เออ! นั่นดิ แล้วทำไมต้องเรียกวะ?“ฉันหมายถึงเอาโทรศัพท์เธอมาให้ฉันดูหน่อย”เหมือนจะสีข้างถลอก แถไปแบบน้ำขุ่นๆ“นี่ค่ะ” ไฉ่หงยื่นโทรศัพท์ราคาแพงมาให้ ผมลองกดๆ ดูก็ไม่เห็นจะมีอะไรยัยนี่คงมีเครื่องไว้ประดับแต่ไม่เคยใช้เลยสินะ รูปถ่ายในเครื่องก็ไม่มี เบอร์โทรก็มีแค่เบอร์ไอ้เทียนเบอร์เดียว แต่เดี๋ยวนะ...ผมกดไปดูบันทึกการโทรเข้า เห็นมีหนึ่งสายล่าสุดที่โทรเข้ามาเมื่อไม่กี่นาทีก่อน แต่พอสังเกตดีๆ เบอร์นี้เป็นเบอร์โทรจากต่างประเทศและน่าจะเป็นฮ่องกงเพราะไอ้เทียนชอบใช้เบอร์ที่ขึ้นต้นคล้ายๆ กันโทรหาผมบ่อยๆ“นี่เบอร์ใคร?” ผมถามน้ำเสียงติดดุๆ“คุณยูกิรู้จัก?” เธอถามกลับ ติดดีใจหน่อยๆคิดว่าที่ผมถามเพราะผมรู้? บังเอิญไม่ใช่สมุดหน้าเหลืองน“ถามให้ตอบ ไม่ใช่ให้ย้อนถามคืน” ผมปรายตาดุๆ ส่งไปให้คนที่ยืนรอคำตอบผมด้วยใบหน้ามีความหวังเป็นเด็กเป็นเล็กไม่รู้จักมารยาท ได้ข่าวพรุ่งนี้ถึงจะครบยี่สิบเอ็ดปีเต็มไม่ใช่? ห่างกับผมตั้งเกือบสิบปี หลังๆ คะ ขา นี่ไม่มีลงท้ายด้วยเหอะ“หงส์ไม่ได้อยากย้อน หงส์แค่เห็นคุณยูกิมองเบอร์นั้นอยู่นานสองนาน ทำท่าทางเหมือนกำลังนึกอะไรในใจ เลยลองถามดูเผื่อจะเป็นเบอร์คนรู้จัก”ไฉ่หง
[Special’s part]หลังจากที่สามสาวก้าวเท้าขึ้นมายังชั้นดาดฟ้า สถานที่จัดงานที่ถูกเนรมิตให้เหมือนดั่งสรวงสวรรค์ เพลงคลาสสิคที่ดังคลอเบาๆ ชวนให้บรรยากาศหน้าจิบไวน์หรือของมึนเมาบริเวณรอบๆ ตรงสระว่ายน้ำมีเทียนวางล้อมรอบให้ความอบอุ่นและแสงสว่างรำไร หากมองไปทางริมระเบียงดาดฟ้าจะเห็นว่าถูกตกแต่งไปด้วยลูกโปร่งหลากหลายสีสันข้างผนังกำแพงด้านในมีผ้ากำมะหยี่สีขาวสะอาดตาถูกขึงตรึงไว้ด้วยหมุด พร้อมตัวอักษณ์สีส้มอ่อนๆ‘HAPPY BIRTHDAY TO CAIHONGสุขสันต์วันเกิดไฉ่หง’ทำให้เจ้าของวันเกิดที่กำลังกวาดตามองรอบๆ ยิ้มกว้างด้วยใบหน้าตื้นตัน“สวยมากอะหงส์ กรี้ด ตาอิจฉา” เสียงหวานๆ ของสิตาดังขึ้น เธอตื่นเต้นราวกับนี่เป็นงานวันเกิดตัวเองเสียอย่างนั้น“น้อยๆ หน่อย ออกหน้าออกตานะเธอ ป้ะ! ไปตรงนู้นกันดีกว่า” เสียงพี่ใหญ่อย่างลิชาเอ่ยขึ้น พร้อมกับคว้าข้อมือสองสาวอย่าง ไฉ่หงและสิตา เดินเข้ามาในงานเมื่อเจ้าของวันเกิดที่ทั้งสวย และโดดเด่นที่สุดในงานปรากฏตัวขึ้น ทำให้มีสายตาหลายสิบคู่กำลังมองมาที่เธอเป็นจุดๆ เดียวสาวสวยรูปร่างเพอเฟค หุ่นไซส์เอส ที่สาวๆ หลายคนใฝ่ฝันและหนุ่มๆ หมายปอง แล้วไหนจะชุดที่ชายใดได้มองต้องกลื
หลังจากรับของขวัญวันเกิดจากคนที่มาร่วมงานที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีเพราะส่วนมากเป็นพนักงานของยุกกี้ กว่าจะเสร็จก็ปาไปหลายชั่วโมง ตอนนี้ฉันเริ่มมึนหัวนิดหน่อยเพราะหลายคนชวนชนแก้วกับฉันทุกครั้งที่เอาของขวัญมาให้“ไหวมั้ยเรา” มอม้าเดินมานั่งยองๆ ข้างเก้าอี้ตัวที่ฉันนั่งอยู่“ถ้ามีชนอีกคงไม่ไหว” ตอบด้วยความสัจจริง ถ้ามีอีกคนยื่นแก้วเหล้ามาให้มีหวังฉันล้มพับก่อนได้เป่าเค้กวันเกิดแน่นอน“ฮ่าๆ” เสียงหัวเราะของเอฟวันดังขึ้น ก่อนหน้านี้ฉันได้รู้จักชื่อบุคคลสองคนที่ไม่คุ้นหน้าเรียบร้อยแล้ว แก้มใสเธอเป็นคนแนะนำให้รู้จักน่ะคนที่น้ำเสียงติดทะเล้นๆ เขาชื่อ ‘เอฟวัน’ส่วนอีกคนที่ฉันบอกว่าน่าจะอายุเยอะสุดชื่อ ‘ไททัน’“หงส์ ได้เวลาตัดเค้กแล้ว” แก้มใสเรียกขึ้นเพราะมัวแต่มองหน้าใครบางคนที่เอาแต่กระดกแอลกอฮอล์เข้าปากถึงกับสะดุ้งตัวนิดๆ “ค่ะ” ตอบรับเสร็จก็เดินไปตรงที่มีเค้กขนาดหลายปอนด์ตั้งตระหง่านแต่ทางที่จะเดินผ่านมันต้องผ่านยูกิก่อนไง แล้วเขาก็เหมือนจะแกล้งหรือทำเป็นไม่รู้ตัวว่าขายาวๆ ของเขากำลังขวางทางเดินฉันอยู่มันเป็นโต๊ะแบบล้อมวงกลมและเป็นเก้าอี้ตัวยาวๆ วางเรียงกันเป็นวงกลมมีทางออกแค่ทางเดียวคือเก้า
ตุ้บ!ร่างเล็กของฉันถูกทิ้งลงบนเตียงหนาใหญ่ด้วยฝีมือของคนฉวยโอกาส“คุณจะทำอะไร” รีบกระถดตัวถอยไปทางหัวเตียง สอดส่ายสายตามองหาทางหนีทีไล่ แต่มันคือเรื่องซวยของฉันตรงที่เตียงนอนของอยู่กิอยู่ติดกำแพงข้างหนึ่ง ส่วนข้างที่โล่งไม่มีอะไรขวางกั้นกลับมีร่างสูงยืนคุมเชิงอยู่อีกที“ฉันบอกแล้ว ให้เธอรีบไป แต่ก็ไม่!” ยูกิพูดรอดไรฟันแม้เสียงจะดูเหมือนกำลังโทษฉัน แต่สายตาที่กำลังมองสำรวจร่างฉันมันกำลังแผดเผาชุดที่สวมใส่อยู่ให้กระจุยกระจาย“ห.. หงส์จะไปแล้ว หงส์เชื่อคุณแล้ว” ตอบรับคำสั่งโดยไม่อิดออด ผละตัวเตรียมคลานลงจากเตียงนอนเพราะยูกิเริ่มขยับตัวเปิดทางให้ฉันแต่นั่นฉันคิดผิด... เขาไม่ได้เปิดทางให้หนีแต่…“จะไปไหน”“โอ๊ย! กรี้ด!” ฉันกรีดร้องด้วยความตกใจ เมื่อยูกิทิ้งน้ำหนักตัวลงมาทับฉันในท่ากำลังคลานตัวมายังปลายเตียงฉันล้มในท่านอนคว่ำ ยูกิทาบทับฉันอยู่ด้านบนอีกทีตึกตัก ตึกตักไม่ใช่เสียงหัวใจที่เขินอาย แต่มันคือเสียงเตือนว่าท่านี้ไม่ปลอดภัย“ปล่อยหงส์เถอะค่ะ หงส์ไม่กล้าขัดคำสั่งคุณยูกิแล้ว”พูดไปก็พยายามดิ้นให้คนตัวใหญ่ที่อยู่ด้านบนหลุดพ้นจากแผ่นหลังตัวเองสักที ความอุ่นร้อนของผิวกายที่โผล่พ้นออ
“ใหญ่ อื้อ ชอบ” ไม่แน่ใจว่านั่นเป็นประโยคบอกเล่าหรือแค่พูดกับตัวเองเดี๋ยวนะ! เมื่อกี้ฉันบอกแค่ว่าชุดมันกำลังร่นลง แต่ทำไมตอนที่ฉันมองตามเสียงพูดยูกิถึงได้เห็นร่างกายช่วงบนที่เปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ปกปิดแบบนั้น“อย่ามอง คนฉวยโอกา..ส โอ๊ย!” เขากัดเนื้อที่ล้นออกมาจากกำมือที่กำลังกอบกุมมันอยู่ทั้งสองข้าง มันทั้งเจ็บ ชวนขนลุกอย่างบอกไม่ถูกร่างกายฉันอ่อนเปรี้ยทันทีที่ริมฝีปากหนาหยักลึกกำลังครอบครองยอดอกที่เต่งตึงของฉัน มืออีกข้างก็ทั้งบีบ นวด เคล้น คลึง เขาทำทุกอย่างเหมือนกับมันคือของเล่นที่นิ่มๆ ชนิดหนึ่ง“อืม~” ไม่! ฉันไม่อยากได้ยินเสียงน่าอายพวกนั้น ทั้งของฉันและของเขา“พอ อย่าเล่น เลิกแกล้งหงส์ได้แล้ว” ฉันยังคงปลอบใจตัวเองคนเกลียดขี้หน้ากัน เขาทำกันแบบนี้เหรอจำเป็นต้องใกล้ชิดขนาดอากาศไม่ให้ลอดผ่านแบบนี้ไหม?“ไม่ได้อยากทำ แต่เลิกไม่ได้ อาส์”สติฉันกำลังลางเลือนไม่รู้เมื่อกี้ยูกิพูดว่าอะไร จิตใจมันกำลังหวาดระแวงและเป็นกังวลว่าไอ้ชุดที่มันลงไปกองค้างปิดสะดืออยู่จะหลุดต่ำลงไปกว่านั้นตอนไหน ทั้งตัวฉันมีแค่เดรสสีชมพูตัวนี้ กับซับในที่เป็นเหมือนแพนตี้เหลือแค่สองชิ้นนี้เท่านั้น ถ้ามันหลุดออกห
“โอ๊ย อื้อ” คนขี้โกง!ยูกิใช้มือข้างไหนไม่รู้ขย้ำหน้าอกของฉันแรงมากจนฉันเผลอร้องออกมาด้วยความตกใจปนสั่นสะท้าน ไม่ใช่แค่บีบ เขากำลังใช้นิ้วมือค่อยๆ ลากวนกับส่วนที่ชูขันของฉันเป็นวงกลม แถมยังค่อยๆ ขยี้มันเหมือนกับนั่นคือดินน้ำมันที่ต้องการจะปั้นให้เป็นก้อนกลมๆ“อื้อๆ” ทำได้เพียงร้องประท้วง เพราะเขายังไม่ยอมถอนริมฝีปากออกไปไม่ไหว หายใจไม่ทัน เหมือนเริ่มจะขาดอากาศไปเลี้ยงปอดและสมอง“อึก เฮือก” ราวกับรู้ว่าฉันกำลังต้องการอะไร ยูกิรีบผละริมผีปากออกมา แต่ก็แค่ชั่วครู่ “อือ” ไม่ใช่เสียงฉันยูกิครางแผ่วลอดออกมาตอนที่กำลังเล่นสนุกกับการไล่เกี่ยวกระหวัดและดูดดุนลิ้นเล็กของฉันในโพรงปากปึกๆ มือฉันเป็นอิสระอีกครั้ง รีบระดมทุบรัวไปทั้งแผ่นหลังข่วนได้ฉันข่วน จิกได้ฉันเลือกจิก เพื่อให้ยูกิละมือที่บีบเคล้นหน้าอกฉันจนแทบจะแหลกละเอียด ส่วนปากนั้นก็กอบโกยเอาความหวานฉ่ำที่ปนรสชาติแอลกอฮอล์ของฉันและเขาแลกเปลี่ยนกันผ่านทางน้ำลาย“อ๊ะ อย่านะ ยูกิ ฉันขอร้อง” ทั้งดิ้น ทั้งอ้อนวอน ยูกิก็ทำเพียงแค่มองและ...“ฉันบอกแล้ว นี่คือของขวัญวันเกิดเธอ”กึก เสียงเหมือนอะไรสักอย่างขาดผึง เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมที่ทำให้พื้นที
[Yuuki’s part]ปวดหัวฉิบหาย แถมยังรู้สึกปวดไปทั้งร่างกาย โดยเฉพาะแขนที่ชาหนึบเหมือนเหน็บกิน“อื้อ” เสียงครางหวานๆ เหมือนโดนก่อกวนดังขึ้น ทำให้ผมได้สติ‘ไฉ่หง’ เธอนอนหนุนแขนขวาผม“ฉิบหายแล้วกู” ผมสบถด่าตัวเองเบาๆ เมื่อรู้ต้นตอของเสียง“ไอ้พวกเชี่ย!” ผมสบถเสียงเบาหวิว กลัวคนที่นอนหลับสบายตื่น ตามเนื้อตัวที่ไม่ได้อยู่ในร่มผ้ามีแต่รอยแดงเป็นจ้ำๆ นี่เมื่อคืนผมรุนแรงขนาดนั้นเลยเหรอวะต้องโทษไอ้มอม้า เมื่อคืนมันเอาเหล้ามาให้ผมเพื่อขอโทษเรื่องที่มันขัดคำสั่งพาไฉ่หงไปโรงพยาบาล ทั้งๆ ที่ผมบอกมันไปแล้วแท้ๆ ไม่ได้ติดใจเอาความอะไรมันแต่มันก็ยังดื้อด้านยืนขอโทษผมจนสุดท้ายผมรำคาญเลยรับแก้วเหล้าในมือมันมาดื่นจนหมดแล้วก็อย่างที่เห็น ‘ในนั้นมียาปลุกเซ็ก’แต่ผมยังไม่เข้าใจ ไอ้มอม้ามันจะทำไปเพื่ออะไร?ดูๆ ไปมันเหมือนหวงไฉ่หงจะตายชัก แต่ช่างแม่ง!ตอนนี้ผมต้องรีบพายัยนี่ออกไปจากห้องผม ก่อนที่เธอจะตื่น ผมยังไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้ ไม่ใช่ว่าผมกลัวความผิดที่ทำไว้เมื่อคืนเพียงแต่... ผมยังไม่พร้อมกับอะไรหลายๆ อย่าง ยังไงยัยนี่ก็น้องสาวเพื่อน ถึงจะไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้แต่ถ้าเธอเรียกร้องผมก็ ‘ยอมรับ’ห
Rrrเสียงแผดร้องโทรศัพท์ดังลั่นดึงสติผมให้กลับมายังปัจจุบัน รีบเอื้อมมือหยิบมันออกมาจากกระเป๋ากางเกงและกดปิดเสียงเมื่อเห็นรายชื่อที่โทรเข้า‘มอม้า’ตอนนี้ผมยังไม่อยากคุยกับใคร ยังตะหงิดใจเรื่องยาปลุกเซ็กเมื่อคืนอยู่ ถึงแม้ลึกๆ ในใจจะบอกว่าไอ้มอม้าแค่หมากตัวหนึ่งในการส่งแก้วใบนั้น แต่ผมยังไม่ปักใจเชื่อเท่าไหร่ในเมื่อก่อนหน้ามันเหมือนพยายามจับคู่ผมกับไฉ่หงRrrเสียงเรียกเข้าดังขึ้นเป็นรอบที่สองด้วยเจ้าของเบอร์คนเดิม คิ้วขวาผมกระตุกยิบๆ เหมือนมีลางสังหรณ์บางอย่างที่ค่อนไปในทางเลวร้ายเกิดขึ้น[ไอ้เฮียยูไหนวะ หงส์หายตัวไป]เฮือก~ ประโยคร้อนรนที่ถูกส่งออกมาหลังจากผมเลื่อนสัมผัสรับสายทำให้ร่างทั้งร่างผมชาดิก จะเป็นไปได้ยังไงที่ยัยนั่นจะหายไปก่อนออกมาผมเป็นคนอุ้มเธอกลับห้องนอนเองแท้ๆ แต่ว่า.. นี่มันผ่านมานานแค่ไหนแล้ววะที่ผมนั่งจมอยู่กับอดีต“ไม่ตลก” ในที่สุดก็หาเสียงตัวเองเจอ[คิดว่าผมตลกหรือไง นี่มันไม่ปกตินะเฮีย] เสียงยียวนกวนส้นดังลอดออกมาอีกครั้ง แต่ยังคงความกลุ้มอกกลุ้มใจ“มึงก็ดูกล้องสิวะ เรื่องฉลาดๆ ไม่ท...”[เพราะเห็นไงว่าหงส์แค่ออกไปข้างนอก แต่นั่นมันชั่วโมงหนึ่งแล้วนะเฮีย]ผมยังด
“ฉันส่งข้อความบอกคู่หมั้นเธอแล้วว่าเธอเปลี่ยนใจจะอยู่ที่นี่ต่อ”วะ ว่าไงนะ! นี่มันมากไปแล้วนะ ฉันไปตัดสินใจแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่“มากไปแล้วนะยูกิ” ฉันเผลอตัวเรียกเขาด้วยชื่ออีกแล้วแต่แทนที่ยูกิจะใส่ใจในเรื่องนั้นเขากลับนิ่งเฉย แต่แวบหนึ่งฉันกลับเห็นความตื่นเต้นกับสิ่งที่ฉันเรียกเขาก่อนหน้าในแววตาคู่คมนั้น“มากตรงไหน ใครจะยอมให้เมียตัวเองไปกับอิแค่คู่หมั้น” ยูกิยังคงเรียกฉันด้วยสรรพนามน่าอายนั้น ตกลงเขาต้องการอะไรจากฉันกันแน่“จะให้ฉันบอกอีกกี่ครั้ง ฉันไม่...”“หรือจะให้ฉันจัดให้อีกสักครั้ง หรือจะเหมายันเช้าดี เธอจะได้จำได้สักทีว่าร่างกายของเธอเป็นของใคร”“อ๊ะ อย่าเข้ามานะ ถอยไป”ยูกิพูดจบก็คุกเข่าค่อยๆ คลานขึ้นมาบนเตียงที่มีฉันนั่งอยู่บนนี้ สายตาเขามีแววความสะใจอยู่ในนั้น เขากำลังสนุกที่ไล่ต้อนฉันได้สำเร็จ“คนไม่มีหัวใจอย่างคุณอย่าเอาคำนั้นมาเรียกคนอื่นดีกว่า” ฉันเมินหน้าไปทางอื่น ไม่อยากมองหน้าผู้ชายที่กำลังเล่นตลกกับหัวใจฉันอีกแล้วฉันมีคู่หมั้นแล้ว เมื่อวันที่อยู่โรงพยาบาลเขาก็น่าจะเห็น และอีกอย่างเฮียเทียนบอกฉันว่าเขาเล่าเรื่องฉันกับเฉินฮ่งให้ยูกิฟังแล้ว แล้วดูสิ่งที่เขากำลังทำ
“นี่จะไม่เอาอะไรไปเลยเหรอหงส์” เสียงสิตาถามฉันฉันออกมาจากโรงพยาบาลสองวันแล้วล่ะ และวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ฉันจะอยู่ที่ยุกกี้คาสิโนแห่งนี้“ตอนมาก็มีแค่ตัวกับเสื้อผ้าชุดนี้ชุดเดียว อย่างอื่นมันไม่ใช่ของหงส์อยู่แล้วนี่”ถึงจะบอกสิตาไปแบบนั้น แต่ในใจฉันกลับปวดหนึบแปลกๆรู้สึกโหวงๆ เมื่อรู้ว่ากำลังจะไปจากสถานที่แห่งนี้ สถานที่ที่สอนฉันในหลายๆ อย่าง สถานที่ที่ทำให้ฉันได้เจอกับความรักครั้งใหม่ตอนที่ลืมคู่หมั้นตัวเอง และได้รับสิ่งตอบแทนที่สาสมที่บังอาจลืมแม้กระทั่งคู่หมั้นได้ลงคอ“แล้วจะกลับมาที่นี่อีกตอนไหนเหรอ” เจ๊ลิชาที่นั่งทำหน้าเศร้าอยู่ปลายเตียงถามฉันน้ำเสียงฟังดูหดหู่หลังจากที่ฉันกลับจากโรงพยาบาลฉันก็ได้คุยเรื่องเฉินฮ่งกับเฮียเทียน เขาเล่าให้ฉันฟังทุกอย่างว่าฉันกับเฉินฮ่งเราเพิ่งหมั้นกันได้หกเดือนก่อนที่ฉันจะมาอยู่ที่นี่และเขาก็ยังบอกอีกว่าที่เฉินฮ่งไม่ได้ออกตามหาฉันเพราะเขาเองก็มีเรื่องต้องทำ แต่ฉันจับผิดสีหน้าพี่ชายตัวเองได้ เหมือนเขากำลังปิดบังอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องที่ฮ่องกง“ไว้มีโอกาสเรานัดเจอกันที่อื่นดีไหมคะ” ฉันเลี่ยงที่จะตอบคำถามเจ๊ลิชาบางทีการออกจากที่นี่ในวันนี้อ
“…” เจอผมด่าหน่อยทำเป็นเงียบปาก“เพราะมึงนั่นแหละ ไอ้ตัวดี” ผมชี้หน้าคาดโทษกรุงโซลสายตาดุกร้าวแม้จะสืบสาวราวเรื่องที่มาของยานรกนั่นได้แล้ว แต่พวกเราเปลี่ยนแปลงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ได้อยู่ดี ผมกับไฉ่หงยังไงเราก็เป็นของกันและกันแล้ว“แล้วมึงจะเอายังไง” เฮียไททันหันไปถามไอ้เทียน“กูบอกมันแล้ว น้องกูว่าไงกูว่าตาม” ไอ้เทียนยืนยันคำเดิมที่เคยบอกผมให้ทุกคนฟัง “กูก็เคลียร์แล้ว” ผมรีบพูดออกไปคล้ายคนร้อนรน“เคลียร์? ไอ้สัส! เมื่อกี้มึงเรียกว่าเคลียร์เหรอวะ!” ไอ้เทียนขึ้นเสียงใส่ผมคำว่า ‘เคลียร์’ ของผมในสายตาไอ้เทียนคงเห็นว่าผมกำลังรังแกน้องมันอืม แต่ก็นะ เมื่อกี้ผมเกือบรังแกไฉ่หงอีกรอบอย่างที่มันคิดนั่นแหละ“เออ นั่นล่ะเรียกเคลียร์ น้องมึงยอมให้กูรับผิดชอบแล้ว”และนั่นคือบทสนทนาที่จบลงของลูกผู้ชายอย่างผม[End part]หลังจากพายุคลั่งของพวกผู้ชายหายไป ในห้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง มอม้ารับหน้าที่พาทิวลิปที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นตามฉันออกไปด้านนอก ทำให้ตอนนี้เหลือเพียงฉันกับแก้มใสสองคน“หงส์ เจ้ขอโทษ” เสียงขอโทษที่ฉันไม่รู้ต้นสายปลายเหตุถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากอมชมพูระเรื่อ“...” ฉันเงียบแต
[Lantian’s part]“พอ แยกๆ” เสียงคมเข้มของไททันดังขึ้น“กูบอกมึงว่ายังไง กูบอกว่ายังไงห๊ะ!” ผมตะคอกหน้าไอ้ยูกิ แม้พวกเพื่อนๆ ของมันจะแยกพวกเราออกจากกันแล้วก็ตามผมว่าจะไม่ระเบิดอารมณ์กับมันแล้วนะ แต่ครั้งนี้ไม่ไหว ใครเห็นผู้ชายคนอื่นกำลังคร่อมร่างน้องสาวตัวเองอยู่จะไม่ของขึ้นได้วะ ครั้งนั้นผมไม่รู้ไม่เห็นเลยดูว่าผมใจเย็นไม่ใส่ใจอะไรใช่ไหม มันถึงได้กล้าหยามหน้าผมแบบนี้“ถุ้ย!” เสียงถ่มน้ำลายของไอ้ยูกิดังขึ้นมันยกมือเช็ดเลือดตรงมุมปากที่ปริ่มออกมาเล็กน้อยออก สองตาคมเข้มของมันยังคงจ้องมองผม ไม่ใช่แววตาเกลียด โกรธ แต่มันมองผมด้วยสายตาธรรมดาๆ เหมือนกับชอบใจที่เห็นผมระเบิดอารมณ์ใส่มันแม่งเป็นมาโซคิสหรือไงวะ สงสัยจะชอบความเจ็บปวด“มึงขัดคำสั่งกู” ผมชี้หน้ายูกิ พร้อมจะกระโจนใส่มันอีกรอบแต่ติดตรงกรุงโซลมันรั้งแขนผมไว้ ส่วนอีกข้างเป็นเอฟวัน“คุยดีๆ สิวะ กัดกันยังกับน้องมึงถูกไอ้ยูกิจับกินงั้นแหละ” เสียงไททันที่อายุเยอะสุดพูดขึ้น ไอ้ห่า! สาบานว่ามึงไม่รู้ ดันมาเสือกพูดถูกจุดมากสัสสงสัยเมื่อกี้พวกมันคงไม่ทันเห็นว่าไอ้ยูกิกำลังคร่อมน้องสาวผมอยู่เพราะผมพรุ่งปรี่เข้าไปกระชากมันลงมาก่อนล่ะมั้ง “กร
เฮือก!สัมผัสกรุ่นร้อนจากริมฝีปากหนากำลังซุกไซ้อยู่ข้างซอกหู ความนุ่มชื้นของปลายลิ้นกำลังลากไล้ดูดดึงผิวเนื้อบริเวณลำคอระหงของฉัน“อ๊ะ! อย่าทำ อื้อ” ทั้งสั่งห้าม ทั้งข่มกลั้นเสียงครางที่น่าเกลียดของตัวเองสองตาเพ่งมองไปยังบานประตูห้องผู้ป่วย กลัวจะมีใครเปิดเข้ามาเห็นฉากที่น่าอายแบบนี้ “อื้อ เธอยังหอมเหมือนเดิม”ยูกิไม่ยอมปล่อยริมฝีปากออกจากลำคอขาวเนียนฉันตอนเอ่ยประโยคนั้น นั่นยิ่งทำให้ฉันเสียวซ่านจากการเสียดสีของริมฝีปากและลมหายใจกรุ่นร้อนที่ออกมาพร้อมคำพูดเขา“ฉันเกลียดคุณ” ข่มกัดฟันบอกเขาออกไปยูกิชะงักการกระทำ แต่ก็แค่ชั่ววินาที จากนั้นเขาก็เริ่มรวบมือทั้งสองข้างฉันไปกุมไว้ที่มือหนาเพียงข้างเดียวของเขา มือที่ว่างก็เริ่มสอดแทรกเข้ามายังชุดผู้ป่วยของโรงพยาบาล“อ๊ะ ไม่” ทั้งเสียงสั่งห้าม ทั้งเสียงน่าอายหลุดรอดจากปากฉันอีกครั้งไม่ได้นะ ฉันไม่อยากให้มันจบลงเหมือนเมื่อคืนอีกแล้ว“หยุดฉันให้ได้สิไฉ่หง เก่งยั่วนักไม่ใช่ ครั้งเดียวเธอไม่นับเองนี่”งั้นสินะ ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว ยูกิต้องการอะไร เขาต้องการให้ฉันบอกให้เขารับผิดชอบฉันสินะไม่มีทาง! ฉันเกลียดเขาแล้ว ความรู้สึกดีๆ ที่เคยมอบให้เขาม
“รีบตื่นขึ้นมาสิ มาปากเก่งด่าฉันอีกสิ ฉันอยากได้ยินเสียงด่าทอของเธอ”ความอุ่นวาบจากฝ่ามือหนาที่กำลังลูบไล้เส้นผมยาวหยักศกด้านหลังฉันช่างขัดกับคำพูดปากดีของยูกกิเสียจริง แต่การกระทำนั้นมันกำลังทำให้ความอ่อนแอเริ่มเล่นงานฉันอีกครั้งกึก พยายามกัดฟันไม่ให้เขาได้ยินเสียงสะอื้นไห้ของตัวเองเมื่อหลายชั่วโมงก่อน หลังจากที่เหตุการณ์เลวร้ายจบลงไปตอนไหนไม่รู้ รู้แค่ตื่นมาอีกทีฉันกำลังนอนอยู่ในห้องของตัวเอง เนื้อตัวที่คาวไปด้วยคราบต่างๆ ก่อนที่จะหมดสติหายไปจากเรือนร่างบนตัวมีเสื้อแขนยาวของฉันเองสวมทับอยู่ บ่งบอกว่ามีคนอุ้มฉันมาที่ห้องเช็ดล้างคาบสกปรกเหล่านั้นและเปลี่ยนชุดนี้ให้ตอนนั้นความรู้สึกมันตีรวนกันไปหมด ทั้งเสียใจ ดีใจ ที่อย่างน้อยคนที่เป็นคนทำร้ายน้ำใจของฉันคือคนๆ เดียวกับที่ดูแลฉันหลังจากทำเรื่องนั้นลงไปแต่จิตใจด้านลบมันมีมากกว่า ฉันเกลียดเขาไปแล้วความตื้นตันใจที่เขาเคยช่วยชีวิตไว้มันหายไปตั้งแต่เขาย่ำยีฉันเมื่อคืน ฉันจะถือซะว่าได้ตอบแทนบุญคุณเขาไปเรียบร้อยแล้ว และต่อจากนี้ไปฉันจะเลือกทางเดินของตัวเองและจะไม่กลับเข้ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตเขาอีกทางใครทางมัน นั่นคือสิ่งที่ฉันคิดได้ในต
“มึงจะโทษว่าครึ่งหนึ่งที่มึงว่ามาจากยานรกนั่น! แม่ง...มึงมันไม่หมาไปหน่อยเหรอวะ!” เสียงคำรามลั่นระบายอารมณ์มาคุถูกเปล่งออกมาอีกครั้ง“ก็ครึ่งหนึ่งไงวะ” ผมยังคงย้ำคำเดิม ความรู้สึกเดิมออกไปผลั้วะ ผลั้วะ!ครั้งนี้ไอ้เทียนรัวมาสองหมัดใส่เบ้าหน้าซ้ายขวาผมข้างละทีเจ็บใช่เล่นถุย! ผมถึงกับถุยน้ำลายปนเลือดเล็กน้อยทิ้งลงพื้นขาวสะอาดเลือดชั่วๆ ออกมาบ้างก็คงดี“มึงจะเอายังไงกับน้องกู” ไอ้เทียนสะบัดมือสองสามทีชกผมตั้งสามครั้ง ไม่เจ็บให้มันรู้ไปสิวะ มือมันแดงเถือกเหมือนกัน“ถ้าเธอเอ่ยปาก กูก็พร้อมรับผิดช...”วืด~ หมับ!ไอ้เทียนจะต่อยผมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ผมรับหมัดมันไว้ทันสามครั้งถือว่ามากพอแล้วกับเรื่องนี้ ผมทำน้องมัน ผมยอมให้มันชกผมแค่นั้นพอ ถ้าจะมากกว่านี้ก็ปล่อยให้คนที่โดนผมกระทำเอาคืนผมเองดีกว่า“มึงไม่รู้อะไร” ไอ้เทียนสะบัดมือออกจากกำมือผมที่กุมหมัดมันไว้อีกที“น้องกูเป็นพวกใจแข็ง ถ้าตัดได้คือ ‘ตัด’ ”อึก~ ผมถึงกับกลืนก้อนเหนียวหนืดลงคอกับประโยคของไอ้เทียน“ถ้าน้องกูฟื้นกูจะถามเอง”“ไม่ได้!” ผมถึงกับร้องท้วงทันทีที่มันพูดจบเรื่องนี้เป็นเรื่องของผมกับน้องมัน ต่อให้มันเป็นพี่ชายก็ไม่ควร
“เรื่องใหญ่ขนาดนี้มึงคิดจะปิดกูอีกนานแค่ไหนวะ” ผมถามมันเสียงต่ำหลังจากที่ไอ้เทียนยอมเล่าถึงสาเหตุที่ทำให้ไฉ่หงความจำเสื่อมให้ฟังเกือบชั่วโมง ผมถึงกับหดหู่อย่างอธิบายไม่ถูก ขนาดผมคนนอกยังเจ็บปวดขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดเลยตอนนั้นไฉ่หงเธอจะรู้สึกยังไง แบบนี้สินะเธอถึงปิดกั้นความทรงจำของตัวเองทิ้งไปผมเหลือบตามองไอ้เทียนที่ตอนนี้นั่งดวงตาแดงก่ำ มันคงทั้งเจ็บแค้น เจ็บปวด ส่วนไอ้มอม้าถึงกับนิ่งเป็นรูปปั้นหิน หน้าตามันไม่บ่งบอกว่าเจ็บปวดก็จริง แต่สายตามันผมดูออกว่าเจ็บปวดกับเรื่องราวที่เพิ่งรับรู้เมื่อกี้มากแค่ไหนหลังจากภายในห้องเงียบไปไม่นานไอ้เทียนเลยพูดขึ้นบ้าง“ทีนี้ก็ตามึงเล่า” มันคะยั้นคะยอผม“ผ่านมาร่วมเดือนมึงยังสืบไม่ได้ว่าฝีมือใคร?” ผมไม่ตอบโทษทีว่ะ! ตอนนี้เรื่องผมมันขี้ประติ๋วสำหรับมัน“นี่มึงจะเล่นตลกอะไรไอ้ยูกิ กูเล่าเรื่องกูให้มึงฟังแล้วอย่ามาเนียน” ไอ้เทียนชี้หน้าผมท่าทางเอาเรื่อง“กูไม่ได้กลบเกลื่อน กูแค่คิดว่าเรื่องของมึงมันสำคัญกว่าเรื่องของกู”เรื่องของผมถ้าบอกไปมันก็แค่คงซัดผมหมัดสองหมัดหรือไม่ก็กระทืบผมจมตีนก็เท่านั้น ซึ่งผมจะบอกมันตอนไหนก็ได้เปล่าวะ?“เออ! กูจะยอมมึงครั้
Rrrเสียงแผดร้องโทรศัพท์ดังลั่นดึงสติผมให้กลับมายังปัจจุบัน รีบเอื้อมมือหยิบมันออกมาจากกระเป๋ากางเกงและกดปิดเสียงเมื่อเห็นรายชื่อที่โทรเข้า‘มอม้า’ตอนนี้ผมยังไม่อยากคุยกับใคร ยังตะหงิดใจเรื่องยาปลุกเซ็กเมื่อคืนอยู่ ถึงแม้ลึกๆ ในใจจะบอกว่าไอ้มอม้าแค่หมากตัวหนึ่งในการส่งแก้วใบนั้น แต่ผมยังไม่ปักใจเชื่อเท่าไหร่ในเมื่อก่อนหน้ามันเหมือนพยายามจับคู่ผมกับไฉ่หงRrrเสียงเรียกเข้าดังขึ้นเป็นรอบที่สองด้วยเจ้าของเบอร์คนเดิม คิ้วขวาผมกระตุกยิบๆ เหมือนมีลางสังหรณ์บางอย่างที่ค่อนไปในทางเลวร้ายเกิดขึ้น[ไอ้เฮียยูไหนวะ หงส์หายตัวไป]เฮือก~ ประโยคร้อนรนที่ถูกส่งออกมาหลังจากผมเลื่อนสัมผัสรับสายทำให้ร่างทั้งร่างผมชาดิก จะเป็นไปได้ยังไงที่ยัยนั่นจะหายไปก่อนออกมาผมเป็นคนอุ้มเธอกลับห้องนอนเองแท้ๆ แต่ว่า.. นี่มันผ่านมานานแค่ไหนแล้ววะที่ผมนั่งจมอยู่กับอดีต“ไม่ตลก” ในที่สุดก็หาเสียงตัวเองเจอ[คิดว่าผมตลกหรือไง นี่มันไม่ปกตินะเฮีย] เสียงยียวนกวนส้นดังลอดออกมาอีกครั้ง แต่ยังคงความกลุ้มอกกลุ้มใจ“มึงก็ดูกล้องสิวะ เรื่องฉลาดๆ ไม่ท...”[เพราะเห็นไงว่าหงส์แค่ออกไปข้างนอก แต่นั่นมันชั่วโมงหนึ่งแล้วนะเฮีย]ผมยังด