บัวหนึ่งเดือนผ่านไปตั้งแต่วันนั้นวันที่พี่น็อตไล่ฉัน นี่ก็ครบหนึ่งเดือนพอดีที่ฉันหลบหน้าพี่เขา ฉันไปพักที่คอนโดกับนับตังค์ ส่วนพี่น็อตเองเหมือนพี่เขาพยายามจะเข้าหาฉัน แต่สิ่งที่พี่เขาพูดมันค่อนข้างแรงสำหรับฉัน ถึงฉันจะยังรักพี่เขาอยู่แต่ฉันคงไม่กลับไปให้หัวใจตัวเองเจ็บหรอก พอดีช่วงนี้ฉันมันเป็นพวกเจ็บแล้วจำน่ะ“บัว วันนี้นอนไหน” นับตังค์เดินมาถามฉัน“บัวว่าจะกลับคอนโดแล้ว รบกวนนับมานานมาก” ฉันบอกเพื่อนรักตัวเอง“แล้วไม่กลัวเจอพี่น็อต” แจมมี่ถามขึ้น“เจอแล้วยังไง บัวไม่กลัวเขาอีกต่อไปแล้ว” ฉันบอกอย่างมั่นใจ“งั้นเดี๋ยวเหนือไปส่งนะบัว” เหนือเดินมานั่งลงข้างฉัน เรื่องฉันกับเหนือเราสองคนก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เหนือเองก็คอยให้คำปรึกษาฉัน ไปรับไปส่งเกือบทุกวันจนคนอื่นคิดว่าเราสองคนเป็นแฟนกันไปหมดแล้ว“ขอบคุณนะ”“เออ ได้ข่าวว่าวิศวะออกค่ายไม่ใช่หรอ” แจมมี่พูดขึ้น อันนี้ฉันก็พอได้ยินมาบ้าง“ใช่ ไปวันนี้ด้วยนะ” งั้นก็ดีน่ะสิ ฉันจะได้ไม่ต้องเจอหน้าใครบางคน“ใกล้ปิดเทอมแล้ว ไปเที่ยวไหนกัน” เฟรมเอ่ยถาม“ไม่รู้สิ แนะนำบ้าง” นับตังค์บอก“บัวอยากไปไหนมั้ย” เหนือหันมาถามฉัน“บัวไปได้หมดแหละ บอก
น็อตผมนั่งมองเมียตัวเองที่อ้าปากค้างมองผมตาปริบๆ นี่ผมพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า ผมหยิบผ้าห่มมาห่อตัวคนที่นั่งนิ่งไม่ไหวติงอะไรเลย“บัวครับ ฟังพี่อยู่มั้ย” ผมถาม“ระ....รักงั้นหรอ” ติดอ่างสะงั้น“ใช่ พี่รักบัว” ผมบอกอีกครั้ง“พี่พูดแบบนี้ทำไมอ่ะ พูดให้บัวดีใจหรอ”“พี่พูดจากใจจริงนะบัว”“พี่แค่อยากอาชนะเหนือ พี่ไม่ได้รักบัว พี่เลิกพูดเลิกยุ่งกับบัวสักที” ผมนั่งฟังเมียตัวเองพูด ทำไมวะผมพูดความจริงนะเว้ย“ตอนนั้นใช่ แต่ตอนนี้พี่รักบัวจริงๆ” ผมบอก“บัวต้องดีใจใช่มั้ยคะ”“บัว ที่ผ่านมาเห็นความรู้สึกบัวเป็นแค่ของเล่น พี่มันเลวที่ทำร้ายบัว” ผมบอกก่อนจะขยับเข้าไปใกล้แต่เมียผมกลับขยับหนี“..................”“พี่ขอโทษ พี่อยากขอโอกาสจากบัว ครั้งสุดท้ายก็ได้พี่สัญญาจะไม่ทำให้บัวเสียใจอีก”“โอกาสหรอคะ”“พี่ไม่รู้ว่าพี่รักบัวตั้งแต่ตอนไหน แต่มารู้ตัวอีกทีพี่ก็หึงบัวเมื่อบัวอยู่ใกล้ผู้ชายคนอื่นแล้ว” ผมบอกความรู้สึกของตัวเองออกไป ที่ผ่านมาผมหลอกตัวเองมาตลอดว่าไม่ได้รักเธอ ผมจมอยู่กับอดีตที่ไม่มีวันย้อนกลับมาหาผม“พี่น็อตลืมพี่ใบบัวได้แล้วหรอ” บัวถามผมขึ้น ผมนิ่งไปกับคำถาม“.................”“บัวไม่ใช่ต
น็อต“พะ...พี่น็อต อ๊ะ อืม”พั่บ พั่บ พั่บ พั่บ พั่บผมกระแทกใส่ร่องรักเมียตัวเองไม่ยั้ง ในเมื่อไม่ฟังกันก็ต้องแบบนี้แหละ และนี่ไม่ใช่รอบแรกนะครับเพราะตอนนี้จะสี่โมงเย็นแล้ว“อ๊ะ อ๊ะ ซี๊ด จุก อ๊ะ อ๊ะ”“เชื่อพี่ได้หรือยังครับ ซี๊ด”พั่บ พั่บ พั่บ พั่บ พั่บ“ชะ...อ๊ะ เชื่อ อ๊า พี่น็อตบัว อืม เสียว”“ซี๊ด แน่น”“อะไรนะครับ ยังไม่เชื่อ”ผมเร่งจังหวะแกล้งเมียตัวเอง คนอะไรน่าแกล้งชะมัดผมกระแทกเข้าสุดออกสุด อย่าได้ถามว่าเหนื่อยมั้ย ผมมันเป็นบุคคลจำพวกอึดและทนครับอันนี้เมียผมน่าจะรู้ดี“อ๊ะ อ๊ะ อืม เสียว”พั่บ พั่บ พั่บ พั่บ พั่บจ๊วฟ จ๊วฟผมก้มลงไปดื่มนมที่ขนาดพอดีมือไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไปพร้อมฝากรอยแสดงความเป็นเจ้าของไว้ด้วย"อืม หวาน"พั่บ พั่บ พั่บ พั่บ พั่บ“ซี๊ด บัวอย่าตอดพี่ โอ้ว เมียจ๋า”พั่บ พั่บ พั่บ พั่บ พั่บ“อ๊ะ อ๊ะ ระ..เร็วอีกได้ อ๊ะ มั้ยคะ ซี๊ด”ผมยิ้มอ่อนแล้วก้มมองคนที่หน้าบึ้งตึงใส่ผม ผมรู้ว่าเมียผมกำลังจะถึงปลายทางแต่ผมยังอยากแกล้งอยู่ไงผมแช่ลูกชายของผมก่อนจะขยับเข้าออกอย่างเนิบนาบ“ซี๊ด โอ้ว”“แกล้งบัว อ๊ะ” ผมกระแทกสวนทันที“เชื่อพี่หรือยังครับ” ผมถาม“บอกตั้งนานแล้วมั้ยคะ
น็อตในชีวิตพวกคุณเคยตกหลุมรักใครตั้งแต่แรกเจอมั้ยครับ ผมไม่รู้ว่ามันพรหมลิขิตหรือเรื่องบังเอิญที่ผมได้เจอรุ่นน้องคนหนึ่งที่มหาลัย ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัว ผมชื่อน็อตครับ เรียนวิศวะโยธา ปีสาม“กูได้ยินข่าวว่ามึงเรียนวิศวะป่ะ” ไอ้เอ็มเจเดินมาชนไหล่ผมพร้อมยกยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผม“แล้วมึงมาทำไม” ผมย้อนถามเพื่อน“ใครน้อ!! กล้าทำเสือจำศีลตื่นได้ขนาดนี้” ไอ้ไทยทีก็อีกคน“น้องคนนั้นน่ารักว่ะ” ไอ้เอ็มเจชี้ไปทางเด็กผู้หญิงผมสีแดงที่กำลังเดินมา นี่แหละครับพรหมลิขิตของผม ผมไม่รู้ว่าเธอชื่ออะไร อาทิตย์ที่แล้วเธอเดินผ่านผมที่คณะและที่ผมมาคณะบิรหารก็เพราะเธอนี่แหละ“อ้าวหนุ่มวิศวะมาทำอะไรที่คณะบริหารไม่ทราบคะ” แพมเป็นเพื่อนของพวกผมครับและเป็นแฟนรุ่นพี่ของพวกผมด้วย“ถามคุณน็อตเลยครับ” ไอ้เอ็มเจรีบโยนให้ผม“แหม ยิ้มขนาดนี้เล็งคนไหนหรอน็อต” แพมเอ่ยแซวผม“น้องคนนั้น” ผมบอกไปตามตรงเพราะผมไม่มีอะไรต้องปิดบังเพื่อนอยู่แล้ว“ชัดเจนดีกูชอบ” ไอ้ไทยทีชูสองนิ้วให้ผม“อ๋อ น้องใบบัวน่ะหรอ”ใบบัวอย่างนั้นหรอชื่อน่ารักแฮะ ผมนั่งมองน้องที่เดินผ่านโต๊ะพวกผมไปก่อนที่เธอจะนั่งลงโต๊ะด้านหลังของผม“ใบบัวเลิกเรียนแล้ว” แพมเดินเ
น็อตปกติผมจะอยู่คอนโดสะส่วนใหญ่แต่วันนี้แม่ผมโทรตามให้กลับบ้าน ที่บ้านผมทำธุรกิจเครื่องเพชรครับ ผมไม่ชอบก็เลยเรียนตามที่ตัวเองอยากจะเรียน แต่สุดท้ายแล้วผมก็ต้องมาสานต่องานของที่บ้านอยู่ดี“สวัสดีครับแม่” ผมกล่าวทักทายแม่ตัวเองแล้วเดินเข้าไปกอดท่าน“หล่อขึ้นนะเรา มีความรักใช่มั้ยเนี่ย” แม่ถามพร้องจ้องหน้าผมเพื่อจับผิด“ก็ไม่เชิงครับ”“ใครกันน้อที่ทำให้ลูกแม่ยิ้มได้ แม่ชักอยากจะเห็นหน้าสะแล้วสิ” แม่ผมยิ้มกริ่มก่อนจะหรี่ตามองผม“คุณพ่อล่ะครับ” ผมรีบเปลี่ยนเรื่องทันที“ประชุมครับ เรียนเป็นยังไงบ้าง”“ก็ดีครับ แล้วแม่จะไปเที่ยวไหนอีกล่ะคราวนี้” ผมถามเพราะพ่อกับแม่ผมชอบทิ้งลูกชายไปเที่ยวกันสองคน“ฮ่องกงแค่นี้เองลูก ไปด้วยมั้ยล่ะ”“ผมมีเรียนครับ”“ติดเรียนหรือติดสาว” แม่ผมถาม“เธอมีแฟนแล้วครับแม่ ผมอกหักตั้งแต่ยังไม่เริ่มจีบเลย” ผมบอกแม่ไปตามตรง“เรื่องของวัยรุ่นแม่ไม่ยุ่งดีกว่า ไปกินข้าวกัน”ผมเดินตามแม่มาที่โต๊ะอาหารนานๆ จะได้กินข้าวกับแม่สักที เพราะปกติผมไม่ค่อยกลับบ้าน และพ่อกับแม่ผมก็ไม่ค่อยอยู่ผมนั่งกินข้าวกับแม่จนพ่อผมกลับมาก็ไม่วายโดนแซวเรื่องสาวๆ อีก ผมเองก็ไม่ได้มีอะไรต้องปิดบังท
บัวคำก็รำคาญสองคำก็รำคาญ คอยดูเถอะถ้าตกหลุมรักฉันเมื่อไหร่จะเอาให้หาทางออกไม่เจอเลย ทุกคนรู้มั้ยคะว่าคติของฉันคืออะไร ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลกแต่ฉันไม่อยากครองโลกฉันอยากครองพี่น็อตคนเดียว ฉันยืนมองรถคันหรูที่ขับออกไปด้วยความเร็ว"ถ้ากลับมาอีกที จะปล่อยลมยางเลยคอยดู"ฉันยืนขึ้นปัดกระโปรงตัวเอง เพราะไอ้พี่น็อตบ้า ผลักมาได้คนนะเว้ยไม่ใช่ลูกบาส"หนูบัวยืนทำอะไรตรงนั้นคะ เข้าบ้านได้แล้ว"เสียงของคุณแม่ฉันเองค่ะ"พอดีหมาวิ่งชนหนูค่ะ"ฉันบอกก่อนจะเดินเข้าบ้าน หึ หยิ่งแบบนี้หนูชอบค่ะ ไม่อยากจะบอกว่าฉันเข้าเรียนที่มหาลัยเดียวกับพี่น็อตด้วยนะแต่ฉันเรียนบริหาร ไว้เจอกันค่ะแล้วพี่จะตกใจเพราะหนูทำอะไรได้มากกว่าที่พี่คิดค่ะน็อตผมขับรถออกมาอย่างหัวเสีย นี่คือเหตุผลนึงที่ผมไม่ค่อยกลับบ้านเพราะผมต้องมาเจอยัยเด็กแก่แดดนี่ไง ผมรู้สึกรำคาญและไม่อยากคุยกับเธอ แต่แม่ผมเอ็นดูเธอมาก ผมไม่ชอบเด็กแต่ยกเว้น ใบบัว ถึงผมจะรู้ว่าเธอมีแฟนแล้ว มีแล้วก็เลิกได้ป่ะอีกอย่างผู้หญิงไม่ชอบคนเจ้าชู้และข้อนี้ผมชนะครับผมขับรถออกมานอกตัวเมือง ผมเบื่อยิ่งมาเจอยัยเด็กนั่นผมยิ่งเบื่อเข้าไปใหญ่"มานั่งอะไรแถวนี้คะ"ผมหันมองตามเสียง
น็อตในเมื่อผู้ชายคนนั้นจ้างใบบัวเป็นแฟน ผมก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังความรู้สึกตัวเอง ผมกับใบบัวนั่งมองพระอาทิตย์ตกด้วยกัน เธอมาคนเดียวแน่นอนผมไม่ยอมให้เธอกลับบ้านคนเดียวเหมือนตอนมาหรอกนะ“จะไปไหนต่อมั้ย” ผมถามคนที่นั่งยิ้มอยู่ข้างๆ จนผมอดยิ้มตามไม่ได้“กลับบ้านค่ะ แล้วพี่น็อตล่ะจะไปไหนต่อ”“พี่ขอไปส่งได้มั้ย ค่ำแล้วมันอันตราย” ผมบอกความต้องการออกไป“โอเค ประหยัดตังค์ค่ารถด้วย” ใบบัวพูดพร้อมหัวเราะออกมา“ให้พี่ส่งทั้งชีวิตยังได้” ผมพูดใบบัวถึงกับนิ่งไป ผมรุกแรงไปหรอ“หนุ่มวิศวะปากหวานก็เป็น” ใบบัวเอ่ยแซวผม“เฉพาะคนที่ชอบแหละครับ” ที่จริงผมไม่ค่อยพูดหรอกกับคนที่ไม่สนิทแต่ยกเว้นใบบัว ผมอยากคุยด้วย“อ่ะ อ่ะ บัวว่าเรากลับกันดีกว่าค่ะ” ใบบัวรีบเปลี่ยนเรื่องทันที“ไปครับ รถพี่จอดฝั่งนู้น” ผมกับใบบัวเดินมาที่รถ ก่อนที่ผมจะเจอคนที่ไม่อยากเจอ โลกแม่งกลมหรืออะไรวะเนี่ย“มาทำอะไรที่นี่อ่ะ” ผมมองหน้าใบบัวก่อนจะมองหน้าคนที่ยืนยิ้มอยู่“ใบบัวไปรอพี่ที่รถก่อน นี่กุญแจครับ” ผมยื่นกุญแจให้ก่อนที่บัวจะรับแล้วเดินไป"ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร"เธอถามผม"ไม่เสือกสักเรื่องจะได้มั้ย จะไปไหนก็ไป"ผมตอบอย่างหัวเสีย แค่ห
น็อตผมกับใบบัวเราสนิทกันมากขึ้น ส่วนใบบัวก็ยังรับจ้างเป็นแฟนคนนั้นอยู่ แต่เหมือนว่าช่วงนี้ใบบัวจะมีเรื่องเครียดเพราะสีหน้าเธอไม่ค่อยดีเลยแต่ผมไม่อยากยุ่ง“โอเคมั้ย เล่าพี่ฟังได้นะ” ผมนั่งลงข้างใบบัว“บัวจะเลิกแล้วพี่น็อต บัวเหนื่อย” ผมรู้ว่าใบบัวหมายถึงอะไร“พี่ว่าเรามีอะไรมากกว่านั้น” ผมถาม“บัวรักเขา” ผมจุกกับคำที่ได้ยินใบบัวรักเขางั้นหรอ“ระ..รักหรอ”“ค่ะแค่รักไม่ได้อยากมาเป็นแฟน บัวไม่อยากเจ็บ”“แล้วบัวจะทำยังไงต่อไป” ผมถามอย่างน้อยใบบัวก็ยังไม่ได้ตกลงกับใครเป็นแฟน“ต่างคนต่างอยู่ค่ะ” ใบบัวตอบผมและผมรู้สึกโล่งใจเมื่อได้ยินคำตอบจากเธอ“พี่ยังมีสิทธิ์อยู่มั้ย” ผมถามออกไปตามตรง“พี่น็อตชอบบัวจริงหรอ” ใบบัวถามกลับผม“ครับ ชอบมาตลอดแต่พี่เคารพในการตัดสินใจพี่จะไม่บังคับอะไรทั้งนั้น แต่พี่ขอแค่อย่าให้พี่เลิกชอบบัวเลยนะพี่ทำไม่ได้จริงๆ เพราะตอนนี้ใจพี่อยู่กับบัวแล้ว ไม่สิมันอยู่กับบัวตั้งแต่วันแรกแล้ว”“ขอบคุณนะคะสำหรับความรู้สึกดีๆ ที่มีให้บัว”ผมนั่งคุยกับใบบัวอยู่นานก่อนผมจะพาใบบัวมาส่งบ้าน แต่ยังไม่ถึงเลยผมก็ต้องเจอบุคคลที่ผมเบื่อขี้หน้ามากที่สุด“พี่น็อตไปไหนคะ” ผมอุตส่าห์หลีกแล้วแ