สองวันต่อมา“ป่านนี้ยัยเด็กนั่นจะเป็นยังไงบ้างวะ” เจย์เอ่ยขึ้นกับตัวเองเบาๆ พร้อมกับจ้องมองมือถือที่ยังอยู่หน้าโปรไฟล์ของเอิงเอย เขาจ้องไปยังรูปของเอิงเอยที่ฉีกยิ้มกว้างอยากจะโทรไปถามว่าเป็นยังไงบ้างแต่ก็ไม่กล้า แถมเอิงเอยก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ ทั้งในไอจีและโซเชี่ยลต่าง ๆติ้ง~เสียงแจ้งเตือนข้อความดึงขึ้นเจย์รีบเปิดดูทันทีเพราะคิดว่าอาจจะเป็นการแจ้งเตือนของเอิงเอย แต่สุดท้ายก็ไม่ใช่และมันเป็นข้อความของเมย่าที่หายหน้าหายตาไปนานซึ่งเขาเองก็ไม่ได้ทักไปหาเลยเพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องของเอิงเอยMEYA : เจย์ได้ข่าวว่าติดโควิดเป็นยังไงบ้างเมย่าเป็นห่วงนะJAY : ก็ดีขึ้นแล้วครับเขาพิมพ์ตอบกลับไปก่อนจะล้มตัวลงนอนอย่างเบื่อหน่ายMEYA : ส่งรูปภาพ เจย์มองดูรูปสุดสยิวที่เมย่าส่งมาให้ปกติเขาจะอ่อนไหวและมีอารมณ์กับรูปของเมย่าที่ส่งมาอ่อยเสมอแต่วันนี้เขาได้แต่ดูและถอนหายใจออกมาแค่นั้นMEYA : ทำไมเงียบไปล่ะไม่ชอบเหรอJAY : เจย์ขอตัวไปนอนก่อนนะครับ เมย่าได้แต่มองคำตอบที่ไร้เยื่อใยของเจย์มือของเธอกำแน่นทำไมแทนที่เจย์จะเกลียดยัยเด็กนั่นไปแล้ว และกลับมาหาเธอแต่เขากลับดูห่างเหินมากกว่าเดิมเสียอีก!ที่บ
คอนโดเจย์ติ๊ด....ใบหน้าหล่อเงยขึ้นจากเตียงนอนทันทีหลังได้ยินเสียงกดคนรหัสผ่านประตูไม่นานร่างคุ้นตาก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขา“ไอ้พี่ชั่วววววว!” เจย์มองน้องชายที่จู่ ๆ ที่ปรี่เข้ามาหาเขาพร้อมกับพ่นคำด่าสารพัดเขาลุกขึ้นนั่งก่อนจะมองน้องชายด้วยความไม่เข้าใจว่าไปโมโหอะไรมาแล้วทำไมต้องมาลงที่เขาแบบนี้“ทำไมเฮียแม่งเลวขนาดนี้วะ แม่งโคตรผิดหวังในตัวเฮียเลย”“เดี๋ยวก่อนแล้วจู่ ๆ มาด่ากูทำไม?” เจย์เอ่ยถามขึ้นเจมส์ที่หงุดหงิดเขาเดินกระทืบเท้าปึงปังด้วยความโมโหอยากจะพุ่งเข้าไปชกหน้าพี่ชายสักสองสามทีแต่ก็ต้องอดทนไว้“โธ่เว้ย..เฮียทำแบบนี้กับผู้หญิงตัวเล็กๆ ได้ไงวะแม่ง” คำพูดของเจมส์ทำเอาเจย์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“มึงพูดดี ๆ ให้รู้เรื่องดิ” เขาเอ่ยขึ้นอย่างมีเหตุผลเจมส์ถอนหายใจด้วยความหงุดหงิดก่อนจะนั่งลงปลายเตียงมองพี่ชายที่นอนถอดเสื้อเปิดแอร์เย็นฉ่ำแต่ร่องรอยของบาดแผลก็ยังคงมีให้เห็นแต่มันเทียบไม่ได้เลยกับของเอิงเอยที่เป็นหนักถึงขนาดไข้ขึ้นแบบนั้นผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่พ่อแม่ก็ไม่อยู่แล้วทั้งชีวิตเหลือเพื่อนอยู่2คนแบบนั้นถ้าวันนั้นเขาไม่มาหาเพราะมีนัดกันไว้ ป่านนี้เอิงเอยจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ยิ่งคิด
“โดนใครต่อยมาล่ะนั่น” ผู้จัดการเอยถามหลังเห็นใบหน้าของเจย์มีแผลตรงมุมปากเพิ่ม“เจมส์” เจย์เอยตอบสั้นๆ ก่อนจะหยิบตารางงานมาดูอาทิตย์หน้าเขาต้องกลับไปทำงานต่อแล้วและแน่นอนว่าตารางจะแน่นขึ้นกว่าเดิมเพราะสัปดาห์นี้เขาต้องพักทั้งอาทิตย์“แล้วน้องแกมาต่อยแกทำไม” ผู้จัดการเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ก่อนจะนั่งลงบนโซฟากว้างเจย์ถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะวางแผ่นงานไว้ข้างตัว“เอิงเอยเป็นเพื่อนของเจมส์ และมันรู้ว่าผมกับเอิงเอยมีอะไรกัน มันมาเพื่อยืนยันว่าเอิงเอยไม่ได้เป็นคนใส่ยาให้ผมกิน” เจย์เอ่ยเล่าพร้อมกับพิงตัวไปกับเบาะโซฟาด้วยความเบื่อหน่าย“โลกกลมจัง..เออพูดถึงเรื่องยาพี่ไปสืบมาจากร้านแล้วให้ตายเถอะ!” เจย์ปรายตามองผู้จัดการที่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงติดหงุดหงิด“ทำไมล่ะ” เขาเอ่ยถาม“กล้องโดนลบหมดเลยไงล่ะถามได้แต่เรื่องที่แกบอกว่าเด็กนั่นเอายาใส่ในขวดน้ำน่ะไม่จริงเหรอเอิงเอยตามไปดูมันถูกลบแค่บางส่วน”“…”“ตัดมาอีกทีก็เป็นภาพตอนเอิงเอยเดินไปซื้อน้ำแล้วก็เดินออกนอกร้านมาจนมาถึงรถแกนั่นแหละเอิงเอยไม่ได้เปิดขวดน้ำและแอบใส่ยาแต่อย่างใด” คำพูดของผู้จัดการทำเครียดในทันที“แต่ก็ใช่ว่าจะพ้นข้อกล่าวหาจริงๆ เหรอเพราะ
Jay & Aeng Aei – 28 ตามหาความจริง “เจย์นี่นายเป็นอะไร นายเบื่อพี่แล้วเหรอไง” คำถามของเมย่าทำเขาหยุดนิ่งเขาไม่ได้เบื่อเมย่าแต่ตอนนี้เขากำลังจะเป็นบ้า ในเมื่อหัวสมองมันเอาแต่คิดภาพของเขากับเอิงเอยตอนมีอะไรกันตลอดเวลา“ไม่ใช่..” เขาตอบเสียงเบาเมย่าเข้ามากอดเจย์แน่นพร้อมกับจับไปที่ตัวตนของเขาที่แข็งทื่อ“จริงด้วยเพราะตอนนี้ของเจย์มันแข็งมาก” เมย่าเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม ที่เจย์มีอารมณ์กับตัวเองมากขนาดนี้แต่ใบหน้าหล่อรู้ดีว่าที่ตัวเองแข็งขนาดนี้มันไม่ใช่เพราะเมย่าแต่เป็นเพราะเขากำลังคิดถึงเอิงเอย“ผมขอกลับก่อนนะครับ ไว้เสร็จงานจะทักหา” เจย์ดันเมย่าให้ออกจากตัวก่อนจะรีบเดินออกจากห้องไปทันที ส่วนเมย่าแม้จะเสียดายที่ไม่ได้กินอีกฝ่าย ในวันนี้แต่เธอก็ไม่เสียใจเพราะนับตั้งแต่นี้เจย์จะเป็นของเธอคนเดียวตลอดไปอยู่ดีที่ร้านอาหารต้นเหตุ“เอาไงดี” เสียงเล็กๆ เอ่ยขึ้นตอนนี้เอิงเอยยืนอยู่หน้าร้านอาหารต้นเรื่องวันนี้เอิงเอยอยากมาดูกล้องวงจรปิดถึงความผิดปกติอะไรบางอย่างเพื่อเป็นหลักฐานเอาไปให้กับเจย์ แม้จะตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ขอยุ่งกับเขาอีกต่อไปแต่จะให้เอิงเอยกลายเป็นคนผิดแบบนี้เอิงเอยก็ไม่สบายใจเหมือนกั
วันต่อมาเอิงเอยนั่งอยู่ในร้านอาหาร เธอสั่งน้ำและเค้กมากินเพื่อรอผู้จัดการของพี่เจย์เหตุที่นัดผู้จัดการแทน แทนการนัดเจ้าตัวมาเอง เพราะเธอกลัวว่าเจย์จะเธอมากจนไม่รับฟังอะไรเลย“สวัสดีค่ะ”“จ้ะ สวัสดี” เอิงเอยเอ่ยทักทายคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม ผู้จัดการของเจย์ดูมีอายุกว่าเจย์เล็กน้อย เขาทักทายเธอกลับอย่างสุภาพ ก่อนที่ผู้จัดการของเจย์นั่งลงพร้อมสั่งกาแฟมาทานด้วยเช่นกัน“หนูมีอะไรจะคุยกับพี่เหรอ” ผู้จัดการเอ่ยถามเอิงเอย ก่อนจะไล่สายตามองหญิงสาวที่ดูไม่ค่อยสดใสเหมือนเมื่อก่อนดูได้จากการแต่งตัวที่เน้นไปทางสีดำแถมใบหน้าสวยก็ยังขาวซีดเหมือนไม่ค่อยสบาย“คือว่าเอิงเอาหลักฐานมาให้ดูน่ะค่ะ” เอิงเอยเอ่ยบอกก่อนจะหยิบไอ้แพดของตัวเองขึ้นมาตั้ง และเปิดกล้องวงจรปิดให้อีกฝ่ายดูซึ่งผู้จัดการก็ตั้งใจดูมันและเมื่อดูจบเอิงเอยก็ยกยิ้มขึ้นเหมือนกับว่ารู้อยู่แล้วว่าใครเป็นคนทำ“ไปได้มาจากไหนล่ะพี่ก็เคยไปท้วงนะแต่เจ้าของร้านก็ไล่พี่ออกมา” เอิงเอยยิ้มแห้งทันทีก่อนจะเอ่ยตอบ“จ่ายให้เขานิดหน่อยค่ะแต่ถ้าแลกมากับความบริสุทธิ์ของตัวเองมันก็ไม่ได้แพงเท่าไหร่” ผู้จัดการถอนหายใจเล็กน้อยที่เอิงเอยต้องมาเป็นฝ่ายเสียเงินทุกอย
มือของเอิงเอยกำแน่นด้วยความประหม่า กลิ่นกายหอมอ่อนๆ ของเขาลอยขึ้นมาจนเธอรับรู้ได้เจย์จับไปที่คางของอีกฝ่ายก่อนเชิดหน้าเอิงเอยขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้เขาได้เช็ดครีมออกง่ายๆ ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกหงุดหงิดกับคำตอบที่ลังเลของเอิงเอยจนเผลอทำตัวบ้าๆ ลงไปเขาวางทิชชูที่มีเศษครีมเค้กลงกับโต๊ะก่อนจะใช้นิ้วโป้งเกลี่ยไปที่ปลายจมูกของเอิงเอยอย่างแผ่วเบาเพื่อเช็กว่ายังเหลือร่องรอยของครีมอยู่รึเปล่า ทว่าเพียงปลายนิ้วของเขาได้สัมผัสเอิงเอยหัวใจของเขาก็เต้นไม่เป็นจังหวะ เขามองใบหน้าสวยที่กำลังหลบสายตาเขาไปมาเห็นซอกคอของเอิงเอยยังคงมีร่องรอยแผลที่โดนเขากัด ก่อนจะเขาเลื่อนมือไปลูบมันเบาๆ พร้อมเอ่ยขึ้น“พี่ขอโทษนะ” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนทำให้เอิงเอยคลี่ยิ้มบาง ๆ ออกมา เธอพยักหน้ารับคำขอโทษที่เขารู้สึกผิดกับมันจริงๆ สองสายตาประสานกันอีกครั้งก่อนที่ต่างฝ่ายต่างก็ยิ้มให้กันทว่า...อีกมุมของด้านนอกร้านอาหาร“ไม่จริง..” เมย่าที่มองเหตุการณ์อยู่นอกร้าน เธอกำหมดแน่นด้วยความโกรธทั้ง ๆ ที่ตอนนี้เจย์ควรเป็นของเธอ แต่สิ่งที่เธอเห็นคือทั้งสองกำลังจ้องมองกันด้วยสายตาหวานชื่นมันต้องไม่เป็นแบบนี้สิ!เขาต้องเกลียด
เจย์มองเมย่าที่หลับหูหลับตาจูบเขาลิ้นของเมย่าพยายามจะดันให้เขาเปิดปากแต่เขาก็ไม่ทำและพลักอีกฝ่ายออกทันที“เจย์เราสองคนเป็นแฟนกันนะ!” เมย่าเอ่ยตะโกนเสียงดังด้วยความโมโห แต่เจย์เพียงยกยิ้มให้เท่านั้นมือหนาเชิดปลายคางของ เมย่าขึ้นสายตาแข็งกร้าวของเขาจ้องลึกไปยังใบหน้าของอีกฝ่ายพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ผมว่า ผมไม่เคยตกลงเป็นแฟนกับพี่เมย่าเลยนะครับ” คำพูดของเจย์ทำเอาเมย่าชะงักไปทันที“ไม่จริงเราสองคนรักกัน!” เมย่ามองเจย์ที่เค้นหัวเราะออกมาเหมือนสิ่งที่เธอพูดมันเป็นเรื่องตลก“ทำไมมโนเก่งจังล่ะครับ แค่นอนด้วย ก็ถือว่าเราสองคนเป็นแฟนกันแล้วเหรอ? งั้นคนที่พี่นอนด้วยทุกคนต้องเป็นแฟนพี่หมดเลยไหม”“….”“พี่เมย่า ผมบอกเสมอว่าเราเป็นเพียงคู่ขากันไม่ใช่เหรอครับ”เมย่าจ้องมองดวงตาแข็งกร้าวพร้อมกับน้ำเสียงที่เย็นชาดวงตาของเธอมีน้ำใสๆ ไหลลงมาทันทีด้วยความผิดหวังแม้จะไม่ได้เอ่ยปากขอเป็นแฟนแต่เธอก็คิดเสมอว่าเจย์คือคนพิเศษมาตลอด“ไม่จริงเจย์รักเมย่า!”“รัก ?” เจย์แค่นหัวเราะ เขาชอบเมย่าก็จริง แต่ไม่ได้เรียกว่ารัก และที่อยู่ได้ด้วยนานเพราะเมย่าตรงไทป์เขาทุกอย่าง สวยแซ่บไม่เรื่องมาก ไม่วุ่นวาย เธอจะไ
“สวัสดีครับทุกคน แหม...วันนี้คนแน่นเป็นพิเศษเลยนะครับมารอดูใครกันเอ่ย..”“พี่เจย์ค่า!!” เจมส์มองเอิงเอยที่เอ่ยตอบพิธีกรพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง เอิงเอยดูมีความสุขเป็นพิเศษในวันนี้ และที่อยากมาก็เพราะว่าคงอยากมาเจอพี่ชายเขาสินะไม่คิดเลยว่าเอิงเอยจะชอบพี่ชายเขามากขนาดนี้แล้วทำไมเจ้าตัวถึงไม่ชอบเขาบ้างล่ะเขาก็เป็นน้องชายของเจย์เลยนะ“เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาขอเชิญเจย์สุดหล่อขึ้นบนเวทีเลยครับ” เจมส์มองดูทุกคนที่ต่างส่งเสียงกรี๊ดกันออกมามีทั้งผู้ชายและผู้หญิงปะปนกันไปก่อนจะหันมามองเอิงเอยที่กรี๊ดสุดเสียงซึ่งเขาได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ และหันกลับไปมองบนเวทีที่มีเจย์คุ้นตากำลังเดินออกมาพร้อมรอยยิ้มกระชากใจ“กรี๊ดดเจย์” เจมส์มองเอิงเอยที่เขย่าแขนเขาด้วยความเขิน เจ้าตัวเกาหัวด้วยความงงแต่ก็พอเข้าใจได้เพราะเคยเจอตอนมิ้นเพื่อนสนิทอีกคนที่เป็นแบบเดียวกันตอนกำลังนั่งดูซีรี่ส์เกาหลีและมีพระเอกหล่อๆ โผล่ออกมา“สวัสดีครับทุกคนทั้งชั้นล่างและ…ชั้นบน” เอิงเอยส่งยิ้มให้กับใบหน้าหล่อที่เงยขึ้นมาสบตากับเอิงเอยเพียงเล็กน้อยก่อนจะหันไปสนใจคนอื่นๆ ต่อเขาเห็นเธอด้วยแฮะเขินจัง“น่าเสียดายนะครับที่วันนี้เจย์ของเราไม่ไ
ห้าปีต่อมา“เดซี่”“พ่อคะแม่คะ” ใบหน้าสวยหวานโบกมือทักทายผู้เป็นพ่อกับแม่ด้วยรอยยิ้มใสเด็กตัวน้อยที่หน้าตาน่ารักเหมือนนางฟ้านางสวรรค์คนนี้มีชื่อว่าเดซี่และแน่นอนว่าเอิงเอยคือลูกสาวของเอิงเอยและเจย์“ขอบคุณพ่อกับแม่นะครับที่ดูแลเดซี่ให้” เจย์เอ่ยขึ้นมองพ่อกับแม่ที่เริ่มแก่ลงแต่ก็ยังมาคอยช่วยเลี้ยงหลานในวันที่เขาและเอิงเอยติดธุระ“ไม่เป็นไรลูกแล้วเอิงเอยไปไหนล่ะ” ผู้เป็นแม่เอ่ยถาม“หลับน่ะครับสงสัยเดินเยอะแล้วคงจะเพลีย” เจย์เอ่ยบอกพร้อมกับหอมแก้มลูกสาวตัวน้อยด้วยความคิดถึง“ดูแลกันดีๆ นะลูกพ่อกับแม่ขอตัว” เจย์โบกมือลาพ่อกับแม่รวมถึงเดซี่ที่ยิ้มส่งลาทั้งคู่อย่างน่ารัก“แม่หลับเหรอคะ” เดซี่เอ่ยถาม“ครับสงสัยน้องน่าจะกวนทั้งคืน” เขาเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มวันนี้เขาพาเอิงเอยไปตรวจครรภ์ครบแปดเดือนมา ท้องของเอิงเอยใหญ่มาก เนื่องจากใกล้จะคลอดเต็มที่เด็กในท้องเป็นผู้ชายร่างกายสมบูรณ์และคึกมากๆ เพราะเจ้าตัวถีบท้องเล่นตลอดจนเอิงเอยต้องตื่นกลางดึกอยู่บ่อยครั้ง“น้องดีน่ะเหรอคะ” คำพูดของลูกสาวทำเขาขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะวางเดซี่ลงนั่งบนโซฟาและเดินไปหาน้ำมาให้ลูกสาวดื่ม“น้องดีเหรอใครเป็นคนตั้งชื่อ” เขาเอ่
วันต่อมา“พ่อคะแม่คะ หนูพาลูกเขยพ่อกับแม่มาหาแล้วนะ” เอิงเอยเอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใสกับหลุมศพของพ่อกับแม่ซึ่งเจย์ก็ได้แต่ยืนนิ่งแม้จะรู้ว่าเอิงเอยในตอนนี้กำลังยิ้มอยู่แต่ภายในของเอิงเอยก็คงเศร้ามากอย่างแน่นอน“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ ผมเจย์ครับ” เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพก่อนจะวางดอกไม้เป็นการเคารพทั้งสองท่านเอิงเอยยิ้มและปัดไปที่รูปภาพเล็กๆ ของทั้งสองอย่างคิดถึง“ไม่ต้องห่วงหนูนะคะหนูใช้ชีวิตอย่างดีมาโดยตลอดและต่อไปนี้หนูก็จะมีคนมาดูแลด้วย” เอิงเอยพูดพร้อมหันไปหาเจย์ที่ส่งยิ้มและบีบมือของเอิงเอยอยู่“คิดถึงนะคะ..นะ..หนูคิดถึงฮึกก....พะพ่อกับแม่มากๆ เลย” เจย์มองเอิงเอยที่เริ่มร้องไห้ออกมาเขาโอบไหล่บางเป็นการปลอบเอิงเอยเข้มแข็งมากที่อยู่ตัวคนเดียวได้บนโลกใบนี้“ตะต่อไปฮึกหนูก็จะคิดถึงพ่อกับแม่อีกฮึกถ้าชาติหน้ามีจริงหนูขอเกิดมาเป็นลูกพ่อกับแม่อีกนะคะ” เอิงเอยเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มเศร้าเจย์ดึงเอิงเอยมาก่อนพร้อมกับลูบผมของเอิงเอยอย่างแผ่วเบา ปล่อยให้เอิงเอยร้องไห้ออกมาจนพอใจก่อนจะผละตัวออกไป“พี่สัญญาว่าต่อจากนี้พี่จะเป็นคนดูแลเราแทนพ่อกับแม่ของเอิงเอง” เจย์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนจะกดจู
“พร้อมไหม?” เจย์เอิงถามกับเอิงเอยตอนนี้ทั้งคู่มายืนอยู่หน้าบ้านของเจย์แล้ว สายตาคมจ้องมองบ้านตัวเองที่ไม่ได้มานาน ไม่รู้ว่าป่านนี้พ่อกับแม่จะแก่ไปมากขนาดไหนซึ่งก่อนมาเขาก็ฝากบอกน้องชายให้บอกพ่อกับแม่ไว้แล้ว“ค่ะ!” เอิงเอยเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มเจย์ประหลาดใจเล็กน้อยที่เอิงเอยดูไม่ได้ตื่นเต้นมากเท่าไหร่ และทั้งสองก็พากันเดินเข้าไปในบ้านทันที“ลูก/เจย์” ใบหน้าหล่อมองบุคคลทั้งสองด้วยความคิดถึง เอิงเอยปล่อยมือให้เจย์ได้เข้าไปกอดกับพ่อแม่ทั้งสามยืนกอดกันและเป็นแม่ของเจย์ที่ร้องไห้ออกมาด้วยความคิดถึงลูกชายส่วนเจย์ก็ยิ้มดีใจที่ได้กลับมาเจอพ่อกับแม่อีกครั้ง“ผมขอโทษนะครับ” เจย์เอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกผิดแต่ถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้เขาก็คงจะเลือกหนีออกจากบ้านเหมือนเดิมเพราะเขาคงทนอยู่ด้วยความอับอายกับความโง่เขลาของตัวเองไม่ได้เหรอ“ไม่เป็นไรลูกผิดพลาดแล้วก็ช่างมัน” แม่ของเจย์เอ่ยขึ้นอย่างอบอุ่นพร้อมกับกอดเจย์อีกครั้ง ส่วนพ่อของเขาก็ยกมือขึ้นลูบผมลูกชายด้วยความรักเช่นกันเอิงเอยมองภาพอบอุ่นด้วยน้ำตาคลอเบ้า เธอเองก็อยากกอดพ่อกับแม่แบบนี้บ้างจัง“แล้วแม่สาวน้อย..”“สวัสดีค่ะหนูชื่อเอิงเอยค่ะ^^” เอิงเอยเอ่ยขึ
เคร้ง!คำพูดของเอิงเอยทำเขาถึงกับทำช้อนตกใส่จานอาหาร เอิงเอยถึงกับหัวเราะออกมาเมื่อเห็นเจย์ทำท่าช็อก“พูดอะไรเนี่ย!” เจย์เอ่ยขึ้นพร้อมหัวเราะอย่างไม่เชื่อหู มีที่ไหนผู้หญิงจะขอผู้ชายแต่งงานก่อน“ไม่แต่งเหรอคะหนูให้สินสอดพี่เยอะๆ เลยก็ได้” เอิงเอยยังคงพูดต่อ เธอเกรงใจที่เจย์ต้องไปๆ มาๆ ที่คอนโดกับที่บ้านเอิงเอย สู้ย้ายมาอยู่บ้านเธอให้เป็นเรื่องเป็นราวก็สิ้นเรื่อง“เอิงครับ พี่สิต้องเป็นคนขอ ไม่ใช่เรา” เจย์เอ่ยตอบเสียงเรียบ“นี่มันสมัยไหนกันแล้วค่ะไม่สำคัญหรอกว่าใครจะเป็นคนขอก่อน นะๆ แต่งงานกันนะคะ พี่เจย์จะได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านเอิงไง”เจย์ผ่อนลมหายใจด้วยความเหนื่อยใจต้องเป็นเขาสิที่เป็นคนขอเอิงเอยแต่งงานและต้องเป็นเขาสิที่ต้องพาเอิงเอยย้ายมาอยู่ด้วยกัน“น้าๆ ~” เอิงเอยยังคงเว้าวอนไม่เลิกดวงตาสวยกะพริบกันถี่ ๆ จนคนเจย์อมยิ้มออกมา“ไหนแหวนล่ะ” เขาเอ่ยถามเอิงเอยชะงักไปทันทีเพราะไม่ได้เตรียมมา“อะเอ่อเป็นจุ้บ ๆ ขัดไว้ก่อนได้ไหมคะแหะ ๆ ^^” เจย์มองเอิงเอยที่จำแห้งเขาลุกขึ้น ก่อนจะเชยคางเอิงเอยมาจูบอย่างดูดดื่มเอิงเอยจูบตอบด้วยรอยยิ้มเขินในทันทีไม่นานเจย์ก็ผละจูบออกไปสองสายตามองกันพร้อมกับ
“แย่จังนะคะ พอดีพ่อแม่เอิงทิ้งมรดกไว้ให้เยอะมากเสียด้วยสิ” เอิงเอยเอ่ยพร้อมยกยิ้มที่มุมปากเมย่าได้แต่กำหมัดแน่นด้วยความไม่พอใจ แต่ที่ไม่สามารถเอาชนะผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเอิงเอยได้แล้วตอนนี้ผู้หญิงตัวเล็กหน้าตาใสซื่ออย่างเอิงเอยก็กำลังควบคุมเอิงเอยจนอยู่หมัดเมย่ามองทั้งสองด้วยความแค้นก่อนจะเอ่ยขึ้น“ฝากไว้ก่อนเถอะ!” เมย่าเอ่ยขึ้นก่อนจะหันหลังเดินจากไป ส่วนเอิงเอยได้ยักไหล่ออกมาอย่างไม่แคร์ “ไม่รับฝากจ้าขี้เกียจถือมันหนักคิกๆ” เจย์ส่ายหน้าให้กับความขี้เล่นของเอิงเอยเขาถอนหายใจออกมาอย่างรู้สึกไม่สบายใจทั้ง ๆ ที่เขาเป็นผู้ชายแท้ๆ แต่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้กับเข้ามาสะสางปัญหาให้เขาจนหมดสิ้น“ขอโทษนะครับ เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะพี่แท้ ๆ” เขาเอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกผิด เอิงเอยมองใบหน้าหล่อก่อนฉีกยิ้มกว้าง“งั้นเอิงขอกอดจากพี่เจย์แน่น ๆ เป็นของรางวัลได้ไหม?”"แถมให้มากกว่ากอด ทั้งคืนเลยครับ"ใบหน้าหล่อระบายยิ้มออกมาก่อนจะสวมกอดอีกฝ่ายเต็มรัก เอิงเอยจมอยู่ในอ้อมกอดแกร่งด้วยรอยยิ้มและหวังว่าต่อจากนี้ผู้ชายของเอิงเอยจะมีแต่ความสุขในทุกๆ วันหนึ่งเดือนต่อมากระแสคู่จิ้นของเจย์และเควินได้ค่อย ๆ หาย
“นายแบบชิดกับนางแบบหน่อยครับ” เจย์ขยับตามคำสั่งเขาโอบเอวบางอันเปลือยเปล่าของเอิงเอยก่อนจะบีบเคล้นมันเบาๆ เอิงเอยเบ้หน้าด้วยความเจ็บเล็กน้อยเงยหน้ามองเจย์ที่ส่งสายตาดุให้กับเธอ แต่เจ้าตัวก็ได้แต่ส่งยิ้มหวานกลับไป“ดีครับน้องนางแบบขอยิ้มแบบสดใสเลยนะครับ” เอิงเอยทำตามอย่างว่าง่ายก่อนจะปรับเปลี่ยนท่าไปตามที่ช่างภาพบอกทุกคนต่างมองด้วยความอึ้งเพราะทั้งสองดูเข้ากันได้ดีมากประหนึ่งถ่ายแบบคู่รักก็ไม่ปาน“ดีครับเจย์กอดจากด้านหลังได้ไหมครับนางแบบโอเครึเปล่า” ช่างภาพเอ่ยถามเอิงเอยพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มไม่นานเจย์ก็เดินไปทางด้านหลังของเอิงเอย ก่อนจะสวมกอดจากด้านหลังและใช้ใบหน้าหล่อเกยบนไหล่ของเอิงเอย“ดีมากครับยิ้มหน่อยครับนางแบบเอามือ แตะหน้านายแบบ เยี่ยมครับ” ทั้งสองถ่ายอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงก่อนจะออกไปรอเปลี่ยนฉากเอิงเอยโดนช่างแต่งหน้าเรียกไปเติมหน้า เช่นเดียวกับเจย์ไม่นานฉากใหม่ก็ถูกจัดขึ้นและทั้งสองต้องลงไปนั่งในบ่อน้ำด้วยกันเอิงเอยลงนั่งเป็นคนแรกระดับน้ำอยู่ตรงช่วงอกของเอิงเอยพอดีไม่นานเจย์ก็เดินตามเข้ามา“กลับบ้านไปเจอแน่” เขาเอ่ยเสียงดุก่อนจะหันไปสนใจช่างภาพอีกครั้ง เอิงเอยที่ได้ยินแบบนั้นก็
ในที่สุดก็มาถึงวันที่มีนัดถ่ายแบบเอิงเองกับเจย์แยกกันมาเพราะเมื่อวานเจย์มีถ่ายงาน ส่วนเรื่องข่าวที่เจย์ลงรูปเอิงเอย เธอก็พึ่งรู้ แน่นอนว่าเจ้าตัวเขินมากแต่ก็แอบเสียใจนิดหน่อยที่คอมเม้นส่วนใหญ่คิดว่าคนในรูปเป็นเควินดารานายแบบที่กำลังมีข่าวกันอยู่ แถมทั้งคู่ก็ยังไม่ได้ออกมาเคลียร์แต่อย่างใด“สวัสดีครับ” เจย์ที่อยู่เปลือยกายท่อนบ่นโชว์แผงอกและหน้าท้องแกร่งเอ่ยทักทายเหล่าทีมงานด้วยรอยยิ้ม เขาแต่งกายด้วยเสื้อสีขาวตัวบางแต่ไม่ได้ติดกระดุม เพราะเป็นคอนเซ็ปต์ชุดว่ายน้ำฉากหลังเลยจัดเป็นคล้ายๆ ทะเล ด้านล่างก็มีทรายจริงพร้อมของตกแต่งทีมงานที่เป็นสาว ๆ ต่างพากันน้ำลายย้อยให้กับความหล่อความสมบูรณ์ของเจย์กันยกใหญ่“เจย์” เจย์หันไปตามเสียงเรียกใบหน้าหล่อมีสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะโค้งทักทายอีกฝ่ายที่มีอายุกว่า“สวัสดีครับพี่เมย่า” เขาเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพมองเมย่าที่มาในชุดคลุมอาบน้ำ ผมของเธอดัดลอน และแต่งหน้าจัดใบหน้าของพี่เมย่ายิ้มแย้มให้กับเขา แต่เจย์กลับก็ไม่ได้ยิ้มตอบแต่อย่างใด หลังจากที่เขารู้ความจริงที่น่ารังเกียจว่าคนที่อยู่เบื้องหลังที่ลอบทำร้ายเอิงเอยคือเมย่าเขากลับรู้สึกรังเกียจเธอขึ้นมาก“ไม่ได
ในที่สุด ตอนนี้เอิงเอยกลายเป็นผู้บริหารสูงสุดแทนเจ้าของบริษัทไปโดยปริยาย “แต่ว่าเอิงเอยมีเรื่องให้ช่วยหน่อยได้รึเปล่าคะถ้าได้เอิงเอยจะเพิ่มให้พิเศษอีกสองแสน” คนที่ฟังตาลุกวาวทันที“ได้สิครับได้เลยครับ”“คือกำหนดการถ่ายแบบของนายแบบที่ชื่อเจย์กับนางแบบที่ชื่อเมย่าในวันมะรืนนี้น่ะค่ะ” คนที่ได้ฟังชะงักไปเล็กน้อยที่อีกฝ่ายรู้ตารางงานของทั้งสองด้วยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป“พอเปลี่ยนจะนางแบบได้ไหม” เอิงเอยเอียงคอถามอีกฝ่ายอย่างน่ารักแม้ตอนนี้เอิงเอยจะเป็นผู้บริหารสูงสุดแต่ก็ยังไม่ได้ยืนยันในทันทีอำนาจต่างๆ จึงยังอยู่กับผู้ชายตรงหน้าอยู่แม้จะเซ็นเอกสารโอนหุ้นแล้วก็ตาม“คะคือว่า..” เจ้าของบริษัทหนักใจทันทีเพราะงานนี้เมย่าเป็นคนมาขอทำเอง และบอกว่าจะทำให้นิตยสารขายหมดให้ได้ซึ่งเขาก็แอบหนักใจเพราะนายแบบดันมีข่าวไม่ดีอยู่ตอนนี้“สองแสนค่ะ^^” เอิงเอยเอ่ยย้ำด้วยรอยยิ้มก่อนจะโชว์เงินสดในกระเป๋าล่อตาล่อใจอีกฝ่าย“ไม่ทราบว่านางแบบที่จะเปลี่ยนเป็นนางแบบในสังกัดของผมหรือเปล่าครับ” เขาเอ่ยถามเพราะนางแบบดัง ๆ ของสังกัดเขามีแค่เมย่าเท่านั้นเขาเลยเอ็นดูเอิงเอยเป็นพิเศษส่วนคนอื่นๆ ก็พอขายงานออกแต่ไม่ได้ปังเท่
รุ่งเช้าเพี้ยะ!“โอ๊ยอะไรเนี่ยพี่!” เจย์เบ้หน้าด้วยความเจ็บเมื่อโดนฝ่ามือของผู้จัดการ ฟาดมาเต็มหลังพร้อมกับสายตาอาฆาตนั่นอีก“จะอะไรซะอีกล่ะรูปเมื่อคืนคืออะไรยังไง” ผู้จัดการเอ่ยถามทันทีเมื่อวาน เพราะแทบไม่ได้นอน หลังจากต้องตอบคำถามมากมายจากลูกค้าที่ทักเข้ามา บางคนก็ไม่พอใจถึงขนาดแคนเซิ่ลงานเลยก็มี ทั้งที่ยังไม่มีใครรู้เลยว่าเจ้าของมือปริศนาคือใครเลยด้วยซ้ำ“เอิงเอย” คำตอบของเจย์ทำเอาผู้จัดการที่หน้าบูดเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นอมยิ้มทันที พร้อมกับหันไปมองเจย์ที่ตั้งใจขับรถอยู่ก่อนเอ่ยแซว“ฮันแหน่ แพ้ภัยตัวเองแล้วหรือจ๊ะเจย์ ไหนว่าไม่ชอบผู้หญิงแอ๊บแบ๊ว บลาๆ ~” เจย์มองอีกฝ่ายที่เล่นแซวเขาไม่หยุดรวมถึงเอาคำพูดเก่าๆ ของเขามาล้อเพิ่มเติมอีกใบหน้าหล่อส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะตั้งใจขับรถออกไปRrrrrr เสียงจากมือถือของเจย์ดังขึ้น ในขณะที่ผู้จัดการหันไปมองเห็นพอดี “ไอ้เจย์~ นายทำอะไรเนี่ย!” เจย์รีบหันมาด้วยความตกใจทันทีเมื่อเห็นผู้จัดการกำลังชี้ไปที่กลางจอภายในรถที่เชื่อมกับมือถือของเขาเผยให้เห็นชื่อขอคนโทรมา“เอิงเอยสุดที่รัก…โอ้ยยยย~ ไอ้เจย์ อึ่ยขนลุกอะ~” ผู้จัดการตัวท่าทีขนลุกเขาหัวเราะเล็กน้อยก่อ