนได้ไหมคะ”“ปืน? แน่ใจนะครับ”“ค่ะ”เจริคเดินไปหยิบปืนลูกซองมาให้ดิสนีย์ถือ แต่แค่ส่งไปให้พอเธอรับเท่านั้นแหละ เธอเกือบปล่อยปืนตกแล้ว ไม่คิดว่าปืนลูกซองจะหนักขนาดนี้ โชคดีที่เจริคยื่นมือมาช่วยถือไว้ทัน“เปลี่ยนใจแล้วค่ะ หนูเอาหน้าไม้อย่างเดียวพอ”“ครับ” เจริคมองเธอด้วยสายตาเอ็นดูเด็กคนนี้ ‘น่ารักชะมัด’หลังจากซักซ้อมวิธีการใช้อาวุธล่าสัตว์กันจนชำนาญคล่องมือแล้ว เรนเดลก็ได้อธิบายเส้นทางการล่าสัตว์ให้กับพวกเธอต่อ และจุดท้ายที่พวกเขาจะไปเจอกันค