วันเกิดไออุ่นในที่สุดวันที่ธามไทรอคอยก็มาถึง วันนี้เขาขอลางานหนึ่งวันเพื่อมาตกแต่งห้องให้เข้ากับธีมปาร์ตี้วันเกิดของไออุ่น ซึ่งแม้ลูกน้องจะเสนอให้จ้างทีมออแกไนซ์ แต่เขาเลือกที่จะออกแบบและลงมือทำเองในทุกขั้นตอน แม้แต่การทำโบจากริบบิ้นธามไทก็ลองฝึกทำเอง โดยอาศัยการดูคลิปและค่อย ๆ ฝึกทำตามจนในที่สุดก็สามารถทำออกมาได้อย่างสวยงามในขณะที่ธามไทเตรียมเซอร์ไพรส์วันเกิดให้แฟนเด็ก ทว่าทางฝั่งเด็กสาวกลับรู้สึกเหงาจับใจในวันเกิด ที่เธอคิดว่าไม่มีใครรู้นอกจากเธอเพียงคนเดียวหลายครั้งที่เธออยากจะบอกกับธามไทว่าวันนี้คือวันเกิดของเธอ แต่เมื่อเห็นเขายุ่งอยู่กับงานจนแทบไม่มีเวลาให้ ก็ทำให้ไออุ่นตัดสินใจเก็บเอาไว้ในใจและเลือกที่จะชวนเขาไปทานมื้อเย็นในวันเกิดแทน“วันนี้เลิกงานแล้วเฮียไทม์มีธุระที่ไหนไหมคะ”ไออุ่นเอ่ยถามเขาทันทีเมื่อรถคันหรูจอดที่หน้าโรงเรียนฝ่ายคุณหมอนิ่งไปด้วยความแปลกใจกับคำถามนั้น เพราะวันนี้เป็นวันเกิดของเธอไม่ใช่หรือ แล้วทำไมถึงถามเขาราวกับว่ากำลังจะเอ่ยชวนเขาไปไหน“มีผ่าตัดหลังสี่โมงเย็นค่ะ หนูไอจะชวนเฮียไปไหนหรือเปล่าคะ”คำตอบของธามไททำให้ไออุ่นรู้สึกเจ็บไปทั้งใจ แต่ถึงอย่างนั้นใ
คอนโดธามไทครืด ครืด ครืดเสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโซฟากำลังสั่นเรียกความสนใจให้คุณหมอที่เพิ่งยกเค้กก้อนโตมาวางบนโต๊ะ ขายาวรีบวิ่งไปรับโทรศัพท์ด้วยรอยยิ้ม เพราะคนที่โทรมาในเวลานี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเฌอแตมเพื่อนรักของไออุ่นเขาได้นัดแนะกับเด็กสาวให้โทรมาบอกเขา ก่อนสองสาวจะออกจากโรงเรียนเพื่อที่เขาจะได้เตรียมทุกอย่างให้เสร็จทันเวลาก่อนไออุ่นเดินทางมาถึง“ว่าไงแตม”“เฮียไทม์ขา ฮือ ฮือ ช่วยหนูไอด้วย...”ตุ้บโทรศัพท์มือถือในมือพลันร่วงหล่นลงบนพื้น เมื่อได้ฟังเฌอแตมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับไออุ่นให้เขาฟังด้วยน้ำเสียงสะอื้นไห้ความสุขที่เขากำลังจะเอื้อมมือไปคว้าเอาไว้พลันหายไป เมื่อไออุ่นถูกลักพาตัวไปโดยที่เฌอแตมเองก็ไม่รู้ว่าคนคนนั้นคือใครธามไทหันไปมองรอบ ๆห้องที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามด้วยฝีมือของเขากับลูกน้อง ที่ช่วยกันเนรมิตห้องรับแขกธรรมดา ๆ ให้เต็มไปด้วยสีสันสวยงามราวกับอาณาจักรของเจ้าหญิงตัวน้อยที่เขาตั้งใจทำให้เธอประทับใจเมื่อคิดถึงความสุขที่วาดเอาไว้ สันกรามคมก็ขบเข้าหาด้วยความรู้สึกโกรธจนแทบคลั่ง ก้มลงหยิบโทรศัพท์ที่สายตัดไปแล้วขึ้นมา แล้ววิ่งไปหยิบกุญแจรถผลุนผลันออกจากห้องไปทัน
เสียงฝีเท้าที่เหยียบย่ำลงบนต้นหญ้า ต่อให้พยายามเดินให้เบาแค่ไหนแต่สัญชาตญาณมาเฟียของธามไทก็ทำให้เขารีบหันขวับไปยังด้านหลังทันทีซึ่งภาพที่อยู่ตรงหน้าเขาก็คือไอศูรย์กับลูกน้อง ที่คำนวณจากสายตาคร่าว ๆ ก็น่าจะมีไม่ต่ำกว่าสามสิบคน ทว่าเขากลับนิ่งเฉยไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวคนพวกนี้เลยแม้แต่น้อย“หึ อยากได้ลูกเสือก็ต้องบุกถ้ำเสือสินะ”คำพูดของไอศูรย์ทำให้ธามไทแอบคาดเดาอยู่ในใจว่า ผู้ชายที่ดูท่าทางภูมิฐานและแต่งกายด้วยชุดสูทราคาแพงคนนี้น่าจะเป็นบิดาของไออุ่น เพราะท่าทางของคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รวมไปถึงทุกคนที่รายล้อมรอบตัวเขาอยู่นั้น ดูให้ความเคารพและยำเกรงในตัวผู้ชายคนนี้ไม่น้อย“ว้า โดนจับได้แล้วสิ อุตส่าห์แอบย่องเบาเข้ามาเงียบ ๆ คนเดียวแล้วเชียว แล้วนี่ยกโขยงกันมาต้อนรับผม หรือกะจะมารุมกระทืบผมกันแน่ครับ พากันมาเยอะเชียว”ถึงจะไม่แน่ใจว่าคนตรงหน้านั้นเป็นบิดาของไออุ่นหรือไม่ แต่ในเมื่อจงใจพาคนมาเยอะขนาดนี้เขาก็คาดเดาได้ไม่ยากว่า คงเป็นการมาเพื่อรุมเขาเสียมากกว่ามาต้อนรับเขาในฐานะแขกไอศูรย์กระตุกยิ้มน้อย ๆ เมื่อคำทักทายของชายหนุ่มตรงหน้านั้นช่างยียวนกวนประสาทเขาเสียเหลือเกิน“เดี๋ยวนี้คนเป็นหมอเ
โรงพยาบาล N“หมอไทม์แกเป็นไงบ้างวะ”เพลิงกัลป์รีบวิ่งออกจากแผนกฉุกเฉินถามเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วง เมื่อบุรุษพยาบาลเข็นเตียงที่มีร่างของธามไทมาหยุดที่หน้าทางเข้า ข้างกายเขานั้นมีไออุ่นที่คอยจับมือเอาไว้ตลอดเวลาด้วยใบหน้าเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา“ยังไม่ตาย แค่ช้ำในกับแขนหักเอง ส่วนหน้าหล่อ ๆ ก็ยังดีอยู่”ผู้ที่ตอบคำถามแทนธามไทก็คือท่านประธานโรงพยาบาล N คู่กัดของหมอเพลิงกัลป์ เจอหน้ากันทีไรทั้งสองมักจะปล่อยสิงสาราสัตว์ออกมาสู้กันเสมออย่างไม่มีใครยอมใครส่วนเพลิงกัลป์เมื่อได้ฟังคำตอบก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ที่เพื่อนของตัวเองไม่เป็นอะไรมากตอนนั้นเขาติดผ่าตัดใหญ่จึงทำให้ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น มารู้อีกทีก็ตอนที่ลูกน้องของธามไทโทรมารายงานว่า เพื่อนสนิทชิงบุกลุยเดี่ยวไปพาตัวไออุ่นออกมาจากบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเขายังไม่รู้ข้อมูลเรื่องนี้ดีมากนักแต่ตาแก่ตรงหน้ากลับรู้ดีไปหมดทุกอย่าง แถมยังตามไปช่วยธามไทได้ทันเวลา ราวกับว่ามีตาที่สามหยั่งรู้ว่าทุกคนที่อยู่รายรอบตัวนั้นทำอะไรอยู่ที่ไหน“รีบ ๆ พาไปรักษาเถอะ ขืนชักช้าแม่หนูนี่คงบ่อน้ำตาแตกแน่”คำพูดของบุคคลที่ดูจะเป็นที่เคารพและยำเกรงของทุกคนในที
โรงพยาบาล N“เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละ”เมื่อได้ฟังเรื่องเล่าจากปากของธามไท ก็ทำให้เพลิงกัลป์รู้สึกสงสารไออุ่นไม่น้อย เพราะจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ทุกอย่างนั้นเกิดขึ้นเพียงเพราะว่า บิดาของเธอบังคับให้ตัวเธอแต่งงานกับลูกชายของเพื่อนโดยที่เธอไม่ได้ยินยอมนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอเก็บเสื้อผ้าหนีออกจากบ้านมา จนกระทั่งพบกับเพื่อนของเขาที่มาเหนือกว่าบิดาของไออุ่นหลายเท่านัก ด้วยการช่วงชิงความบริสุทธิ์ของเธอมาอย่างไม่ทันตั้งตัว“มันยังมีอยู่อีกเหรอวะสมัยนี้ที่จับลูกคลุมถุงชนอะ ฉันโคตรไม่เข้าใจความคิดของพ่อหนูไอเลย”“ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน เพราะไออุ่นบอกว่าพ่อไม่เคยพูดถึงเรื่องแต่งงานมาก่อนเลยสักครั้ง แต่อยู่ดี ๆ กลับบอกว่าให้เตรียมตัวแต่งงานกับลูกชายของเพื่อนท่านทันทีที่เรียนจบ”“การแต่งงานของลูกสาวเพียงคนเดียวมันเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับคนเป็นพ่อนะเว้ย ฉันว่ามันดูแปลก ๆ นะที่อยู่ ๆ ก็จะให้เมียเด็กของนายแต่งงานทั้ง ๆ ที่ยังไม่ทันจะเรียนจบเลย มันดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลสักเท่าไหร่”“ฉันก็คิดเหมือนนายว่ะเพื่อน แต่ถ้าว่าที่พ่อตายังคงดื้อดึงจะจับเมียฉันแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น ฉันไม่มีทางยอมแน่นอน”“ห
โรงพยาบาล Nหลังจากที่เลิกเรียนแล้ว เฌอแตมก็ขออนุญาตบิดาเดินทางมาเยี่ยมธามไทที่กำลังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งวันนี้เป็นวันที่สามแล้วสำหรับการพักฟื้นร่างกายที่ยังคงมีรอยฟกช้ำอยู่แต่ไออุ่นบอกเธอว่าอีกสองวัน เฮียเพลิงจะอนุญาตให้เฮียไทม์ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วนึกถึงวันที่เพื่อนของเธอโดนบิดาลักพาตัวไป ก็ให้นึกเสียดายกับสิ่งที่เฮียไทม์ตั้งใจทำเพื่อไออุ่นไม่น้อยเพราะความรักที่เขามีต่อไออุ่น ทำให้เขายอมลงทุนเรียนทำขนม แม้ว่าเขาไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเลยก็ได้ แต่เพราะรักมากจึงทำให้เขายอมทุ่มเทเพื่อทำให้ไออุ่นมีความสุขมากที่สุดและวันนี้ก็เป็นอีกครั้งที่เธอกับธามไทวางแผนเซอร์ไพรส์วันเกิดให้ไออุ่น โดยที่ตอนนี้ทุกคนมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันที่ห้องพักฟื้นผู้ป่วย เตรียมเซอร์ไพรส์ให้สาวน้อยวัยสิบเก้าขวบคนนั้น“ปีนี้ไม่ได้เป่าเค้กวันเกิดเลย หนูไอน้อยใจปะเนี่ย”เฌอแตมถามในระหว่างที่กำลังเดินทางไปห้องพักผู้ป่วยของธามไทไออุ่นส่ายหน้าน้อย ๆ ด้วยรอยยิ้มหวาน ตามประสาคนมองโลกในแง่ดีและไม่ได้นึกน้อยใจคนรักในเรื่องนี้เลยที่เขาไม่รู้วันเกิดของเธอ“หนูไอไม่ได้ยึดติดกับวันเกิดขนาดนั้นสักหน่อย มันก็แค่วั
ห้องพักฟื้นผู้ป่วยของธามไทเป็นห้อง VVIP ที่กฤษฎิ์แยกออกมาต่างหาก ซึ่งเป็นห้องที่มีไว้เพื่อรองรับคนในครอบครัวหรือญาติสนิทมิตรสหายโดยเฉพาะดังนั้นภายในห้องพักจึงถูกออกแบบให้คล้ายกับคอนโดที่มีของใช้ทุกอย่างครบครัน จึงทำให้ไออุ่นเลือกจะพักอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อคอยดูแลคนรักอย่างใกล้ชิดหลังจากที่เด็กสาวทำการบ้านและจัดการเก็บหนังสือสมุดลงกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว อยู่ ๆ เธอก็มีความรู้สึกคล้ายว่ากำลังถูกจ้องมองจากทางด้านหลังไออุ่นจึงรีบหันหน้ากลับไปมองทันที ถึงได้พบว่าธามไทกำลังมองมาที่เธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ ทำเอารู้สึกขนลุกซู่อย่างบอกไม่ถูก“ทำไมถึงมองหนูไออย่างนั้นล่ะคะ”ไออุ่นเอ่ยถามตรง ๆ อย่างสงสัย แต่เขากลับเผยรอยยิ้มกว้างออกมาอย่างออดอ้อนไม่ตอบคำถาม ทว่ากลับลุกขึ้นจากเตียงคนไข้และเดินมานั่งลงข้าง ๆ ไออุ่นสองมือพลันดึงรั้งร่างแน่งน้อยของดรุณีวัยแรกแย้มขึ้นมานั่งบนตัก ทำเอาไออุ่นเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ด้วยกลัวว่าเขาจะเจ็บแผลช้ำในตรงช่วงบริเวณหน้าท้อง เธอจึงพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากอ้อมแขนที่รัดแน่นนี้“เฮียไทม์ขา เฮียยังไม่หายดีเลยน้า แต่มานั่งแบบนี้เผื่อมือของหนูไอเผลอไปโดนแผลจะเจ็บเอา
ธามไทพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอีกเพียงสองวัน เพลิงกัลป์ก็อนุญาตให้เขากลับมาพักที่คอนโดได้ แต่ธามไทเลือกที่จะกลับไปทำงานแทนการหยุดพักผ่อน เพราะร่างกายของเขาไม่ได้เจ็บหนักถึงขั้นที่ต้องหยุดพักรักษาตัวเป็นเวลานาน ซึ่งเพลิงกัลป์ที่รู้จักนิสัยของเพื่อนรักดีก็ไม่ได้ทักท้วงแต่อย่างใด“ไปทำงานไหวจริง ๆ นะคะ”เมื่อรถซูเปอร์คาร์คันหรูหยุดลงข้าง ๆ โรงเรียนมัธยมของไออุ่น เด็กสาวก็เอ่ยถามสารถีจำเป็นด้วยความเป็นห่วง เพราะวันนี้คือวันแรกที่เขาจะกลับไปทำงาน หลังจากที่เพิ่งกลับมาพักฟื้นร่างกายต่อที่คอนโดได้เพียงหนึ่งวันธามไทพยักหน้าตอบรับน้อย ๆ แล้วดึงแฟนเด็กเข้ามากอดอย่างอ่อนโยน เมื่อใบหน้าของเด็กสาวนั้นยังคงฉายแววกังวลใจด้วยความเป็นห่วงอาการป่วยของเขา“ไหวสิคะ เฮียไม่ได้เจ็บหนักถึงขั้นต้องพักนานขนาดนั้นสักหน่อย”“แต่หนูไอเป็นห่วงกลัวเฮียจะเจ็บแผลนี่คะ”“หึ ทีตอนอยู่ในห้องน้ำที่โรงพยาบาลไม่เห็นหนูไอจะห้ามเฮียแบบนี้เลย มีแต่บอกเฮียไทม์ขาแรง ๆ อ๊ะ เจ็บนะหนูไอ”คำพูดของธามไททำให้ใบหน้าของไออุ่นพลันร้อนผ่าวด้วยความเขินอาย แล้วรัวฟาดฝ่ามือลงบนแขนล่ำอย่างแรงด้วยความหมั่นไส้ซึ่งคนถูกฟาดไม่ได้รู้สึกเจ็บเ