หมับ!“อย่าไป อย่าทิ้งฉันไป” สัมผัสอุ่นๆ จากฝ่ามือหนาจับเข้าที่ข้อมือเล็กๆ ของฉัน รั้งให้ฉันล้มตัวไปตามแรงดึงกระชากที่ไม่ได้แรงเท่าไหร่แต่เพราะไม่ได้ตั้งตัวถึงได้ล้มลงไปทับที่อกคนหลับอยู่ตึกตัก ตึกตักเต้นแรงทำไมไอ้หัวใจบ้า หยุดเต้นได้แล้ว เลิกคิดหวังลมๆ แล้งๆ เสียทีคนๆ นี้เขามีเจ้าของแล้ว ไม่ได้ยินหรือไง เจ้าของหัวใจเขาคือผู้หญิงคนนั้น‘ฟ้า’ ผู้หญิงคนนั้นต่างหากแหมะ~ หยาดน้ำใสๆ ร่วงหล่นกระทบเสื้อสีกรมตัวหนาของคนที่ฉันกำลังทับร่างเขาอยู่ ยูกิไม่ยอมปล่อยข้อมือฉัน แต่เขากลับใช้มืออีกข้างกระชับร่างฉันเข้าไปกอดแนบอก“ฟ้า... เฮียขอโทษ”อึก! เจ็บนะ! กอดฉันแต่เรียกชื่อผู้หญิงคนอื่นแบบนี้ ไม่ไหวแล้วแล้วนี่ฉันเป็นบ้าอะไร ทำไมถึงได้เจ็บกับคำพูดคนเมาละเมอแบบนี้กันล่ะพรึ่บ!“อ๊ะ!” แทบจะกลั้นเสียงร้องตกใจไม่ทัน เมื่อคนที่แค่กอดเพื่อกักกันฉันไว้ก่อนหน้าเปลี่ยนเป็นนอนตะแคงข้างแล้วรวบตัวฉันลงมากอดไว้แนบอกแน่นขึ้นกว่าเดิมกลิ่นกายที่หอมเป็นเอกลักษณ์ของยูกิแม้จะมีกลิ่นเหล้าและบุหรี่ปะปนอยู่ก็ไม่ได้ทำให้เสน่ห์ของกลิ่นกายบุรุษเพศลดลงไปเลยสักนิดเดียว‘ปล่อยหงส์เถอะค่ะ แค่นี้หงส์ก็รู้สึกผิด และเจ็บมาก
แอ้ดดดดเสียงเปิดประตูของผู้มาเยือนเหมือนเป็นเสียงกริ่งที่กดหยุดอารมณ์หงุดหงิดที่กำลังจะพุ่งเล่นงานใครบางคนในห้องนี้“มาแล้วเหรอ?” ผมลุกขึ้นแล้วเดินนำใบไม้ให้ไปนั่งคุยกันที่โซนรับแขก เลือกนั่งหันหน้ามาทางไฉ่หงเพื่อแอบสังเกตพฤติกรรมของเธอไปด้วย“นี่ครับเฮีย” ใบไม้ยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลมาให้ผม“อะไร?” ปากถามแต่มือก็หยิบซองนั้นขึ้นมาเปิดดูไปด้วย“ที่กลบดานไอ้ลูกหมาที่พวกเราตามหาอยู่”ผมแสยะยิ้มพอใจกับคำที่ใบไม้มันเรียกไอ้ดำ ‘ไอ้ลูกหมา’ เหมาะกับมันดี พวกหมาลอบกัดที่ถูกส่งมาจากพ่อหมาตัวใหญ่ที่ไม่ยอมเปิดเผยตัวตนแม้ผมจะตามสืบมาเกือบสองเดือนก็ยังไม่รู้ว่าตัวบงการใหญ่ที่ส่งไอ้ดำมาปล่อยยาในคาสิโนผมคือใคร นายใหญ่มันค่อนข้างมีอิทธิพลใช่ย่อย ไม่งั้นเครือข่ายของผมและสองพี่น้องอย่างใบไม้กับมอม้าคงตามเจอตัวมันไปนานแล้ว“สามที่?” หลังจากที่เห็นเอกสารในซองน้ำตาล คิ้วผมยิ่งขมวดเข้าไปใหญ่ที่กลบดานไอ้ดำมีทั้งหมดสามที่ และทุกที่ที่ถูกปริ้นออกมาบนกระดาษถูกกากบาทสีแดงไปแล้วสองจุด นั่นแสดงว่าใบไม้มันไปสำรวจมาหมดแล้ว“ครับ ไอ้ดำมันย้ายที่กลบดานไปเรื่อย เหมือนมันมีคนช่วยหนุนหลังและคนๆ นั้นต้องมีอิทธิพลใหญ่ซะด้
เพล้ง!“โอ๊ย!”“เฮ้ย! เป็นอะไรน่ะหงส์” เสียงมอม้าฟังดูร้อนรนเอ่ยถามฉันเมื่อไม่กี่นาทีก่อนฉันรู้สึกคอแห้งเลยกะจะเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำที่วางอยู่ข้างๆ มาดื่ม แต่ไม่รู้ทำไมรู้สึกมือไม้มันไม่มีแรงเลยทำให้แก้วหล่นและแตกเกลื่อนพื้น ส่งผลให้มีเศษแก้วบางส่วนกระเด็นมาโดนเท้าฉันจนได้แผลเอาจริงๆ ฉันว่าฉันแทบจะไม่มีสมาธิในการทำงานเลยด้วยซ้ำ ตั้งแต่ออกมาจากห้องยูกิตั้งแต่เมื่อเช้า เหตุการณ์ในห้องคืนนั้นทำให้ฉันแทบจะไม่อยากมองหน้าคนเป็นเจ้านาย ต้องฝืนทนทำเป็นเมินเฉยเขา ทั้งๆ ที่ในใจไม่ได้ต้องการเฉยเมยแบบนั้นเลยสักนิดความรู้สึกฉันมันกำลังตีรวนกันไปหมดแล้วตอนนี้ตั้งแต่ได้รับไออุ่นจากเขา แต่กลับเจ็บปวดเจียนตายเมื่อเขาคิดว่าฉันเป็นคนอื่น ผู้หญิงคนนั้น ‘ฟ้า’ คนที่ครอบครองหัวใจเขาแม้กระทั่งยามหลับและยามตื่น“ไม่เป็นไรมากค่ะ เดี๋ยวหงส์เก็บเศษแก้วก่อนนะคะ” ฉันที่เริ่มตั้งสติได้รีบยกมือห้ามมอม้าที่วิ่งมาจวนจะถึงตัวให้ออกห่างจากพื้นที่อันตรายที่มีเศษเล็กเศษน้อยของแก้วกระจัดกระจายพร้อมกับน้ำที่นองหน่อยๆ บนพื้น“เฮ้ย! ไม่ต้องเก็บ เดี๋ยวก็ได้แผลอีกหรอก”“โอ๊ย!”“นั่นไง พูดยังไม่ทันขาดคำ ทำไมดื้อด้านแบบนี้วะ
“แล้วนี่ไปทำอะไรมาถึงได้แผลทั้งนิ้วมือทั้งเท้าแบบนั้นล่ะ” เสียงแก้มใสถามฉันน้ำเสียงแลดูเป็นห่วงเป็นใย“พอดีหงส์เบลอนิดหน่อยเลยทำแก้วหลุดมือ แล้วก็ได้แผลอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ” พูดแล้วก็นึกสมเพชตัวเองไม่หาย ไม่คิดว่าจู่ๆ จะไร้เรี่ยวแรงแม้แต่แก้วใบเล็กนิดเดียวที่น้ำหนักไม่ได้มากมายอะไรก็ประคองไว้ไม่ได้ต้องพลอยทำให้คนอื่นเดือดร้อนตามไปด้วย สงสัยอาจจะเป็นเพราะเมื่อคืนฉันแทบไม่ได้นอนตั้งแต่ตีสองยันสว่าง“งั้นน้องทิวก็อดเล่นกับอาหงส์แล้วล่ะครับวันนี้” แก้มใสก้มหน้าลงไปพูดกับลูกชายที่นั่งจ้องฉันอยู่บนตักเธอ“น้องทิวจะดูแลอาหงส์เอง” เสียงพูดที่ดูไร้เดียงสา แต่สายตาแน่วแน่“ขอบคุณครับ” รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกจนไม่รู้จะตอบเด็กคนนี้ยังไงดีหลังจากที่นั่งคุยกับแก้มใสและทิวลิปในห้องนอนฉันได้ไม่นาน เด็กน้อยก็เริ่มงอแงเพราะหิวข้าว ก็นะ ตอนนี้มันก็เลยเที่ยงมานิดๆ แล้วด้วย ทำให้ตอนนี้พวกเราสามคนย้ายตัวมาที่ห้องครัวด้านล่างของยุกกี้คาสิโนเป็นที่เรียบร้อยแล้วและตอนนี้ฉันก็กำลังจะโชว์ฝีมือทำข้าวผัดกุ้งของโปรดทิวลิปน้อยเพื่อเอาใจเด็กน่าตาน่ารักที่ห่วงใยฉันสักหน่อย“หายดีแล้วไง ถึงห้าวมาจับมีด” เสียงราบ
ครืด~และอีกครั้งที่มีเสียงเลื่อนเก้าอี้“อ้าว! แล้วนั่นจะไปไหนน่ะเรา” มอม้าเอ่ยถามเมื่อเห็นฉันลุกขึ้นหยิบจานข้าวตัวเองติดมือเพื่อไปวางที่ซิงค์ล้างจาน“หงส์อิ่มแล้วค่ะ ทานกันตามสบายเลยนะคะ เดี๋ยวหงส์ค่อยเข้ามาเก็บกวาดอีกที” ฝืนยิ้มไว้ไฉ่หง อย่าทำให้คนอื่นเสียบรรยากาศกับคนนอกอย่างเธอ“อะไรกันวะ อีกคนก็กินไปแค่คำสองคำ อีกคนก็แทบจะยังไม่แตะข้าวบนจานแต่บอกว่าอิ่มแล้ว แปลกชะมัดคู่นี้”ฉันได้ยินเหมือนมอม้าจะพูดอะไรสักอย่าง มันดังแว่วๆ อยู่ด้านหลังฉัน เพราะตอนนี้ฉันกำลังเดินออกมาจากห้องครัวเพื่อไปหาที่สงบๆ สักที่คิดทบทวนเรื่องอะไรบางอย่างบางที ถ้าหากการที่ฉันมาอาศัยอยู่ที่นี่มันสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นมากมายนัก ฉันควรจะจากไปเสียดีกว่า มันคงจะไม่เป็นไรมั้ง ถ้าหากฉันจะกลับมาตอบแทนหนี้บุญคุณเขาอีกครั้งในวันที่เขาพร้อมจะรับการตอบแทน[Yuuki’s part]ตอนที่ผมกำลังคุยเรื่องไอ้ดำกับใบไม้อยู่ดีๆ ไอ้มอม้าก็เสือกเข้ามาขัดจังหวะ อันที่จริงมันก็ไม่ถือว่าขัดจังหวะเท่าไหร่หรอก ถ้ามันไม่เสือกพูดถึงประเด็นเรื่องเมื่อวันก่อนที่ผมฝากรอยแผลไว้ที่มุมปากให้น้องมันฟังตอนแรกที่มอม้าเข้ามาในห้องมันคงคิดว่าผมมองไ
อ่อนแอก็แพ้ไปไฉ่หง คนอย่างเธอมันทำได้แค่มองเขาเท่านั้นแหละ[มีใครรังแกเราเหรอไง บอกเฮียมา เฮียจะให้ไอ้ยูกิจัดการให้]‘คนที่เฮียพูดอยู่นั่นแหละตัวการ’“เปล่าหรอกค่ะ หงส์แค่คิดถึงป๊า ม๊า แล้วก็บ้าน” คิดว่าตัวเองดราม่ามาพอแล้ว เลยเอาท่านทั้งสองมาเป็นข้ออ้างแต่ฉันก็ไม่ได้โกหกนะ ฉันคิดถึงพวกท่านจริงๆ เฮียเทียนบอกแค่ว่าพวกท่านสบายดี แล้วทำไมไม่มีใครโทรมาหาฉันบ้างเลยสักคน[ไฉ่หง] เฮียเทียนเรียกฉันน้ำเสียงฟังดูเศร้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด[เฮียต้องวางแล้วนะ ต้องรีบไปทำธุระต่อ ไว้เฮียเคลียร์งานเสร็จจะรีบบินไปหาเราทันที รอเฮียหน่อยนะยัยน้อง เฮียรักและคิดถึงเราเสมอ จำไว้]คนโทรมาพูดเสร็จก็เป็นฝ่ายตัดสายทิ้งไป ไม่รอแม้แต่คำว่า ‘คิดถึง’ หรือ ‘บาย’ จากน้องสาวคนนี้สักนิดหลังจากวางสายกับเฮียเทียนเสร็จ ฉันจึงเห็นเวลาที่ปรากฏเป็นตัวเลขที่หน้าจอมือถือ “สามทุ่มแล้วเหรอ”นี่ฉันนั่งตั้งแต่บ่ายแล้วเผลอหลับไปแบบไม่รู้ตัวจนถึงสามทุ่มเนี่ยนะ ถึงว่าทำไมบรรยากาศรอบๆ ตัวถึงได้มืดครึ้มแบบนี้ไม่รอช้ารีบลุกขึ้นเพื่อที่จะลงไปด้านล่างคาสิโน แต่แล้วก็เหมือนร่างกายชาหนึบ แข้งขาอ่อนแรง รู้สึกหนักอึ้งที่หัว และในเวลาต่อมา
แกรก ปังภาพแรกที่เห็นคือสระว่ายน้ำขนาดกลาง และข้างๆ ขอบสระจะมีเก้าอี้ผ้าใบสองสามตัววางอยู่รอบๆ และสิ่งที่ผมเห็นคือร่างเล็กของคนที่ตามหามาหลายชั่วโมงล้มอยู่ข้างเก้าอี้ผ้าใบ“หงส์ ฟื้นสิ หงส์!” ผมเรียกคนที่นอนสลบอยู่บนพื้นปูนเสียงลั่นสัมผัสแรกที่ผมแตะตัวเธอคือความร้อนดั่งเปลวไฟไฉ่หงตัวร้อนจัดขนาดนี้อาจจะเป็นเพราะนอนตากทั้งแดดในช่วงกลางวันพอตกเย็นก็โดนน้ำค้างแน่ๆพรึ่บ!“ทำใจดีๆ ไว้ พี่จะพาเราไปหาหมอ” ปากก็คอยพูดคุยกับคนไม่ได้สติในอ้อมกอด ร่างกายร้อนระอุแทบจะเผาไหม้เนื้อกายของผมได้เลยทีเดียว“เป็นอะไร” พอลงมาถึงชั้นสอง คนที่เพิ่งออกมาจากห้องทำงานอย่างเฮียยูกิก็เอ่ยถามขึ้น“หงส์ไม่สบาย สงสัยจะตากน้ำค้างนานไป ผมจะพาเธอไปโรงพยาบาล”“พาไปห้องนอนแล้วเรียกหมอมาแทน” เฮียยูกิรีบพูดขัด และเดินตรงดิ่งไปยังประตูห้องไฉ่หง ทำหน้าที่เปิดประตูใบใหญ่เพื่อให้ผมพาคนป่วยเข้าไปยังเตียงนอนครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ผมไม่ยอมทำตามคำสั่งคนเป็นนาย เพราะตอนนี้ผมเป็นห่วงคนในอ้อมกอดมากเกินที่จะปล่อยไว้ที่ยุกกี้แล้วรอหมอมาดูอาการ ผมเลยเลือกอุ้มไฉ่หงลงมายังชั้นล่างและรีบตรงดิ่งมาที่ลานจอดรถด้านหลังเพื่อพาคนป่วยไปโ
“ฉันป้อน”น้ำเสียงดุๆ ถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากหนาสีแดงนิดๆ ของคนข้างเตียงตึกตัก... เพียงแค่ประโยคนั้นประโยคเดียว เหมือนน้ำที่ส่งมาหล่อเลี้ยงหัวใจที่กำลังปิดตายของฉันให้มีชีวิตอีกครั้ง“…” ฉันเงียบไม่ตอบ แต่สายตาสองคู่ของเรากำลังจ้องประสานกันฉันไม่เห็นความพูดเล่นในสายตาคมดำสนิทของผู้ชายคนนี้ นัยน์ตาคู่สวยนั้นมีแต่ความจริงจังกับคำพูดก่อนหน้า“ดื่ม!” ยูกิบอกอีกครั้ง พร้อมกับจ่อหลอดดูดน้ำติดริมฝีปากบางของฉันนาทีนี้เหมือนร่างกายมันไปก่อนสมองสั่งการ ริมฝีปากบางแย้มเปิดออกพร้อมกับงับเข้าที่หลอดดูดนั้น ดูดน้ำเปล่าใสสะอาดลงคอไปหลายอึก“ก็แค่นี้” คำพูดที่เหมือนจะหลอกด่ากลายๆ ว่าฉันลีลาถูกส่งออกมาจากนั้นร่างสูงก็เดินไปยังห้องน้ำที่อยู่ด้านข้าง ทิ้งให้ฉันมองตามจนไม่เห็นร่างหนาใหญ่นั้น ถึงแม้ตอนนี้จะมองไม่เห็นร่างยูกิเพราะเขาเข้าห้องน้ำไปแล้ว แต่ทำไมฉันเหมือนกับถูกจ้องกลับมาด้วยสายตาคมของเขาอยู่เลยหรือจะเป็นเพราะสายตาก่อนหน้าที่เขาใช้มองมา มันมีแววความเป็นห่วงปนออกมากันนะ[Yuuki’s part]แกร๊ก~เสียงกลอนประตูห้องน้ำถูกผมกดล็อคดังขึ้นเบาๆ ทำให้ผมได้สติอีกครั้งตึกตัก...บ้าไปแล้ว หัวใจผมเต้นแรง
“ฉันส่งข้อความบอกคู่หมั้นเธอแล้วว่าเธอเปลี่ยนใจจะอยู่ที่นี่ต่อ”วะ ว่าไงนะ! นี่มันมากไปแล้วนะ ฉันไปตัดสินใจแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่“มากไปแล้วนะยูกิ” ฉันเผลอตัวเรียกเขาด้วยชื่ออีกแล้วแต่แทนที่ยูกิจะใส่ใจในเรื่องนั้นเขากลับนิ่งเฉย แต่แวบหนึ่งฉันกลับเห็นความตื่นเต้นกับสิ่งที่ฉันเรียกเขาก่อนหน้าในแววตาคู่คมนั้น“มากตรงไหน ใครจะยอมให้เมียตัวเองไปกับอิแค่คู่หมั้น” ยูกิยังคงเรียกฉันด้วยสรรพนามน่าอายนั้น ตกลงเขาต้องการอะไรจากฉันกันแน่“จะให้ฉันบอกอีกกี่ครั้ง ฉันไม่...”“หรือจะให้ฉันจัดให้อีกสักครั้ง หรือจะเหมายันเช้าดี เธอจะได้จำได้สักทีว่าร่างกายของเธอเป็นของใคร”“อ๊ะ อย่าเข้ามานะ ถอยไป”ยูกิพูดจบก็คุกเข่าค่อยๆ คลานขึ้นมาบนเตียงที่มีฉันนั่งอยู่บนนี้ สายตาเขามีแววความสะใจอยู่ในนั้น เขากำลังสนุกที่ไล่ต้อนฉันได้สำเร็จ“คนไม่มีหัวใจอย่างคุณอย่าเอาคำนั้นมาเรียกคนอื่นดีกว่า” ฉันเมินหน้าไปทางอื่น ไม่อยากมองหน้าผู้ชายที่กำลังเล่นตลกกับหัวใจฉันอีกแล้วฉันมีคู่หมั้นแล้ว เมื่อวันที่อยู่โรงพยาบาลเขาก็น่าจะเห็น และอีกอย่างเฮียเทียนบอกฉันว่าเขาเล่าเรื่องฉันกับเฉินฮ่งให้ยูกิฟังแล้ว แล้วดูสิ่งที่เขากำลังทำ
“นี่จะไม่เอาอะไรไปเลยเหรอหงส์” เสียงสิตาถามฉันฉันออกมาจากโรงพยาบาลสองวันแล้วล่ะ และวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ฉันจะอยู่ที่ยุกกี้คาสิโนแห่งนี้“ตอนมาก็มีแค่ตัวกับเสื้อผ้าชุดนี้ชุดเดียว อย่างอื่นมันไม่ใช่ของหงส์อยู่แล้วนี่”ถึงจะบอกสิตาไปแบบนั้น แต่ในใจฉันกลับปวดหนึบแปลกๆรู้สึกโหวงๆ เมื่อรู้ว่ากำลังจะไปจากสถานที่แห่งนี้ สถานที่ที่สอนฉันในหลายๆ อย่าง สถานที่ที่ทำให้ฉันได้เจอกับความรักครั้งใหม่ตอนที่ลืมคู่หมั้นตัวเอง และได้รับสิ่งตอบแทนที่สาสมที่บังอาจลืมแม้กระทั่งคู่หมั้นได้ลงคอ“แล้วจะกลับมาที่นี่อีกตอนไหนเหรอ” เจ๊ลิชาที่นั่งทำหน้าเศร้าอยู่ปลายเตียงถามฉันน้ำเสียงฟังดูหดหู่หลังจากที่ฉันกลับจากโรงพยาบาลฉันก็ได้คุยเรื่องเฉินฮ่งกับเฮียเทียน เขาเล่าให้ฉันฟังทุกอย่างว่าฉันกับเฉินฮ่งเราเพิ่งหมั้นกันได้หกเดือนก่อนที่ฉันจะมาอยู่ที่นี่และเขาก็ยังบอกอีกว่าที่เฉินฮ่งไม่ได้ออกตามหาฉันเพราะเขาเองก็มีเรื่องต้องทำ แต่ฉันจับผิดสีหน้าพี่ชายตัวเองได้ เหมือนเขากำลังปิดบังอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องที่ฮ่องกง“ไว้มีโอกาสเรานัดเจอกันที่อื่นดีไหมคะ” ฉันเลี่ยงที่จะตอบคำถามเจ๊ลิชาบางทีการออกจากที่นี่ในวันนี้อ
“…” เจอผมด่าหน่อยทำเป็นเงียบปาก“เพราะมึงนั่นแหละ ไอ้ตัวดี” ผมชี้หน้าคาดโทษกรุงโซลสายตาดุกร้าวแม้จะสืบสาวราวเรื่องที่มาของยานรกนั่นได้แล้ว แต่พวกเราเปลี่ยนแปลงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ได้อยู่ดี ผมกับไฉ่หงยังไงเราก็เป็นของกันและกันแล้ว“แล้วมึงจะเอายังไง” เฮียไททันหันไปถามไอ้เทียน“กูบอกมันแล้ว น้องกูว่าไงกูว่าตาม” ไอ้เทียนยืนยันคำเดิมที่เคยบอกผมให้ทุกคนฟัง “กูก็เคลียร์แล้ว” ผมรีบพูดออกไปคล้ายคนร้อนรน“เคลียร์? ไอ้สัส! เมื่อกี้มึงเรียกว่าเคลียร์เหรอวะ!” ไอ้เทียนขึ้นเสียงใส่ผมคำว่า ‘เคลียร์’ ของผมในสายตาไอ้เทียนคงเห็นว่าผมกำลังรังแกน้องมันอืม แต่ก็นะ เมื่อกี้ผมเกือบรังแกไฉ่หงอีกรอบอย่างที่มันคิดนั่นแหละ“เออ นั่นล่ะเรียกเคลียร์ น้องมึงยอมให้กูรับผิดชอบแล้ว”และนั่นคือบทสนทนาที่จบลงของลูกผู้ชายอย่างผม[End part]หลังจากพายุคลั่งของพวกผู้ชายหายไป ในห้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง มอม้ารับหน้าที่พาทิวลิปที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นตามฉันออกไปด้านนอก ทำให้ตอนนี้เหลือเพียงฉันกับแก้มใสสองคน“หงส์ เจ้ขอโทษ” เสียงขอโทษที่ฉันไม่รู้ต้นสายปลายเหตุถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากอมชมพูระเรื่อ“...” ฉันเงียบแต
[Lantian’s part]“พอ แยกๆ” เสียงคมเข้มของไททันดังขึ้น“กูบอกมึงว่ายังไง กูบอกว่ายังไงห๊ะ!” ผมตะคอกหน้าไอ้ยูกิ แม้พวกเพื่อนๆ ของมันจะแยกพวกเราออกจากกันแล้วก็ตามผมว่าจะไม่ระเบิดอารมณ์กับมันแล้วนะ แต่ครั้งนี้ไม่ไหว ใครเห็นผู้ชายคนอื่นกำลังคร่อมร่างน้องสาวตัวเองอยู่จะไม่ของขึ้นได้วะ ครั้งนั้นผมไม่รู้ไม่เห็นเลยดูว่าผมใจเย็นไม่ใส่ใจอะไรใช่ไหม มันถึงได้กล้าหยามหน้าผมแบบนี้“ถุ้ย!” เสียงถ่มน้ำลายของไอ้ยูกิดังขึ้นมันยกมือเช็ดเลือดตรงมุมปากที่ปริ่มออกมาเล็กน้อยออก สองตาคมเข้มของมันยังคงจ้องมองผม ไม่ใช่แววตาเกลียด โกรธ แต่มันมองผมด้วยสายตาธรรมดาๆ เหมือนกับชอบใจที่เห็นผมระเบิดอารมณ์ใส่มันแม่งเป็นมาโซคิสหรือไงวะ สงสัยจะชอบความเจ็บปวด“มึงขัดคำสั่งกู” ผมชี้หน้ายูกิ พร้อมจะกระโจนใส่มันอีกรอบแต่ติดตรงกรุงโซลมันรั้งแขนผมไว้ ส่วนอีกข้างเป็นเอฟวัน“คุยดีๆ สิวะ กัดกันยังกับน้องมึงถูกไอ้ยูกิจับกินงั้นแหละ” เสียงไททันที่อายุเยอะสุดพูดขึ้น ไอ้ห่า! สาบานว่ามึงไม่รู้ ดันมาเสือกพูดถูกจุดมากสัสสงสัยเมื่อกี้พวกมันคงไม่ทันเห็นว่าไอ้ยูกิกำลังคร่อมน้องสาวผมอยู่เพราะผมพรุ่งปรี่เข้าไปกระชากมันลงมาก่อนล่ะมั้ง “กร
เฮือก!สัมผัสกรุ่นร้อนจากริมฝีปากหนากำลังซุกไซ้อยู่ข้างซอกหู ความนุ่มชื้นของปลายลิ้นกำลังลากไล้ดูดดึงผิวเนื้อบริเวณลำคอระหงของฉัน“อ๊ะ! อย่าทำ อื้อ” ทั้งสั่งห้าม ทั้งข่มกลั้นเสียงครางที่น่าเกลียดของตัวเองสองตาเพ่งมองไปยังบานประตูห้องผู้ป่วย กลัวจะมีใครเปิดเข้ามาเห็นฉากที่น่าอายแบบนี้ “อื้อ เธอยังหอมเหมือนเดิม”ยูกิไม่ยอมปล่อยริมฝีปากออกจากลำคอขาวเนียนฉันตอนเอ่ยประโยคนั้น นั่นยิ่งทำให้ฉันเสียวซ่านจากการเสียดสีของริมฝีปากและลมหายใจกรุ่นร้อนที่ออกมาพร้อมคำพูดเขา“ฉันเกลียดคุณ” ข่มกัดฟันบอกเขาออกไปยูกิชะงักการกระทำ แต่ก็แค่ชั่ววินาที จากนั้นเขาก็เริ่มรวบมือทั้งสองข้างฉันไปกุมไว้ที่มือหนาเพียงข้างเดียวของเขา มือที่ว่างก็เริ่มสอดแทรกเข้ามายังชุดผู้ป่วยของโรงพยาบาล“อ๊ะ ไม่” ทั้งเสียงสั่งห้าม ทั้งเสียงน่าอายหลุดรอดจากปากฉันอีกครั้งไม่ได้นะ ฉันไม่อยากให้มันจบลงเหมือนเมื่อคืนอีกแล้ว“หยุดฉันให้ได้สิไฉ่หง เก่งยั่วนักไม่ใช่ ครั้งเดียวเธอไม่นับเองนี่”งั้นสินะ ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว ยูกิต้องการอะไร เขาต้องการให้ฉันบอกให้เขารับผิดชอบฉันสินะไม่มีทาง! ฉันเกลียดเขาแล้ว ความรู้สึกดีๆ ที่เคยมอบให้เขาม
“รีบตื่นขึ้นมาสิ มาปากเก่งด่าฉันอีกสิ ฉันอยากได้ยินเสียงด่าทอของเธอ”ความอุ่นวาบจากฝ่ามือหนาที่กำลังลูบไล้เส้นผมยาวหยักศกด้านหลังฉันช่างขัดกับคำพูดปากดีของยูกกิเสียจริง แต่การกระทำนั้นมันกำลังทำให้ความอ่อนแอเริ่มเล่นงานฉันอีกครั้งกึก พยายามกัดฟันไม่ให้เขาได้ยินเสียงสะอื้นไห้ของตัวเองเมื่อหลายชั่วโมงก่อน หลังจากที่เหตุการณ์เลวร้ายจบลงไปตอนไหนไม่รู้ รู้แค่ตื่นมาอีกทีฉันกำลังนอนอยู่ในห้องของตัวเอง เนื้อตัวที่คาวไปด้วยคราบต่างๆ ก่อนที่จะหมดสติหายไปจากเรือนร่างบนตัวมีเสื้อแขนยาวของฉันเองสวมทับอยู่ บ่งบอกว่ามีคนอุ้มฉันมาที่ห้องเช็ดล้างคาบสกปรกเหล่านั้นและเปลี่ยนชุดนี้ให้ตอนนั้นความรู้สึกมันตีรวนกันไปหมด ทั้งเสียใจ ดีใจ ที่อย่างน้อยคนที่เป็นคนทำร้ายน้ำใจของฉันคือคนๆ เดียวกับที่ดูแลฉันหลังจากทำเรื่องนั้นลงไปแต่จิตใจด้านลบมันมีมากกว่า ฉันเกลียดเขาไปแล้วความตื้นตันใจที่เขาเคยช่วยชีวิตไว้มันหายไปตั้งแต่เขาย่ำยีฉันเมื่อคืน ฉันจะถือซะว่าได้ตอบแทนบุญคุณเขาไปเรียบร้อยแล้ว และต่อจากนี้ไปฉันจะเลือกทางเดินของตัวเองและจะไม่กลับเข้ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตเขาอีกทางใครทางมัน นั่นคือสิ่งที่ฉันคิดได้ในต
“มึงจะโทษว่าครึ่งหนึ่งที่มึงว่ามาจากยานรกนั่น! แม่ง...มึงมันไม่หมาไปหน่อยเหรอวะ!” เสียงคำรามลั่นระบายอารมณ์มาคุถูกเปล่งออกมาอีกครั้ง“ก็ครึ่งหนึ่งไงวะ” ผมยังคงย้ำคำเดิม ความรู้สึกเดิมออกไปผลั้วะ ผลั้วะ!ครั้งนี้ไอ้เทียนรัวมาสองหมัดใส่เบ้าหน้าซ้ายขวาผมข้างละทีเจ็บใช่เล่นถุย! ผมถึงกับถุยน้ำลายปนเลือดเล็กน้อยทิ้งลงพื้นขาวสะอาดเลือดชั่วๆ ออกมาบ้างก็คงดี“มึงจะเอายังไงกับน้องกู” ไอ้เทียนสะบัดมือสองสามทีชกผมตั้งสามครั้ง ไม่เจ็บให้มันรู้ไปสิวะ มือมันแดงเถือกเหมือนกัน“ถ้าเธอเอ่ยปาก กูก็พร้อมรับผิดช...”วืด~ หมับ!ไอ้เทียนจะต่อยผมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ผมรับหมัดมันไว้ทันสามครั้งถือว่ามากพอแล้วกับเรื่องนี้ ผมทำน้องมัน ผมยอมให้มันชกผมแค่นั้นพอ ถ้าจะมากกว่านี้ก็ปล่อยให้คนที่โดนผมกระทำเอาคืนผมเองดีกว่า“มึงไม่รู้อะไร” ไอ้เทียนสะบัดมือออกจากกำมือผมที่กุมหมัดมันไว้อีกที“น้องกูเป็นพวกใจแข็ง ถ้าตัดได้คือ ‘ตัด’ ”อึก~ ผมถึงกับกลืนก้อนเหนียวหนืดลงคอกับประโยคของไอ้เทียน“ถ้าน้องกูฟื้นกูจะถามเอง”“ไม่ได้!” ผมถึงกับร้องท้วงทันทีที่มันพูดจบเรื่องนี้เป็นเรื่องของผมกับน้องมัน ต่อให้มันเป็นพี่ชายก็ไม่ควร
“เรื่องใหญ่ขนาดนี้มึงคิดจะปิดกูอีกนานแค่ไหนวะ” ผมถามมันเสียงต่ำหลังจากที่ไอ้เทียนยอมเล่าถึงสาเหตุที่ทำให้ไฉ่หงความจำเสื่อมให้ฟังเกือบชั่วโมง ผมถึงกับหดหู่อย่างอธิบายไม่ถูก ขนาดผมคนนอกยังเจ็บปวดขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดเลยตอนนั้นไฉ่หงเธอจะรู้สึกยังไง แบบนี้สินะเธอถึงปิดกั้นความทรงจำของตัวเองทิ้งไปผมเหลือบตามองไอ้เทียนที่ตอนนี้นั่งดวงตาแดงก่ำ มันคงทั้งเจ็บแค้น เจ็บปวด ส่วนไอ้มอม้าถึงกับนิ่งเป็นรูปปั้นหิน หน้าตามันไม่บ่งบอกว่าเจ็บปวดก็จริง แต่สายตามันผมดูออกว่าเจ็บปวดกับเรื่องราวที่เพิ่งรับรู้เมื่อกี้มากแค่ไหนหลังจากภายในห้องเงียบไปไม่นานไอ้เทียนเลยพูดขึ้นบ้าง“ทีนี้ก็ตามึงเล่า” มันคะยั้นคะยอผม“ผ่านมาร่วมเดือนมึงยังสืบไม่ได้ว่าฝีมือใคร?” ผมไม่ตอบโทษทีว่ะ! ตอนนี้เรื่องผมมันขี้ประติ๋วสำหรับมัน“นี่มึงจะเล่นตลกอะไรไอ้ยูกิ กูเล่าเรื่องกูให้มึงฟังแล้วอย่ามาเนียน” ไอ้เทียนชี้หน้าผมท่าทางเอาเรื่อง“กูไม่ได้กลบเกลื่อน กูแค่คิดว่าเรื่องของมึงมันสำคัญกว่าเรื่องของกู”เรื่องของผมถ้าบอกไปมันก็แค่คงซัดผมหมัดสองหมัดหรือไม่ก็กระทืบผมจมตีนก็เท่านั้น ซึ่งผมจะบอกมันตอนไหนก็ได้เปล่าวะ?“เออ! กูจะยอมมึงครั้
Rrrเสียงแผดร้องโทรศัพท์ดังลั่นดึงสติผมให้กลับมายังปัจจุบัน รีบเอื้อมมือหยิบมันออกมาจากกระเป๋ากางเกงและกดปิดเสียงเมื่อเห็นรายชื่อที่โทรเข้า‘มอม้า’ตอนนี้ผมยังไม่อยากคุยกับใคร ยังตะหงิดใจเรื่องยาปลุกเซ็กเมื่อคืนอยู่ ถึงแม้ลึกๆ ในใจจะบอกว่าไอ้มอม้าแค่หมากตัวหนึ่งในการส่งแก้วใบนั้น แต่ผมยังไม่ปักใจเชื่อเท่าไหร่ในเมื่อก่อนหน้ามันเหมือนพยายามจับคู่ผมกับไฉ่หงRrrเสียงเรียกเข้าดังขึ้นเป็นรอบที่สองด้วยเจ้าของเบอร์คนเดิม คิ้วขวาผมกระตุกยิบๆ เหมือนมีลางสังหรณ์บางอย่างที่ค่อนไปในทางเลวร้ายเกิดขึ้น[ไอ้เฮียยูไหนวะ หงส์หายตัวไป]เฮือก~ ประโยคร้อนรนที่ถูกส่งออกมาหลังจากผมเลื่อนสัมผัสรับสายทำให้ร่างทั้งร่างผมชาดิก จะเป็นไปได้ยังไงที่ยัยนั่นจะหายไปก่อนออกมาผมเป็นคนอุ้มเธอกลับห้องนอนเองแท้ๆ แต่ว่า.. นี่มันผ่านมานานแค่ไหนแล้ววะที่ผมนั่งจมอยู่กับอดีต“ไม่ตลก” ในที่สุดก็หาเสียงตัวเองเจอ[คิดว่าผมตลกหรือไง นี่มันไม่ปกตินะเฮีย] เสียงยียวนกวนส้นดังลอดออกมาอีกครั้ง แต่ยังคงความกลุ้มอกกลุ้มใจ“มึงก็ดูกล้องสิวะ เรื่องฉลาดๆ ไม่ท...”[เพราะเห็นไงว่าหงส์แค่ออกไปข้างนอก แต่นั่นมันชั่วโมงหนึ่งแล้วนะเฮีย]ผมยังด