พิรุณขับรถเงียบมาตลอดทางส่วนคนด้านข้างก็เอาแต่นั่งทำตาปริบ ๆ มองบรรยากาศนอกรถก่อนที่จะตวัดหันมามองหน้าเขาสายตาดูหวานยาดเยิ้มกว่าครั้งไหน หลังจากที่เมื่อสักครู่ยัยตัวร้ายของเขาเกือบสังเวยชีวิตไอ้ตัวใหญ่นั่นต่อหน้าทุกคนในผับ เขาก็รีบพาแม่คุณออกมาจากร้านเพราะกลัวว่าจะเผลอไปยิงธนูใส่ใครเข้าอีก"พี่เรนอยากกินลูกธนูของลินไหมคะ"พิรุณชะงักหน้าซีดนี่แม่คุณโดนผีตัวไหนเข้าสิงกันทำไมพักนี้อยู่ในโหมดโหดมาจากนรกเหลือเกิน สงสัยไอ้เรนมึงคงต้องเปลี่ยนให้เมียมาคุมผับแทนมึงแล้วมั้ง เพราะรัศมีการเล็งธนูถือว่าแม่นมากแต่ที่พลาดคงเพราะว่าปาลินน่าจะจงใจแค่ข่มขู่ไอ้ยักษ์ตัวใหญ่นั่น"พี่ไม่ชอบลูกธนูเลยครับลิน พี่ชอบกินลินมากกว่า""ว่างายยยค้าาา...หืม" ปาลินถามเสียงแผ่วแล้วผลอยหลับคาเบาะนั่ง อย่าบอกนะว่ายัยเด็กดื้อแอบสั่งของมึนเมามากิน"เด็กดื้อแอบสั่งเหล้ามากินหรือเปล่า""......."พิรุณหันไปดูคนที่พูดจาไม่เป็นภาษาอีกทีแม่คุณก็หลับสนิทไปซะแล้ว เดี๋ยวเหอะถ้าตื่นขึ้นมาจะลงโทษซะให้เข็ด"มันน่านัก น่าจับฟัดให้แหลกคาปากคามือไปเลย" เขาบ่นพึมพำแล้วรีบเหยียบคันเร่งเพื่อไปถึงเพ้นท์เฮ้าส์ให้เร็วที่สุดร่างนุ่มนิ่มไม่รู้
สาวในชุดนอนกระโปรงผ้าซาตินสีแดงเดินมานั่งข้างพิรุณที่กำลังนั่งตรวจเอกสารกองโตสีหน้าเคร่งเครียด ยิ่งเห็นเขาทำหน้าเหมือนยักษ์แบบนี้เธอก็ไม่กล้าจะบอกเขาไปตรง ๆ"ช่วยไหมคะ" นัยน์ตาเรียวตวัดมองแล้วส่งเอกสารมาให้ปาลิน โถถังนึกว่าพ่อคุณจะบอกว่าไม่เป็นไรครับลินพี่ทำเองเสียอีกแต่นี่กลับรีบส่งมาให้อย่างไว ปาลินนั่งเบิกตากว้างช่วยอ่านเอกสารสัญญาจ้างต่าง ๆ และข้อเสนอที่ลูกค้าขอเพิ่มเติมรวมทั้งงานที่ยังมีปัญหาและงานที่ใกล้เสร็จใกล้ส่งมอบให้กับลูกค้า หญิงสาวแอบชำเลืองมองนาฬิกาแขวนผนังบอกเวลาห้าทุ่มครึ่งตาย ๆ ดึกขนาดนี้เธอคงไม่ต้องทำอะไรกับพี่เรนแล้วล่ะกว่าจะตรวจไอ้กองเอกสารบ้านี่เสร็จก็ตีหนึ่งตีสองพอดีล่ะมั้ง"เฮ้อ!" ปาลินถอนหายใจอย่างลืมตัวพิรุณที่กำลังนั่งขีดเขียนลงบนกระดาษจึงได้กระแทกปากกาลง "ลิน! จะเอาอะไรก็พูดมาเพชรนิลจินดาหรืออยากกินพิซซ่าตอนดึกพี่ก็สั่งให้ได้นะ" อิตาบ้าใครอยากกินพิซซ่ากันเล่า อยากกินตับพี่เรนนั่นแหละทีงี้ล่ะอ่อนต่อโลกรู้ไม่ทันเธอขึ้นมาเชียว"ไม่ได้อยากกินไอ้ของพรรค์นั้นซะหน่อย อยากกินคนพูดนั่นแหละ" เพราะห้องที่เงียบเชียบทำให้คนที่หูดีมากอย่างพิรุณได้ยินเสียงพึมพำเต็มสองรู
"เป็นไงบ้างเหนื่อยไหม เหงื่อเต็มตัวเลย" เสียงแตกพร่าที่มีเหงื่อชะโลมทั่วกายไม่ต่างจากร่างเล็กเปิดปากถามใบหน้าที่ซุกกดอยู่กับหัวไหล่ของเขาแน่นิ่งหอบหายใจกระชั้น"เหนื่อยค่ะ แล้วพี่เรนล่ะคะ" ปาลินยกหัวขึ้นจากไหล่แกร่งสบตาหวาน ปากเล็กบ้างกัดยั่วกระพริบตาปริบ ๆมึงตายแน่ไอ้เรน! ดูเมียมึงสิแม่งน่ารักฉิบหาย!พอทำหน้าแบบนี้แล้วก็อยากจะจัดอีกสักสองสามยก ให้หมดแรงกันไปข้างหนึ่งเลยโว้ย!"พี่มีโปรโมชั่นให้ลินด้วยครับ ซื้อหนึ่งแถมสอง สาม สี่...." ยังไม่ทันที่ดวงหน้าเล็กจะได้ตอบรับโปรโมชั่นที่เขาว่าเรียวปากดุก็ประกบดูดลงมาตามลำคอของเธอ ถ้าเขาดูดแรงขนาดนี้มีหวังพรุ่งนี้เช้าคงเป็นรอยแดงเห็นชัดแน่เลย แต่ช่างมันเถอะอย่างน้อยมันก็เป็นรอยรักจากพี่เรน "เปลี่ยนบรรยากาศหน่อยดีกว่า" เขาว่าแล้วประคองบั้นท้ายที่ยังเกาะเกี่ยวเอวสอบของเขาแน่แล้วหย่อนตัวของปาลินลงบนเก้าอี้ผ้ากำมะหยี่สีแดงที่ใช้นั่งกินข้าวอยู่ทุกวัน"ทำอะไรคะ...."ยันที่วางแขนสองข้างอย่างงุนงน พลันใดข้อเท้าเล็กก็ถูกจับอ้าออก"ก็แถมโปรให้คนสวยไงครับ""คะ....อ๊าพี่เรน อื้อ" ลิ้นคมฉกแว่บเข้ามากลางรอยแยกที่แฉะเยิ้มปลายนิ้วดันกลีบดอกไม้อวบอูมปาดชิมทุกอ
ปาลินลุกขึ้นจากเตียงนอนบิดขี้เกียจไปมาสองสามทีโดยไม่รู้เลยว่ามีสายตาของพิรุณกำลังจ้องมองอยู่ที่หน้าประตูห้อง เรียวปากแดงกระตุกยิ้มกอดอกมองอิริยาบถที่วาบหวิวของปาลิน แม่เด็กน้อยช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยว่าตัวเองกำลังโป๊เปลือยอล่างฉ่างอยู่ต่อหน้าต่อตา สงสัยจะลืมตัวคิดว่าอยู่คนเดียวหรือยังไง"เช้านี้พี่ก็จัดให้ได้นะถ้าลินต้องการ" ดวงตากลมเบิกค้างค่อย ๆ หันไปทางต้นเสียงที่แฝงนัยนะ และเธอก็รู้ตัวเองดีกว่าตนนั้นกำลังล่อนจ้อนปราศจากเสื้อผ้า"พะ....พี่เรน"พรึ่บ! กรี๊ด! พิรุณพุ่งเข้ามาถลกผ้าห่มออกแล้วบดเบียดตัวเองลงมาถึงจะมีเสื้อเชิ้ตขวางกั้นแต่เนื้อนุ่มหยุ่นด้านล่างก็ทำให้เขารู้สึกหนาวสะท้านได้อยู่ดี "ก็อ่อยพี่เอง""ลินไม่ได้อ่อยนะคะ ลินแค่ลืมตัวนิดหน่อยเองอ่ะ""ลืมบ่อย ๆ ก็ดีครับ ลืมทุกวันเลยนะต่อไปโอเคไหมเด็กดื้อ""วันนี้จะพาลินไปทำงานด้วยไม่ใช่เหรอคะ มามัวโอ้เอ้อยู่เดี๋ยวก็สายกันพอดี" เขาไม่ยอมฟังสิ่งที่ปาลินพร่ำบอกแต่เริ่มใช้จมูกซุกไซร้ไปตามลำคอเล็ก "อื้อ..พี่เรนหยุดก่อน อย่าสิคะ" "พี่จะบ้าตายกับลินแล้ว พี่อยากได้ลินอีกแล้วครับ ช่วยพี่ที" "ไม่ได้นะคะ วันนี้เราต้องไปทำงานกันค่ะ ทำงานก่อน
เพราะปาลินเดินทางมาที่ไร่องุ่นกระทันหันทำให้ไม่มีเสื้อผ้าที่จะใส่ในงานเลี้ยงเย็นวันนี้ แม่ของพี่เรนจึงพาเธอไปช้อปปิ้งที่ห้างในเมืองและลากพิรุณไปด้วย ลูกชายที่นาน ๆ จะได้เจอหน้าแม่ที ทำให้การพูดคุยสนทนากับแม่ตัวเองนั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก ปาลินที่เห็นรอยร้าวเล็ก ๆ ของครอบครัวประมะเมคินทร์ก็รู้สึกว่าเธอต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อผสานรอยร้าวนั่น เพราะแม่ไพรดีกับเธอมาก ซึ่งต่างจากแม่ของเธอราวฟ้ากับเหวแม่ที่ทิ้งเธอไปเที่ยวอินเดียได้เกือบสามเดือนแล้ว จากนั้นแม่ก็กลับมาอยู่บ้านตรวจงานที่ตลาดได้อาทิตย์นึงก็บินไปเที่ยวดูไบต่อ ซึ่งคนที่ชวนแม่ไปก็คือพ่อของเธอที่ทำธุรกิจอยู่นั่นภายในร้านอาหารกึ่งคาเฟ่กึ่งบาร์ที่ไม่ไกลจากตัวห้างสรรพสินค้าที่ปาลิน พิรุณ และคุณแม่เพชรไพรเดินทางมารับประทานอาหารร่วมกันบรรยากาศที่อบอุ่นและสดชื่นด้วยกลิ่นของคลื่นทะเลหัวหินทำให้หญิงสาววัยกลางคนเดินไปรับกลิ่นอายทะเลระหว่างรออาหารเพียงคนเดียว ส่วนพี่เรนก็เอาแต่นั่งกอดอกหลับตาใช้ความคิดอยู่ที่มุมห้องของร้านอาหารโดยไม่สนใจแม่ตัวเองเลยสักนิด"แม่ลูกคู่นี้มันยังไงกันนะ" ปาลินพึมพำแล้วเดินไ
Viola Valley Vineyardหลอดไฟสีส้มและขาวถูกติดห้อยประดับประดาอยู่ตามทางเดินเข้าไปถึงโรงบ่มไวน์วิโอล่าทุกคนในงานมีทั้งนักธุรกิจด้านไวน์ พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ ซอมเมอร์ลิเย่ ลูกค้าของวิโอล่า และนักชิมไวน์ ซึ่งพวกเขาล้วนเป็นเหล่าผู้คนที่ผลักดันให้ไวน์วิโอล่าของคุณแม่เพชรไพรโด่งดังมีชื่อเสียงมาถึงทุกวันนี้ ทว่าแขกสาวท่านหนึ่งที่ถูกแม่ส่งมาออกงานแทนเดินเฉิดฉายเข้ามากลางงานด้วยสีหน้าเชิด หยิ่งและทะนงตน ทำให้เจ้าของงานที่กำลังจัดแจงให้แขกวีไอพีของเธอนั่งตามป้ายชื่ออยู่นั้นชักสีหน้าส่งให้ด้วยความรังเกียจ"มาจนได้นะยัยเนยเน่า" คุณเพชรไพรเบะปากแล้วกวักมือเรียกลูกน้องสาวสองคน "เธอสองคนไปจัดการหาที่นั่งให้แม่คนนั้นหน่อยนะเอาให้ห่าง ๆ ลูกชายกับลูกสะใภ้ของฉันหน่อยก็ดี"ทายาทหนุ่มหล่อเดินตรงเข้ามาในงานหลังจากที่เขาไปแต่งตัวอยู่ที่บ้านทัสคานีหลังเล็กปลายไร่ที่แม่เคยสร้างไว้ให้เขาตอนที่กลับมาจากเมืองนอก แต่เขาก็แทบจะไม่ได้อยู่ใช้มันเลย ร่างสูงโปร่งร้อยแปดสิบกว่าในชุดสูททักซิโด้สีดำปาดผมเปิดหน้าขาวเคร่งขรึมมองหาปาลินที่ถูกแยกจากเขาไปแต่งองค์ทรงผมในบ้านสไตล์อิตาลีหลังใหญ่ ด้านข้างของเขามีเชส คิงและกั้งติดสอ
รถฟอร์จูนเนอร์ของเชสขับมาส่งบอสและนายหญิงที่บ้านทัสคานีที่อยู่ห่างจากโรงบ่มไวน์เกือบสิบโล พิรุณอุ้มร่างอ่อนปวกเปียกของปาลินออกมาจากรถแล้วสั่งงานบางอย่างที่สำคัญให้กับลูกน้องทั้งสามคน"ฉันคงอยู่ที่ไร่อีกหลายวันจะได้คุยกับแม่เพื่อตระเตรียมเรื่องสู่ขอปาลินด้วย ยังไงที่นี่ก็ให้คิงกับกั้งอยู่แทนไปก่อน ส่วนเชสกลับไปดูแลเรดเรนกับเลานจ์ อีกอย่างเรื่องของเนยที่ส่งคนมาทำร้ายลินเดี๋ยวค่อยว่ากันหลังจากที่ฉันกลับไป""แล้วบอสไม่จัดการตามกระบวนการกฏหมายเหรอครับ""มึงคิดว่าคนอย่างเนยใช้กฏหมายเล่นงานได้ด้วยเหรอวะไอ้คิง" คิงทำหน้าครุ่นคิดตาม "เอาเหอะพวกมึงไปพักที่รีสอร์ตของไร่เถอะกันกูจองห้องไว้ให้เรียบร้อย""รับทราบครับบอส" หลังจากที่ผู้ช่วยทั้งสามแยกย้าย ชายหนุ่มในชุดทักซิโด้ก็วางแม่คออ่อนาลงบนเตียงนอน และเข้าไปอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวก็อก! ก็อก!พิรุณเปิดประตูห้องน้ำออกมาตามเสียงเคาะเรียก เป็นยัยเด็กดื้อที่อยู่ในชุดสวยกำลังยืนทำหน้าสะลืมสะลืออยู่ตรงหน้า"ลินจะเอาอะไรครับปวดหัวตรงไหนหรือเปล่า" ปาลินยกนิ้วชี้มาที่เขา พิรุณขมวดคิ้วงง พลันใดแม่คนเมาปลิ้นก็พุ่งตัวเข้ามากดเขาแนบกับผนังห้องน้ำ "พี่เรนขา ถอด
คนตัวนิ่มถูกวางลงได้ไม่ทันไร แพนตี้จิ๋วสีดำก็ถูกเกี่ยวออกไปจากปลายขา มือน้อยยันกับผนังตู้กระจกอาบน้ำไว้อย่างเสียวซ่านเพราะคนเบื้องล่างกำลังส่งมือและนิ้วไล้ขึ้นมาไต่ยั้วเยี้ยตามขานุ่มด้านใน พรมจูบไปทั่วทุกตารางนิ้วของขาเรียวเล็ก "พี่เรน" ทั้งที่เขายังไม่ได้ทำอะไรแต่ปาลินก็ครางเรียกชื่อเขาเสียงสั่นล่วงหน้าไปก่อนแล้ว"พี่อยากสำรวจร่างกายและตีตราจับจองทุกพื้นที่ให้ลินรู้ว่าพี่ประทับตราด้วยสัมผัสของพี่ไว้หมดทุกส่วนแล้ว" เขายืนขึ้นปลดเปลื้องพันธนาการของตนเองจนไม่เหลือสิ่งใดปกปิด กล้ามเนื้อแกร่งเป็นลอนเซ็กซี่ของบุรุษเพศทำให้ดวงตาของของปาลินวูบไหว ใบหน้าแดงซ่านยันกกหูมือแกร่งเอื้อมเปิดฝักบัวให้กระแสน้ำที่เย็นฉ่ำไหลรดอาบร่างเล็กที่อยู่ใต้แผงอก เวลาที่เธอยืนเสมอตัวกับเขาความสูงของเธออยู่เพียงแค่อกเท่านั้น พิรุณเห็นว่าร่างกายของปาลินหนาวสั่นจึงได้ปรับเปลี่ยนอุณหภูมิของน้ำให้อบอุ่นขึ้น หลังมือขาวเนียนละเอียดเคลื่อนขยับไปตามสัดส่วนเว้าโค้งตั้งแต่ช่วงบั้นท้ายเล็กงอน ครั้งออกแรกผลักคนตัวเล็กที่กำลังยืนเกร็งก็บดเบียดชิดกับลำตัว"พี่เรนอาบน้ำสองรอบเลยนะคะ" เพราะรู้สึกเขินอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ปาลิ
วันนี้เป็นวันเสาร์อาทิตย์ พ่อแม่ลูกทั้งสี่คนจึงพากันจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ ที่บ้านลุงโทนธรรม และเพื่อฉลองงานวันเกิดอันอบอุ่นให้กับดาเนีย ซึ่งของกินจำนวนมากถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยฝีมือของพ่อบ้านมาเฟียสองคน คือ พิรุณ กับ สุริยะ สองเพื่อนซี้ที่โตมาพร้อมกันตั้งแต่วัยอนุบาล เพียงแค่สบตาก็เดาได้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรทั้งสองแข่งกันสับเนื้ออย่างสนุก พิรุณสับไก่ย่าง ส่วนสุริยะก็สับเป็ดย่าง ปาลินกับดาเนียเอียงคอซุบซิบกันรู้สึกว่าสามีของพวกเธอจะจริงจังกับการสับมากเกินไป จนลูกน้องที่นั่งรอยืนกลืนน้ำลายกันเป็นแถว ๆ เพราะลูกพี่เอาแต่บรรจงสับอย่างละเมียดละไม"พิเรนทร์! โมนเหวข่ะ เหวจะแย่" พราวมนต์คือผู้กล้าที่เข้าไปเขย่าขาของปะป๊าเรนให้หยุดสับไก่ย่างสักที "อาแช็คอาแช็คเม่ก เม่กจากิมเปรต" กลเมฆเองก็ไม่ยอมเข้าไปเกาะขาอาแซ็คพยายามเขย่งสุดตัวเพื่อจะดูว่าเมื่อไหร่จะได้กินเป็ด"โอเคครับ ปะป๊าสับไก่ให้น้องมนต์เสร็จแล้วครับ อันนี้น้ำจิ้มนะลูกมีแบบเผ็ดกับไม่เผ็ด ปะป๊าทำเองเลยนะ" พิรุณยื่นถาดหลุมของเด็กที่มีไก่ของโปรดสับเป็นชิ้นน้อย ๆ ให้ลูกสาวไปรับประทานที่โต๊ะกับคุณแม่"ขบคูนค่าพิเรนทร์" พิรุณฉีกยิ้มเอ็นดูลูกสาวที่ต
พัฒนาการของพราวมนต์และกลเมฆล่วงเลยมาจนถึงสี่ขวบและพร้อมที่จะเข้าสู่ชั้นเตรียมอนุบาลปาลินกับพิรุณจึงพาไปสมัครเรียนที่โรงเรียนในเครือเวหะศิลปการ หรือโรงเรียนอนุบาลเวหะซึ่งมีทัพฟ้า เพื่อนสนิทในกลุ่มเดอะเซฟเฟอร์นั่งแท่นบริหารต่อจากครอบครัว"หวัดดีคร้าบ สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ เชิญเลยครับผม" ผู้อำนวยการหนุ่มสุดหล่อหุ่นสูงชะลูดราวกับดารายืนยกมือไหว้ผู้ปกครองต้อนรับภาคการศึกษาใหม่อย่างอ่อนน้อม"ฮานึล! " ชื่อเกาหลีของเขามักจะไม่ค่อยได้ถูกเรียกบ่อยนักแต่ถ้ามีคนกล้าเรียกขึ้นมาก็เดาได้เลยว่าเป็นฝีมือของเพื่อนในแก็ง ผู้อำนวยการหนุ่มหันไปแล้วยิ้มกว้างทันทีที่เห็นใบหน้าของพิรุณยืนยิ้มแป้นให้ด้านข้างมีลูกชายวัยสี่ขวบยืนเกาะขาพ่ออยู่ด้านข้าง"ไอ้เรนมาแล้วเหรอวะ สวัสดีครับคุณลิน อ้าวสวัสดีครับพราวมนต์กลเมฆ จำอาได้ไหม คงจำไม่ได้แหละเนอะอาเคยวีดีโอคอลคุยกับพวกหนูด้วยตอนนั้นแค่สองขวบเองมั้ง" "ซาหวัดเดค้าบอาฝ้า ซาหวัดเดค่าอาเฟ้อ" ลูกแฝดสองคนของเพื่อนที่ยังพูดจาไม่ค่อยชัดทำเอาทัพฟ้าถึงกับหลุดยิ้มด้วยความเอ็นดู"ลินกับพี่เรนฝากลูกด้วยนะคะคุณฟ้า ทัพฟ้าหรือฮานึล ลูกเสี้ยวไทยเกาหลีที่ต้นตระกูลเป็นคนเกาหลีแล้วย
"พี่จะเสริฟ์พิซซ่าให้ลินกินไปยันเช้าเลย จัดให้หกถาดจุก ๆ เลยดีไหมครับ" สิ้นเสียงที่คลอเคลียรดแถวเนินอกของเธอ ปากกระจับก็ตะโบมดูดลงมาบนยอดถันอย่างกับทารกเพศชาย ขณะที่ดูดกลืนอกของเธอมือทั้งสองข้างก็นวดบีบเต้าที่พองขยายไปด้วย นัยน์ตาที่เปี่ยมด้วยไฟปรารถนาปรือขึ้นมองดูใบหน้าที่หลับพริ้มรับเคลิบเคลิ้มในรสราคะ"อึ้ม...ปะป๊าเรนดูดแรงไปแล้วนะคะ...อ๊าพี่เรน!" ก็คนมันคิดถึงเมียใจจะขาด จะให้มาเนิ่บนาบอ้อยอิ่งอยู่ได้ยังไง แต่ถึงแม่ตัวเล็กของเขาจะบอกว่าเขาดูดแรง แต่ก็แอ่นหน้าอกต้านรับริมฝีปากของเขาไม่หยุดนิ้วทั้งสิบของปาลินแทรกเข้าไปในเรือนผมมือไม้ไล้วนหัวทุยจนสะเปะสะปะด้วยความซ่านเสียวเกินบรรยาย คงเพราะตั้งแต่ที่เธอตั้งท้องและเริ่มมีน้ำนม เต้านมที่คอยปั๊มนมให้ลูกอยู่เป็นประจำมันเริ่มอ่อนไหวได้ง่ายขึ้น ทั้งที่พี่เรนยังไม่ได้แตะส่วนอื่นของร่างกายแต่เธอก็เกือบไปถึงเส้นชัยก่อนเขาเสียแล้วคนที่กำลังหลงอยู่ในรสสวาทถูกกดแช่ลงกับหมอนใบโตกว่าจะรู้ตัวว่าสามีเปลื้องผ้าจนเหลือแต่เนื้อตัวว่างเปล่าก็เป็นตอนที่มือหยาบโลนดันเนินขาอ่อนนุ่มด้านในของเธอจนฉีกออกกว้าง"ฮ้า....อ๊ะพี่เรนขา" ใบหน้าขาวแทรกเข้ามาที่กลางห
กั้งกับคิงที่อยู่ในชุดพ่อบ้านสวมผ้ากันเปื้อนสีดำสรีนฟ้อนต์ว่า 'พ่อบ้านเรดเรน' กับเจ๊กัลยาช่วยกันเลี้ยงพราวมนต์กับกลเมฆที่เริ่มคลานไปทั่วและซุกซนตามวัย ทันใดที่ทั้งสองเห็นเจ้านายแบกนายหญิงออกมาจากรถ พวกเขาก็วิ่งถลาเข้าไปหาบอสด้วยความคิดถึง"บอสคร้าบบบบ" ลูกน้องคู่หูดูโอ้ร้องเรียกพร้อมกัน"แต่งตัวอะไรของพวกมึง" กั้งกับคิงยิ้ม"ก็ชุดพ่อบ้านไงครับ โน่นทุกคนก็มีเหมือนกันหมด" คิงชี้ไปที่ลูกน้องอีกสิบคนที่ช่วยกันตัดหญ้า ปลูกดอกไม้ อาบน้ำหมา และทำความสะอาดบ้านรอต้อนรับบอสอย่างขยันขันแข็ง ทุกคนต่างมีชุดผ้ากันเปื้อนสีดำสกีนคำว่าพ่อบ้านเรดเรนเหมือนกันหมดทุกคน"ลินทำให้เองแหละค่ะน่ารักดี แต่พี่เรนวางลินก่อนได้ไหม"ฉิบหายแล้วเมียเปลี่ยนลูกน้องหน้าโหดเข้าสู่โหมดฟรุ้งฟริ้งได้ภายในหกเดือน แล้วแบบนี้แก็งอื่นกลุ่มอื่นมันจะกลัวกันไหมวะเนี่ย พิรุณยอมวางภรรยาลง ปาลินยิ้มกริ่มอย่างมีเลศนัยทันที"อะไรตัวแสบ" คิ้วเข้มกระตุกอย่างสงสัย ปาลินวิ่งหายเข้าไปในบ้านแล้ววิ่งออกมาสะบัดผ้ากันเปื้อนสีดำสกรีนลายเดียวกันกับลูกน้องของตน"ลินมีของพี่เรนด้วย ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะคะคุณสามี....จุ๊บ!" ปาลินสวมผ้ากันเปื้อนให้พิ
6 เดือนผ่านไปพิรุณเดินทางกลับมาจากนิวยอร์กพร้อมกับเชสและทนายความกริช ทนายคนสนิทรุ่นพ่อของลุงโทนธรรม แต่ดาเนียที่ไปด้วยกันนั้นเลือกที่จะไปเรียนต่อที่สถาบันแฟชั่นอีกสามปี เพื่อหลบไปเลียแผลใจ ดวงหน้าคมขาวยิ้มสดใสเมื่อเขาแอบหลบซ่อนอยู่ภายในห้องทำงานในสุดของเลานจ์ซึ่งเป็นห้องกระจกเงาที่อยู่หลังห้องของปาลินอีกชั้น เรียกได้ว่าเป็นห้องแห่งความลับที่ใช้หลบศัตรูยามมีภยันอันตรายเขากลับมาถึงตั้งแต่เมื่อเช้าและรีบบอกเชสว่าเขาจะมาแอบดูปาลินทำงานสักพักหนึ่ง เขาอยากนั่งมองเมียเงียบ ๆ และดูว่ายัยตัวเล็กของเขานั้นเก่งกาจขนาดไหน เพราะตั้งแต่เขาจากไปภรรยาที่ใคร ๆ เคยสบประมาทก็งัดความสามารถในการเป็นผู้นำชายฉกรรจ์อีกหลายสิบชีวิตขึ้นมาและคุมพวกเขาได้อยู่หมัด ด้วยรอยยิ้มหวานแต่ยามเอาจริงก็ดูน่าเกรงขามและสง่างามจนลูกน้องใต้อาณัติของเขายังต้องยอมก้มหัวให้นายหญิง"น้ำแตงโมปั่นค่ะคุณลิน" จูน ผู้จัดการของเลานจ์เดินนำน้ำแตงโมเข้ามาเสริฟ์พลางชำเลืองมองห้องกระจกเงาที่ซ้อนอยู่ติดกับห้องทำงานของนายหญิง จูนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนปาลินเหลือบมองใบหน้าที่เอาแต่ยืนยิ้มของผู้จัดการ"มีความสุขอะไรคะวันนี้" ปาลินยิ้มทัก"ปะ....เ
หลังจากที่เมื่อคืนพิรุณกับปาลินรีบร้อนกลับบ้านเพื่อจะมาบอกลาแม่เพชรไพร แต่เธอก็รีบกลับไปพร้อมกับเจ้าสัวเทิดวิช และโทรตามให้เจ๊กัลยามาดูแลหลานแฝดแทน คืนนั้นทั้งคืนปาลินอดวิตกกังวลแทนสามีไม่ได้เพราะเท่าที่เธอและเขารู้ก็มีเพียงแค่ เกิดเรื่องวุ่นวายที่ไร่วิโอล่า แล้วพอถามแม่ของเธอ เจ๊กัลยาก็เอาแต่ส่ายหน้าบอกไม่รู้ท่าเดียว มันทำให้เธอนอนกระสับกระส่ายทั้งคืนจนตื่นนอนตั้งแต่ตีห้าเพื่อปั๊มนมให้ลูก ๆ ระหว่างนั้นจึงเปิดทีวีดู ดวงตาที่สะลืมสะลืออยู่นั้นเบิกตากว้างสว่างโล่งทันทีที่เห็นข่าวไร่องุ่นถูกไฟไหม้ และไร่ที่ว่านั้นก็คือไร่วิโอล่านั่นเอง"พี่เรนคะ พี่เรนมาดูนี่เร็ว" พิรุณที่กำลังแก้ผ้าอยู่นั้นรีบตะครุบเอาผ้าขนหนูมาพันเอวสอบเอาไว้ เพราะเมียรักรีบลากแขนให้ไปดูบางสิ่งที่ด้านล่าง"อะไรครับลิน หรือลินอยากกินพี่เป็นมื้อเช้าครับ""ไม่ใช่ซะหน่อยค่ะ ลินจะให้พี่เรนดูข่าวในทีวี ดูสิคะข่าวไร่องุ่นวิโอล่าถูกลอบวางเพลิง"พิรุณกดเร่งเสียงในโทรทัศน์ที่ผู้รายงานข่าวเป็นบุคคลที่เขารู้จักดี ไพรัช กิตติโชจน์ พ่อตาของชิตพล เพื่อนสนิทของบอสธิ"เกิดอะไรขึ้นกันแน่" พิรุณรีบโทรตามเชสให้สืบข่าวดังกล่าว ส่วนเขาโทรไ
หลังจากที่ปาลินกับดาเนียทักทายกันและพูดคุยกันอย่างถูกปากถูกคอ โทนธรรมก็เดินมาพร้อมกับเชสแล้วกวักมือเรียกพิรุณให้เข้ามาหา เขาทำหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อยเมื่อได้รับรู้ว่า พันธมิตรคู่ค้าหนุ่มคนใหม่ที่มีอายุไล่เลี่ยกับหลานชายนั้นมีประวัติโชกโชนมาก่อน"ถึงฉันจะเรื่องมากไม่อยากให้แม่หนูปาลินนั่นแต่งงานกับแก แต่ดู ๆ แล้วก็คงไม่มีใครรับมือแกได้ดีเท่าหนูลินอีกแล้ว อีกเรื่องลุงขอโทษด้วยล่ะกันที่คอยยัดเยียดผู้หญิงให้แกตลอด ส่วนเรื่องชนะศรลุงจะคอยจับตาดูให้อีกแรง ถ้ามันคิดตุกติกกับฉัน ยังไงฉันก็ไม่เก็บมันไว้หรอก แกพาเมียกลับบ้าน ป่านนี้ลูกกระจองอแงกันหมดแล้ว""ทำไมลุงถึง" พิรุณรู้สึกอึ้งแล้วเหลือบมองหน้าเชส มือขวาคนสนิทได้แต่ยิ้มส่งให้เป็นคำตอบ เขาแทบจะไม่เชื่อเลยว่าลุงจะยอมรับเมียของเขา ทั้งที่ผ่านมาคัดค้านมาตลอด"เฮ้อ!....ถ้าแกจะถามฉันว่าเพราะอะไร ก็คงเป็นเพราะลูกแฝดของแก เด็กมันไม่รู้เรื่องอะไร ฉันก็ขี้เกียจจะพรากพ่อแม่ลูก แค่แม่ยัยเนียตายไปตั้งแต่ยัยเนียยังเด็กฉันก็รู้สึกว่าตัวเองมีเวรกรรมติดตัวมากพ่อแล้ว ถึงต้องใช้ชีวิตโดดเดี่ยวมาตลอดแบบนี้""แสดงว่าคุณปู่โทนธรรมเห่อหลานซะแล้ว แต่ต่อไปยัยเนียก
กลางงานแถลงข่าวเปิดตัวร่างสูงโปร่งที่สูงกว่าพิรุณ เดินผ่าวงล้อมตรงเข้ามาทักทายเขาจากทางด้านหลัง มือหนาวางลงบนบ่ากว้า กั้งกับคิงผงะแล้วปรี่เข้าไปซ้อนอยู่ด้านหลังนายหญิงเมื่อเห็นบุคคลที่มีใบหน้าเย็นชากว่าเจ้านายของตน กับแววตาไร้ความปราณีตวัดมองมา เขาพยักหน้าทักปาลินเล็กน้อย ก่อนที่พิรุณเพื่อนสนิทที่สุดของเขาจะหันหน้ามาปะทะ"แซ็ค!" พิรุณตกใจที่เห็นเพื่อนของตนในงานของลุงโทนธรรม"กูมีเรื่องจะคุยด้วย" เพื่อนสนิทที่ไม่เจอกันเกือบห้าปีเต็มพากันเข้าไปคุยในห้องวีไอพีของโรงแรม นัยน์ตาว่างเปล่าที่เต็มด้วยความโศกสลดยังคงอาบชุ่มเจือปนอยู่จนผู้ล่วงรู้อดีตที่เจ็บช้ำของเพื่อนรักอย่างพิรุณถึงกับรู้สึกสร้อยเศร้าไม่ต่างจากเพื่อนซี้"มึงไปบอสตันมาใช่ไหม" พิรุณทักพลางส่งวิสกี้ให้เพื่อนจิบ เขารับมาจิบไปอึกใหญ่แล้ววางแก้วลง"อืม" เสียงทุ้มทรุดตัวลงนั่งบนโซฟายกขาข้างหนึ่งขึ้นไขว่ห้าง "เมื่อวานน้องสาวมึงมาวุ่นวายกับกู""กูขอโทษด้วยว่ะที่ดาเนียไปตอแยมึง" เขาเอ่ยแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้าม"ก็ไม่ได้ตอแยอะไร แค่มาสมัครงานเลขา""แล้วมึงรับดาเนียเข้าทำงานหรือเปล่า""กูรับเลขามาสามคน คนนึงปรนนิบัติตอนกลางคืน คนนึงตอนกลางวั
โรงแรมห้าดาวชื่อดังเป็นสถานที่จัดงานเปิดตัวโครงการใหญ่แห่งใหม่ระหว่างโทนธรรม ประเมคินทร์ และ ชนะศร ภพนคร ภายในงานเต็มด้วยสื่อมวลชนจำนวนมาก ชายหนุ่มใบหน้าหล่อนิ่งเย็นชาในมาดนักธุรกิจผู้มีเชื่อและผู้บริหารเลานจ์หรูในกลางมหานคร พิรุณ ประมะเมคินทร์เป็นที่จับตามองของทั้งบุคคลผู้มีชื่อเสียง และเหล่านักธุรกิจหนุ่มสาวจำนวนมากทว่าทุกคนภายในงานก็ต้องตื่นตาตื่นใจกับคู่ควงที่ไม่เคยมีใครแทบจะได้พบเห็นหน้าตา และเป็นภรรยาหนึ่งเดียวของชายหนุ่มผู้มีดวงหน้าขาวสว่างดั่งจันทร์สาดส่อง ไม่ว่าใครที่ชายตามองตางก็ต้องหยุดพิจารณาความสุขุมของมาเฟียนักธุรกิจผู้นี้แต่ใครจะปรายตามองหว่านเสน่ห์ให้เขามากเพียงใด จริตน้อยใหญ่ทั้งหลายที่โปรยมาให้เขาได้เชยชม เขาก็ไม่อาจตอบรับหญิงใดได้อีก เพราะเขามีสายตาและหัวใจมอบให้แด่ ปาลิน ประมะเมคินทร์แต่เพียงผู้เดียว"พี่เรนคะ คนเยอะจังเลยลินไม่ค่อยชินที่มีแต่คนจ้องมองมาที่ลินตลอดเวลา" มือเย็นเฉียบกอบกุมมืออุ่นของสามี นัยน์ตาละมุนหลุบมองมือที่สั่นระริกของภรรยาแล้วจูงให้เธอเดินมาในมุมมืดของโถงทางเดินด้วยกัน"หายใจเข้าลึก ๆ ไหนลองสิครับ" ปาลินสูดหายใจเข้าออกช้า ๆ แล้วส่งยิ้มให้สามี