“ใช่ค่ะ แค่เซ็นชื่อก็ได้แล้วค่ะ!” ชู๋ยู่หยานเห็นสีหน้าตกใจของซูหว่านเอ๋อร์ ในใจก็คิดว่า ถ้าคุณรู้ตัวตนของสามีของตัวเอง เกรงว่ายิ่งตกตะลึงยิ่งกว่านี้อีกนะ?“ค่ะ ฉันเซ็นเดี๋ยวนี้ค่ะ” ซูหว่านเอ๋อร์ตอบด้วยความตื่นเต้นซูหว่านเอ๋อร์เซ็นชื่อเสร็จแล้ว ชู๋ยู่หยานก็พูดขึ้น: “คุณซูคะ ยินดีต้อนรับคุณเป็นอย่างยิ่ง นับตั้งแต่วันนี้ไปคุณก็เป็นส่วนหนึ่งของหนานหูกรุ๊ปของพวกเราแล้ว หากไม่มีสถานการณ์อะไรที่พิเศษ พรุ่งนี้ก็สามารถเข้าทำงานได้เลยนะคะ”“ได้ค่ะ ขอบคุณประธานชู๋นะคะ!” ซูหว่านเอ๋อร์ตอนนี้ดีใจจนปกปิดไว้ไม่อยู่ ดูท่าแล้วหลินเซียวคงจะไม่ได้หลอกตัวเอง ความสัมพันธ์ของเขาและเพื่อนร่วมชั้นเรียนคนนั้นน่าจะสนิทสนมกันมาก“คุณซูเกรงใจเกินไปแล้วค่ะ คนมีความสามารถอย่างคุณสามารถเข้าร่วมหนานหูกรุ๊ปได้ค่ะ และพวกเราก็ดีใจมากค่ะ” ซูหว่านเอ๋อร์ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องเป็นประธานของหนานหูกรุ๊ป ซู๋ยู่หยานจะไม่เกรงใจได้ยังไงกัน“ประธานชู๋ชมกันเกินไปแล้วค่ะ ฉันจะทำงานของตัวเองอย่างสุดความสามารถแน่นอนค่ะ” ถูกรองประธานหนานหูกรุ๊ปชมขนาดนี้ ซูหว่านเอ๋อร์ก็รู้สึกเขินอายอยู่บ้าง“ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป การบริหารจัดการของโครงการว
“หลังงานแต่งเสร็จแล้ว ผมจะทำงานอย่างสุดความสามารถและดูแลครอบครัวนี้ของเราให้ดี” หลินเซียวพูดขึ้นรอจัดงานแต่งเสร็จ เขาน่าจะกลับไปใช้ชีวิตราชามังกรของตัวเอง“เรื่องงานแต่งงานฉันไม่ได้อะไรแล้ว จัดให้เรียบง่ายก็พอ ในเมื่อขายขี้หน้าบ่อยมากแล้วจนไม่แคร์อะไรแล้ว” ซูหว่านเอ๋อร์ถอนหายใจแล้วพูดขึ้นประโยคนี้ทำให้ใจของหลินเซียวไม่สบอารมณ์ราวกับว่าซูหว่านเอ๋อร์อดกลั้นความน้อยเนื้อต่ำใจไว้มากมายขนาดนี้ แต่กลับไม่มีที่พึ่งถึงได้พูดประโยคนี้ออกมาสำหรับงานแต่งงาน หลินเซียวได้มีความคิดของตัวเองไว้แล้วในเมื่อตอนนี้เขาเลือกซูหว่านเอ๋อร์แล้ว ก็ต้องมอบงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่อลังการให้กับเธอ ให้เธอได้กลายเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดบนโลกนี้ซูหว่านเอ๋อร์สมัครเข้าไปทำงานตำแหน่งผู้อำนวยการโครงการของหนานหูกรุ๊ปสำเร็จก็เลยอารมณ์ดีมากเธอพาหลินเซียวไปเดินช๊อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้า และซื้อเสื้อผ้าเล็กน้อย“จริงสิ วันนี้ตอนสายจางเหยาเพื่อนสนิทของฉันบอกฉันว่าคืนนี้มีงานเลี้ยง คุณไปกับฉันนะ!” ซูหว่านเอ๋อร์อารมณ์ดีมาก ดังนั้นถึงอยากพาหลินเซียวไปงานเลี้ยงด้วย“พาผมไปได้ด้วยงั้นเหรอ?” หลินเซียวประหลาดใจเล็ก
ซูหว่านเอ๋อร์พาหลินเซียวออกมา คนขับรถก็ต้องเป็นหลินเซียวหลินเซียวกำลังขับรถบีเอมดับเบิ้ลยูของซูหว่านเอ๋อร์ เตรียมไปรับจางเหยาจางเหยาและซูหว่านเอ๋อร์เป็นเพื่อนรักกันตั้งนานมาแล้ว และเธอเป็นนักเขียนบทความบนอินเทอร์เน็ต ไม่ต้องออกนอกบ้านไปทำงานเลย เขียนนิยายอยู่แต่ที่บ้านรายได้ของเธอก็ไม่น้อย รายได้เดือนหนึ่งก็มีถึงหลายแสนบาท หากมีการแนะนำของเวปไซต์อีกด้วย ก็สามารถมีรายได้สูงถึงหลักล้านบาทต่อเดือนเลยทีเดียวหลังจากที่จางเหยาขึ้นรถ เห็นหลินเซียวอยู่ที่ตำแหน่งคนขับ ก็รู้สึกคาดคิดไม่ถึงทันที“เหยาเหยา ทำไมรู้สึกว่าเธอจะแอบตกตะลึงอยู่นะ?” ซูหว่านเอ๋อร์ถามขึ้น“ฉันว่านะหว่านเอ๋อร์ นึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะพาหลินเซียวไปร่วมงานเลี้ยงด้วย?” จางเหยาถามขึ้นอย่างสงสัย“ใช่น่ะสิ หรือว่าไม่อนุญาตให้พาคนในครอบครัวมาด้วยงั้นเหรอ?” ซูหว่านเอ๋อร์ถามขึ้น“มันก็ไม่ได้มีข้อบังคับหรอกนะ แต่ว่าเขาไม่มีงานการทำเหรอ? เธอพาเขาไปด้วยจะถูกคนอื่นนินทาไหม?” จางเหยาพูดขึ้น“ช่างมันสิ ฉันตอนนี้ไม่ได้แคร์เรื่องแบบนี้เลยสักนิด” ซูหว่านเอ๋อร์พูดขึ้น“อาจจะใช่ แม้หลินเซียวจะไม่มีงานการทำ แต่สำหรับฉันถือว่าดีเลยนะ!
“นี่ต้องยังต้องดูก่อนว่าหลินเซียวจะจัดงานแต่งได้จริงๆไหม” ซูหว่านเอ๋อร์พูดขึ้น“ก็ตกลงตามนี้ รอให้ถึงงานวันแต่ง คุณก็มาเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้หว่านเอ๋อร์” หลินเซียวพูดอย่างจริงจัง“งั้นฉันก็อดทนรอให้ถึงวันนั้นไม่ไหวแล้วล่ะ ต้องไม่ทำให้หว่านเอ๋อร์ของฉันผิดหวังนะ” จางเหยาพูดขึ้น……งานเลี้ยงจัดอยู่ที่โรงแรมซางหมิงของเมืองหนานหูงานเลี้ยงครั้งนี้พูดให้เข้าใจก็คือเพื่อนร่วมชั้นบางคนที่ทำงานอยู่ที่เมืองหนานหู ทุกคนมารวมตัวพบปะเจอกัน มีแค่แปดเก้าคนจองห้องวีไอพีของที่นี่ไว้ กินข้าวกันง่ายๆเมื่อซูหว่านเอ๋อร์ หลินเซียวและจางเหยามาถึงที่นี่ คนอื่นๆ ก็อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาหมดแล้วตอนที่ซูหว่านเอ๋อร์ยังเรียนอยู่ เธอเป็นถึงดาวมหาลัยที่มีชื่อเสียง กลับแต่งงานกะทันหันแบบนี้ พวกเพื่อนร่วมชั้นก็ประหลาดใจกันเป็นธรรมดาว่าสามีของเธอเป็นอย่างไรแต่ทว่า เรื่องที่ซูหว่านเอ๋อร์สามีไร้ประโยชน์นั้น ช่วงนี้พูดกันจนหนาหูเพื่อนร่วมชั้นมหาลัยที่ว่ามานี้ คบหาได้ค่อนข้างง่าย ไม่มีใครสักคนที่ละลาบละล้วง พวกเขาไม่ได้พูดถึงเรื่องส่วนตัวที่ไม่ดีของซูหว่านเอ๋อร์และหลินเซียวเลยกลับเป็นเหล่าชายหนุ่มที่ตามจีบซู
ในสายตาของฟู่ตงฮุย ทุกด้านของซูหว่านเอ๋อร์ล้วนสามารถบดขยี้เสวียลี่ลี่ได้ ความแตกต่างระหว่างทั้งสองไม่ใช่เพียงเล็กๆ น้อยๆก็แม้แต่จางเหยาก็ดีกว่าเสวียลี่ลี่หลายโขเปรียบเทียบทั้งสามคนแล้วก็รู้ว่าใครดีกว่ากัน ในสายตาของฟู่ตงฮุย เสวียลี่ลี่ก็สวยแต่รูปจูบไม่หอมแต่บนเรือนร่างของซูหว่านเอ๋อร์กลับมีบุคลิกท่าทางที่เป็นเอกลักษณ์จนดึงดูดฟู่ตงฮุยสายตาเจ้าเล่ห์ของฟู่ตงฮุย อยู่ในสายตาของหลินเซียวหมดแล้ว“ทุกคนเกรงใจกันเกินไปแล้ว อย่าเคร่งขรึมแบบนี้สิ ฉันคนนี้เป็นคนคบหาง่าย ต่อไปพวกเราก็เป็นเพื่อนกันหมด มีอะไรให้ช่วยก็มาหาฉันได้เลย หรือจะมาเที่ยวคลับ เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง” ฟู่ตงฮุยฝืนยิ้มด้วยรอยยิ้มที่น่าเกลียดออกมาแล้วพูดขึ้นเขาก็แค่อยากแสดงต่อหน้าทุกคนให้ดีหน่อยแล้วให้ซูหว่านเอ๋อร์มีภาพจำที่ดีต่อตน หลังจากนี้วางแผนอย่างค่อยเป็นค่อยไป อยากได้ผู้หญิงแบบนี้มาครอง จะเร่งรีบไม่ได้“ประธานฟู้ใจถึงพึ่งได้จริงๆ เลยนะ!”“มีโอกาสพวกเราจะไปอุดหนุนแน่นอน”“นั่นน่ะสิ ถึงตอนนั้นก็รบกวนประธานฟู้ด้วยนะ”เหล่าเพื่อนร่วมชั้นพากันสามัคดีร่วมกันพูดให้เกียรติ และพูดได้แต่ประโยคที่น่าฟังพวกนี้เท่านั้น สถานที่
คำพูดของฟู่ตงฮุยทำให้บรรยายกาศในห้องวีไอพีเย็นลงจนเป็นน้ำแข็งแน่นอนว่าซูหว่านเอ๋อร์ก็ไม่อยากให้งานเลี้ยงมันดูกร่อยแบบนี้ก็เลยยกแก้วเหล้าขึ้นมาแล้วพูดกับฟู่ตงฮุยว่า: “ประธานฟู้ สามีของฉันพูดค่อนข้างตรง เหล้าแก้วนี้ฉันดื่มเองค่ะ”“ฟู่ตงฮุยเห็นซูหว่านเอ๋อร์ยอมอ่อนข้อลง รอยยิ้มก็ผุดขึ้นบนใบหน้าแล้วพูดขึ้นว่า: “ดีครับ! ผมกินหมดแก้ว! ส่วนคุณตามสบายเลยครับ!”พูดจบ ฟู่ตงฮุยก็ยกเหล้าขึ้นมาแล้วกระดกจนหมดแก้วจนไม่เหลือเหล้าสักหยดในขณะที่ซูหว่านเอ๋อร์กำลังเตรียมจะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม หลินเซียวก็คว้าหยีบแก้วเหล้าของเธอเอาไว้ได้ก่อนพร้อมพูดขึ้นว่า: “เรื่องที่คุณไม่อยากทำ ก็ไม่มีใครบังคับคุณ!”ฟู่ตงฮุยคนนี้กวาดสายตาจ้องเรือนร่างของซูหว่านเอ๋อร์ไปมาตลอด หลินเซียวทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดกะทันหันทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของฟู่ตงฮุยนิ่งขรึมอีกครั้ง“หลินเซียว คุณไม่ควรเข้ามายุ่งนะ” แววตาที่แฝงไปด้วยจิตสังหารของฟู่ตงฮุยทำให้ซูหว่านเอ๋อร์รู้สึกกลัวขึ้นมา เธอรีบพูดขึ้น“คุณซูครับ ไม่คิดเลยว่าสามีของคุณจะไม่รู้ผิดชอบชั่วดีจริงๆ! บ้าบิ่นแบบนี้ จะต้องเพบกับความสูญเสียแน่!” ฟู่ตงฮุยพูดขึ้
ดังนั้นเขาจึงระงับความโกรธในใจลงชั่วคราวอย่างไรก็ตามมันเป็นไปไม่ได้อย่างยิ่งที่สิ่งนี้จะจบแค่นี้ เขาจำเป็นต้องให้ซูหว่านเอ๋อร์รู้ภูมิหลังของเขา!ผู้ชายที่ทั้งมีอำนาจวาสนาและร่ำรวย ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ไม่ชอบ ทั้งเซวียลี่ลี่และซูหว่านเอ๋อร์ก็เช่นกันหลังจากฟู่ตงฮุยดื่มไปเล็กน้อย เขาก็หาข้ออ้างเพื่อที่จะออกจากห้องส่วนตัวเซวียลี่ลี่ต้องออกไปตามเขา"ที่รัก คิดไม่ถึงว่าซูหว่านเอ๋อร์คนนี้กล้ามองข้ามความหวังดีของเรา หลินเซียวนี่ไอ้ขยะ ยังพูดจาบจ้วงเรา คุณรีบจัดการพวกเขาเถอะ ไม่งั้นพวกเขาจะคิดว่าเราโดนรังแกได้ง่ายนะ” เซวียลี่ลี่คอยปลุกปั่นอยู่ข้างๆ กลัวว่าจะไม่สามารถสร้างความวุ่นวาย “แน่นอนว่าผมจะไม่ปล่อยให้พวกเขาไปง่ายๆแน่ และตอนนี้ผมก็กำลังจะออกไปเรียกคน” ฟู่ตงฮุยพูดอย่างใจจดใจจ่อ"โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซูหว่านเอ๋อร์คนนั้น ชอบทำตัวดัดจริต คุณต้องรีบหาคนที่จะทำให้เธอเสียหน้า ให้เธอไม่กล้าเจอใครอีกในอนาคต" เซวียลี่ลี่สังเกตเห็นวดวงตาของฟู่ตงฮุยเมื่อกี้ ตอนนี้เธอรอไม่ไหวแล้วที่จะทำให้ซูหว่านเอ๋อร์หน้าเสียโฉม"ผมรู้" ฟู่ตงฮุยพูดพลางโทรศัพท์ไปด้วยในห้องส่วนตัว"เมื่อตะกี้นี้ สามีของหว่าน
คำพูดของหลินเซียวสะกิดเพื่อนร่วมชั้นโดยเฉพาะผู้ชาย ในที่สุดพวกเขาก็เห็นเทพธิดาในใจของพวกเขาอีกครั้ง แต่ยังอยู่ได้เพียงไม่กี่นาทีก็ต้องจากไป พวกเขาก็รู้สึกเสียดายจริงๆยิ่งกว่านั้นพวกเขาเป็นเพียงคาดเดาเกี่ยวกับพฤติกรรมของฟู่ตงฮุยแม้แต่หลินเซียวก็ไม่ตื่นตระหนก พวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรมากเมื่อเซวียลี่ลี่กำลังจะกลับไปที่ห้องส่วนตัว เธอปะทะหน้าของผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยแซ่บมากเดิมทีเซวียลี่ลี่ก็รู้สึกโกรธอยู่แล้วเพราะงานเลี้ยงนี้ ตอนนี้เธอมีเส้นสายอย่างฟู่ตงฮุย และไม่เกรงกลัวฟ้าดิน ดังนั้นเธอจึงพาลใส่ผู้หญิงคนนี้"เพี๊ยะ" เซวียลี่ลี่ยกมือขึ้นตบหน้าผู้หญิงหนึ่งทีแล้วพูดอย่างดุเดือดว่า "เธอตาบอดหรือไง?"เพี๊ยะ!" เสียงในแบบเดียวกันดังขึ้น ผู้หญิงคนนั้นไม่ลังเลเลยที่จะตบกลับมา "ฉันว่าเธออยากตายแล้วใช่ไหม! ถึงกล้ามาตบฉัน!"เซวียลี่ลี่คิดไม่ถึงว่าเธอจะตบกลับมา คิดได้ดังนั้นเธอจึงโกรธจนเเทบจะระเบิด แล้วทั้งสองก็คว้าจับตบตีกันพวกเธอทั้งสองคนเป็นเหมือนหญิงปากร้าย ตบตีกันโดยไม่มีที่สิ้นสุดเมื่อฟู่ตงฮุยที่คุยโทรศัพท์อยู่แล้วหันมาเห็นสิ่งนี้ เขาก็รีบวิ่งเข้าไปช่วย"กล้าแตะต้องกับผู้หญิงของผม ด