Share

สงสัย

Author: Sanassetong
last update Last Updated: 2025-01-29 20:33:55

'นั้นพวกกินรีที่อยู่หมู่บ้านอมตะ แสดงว่าพวกเขาเข้าหมู่บ้านอมตะ แต่เหมือนพวกเขากำลังจะเดินทางมาทางวังหลวงแล้วล่ะ เดียวข้าออกไปสั่งการให้เหล่าทหารออกไปพาพวกเขากลับมา"

องค์ชายรัชทายาทเห็นทั้งสองปลอดภัยก็ดีใจไม่น้อย จึงจะรีบไปสั่งการให้คนพาสองคนนั้นกลับ

"ท่านไม่ต้องเร่งด่วนถึงเพียงนั้น หากว่าสหายของพวกข้ากำลังจะกลับมาวังหลวงแล้วก็ให้เขาเดินทางกลับมาเถอะ ท่านไปจัดการงานของท่านเถอะส่วนเหล่าทหารเหล่านั้นสมควรที่จะดูแลวังหลวงในช่วงนี้เป็นพิเศษแล้วกลุ่มของพวกข้าจะมีข้ากับท่านห่าวอู๋อวี่เพียงสองคนเท่านั้นที่จะลงประลองยุทธในครั้งนี้ ท่านจัดการให้พวกเราด้วย ข้าแนะนำให้ท่านอย่าปล่อยองค์ชายหกขึ้นประลองยุทธเลยเพราะเขายังไม่มีความพร้อมให้เขาฝึกประสบการณ์ให้มากกว่านี้ก่อนก็แล้วกัน"

จินเป่ากล่าวขึ้น ห่าวอู๋อวี่มองหน้าเขาด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย เขารู้อยู่แล้วว่ายังไงนางก็ต้องปะลองอยู่แล้ว เป็นซิงอีที่ตกตลึงขนาดว่านางพูดเกลี่ยกล่อมขนาดนั้นจินเป่ายังไม่ยอมที่จะหยุด นางก็ทำสิ่งใดไม่ได้ด้วยแต่จินเป่าเองเป็นคนรอบคอบและจดจำในหลายๆเรื่องได้เช่นเรื่องกระจกสมปรารถนานั้น เขาเองก็คิดไม่ถึงด้วยซ้ำว่ามันมีประโยชน์ขนาด
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   เริ่มประลองยุทธ

    หลังจากที่กลับจากตำหนักขององค์ชายหก องค์ชายรัชทายาทก็เข้าหาเสด็จพ่อทันทีเขาเข้าไปคุยเรื่องที่องค์ชายหกสงสัยมารดาของเขาให้ท่านประมุขฟัง เพื่อให้เขาจัดการเองเพราะเขาเองเป็นเพียงองค์ชายรัชทายาทจึงไม่มีอำนาจใดมาจัดการกับสนมของบิดาของตัวเองทั้งนั้น เพียงองค์ชายรัชทายาทกล่าวว่าหากมีสิ่งใดเกิดขึ้นกับสนมให้สนมรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวองค์ชายหกไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และเรื่องที่จะส่งองค์ชายหกไปมิติเชื่อมจิตนั้น ก็แล้วแต่ดุลพินิจของเสด็จพ่อเลยเพราะองค์ชายหกตอนนี้ร่างกายและจิตใจเขายังไม่พร้อมที่จะต่อสู้ แต่ถ้าหากฝึกวรยุทธและฝึกฝนอยู่ที่มิติแห่งนี้เป็นเวลาสักระยะหนึ่ง เขาก็คงจะเติบโตขึ้น องค์ชายรัชทายาทเข้าไปกราบทูลบิดาเพียงไม่ถึงหนึ่งก้านธูปก็ออกมา เพื่อที่จะจัดการกับรายชื่อผู้ที่เข้าประลองเขาก็เห็นรายชื่อตงหมิงแสดงว่าพวกนั้นกับวังหลวงแล้วเขาจึงใส่ชื่อตัวเองแล้วก็จินเป่าและห่าวอู๋อวี่ไป หลังจากเขากลับไปพักผ่อนได้ไม่นานก็เช้าของวันใหม่ วันนี้จะเป็นการประลองยุทธครั้งแรกที่ราชวงค์ได้เข้าร่วมซึ่งมีเพียงเขาผู้เดียว หากครั้งนี้มีการผิดพลาดอาจหมายถึงการเปลี่ยนผู้สืบทอดประมุขของมิตินี้เลยก็ว่าได้ กลุ่มของ

    Last Updated : 2025-01-30
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   การเดินทางที่น่าเบื่อ

    "มันตั้งใจที่จะให้ผู้ต่อสู้ของมันตายทุกคนเป็นแน่ จินเป่าหากเจ้าจับได้คู่ต่อสู้เป็นตรงหมิงเจ้าจงยอมแพ้เสียเถอะ"ซิงอีกล่าวขึ้น เมื่อทุกคนมาถึงที่พักแล้ว ซิงอียังทำใจไม่ได้ที่เห็นบุรุษผู้ที่ต่อสู้กับตงหมิงทั้งที่ยังไม่ได้ลงมือทำสิ่งใดเลยด้วยซ้ำ"ข้าคงไม่โชคร้ายขนาดนั้นหรอกพี่ซิงอี ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ข้าไม่แน่ใจว่าจางซินกับพี่มู๋ลี่จะมาทันก่อนที่การปะลองจะเสร็จสิ้นหรือป่าว"จินเป่ากล่าวพลางมองไปยังองค์ชายหกที่มาส่งพวกเขา เพราะหลังจากที่กลับมาจากตำหนักร้างในครั้งนั้น เขาก็มีเรื่องที่ต้องขบคิดมากมายจึงไม่ได้มาหาสหายเลยวันนี้จึงถือโอกาสมาส่งสหายเข้าเรือน"ทางเสด็จพี่รัชทายาทได้ส่งทหารไปตามหาสหายทั้งสองแล้วพวกเจ้าไม่ต้องเป็นห่วงหรอก"องค์ชายหกกล่าว"ข้าเกรงว่าหากจบการประลองยุทธในครั้งนี้แล้วกลุ่มของคนเหล่านั้นไม่พอใจผลการประลองยุทธ แล้วอาจจะกลับออกไปจากการประลองยุทธและสืบรู้ว่าสหายของพวกข้าทั้งสองยังไม่ได้กลับมายังเมืองหลวง ข้ากลัวว่าพวกเขาจะออกตามหาก่อน ไม่ใช่ว่างข้าไม่เชื่อใจในทหารของท่านแต่ท่านก็เห็นฝีมือพวกเขาไม่น้อย ครั้งที่เราปะมือก่อน ที่ทหารจะลงมือช่วยหากพวกเขามีคนมากกว่านั้นข้า

    Last Updated : 2025-01-30
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   เบี้ยของข้าไม่เสียป่าวใช้ไหม

    "ครั้งนี้เป็นรอบที่สองที่จะประลองยุทธกัน ให้ทุกคนมาจับฉลากแล้วจะได้รู้ว่าคู่ต่อสู้ของตนคือใคร"ผู้ประกาศกล่าวขึ้นและทุกคนก็เดินไปจับฉลาก ครั้งนี้จินเป่าได้หมายเลขเก้า ส่วนห่าวอู๋อวี่ได้หมายเลขที่สิบสาม ทั้งสองคนเลยได้ประลองเร็วไปหน่อย คู่ต่อสู้ของจินเป่าเป็นบุรุษที่ตัวพอๆกับห่าวอู๋อวี่ ทาทางเขาสุภาพ เขามองจินเป่าตั้งแต่เมื่อวานแล้ว สตรีที่เยี่ยมยอดในใจเขาเลย ที่แรกที่จับได้รู้ว่าได้ต่อสู้กับจินเป่าก็รู้สึกเสียใจไม่น้อย เพราเขาเองอยากให้นางได้เข้ารอบที่ลึกกว่านี้จะได้เห็นนางอีก แต่ครั้งนี้คงจะได้เห็นนางเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ครั้งนี้มีการเดิมพันกันเกิดขึ้นในการประลองสามารถเปลี่ยนเปลี่ยนข้างที่จะเดิมพันได้ตลอดจนถึงวินาทีสุดท้ายว่าใครจะชนะ จินเป่าบอกกับเพื่อนให้ลงฝั่งเขาไว้แล้ว ในการประลองนี้เขาจะแกล้งจนมุมและจะหักมุมจนเขาชนะ เพื่อที่จะได้เบี้ยมากขึ้น สหายของพวกเขาก็ทำตามครั้งองค์ชายหก รู้ว่ามีการเดิมพันจึงพาจางหยงและซิงอีไปดูการเดิมพัน ว่าความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่เป็นของใคร ระหว่างจินเป่ากับเม่าเม่า มีคนเดิมพันข้างเม่าเม่าเยอะกว่าจินเป่า ส่วนห่าวอู๋อวี่นั้นก็มีคนเดิมพันข้างเขาทุกคน ส่วนคู่

    Last Updated : 2025-02-01
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ผู้โชคดี

    ครั้งถึงตาของห่าวอู๋อวี่เขาก็พยายาต่อสู้เพียงไม่กี่กระบวนท่าเพื่อให้ศตรูมองไม่เห็นจุดด้วย ส่วนจินเป่านั้นเมื่อขึ้นเวทีทุกคนก็เห็นเพียงจุดด่อยของเขาโดยไม่รู้เลยว่าสตรีผู้นี้ ทำไมถึงเขารอบได้ น่าจะเป็นเม่าเม่าที่ยอมให้ เขาน่าจะได้เบี้ยจากนางบางคนคิดว่าเม่าเม่าหลงเสน่ห์นาง บางคนกลับคิดว่านางมีฝีมือ"เม่าเม่าจะหลงเสน่ห์ก็ตอนที่นางสวยนั้นแหละ แต่พอสู้สักพักก็ดูสภาพที่เห็นสิ ราวกับขอทานเสื้อผ้าขาดวินร่างการมีบาดแผลหลายแห่ง ถ้าเป็นนักยุทธทั้วไปก็จัดการกับตัวเองให้มีสภาพดีได้แล้วล่ะ"เสียงบาดหูดังเขามาถึงซิงอี ซิงอีก็หันกลับไปมองจินเป่าก็พบว่านางนั้นก็เป็นดังผู้อื่นว่าจริงๆ และคุณชายสี่ตระกูลห่าวอู๋ไม่คิดที่จะทำให้นางกลับมีสภาพปกติเลยหรือ ทั้งสองยื่นดูข้างเวทีตลอดผู้หนึ่งเพียงขึ้นไปบนเวทีวาดมือสีห้าครั้งก็จัดการกับคู่ต่อสู้ได้แล้ว ส่วนอีกคนต้องหลบหนีดิ้นรนถึงจะผ่านมาได้ และสภาพย่ำแย่เอามากๆ ในรอบเช้าก็เหลือนักยุทธที่เข้ารอบอยู่เพียงยี่สิบห้าคนในรอบบ่าย จะได้สู้สิบสองคู่และมีหนึ่งคนที่โชคดีที่ไม่ต้องต่อสู้กับใคร "ทั้งยี่สิบห้าคนมาจับหมายเลขกัน วันนี้จะมีผู้โชคดีเพียงหนึ่งคนที่เข้าไปรอ หนึ่งใน

    Last Updated : 2025-02-01
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   จุดอ่อน

    "กลุ่มของพวกข้าก็เป็นศัตรูกับตงหมิงที่ข้าเห็นเขาปะมืิกับเจ้านั้น ก็รู้ว่าเจ้าน่าจะมีศัตรูคนเดียวกันกับข้า ข้าไม่ได้จะให้เจ้าช่วยอะไร เพียงแค่บอกข้อมูลการต่อสู้มาเพียงเท่านั้น เพราะที่ข้าดูการต่อสู้เมื่อคู่ตงหมิงนั้นไม่มีจุดอ่อนอะไรเลย แต่เจ้าก็สามารถที่จะยืนหยัดจนให้เขาบาดเจ็บน่าจะสาหัสเลยทีเดียว แต่เขาก็อดทนอดกลั้นแล้วเขาก็ไม่สังหารเจ้าด้วย"จินเป่าพูดขึ้น"ข้าเพียงใช้สมุนไพรเพิ่มพลัง จึงยืนหยัดที่จะอยู่ได้ ส่วนที่เขาไม่สังหารข้าเพราะเขาต้องการให้พวกข้ายอมศิราลาบให้เขาเอง ส่วนจุดอ่อนอะไรนั่นค่าต่อสู้กับเขาแล้วข้าไม่พบ"คนตระกูลเหว่ยกล่าวขึ้น"ผิดแล้วล่ะคนตระกูลเหว่ย ท่านไม่สังเกตหรอกคนอื่นยังไม่ใช่ท่าต่อสู้มประชิดตัวกับเขา ท่านเกือบจะสามารถเอาชนะเขาได้ เมื่อตัวท่านออกห่างจากเขาก็เป็นเขาที่เป็นฝ่ายนำอยู่ตลอด ที่ข้าเห็นจุดอ่อนแบบนี้ข้าคิดว่าน่าจะเป็นสายตาของเขา ที่ไม่สมบูรณ์นักจึงทำให้เขาออกกระบวนท่าที่อยู่ไกลได้แม่นยำ แต่ในรัศมีของเขาที่อยู่ใกล้ตัวเองนั้นกลับมองไม่เห็น"จินเป่ากล่าวขึ้น พลางหยิบสมุนไพรรักษาเส้นลมปราณออกมา"เจ้านำไปรักษาตัวเองเถอะหากเจ้ากินสมุนไพรรักษาลมปานเม็ดนี้แล้วเ

    Last Updated : 2025-02-02
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   แพ้แล้วเพคะ

    หลังจากผู้มียุทธที่ได้ทำการประลองยุทธและผ่านเข้ารอบถึงสิบสามคน ก็ได้เวลาจับหมายเลขเพื่อที่จะประลองกันจินเป่าโชคร้ายได้หมายเลขหนึ่งซึ่งต้องประลองเป็นคนแรก เขาไม่ขออะไรมากขอเพียงหมายเลขที่สิบสามนั้นไม่ใช่ตงหมิงก็พอ เพราะพลังของเขาเพียงคนเดียวไม่สามารถจัดการบุรุษผู้นี้ได้ ส่วนห่าวอู๋อวี่เองเขาก็ได้หมายเลขเจ็ด ซึ่งเป็นเลขที่เข้ารอบไปชิงตอนบ่ายของวันนี้ เขาผ่านเข้ารอบสี่คนสุดท้ายแล้ว ตงหมิงได้หมายเลขสองต่อจากจินเป่า และองค์ชายรัชทายาทได้หมายเลขที่สามซึ่งทั้งสามไม่ได้สู้กันแน่ๆ ทางด้านซิงอีก็ร้อนใจยิ่งนัก ทำไมคุณชายห่าวอู๋อวี่ไม่หยิบหมายเลขที่สิบสามออกมา จะได้สู้กับจินเป่าแล้วให้จินเป่าแพ้ไป ตนกลัวว่าจินเป่าจะเข้าสี่คนสุดท้ายซึ่งมันอันตรายมากกว่านี้ แล้วคู่ต่อสู้ของจินเป่ารอบนี้คือหงถิงถิง สตรีอีกคนที่อยู่ในเจ็ดคนสุดท้าย ท่าทางของนางคือหญิงยโสเอามากๆ หางตาเชิดขึ้นดั่งผู้ที่มีความคิดร้ายอยู่ตลอดเวลา มองแล้วไม่อ่อนหวานเอาเสียเลย น่ากลัวยิ่งนักซิงอีก็อยากให้จินเป่ายอมแพ้ "คู่แลกของวันนี้เป็นสตรีจากมิติล่างหนึ่งท่าน และสตรีที่ครั้งที่แล้วเข้าได้ลำดับที่สี่ของการประลองยุทธในครั้งล่าสุดด้วย 555

    Last Updated : 2025-02-02
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ข้าไม่เคยแพ้

    องค์ชายรัชทายาทถูกประคองออกจากสนามประลองก็ไม่ได้กลับเข้าวังทันที เพราะเขาเองตั้งใจที่จะดูการประลองยุทธของตงหมิงกับห่าวอู๋อวี่ ครั้งนี้เขาน่าจะปล่อยท่าไม้ตายออกมาไม่น้อย เพียงแค่เขาไม่ได้วางข่ายอาคมของรอบๆสนามไว้ หากว่าจวนตัวเข้าจริงๆห่าวอู๋อวี่จะต้องพุ่งออกมาจากสนามทุกอย่างก็ถือว่าจบแล้วครั้งต่อไปเขาก็จะขึ้นประลองกับตรงหมิงก่อน เขาจึงต้องการดูเป็นพิเศษ แต่การต่อสู้กับจินเป่าตอนนั้นเขารับมือกับนางไม่ได้สักกระบวนท่า แค่สภาพภายนอกของเขากระเซอะกระเซิงขนาดนี้ ก็ถือว่าน้อยมากแล้ว แล้วถ้าให้ต่อสู้กับตงหมิงเขาจะสู้ได้หรือไม่ก็ยังไม่รู้"เป็นสตรีนางนั่นน่าเกลียดยิ่งนักขอรับ เขากับองค์ชายหกวางแผนร่วมกันคดโกงชาวบ้านที่มาลงเดิมพัน ครั้งแรกเขาเดิมพันระหว่างทั้งสองห้าสิบต่อห้าสิบ แต่เป็นเพราะองค์ชายรัชทายาทสภาพย่ำแย่อยู่บนเวทีนั้น จึงทำให้เขาเปลี่ยนใจไปเดิมพันฝั่งสตรีผู้นั้น แล้วองค์ชายหกก็ทุ่มหมดตัวไปที่ฝั่งองค์ชายรัชทายาท พอองค์ชายหกได้ตั๋ว สตรีนางนั้นก็พุ่งลงจากเวทีหน้าตาเฉย ราวกับคนแพ้พ่ายปล่อยให้ผู้คนวิภาควิจารณ์องค์ชายรัชทายาทยังไงอย่างงั้น"องครักษ์คนสนิทขององค์ชายรัชทายาทกล่าวขึ้นพลางปล่อยพ

    Last Updated : 2025-02-03
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   บ่วงสันนิบาท

    ครั้นกลุ่มใหญ่จากหมู่บ้านอมตะเดินทางมาถึงวังหลวง ก็เกิดเหตุการณ์โกลาหลเสียแล้ว ไป๋อวิ๋นเห็นลูกศิษย์ของตัวเองอยู่ตรงกลางลานประลอง เห็นพลังวรยุทธสามสายเข้าไปบีบร่างกายของลูกศิษย์และลูกศิษย์อีกคนที่กำลังใช้วรยุทธสีรุ้งกับศิษย์ที่อยู่กลางลานประลอง กำลังถูกวรยุทธสีขาวเล็งไปที่เขาโดยตรงหากโดนเข้าอย่างจัง ต้องมีการเสียชีวิตขึ้นแน่ๆ เขาใช้พลังของกินรีเข้าไปปะทะกับพลังวรยุทธ์สายนั้นทันทีทและกระโดดใส่บุรุษผู้ที่ส่งพลังไปทันที ผู้ที่ส่งพลังไปนั้นไม่ได้ที่จะป้องกันตัวเองเนื่องจากรอบข้างเขามีผู้คนคอยป้องกันอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่หารู้ไม่ว่ามีผู้ที่ประชิดถึงตัวเองแล้ว"ปั้ง"เสียงวรยุทธปะทะกันสนั่น จางซินเมื่อเห็นจินเป่าจะไม่ไหวแล้วพุ่งไปหาจินเป่าทันที เมื่อลี่หลินรู้ว่าเป็นใครจึงปล่อยมือทที่อยู่ด้านหลังของจินเป่า แล้วออกมาด้านนอกเพื่อที่จะมาคอยคุ้มกันทั้งสองคนช่วยซิงอี ซึ่งตอนนี้ใบหน้าของซิงอี้นั้นเต็มไปด้วยเลือดดูไม่ออกด้วยซ้ำว่าเป็นของตนเองหรือของศัตรู จางซินใช้นิ้วโป้งและนิ้วชีแตะที่นิ้วของจินเป่าขับเคลื่อนเพลงยุทธรักษาทันที เดิมทีซึ่งสีรุ้งใกล้จะจางแล้ว แต่เมื่อจางซินเข้ามาทันเวลาทำให้เส้นสีม

    Last Updated : 2025-02-04

Latest chapter

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   แหวน

    เพื่อพวกเขาเข้ามาเสร็จแล้วก็ต้องพบกับความประหลาด ด้านในนี้มีแก้วแหวนเงินทองอยู่มากมาย ตรงกลางโถงกว้างมีไข่ขนาดใหญ่หนึ่งใบวางอยู่ ลวดลายของใข่ใบนั้นมีลวดลายที่งามวิจิตรยิ่งนัก และไอวิเศษที่เข้มข้นก็ไหลออกมาจากไข่ใบนี้นี้เอง แต่ช่างแปลกเมื่อพวกเขาทั้งเจ็ดเข้ามาในนี้แล้ว ไอวิเศษนั้นก็ไม่สามารถที่จะทำอันตรายใดๆกับพวกเขาทั้งเจ็ดนั้นได้ "ไข่นั้นมันเป็นไข่อะไรกัน ลวดลายแปลกตาจัง"ซิงอีถามขึ้นเขาไม่เคยเห็นมันมาก่อน"มันน่าจะเป็นไข่มังกรข้าเคยศึกษามา น่าจะเป็นไข่มังกรศักดิ์สิทธิ์เป็นแน่ รวดลายของมันช่างมากมายขนาดนี้ มันน่าจะเป็นสัตว์อสูรที่อยู่ในขั้นที่สูงๆเป็นแน่ แต่เราจะนำมันออกจากไข่ได้อย่างไรกัน หรือว่าเราจะพามันออกจากถ้ำนี้ได้อย่างไร"ต้าเหว่ยกล่าวขึ้น ซิงอีจึงพยายามลองเก็บของที่อยู่ในนี้ดู เหมือนของเหล่านี้จะไม่ยอมเข้ามาในมิติของนางเลยสักชิ้น รวมถึงไข่ที่ต้าเหว่ยบอกว่าเป็นไข่มังกรด้วย มันไม่ยอมเข้ามาเลยสักนิด "ข้าเกรงว่าสมบัติที่อยู่ในนี้พวกเราไม่สามารถที่จะครอบครองมันได้ รวมทั้งไข่มังกรที่เจ้าว่าด้วย"จางซินกล่าวขึ้น ด้านข้างนอกนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงของพญาวานรนั้นกำลังอาละวาดอยู่ เพร

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ช่องลับ

    ความเคลื่อนไหวของสัตว์อสูรตัวใหญ่นั้นเงียบลงแล้ว แสดงว่ามันน่าจะสงบลงพวกเขาจึงวางแผนกันใหม่ว่าจะเข้าไปยังถิ่นที่อยู่ของมันได้อย่างไรเนื่องจากไอวิเศษที่เข้มข้นพวกเขาไม่สามารถที่จะทนกลับไอวิเศษที่อยู่รอบๆตัวของมันได้เลย "ข้าว่าหากพวกเราเข้าไปใกล้ๆมันแล้วไอวิเศษนั้นมันเข้มข้นมากพวกเราจะไม่ตายเพราะไอวิเศษนั้นหรอกหรือ มันมีสิ่งใดบ้างที่จะทำให้ไอวิเศษนั้นลดน้อยลงได้หรือว่าเราสัมผัสกับไอวิเศษนั้นได้น้อยลงล่ะ"ห่าวอู๋มู๋ลี่กล่าวขึ้น"มันไม่น่าจะลดไอวิเศษนั้นได้เนื่องจากว่าเรานั่งเสพไอวิเศษนั้นอยู่สามวันมันก็ยังไม่ลดเลยใครมีวิธีดีๆบ้างล่ะ"ไป๋อวิ้นกล่าวถามคนอื่น"เราใช้วิธีหลอกล่อดีหรือไม่ ให้คนกลุ่มนึงอยู่ฝั่งด้านในโน้น หากว่าคนกลุ่มหนึ่งหลอกล่อมันออกไปยังจุดนี้แล้ว คนกลุ่มที่อยู่ด้านในนั้นก็เคลื่อนตัวเข้าไปดูว่าข้างในมีสิ่งใด วิธีนี้พวกเราจะแบ่งกันเป็นสามคนและสี่คนดีหรือไม่"จางหยงกล่าวขึ้น"แล้วมันจะไม่รู้หรือว่ายังมีอีกกลุ่มที่อยู่ด้านในถ้ำนี้ไม่ได้หลอกล่อมันออกไปนอกถ้ำ"ต้าเหว่ยถามขึ้น"ท่านบอกเองไม่ใช่หรือว่ามันตาบอดเพียงแค่เราอยู่ด้านไหนและกบกินกายของเราแล้วเราอยู่เฉยๆอะไรการเคลื่อนไหว

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   พญาวานร

    ทางด้านทั้งหกและสัตว์อสูรหนึ่งตนที่ตอนนี้กำลังนั่งบำเพ็ญอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งพวกเขารับรู้ได้ถึงพลังงานภายในห่างพวกเขาออกไปหากเดินทางเข้าไปไม่เกินครึ่งก้านผู้พวกเขาต้องเจอกับบางสิ่งบางอย่างที่มีแรงกดดันมหาศาล อยู่ในนั้นพวกเขาเลือกจุดนี้เพราะว่าไอวิเศษนั้นมาถึงกลุ่มของพวกเขาทำให้พวกเขาได้ใช้ประโยชน์จากไอวิเศษของสิ่งเหล่านั้น เมื่อเวลาผ่านไปส่มวันจู่ๆก็รู้สึกว่าตัวของเขานั้นเย็นวูบน่าจะสามครั้งได้ นางยิ้มด้วยความดีใจเพราะวรยุทธของนางอยู่เฉยๆก็เพิ่มขึ้น อาจจะเป็นเพราะผู้เป็นนายของเขานั้นมีวรยุทธเพิ่มขึ้นก็ได้ ทุกคนมองหันมาที่ลี่หลินเพียงคนเดียวเพราะพวกเขาทุกคนสามารถรับรู้ถึงแรงกดดันก่อนที่วรยุทธนั้นจะเพิ่มขึ้น"ไม่ใช่ว่าเจ้าจะบรรลุวรยุทธอีก 3 ขั้นแล้วหรือ"ไป๋อวิ้นถามขึ้น"ข้านั่งฝึกวรยุทธภายในอยู่สามวัน ข้าไม่คิดว่าร่างกายของข้าจะเพิ่มวรยุทธขึ้นได้มากขนากนี้ ข้าคิดว่าผู้เป็นนายของข้าน่าจะมีวรยุทธเพิ่มขึ้นข้าถึงได้ผลประโยชน์ขนาดนี้"ลี่หลินพูดด้วยความดีใจ"ลี่หลินเจ้าเสื่อกับผู้เป็นนายของเจ้าได้แล้วหรือ พวกเขาอยู่ที่ใดกัน พวกเราจะรีบตามพวกเขาไป"ซิงอีกล่าวขึ้น ลี่หลินได้แต่ส่ายหัวมันรับ

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ผลขจี

    หลังจากกลุ่มของจินเป่าไปตกอยู่สถานที่หนึ่งนั้นราวๆสามวันพวกเขาทั้งสามนั้นก็รู้สึกตัว พวกเขาเหี่ยวสถานที่หนึ่งเหมือนเป็นกองฟางและมีแอ่งตรงกลางแต่กองฟางที่พวกเขานอนนั้นมองแล้วลักษณะเป็นสีขาวไข่มุก ซึ่งพวกเขาก็ไม่รู้ว่าเป็นที่ใด ห่าวอู๋อวี่ลุกขึ้นได้จึงนั่งขับเคลื่อนวรยุทธของตัวเอง เส้นลมปานของเขานั้นเสียหายไปสามส่วน เลือดยังคลั่งอยู่ที่สมองเขาก็กระอักเลือดออกมาคำตอบ เจ้าอีกาดำสามขาจื่ออี้เฉินงั้นถึงกับปีกหักและขาที่สามของมันก็หักเลยทีเดียว ร่างกายของมันกระทบกับของแข็งประเภทใดตัวมันเองก็ยังไม่รู้ จินเป่าเมื่อลืมตาขึ้นมาก็รับรู้ได้ถึงคลื่นมหาศาลถาโถมเข้าตัวของตัวนางเอง นางรู้สึกเย็นวูบวาบสามครา นางลืมตาแล้วมองมือของตัวเองทั้งสองข้างวรยุทธของนางนั้นเพิ่มขึ้นอีกแล้วตั้งสามขั้น แต่นางสงสัยยิ่งนักวรยุทธของผู้อื่นนั้นสูงขึ้นนั้นจะเกิดทัฑคาด แต่ทำไมนางซึ่งวรยุทธสูงเลยระดับมามหาศักดิ์สิทธิ์มาเกินสามขั้นแล้ว นางยังไม่ถูกทัณฑฆาตเสียเลย นางมองไปรอบๆก็เห็นเจ้าอีกาดำสามขาที่นอนหมดแรงอยู่กับฟางสีขาวไข่มุกนั้น นางจึงหยิบยาสมุนไพรรักษาเส้นลมปราณธรรมดาออกมาให้มันกินไปพลางๆ และยื่นน้ำอมฤตให้ นางมองดูหน้าข

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ภาพเหมือน

    พญาหงส์ขาวที่กำลังต่อสู้นั้นหยุดชะงักและม้วนตัวพุ่งไปหาต้นขจีทันที ห่าวอู๋อวี่เองยังไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ พญาหงส์ขาวที่ต่อสู้กันอยู่ดีๆก็พุ่งไปหาจินเป่า จินเป่าที่ตอนนี้เห็นท่าไม่ดีเขากำลังอยู่ใกล้ต้นขจีเพียงนิดเดียวหากเขาหลบก็ไม่ทันเสียแล้ว เจ้าต้นขจีก็มัวแต่พลักดันนักยุทธให้ถ่อยกลับไปแต่มันไม่ได้ใช้ตามองจินเป่า เนื่องจากว่ากลิ่นอายของนางนั้นเป็นต้นหลิวต้องแสงจันทร์ในเมื่อนางนั้นได้กลืนกินพลังของต้นหลิวต้องแสงจันทร์แล้ว นางก็ปล่อยพลังของมันออกมา จึงทำให้ต้นขจีซึ่งเป็นพืชวิเศษเหมือนกันไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเป็นมนุษย์มันจึงไม่ได้ระวังตัวจากจินเป่าเลย แต่พญาหงส์ขาวรับรู้การไปของจินเป่าดีจึงพุ่งไปหานางและพ่นไฟใสทันที นางแบมือเก็บไฟดังเดิม แต่คราวนี้เจ้าพญาหงส์ขาวนั้นพุ่งเข้ามาหานางอย่างรวดเร็ว จึงไม่ทันระวังและเก็บมันเข้าไปในมิติทันที หลังจากที่มันเข้าไปในมิติแล้วจินเป่าจึงใช้กริชที่กรีดเลือดของตัวเองนั้นแทงเข้าไปยังรากของต้นขจีทันที "วี้ดๆๆๆๆๆๆ วี้ดๆๆๆๆ วี้ดๆๆๆๆๆ"เสี่ยงต้นขจีกรีดร้องและเอนไปเอนมาตอนนี้รากของมันถอนขึ้นจากดินเสียแล้ว จินเป่าได้ทีจึงโบกมือและเก็บต้นขจีก่อนที่มันจากอาละ

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   พญาหงส์ขาว

    ทั้งสองคุยกันอยู่สักพักก็เข้าใจกันส่าตะจัดการเช่นไร"นั่นไงทั้งสองคนอยู่ตรงนั้นกำลังคุยกันอยู่แล้วแผนของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อล่ะลี่หลิน"จางซินกล่าวถาม"แผนของพวกเขาคือให้พวกเราทุกคนระวังตัวเองและแก้ไขสถานการณ์ไปตามเหตุการณ์ต่างๆ"ลี่หลินกล่าวขึ้น ทุกคนก็มองไปยังลี่หลินเพราะพวกเขาไม่แน่ใจว่านางได้สื่อสารกับผู้เป็นนายจริงหรือไม่ เนื่องจากพอถามพบนางก็ตอบทันที "งั้นพวกเราก็ต้องดูแลตัวเองและปกป้องด้วยให้ได้ เพื่อที่จะไม่เป็นตัวถ่วงของพวกสองคนนั้น"ไป๋อวิ้นกล่าวขึ้น"แต่มีบางสิ่งบางอย่างที่ข้าสงสัยยิ่งนัก ทำไมข้าที่อยู่มิติแห่งนี้มาตั้งแต่เกิด แต่ไม่เคยรับรู้ถึงเรื่องนี้เลยล่ะ เรื่องที่มีผลขจีสุกอะไรนั่น ทำไมหรือพอดูดูแล้วเหมือนจะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะสัตว์อสูรต่างๆก็รายล้อมเข้ามา และนักยุทธต่างๆก็เหมือนสนใจสิ่งเหล่านี้ ข้าอยากรู้เหลือเกินว่ามันเป็นสิ่งใด"ต้าเหว่ยกล่าวขึ้น"ข้าเองก็สงสัยว่าทางราชสำนักไม่ได้ส่งผู้ใดมาเข้าชิงผลขจีเลย เป็นไปได้หรือไม่ว่าทางราชสำนักนั้นไม่สนใจกับสมุนไพรชนิดนี้ เจ้าที่อยู่ในเมืองหลวงนั้นจึงไม่รู้ว่ามีของดีแบบนี้"ห่าวอู๋มู๋ลี่กล่าวขึ้น ทุกคนขอพยักหน้าพร้อมที่จ

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ต้นขจี

    เมื่อถึงยามเที่ยงคืนแล้วสัตว์อสูรตนนั้นก็ออกมาจากต้นขจีมันเป็นสัตว์อสูรสีขาวสว่างไสว มองไกลๆราวกลับนกกินรีสีขาวแต่พอมองดีๆก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่กินรีแต่อย่างใด"นั่นมันพญาหงส์นิสัตว์มหาอสูรที่เฝ้าอยู่ต้นขจีมันคือพญาหงส์นี่เอง"บุรุษกลุ่มที่จับตัวทั้งสองคนมากล่าวขึ้น "พวกเจ้าแกะมัดมือข้าทั้งสองได้แล้วกระมังข้าจะได้หาวิธีที่จะเอาชนะสัตว์มหาอสูรตนนั้น"ห่าวอู๋อวี่กล่าวขึ้น กลุ่มคนที่จับตัวพวกเขามาจึงปรึกษากันไม่นานเขาก็แกะเชือกวิญญาณนั้นออก "ข้าทั้งสองจำเป็นที่จะต้องโจมตีพร้อมๆกันแล้วพวกเจ้ามีใครที่ต้องการที่จะลงมือบ้าง ข้าจะได้วางแผนเผื่อพวกเจ้า"ห่าวอู๋อวี่กล่าวขึ้น ทั้งหมดที่จับตัวทั้งสองคนมานั่นนั่งเงียบทันทีไม่มีผู้ใดกล่าวสิ่งใดเพราะไม่มีใครต้องการที่จะลงมือ "ทำไมพวกท่านไม่คิดที่จะลงมือเลยหรอ ในเมื่อต้องการของแต่ถ้าไม่ลงมือพวกท่านจะมีหน้ารับของพวกนี้ได้อย่างไร"จินเป่าถามขึ้ม"เอาเป็นว่าพวกข้าไม่ลงมือต่อสู้กับสัตว์มหาสูรแต่พวกข้าจะลงมือแย่งชิงกับผู้มียุทธเหล่านั้นเอง ถ้าพวกข้าได้ผลขจีมามากพอพวกข้าจะแบ่งให้พวกเจ้า "บุรุษผู้หนึ่งกล่าวขึ้น"ข้าเองจะไปสู้กับสัตว์อสูรเหล่านั้นแต่ข้าเอง

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ตอบแทน

    เมื่อยามค่ำคืนเข้ามากล้ำกรายในห้องห่าวอู๋อวี่กับจินเป่านอนด้วยกันบนเตียงนอน"ข้าอยากให้มันเป็นแบบนี้ตลอดไปจังที่เราสองคนได้นอนกอดกันบนเตียงนุ่มแบบนี้ หากเราช่วยท่านพ่อตากับแม่ยายได้แล้วเราแต่งงานกันนะ"ห่าวอู๋อวี่กล่าวออกมาอย่างหยอกล่อและจิงจังในท่าที จินเป่าไม่ได้กล่าวอะไรนางได้ยินเสียงกุกกักนอกประตูนางรู้ดีว่าห่าวอู่อวี่รับรู้ได้ก่อนนางเสียอีกแต่เขาก็แกล้งพูดไปต่างๆนานา เมื่อด้านนอกได้ยินเสียงคนพูดคุยกัน เขาก็ไม่กล้าที่จะบุกเข้ามา ห่าวอู๋อวี่สังเกตเห็นถึงข้อนี้"ข้านอนแล้วนะเจ้าเองก็นอนเถอะ"ห่าวอู๋อวี่กล่าวขึ้น เพื่อจะได้เดินตามแผนของกลุ่มคนที่มาดักจับสองคนเขา สักพักใหญ่ๆเสียงเคลื่อนไหวภายในห้องก็สงบลง บุรุษผู้หนึ่งโบกมือเป็นสัญญาณให้ผู้ที่อยู่ด้านหลังค่อยๆเปิดประตูโรงเตี้ยมให้ แล้วค่อยๆบุกเข้าไปจับตัวทั้งสองได้ เมื่อถูกจับทั้งสองคนก็แกล้งทำเป็นหลับไหลไม่ได้สติ จินเป่าทำท่าทางตกใจตื่นขึ้นมา"หวกเจ้าเป็นใครกัน ทำไมถึงมาจับพวกข้าเช่นนี้ พวกข้าทั้งสองไปทำอะไรให้พวกเจ้าโกรธเคืองกัน"จินเป่าพูดขึ้น"แม่นางอย่าดิ้นรนเลย อย่าต่อรองกับการจับกุมในครั้งนี้ พวกเราวางแผนมานานแล้ว แล้วคนที่จับต

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   แผน

    ป่ากระดังงาที่พวกเขาเดินทางเข้าไปนั้นร่มรื่นมีต้นไม้ใหญ่เล็กประปรายกันอยู่ มีโขดหินใหญ่โขดหินเล็กและมีเสียงสัตว์เล็กสัตว์น้อยมากมาย เสียงนกร้องสักพักและบินจากไปเพื่อหาอาหาร"เราจะอยู่ผจญภัยอยู่ที่ป่าอัสดงกันจนจะมีวรยุทธเพิ่มขึ้นเท่าใดดี เราต้องตั้งเป้าหมายและล่ะ"จางซินกล่าวขึ้น"ข้าไม่ได้ตั้งเป้าหมายอะไรเท่าไหร่หรอก เอาเป็นว่าจนกว่าพวกเราทั้งจะพอใจกันดีกว่า"ห่าวอู๋มูลี่กล่าวขึ้น"แล้วต้าเสว่ยล่ะท่านคิดว่ามาผจญภัยยังภายนอกแล้วท่านยังคิดว่ายังอยากติดตามพวกเราต่อหรือไม่"จินเป่าถามขึ้น"ถ้าไปกับพวกเจ้าแน่นอน ข้ารู้สึกสนุกรู้สึกตื่นเต้น รู้สึกท้าทายแล้วพวกเจ้าก็มีจิตใจที่ดีช่วยเหลือชาวบ้านถ้าคิดว่าข้าต้องติดตามพวกเจ้าไปให้ถึงที่สุด"ต้าเหว่ยกล่าวขึ้น พวกเขาเดินทางในป่ากระดังงาราวๆเจ็ดวันก็ออกจากป่ากระดังงา เดินทางด้วยความราบรื่นตอนกลางวันเดิน กลางคืนก็พักผ่อนพวกเขาไปถึงหมู่บ้านอัสดงในเวลาเที่ยงของวันที่เจ็ด เมื่อพวกเขาไปถึงก็หาโรงเตี้ยมเพื่อนั่งกินอาหารกัน และจะได้ฟังข่าวจากนักยุทฑท่านอื่นด้วย พวกเขาเลือกนั่งโต๊ะกลางสุดเพราะจะได้ฟังเสียงข้างๆได้สะดวกยิ่งขึ้น "ป่าอัสดงทุกวันนี้ทำไมข้าไม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status