All Chapters of ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี: Chapter 881 - Chapter 890

997 Chapters

บทที่ 881

พูดจบนางก็ค่อยๆ ยืนขึ้น ทุกคนต่างตกตะลึงมีคนตะโกนว่า “พระสนมสวี่ รีบกลับลงมาพ่ะย่ะค่ะ!”แต่พระสนมสวี่ไม่หันกลับไป นางยืนอยู่บนราวระเบียงแล้วพูดว่า “ชีวิตของข้าช่างโสมมยิ่งนัก”“บัดนี้ความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในใจข้าได้ถูกเปิดเผยแล้ว ข้าไม่เหลืออะไรให้ห่วงอีก”พูดจบนางก็หลับตาแล้วกระโดดลงมาจากหอลิ่วเจวี๋ยการกระทำของนางทำให้จิ่งโม่เยี่ยตกตะลึงอย่างมากจิ่งโม่เยี่ยคิดมาตลอดว่าคนอย่างพระสนมสวี่เป็นพวกเห็นประโยชน์ส่วนตน นางจะคิดแต่ทำร้ายคนอื่น ไม่มีทางฆ่าตัวตายอย่างแน่นอนดังนั้นเขาจึงยืนดูอยู่ข้างๆ พอเห็นท่าไม่ดีจึงรีบวิ่งไป แต่ก็สายไปเสียแล้วถึงแม้ว่าระยะห่างระหว่างเขากับพระสนมสวี่จะไม่ไกลนัก แต่ตอนนี้มีคนเต็มไปหมด คนเหล่านั้นขวางทางเขาไว้ ทำให้เขาเข้าไม่ถึงตัวของพระสนมสวี่เขาเห็นพระสนมสวี่กระโดดลงมาจากหอลิ่วเจวี๋ย ร่างกระแทกตกพื้นอย่างแรงจิ่งโม่เยี่ยแหวกผ่านฝูงชน วิ่งเข้าไปหาพระสนมสวี่อย่างรวดเร็วตอนนี้นางนอนอยู่บนพื้น มีเลือดไหลซึมออกมาจากด้านหลังแผ่ขยายออกไปราวกับดอกไม้ที่กำลังเบ่งบานเขายืนอยู่ตรงหน้าพระสนมสวี่ มองนางด้วยความไม่เข้าใจตอนนี้รอบๆ ตัวมีแต่ผู้คนรายล้อม
Read more

บทที่ 882

เดิมทีพระสนมสวี่คิดว่าคำพูดนี้คงจะพูดออกมายากนัก แต่พอได้พูดออกไปแล้ว กลับพบว่ามันก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดมองจิ่งโม่เยี่ยจากมุมมองของนาง นางเพิ่งสังเกตเห็นเป็นครั้งแรกว่าลูกชายของนางนั้นหล่อเหลาเอาการในวินาทีนี้ นางคิดถึงเรื่องราวมากมายหลายอย่างทั้งความดีที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนมีต่อนาง และภาพของจิ่งโม่เยี่ยในวัยเยาว์ที่น่ารักเมื่อนึกย้อนกลับไป ตอนนี้นางรู้สึกว่าที่จริงแล้วนางก็ไม่ได้ไร้ความรู้สึกต่อฮ่องเต้พระองค์ก่อนเสียทีเดียว ก็เคยมีบ้างที่รู้สึกซาบซึ้งเพียงแต่ในตอนนั้น ฮ่องเต้เจาหยวนมักจะมาหานาง พูดจาใส่ร้ายฮ่องเต้พระองค์ก่อน บอกเล่าความรักที่ลึกซึ้งระหว่างพวกเขาด้วยเหตุนี้ นางจึงเผลอมองข้ามความดีที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนมีต่อนางไป จดจำได้แต่เพียงการบังคับและช่วงชิงของพระองค์ส่วนจิ่งโม่เยี่ย นางไม่ได้เกลียดชังเขามาตั้งแต่แรก เขาเป็นลูกชายที่นางอุ้มท้องนานสิบเดือนและคลอดออกมา ตอนแรกนางก็รักและสงสารเขามากเป็นฮ่องเต้เจาหยวนที่บอกกับนางว่า จิ่งโม่เยี่ยคือหลักฐานที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนข่มเหงนาง เด็กคนนี้ไม่ควรเกิดมาบนโลกใบนี้ยิ่งคิดนางก็ยิ่งรู้สึกว่าคำพูดของเขามีเหตุผล นางจึงพยาย
Read more

บทที่ 883

พระสนมสวี่มองตาเขาด้วยดวงตาแดงก่ำ นางรู้สึกเจ็บปวดหัวใจอย่างมากในใจนางรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางทำเรื่องโง่ๆ ไปเท่าไหร่ พลาดคนและเรื่องสำคัญไปมากแค่ไหน?นางอยากจะบอกเขาว่า "เยี่ยเอ๋อร์ อย่าเสียใจ ข้าไม่คู่ควร"แต่นางก็พูดประโยคนี้ออกมาไม่ได้อีกแล้ว รูม่านตาของนางเบิกกว้าง หัวใจหยุดเต้น มือที่วางอยู่ในมือของจิ่งโม่เยี่ยก็ตกลงมาจิ่งโม่เยี่ยร้องเรียก "เสด็จแม่!"เสียงนี้เป็นเสียงที่เขาเรียกออกไปโดยไม่รู้ตัว เขาคงลืมไปแล้วว่าพระสนมสวี่ไม่ได้เป็นฮองเฮาผู้สูงศักดิ์อีกต่อไปเขามองพระสนมสวี่ที่นอนจมกองเลือดอย่างเงียบๆ หลับตาลงช้าๆ เก็บกดอารมณ์ที่ปั่นป่วนในใจหัวหน้าองครักษ์เกล็ดทองวิ่งมาอย่างรีบร้อน เขาเห็นสภาพของพระสนมสวี่ก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่งวันนี้พระสนมสวี่บอกว่านางจะนัดพบขุนนางที่หอลิ่วเจวี๋ย ให้เขาไปเอาของบางอย่าง เขาจึงอยู่ห่างจากพระนางเขาไม่คิดว่าวันนี้พระสนมสวี่จะสั่งให้เขาออกห่างเพื่อฆ่าตัวตายถึงแม้เขาจะไม่เห็นด้วยกับการกระทำหลายๆ อย่างของพระสนมสวี่ แต่นางก็เป็นเจ้านายของเขา และเขาก็มีแต่ต้องเชื่อฟังนางเขาพับชายเสื้อขึ้นแล้วคุกเข่าลงต่อหน้าพร
Read more

บทที่ 884

วันนี้นางสวมเสื้อคลุมสีขาวเหมือนหิมะ ยืนอยู่ตรงนั้นแล้วดูงดงามน่ารักเขาอยากยิ้มให้นาง แต่กลับพบว่าตัวเองเหมือนจะยิ้มไม่เป็นเขาพยักหน้าเบาๆ เป็นการตอบรับ แล้วหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งเรียกเขาอีกครั้ง “ท่านจะไปไหน”จิ่งโม่เยี่ยตอบ “ข้าจะไปเดินเล่น”เขาอดไม่ได้ที่จะหันกลับมามองนางอีกครั้ง พอดีมีลมพัดมา ทำให้ร่มของนางพลิกกลับด้านนางมองร่มในมือ แล้วดึงกลับมาเหมือนเดิมจิ่งโม่เยี่ยจึงพูดว่า “ตรงนี้ลมแรง รีบกลับเข้าไปเถอะ ระวังจะป่วยเอาได้”ระหว่างที่พูด ร่มของเฟิ่งชูอิ่งก็ปลิวออกไป นางจะเดินไปเก็บร่ม แต่จิ่งโม่เยี่ยกลับเร็วกว่า ใช้วิชาตัวเบาไปเก็บร่มที่ปลิวไปไกลกลับมาให้นางตอนที่จิ่งโม่เยี่ยยื่นร่มให้นาง นิ้วของเขาสัมผัสกับนิ้วของนาง นิ้วของนางอบอุ่น แต่เขากลับรู้สึกเหมือนถูกไฟลวก รีบหดมือกลับอย่างรวดเร็วเขาพูดเบาๆ ว่า “ข้างนอกหนาว กลับไปข้างในเถอะ”เขาหันหลังจะเดินจากไป แต่เฟิ่งชูอิ่งกลับจับแขนเสื้อเขาไว้ “เดิมทีข้าตั้งใจจะไปดูโคมไฟ…”จิ่งโม่เยี่ยมองนาง นางยิ้มให้เขาเล็กน้อย “แต่อากาศหนาวขนาดนี้ ข้าเปลี่ยนใจแล้ว”“ข้าอยากกลับไปทำโคมไฟเอง ท่านไปเป็นเพื่อนข้าได้ไหม”ถ้าก
Read more

บทที่ 885

เมื่อเขาเลือกเสื้อผ้าที่เรียบง่ายที่สุดจากตู้เสื้อผ้าของปู๋เยี่ยโหวออกมา มุมปากของเฟิ่งชูอิ่งก็กระตุกโดยไม่รู้ตัวจิ่งโม่เยี่ยถามว่า “ดูแย่มากหรือ”เฟิ่งชูอิ่งส่ายหน้า “ก็ไม่ได้แย่อะไร แค่รู้สึกว่าท่านใส่เสื้อผ้าของเขาแล้วดูเหมือนนกยูงมากกว่าตัวเขาเองอีก”จิ่งโม่เยี่ย “......”นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนใช้คำพูดแบบนี้มาบรรยายรูปลักษณ์ของเขาแต่เฟิ่งชูอิ่งกลับรู้สึกว่าสิ่งที่นางพูดเป็นความจริง เพราะถ้าพูดถึงรูปลักษณ์ จิ่งโม่เยี่ยดูงดงามกว่าปู๋เยี่ยโหวเพียงแต่ปกติเขาจะใส่ชุดขาวตลอด ไม่เคยใส่เสื้อผ้าสีสันฉูดฉาดแบบนี้พอใส่แล้ว ก็พาลทำให้ดูเจ้าสำราญยิ่งกว่าปู๋เยี่ยโหวเสียอีกเมื่อเห็นสีหน้าของเขา เฟิ่งชูอิ่งก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ก็ดูดีอยู่นะ”จิ่งโม่เยี่ยยิ้มออกมา แค่นางคิดว่าดูดีก็พอแล้วทั้งสองคนต่างก็ทำโคมไฟเป็นครั้งแรก ไม่มีประสบการณ์กันทั้งคู่ แต่จิ่งโม่เยี่ยกลับทำได้อย่างคล่องแคล่วเฟิ่งชูอิ่งต้องการรูปร่างแบบไหน พอนางพูดออกมา จิ่งโม่เยี่ยก็สามารถทำตามที่นางต้องการได้นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้รู้ว่าเขามีความสามารถแบบนี้ นางตกใจเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ท่านอ๋อง ท่านทำโคมไฟเป็นครั้งที่เท
Read more

บทที่ 886

หลังจากพูดจบ จิ่งโม่เยี่ยก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย กลัวว่านางจะปฏิเสธเขาถูกนางปฏิเสธมาหลายครั้งแล้วหลังจากพูดจบเขาก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย ด้วยโชคชะตาแบบเขา ควรจะอยู่คนเดียวไปจนแก่เฒ่า ไม่คู่ควรที่จะให้นางต้องมาสนใจเฟิ่งชูอิ่งหมุนโคมไฟดอกไม้ในมือไปรอบหนึ่งแล้วพูดว่า "เรื่องนี้ข้าไม่ค่อยแน่ใจ""ข้าสัญญากับท่านพ่อแล้วว่าจะไปแคว้นซีฉู่เพื่อตามหาท่านแม่""สถานะของท่านแม่ค่อนข้างพิเศษ ข้ากลัวว่าจะหาท่านแม่ไม่เจอในเวลาสั้นๆ""หากใช้เวลานานเกินไป ข้าก็ไม่แน่ใจว่างานเทศกาลโคมไฟปีหน้าจะกลับมาเมืองหลวงทันหรือไม่"จิ่งโม่เยี่ยได้ยินเช่นนั้นก็ตกตะลึง เขาเบิกตากว้างมองนาง เพราะคำพูดของนางไม่ได้ปฏิเสธโดยตรงเขาถามว่า "หลังจากเจ้าไปแคว้นซีฉู่แล้ว เจ้าจะกลับมาอีกหรือ?"เฟิ่งชูอิ่งยิ้มแล้วพูดว่า "ใช่แล้ว ข้าจะใช้การกระทำพิสูจน์ว่าคนบางคนไม่ใช่ดาวอับโชค""ข่าวลือที่ว่านั้นล้วนเป็นเรื่องที่คนอื่นกุขึ้นมา"จิ่งโม่เยี่ยมองไปที่นาง นางหมุนโคมดอกไม้ไปรอบหนึ่งแล้วพูดว่า "ไม่ว่าความสัมพันธ์ของเราจะเป็นเช่นไร ตอนนี้ข้าก็ยังเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการ ข้าจะไม่ยอมให้ใครมารังแกท่าน"พูดถึงตรงนี้
Read more

บทที่ 887

เฟิ่งชูอิ่งพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ว่า “เสื้อผ้าเขาเปียกหมดแล้ว ขอยืมเสื้อผ้าของเจ้าใส่ก่อน”“ถ้าเจ้าไม่ชอบให้คนอื่นใส่เสื้อผ้าของเจ้าจริงๆ ข้าก็จะจ่ายเงืนซื้อมันเอง”ปู๋เยี่ยโหวได้ยินน้ำเสียงที่นางเอ่ยปกป้องจิ่งโม่เยี่ย หัวใจของเขาก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาทันทีแต่เมื่อเขานึกถึงเรื่องของพระสนมสวี่ เขาก็กลืนคำพูดที่กำลังจะต่อว่าจิ่งโม่เยี่ยกลับลงไปเขาพูดอย่างหัวเสียว่า “เสื้อผ้าเขาเป็นคนใส่ เกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย? ถ้าจะชดใช้ก็ควรเป็นเขาสิ!”เขาพูดจบก็หันไปพูดกับจิ่งโม่เยี่ยว่า “หนึ่งพันตำลึง!”จิ่งโม่เยี่ยมองบนใส่เขา “หนึ่งพันตำลึง? เจ้าคิดจะปล้นกันหรือไง? เสื้อผ้าแบบนี้ราคาอย่างมากก็ร้อยตำลึง”ปู๋เยี่ยโหวเลิกคิ้ว “ผ้าอย่างเดียวก็ร้อยตำลึงแล้ว แต่นี่มันเป็นเสื้อผ้าที่ข้าใส่แล้วนะ!”“ข้าเป็นใคร? ข้าคือปู๋เยี่ยโหว ชายหนุ่มผู้หล่อเหลาที่สุดในเมืองหลวง เสื้อผ้าที่ข้าใส่ล้วนมีราคาเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว”จิ่งโม่เยี่ย “......”เรื่องหน้าด้านต้องยกให้ปู๋เยี่ยโหวจริงๆเขาจึงพูดว่า “เจ้ามีความละอายบ้างไหม? เสื้อผ้าเก่าๆ ยังกล้าเรียกราคาแพงขนาดนี้ เดี๋ยวข้าจะให้ฉินจื๋อเจี้ยนนำเงินสิบตำลึงมาให
Read more

บทที่ 888

เขาโกรธจัด “ญาติผู้น้องอะไรกัน! ข้าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้าสักหน่อย!”เฟิ่งชูอิ่งลองถาม “ไม่ใช่ญาติผู้น้องหรอกหรือ? ดูท่าทางเจ้ายังเด็กอยู่เลย เหมือนอายุน้อยกว่าเขาอีกนะ!”ปู๋เยี่ยโหว “......”ความโกรธที่กำลังพุ่งพล่านของเขากลับต้องชะงักไปเพราะคำพูดของนาง ทำให้ระบายออกไปไม่ได้ในทันทีเขาจ้องนางอย่างเดือดดาล ก่อนจะหันหลังเดินจากไปเฟิ่งชูอิ่งตะโกนเรียก “เสี่ยวเยี่ย อย่าโกรธสิ!”ปู๋เยี่ยโหวโกรธจัด “ยศของข้าคือปู๋เยี่ยโหว ไม่ได้มีคำว่าเยี่ยในชื่อสักหน่อย!”เฟิ่งชูอิ่งจึงเปลี่ยนคำเรียก “อาหรง?”ปู๋เยี่ยโหว “......”เขาโตมาขนาดนี้ ยังไม่เคยมีใครเรียกเขาแบบนี้มาก่อนเขาหรี่ตามองนางแล้วถาม “มีอะไร?”เฟิ่งชูอิ่งรู้สึกว่าเขาก็น่าสนใจดี จึงหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “วันที่ข้าแต่งงานกับเขาอีกครั้ง ข้าจะชวนเจ้าไปดื่มสุรามงคล”ปู๋เยี่ยโหวเบิกตากว้างมองนาง เพราะเขารู้ความหมายที่แฝงในคำพูดนั้นเฟิ่งชูอิ่งพูดอย่างจริงจังอีกครั้ง “ไม่ใช่ในฐานะญาติของเขา แต่ในฐานะสหายของข้า”ตอนนี้ใต้ชายคายังคงมีฝนโปรยปรายเบาๆ ถึงจะเย็นแต่ก็อ่อนโยนปู๋เยี่ยโหวกับเฟิ่งชูอิ่ง คนหนึ่งยืนอยู่ใต้ชายคา อีกคนยืน
Read more

บทที่ 889

แท้จริงแล้วเขาอยากให้พระสนมสวี่ร้ายให้สุดทางไปเลย อย่ากลับตัวกลับใจจะดีที่สุดการที่พระสนมสวี่ยอมสละชีวิตตัวเองเพื่อเปิดเผยความจริงที่นางกับฮ่องเต้เจาหยวนร่วมมือกันฆ่าฮ่องเต้พระองค์ก่อน ในสายตาของปู๋เยี่ยโหวแล้ว ก็เหมือนกับการที่เอาเกลือไปโรยบนแผลในใจของจิ่งโม่เยี่ยซ้ำแล้วซ้ำเล่าจิ่งโม่เยี่ยต้องทนทุกข์กับความเจ็บปวดจากการสูญเสียพระบิดาอีกครั้ง แถมยังต้องเห็นกับตาตัวเองว่าคนที่เคยอยากให้เขาตาย กลับมอบความรักของแม่ที่เคยอยากได้ให้เขาก่อนตายปู๋เยี่ยโหวรู้สึกว่าถึงแม้ตอนนี้จิ่งโม่เยี่ยจะเข้มแข็งมากแล้ว ไม่ต้องการความรักจากพระสนมสวี่อีกต่อไปแต่การกระทำของพระสนมสวี่เช่นนี้กลับทำให้จิ่งโม่เยี่ยรู้สึกแย่มากปู๋เยี่ยโหวถึงกับคิดว่า ถ้าหากพระสนมสวี่ไม่ได้กระโดดลงมาจากหอลิ่วเจวี๋ยหลังจากเปิดเผยเรื่องทั้งหมด จิ่งโม่เยี่ยอาจจะต้องทำหน้าบึ้งตึงใส่นางแต่พระสนมสวี่ไม่ยอมให้จิ่งโม่เยี่ยมีโอกาสทำหน้าบึ้งตึงใส่ กระโดดลงมาจากหอลิ่วเจวี๋ย และตายไปต่อหน้าต่อตาเขาปู๋เยี่ยโหวลองเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น เขาก็รู้สึกว่าจิ่งโม่เยี่ยน่าสงสารจริงๆสำหรับจิ่งโม่เยี่ย เฟิ่งชูอิ่งอาจจะเป็นควา
Read more

บทที่ 890

ในระดับหนึ่ง อาจกล่าวได้ว่าทั้งจิ่งโม่เยี่ยและเฟิ่งชูอิ่งได้พบกับโชคดีในคราวเคราะห์พวกเขาได้มีเวลาสงบสติอารมณ์และไตร่ตรองถึงปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างกัน อีกทั้งยังมีความอดทนและความเข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้นเรื่องของความรักนั้น ย่อมต้องอาศัยการปรับตัวเข้าหากันอยู่เสมอเหมยตงยวนถามว่า “เรื่องครั้งนั้นเจ้าลืมได้จริงหรือ”เฟิ่งชูอิ่งตอบว่า “ตอนนี้ยังลืมไม่ได้หรอก ข้าลำบากมามาก”“แต่เพราะเรื่องนั้น จิ่งโม่เยี่ยจะระมัดระวังเวลาปฏิบัติตัวกับข้ามากขึ้น และจะไม่ใช้อารมณ์อีก”“และเพราะเรื่องนั้น ข้าก็จะสามารถรังแกเขาได้ทุกอย่าง”พูดจบนางก็แค่นเสียงในลำคอเบาๆ “ข้าจะต้องรังแกเขาให้หนัก เอาคืนความเจ็บใจและความน้อยใจที่เคยได้รับจากเขาทั้งหมด!”เหมยตงยวนได้ยินดังนั้นก็ยิ้มเล็กน้อย “ถ้าเจ้าตัดสินใจแน่วแน่แล้วก็ดี”พูดถึงตรงนี้เขาก็ถอนหายใจเบาๆ “หากข้าสามารถลดทิฐิลงได้เหมือนจิ่งโม่เยี่ย คงไม่ต้องแยกทางกับแม่ของเจ้า”เฟิ่งชูอิ่งมองเขาแล้วพูดว่า “เรื่องในอดีตท่านพ่ออย่าคิดมากเลย ตอนนี้พวกเราต้องตามหาท่านแม่ให้เจอก่อน”เหมยตงยวนพยักหน้าเบาๆเฟิ่งชูอิ่งถามต่อ “ช่วงนี้ท่านพ่อตามหาจิ้งจอกสือซานเห
Read more
PREV
1
...
8788899091
...
100
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status