พิเศษ 3 รักได้ไหม บอกพี่ที เช้ามืดของอีกวัน นัตตี้งัวเงียตื่นขึ้นมา รู้สึกเหมือนมีอะไรกดทับที่บริเวณหน้าท้อง นัตตี้ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น แผงขนตาหนากระพริบถี่เพื่อปรับแสงภายในห้อง เธอก้มลงมองหน้าท้องว่าสิ่งที่กดทับหนักๆนั้นคืออะไร ท่อนแขนแกล่งพาดทับกอดเอวเธอไว้อย่างหลวมๆ นัตตี้หยิบนาฬิกาจากมือถือขึ้นมามอง เป็นเวลา หกโมงเช้า เธอค่อยๆหันไปเขย่าตัวคนที่หลับพริ้มสนิทไม่รู้เรื่องให้ตื่น เพื่อไปทำหน้าที่ของตัวเอง “พี่โท ตื่นได้แล้ว เดี๋ยวนายตื่นจะถามหา” นัตตี้ปลุกคนร่างโตที่นอนหลับพริ้ม “อื้อ ไม่ตื่นหรอก นายน่าจะเพิ่งได้นอนเหมือนเราเนี่ยแหละ” ไม้โทงัวเงียพูด และจะหลับต่ออีกรอบ แต่โดนมือบางฟาดปลุกไปที่ไหล่แกร่งเสียงดัง จนทำให้ชายหนุ่มต้องสะดุ้งตื่นอย่างเต็มตา “ทำไมตื่นเช้า ไม่ง่วงเหรอ” “ไม่ง่วง ตื่นได้แล้ว” นัตตี้บอกก่อนยันตัวลุกขึ้น มองหาเสื้อผ้าเพื่อเอามาสวมใส่แต่กลับโดนท่อนแขนแกร่งคว้าหมับรอบเอวบางให้ล้มลงนอนเหมือนเดิม “นอนต่ออีกหน่อย เจ้านายไม่ว่าอะไรหรอก เจ้านายรู้” ไม้โทบอกนัตตี้ จนเธอใจอ่อนยอมล้มตัวลงนอนอีกรอบ แต่ไม่ได้
15 ปีที่แล้วรถสปอร์ตสีดำทมิฬวิ่งมาจอดหน้าคฤหาสถ์หรูใหญ่โตมโหฬาร ด้านหน้าคฤหาสถ์มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่ใหญ่กว่าสระว่ายน้ำธรรมดาปกติ รอบสระมีผู้คนแต่งตัวหรูหรา ถือแก้วไวน์ บ้างก็ยืนสนทนา บ้างก็ยืนดื่มเครื่องดื่มกันมากมายหลายสิบคน งานเลี้ยงรวมตัวของเหล่าเจ้าพ่อ มาเฟีย เจ้าของงานในวันนี้ก็คือหัวหน้ามาเฟีย เจ้าของคฤหาสถ์หลังงามแห่งนี้ เมื่อรถหรูจอดสนิทด้านหน้าของงาน บอดี้การ์ดชุดดำทำหน้าที่เปิดประตูด้านหลังคนขับเพื่อต้อนรับแขกผู้มาเยือนใหม่ มาเฟียวัยกลางคนที่ยังดูหล่อ สมาร์ท มาดขรึมก้าวลงจากรถเป็นคนแรก ตามด้วยหญิงวัยกลางคนที่มองดูแล้วยังสาว ราวๆอายุ 20 ต้นๆ แต่ความจริงแล้วเธออายุ เข้าเลข 4 แล้าวต่างหาก เธอก้าวลงจากรถหรู มือข้างหนึ่งจูงมือเด็กน้อยผมสีน้ำตาลอ่อนคาราเมลเป็นลอนคลื่นเล็กๆยาวประบ่า ผิวขาวใส หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก ปากอมชมพู อายุราวๆ 10 ขวบ ทั้งสามคนก้าวเดินเข้ามามนงานพร้อมกันท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่จับจ้องมองมาที่ทั้งสามราวกับว่าพวกเขาหลุดออกมาจากภาพวาดในนิยายที่สมบูรณ์แบบไม่มีที่ติ"อ้าว สวัสดีครับคุณวินเนอร์ คุณเซริน และน้องวินเซ่" หัวหน้ามาเฟียหนุ่มใหญ่วัยกลางคนเจ้าของงานเลี้ย
โฉ...นด ของขวัญชิ้นใหญ่15 ปีต่อมา ...“ฮัลโหล หม่ามี๊ ไหนหม่ามี๊บอกจะมารับวินซ์ที่สนามบินล่ะคะ หม่ามี๊อยู่ตรงไหนแล้วคะ? “หญิงสาวในชุดทะมัดทะแมงสวมเสื้อยืดสีขาวทับไว้ด้านในกางเกงยีนส์เอวสูงขายาวสีขาวเช่นกัน สีขาวทำให้ขับผิวคนที่สวมใส่ให้ดูขาวมีออร่ายิ่งขึ้น รวมกับหน้าตาอันน่ารัก สดใส ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อน ขนตาแพหนาเหมือนใส่ขนตาปลอมแต่คือขนตาธรรมชาติ ผมลอนยาวสยายสีบรอนด์คาราเมล ผิวขาวใสอมชมพู ปากเล็กริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อที่กำลังขยับสนทนากับคนในสาย ทำให้หญิงสาวดูน่ารักราวกับตุ๊กตาเดินได้ก็ไม่ปาน ร่างบางเดินลากกระเป๋าเดินแล้วคุยโทรศัพท์ไปด้วย‘มี๊ไม่ได้ไปรับวินซ์นะลูก ป๊ากับมี๊มีติดคุยงานกับลูกค้ายังไม่เสร็จเลย’ เสียงหวานจากผู้เป็นแม่ที่อยู่ปลายสาย ที่บอกก่อนหน้าที่เธอจะบินมาประเทศไทยหลังจากที่เธอไปเรียนต่างประเทศ 15 ปี“อ้าว แล้วใครจะมารับวินซ์ล่ะคะ พวกลุงก็ไม่ว่างเลยเหรอคะ หลานสาวกลับมาอยู่ไทยทั้งที ไม่มีใครสนใจมารับวินซ์เลย” วินเซ่ตัดพ้อเล็กน้อย‘พวกลุงๆ ของหลานก็คุยงานอยู่กับป๊านี่แหละลูก ยังไม่มีใครว่างไปรับเลยสักคนค่ะ ‘“แล้วจะให้วินซ์กลับเองเหรอคะหม่ามี๊ วินซ์จะกลับยังไง นั่งร
พนักงานใหม่ ที่รู้จักดี บริษัท บูรณิมา ตึก ตึก ตึก เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นดังขึ้นถี่ๆ บ่งบอกว่าเจ้าของรองเท้านี้กำลังเร่งรีบ “สายแล้วๆๆ แย่แล้วๆๆ ตายแน่ๆ ไอวินซ์เอ้ยย ดันมาตื่นสายเอาวันทำงานวันแรกได้ไงเนี่ย แล้วแบบนี้เจ้านายจะไม่หมายหัวเอาเหรอ” วินเซ่วิ่งไปบ่นไป วันนี้เป็นวันที่เธอต้องมาทำงานที่บริษัทของคนที่พ่อเธอรู้จักเป็นวันแรก แต่วันแรกก็ดันตื่นสายซะได้ “สวัสดีค่ะ ชื่อวรริทธิ์ฐา มาทำงานวันแรกค่ะ” ร่างบางเอ่ยบอกกับพนักงานต้อนรับที่ยืนอยู่หน้าประตูลิฟท์พนักงาน เพื่อจะขึ้นไปชั้นที่เป็นชั้นออฟฟิต “ขึ้นลิฟท์ตัวนี้ไปที่ชั้น 15 นะคะ ออกจากลิฟท์ เดินตรงไปผ่านห้องรวมพนักงานแล้วเลี้ยวซ้าย จะเจอห้องคุณกันตา ไปพบคุณกันตาที่นั่นก่อนนะคะคุณพนักงานใหม่” พนักงานต้อนรับอธิบายบอกชัดเจนให้เธอไปพบใคร ที่ไหน “ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ” วินเซ่เข้าไปในลิฟท์ พนักงานต้อนรับจึงกดที่ชั้น 15 ให้โดยที่เธอมีหน้าที่ยืนรอขึ้นไปชั้นบนอย่างเดียว วินเซ่ก้าวออกจากลิฟท์แล้วเดินไปตามทางที่พนักงานต้อนรับบอกไว้ ผ่านห้องพนักงานรวมไป เลี้ยวซ้ายเพียงนิด เธอก็พบกับห้องโถงขนาดใหญ่ ห้องทางซ้ายมือมีประตูห้องท
พนักงานคนใหม่...ที่รู้จักดี(2) กันตาสอนงานวินเซ่ทุกอย่างด้วยความจำใจและเก็บอาการไว้ไม่แสดงออกมาว่าเธออิจฉา เพราะไม่อยากให้เขาต่อว่าเธอได้ ว่าเธอสอนงานไม่ดี “เดี๋ยวน้องวินเซ่โทรไปนัดลูกค้าวันนี้และนัดสถานที่นะ คุณแบล็คจะได้ไปคุยงานกัน แต่น้องวินเซ่ต้องล่วงหน้าไปดูแลความสะดวกของลูกค้าก่อน แล้วคุณแบล็คจะตามไปทีหลัง” กันตาสั่งงานวินเซ่มอบหมายให้ลองทำหน้าที่เลขา “ค่ะ” วินเซ่รับคำแล้วรีบไปจัดการโทรนัดลูกค้า เมื่อเสร็จแล้วเธอจึงออกจากบริษัทมุ่งหน้าไปตามที่นัดหมายทันที กันตาเห็นวินเซ่ออกไปแล้ว เธอจึงถือเอกสารเข้าไปเตือนเจ้านาย “คุณแบล็คคะ ได้เวลาประชุมแล้วค่ะ” กันตาไม่ได้ไปแจ้งเตือนเจ้านายให้ตามไปคุยงานกับวินเซ่ แต่กลับแจ้งเตือนการประชุม จริงๆ แล้วแบล็คมีประชุมไม่ได้มีนัดคุยลูกค้า แต่กันตาหลอกให้วินเซ่ไปคุยกับลูกค้าให้เสียงาน เสียลูกค้าแทน แบล็คเดินนำไปประชุมตามกำหนด โดยมีกันตาเดินถือเอกสารตามหลังไปติดๆ ในขณะที่กำลังประชุมอยู่นั้น ไม้โทลูกน้องคนสนิทของเขาเปิดประตูห้องประชุมเข้ามาแล้วค้อมตัวก้มหัวขออนุญาตเขาเล็กน้อย เขาพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต ไม้โทจึงเดินเข้ามากระซิบที่ข้างห
เพื่อนใหม่ “คุณแบล็คคะ พอดีวินซ์เอารถมา เดี๋ยววินซ์กลับคอนโดเลยนะคะ ไม่แวะเข้าบริษัท” วินเซ่เอ่ยบอกกับเจ้านายหลังจากที่ลูกค้าเดินทางกลับไปแล้ว “ไปกับฉัน” “เอ๋ วินซ์เอารถมาค่ะ ขับกลับเองได้” เธอรีบปฏิเสธเมื่อเขาบอกให้กลับกับเขา “ให้ไอ้โทขับกลับ” เขาพูดพร้อมแบมือมาที่เธอเพื่อขอกุญแจรถของเธอ วินเซ่มองหน้าเขาแล้วหยิบกุญแจจากในกระเป๋ายื่นให้เขาแบบไม่เต็มใจ 'คิดว่าเป็นเจ้านายแล้วจะสั่งได้เหรอ ถ้าไม่ติดว่าทำงานวันแรกนะ ไม่ให้หรอกกุญแจน่ะ' เธอบ่นให้เขาในใจ “นินทาฉันในใจ?” เขาถามเมื่อเห็นคนตัวเล็กทำหน้าแปลกๆ “ใคร๊? ไม่มี๊!!” วินเซ่ตอบเสียงสูง นี่เขารู้ได้ไง อ่านใจคนได้เหรอตาคนนี้เนี่ย “เสียงสูงไป” เขาเดินนำไปที่รถ ร่างบางเดินตาม มองดูแผ่นหลังของเขารู้สึกคุ้นตากับแผ่นหลังนี้เหลือเกิน เคยเจอที่ไหนกันนะ “ให้วินซ์ขับให้ไหมคะ” วินเซ่เอ่ยถามขึ้นเมื่อเดินมาถึงรถสปอร์ตคันดำที่เขาจอดไว้ “ขับให้ฉัน” “ใช่สิคะ ก็คุณเป็นเจ้านาย วินซ์เป็นเลขาก็ต้องเป็นคนขับไม่ใช่เหรอคะ จะให้เจ้านายมาขับรถให้พนักงานนั่งมีที่ไหนกัน” “มีที่นี่แหละ ไปนั่ง ฉันขับเอง” “ทำไมขับเองคะ บอกว่าวินซ์จะข
เพื่อนใหม่(2) วันนี้แบล็คเกอร์มาที่คลับไวกว่าปกติ เพราะไม้โทรายงานมาว่า นาทีบอกว่า วินเซ่ออกจากคอนโดมาที่นี่คนเดียว เขาจึงรีบตามออกมาเพื่อมาดูความปลอดภัยของคนตัวเล็กและก็อยากรู้ว่าวินเซ่จะมาเที่ยวกับใคร นัดหนุ่มที่ไหนไว้หรือไม่ “ผู้หญิงหรือผู้ชาย?” มิวนิคถามองศา “ผู้หญิงครับนาย สวยด้วย” องศารายงานตามความเป็นจริง เพื่อนใหม่ของแฟร์รี่นายหญิงของเขาสวยจริงๆ “คุณวินเซ่ครับ” ไม้โทที่ยืนฟังการสนทนาของทั้งสองอยู่ด้านหลังของแบล็คเกอร์เอ่ยขึ้น เขารู้ว่าเพื่อนใหม่ของคุณแฟร์รี่คือใครเพราะนาทีเป็นเป็นรายงานเขา แต่เขายังไม่ได้รายงานให้กับเจ้านายของเขาฟังแค่นั้นเอง “คือใครวะ” มิวนิคถามไม้โท แบล็คเกอร์ไปมองลูกน้องตัวเองเป็นเชิงตั้งคำถาม ไม้โทพยักหน้ารับเล็กน้อยเป็นคำตอบ “คู่หมั้นกู” แบล็คเกอร์หันมาบอกมิวนิค เขาเคยได้ฟังเรื่องวีรกรรมคู่หมั้นของเพื่อนเขามาบ้างเล็กน้อย แต่ก็พอเข้าใจได้ว่า ลูกสาวของมาเฟียคนนี้ดื้อไม่เบา คงจะไม่ต่างอะไรกับแฟนของเขาแน่ “จะบรรลัยไหมนั่น ดื้อคูณสอง ดื้อกับดื้อมาเจอกัน กลัวคลับจะแตก องศาไปดูแลหน่อยไป” มิวนิคสั่งลูกน้อง “ไม่ต้อง นาทีมันดูอยู่” แบล็คเกอร์ร้องห้า
พี่หยุดตอนนี้ไม่ได้แล้ว รถหรูสีดำเงาวับเมื่อต้องแสงไฟข้างทาง แล่นด้วยความเร็วสูงเนื่องจากเวลานี้ค่อนข้างดึก ความเงียบสงัดไร้รถพลุกพล่านทำให้รถคันนี้พุ่งทะยานไปบนท้องถนนด้วยความเร็วดุจนกเหยี่ยวบิน “อื้ออออ พวกคุณเป็นใครเนี่ย จะพาฉันไปไหน” เสียงแหบพร่าของคนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนตักในวงแขนแกร่งซบอยู่ที่อกแน่นของแบล็คเกอร์ เพราะเธอเมาจนไม่ได้สติเขาอุ้มเธอด้วยท่าเจ้าสาวขึ้นรถจึงต้องนั่งอยู่ในท่านี้มาตลอดทาง “หึ เมาแล้วเป็นแบบนี้เหรอ เมาแล้วความจำเสื่อมทันทีเลยหรือไงถึงจำฉันไม่ได้” แบล็คเอ่ยพร้อมก้มลงมอง “หืม? อ่อคุณแบล็คนี่เอง นี่วินซ์อยู่คอนโดแล้วหรอคะเนี่ยถึงเจอคุณแบล็คได้” วินเซ่ใช้สองมือดันอกแกร่งยันตัวเองผละออกจากอกขึ้นมามองหน้าคนตัวโต จมูกน้อยๆ ถูไถไปกับคางหยาบที่มีไรหนวดไรเครา ใบหน้าเข้มก้มลงมองหน้าหวานเช่นเดียวกันเป็นจังหวะให้ปากเผลอแต่โดนกันเล็กน้อย สายตาเยิ้มหวานของคนตัวเล็กในอ้อมกอดจ้องมองดวงตาเข้ม ก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ช้าๆ ลมหายใจที่มีกลิ่นแอลกอฮอร์รินรดกันปลุกอารมณ์ได้อย่างดี ริมฝีปากเล็กแตะริมฝีปากหนาอย่างช้าๆ แล้วถอนริมฝีปากออกเหมือนจะรู้ตัวว่าไม่ควร แต่ช้าไ
พิเศษ 3 รักได้ไหม บอกพี่ที เช้ามืดของอีกวัน นัตตี้งัวเงียตื่นขึ้นมา รู้สึกเหมือนมีอะไรกดทับที่บริเวณหน้าท้อง นัตตี้ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น แผงขนตาหนากระพริบถี่เพื่อปรับแสงภายในห้อง เธอก้มลงมองหน้าท้องว่าสิ่งที่กดทับหนักๆนั้นคืออะไร ท่อนแขนแกล่งพาดทับกอดเอวเธอไว้อย่างหลวมๆ นัตตี้หยิบนาฬิกาจากมือถือขึ้นมามอง เป็นเวลา หกโมงเช้า เธอค่อยๆหันไปเขย่าตัวคนที่หลับพริ้มสนิทไม่รู้เรื่องให้ตื่น เพื่อไปทำหน้าที่ของตัวเอง “พี่โท ตื่นได้แล้ว เดี๋ยวนายตื่นจะถามหา” นัตตี้ปลุกคนร่างโตที่นอนหลับพริ้ม “อื้อ ไม่ตื่นหรอก นายน่าจะเพิ่งได้นอนเหมือนเราเนี่ยแหละ” ไม้โทงัวเงียพูด และจะหลับต่ออีกรอบ แต่โดนมือบางฟาดปลุกไปที่ไหล่แกร่งเสียงดัง จนทำให้ชายหนุ่มต้องสะดุ้งตื่นอย่างเต็มตา “ทำไมตื่นเช้า ไม่ง่วงเหรอ” “ไม่ง่วง ตื่นได้แล้ว” นัตตี้บอกก่อนยันตัวลุกขึ้น มองหาเสื้อผ้าเพื่อเอามาสวมใส่แต่กลับโดนท่อนแขนแกร่งคว้าหมับรอบเอวบางให้ล้มลงนอนเหมือนเดิม “นอนต่ออีกหน่อย เจ้านายไม่ว่าอะไรหรอก เจ้านายรู้” ไม้โทบอกนัตตี้ จนเธอใจอ่อนยอมล้มตัวลงนอนอีกรอบ แต่ไม่ได้
พิเศษ 2 กินได้เลย ฉันอนุญาต “อยากกิน แล้วทำไมไม่กินล่ะ” ไม้โทเอ่ยแค่นั้น ก่อนจะจับใบหน้าหวานเกินผู้ชายทั่วไปของนัตตี้ให้แหงนขึ้นมารับริมฝีปากหยักได้รูปที่ทาบทับลงบนริมฝีปากนุ่มมีลิปสติกสีอ่อนทาไว้ นัตตี้เบิกตากว้างเพียงชั่วครู่ให้กับการกระทำของชายหนุ่มที่เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าเขาจะทำกับเธอ นัตตี้เริ่มหายใจติดขัดไม่ทั่วท้องเมื่อริมฝีปากหยักบดขยี้ริมฝีปากเธออย่างรุนแรง ก่อนจะเริ่มสอดแทรกลิ้นอุ่นที่มีกลิ่นจางๆของบุหรี่เข้ามาผสมผสานกับกลิ่นแอลกอฮอล์ ตวัดควานหาความหวานในโพรงปาก “อื้อออ” “จะกินหรือไม่กิน” ไม้โทถามขึ้นเมื่อถอนริมฝีปาก ปล่อยให้ปากบางได้รับอิสระ “กินได้จริงๆเหรอ” นัตตี้ถามเพื่อความแน่ใจ กลัวทำทำไปแล้วเขาเกิดเปลี่ยนใจไม่ทำ เธอจะค้างคามากกว่านี้ “ไม่กินฉันจะไปนอนข้างนอกแล้ว” ไม้โททำท่าจะเดินออกไป แต่โดนนัตตี้ดึงรั้งขอบกางเกงเอาไว้เสียก่อน “กะ...กิน ค่ะ” นัตตี้พูดค่ะกับเขาเป็นครั้งแรก คำตอบของเธอทำรอยยิ้มผุดขึ้นบนมุมปากหนาทันที ริมฝีปากหยักทาบทับบดขยี้ริมฝีปากบางนั้นอีกครั้ง ก่อนค่อยๆเลื่
พิเศษ 1 อยากจับไหม? อยากกินมากกว่า... นัตตี้ หรือ นาที ลูกน้องคนสนิทของแบล็คเกอร์ นัตตี้เป็นสาวประเภทสองที่แต่งตัวดูดี ไม่ได้แต่งตัวเป็นสาวจ๋าเหมือนสาวประเภทสองทั่วๆไป ที่สวยเหมือนผู้หญิงจนแยกไม่ออก นัตตี้มีรูปร่างสูงโปร่ง ค่อนข้างไปทางบอบบางกว่าชายปกติทั่วไป ผิวขาวใส ทรงผมรากไทรประบ่าไม่แมนเกินไปและไม่ยาวจนออกสาวมากนัก แต่เรื่องการแต่งหน้านัตตี้จัดเต็ม เพราะเธอชอบดูแลตัวเองให้สวยดูดี ดูแพงอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากเป็นบอดี้การ์ดให้นายหญิง แม้ว่าจะเป็นการดูแลอยู่ห่างๆก็เถอะ แต่เธอก็ต้องพร้อมอยู่ทุกสถานการณ์ จึงต้องแต่งตัวให้ดูทะมัดทะแมง เสื้อเชิ้ตขาวสวมทับด้วยสูทสีชมพูอ่อน กางเกงรัดรูปสีขาวดูดี นัตตี้เป็นสาวประเภทสองที่ทั้งเก่งศิลปะป้องกันตัวและเก่งด้านไอทีพอสมควร เธอมีหน้าที่ติดตามดูแลวินเซ่อยู่ห่างๆตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาจากแบล็คเกอร์ คอยรายงานเรื่องราวของวินเซ่ตอนที่ไม่ได้อยู่กับแบล็ค แต่ดูเหมือนว่าจะดูแลห่างๆได้ไม่นาน บางสถานการณ์ก็ต้องยื่นมือเข้าไปช่วยจนเธอเองรู้สึกอึดอัด อยากจะแสดงและติดตามอย่างเปิดเผยให้รู้แล้วรู้รอดไป จนแล้วจนรอดเธอก็ตัดสินใจแสดงตัวก
Special Bom Bay 3 ปีต่อมา... เตาะแตะ เตาะแตะ เด็กชายฝาแฝดวัย 3 ขวบ สองคน ในชุดไดโนเสาร์สีเขียวมีฮู้ด เดินเล่นเตาะแตะ อยู่บนถนนแข่งรถ ในสนามแข่งรถของมิวนิค โดยมีสายตาอบอุ่น สองคู่มองดูด้วยความเอ็นดู “ปีนี้ บอม กับ เบย์ ก็ 3 ขวบแล้ว เมื่อไรมึงจะมีเป็นของตัวเอง มาแย่งกูเลี้ยงลูกอยู่เนี่ยแหละ” แบล็คเกอร์เอ่ยขึ้นกับเพื่อนท่ามกลางความเงียบ “อย่ามาหวง กูแค่มาเล่นด้วยเป็นครั้งคราว ทำบ่น” มิวนิคตอบกลับ “ครั้งละหลายวัน บางทีก็เอากลับบ้านด้วย และมาทุกวัน แทบจะย้ายมาอยู่บ้านกูแล้ว” แบล็คตอบอย่างกวนๆ “ก็เมียมึงชวนเมียกู กูไม่ได้อยากมาสักหน่อย” “สาบาน!” แบล็คเกอร์ถามห้วนๆ อย่างไม่จริงจัง เขารู้ดีว่าเพื่อนของเขาน่าจะติดหลานชาย เจ้าก้อนทั้งสองของเขาแน่นอน “ไม่! กูจะตายฟรี” มิวนิคตอบ แล้วเดินออกไปยังรถแข่งคันโปรดที่จอดไม่กลางสนามแข่ง เพื่อเช็คสภาพ เตรียมจะเอาไว้ลงแข่งในค่ำคืนนี้ แบล็คเกอร์ยิ้มๆ แล้วส่ายหัวให้กับความฟอร์มเยอะของเพื่อน ที่ไม่ยอมรับความจริงว่าตัวเองเห่อหลานขนาดไหน เขาเดินตามมิวนิคลงมาเช็ครถ ปล่อยให้ลูกชายทั้งสองเดินเล่นไปเรื่อยๆ “ป๊ะๆ นุงๆ” เสียงอ้อแอ้ร้องเรียกป
แผนการสุดท้ายสำเร็จ... “อื้อออ~” วินเซ่ขยับตัวรู้สึกตื่น เมื่อรับรู้ความหนาวจากเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ วินเซ่พลิกตัวไปเมื่อ แขนเรียวควานหาคนข้างๆ แต่ก็พบแต่ความว่างเปล่า ทันทีที่สติกลับมาเกือบเต็มที่ เปลือกตาบางค่อยๆ ลืมขึ้นปรับแสงจากด้านนอก “ไปไหนของเขานะ หรือไปทำงานแล้ว” วินเซ่ลุกขึ้นจากเตียง เตรียมตัวลงไปด้านล่าง เพื่อหายากินก่อนแล้วค่อยหาอาหารกินจากด้านล่าง วินเซ่เหลือบไปเห็นแก้วน้ำเปล่าและยาคุมฉุกเฉินวางอยู่ หญิงสาวนึกแปลกใจที่เขาเตรียมยาไว้ให้เธอ โดยที่เธอไม่ต้องบอกกล่าว ร่างบางกินยานั้นเรียบร้อยจึงจัดแจงทำธุระส่วนตัวแล้วลงไปด้านล่าง ด้านล่างของคฤหาสถ์ใหญ่ ค่อนข้างเงียบไร้ผู้คน เธอเห็นเพียงแค่แม่บ้านที่กำลังจัดเตรียมอาหารไว้ให้เธอเท่านั้น “เอ่อ...” วินเซ่อยากจะเอ่ยถามแม่บ้าน เมื่อกำลังเดินลงมาจากชั้น “นายหญิง ตื่นแล้วเหรอคะ ป้าเตรียมอาหารให้เสร็จพอดีเลย” ป้าแข ป้าแม่บ้านของตระกูลบูรณิมาเอ่ยหขึ้นกับนายหญิงคนใหม่ของบ้านนี้ “เขาไปไหนกันหมดอ่ะคะป้า” วินเซ่เอ่ยถามป้า เมื่อหย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้ที่ป้าจัดเตรียมไว้ให้ “คุณหนูแบล็คไปข้างนอกค่ะ สั่งป้าไว้ให้ดูแลนายห
จุดจบ...(ต่อ) หมอภูทำแผลให้แบล็คเกอร์แบบไวที่สุด เพื่อเขาจะได้เข้าพิธีสุดท้ายของการแต่งงานให้เสร็จครบทุกขั้นตอนนั้นก็คือ การส่งตัวบ่าวสาวเข้าเรือนหอ “ลุงหมอครับ” แบล็คเกอร์เอ่ยเรียกหมอที่ทำแผลให้เขา “ว่าไง เจ็บเหรอ” หมอภูถามเขา ในขณะที่ยังก้มหน้าก้มตาทำแผลให้ชายหนุ่มรุ่นหลาน “ไม่เจ็บครับ ผมมีเรื่องอยากให้ช่วย” หมอภูหยุดทำแผล แล้วเงยหน้าขึ้นถามเขา ถึงเรื่องจะให้ช่วย “จะให้ช่วยอะไร” “ลุงหมอพอจะช่วยทำยาให้ผมสักตัวได้ไหมครับ” แบล็คตัดสินใจบอกความต้องการของตัวเองไป “ฉันเป็นหมอ ไม่ใช่คนผลิตยาบ้า” หมอภูพูดด้วยรอยยิ้มมุมปาก แล้วก้มลังไปพันแผลต่อ “ผมรู้ว่าลุงมีโกดังผลิตยา ถึงจะไม่ใช่ยาบ้าหรือยาเสพติด แต่ลุงก็เป็นคนคิดค้นยาได้หลายตัว ผมอยากให้ลุงทำยาตัวหนึ่งให้ผมเท่านั้น” หมอภูละสายตาจากแผลขึ้นมาสบตากับแบล็คแวบหนึ่ง ก่อนก้มลงไปทำแผลต่อ แล้วเอ่ยปากให้เขาบอกสิ่งที่เขาต้องการมา ภายในห้องนอนกว้างขวาง ที่ตกแต่งสีขาวโทนสีชมพูไว้สำหรับทำพิธีเข้าหอ บนเตียงสีขาวมีกลีบกุหลาบที่จัดเป็นรูปหัวใจอยู่กลางเตียง เมื่อพิธีเสร็จสิ้น ภายในห้องทั้งห้องก็เหลือแค่เพียงเธอและเขาเท่านั้น “พี่แบล
จุดจบ... คฤหาสถ์สีขาวนวลสุดหรูหราใหญ่โตมโหฬารสไตล์ยุโรป ด้านหน้าคฤหาสถ์มีสระว่ายน้ำสระเก่าที่เคยอยู่แบบนี้เมื่อ 15 ปีก่อน มีลานด้านหน้ากว้างขวางที่เคยเงียบสงบ แต่บัดนี้ ถูกจัดให้เป็นสถานที่ทำพิธีแต่งงานอย่างครึกครื้นหรูหรา ตรีมสีขาวเหลืองอ่อนพาสเทลสีที่เจ้าสาวชอบ เพราะหากจัดตามสีที่เจ้าบ่าวชอบ บรรยากาศในงานคนน่าจะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นงานขาวดำไปเสียก่อน แขกเหรื่อผู้มาร่วมงาน ก็ยิ้มแย้มแจ่มใสร่วมยินดีกับคู่บ่าวสาวอย่างชื่นมื่น ภายในงานหลังจากพิธีเสร็จสิ้นหมดทุกอย่างแล้ว เหลือเพียงพิธีสุดท้ายคือส่งตัวบ่าวสาวเข้าหอ แขกเหรื่อกลับไปจนเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงแต่บุคคลที่สนิท และสำคัญทั้งสองครอบครัวเท่านั้น พิธีดำเนินไปจนเกือบจะราบรื่น หากไม่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น ที่มีแขกกลุ่มสุดท้ายเข้ามาร่วมยินดีเกือบ 50 คน “จะชิงมีความสุขโดยไม่สนใจว่าทำอะไรกับลูกสาวกูบ้างเลยหรือไง” เสียงแหบใหญ่ของชายวัยกลางคนดังขึ้น เมื่อขับรถเข้ามาจอดยังลานกว้างที่เป็นสถานที่จัดงานแต่ง วิชัย มาเฟียอีกกลุ่มที่ทำธุรกิจกับทั้งพ่อแบล็คเกอร์และวินเนอร์พ่อของวินเซ่ และเขายังเป็นพ่อของกันตา ผู้หญิงที่ตายด้วยน้ำมือขอ
แผนการเมื่อ 15 ปี สำเร็จสักที... ร่างบางถูกคลุมด้วยเสื้อเชิ้ตสีดำ นั่งบนตักของแบล็คเกอร์ที่เปลือยท่อนบนเพราะเอาเสื้อของตัวเองคลุมให้คนตัวเล็ก อยู่บนเบาะด้านหลังคนขับ ท่อนแขนแกร่งประคองกอดอย่างทะนุถนอม เขากลัวจะเสียเธอไปเหลือเกิน “กลับบ้านเล็กหรือคอนโดครับนาย” ไม้โทถามขึ้นแล้วมองเจ้านายผ่านกระจกมองหลัง “บ้านเล็ก” เขาตอบ “พี่แบล็ค!!” วินเซ่ที่กำลังซบอยู่ที่ซอกคอใหญ่ ดันตัวลุกขึ้น ร้องเรียกเขาจนเขาสะดุ้งตกใจ กระชับอ้อมแขนอย่างอัตโนมัติ “มีอะไร เจ็บตรงไหนคะ?” เขารีบถามอย่างห่วงใย “พี่นัตตี้ล่ะคะ ไปช่วยพี่นัตตี้ก่อน พี่นัตตี้โดนยิงเพราะวินซ์” ร่างบางเริ่มน้ำตาคลอเบ้า เป็นห่วงนัตตี้และโทษตัวเองอยู่ตลอดเวลา ที่นัตตี้โดนยิงก็เพราะความดื้อของเธอที่จะมาเที่ยวที่คลับนี้ให้ได้ และเพราะนัตตี้ปกป้องเธอจึงถูกยิง “นัตตี้ปลอดภัยแล้ว ไม่ต้องห่วง” เขาใช้มือหนาลูบหัวคนบนตักอย่างปลอบประโลม เขาเองก็รู้สึกผิดที่ผ่านมาไม่ทำอะไรกันตาจนวินเซ่ต้องเจอทุกสิ่งทุกอย่างสารพัด มาครั้งนี้ที่หนักสุดจนเขาไม่อาจปล่อยไปได้อีก นัตตี้ที่อยู่กับเขามานาน เป็นลูกน้องที่ซื่อสัตย์ และรักเจ้านาย นัตตี้เป็นคนเก่ง
มีความสุขเถอะนะ...กันตา...(ต่อ) ลูกน้องของกันตาจับหญิงสาวทั้งสองไว้เตรียมพาขึ้นรถ ไปที่ไหนสักทีหนึ่ง ระหว่างยื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่นั้น นัตตี้ก็วิ่งเข้ามาพอดี พร้อมกับตะโดนออกมาด้วยเสียงตวาดกร้าวเป็นเสียงผู้ชายแมนๆ “เห้ย!! พวกมึงจะทำอะไร!!” ทุกสายตาหันไปมองเป็นตาเดียว เมื่อได้ยินเสียงและเห็นนัตตี้วิ่งเข้ามา “จัดการมัน! ที่เหลือจับตัวอีสองตัวนี่ไป” กันตาสั่งลูกน้องแล้วตัวเองขึ้นรถออกนำไป ปัง! เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด เรียกสายตาของวินเซ่และแฟร์รี้ให้หันไปมอง ตาของวินเซ่เบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อเห็นภาพคนที่ล้มลงไปกองกับพื้นคือพี่นัตตี้ที่ถือปืนค้างไว้กำลังจะเตรียมยิง แต่โดนยิงเข้าที่หน้าท้องจนล้มลงเสียก่อน “ม่ายยยยย!!! พี่นัตตี้!!!” วินเซ่ดิ้นจะให้หลุดจากการเกาะกุมของพวกชายฉกรรจ์ แต่แรงของเธอไม่สามารถสู้ได้ วินเซ่หน้าแดงไหลอาบแก้ม มีแฟร์รี่ร้องไห้อยู่ข้างๆ เธอเป็นห่วงนัตตี้ ที่นัตตี้เป็นแบบนี้ก็เพราะความดื้อรั้นของเธอ “ฮึกๆ พะ...พี่ตา ช่วยพาพี่นัตตี้ไปหาหมอก่อนนะ วินซ์ขอร้อง...ฮือออ” วินเซ่ขอร้องกันตา จะจับเธอไปทำอะไรก็ได้ แต่อยากให้ช่วยนัตตี้ให้ถึงมือหมอก่อน แต่ดูเห