บททั้งหมดของ เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ: บทที่ 191 - บทที่ 200

730

บทที่ 191

“เจียงเอ๋อร์ เจ้ากำลังพูดอะไร?” เฉินฟู่กระตุกเฉินเจียงเบาๆทว่าเฉินเจียงกลับทำเหมือนไม่มีเรื่องอะไรอย่างไรอย่างนั้น “หลังจากเสี่ยวฝานตกหน้าผา มีโชคจากเคราะห์ร้ายกลายเป็นคนเฉลียวฉลาด หากไม่ร่ำเรียนในสำนักศึกษาคงจะน่าเสียดาย”“เฉินเจียงเสนอเรื่องนี้ได้อย่างไร ถึงเวลาเฉินฝานไปสำนักศึกษาแล้วเขาจะฟังรู้เรื่องหรือ? การร่ำเรียนไม่ใช่การขายปลา จะเป็นเรื่องง่ายๆ ได้อย่างไร?”“ใช่ สิ่งที่ยากที่สุดบนโลกใบนี้คือการร่ำเรียน พี่หย่งเหนียนสอบตั้งหลายปีแล้ว เมื่อปีกลายเพิ่งสอบได้อันดับรองสุดท้ายในการสอบระดับท้องถิ่น สอบติดถงเซิงอย่างเฉียดชิว“นั่นน่ะสิ? พี่เหนียนสอบผ่านแล้ว ข้ายังสอบไม่ผ่าน”เสียงกระซิบกระซาบของปัญญาชนโต๊ะนั้นในห้องโถง ล้วนปฏิเสธความคิดของเฉินเจียงที่จะให้เฉินฝานมาร่ำเรียนในสำนักศึกษาอีกทั้ง ปัญญาชนเหล่านี้ แม้ไม่ได้แสดงออกมา แต่ส่วนลึกในใจของพวกเขามีความรู้สึกเหนือกว่าเฉินฝานเป็นแค่คนขายปลา ไม่คู่ควรที่จะมาร่ำเรียนกับพวกเขา“เจียงเอ๋อร์!”เฉินฟู่กระตุกเฉินเจียงอีกครั้ง เฉินเจียงหันไปถามเฉินฟู่ “ท่านพ่อ ท่านเป็นอะไร?”“เสี่ยวฝาน อ่านออกเขียนได้เพียงไม่กี่คำเท่านั้น เขาจะเร
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 192

“ได้!” อาจารย์เฉียนพยักหน้า “เสี่ยวฝาน เจ้าอยากมาเรียนก็มาได้เลย”อาจารย์เฉียนไม่หยิ่งผยองเหมือนปัญญาชนพวกนั้น เขาสอนมาหลายปี มองคนแตกต่างจากคนทั่วไปแม้เ​ฉินฝานจะเป็นคนขายปลา อาจจะอ่านออกเขียนได้เพียงไม่กี่คำ แต่แววตาของเขาเอ่อล้นไปด้วยความฉลาดแค่ได้ยินผ่านกำแพงที่ขวางกั้น ก็เข้าใจความหมายของคำว่าอ๋องโหวแม่ทัพขุนนางชั้นสูงมีชื่อเรียกต่างกันพวกปัญญาชนบนโต๊ะ เมื่อครั้นตอนที่เขาสอนสุภาษิตนี้ ท่ามกลางพวกเขามีหลายคนที่ตนต้องอธิบายหลายรอบกว่าจะเข้าใจอาจารย์เฉียนเอ่ยปากรับเฉินฝานเป็นศิษย์แล้ว ทุกคนไม่อาจปฏิเสธไปโดยปริยายคนที่เข้าข้างเฉินฝาน เป็นห่วงเขากลัวว่าวันข้างหน้าเฉินฝานจะถูกหัวเราะเยาะยามอยู่ในสำนักศึกษาปัญญาชนที่อยู่ที่นี่เวลานี้ เป็นคนในหมู่บ้าน ยามพูดจายังพอรักษาน้ำใจกันไว้บ้างแต่ปัญญาชนนอกหมู่บ้านเหล่านั้น อาจจะพูดจาหยาบคายก็เป็นได้นักปราชญ์ดูแคลนกันเอง ยามปัญญาชนด่าทอ บางครั้งเจ็บแสบยิ่งกว่าสู้กันเสียอีก“ขอบคุณสำหรับข้อเสนอของอาเจียง ขอบคุณคำอนุญาตของอาจารย์ขอรับ” เฉินฝานคารวะเฉินเจียงกับอาจารย์เฉียน“เสี่ยวฝานไม่ต้องขอบคุณ แม้พวกเราจะเป็นอาหลานกัน แต่เราอายุ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 193

เฉินเย่ว์ฉู่ก้าวเท้าเล็กๆ เดินมาใกล้เฉินฝานช้าๆเฉินฝานยื่นมือไปลูบผมของนาง “สุภาพบุรุษขยับปากไม่ลงไม้ลงมือ อ่านตำรากับข้าไม่กี่เล่ม วันหน้าพวกเขาก็ไม่อาจพูดชนะเจ้าได้แล้ว”“แต่ข้าไม่ใช่สุภาพบุรุษ ข้าเป็นสตรีเจ้าค่ะ”“สตรีก็ไม่ได้เหมือนกัน!” เฉินฝานเกือบจะโมโห เด็กน้อยคนนี้เถียงคำไม่ตกฟาก“เจ้าค่ะ นายท่าน เสียวฉู่สำนึกผิดแล้ว” รู้ว่าเฉินฝานโมโหแล้วจริงๆ ฉินเย่ว์ฉู่ค่อยก้มหน้ายอมรับความผิด หลังจากนั้นนั่งอ่านหนังสือข้างเฉินฝานอย่างว่าง่าย…ค่ำคืน ฉินเย่ว์โหรวถามเฉินฝาน“นายท่านเจ้าคะ นายท่านไปสำนึกศึกษา ถึงเวลาจะเข้าร่วมการสอบขุนนางหรือไม่เจ้าคะ?”“อื้ม...”เรื่องนี้เฉินฝานไม่เคยคิดมาก่อนจริงๆ เขาไปสำนักศึกษา แค่เพราะอยากปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยนี้เห็นเฉินฝานเงียบอยู่นานไม่ตอบคำถามของตน ฉินเย่ว์โหรวจึงพูดอีก “การสอบขุนนางไม่ใช่เรื่องง่าย คนส่วนมากสอบไม่ผ่าน แม้สอบไม่ผ่าน ท่านก็เป็นนายท่านที่แสนดีของพวกข้า”เฉินฝานเข้าใจ ฉินเย่ว์โหรวคิดว่าเขากดดัน จึงปลอบใจเขา“อ่อ! จากที่เจ้าพูด หากข้าสอบผ่านเช่นนั้นก็ไม่ใช่นายท่านที่แสนดีของพวกเจ้าแล้วสิ? หากข้าสอบผ่าน ข้าจะไปรับภรรยาคนให
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 194

“นายท่าน วันนี้...”ฉินเย่ว์เจียวเดินเข้ามากะทันหัน“ข้า...”ฉินเย่ว์เจียวรีบหมุนตัวหันหลังเดินออกไป พร้อมกับลากฉินเย่ว์ฉู่ที่กำลังจะเดินเข้ามาในห้องออกไป“พี่สาม เกิดเรื่องอะไรขึ้นเจ้าคะ เหตุใดพี่ไม่ให้ข้าเข้าห้อง?”“เจ้าสกปรกเช่นนี้ ต้องล้างหน้าล้างตัวก่อนค่อยเข้าไป”“พี่สาม ข้าล้างแล้วเจ้าค่ะ”“ล้างไม่สะอาด ไปล้างอีก!”“…พี่สี่!” ฉินเย่ว์ฉู่ร้องเรียกคนที่วิ่งผ่านนางไป “ท่านจะไปไหนเจ้าคะ?”“ข้า ข้าจะไปล้างหน้าแปรงฟัน”ฉินเย่ว์เจียวอยากให้เวลาส่วนตัวกับฉินเย่ว์โหรวและเฉินฝาน แต่ฉินเย่ว์โหรวหน้าบางเกินไป นางจะกล้าทำได้อย่างไร อาศัยตอนที่เฉินฝานถูกฉินเย่ว์เจียวขัดจังหวะ ผลักเฉินฝานแล้ววิ่งออกไป“ล้างหน้าแปรงฟันก็ล้างหน้าแปรงฟันสิ ท่านวิ่งเร็วขนาดนี้ทำไมเจ้าคะ? กลัวข้าแย่งท่านหรือ?”เห็นฉินเย่ว์โหรวไม่ตอบคำถาม ฉินเย่ว์ฉู่ส่ายหน้า หันไปหาฉินเย่ว์เจียว “พี่สาม ท่านว่าข้าควรไปล้างอีกหรือไม่?”“ไม่ต้องล้างแล้ว”ฉินเย่ว์เจียวหงุดหงิดยิ่งนัก หากไม่ใช่เพราะนางบุ่มบ่ามเกินไป...เฮ้อ!ฉินเย่ว์เจียวเคาะศีรษะตนเองฉินเย่ว์เจียวที่เข้าไปในห้องอีกครั้ง ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น อุ้มผ้าห
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 195

“อื้ม!” เฉินฝานถือขนมปังหนึ่งอัน เดินออกมาจากห้องครัว “เย่ว์เจียวรอก่อน ข้ากลับไปเอาพวกพู่กันและหมึกดำก่อน”“นายท่าน ไม่ต้องไปแล้วเจ้าค่ะ” ฉินเย่ว์เจียวตบกระเป๋าสะพายบนหลัง “ของที่ใช้ในสำนึกศึกษาของท่านอยู่ในนี้หมดแล้ว”“เอ๋?”เฉินฝานจ้องมองกระเป๋าสะพายที่ฉินเย่ว์เจียวสะพาย สิ่งนี้คล้ายกับที่เขาเห็นในโทรทัศน์ยุคปัจจุบันคล้ายกับที่ฉวี่เซียน หนิงไช่เฉินสะพาย“เย่ว์เจียว เจ้าเอาสิ่งนี้มาจากไหน”ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดจะเรียนหนังสือ ดังนั้นไปร้านหนังสือหลายรอบก็ไม่เคยคิดจะซื้อสิ่งนี้“นายท่าน ท่านจำไม่ได้อีกแล้วหรือเจ้าคะ นี่ไม่ได้เรียกว่าสิ่งนี้ เรียกว่ากระเป๋าสะพายเจ้าค่ะ”กระเป๋าสะพาย โดยทั่วไปสานจากไม้ไผ่ เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับเก็บตำรา พู่กันและหมึกของปัญญาชนในยุคโบราณ คล้ายกระเป๋าของนักเรียนในยุคปัจจุบันฉินเย่ว์โหรวถือตะกร้าไม้ไผ่เดินออกมาจากห้องเก็บเสบียงอาหาร เรือนร่างและอุปนิสัยของนางเหมือนกัน บอบบางและอ่อนช้อยนางเดินมาถึงตรงหน้าเฉินฝาน “กระเป๋าสะพายนี้พี่อวิ๋นอิงเอามาให้เจ้าค่ะ นางบอกว่าพี่หย่งเหนียนมีหลายใบแล้ว ทั้งยังบอกว่านายท่านเข้าเรียนกะทันหัน ที่บ้านต้องไม่มีก
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 196

“เสียวฉู่ของเราวิ่งเร็วแบบนี้ สูงขึ้นแล้วหรือเปล่า?” เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่วิ่งมาหาเขาด้วยความเอ็นดู“สูงขึ้นแล้วเจ้าค่ะ!” ฉินเย่ว์เจียวที่ยืนมองอยู่ข้าบๆ พยักหน้า “ตอนนี้เสียวฉู่สูงถึงเอวนายท่านแล้ว”“อื้ม ข้าเองก็รู้สึกว่าสูงขึ้นเหมือนกัน”เฉินฝานและฉินเย่ว์เจียวบอกว่าฉินเย่ว์ฉู่สูงขึ้นแล้ว ฉินเย่ว์ฉู่ดีใจจนยิ้มกว้างระหว่างทาง ฉินเย่ว์ฉู่ที่กระโดดโลดเต้นอยู่นั้น จู่ๆ ก็พูดขึ้น “วันนี้ข้าพบว่า แม้ปกตินายท่านจะเก่งกาจ แต่นายท่านกลัวพี่สี่”“เสียวฉู่ เงียบเดี๋ยวนี้” ฉินเย่ว์เจียวพูดเสียงดังร้องปรามฉินเย่ว์ฉู่ฉินเย่ว์เจียวทำให้ฉินเย่ว์ฉู่ตกใจจนตัวสั่น ตัวนางเองก็ตกใจเช่นเดียวกันจริงด้วย นางลืมไปได้อย่างไร การบอกว่าบุรุษกลัวภรรยาของตนเองเป็นข้อห้ามใหญ่“เย่ว์เจียว อย่าทำให้เสียวฉู่ตกใจ” เฉินฝานรีบพูด “เสียวฉู่พูดถูก ข้ากลัวเย่ว์โหรวจริงๆ”“พวกเรารีบไปกันเถอะ!” เฉินฝานเร่งสองพี่น้อง “ขืนยังไม่ไปอีกก็จะสายแล้วจริงๆ ประเดี๋ยวกลับไปเย่ว์โหรวจะดุพวกเราอีก”ฉินเย่ว์เจียวมองแผ่นหลังเหยียดตรงของเฉินฝาน พูดพึมพำ “ท่านไม่ได้กลัว เห็นชัดว่ารักต่างหาก”ยิ่งใกล้สำนักศึกษา ก็ยิ่งเห็นคนส
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 197

“เสี่ยวฝาน” เฉียนหย่งเหนียนมองเฉินฝานด้วยความประหลาดใจ “เหตุใดเจ้าจึงถามเช่นนี้? เจ้าใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาโดยตลอดไม่ใช่หรือ?”“อ่อ!” เฉินฝานเกาศีรษะเล็กน้อย “พี่หย่งเหนียน เมื่อวานพวกจูต้าอันบอกว่าข้าเปลี่ยนไปแล้วไม่ใช่หรือ? พวกเขาพูดถูก ข้าเปลี่ยนไปแล้ว ข้าลืมเรื่องในอดีตไปมากมาย”“เช่นนี้...ก็ดีเหมือนกัน!” เฉียนหย่งเหนียนตบไหล่เฉินฝาน “จำตนเองในอดีตไม่ได้ก็ดีเหมือนกัน!”เฉินฝานในอดีตไม่เหมือนคนเลย“ข้าได้ยินท่านพ่อบอกว่า ถึงรุ่นของเรา ทารกชายก็เริ่มน้อยลง โดยเฉพาะหลายปีนี้ยิ่งร้ายแรง ดังนั้น...”เฉียนหย่งเหนียนชี้ไปยังภรรยาที่ยืนรอสามีด้านนอกท่ามกลางลมหนาว “ราชสำนักจึงจัดสรรภรรยาให้พวกเขา อีกทั้งเมื่อได้ลูกชายก็จะมีรางวัลให้”“เรื่องนี้ข้ารู้แล้ว ทารกชายให้กำเนิดน้อย มีเพียงต้าชิ่งของเราที่เป็นเช่นนี้หรือขอรับ? แคว้นรอบๆ มีสถานการณ์เช่นนี้หรือไม่” เฉินฝานถาม“แคว้นโดยรอบก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เพียงแต่ไม่รุนแรงเท่าแคว้นต้าชิ่งของเรา ก็เพราะแบบนี้!”ขณะพูด เฉียนหย่งเหนียนกำหมัดแน่น“แคว้นโดยรอบโจมตีอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ต้าชิ่งของเราสูญเสียหลายเมือง และเพราะแบบนี้” เฉียนหย่งเ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 198

เฉินฝานกำลังตั้งใจแยกแยะขนของพู่กัน ไม่ทันสังเกตว่าพวกปัญญาชนพูดอะไร รู้สึกคล้ายมีคนกำลังมองเขา เขาจึงเงยหน้าขึ้นยิ้มบางๆ แล้วพยักหน้าให้พวกปัญญาชน“ฮ่าๆ เห็นไหม พวกเรากำลังว่าเขา แต่เขากลับส่งยิ้มให้พวกเขา โง่เขลาจริงๆ”“ฮ่าๆ เป็นบ่อเกิดของความสุขจริงๆ เก็บเขาเอาไว้เถอะ”“ก็จริง เรียนหนังสือบางครั้งก็น่าเบื่อ มีคนโง่อยู่ด้วย คอยปรับอารมณ์ก็ดีเหมือนกัน”เฉินเจียงที่นั่งอยู่ไกล ฟังปัญญาชนเหล่านี้หัวเราะเยาะหลานตนเอง เขาไม่เพียงแต่ไม่โมโห แต่ยังมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นเฉินฝาน เจ้าคิดว่าขายปลาไม่กี่ตัว หาเงินได้นิดหน่อย ก็เทียบเท่าข้าแล้วอย่างนั้นหรือ?ไร้เดียงสาจริงๆ!“อาจารย์มาแล้ว!”ไม่รู้ว่าใครร้องเรียก ภายในห้องเรียบเงียบกริบทันทีอาจารย์เฉียนกอดตำรา ถือไม้บรรทัด เดินเข้ามาในห้องเรียนวางตำราและไม้บรรทัดลง อาจารย์เฉียนกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องเรียน สุดท้ายสายตาหยุดลงที่เฉินฝาน“เสี่ยวฝาน มา!”อาจารย์เฉียนโบกมือให้เฉินฝานตามระเบียบแล้ว สิ่งแรกที่ทำเมื่อเข้าเรียน คือไหว้ภาพวาดขงจื๊อเฉินฝานโค้งคำนับภาพวาดชายชราสามครั้ง อาจารย์เฉียนค่อยให้เขาลุกขึ้น “เสี่ยวฝาน ก่อน
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 199

“เฉินเจียงไม่เพียงเขียนตัวหนังสือได้สวย วิชาทั่วไป การสอบพระคัมภีร์ รวมถึงบทกวี ล้วนทำได้ดี”“ไม่ใช่ล้วนทำได้ดี ทำได้ดีมากต่างหาก เฉินเจียงเพิ่งเริ่มเรียนตอนอายุสิบห้า ระหว่างนั้นหยุดเรียนไปหนึ่งปี ทั้งหมดนี้ใช้เวลาไม่ถึงสามปี เรียนได้ดีกว่าพวกเราหลายคน”“ใช่ เรื่องนี้ต้องยอมรับจริงๆ ข้าจำได้ว่าเมื่อสี่ปีก่อน เฉินเจียงในวัยสิบห้าปี วันแรกที่มาเข้าเรียน ใช้เวลาเพียงครึ่งวัน เขาเขียนตัวหนังสือตัวบรรจงงดงามอย่างมาก แต่เมื่อมองไปที่เฉินฝาน...”“คนหนึ่งฟ้า คนหนึ่งดินจริงๆ”“ชิๆ นี่อาจจะเป็นความแตกต่างระหว่างคนมีพรสวรรค์กับคนโง่กระมัง”“เจ้าพูดผิดแล้ว ควรบอกว่า เป็นความแตกต่างระหว่างหงส์กับคางคก”“เสี่ยวฝาน คนพวกนั้นปากเสีย เจ้าอย่าเก็บมาใส่ใจ”กลัวเฉินฝานได้ยินคำพูดเย้ยหยันเหล่านั้นแล้วจะเสียใจ ตอนเดินออกไปจากสำนึกศึกษา เฉียนหย่งเหนียนปลอบเฉินฝานเฉินฝานยิ้ม เขาลูบผมของตนเอง มองดูซื่อๆ “ข้าไม่ได้เก็บมาใส่ใจ ลายมือของข้าน่าเกลียดอยู่แล้ว”เห็นเฉินฝานเปิดใจกว้างเช่นนี้ เฉียนหย่งเหนียนเองก็ยิ้ม “เจ้าคิดได้แบบนี้ก็ดีแล้ว ฝึกเขียนบ่อยๆ ก็จะเขียนสวยเอง”“ขอรับ พี่หย่งเหนียน ข้าจะฝึกบ่อย
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 200

อยากจะเลียนแบบเฉินเซวี่ยจื่อที่อยู่อำเภอตูอันหรือ? คิดว่าตนเป็นนักเรียนที่เรียนไม่เก่ง แต่ก็สอบผ่านระดับต้นๆ?”“ตลก เขาคงไม่คิดว่าตนแซ่เฉินแล้ว จะเป็นเหมือนเฉินเซวี่ยจื่อกระมัง”“เป็นได้แค่ของเลียนแบบที่ทำได้ไม่ดี”หลังจากสตรีพวกนั้นว่าเฉินฝานเสียๆ หายๆ จบ ก็เริ่มด่าทอฉินเย่ว์เจียวกับฉินเย่ว์ฉู่“เห็นหญิงไร้ยางอายสองคนนั้นไหม? คนโตแบกธนู ทำตัวเป็นสตรีร้ายกาจ ส่วนคนเล็ก ผอมแห้ง สายตาที่มองคนอื่นดุร้ายยิ่งนัก มองแล้วก็เป็นสตรีร้ายกาจเหมือนกัน ไม่มีภาพลักษณ์ภรรยาของปัญญาชนแม้แต่น้อย”“ฮ่าๆ คนหนึ่งไม่เอาไหนและขี้โกง อีกสองคนเป็นสตรีร้ายกาจ ผีเน่ากับโลงผุชัดๆ เหมาะสมกันยิ่งนัก!”ฉินเย่ว์เจียวอายุมากกว่า สำหรับคำดูถูกและเย้ยหยันเหล่านั้น นางยังพอที่จะไม่แสดงออกทางสีหน้าฉินเย่ว์ฉู่อายุน้อย ความอดทนต่ำ โมโหจนร้องไห้หลังจากเฉินฝานบอกลาเฉียนหย่งเหนียน เขาก็เดินไปหาพวกฉินเย่ว์เจียว“เสี่ยวฉู่ เจ้าเป็นอะไร?”เฉินฝานที่เดินถึงตรงหน้าสองพี่น้อง มองเพียงปราดหนึ่งก็เห็นฉินเย่ว์ฉู่ที่ขอบตาร้อนผ่าว“เย่ว์เจียว เจ้ารังแกน้องสาวอีกแล้วหรือ?”“นายท่าน ข้าเปล่า ข้าขอเอาคันธนูรับประกัน ข้าไม่ได
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
1819202122
...
73
DMCA.com Protection Status