ทว่าวิ่งมาได้ถึงแค่หน้าประตูซึ่งอยู่ห่างจากรถไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นเพลิงกับเนเน่วิ่งจูงมือกันสวนออกมาพอดี เสือและเล้งถอนหายใจด้วยความโล่งอกนึกว่าจะโดนตำรวจจัดการไปเสียแล้ว"ปล่อยภัยกันดีใช่ปะ" เป็นเล้งที่เอ่ยถาม"มันใช่เวลามาถามตอนนี้ไหมวะ รีบไปขึ้นรถก่อน..โน้นพ่อพวกมึงตามมาแล้ว" ยังไม่ทันที่เพลิงกับเนเน่จะได้ตอบอะไรกลับเสือก็โพล่งแทรกขึ้นก่อนเมื่อสายตามองตรงไปเห็นตำรวจกำลังวิ่งตามออกมา ทำเอาทุกคนหันขวับไปมองกันเป็นตาเดียวปัง!แล้วเพลิงก็ยกปืนยิงใส่ตำรวจเป็นการสกัดพร้อมกับทุกคนต่างคนต่างวิ่งขึ้นรถอย่างไม่รอช้า ขณะที่ตำรวจก็ยิงตอบกลับมาเช่นกัน ก่อนตี๋รีบเคลื่อนรถแล่นออกไปด้วยความเร็ว"เฮ้ย! ไอ้เพลิงนี่มึงโดนยิงอีกแล้วเหรอวะ" ทันทีที่ถอดไอ้โม่งออกพร้อมกับทุกคน สายตาของเล้งก็เหลือบเห็นแขนของเพลิงที่นั่งอยู่ริมประตูโดยมีหญิงสาวนั่งขั้นกลางเลือดไหลทะลุผ่านแจ็คเก็ตเสื้อหนังสีดำด้วยความตกใจ แต่ก็ดูผ่านๆแล้วแผลไม่น่าจะลึกคงแค่เฉี่ยวๆเท่านั้นครั้นได้ยินแบบนั้นตี๋ก็มองไปที่เพลิงผ่านกระจกหน้ารถไม่ต่างจากเสือก็หันไปมองเช่นกัน มีแต่เนเน่ที่นั่งนิ่งเพราะรู้อยู่แล้ว เลยไม่ได้มองหรือตกใ
ปึง!เมื่อได้ยินเสียงประตูดาดฟ้าปิดลงมือเล็กก็รวบรวมแรงทั้งหมดผลักอกแกร่งออกห่าง จนริมฝีปากหลุดออกจากกัน หญิงสาวยกมือขึ้นมาปาดน้ำลายออกจากกลีบปากลวกๆ"นะ..นายจะทำแบบนี้บนดาดฟ้าไม่ได้" เธอเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงติดขัดทั้งขยับถอยหลัง แต่ขยับได้เพียงนิดก็ถูกเขาเอื้อมมือมาคว้าแขนเรียวไว้ได้ทัน แล้วกระชากเข้ามาประชิดตัวเพื่อไม่ให้เธอหนีหมับ!"อ๊ะ!" ด้วยความไม่ค่อยมีแรงเธอจึงโอนเอนไปตามแรงกระชาก"ถ้ากูจะเอาที่ไหนกูก็ไม่สน" เสียงทุ้มเรียบพูดขึ้น แล้วเขาก็กระชากเสื้อชั้นในจนขาดวิ่น ดุนยอดชมพูระเรื่อบนเต้าอวบชวนให้เขาอดใจไม่ไหวตะโบมมันอย่างแรงในนาทีต่อมา พร้อมกับมือหนาค่อยๆดันร่างเธอให้นอนลงไปบนเสื่อน้ำมัน"อ๊าาา ตะ..แต่จะเอา..อื้อ..บะ..บนนี้ไม่ได้..อึก" เนเน่ร้องคราง แล้วพูดห้ามออกมาอย่างไม่เป็นภาษาแต่ก็ไม่ถึงกับฟังไม่ออก เธอไม่อยากให้เขาทำอะไรบนนี้มันโล่งโจ้งเกินไป แถมยังโดนน้ำค้างอีก แล้วที่สำคัญเหมือนฝนกำลังจะตกแล้วด้วยเดี๋ยวจะพากันเปียกไปหมดมือเล็กขยุ้มผมของคนบนร่างที่กำลังปลุกเร้าอารมณ์ปรารถนา เพื่อบังคับความรู้สึกวูบวาบในตัวไม่ให้ไหลไปตามสิ่งนั้น"....." คำพูดของอีกคนไม่ได้ทำให้เพลิงฟังเล
วันต่อมา..เปลือกตาบางค่อยๆขยับเล็กน้อยก่อนจะลืมขึ้นมาในห้องนอนที่ไม่คุ้นเคยอย่างงัวเงีย เมื่อร่างกายเปลือยเปล่าสัมผัสถึงไอความร้อนระอุจากร่างกายเปลือยเปล่าของคนข้างหลังที่แนบชิด พร้อมกับท่อนแขนแกร่งกอดรัดเอวคอดอยู่ เนเน่ขยี้เปลือกตาเบาๆ พลางบิดขี้เกียจ "อึก!" ทว่าเพียงแค่ขยับขานิดเดียวใบหน้าสวยก็เหยเกไปด้วยความเจ็บปวดตรงใจกลางความเป็นสาวที่เมื่อคืนถูกเขาใช้งานต่อแทบนับครั้งไม่ถ้วน ไม่เว้นแม้กระทั่งแผลที่ถูกกัดและบุหรี่จี้ด้วยความซาดิสต์ในตัวของเขาที่ชอบเสียงร้อง และชอบเห็นเลือดจึงทรมานเธออย่างว่าเล่นเธอกัดฟันข่มความเจ็บปวดยกแขนแกร่งออกจากเอว ค่อยๆดันตัวลุกขึ้นนั่งช้าๆหันมองเพลิงที่ยังหลับสนิทอยู่ แล้วนิ่งไปครู่หนึ่งด้วยความตกใจพอเห็นผ้าพันแผลบนท่อนแขนเขาเปียกชุ่มไปด้วยเลือด "หึ" เนเน่แสยะยิ้มออกมาอย่างนึกสมเพชกับความอวดดีของเขาที่ไม่ต่างกันเลย ที่เป็นแบบนี้ก็เกิดจากความเลวของเขาเอง เธอไม่จำเป็นต้องสนใจหรือรับผิดชอบอีกต่อไป แค่ทำแผลให้เมื่อวานก็ถือว่าหายกันกับที่เขาช่วยชีวิตแล้วจริงๆหากอยากให้เขาตายนี่ถือว่าเป็นโอกาสดีของเธอเลยนะ แต่ติดตรงเพราะเธออยากให้เขารับรู้ถึงความทรมานนั้นจึ
"อืม~" อาการปวดศีรษะตรงเข้าเล่นงานปลุกเพลิงให้รู้สึกตัวในช่วงสายท่ามกลางห้องที่มืดสลัว มือหนายกขึ้นมานวดขมับตัวเองเบาๆ ทว่าเพียงแค่แตะลงไปก็ชะงักรีบลืมตาตื่น เมื่อสัมผัสเข้ากับแผ่นอะไรบางอย่างที่ติดอยู่ตรงหน้าผากเขาดึงมันออกมาจึงเห็นเป็นแผ่นเจลลดไข้ และพอจะรู้ว่าใครเป็นคนแปะไว้ เลยเอื้อมมือไปด้านข้างของตัวเองหวังจะกระชากหญิงสาวที่นอนอยู่ข้างกันให้ลุกขึ้นมา แต่กลับพบแต่ความว่างเปล่า แล้วเธอหายไปไหน..ดวงตาคมกริบกวาดมองไปรอบๆห้องสี่เหลี่ยมเพื่อหาอีกคน ก็พบแต่ความว่างเปล่าอีกเช่นเดิม เธอคงหนีกลับไปแล้วมั่ง ถือว่าเก่งนะโดนขนาดนั้นยังพาตัวเองกลับไปได้เพลิงค่อยๆดันตัวลุกขึ้นหักคอไปมาพร้อมนวดขมับเบาๆ ก่อนหยัดกายลุกขึ้นเดินไปดึงผ้าขนหนูที่พาดอยู่บนราวมาพันรอบเอวสอบ เอื้อมมือเปิดประตูออกไปหยิบน้ำในตู้เย็นด้านนอกซึ่งเป็นตู้เย็นส่วนร่วมเขาและเพื่อนๆใช้ร่วมกันแกร๊ก|พอเปิดประตูห้องนอนออกมาก็เจอเข้ากับเล้งที่กำลังยื่นมือข้างหนึ่งมาเปิดประตูพอดี พร้อมกับอีกมือถือถ้วยข้าวต้มและยาแก้ไข้กับแก้อักเสบ"อ้าว! ตื่นแล้วเหรอวะ" เล้งเอ่ยถาม"....." คนถูกถามเงียบ จ้องมองถ้วยข้าวต้มในมือของเพื่อนรัก แล้วถ
@บ่อนโจร"ฉันมาแล้ว ไหนเพื่อนฉันล่ะ" เนเน่กวาดสายตามองไปรอบๆก็ไร้วี่แววของเพื่อนตัวเองเลยเอ่ยถามเพื่อนรักของเพลิงที่นั่งไขว่ห้างรออยู่บนโซฟา หลังจากเปิดประตูห้องทำงานเดินเข้ามาอย่างไร้มารยาท "ฉันให้มาช่วยป้อนข้าวกับยาให้ไอ้เพลิง ไม่ได้ใช้ให้มาถามหาเพื่อน" เสือเป็นคนเดียวที่นั่งอยู่ในห้องนั้นตอกกลับ ยกนิ้วชี้ไปที่ถ้วยข้าวต้มและยาแก้ไข้กับแก้อักเสบ ซึ่งว่างอยู่ใกล้กันบนโต๊ะทำงาน "โน้นถ้วยข้าวกับยาวางอยู่บนโต๊ะเอาขึ้นไปป้อนมันซะ""คุณก็ปล่อยเพื่อนฉันไปก่อนสิ แล้วฉันจะหยิบขึ้นไปป้อนให้""อย่ามาต่อรอง รีบเอาขึ้นไปซะ ถ้ามัวแต่ชักช้าฉันไม่รับรองความปลอดภัยของเพื่อนเธอนะ""โอเค ฉันจะรีบขึ้นไป แต่นายห้ามทำอะไรเพื่อนฉันนะ" พูดจบเธอก็เดินไปหยิบถ้วยข้าวต้ม พร้อมกับยาออกไปจากห้องทำงานทันที ไม่รีรอคำตอบจากอีกฝ่าย"หึ" มุมปากหนาแสยะยิ้มอย่างพอใจ ขณะที่สายตาคมกริบมองตามหลังหญิงสาวเดินออกไปจนลับตา ก่อนเสือจะหยัดกายลุกขึ้นเดินตามออกไป เพื่อกลับห้องนอนของตัวเองที่มีอีกคนนอนหลับอยู่คนนั้นก็คือเพื่อนรักของเธอพอเดินมาถึงหน้าห้องนอนของเพลิงมือเล็กอีกข้างก็เอื้อมไปบิดเปิดประตู แต่ทว่ากลับถูกล็อกจากด้านในจ
เขาเป็นคนไม่ชอบกินยามาตั้งแต่เด็กๆเพื่อนทุกคนจะรู้ดี เวลาป่วยเขาจะปล่อยให้หายเองตลอดซึ่งไม่มีใครกล้าบังคับหรือเซ้าซี้ แต่เธอกลับใช้วิธีนี้ทำให้เขากินมันก็ไม่แปลกที่คนอย่างเขาจะโมโห และก็รู้ว่าเสือใช้เพื่อนรักของเธอเป็นตัวล่อให้เธอทำให้เขากินยาให้ได้ ไม่ใช่เธอคนเดียวที่โดน เดี๋ยวเพื่อนรักของเขาก็โดนด้วย พูดคำเดียวไม่ฟังถ้าอยากลองดีเขาก็จะจัดให้สาแก่ใจ "อึก..ปะ..ปล่อย..อึก" เนเน่ส่ายหน้าไปมาเบาๆ พร้อมพยายามแกะมือหนาออกจากลำคอ "กูบอกว่าไม่กิน มึงไม่ได้ยินใช่ไหม ฮะ!" ยิ่งเธอพยายามแกะเขาก็ยิ่งบีบแรงกว่าเดิม "พะ..เพื่อนนาย..อึก..ขู่จะทำเพื่อนฉัน อึก..ฉันจำเป็นต้องทำแบบนี้" หน้าของเธอค่อยๆแดงก่ำส่ายไปมาหนักขึ้นเมื่อรู้สึกเริ่มขาดอากาศหายใจ น้ำตาที่พยายามกลั้นค่อยๆไหลพรั่งพรูอาบข้างแก้ม "หึ" ลำคอหนาหัวเราะออกมาเบาๆ โจรหนุ่มขบกรามแน่น มองคนตรงหน้าอย่างสมน้ำหน้า ตอนนี้เขาไม่สนว่าใครจะขู่บังคับอะไร ทว่าเธอเลือกที่จะกล้าดีก็ยอมรับชะตาตัวเองก็แล้วกัน "อึก" มือเล็กสั่นเทากำข้อมือเขาไว้แน่น แววตาของเพลิงราวกับราชสิงห์ที่กำลังจ้องตะครุบเหยื่อฉีกเป็นชิ้นๆ "ดูรักเพื่อนมากนะ ถึงขั้นยอมเจ็บตัวแทนเ
"นายครับ พี่เพลิงบอกทำแผลเสร็จเดี๋ยวลงมา" ทันทีที่เดินกลับมาถึงห้องทำงาน บอลก็รายงานผู้เป็นนายซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างของเจ้านายตัวเองอีกทีตามคำสั่งที่ได้รับ"อืม" คนที่ถือวิสาสะนั่งอยู่หลังเบาะบนเก้าอี้โต๊ะทำงานของเพลิง ครางตอบในลำคอกลับมาเบาๆอย่างรับรู้ "งั้นผมขอตัวไปเฝ้าบ่อนต่อก่อนนะครับ" พอเห็นว่าหมดหน้าที่ของตัวเองแล้วบอลก็เอ่ยบอก แล้วโค้งคำนับด้วยความเคารพ ก่อนจะหมุนตัวเดินฝ่าการ์ดสี่ห้าคนที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูออกไปทันทีแกร๊ก|เพลิงตวัดสายตาไปมองหญิงสาวที่กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ ขณะที่ตนหยิบสำลีขึ้นมาชุบแอลกอฮอล์เพื่อล้างแผล ทว่ารีบวางลงเมื่อเห็นว่าเธอเดินตรงไปยังบานประตู"จะไปไหน" น้ำเสียงเยือกเย็นเอ่ยถามขึ้นทำลายความเงียบ ทำเอาเนเน่หยุดฝีเท้าเหล่ตามองด้วยสีหน้านิ่ง ริมฝีปากอวบอิ่มแดงระเรื่อเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นซีดเผือดหลังเริ่มมีอาการบางอย่างแทรกเข้ามา"....." เธอแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินคำถามนั้น ขาเรียวก้าวเดินต่อจนถึงบานประตู หมับ!แต่แล้วยังไม่ทันที่จะได้เอื้อมมือไปจับลูกบิดก็ถูกมือหนาของอีกคนเข้ามากระชากไว้เสียก่อน ด้วยความอ่อนแรงทำให้ตัวเธอถลาไปแนบชิดกับแผงอกแกร่ง"อ๊ะ!" เนเน่ร้
หลายวันต่อมา..@มหาวิทยาลัยww"สภาพแกทำไมนับวันยิ่งเหมือนคนติดยาจังวะเน่" เสียงแคนดี้เอ่ยขึ้น ขณะที่เนเน่นั่งเหม่อเขี่ยข้าวพร้อมกับอยู่บนโต๊ะอาหารในโรงอาหารช่วงพักเที่ยง ซึ่งเป็นเวลาที่พวกเธอเลิกเรียนกันแล้ว"....." "เฮ้อ! เหม่ออีกและ" แคนดี้ถอนหายใจพรืดใหญ่อย่างกังวล หมู่นี้เนเน่เหม่อบ่อยมากไม่ค่อยพูดค่อยจาเหมือนก่อน เลิกเรียนก็รีบกลับไม่รู้จะรีบไปไหนปกติไม่จะชวนไปโน่นนี่ก่อนตลอด เดี๋ยวนี้ทำตัวลึกลับถามอะไรก็เปล่าไม่มีอะไรฉันรีบไปธุระจะเป็นแบบนี้ทุกวันเธอก็ไม่รู้สาเหตุเลยว่าเป็นเพราะอะไร แต่ดูจากสภาพที่ทรุดโทรมลงไปทุกวันของเนเน่เหมือนคนติดยาเอามากๆ มันอดคิดถึงไอ้โจรชั่วที่เคยฉีดสารเสพติดให้เพื่อนรักไม่ได้"ยัยเน่" แคนดี้กับแคททนไม่ไหวเลยตะโกนเรียกเพื่อนตัวเองลั่นโรงอาหาร ทำเอานักศึกษาและคนอื่นๆที่นั่งร่วมอยู่ในนั้นหันมามองโต๊ะพวกเธอกันเป็นตาเดียวเคล้ง! "....." เสียงของคนตรงหน้าและข้างๆตะโกนจนแสบแก้วหู ทำให้เนเน่สะดุ้งตกใจหลุดจากภวังค์ทิ้งช้อนลงในจานข้าว "อะไร จะแหกปากทำไมเนี่ย" พอตั้งสติได้ก็เอ่ยถามออกไปด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง"เหม่ออะไร ฉันถามไม่ได้ยินเหรอ" เป็นแคนดี้ว่า"เปล่า" เธอ
“อ้าว มาถึงกันตั้งแต่ตอนไหน” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อเดินกลับเข้ามาในบ้านตัวเองช่วงพลบค่ำพร้อมกับหลานชาย แล้วเห็นหญิงสาวเดินลงมาจากชั้นสองพร้อมชายหนุ่มร่างสูงกำยำคงจะเป็นหลานเขยสินะ หน้าตามันคุ้นๆแฮะเหมือนเคยเจอที่นี่ไหน?“คุณปู่ สวัสดีค่ะ” เนเน่ยกมือขึ้นประนมไหว้ ก่อนเธอจะเร่งฝีเท้าเข้าไปกอดผู้เป็นปู่อย่างที่เคยทำเวลามาหา “คิดถึงจังเลย” “อะ ขี้อ้อนเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน” นุลูบศีรษะทุยเบาๆกอดหลานกลับ ทั้งก้มหอมกุมผมให้หายคิดถึงคูลจ้องมองคนข้างหลังพี่สาวไม่วางตา เห็นอย่างนั้นเพลิงเองก็จ้องกลับไปเช่นกันด้วยสีหน้าเชิงมีคำถาม ว่าเด็กหนุ่มได้มีปัญหาอะไรกับเขาหรือเปล่า เด็กหนุ่มนิ่งเลือกที่จะเดินเลี่ยงขึ้นไปชั้นสอง แม้จะคับแค้นใจไม่น้อยกับเรื่องที่เพลิงได้เคยกระทำต่อเนเน่ แต่เขาก็ไม่อยากจะยุ่งปล่อยให้เจ้าตัวนั้นเลือกทางเดินของชีวิตเอาเอง“ทำไมวันนี้คุณปู่กลับมาเย็นจังคะ” ใบหน้าสวยแหงนถาม ในขณะที่ยังคงแนบชิดกับอกแกร่งของปู่และกอดเอวท่านอยู่หลวมๆ“แวะไปตีกอล์ฟกับเพื่อนมาน่ะ แล้วนี่เจ้าสองแสบปู่อยู่ไหน” นุตอบพร้อมกวาดสายตามองรอบๆ เมื่อไม่เห็นเหลนตัวน้อยทั้งสองคนจึงถามหา“น่าจะอยู่กับคุณย
“หนูม่ายต้ายหวันจาห้ายทินยดโตดห้ายจุนป้อนะกะถ้าทินม่ายเท็มจาย หนูแค่หยาดห้ายทินพ่อยวางห้ายจุนแม่กับปวกหนูต้ายเยือกกู้ซีวิดแยะป้อกานเอนต้ายมายกะ ห้ายกวามสุดปวกเยาต้ายมาย (หนูไม่ได้หวังจะให้ตินยกโทษให้คุณพ่อนะคะถ้าไม่เต็มใจ หนูแค่อยากให้ตินปล่อยวางให้คุณแม่กับพวกหนูได้เลือกคู่ชีวิตและพ่อกันเองได้ไหมคะ ให้ความสุขพวกเราได้ไหม)”“จะให้น้ามั่นใจได้ยังไงว่าสิ่งที่พวกหนูกับแม่หนูเลือกมันดีที่สุดแล้ว คนมันสันดานโจรทำเลวมาตั้งแต่เด็ก คิดเหรอว่ามันจะกลับตัวกลับใจมาเป็นผัวที่ดีพ่อที่ดีให้หนูกับแม่หนูได้”“ถึงผมจะเคยเลวเคยทำไม่ดีทำร้ายเนเน่กับลูก แต่ผมสัญญา..ต่อจากนี้ไปผมจะเป็นสามีที่ดีให้กับเธอจะเป็นพ่อที่ดีให้กับลูก จะรักและดูแลพวกเขาให้ดีที่สุดยิ่งกว่าชีวิตของผม” เพลิงละอายใจเอ่ยขัดบอกออกมาเองตามความรู้สึกหลังยืนนิ่งฟังลูกช่วยอยู่นาน ชายหนุ่มไม่ได้ขี้ขลาดที่จะเผชิญหน้าขอให้เด็กหนุ่มเห็นใจยอมไว้ใจให้โอกาสเขาได้ชดเชยในสิ่งที่เคยกระทำกับหญิงสาวและลูกสาวทั้งสองคน แต่แค่ไม่อยากจะมีปัญหาเพิ่มอีก เลยเลือกจะอยู่นิ่งๆ อะไรที่ยอมได้ก็ยอมทว่าลูกคนเล็กกลับช่วยพูดขอจนเขาอดที่จะอยู่เฉยๆไม่ได้ ไม่อยากให้ลูกนั
เย็นวันเดียวกันเสือกำลังขับรถพาแคทและแคนดี้มาหาเพื่อนรักของพวกเธอกับหลานสาวหลังจากที่ทั้งสามคนพากันไปวัดไซส์ตัดชุดแต่งงาน พร้อมกับเลือกโปสต์การ์ดและของชำร่วยรวมไปถึงสถานที่มาเสร็จสรรพ ฟังไม่ผิดหรอกเสือกับแคทกำลังจะแต่งงานกันปลายเดือนหน้านี้แล้วโดยมีแคนดี้จัดการแนะนำจองร้านดังงานดีระดับประเทศซึ่งเป็นของพี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องไว้ให้ทั้งนำทางมา ตามจริงเนเน่ต้องมาด้วยแต่เพราะติดที่ลูกงอแงคิดถึงน้าชายไม่หยุดจึงมาด้วยไม่ได้ เขาเลยต้องพาแวะไปหาเนี่ยแหละทันทีที่รถเลี้ยวเข้ามาจอดสนิทแล้วการ์ดได้เปิดประตูให้ แคนดี้ก็รีบก้าวลงจากรถ ก่อนจะเดินตัวปลิวนำหน้าเพื่อนกับแฟนเพื่อนไปอย่างไม่รีรอ“นี่แคนดี้แกจะรีบไปไหนเนี่ย กลับมาช่วยถือของเล่นหลานก่อนเลยนะ..อย่าเนียนเดินตัวปลิว” แคทหันมาร้องเรียก ขณะกำลังเดินไปหยิบของเล่นที่ซื้อมาฝากหลานสาวหลังรถคนถูกเรียกได้ยินก็หยุดฝีเท้าหมุนตัวกลับมาทำหน้าเจือนๆด้วยความลืมว่ามีของที่ตัวเองซื้อมาให้หลานด้วย “แหะๆ ฉันลืม”“ลืมตลอดแหละแกอะ” ใบหน้าหวานส่ายระอากับนิสัยตีเนียนของเพื่อนรัก พลางหยิบถุงยื่นไปให้สามถุงแคนดี้แบะปากยักไหล่ไม่ยี่หระอุตส่าห์จะตีเนียนสักหน่อยโ
หนึ่งเดือนต่อมา..ชีวิตครอบครัวของเนเน่และเพลิงดำเนินกันมาอย่างมีความสุขปะปนกับความทุกข์ใจเรื่องเนติน นับตั้งแต่คืนวันนั้นเจ้าตัวก็ขาดการติดต่อจากคนที่บ้านไปเลย แม้ว่าเนเน่กับคนอื่นๆในครอบครัวพยายามติดต่อไปหาเท่าไหร่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมรับสาย ไม่ว่าจะติดต่อผ่านทางลูกน้องคนสนิท ลูกพี่ลูกน้องหรือตายาย พอทุกคนยื่นสายไปให้เนตินก็จะรีบเดินหนีไปทันทีจนคนอื่นๆเอือมระอาเลิกติดต่อไป เหลือเพียงแต่เธอที่ยังคงดั้นด้น“จุนแม่ก๋า.. (คุณแม่ขา)” “หือ?” เจ้าของใบหน้าสวยเลิกคิ้ว พลางช้อนตามองลูกสาวคนเล็กตรงหน้าที่เอ่ยเรียกตนขึ้นขณะนั่งยกโทรศัพท์มือถือแนบหูพยายามต่อสายหาน้องชายครั้งแล้วครั้งเล่าอยู่บนเบาะคอกกั้นในห้องนั่งเล่น ก่อนเพลงพิณจะพูดถามออกมาเสียงสั่นๆราวกับคนจะร้องไห้“ทินโขดอาใยปวกเยาหย๋อกะ ตำมายจุนแม่โตปายม่ายเกยยับซัดที โตกาบก็ม่ายมี (ตินโกรธอะไรพวกเราเหรอคะ ทำไมคุณแม่โทรไปไม่เคยรับสักที โทรกลับก็ไม่มี)” แววตาเด็กหญิงเศร้าสร้อยมองผู้เป็นแม่อย่างตัดพ้อ แทบไม่เหลือคาบร่าเริงอย่างที่ควรจะเป็น “.....” ได้ยินเช่นนั้นเนเน่ก็หน้าเจื่อนลง เธอสงสารลูกจับใจ..มันหลายอาทิตย์แล้วที่เพลงพิณและเพลินลินงอแงบ่น
"....." สันกรามของเจ้าของคำถามบดเข้าหากันอย่างฉุนมาก สองมือกำมัดแน่น ตวัดสายตาคมกริบไปมองเพลิงที่เป็นคนตอบเอง"ใครอนุญาตให้มึงมาอยู่" "ป๊าให้มันมาอยู่ช่วยทำงานแทนตอนพาม๊าไปฮันนีมูน" เป็นโน่บอกตามความจริง "ทำไมไม่ให้เฮียทำ""มันว่างไหมล่ะ""กลับมาแล้วก็ไล่มันออกไป" "ติน.." เนเน่ทนไม่ได้หมายจะพูดช่วยให้น้องชายเข้าใจกันบ้างและปล่อยวางสักที ทันใดนั้นเพลิงก็กุมมือส่ายหน้าห้ามเธอไว้ไม่ให้พูดอะไร เดี๋ยวมันจะบานปลายไปเสียเปล่าๆ"....." ขณะที่โน่เงียบไปอย่างทำอะไรไม่ถูก ซึ่งเนตินเป็นคนไม่ฟังใครและพูดยากมันทำให้เขาค่อนข้างลำบากใจ เพราะนี่ก็ลูกนั่นก็สามีของลูกจะให้ไล่ออกไปมีหวังทั้งลูกทั้งหลานได้หอบผ้าตามไปแน่ ให้ตายยังไงเขาก็ไม่ยอมให้ลูกกับหลานออกไปอยู่ที่อื่นเด็ดขาด"จะไล่มันออกไปได้ไง ก็ป๊ายอมรับมันเป็นลูกเขยแล้ว" เมื่อเห็นผู้เป็นพ่ออึกอักไม่กล้าบอก เนมาร์เลยโพล่งฉวยโอกาสฟ้องก่อตั้งพวกเขม้น หลังทนนั่งฟังเงียบๆมาสักพัก"ฮันนี่!" สถานการณ์ยิ่งคุกรุ่นไม่ค่อยจะดีอยู่ พอเห็นสามีจุดชนวนก๋วยเตี๋ยวจึงปรามให้อยู่นิ่งๆ แล้วกระดุกแขนแกร่งให้ลุกขึ้นพาเด็กๆที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ให้ออกไปจากห้องนี้ก่อน
"ขอบคุณนะ.." ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณ รั้งศีรษะทุยเข้ามากดหอม "ขอบคุณที่อดทนช่วยเหลือพี่จนครอบครัวเรายอมรับ" "จะขอบคุณทำไม ทุกอย่างมันอยู่ที่ความพยายามของพี่เองทั้งนั้น" เนเน่ยิ้ม แหงนหน้ามองสามีพร้อมกับตอบกลับโดยที่เขาลูบผมเธอไปด้วย "แต่ถ้าไม่ได้เราช่วยเหลือเลย ป่านนี้พี่อาจยังไม่ถูกยอมรับก็ได้""เหรอ แต่เน่ว่าคงไม่ใช่แค่เน่คนเดียวหรอกที่ช่วยเหลือพี่..""....." คิ้วเข้มขมวดเลิกขึ้นอย่างไม่เข้าใจ ยังมีใครอีกเหรอที่คอยช่วยเหลือเขานอกจากเธอ"ยังมีม๊าอีกคนนะ" "ม๊า?" "ใช่ คืนก่อนวันที่จะพาลูกไปหา ถ้าไม่มีม๊ามาคอยพูดให้เน่เลิกสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง ป่านนี้คงไม่ได้มาอยู่ด้วยกันแบบนี้หรอก""งั้นพี่ก็ต้องไปขอบคุณม๊าด้วยใช่ไหม" "คงงั้นมั่ง" ใบหน้าสวยแนบลงบนไหล่แกร่งหลังพูดจบ ทว่าไม่ทันไรก็รีบแหงนมองหน้าสามีอีกครั้งเมื่อฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้.."หือ?" การกระทำของคนตรงหน้าทำเอาเพลิงถึงกับงุนงง แต่ยังไม่ทันที่เขาจะเอ่ยถามเสียงใสก็ดังถามขึ้นมาติดๆ"พี่เพลิงลืมอะไรไปหรือเปล่า.." "ลืมอะไร" "ก็..มีป๊าแค่คนเดียวเองนะที่ยอมรับพี่ เฮียกับตินยังไม่ได้ยอมรับพี่เลย" หารู้ไม่ว่าจริงๆเขาไม่ได้ลื
"ว้าว มีแต่ของน่าทานเหมือนเดิมเลย" พอเดินมาถึงห้องอาหารเห็นบนโต๊ะมีอาหารหลากหลายอย่างวางเต็มไปหมด ทำให้ฟีฟายหวนคิดถึงตอนเด็กๆที่เขามักจะมาเล่นและรับประทานอาหารที่นี่เป็นประจำในวันหยุด"มีฉู่ฉี่ปลาทูของชอบพี่ฟีฟายเหมือนเดิมด้วยนะ เหมือนแม่นมรู้ว่าพี่จะมา" ไม่ว่าเปล่าหญิงสาวหย่อนสะโพกนั่งลงพร้อมกับสามี เพลิงเหล่มองทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างไม่ชอบใจแต่ก็ไม่ได้ปริปากอะไร ได้แต่ขบกรามแน่น"คนสำคัญก็งี้แหละ" ฟีฟายยักไหล่โอ้อวดมาหย่อนตัวนั่งลงฝั่งตรงข้าม ก่อนแม่บ้านจะมาตักข้าวใส่จานให้ "แล้วนี่ไอ้เนกับไอ้ตินไปไหน ไม่ลงมากินด้วยกันเหรอ" "เนตินอยู่ดูแลงานแทนป๊าที่ญี่ปุ่นยังไม่กลับมาเลยค่ะ ส่วนเฮียน่าจะหอบลูกไปเฝ้าเมียที่มหาลัยแต่เช้าโน้น""ท่าจะหวงเมียจัด""มากๆ มาหนักก็ปีที่แล้วอะ ม๊าบอกซามิชวนก๋วยเตี๋ยวไปซื้อของเป็นเพื่อนและแวะดูหนัง แล้วบังเอิญเจอเพื่อนอีกคณะชวนไปงานวันเกิดที่ผับต่อโดยไม่บอกเฮีย จนมีคนส่งรูปมาถามเฮียรู้รีบบุกไปลากกลับมาทันที สภาพนี่ไม่ต้องพูดถึงเมาเละเทะ เฮียโมโหมากจับล่ามโซ่ไม่ให้ไปเรียนเป็นอาทิตย์" "ฮ่าๆๆ ถึงกับล่ามโซ่เลยอ๋อ""นิ่งเฉยก็ไม่ใช่เฮียสิ" มือเล็กตักข้าวใส่ปาก ไม
ใบหน้าสวยส่ายไปมา พลางหันกลับมาเลือกชุดต่อ ในขณะที่อีกคนเปิดลิ้นชักหยิบกล่องบุหรี่พร้อมไฟแช็กในตัว เดินต่อไปยังระเบียงเพื่อระบายความหงุดหงิดและเจ็บใจในเวลาเดียวกันที่ภรรยาเห็นคนอื่นสำคัญกว่าคำสั่งตนเพลิงเปิดบุหรี่ออกมาแล้วจุดสูบ เพียงไม่กี่นาทีเนเน่ก็เดินออกมาในชุดเสื้อแขนยาวไหมพรมคอวีสีขาว กางเกงผ้ามัดยอมพาสเทลขายาวทรงหลวมสีขาวดำตามสไตล์การอยู่บ้านของเธอ ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบๆห้องหลังไม่เห็นสามี ก่อนสะดุดตรงประตูระเบียงที่ถูกเปิดคาไว้จนเห็นแผ่นหลังแกร่งของเจ้าตัวที่ยืนสูบบุหรี่อยู่เธอดึงยางรัดผมจากข้อมือออกมามัดด้วยความรำคาญ พร้อมกับเดินนวยนาดเข้าไปหา เพลิงเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาใกล้ๆก็ไม่ได้สนใจพ่นควันบุหรี่ขาวคลุ้งออกจากปาก"พี่จะลงไปกินข้าวไหม หรือจะเข้าห้องไปทำงานต่อ เน่จะได้ให้แม่บ้านยกข้าวขึ้นมาให้" ริมฝีปากอวบอิ่มเปล่งเสียงถาม "....." แล้วคำตอบที่ได้กลับมาคือความเงียบ ชายหนุ่มสูดควันบุหรี่เข้าเต็มปอด พลางทอดสายตามองบรรยากาศรอบๆทั้งพ่นมันออกมาราวกับไม่ได้ยินในสิ่งที่เธอถาม"พี่เพลิง ได้ยินที่เน่ถามไหม" เห็นอย่างนั้นหญิงสาวจึงย้ำถาม มือเล็กเอื้อมจับท่อนแขนแกร่งดึงเขาให้ห
"ฮึ่ย.." เจ้าพ่อมาเฟียใหญ่ขบกรามฮึดฮัดทันทีที่ถูกตัดสาย เขายกโทรศัพท์มือถือออกจากหูปามันใส่ฝาผนังห้องนอนอย่างแรงปึก! เพล้ง! แรงกระแทกอย่างหนักส่งผลให้มันแตกกระจายไปคนละทิศละทางโดยที่เจ้าของได้แต่นั่งนิ่งๆมองโทรศัพท์มือถือของตัวเองเละไม่มีชิ้นดี ใบหน้าแดงก่ำไปถึงใบหู พร้อมกับฝ่ามือทั้งสองข้างกำแน่นทำเอาดินไม่กล้าจะพูดอะไรออกมา"อื้อ~" แนทที่สะดุ้งรู้สึกตัวตั้งแต่ได้ยินเสียงสามีอาละวาดลั่นอยู่ก่อนแล้ว ลืมตาตื่นอย่างงัวเงียด้วยความหงุดหงิดเมื่อมาได้ยินเสียงกระแทกของวัตถุบางอย่างดังสนั่นขึ้นอีก เธอยันตัวลุกขึ้นเดินไปคว้าชุดคลุมหน้าตู้เสื้อผ้ามาสวมใส่ แล้วเดินออกไปจัดการกับเจ้าของกระทำเพราะรู้สึกเอือมระอามากและเพียงก้าวพ้นกรอบประตูก็เห็นสามีนั่งอารมณ์ฉุนเฉียวอยู่บนโซฟาคนละตัวกับลูกน้อง โดยที่พื้นนั้นเต็มไปด้วยเศษซากโทรศัพท์มือถือ"เป็นบ้าอะไรของแด๊ด ฮะ! ดึกดื่นป่านนี้แล้วมันใช่เวลามาอาละวาดไหม" แนทตวาดถามด้วยความโมโห น้ำเสียงเกรี้ยวกราดของเธอทำเอาโน่ตวัดสายตามอง ก่อนจะค่อยๆสงบสติอารมณ์ยกมือขึ้นลูกหน้าตัวเอง และดินยังคงนั่งเงียบๆแต่เสมองไปทางอื่นหลบสายตาดุดันที่สลับมองมา"ก็ไอ้เวรนั่นมัน