"นอนไม่หลับเหรอครับ" พอเธออาบน้ำมาแล้วก็นอนดิ้นพลิกไปมา จนคนที่กำลังจะหลับสะดุ้งตื่น"เปล่าค่ะ" หญิงสาวตอบออกไปด้วยน้ำเสียงที่กระด้างมากเขาคิดว่าเธอคงจะเจ็บตรงที่ถูกกระแทกก็เลยพลอยทำให้นอนไม่หลับ เพราะฟังดูจากน้ำเสียงก็พอจะรู้ชายหนุ่มตัดสินใจไม่กอดแล้วนอนหันหลังให้ดีกว่า เผื่อว่าเธอจะอารมณ์ดีขึ้นบ้างเช้าวันต่อมา..เมื่อคืนนี้กว่ามายมิ้นท์จะหลับได้ เพราะเธอยังค้างเติ่งอยู่บนยอดดอยแบบนั้น ส่วนคนที่ปลุกเร้าอารมณ์ของเธอกลับนอนหลับแบบไม่รู้เรื่อง"คุณจะไปไหน"ไต้ฝุ่นกำลังจะลงไปข้างล่าง เห็นว่าเธอนอนหลับอยู่ก็เลยไม่กวน"กลับบ้าน""คุณยังลงไปตอนนี้ไม่ได้ คุณพ่ออยู่ข้างล่าง""แต่ผมต้องได้รีบกลับบ้านก่อน""คุณใส่ชุดเดิมไปเรียนไม่ได้เหรอ" เพราะกว่าจะถึงเวลาไปเรียนพ่อของเธอคงออกไปทำงานแล้วเรื่องชุดไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับไต้ฝุ่นเลย แต่ที่เขาต้องรีบกลับบ้าน เพราะอยากจะไปดูว่าตอนนี้พ่อกลับมาจากต่างประเทศหรือยังไต้ฝุ่นต้องเล่าเรื่องนี้ให้พ่อฟังก่อนที่พ่อจะได้ยินจากปากของคนอื่นแต่พอหันกลับมามอง..ดูเธอมีเรื่องเป็นกังวล ก็เลยตัดสินใจยังไม่ลงไปตอนนี้ ชายหนุ่มเดินกลับมานั่งลงข้างหญิงสาวที่เพิ่งจะลุกข
"ถ้างั้นผมขอเอารถไปคืนให้เธอก่อน" เพราะว่าตอนนี้รถของมายมิ้นท์ยังอยู่กับเขาที่จริงรถของไต้ฝุ่นก็ซ่อมเสร็จแล้ว แต่ที่เขายังไม่ให้เอารถมาส่งก็เพราะว่า อยากจะมีข้ออ้างเพื่อที่จะไปส่งเธอ และก็ค้างที่บ้านของเธอเลยขับรถมาจอดที่หน้าคณะ ก็เจอมายมิ้นท์เดินออกมาพอดี"วันนี้ผมไม่ได้ไปส่งที่บ้านนะ" ชายหนุ่มยื่นกุญแจรถวางใส่มือให้"ค่ะ" หญิงสาวรับมันมา ด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย เพราะวันนี้อุตส่าห์วางแผนไว้แล้วว่า พอไปถึงที่บ้านจะให้เขาขึ้นไปหลบอยู่ในห้องเหมือนเดิม เพราะเธอต้องหาโอกาสคุยกับพ่อให้ได้ก่อน ..เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ จะได้ไม่ต้องโกหกพ่อ หญิงสาวได้แต่ยืนมองตามท้ายรถของเขาไปบ้านอัครไพศาล"แกรู้เรื่องนี้หรือยัง" ราชสีห์รีบกลับบ้านมาเพื่อที่จะคุยเรื่องนี้กับลูกชายโดยเฉพาะ"ครับ" ไม่ต้องดูสิ่งที่พ่อยื่นมาเขาก็รู้แล้ว ว่ามันคืออะไร"มันคือความจริงใช่ไหม?!""ครับ.. แต่พ่อครับเรื่องนั้น..""หยุด!""คุณใจเย็นก่อนสิคะฟังลูกก่อน""ต้องฟังอะไรอีก""เธอไม่ได้ตั้งใจนะครับพ่อ""ไม่ได้ตั้งใจ??..แต่จงใจเลยล่ะ!!" ทำไมเขาถึงจะดูไม่ออก และราชสีห์ก็เกลียดคนพวกนี้มาก พวกที่ชอบแบล็คเมล์คนอื่น เพื่อ
"มีอะไรกัน" มีคนไปส่งข่าวให้ไต้ฝุ่นรู้เหมือนกัน..เขาก็เลยรีบมาที่โรงอาหาร"ไต้ฝุ่นคะ รุ่นน้องคนนี้อยู่ดีๆ ก็มาตบหน้าสุ""ทำไมต้องใช้อารมณ์" เขาพูดพร้อมกับมองไปรอบๆ ตอนนี้คนที่อยู่ในนั้นนับร้อยชีวิตได้ เพราะมันเป็นโรงอาหารใหญ่ของทางมหาวิทยาลัย"ขอโทษค่ะที่ฉันใช้อารมณ์กับผู้หญิงของคุณ" มายมิ้นท์วิ่งออกจากโรงอาหารนั้นทันทีที่พูดจบ เธอยอมรับว่าดีใจมากที่เห็นเขาเดินเข้ามา แต่พอได้ยินคำพูด ไม่รู้ว่าความน้อยใจมันมาจากไหน"มายรอก่อน" เพื่อนๆ ก็รีบวิ่งตามออกไปด้วย"ฝุ่นคะ สุดีใจจังเลยที่ฝุ่น..""เราขอคุยด้วยหน่อย" สุชาดายังพูดไม่จบประโยคเลยด้วยซ้ำไต้ฝุ่นก็พูดสวนขึ้นก่อน"ดะ..ได้สิคะ" เห็นสีหน้าของเขาก็รู้สึกหวาดหวั่น แต่ยังดีกว่าที่เขาจะไม่พูดด้วยเลย สุชาดารีบเดินตามไต้ฝุ่นออกมาจากโรงอาหาร"สุรู้เรื่องที่เกิดขึ้นไหม" ชายหนุ่มหมายถึงเรื่องที่ ถูกแชร์ตามโซเชียล คนแรกที่เขาคิดขึ้นมาได้ก็คือสุชาดา"เรื่องอะไรคะ""ก็เรื่องที่มันกำลังเป็นข่าวอยู่"โรงแรมพ่อของมายมิ้นท์"คุณทศกัณฐ์ มีอีเมลมาบอกว่า.. เออ" ผู้จัดการถึงกับไม่กล้าพูดต่อ เพราะวันนี้มีหลายเรื่องที่นำเข้ามากวนใจท่านประธาน"พูดมาเถอะ""ตอนนี
"ทำไมต้องพาฉันมาที่แบบนี้ด้วย" เมื่อผิวกายของหญิงสาวสัมผัสถูกที่นอน เธอก็ได้เอ่ยปากถาม เพราะแทนที่เขาจะพากลับบ้านแต่ทำไมต้องแวะที่แบบนี้"คิดถึง" คำเดียวที่ออกมาจากปากไม่ต้องได้อธิบายอะไรอีกแล้วชายหนุ่มแนบริมฝีปากลงตามผิวนวลละมุนของหญิงสาว พร้อมกับสูดดมเข้าไปในปอด เขาทำให้เธอรู้ว่าเขาคิดถึงเธอมากแค่ไหน ..แต่ถ้าพากลับไปส่งเขาคงไม่ได้ทำแบบนี้ แม้แต่บ้านของเธอเขาจะเข้าไปได้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย"อือ" ใบหน้างามตามริมฝีปากหนาไปแบบออดอ้อน เพราะไม่ใช่แค่เขาที่คิดถึง เธอก็คิดถึงไม่ต่างกันชายหนุ่มแนบจูบลงที่ริมฝีปากบางทันทีที่รู้ว่าเธอก็ต้องการ ทั้งสองจูบกันแบบดูดดื่ม ยิ่งตอนนี้ในร่างกายของเธอ แอลกอฮอล์กำลังปลุกเร้าอารมณ์ โดยที่เขาไม่ต้องทำอะไรมากเสื้อผ้าของทั้งสองถูกกำจัดออกไปอย่างรวดเร็ว ด้วยความยินยอมพร้อมใจ"อ๊อยย" ชายหนุ่มส่งแก่นกายเข้าไปในร่องคับแคบทันทีที่เช็คดูแล้วว่าในร่องนั้นมันพร้อมมาก เธอคงต้องการเขาไม่ต่างกัน เพราะในนั้นมีน้ำหล่อลื่นเจือปนออกมาให้สัมผัสได้"อ้าาา คิดถึงมากเลยรู้ไหม" ไต้ฝุ่นคิดว่าจะคุยกับเธอหลังจากที่จัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว แต่พอเห็นเธอใกล้ๆ เขาก็ไม่สามารถที่จะอ
"ฉันอยากจะขอคุยกับคุณเรื่องพ่อ.. แต่ถ้าคุณยังไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะคะ""ว่าง..ผมว่าง" ถึงแม้เธอจะไม่มีท่าทีอะไรออกมาให้เห็น แต่เขารู้ดีว่าภาพเมื่อสักครู่มันต้องทำให้เธอเข้าใจผิดแน่"ถ้างั้นฉันขอคุยตรงนี้เลยแล้วกัน คุณจะได้ไม่เสียเวลา""ไม่ได้เสียเวลาเลย ผมมีเวลาให้คุณเสมอ" ในขณะที่พูดดวงตาคมไม่ละไปจากใบหน้าของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเขาเลย "เราไปทานข้าวแล้วคุยกันด้วยดีกว่า" จบคำพูดไต้ฝุ่นก็จูงแขนเธอให้เดินตามลงมาข้างล่าง ในใจของเขาก็นึกหวั่นเรื่องที่เธอเพิ่งจะเห็นไป"ดูนั่นสิสุ" เพื่อนสุชาดากระซิบบอก ในขณะที่เห็นไต้ฝุ่นพาภรรยาของเขาเดินไปทางลานจอดรถ"ฉันอยากให้มันตาย""แกว่าอะไรนะ""เปล่าไม่มีอะไรหรอก" สุชาดาฝันไว้สูงมากว่าจะได้เป็นลูกสะใภ้ของเจ้าของสายการบินยักษ์ใหญ่ เธอยอมทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้เข้าใกล้ไต้ฝุ่นให้มากที่สุด ถ้ารู้ว่ารุ่นน้องคนนั้นจะเล่นสกปรกโดยการมอมยา..สุชาดาคงทำแบบนั้นไปก่อนแล้ว เผื่อว่าไต้ฝุ่นจะรับผิดชอบเธอเหมือนรับผิดชอบมายมิ้นท์[ร้านอาหาร]วันนี้เขาเลือกร้านใหม่ที่ไม่เคยพาเธอมา ถ้าไปร้านนั้นเดี๋ยวเด็กเสิร์ฟก็ทักอีก"ฉันพูดได้เลยไหมคะ" ถึงแม้จะน้อยใจมาก แต่เธอก็ต้องพู
"คุณจะพาฉันไปที่ไหน" หญิงสาวนั่งรถมาพักใหญ่แต่ก็ไม่ถึงสักที"บอกแล้วไงว่าจะไปที่ที่มีเราแค่สองคน""ดาวอังคารหรือไง""ดาวอังคารก็ดีนะ""คนบ้า! กลับรถเดี๋ยวนี้เลยนะ""นอนพักผ่อนเถอะน่าา กว่าจะถึงอีกไกล""คุณไต้ฝุ่น อย่ามาทำเป็นเล่นนะคะ ฉันออกมาไม่ได้บอกพ่อกับแม่""ผมก็ไม่ได้บอกใครเหมือนกัน ปล่อยให้พวกท่านหัวหมุนกันไปบ้าง""คุณหมายความว่ายังไง""ในเมื่อขอกันดีๆ แล้วไม่ให้ ถ้างั้นก็ปล่อยให้หัวหมุนกันไปเองเลย"มายมิ้นท์ไม่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร แต่ดูเหมือนเขาไม่ค่อยสบายใจ คงเพราะเรื่องที่เธอขอร้องไว้ หญิงสาวก็เลยเงียบ เพราะยังไงเขาก็ได้ชื่อว่าเป็นสามีหลายชั่วโมงผ่านไป.."สวยจังเลยค่ะ" สายตางามมองทอดออกไปในทะเลกว้าง เขาพาเธอมาจอดอยู่มุมใดมุมหนึ่ง แล้วก็มองวิวทิวทัศน์ที่อยู่ด้านหน้า"หนาวไหม" มือหนายื่นไปกอดรัดหญิงสาวจากทางด้านหลังไว้ เพื่อที่จะมอง ไปข้างหน้าด้วยกัน"ไม่หนาวค่ะ" ถึงแม้อากาศจะเย็นแต่ความรู้สึกของเธอตอนนี้อบอุ่นมาก เขาทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร"เดี๋ยวอีกสักหน่อยเราไปหาที่พักกัน" เพราะตอนนี้มันก็ใกล้จะสว่างแล้ว"หาที่พักงั้นเหรอคะ เราจะไม่กลับเหรอ""ไม่""คุณจะบ้าเหรอ เรายังเรียนอยู่เ
[บ้านปรัชญานนท์]"ฉันว่าจะติดต่อไปหาคุณอยู่พอดีเลยค่ะ" พิมลรีบเดินออกมาต้อนรับเมื่อเห็นว่าเป็นใครที่มาเยือน"อย่าบอกนะครับว่า..?" แค่นี้ราชสีห์ก็พอจะเดาออกแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น และคงจะเป็นฝีมือของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเขาอีกนั่นแหละ"ฉันคิดว่าลูกสาวของฉันไปมหาวิทยาลัย แต่พอเช็คอีกที แกหนีออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้วค่ะ" "คุณไม่ต้องเป็นกังวลมากหรอกครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง""ฝากด้วยนะคะ" ตอนนี้นางไม่กล้าบอกให้สามีรู้เลยว่าลูกหายไป เพราะสามีออกไปทำงานตั้งแต่เช้าก็เลยยังไม่รู้เรื่องนี้ราชสีห์ออกมาจากบ้านของอิทธิแล้วก็โทรหาใครบางคน เพื่อที่จะให้ตามหาลูกชาย ..เขาอยากรู้ว่าตอนนี้ไต้ฝุ่นอยู่ที่ไหน เพียงไม่นานคนนั้นก็โทรกลับมา"ทำอะไรเป็นเด็กๆ ไปได้" แค่งานก็วุ่นพออยู่แล้วยังต้องมาจัดการกับเด็กหัวดื้ออีก"ไปไหนต่อครับท่าน""กลับบริษัท""แล้วท่านไม่ตามคุณหนูเหรอครับ""ปล่อยให้มันพาเมียไปฮันนีมูนแล้วเถอะ"วันต่อมา.."เป็นอะไร""ป่านนี้พ่อกับแม่คงจะเป็นห่วง" หญิงสาวซึ่งอยู่ในอ้อมกอดเป็นกระวนกระวายใจ จนคนที่เป็นเจ้าของวงแขนนั้นสัมผัสได้"ไม่ต้องเป็นห่วงมากหรอก" ไต้ฝุ่นตอบผู้เป็นภรรยา ทั้งๆ
[บ้านปรัชญานนท์ ]"สวัสดีครับ" ชายหนุ่มไหว้บุพการีของเธอก่อนเป็นอันดับแรก เมื่อเห็นพวกท่านเดินออกมาพร้อมกันทั้งสอง"อืม" มันคือเสียงรับไหว้ของอิทธิพอไต้ฝุ่นได้ยินถึงกับเสียวสันหลัง แต่ก่อนเขาก็ทำปฏิกิริยาแบบนี้..แบบไม่สนใจ เพราะตอนนั้นเขายังไม่มีใจให้กับลูกสาวของท่าน..หรือจะเรียกว่าเกลียดเลยก็ว่าได้"พ่อคะ" มายมิ้นท์ตรงเข้าไปกอดผู้เป็นพ่อ น้ำตาเธอหลั่งไหลออกมา โดยที่กลั้นไม่อยู่ เพราะรู้ดีว่าตัวเองทำผิด"ร้องไห้ทำไม" พ่อยื่นมือไปซับน้ำตาให้ลูกสาวที่อยู่ในอ้อมกอดแบบทะนุถนอม"มายขอโทษค่ะพ่อ"พอเห็นน้ำตาของเธอ เขาถึงคิดได้ว่าตัวเองทำอะไรลงไปบ้าง เขาไม่อยากให้เธอมีน้ำตา เพราะเห็นแล้วมันทรมานหัวใจ"คือว่าผม..เออ" แต่ก็ดีเท่าไรแล้วที่พ่อของเธอไม่เอาปืนออกมาด้วยถ้าไม่งั้นมีหวังได้ตายแน่"จะมายืนคุยอะไรกันอยู่ตรงนี้ เข้าไปข้างใน""ขะ..ครับ?!" เกินความคาดหมาย ทีแรกคิดว่าจะถูกไล่ตะเพิดออกจากบ้านแทบไม่ทัน แต่นี่ท่านบอกให้เข้าไปคุยกันข้างใน คนร่างหนาไม่รอให้ท่านเชิญเป็นครั้งที่สอง เขารีบก้าวเดินตามเข้าไป"ผมขอโทษครับที่พาเธอไปโดยไม่ได้บอกกล่าว" พอเข้าไปถึงด้านใน ชายหนุ่มที่ตัวสูงโปร่งทิ้งกายลงคุ
[มหาวิทยาลัย]"จะไปไหน" พอเข้ามาถึงห้องเรียน หนามเตยก็เดินตรงไปที่โต๊ะเรียนเดิม โต๊ะที่ขอแลกกับกล้าหาญ"ก็ไปที่นั่งไง""มานั่งด้วยกันตรงนี้""จะบ้าเหรอนั่นมันที่ของกล้าหาญ""เดี๋ยวให้มันไปนั่งข้างหลัง""ไม่เอาเปลี่ยนมาครั้งหนึ่งแล้วจะเปลี่ยนกลับได้ยังไง" ว่าแล้วหญิงสาวก็เดินไปนั่งที่เดิม ..เพียงไม่นานอาจารย์ก็เดินเข้ามาในห้องในขณะที่นั่งเรียนอยู่เจ้าขุนก็มองกลับหลังบ่อยครั้งมาก"มึงเป็นอะไรนักหนาวะ" กล้าหาญซึ่งนั่งอยู่ด้านข้างก็ไม่เป็นอันเรียนไปด้วย พอเพื่อนมองกลับหลัง เขาก็ต้องได้มองตามแบบสงสัยว่าเพื่อนมองอะไร พอรู้แล้ว..แต่เวลาที่เจ้าขุนมองกลับไปอีกที เขาก็ต้องมองตามอีก..เพราะมันเป็นสัญชาตญาณ"กูว่ามึงย้ายเถอะว่ะ""ย้ายไม่ได้เดี๋ยวเมียด่า" ชายหนุ่มกระซิบพูดกับเพื่อนเบาๆ"มึงกลัวด้วยเหรอวะ""ใครบอกว่ากูกลัว..กูแค่เกรงใจ""นั่นแหละที่เขาเรียกว่ากลัว""มึงไม่เคยมีเมียมึงจะรู้ได้ยังไง""ด้านหลังช่วยสนใจอาจารย์หน่อยนะคะ" เพียงไม่นานอาจารย์ก็ส่งเสียงมา และเพื่อนๆ ที่นั่งอยู่ด้านหน้าต่างก็หันกลับมามองที่เจ้าขุนเป็นห่วงเพราะคนที่นั่งอยู่ข้างหนามเตยเป็นเพื่อนผู้ชาย"ไปไหนแล้ว""หาอะไร""ปา
คืนเดียวกันนั้น.."ไปอาบน้ำกัน" พอขึ้นมาถึงด้านบน เขาก็ชวนเธอ"จะอาบก็ไปอาบเองสิ""แน่ใจนะว่าลูกจะไม่คิดถึงพ่อ" ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จริงด้วยถ้าเขากลับห้องไปมีหวังเราต้องได้ไปคุยกับชักโครกอีกแน่เลย หญิงสาวลืมไป เพราะวันนี้ไม่คลื่นไส้มาทั้งวัน จนถึงเวลานี้ก็มืดค่ำมากแล้ว"ไปด้วยกัน" มือหนาคว้าเอาคนตัวเล็กให้เดินตามมาที่ห้องของตัวเอง"ฉันไม่อาบกับคุณนะ" หญิงสาวพยายามจะหยุดไม่เดินตาม"ไม่อาบก็ไม่อาบ แต่ไปด้วยกัน" เขาไม่อยากจะปล่อยให้เธออยู่ห้องคนเดียว "รออยู่ตรงนี้" ชายหนุ่มเข้าไปอาบน้ำโดยไม่ปิดประตูห้องน้ำ ส่วนเธอก็ยืนหันหลังให้ ไม่กล้าหันไปมองเราต้องทำแบบนี้อีกนานแค่ไหนเนี่ย..ลูกนะลูก หญิงสาวบ่นพึมพำที่ต้องได้มายืนเฝ้าเขาอาบน้ำอยู่แบบนี้ตุ๊บ.."อะไร" คนตัวเล็กรีบหันเข้าไปดู เพราะได้ยินเสียง ทีแรกคิดว่าเป็นเสียงเขาล้ม แต่พอหันเข้าไปแล้วเธอต้องได้รีบหันกลับออกมาพร้อมกับใบหน้าที่แดงกล่ำ"ตกใจเหรอ มือผมไปถูกฝาชักโครก" ตอนที่เขากำลังเช็ดตัวอยู่นั้น มือได้ไปโดนฝาชักโครกที่เปิดอยู่มันก็เลยปิดลงมีเสียงดัง"อาบเสร็จหรือยัง""จะอายทำไมผมยังไม่อายเลย" เขารู้ดีว่าเธอคงจะอายตอนที่หันม
สายตาของทั้งสองจ้องมองซึ่งกันและกัน แบบไม่มีใครยอมหลบให้ใคร"ผมเห็นเจ้าของไม่ต้องการมันอีกแล้ว ก็เลยเก็บมันเอาไว้" เขาพูดในขณะที่ยังมองสบตาเธออยู่"คุณต่างหากที่ไม่ต้องการ" คำพูดนี้ มันได้ออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน ของเจ้าของใบหน้าหวาน กว่าเธอจะตัดสินใจทิ้งมันได้ เพราะมันอยู่กับเธอมาตลอดระยะเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ"ผมขอโทษ ผมมันโง่เอง มีสมองแต่ไม่คิดไตร่ตรองให้ดี ว่าทำไมคุณถึงหายไปในวันนั้น""คุณยังรอฉันอยู่เหรอคะ""รอสิ ไม่ได้รอแค่วันนั้นนะ รอจนย้ายโรงเรียน ขนาดย้ายโรงเรียนแล้วผมยังให้คนขับรถพากลับมาเผื่อว่าคุณยังอยู่ที่เดิม" วันไหนที่มีแต่แม่บ้านและคนขับรถมารับ เขาชอบให้ผ่านไปทางโรงเรียนเดิม จอดรอดูว่าเธอจะออกมาจากในนั้นไหม..แต่ก็ไม่มี"วันนั้นพ่อกับแม่ของฉัน..ท่านทั้งสอง.." คำพูดของเธอมันถูกกลืนหายเข้าไป พร้อมกับเสียงสะอื้น"ผมรู้แล้ว..ถ้าผมรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับคุณบ้าง และตอนนั้นคุณอยู่ที่ไหนผมจะตามไป" ถ้าเขารู้สักนิดว่าเธอไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เขาจะไม่รีรอที่จะตามไปเลย"คุณไม่รู้เหรอคะว่าคุณตา.." ตอนนั้นเธอยังเด็กมาก ทำอะไรไม่ถูก อยากจะพูดอยากจะถามหาเขา แต่ก็ไม่รู้จะเริ่ม
"กลับมาแล้วเหรอลูก" เจ้าขาถามขึ้นเมื่อเห็นลูกชายเข้ามา"ครับ""มันจะรีบไปไหน แล้วมันมาจากไหน" ทศกัณฐ์ได้แต่มองตามหลังคนที่วิ่งขึ้นไปบนบ้าน แทบจะไม่รู้ว่าคนที่เข้ามาเป็นลูกชายของตัวเอง เพราะมองไม่ทัน"วันนี้วันเกิดของกล้าหาญค่ะ" เจ้าขาพูดพร้อมกับเอานมอุ่นๆ มาให้สามีได้ทาน เพราะเขาเพิ่งกลับมาจากที่ทำงาน"วันเกิดกล้าหาญ?" พอรู้ว่าวันเกิดเพื่อนสนิทของลูกชาย ทศกัณฐ์ก็ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู สองทุ่มกว่า?" ธรรมดาวันเกิดเพื่อน ถ้าไม่เช้าก็คงจะเป็นเย็นวันต่อไปถึงจะเห็นหน้าลูกชายโผล่กลับบ้าน"เห็นหนามขอเบอร์โทรไป สงสัยจะโทรตามมั้งคะ""โทรตามงั้นเหรอ?" มันยิ่งสร้างความงุนงงให้กับทศกัณฐ์ เพราะทั้งสองไม่มีทีท่าว่าจะเป็นมิตรกันเลยแกร่ก~ กลับมาถึงชายหนุ่มก็ตรงเข้าห้องของเธอ"หนาม" มองดูบนเตียงนอนไม่มี เขาก็เลยรีบเข้าไปดูในห้องน้ำ "เป็นยังไงบ้าง"พอเห็นเขาเข้ามาอาการคลื่นไส้เวียนหัวก็หายไปสิ้น หญิงสาวลุกขึ้นแบบหน้าบูดบึ้ง ไม่พูดไม่จาแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ"...?..." ชายหนุ่มงงกับท่าทาง..เนี่ยเหรอคนที่โทรตามเขากลับบ้าน อุตส่าห์ดีใจว่าเธอโทรหา แต่พอกลับมาหน้าตาของเธอไม่รับแขกเลยจะให้ยิ้มระรื่นได้ยังไง
เขานั่งเป็นเพื่อนเธออยู่แบบนั้นจนคิดว่าเธอนอนหลับสนิทแล้ว ถึงออกมาจากห้องเพื่อไปอาบน้ำออกไปอาบน้ำยังไม่เสร็จก็ได้ยินเสียงคนข้างห้องอาเจียน ชายหนุ่มรีบล้างตัว แล้วออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่พันรอบท่อนล่างอยู่"ผมนึกว่าคุณหลับไปแล้ว" เขารีบเดินเข้าไปลูบหลังให้ "ออกหมดเลยเหรอ" ชายหนุ่มมองลงไปดูในชักโครก..อาหารที่เธอกินเข้าไปเมื่อตอนเย็นออกไปหมดเลย"คุณจะมองอะไรสกปรกจะตาย" หญิงสาวรีบกดน้ำให้ไหลลง"ไปที่เตียงดีกว่า" มือหนาโอบร่างบางให้เดินตามมาที่เตียง ถ้าเป็นเมื่อหลายชั่วโมงก่อนเธอคงจะไล่ตะเพิดเขาไปแล้ว แต่นี่..รู้แล้วว่าทำไมเวลาเขาอยู่ใกล้อาการพวกนั้นมันถึงหายไปใบหน้างามมองต่ำลงไปที่ท้องของตัวเอง ไอ้ตัวเล็กต้องแผลงฤทธิ์แน่"นอนก่อนนะเดี๋ยวผมขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้า" จังหวะที่เขากำลังจะออกจากห้อง มือเรียวรีบคว้าแขนของเขาไว้"คุณจะกลับเข้ามาอีกไหม" หญิงสาวถามไปโดยที่ไม่ได้เงยหน้ามองใบหน้าหล่อคมยกยิ้มขึ้นเมื่อได้ยินคำถาม "มาสิ" ว่าแล้วเขาก็รีบออกจากห้องไปก่อนที่เธอจะเปลี่ยนใจไปไม่ถึงห้านาทีก็รีบกลับเข้ามา แต่ตอนนี้เธออยู่ในห้องน้ำ"หนาม"พอเห็นเขากลับมาเธอก็ออกจากห้องน้ำ ..หึ!!
ตุ๊บ!! เสียงเจ้าขุนถีบเก้าอี้ออกจากตรงที่กีดขวาง"เมื่อกี้เธอว่าอะไร" แล้วเขาก็เดินตรงเข้าไปหายี่หวา เพราะเมื่อสักครู่ที่ยี่หวาพูดแล้วเดินเข้ามาในห้องเขาได้ยินชัดเจน"เราพูดถึงเรื่องละครที่ดูกับแม่เมื่อคืนนี้" ยี่หวาหน้าเปลี่ยนสีเมื่อเห็นว่าเจ้าขุนเอาจริงสายตาคมจ้องมองแบบเอาเรื่อง จนเพื่อนในห้องรีบเข้ามาช่วยกันขวางไว้"ไม่เอาน่า ผู้หญิงนะ" กล้าหาญก็เข้ามาช่วยพูด ถึงแม้ยี่หวาจะแก้ตัวไปแต่ทุกคนที่อยู่ในห้องก็ได้ยินหมด..ที่เธอพูดว่าหนามเตยสำส่อน"ผู้หญิงแล้วไง สักแต่มีปากจะพูด" จบคำพูดเจ้าขุนก็ถีบเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้างจนลมกระจายส่วนยี่หวา..ตอนนี้ถอยออกไปจนจะชนผนังห้อง ..ถ้าคนที่พูดเป็นผู้ชายสงสัยฟันคงได้ร่วงออกจากปาก แต่เจ้าขุนก็ยังไม่สงบ ดวงตาของเขายังจ้องมองพร้อมกับขาที่ก้าวเดินเข้าไป"พอแล้ว" หนามเตยเป็นคนพูดขึ้น..เขาถึงได้หยุดที่หยุดเพราะได้ยินเสียงคนห้ามเหมือนจะร้องไห้"หนาม" เจ้าขุนเดินกลับเข้ามาหาเธอส่วนพวกเพื่อนๆ กำลังเก็บสิ่งที่เขาทำกระจัดกระจายไว้หนามเตยไม่มองหน้าเจ้าขุนเลยด้วยซ้ำ เธอนั่งลงที่เก้าอี้ของตัวเอง จากที่คิดว่าจะเข้มแข็ง เพราะคนรอสมน้ำหน้าก็มีมาก แต่ตอนนี้มันเข้
ก๊อก ก๊อก หลังจากที่เจ้าขุนออกจากห้องไปได้เพียงไม่นาน ก็ได้ยินเสียงคนมาเคาะประตูเรียกที่หน้าห้องหญิงสาวเงียบฟังว่าเป็นใครที่มาเคาะ"หนามจ๊ะ""คะ" หนามเตยรีบมาเปิดประตู"แม่ทำข้าวต้มร้อนๆ ขึ้นมาให้จะได้มีอะไรรองท้องก่อนนอนบ้าง" เมื่อประตูเปิดออกนางก็ได้ถือข้าวต้มเดินเข้าไปในห้อง"คุณแม่ไม่ต้องลำบากก็ได้ค่ะ หนามยังไม่หิว""ไม่หิวก็ต้องกิน" เจ้าขาดูแล้วเธอคงจะยังไม่ทานข้าวเย็น และตอนนี้มันก็ดึกมากแล้วด้วย"ขอบคุณค่ะ" หญิงสาวไหว้พร้อมกับกล่าวคำขอบคุณ จะทานได้หรือไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที เพราะตอนนี้แค่ได้กลิ่นก็ชวนให้อาเจียนแล้ว"ว่าไงครับแม่" เจ้าขุนถามขึ้นทันทีที่เห็นแม่ออกมาจากห้องนั้น เขายืนรออยู่ด้านหน้าแบบเงียบๆ แถมยังหลบด้วยเพราะกลัวเธอมองออกมาเห็น"แม่ว่าลูกก็ไปพักผ่อนได้แล้วดึกแล้วนะ"แม่ตอบผมก่อนสิครับ"จะให้แม่ตอบอะไร""เธอจะกินข้าวไหมครับ""แม่ไม่รู้""ทำไมแม่ไม่อยู่รอจนกว่าเธอจะกินล่ะครับ""ลูกก็ไปรอเองสิ" เจ้าขาแค่พูดอยากจะเห็นกิริยาของลูกชายพอแม่กลับเข้าห้อง เจ้าขุนก็เดินกลับมาที่หน้าห้องของเธอ แนบหูฟัง ว่ามีเสียงช้อนกระทบกับถ้วยไหม"อ้วกกกกก""หนาม" แต่เสียงที่ได้ยินก็คือเส
"ขอฉันไปด้วยคนนะคะ" เจ้าขารีบเดินตามสามีออกมาที่รถ"ผมว่าคุณไม่ต้องไปหรอก รอฟังข่าวอยู่ที่บ้านดีกว่า""แต่ฉันเป็นห่วงนี่คะ""ถ้างั้นก็ขึ้นรถ" ทศกัณฐ์ไม่เคยทนลูกอ้อนของภรรยาคนสวยได้สักครั้งเจ้าขาก็รีบเดินอ้อมไปขึ้นนั่งข้างสามี ส่วนตอนนี้เจ้าขุนขับรถของตัวเองออกไปตั้งแต่รู้ว่าเธอซื้อตั๋วเพื่อที่จะเดินทาง"หนามรอผมก่อนนะอย่าเพิ่งไปไหน" คันเร่งถูกเหยียบเกือบมิดไมล์ รถคันไหนที่ขวางหน้าเขาบีบแตรไล่ที่เจ้าขาตามสามีมาส่วนหนึ่งเพราะเป็นห่วงหนามเตย แต่ที่เป็นห่วงมากที่สุดก็คือลูกชายสนามบินสุวรรณภูมิชายหนุ่มมาถึงสนามบินโดยปลอดภัย เขาจอดรถได้ก็รีบวิ่งตรงเข้าไป โดยที่ทิ้งรถไว้ในที่ห้ามจอด แต่เจ้าขุนก็ไม่สนใจชายหนุ่มร่างสูงวิ่งฝ่าผู้คนที่กำลัง เดินกันให้วุ่น สายตาของเขามองไปที่ผู้โดยสารขาเข้า"เข้าไม่ได้ครับ" พนักงานด้านหน้าที่คอยตรวจเช็คตั๋วเดินทาง ไม่เห็นเขามีตั๋วติดมือมาด้วยก็เลยไม่อนุญาตให้เข้าไป"ผมแค่อยากจะเข้าไปหาคน""หาใครก็ไม่ได้ครับ""ผมต้องทำยังไงถึงจะเข้าไปได้""คุณต้องมีตั๋วเดินทางครับ"ชายหนุ่มรีบวิ่งกลับมาตรงที่ซื้อตั๋ว"เราปิดการขายไปแล้วค่ะ ไฟท์นี้เครื่องกำลังจะขึ้นค่ะ" และก็เ
ห้องพยาบาลของทางมหาวิทยาลัย"เพื่อนเราเหรอจ๊ะ" อาจารย์หมอเห็นมายมิ้นท์ก็นึกขำ เพราะจำได้แม่น"ไม่ใช่เพื่อนค่ะ รุ่นพี่ที่คณะ" หญิงสาวตอบออกไปแบบเอียงอาย เพราะหลายครั้งที่เธอได้มาใช้บริการห้องนี้อาจารย์หมอตรวจดูอาการอยู่พักหนึ่งวัดความดัน และตรวจคลื่นหัวใจ"คงเป็นเพราะความเครียดพักผ่อนไม่เพียงพอ เดี๋ยวรอให้เพื่อนฟื้นก่อนนะ" เพราะว่าตอนนี้หนามเตยยังไม่ได้สติ แต่ชีพจรของเธอก็ปกติ อาจารย์หมอก็เลยไม่เป็นห่วงเท่าไรเวลาเข้าเรียน.."รู้หรือยังว่าหนามเตยเป็นลมตอนนี้อยู่ห้องพยาบาล" เพื่อนที่รู้ข่าวเข้ามาพูดกันอยู่ในห้อง"เมื่อกี้มึงว่าอะไรนะ?!" เจ้าขุนรีบหันกลับไปมอง และตอนนี้เธอก็ยังไม่เข้ามาในห้อง ที่เขาไม่รู้เรื่องเพราะวันนี้ไม่ได้ไปทานข้าวที่โรงอาหาร"ก็น้าของมึงน่ะสิอยู่ห้องพยาบาลโน่น" ได้ยินแค่นั้นแหละ เจ้าขุนก็รีบวิ่งออกจากห้องไป ซึ่งมีกล้าหาญวิ่งตามมาติดๆ"หนาม.." พอเจ้าขุนมาถึงก็เห็นเธอนั่งอยู่บนเตียง ซึ่งมีไต้ฝุ่น และมายมิ้นท์อยู่ในห้องนั้นด้วย "เธอเป็นอะไรครับ" เจ้าขุนถามอาจารย์หมอที่นั่งอยู่โต๊ะประจำของห้องนี้ทุกคนในห้องต่างก็มองหน้ากันไปมา ไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคน ..มันยิ่งทำให้