Home / โรแมนติก / ในเงาของหัวใจ / บทที่ 73 เธอเพียงแค่อยากตอบแทน

Share

บทที่ 73 เธอเพียงแค่อยากตอบแทน

last update Last Updated: 2025-04-23 11:08:45

หมอวรัตถ์ลังเลชั่วครู่ แต่สุดท้ายก็พยักหน้า

“ผมไม่มีเบอร์ของเขาโดยตรงครับ เพราะคุณธีภพไม่เคยใช้เบอร์ส่วนตัวกับใครมากนัก

แต่ผมมีที่อยู่ของคุณสุวิมล…แม่ของเขา”

“คุณธีภพเป็นห่วงคุณแม่มากของเขามาก และถ้าเขาต้องพักฟื้นเงียบ ๆ ที่ไหนสักแห่ง…ผมเชื่อว่าเขาน่าจะเลือกไปอยู่ใกล้ท่าน”

หมอวรัตถ์ลุกขึ้นเดินไปหยิบโน้ตเล่มเล็ก ๆ จากบนโต๊ะใกล้ประตู ก่อนเขียนที่อยู่ด้วยลายมืออย่างประณีต

เขายื่นให้เธออย่างเงียบ ๆ

สายตาที่มองมา…เต็มไปด้วยความเข้าใจ

“ลองไปที่นี่ดูนะครับ คุณนารา…บางที สิ่งที่คุณอยากรู้ อาจรออยู่ที่นั่น”

เธอรับกระดาษแผ่นนั้นไว้ในมือ กำแน่น

ทั้งขอบคุณ…ทั้งกลัวว่าคำตอบที่เธอกำลังจะไปเจอ

แม้ลึก ๆ แล้ว นาราจะรู้ว่าเธอกำลังเป็นห่วงเขามากแค่ไหน

แต่เธอก็ยังพยายามบอกตัวเองว่า ที่เธอทำทั้งหมดนี้…

เป็นเพียงการตอบแทนในสิ่งที่เขาเคยทำให้เธอ

ครั้งหนึ่ง เขาเคยช่วยเธอไว้

และหากครั้งนี้เขากำลังลำบาก

เธอก็แค่อยากจะช่วยคืน…เท่านั้นเอง

แต่เมื่อได้รู้ว่า หัวใจที่เต้นอยู่ในร่างของเขา

คือหัวใจดวงเดียวกับกานต์ คนที่เธอเคยรักสุดหัวใจ

บางอย่างในใจเธอก็เริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด

แม้เธ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 74 เศษของความรู้สึกที่ยังหลงเหลือ

    เมื่อก้าวเข้าสู่ตัวบ้าน นาราก็ถอดรองเท้าอย่างสุภาพ บ้านหลังนี้ตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่สะอาดสะอ้าน เป็นบ้านไม้สองชั้นที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง คุณสุวิมลเชื้อเชิญให้นารานั่งลงที่ม้านั่งไม้ริมหน้าต่าง เธอเองก็นั่งลงข้าง ๆ ด้วยท่าทางสบาย ๆ และเปิดใจ “หนูชื่อนาราค่ะ เป็นคนรู้จักของ...คุณธีภพ” นาราเอ่ยแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงเรียบร้อยแต่ออกจะแผ่วเบาเล็กน้อย หลังจากที่นาราแนะนำตัว คุณสุวิมลก็พยักหน้าช้า ๆ “แม่เคยได้ยินธีภพพูดถึงคุณอยู่บ้าง” “ตอนเขาผ่าตัดหัวใจใหม่ ๆ…เขาชอบฝันถึงผู้หญิงคนหนึ่ง ฝันซ้ำ ๆ จนแม่ยังสงสัยว่าทำไม” นารานิ่งไป ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา “หัวใจดวงนั้น…เป็นของสามีหนูค่ะ เขาเสียในวันเดียวกับที่คุณธีภพเข้ารับการผ่าตัด” สุวิมลชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าอย่างเข้าใจ “อย่างนี้เอง...แม่ถึงรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ” “ธีภพ…เคยบอกว่าฝันถึงชื่อคุณ ฝันถึงความรู้สึกที่ไม่รู้จะอธิบายยังไง” “แล้วตอนนี้ เขาเป็นยังไงบ้างคะ?” นาราถาม คุณสุวิมลถอนหายใจเบา ๆ “หลังจากผ่าตัด ตอนแรกร่างกายเขาตอบสนองได้ดี แต่เมื่อไม่นานมานี้เขามีอาการภาวะภูมิต่อต้านหัวใจ

    Last Updated : 2025-04-23
  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 75 ระยะทดลอง

    เขาเงยหน้าขึ้นช้า ๆ มองออกไปยังหน้าต่างที่เคยนารายืนอยู่เมื่อครู่ “ในฐานะประธานบริษัทซาเลียน…ผมจะดูแลทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอ” “ต่อให้เธอไม่รู้เลยว่าผมอยู่ตรงไหน…ก็ไม่เป็นไร” คุณสุวิมลมองลูกชายของเธอเงียบ ๆ ก่อนพูดขึ้นแผ่วเบา “แต่ลูกจะทนได้เหรอ…ในเมื่อหัวใจของลูกมันไม่เคยหยุดเรียกชื่อเธอเลย” เสียงของแม่อ่อนโยนแต่หนักแน่น ธีภพไม่ตอบ มีเพียงรอยยิ้มจาง ๆ ที่เต็มไปด้วยร่องรอยของคนที่รู้ตัวว่า…ไม่เหลือสิทธิ์แม้แต่จะใกล้ชิด ..................................... หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ปกรณ์ได้รับการติดต่อจาก วรเมธินทร์กรุ๊ป เพื่อเข้ามาเซ็นสัญญาความร่วมมืออย่างเป็นทางการ ในบ่ายของวันที่นัดหมาย ชายหนุ่มในสูทแฟชั่นเนี๊ยบเดินเข้ามายังห้องรับรองบนชั้นบริหารของอาคารวรเมธินทร์ สายตากวาดมองไปรอบห้องอย่างพึงพอใจ ก่อนจะหยุดลงตรงเจ้าของห้อง ผู้หญิงที่เขาเฝ้ารออยากคุยด้วยอีกครั้ง นาราสวมชุดสูทเรียบหรูสีเทาอ่อน เอกสารจัดเรียงเรียบร้อยบนโต๊ะ เธอลุกขึ้นตามมารยาท ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ “เชิญค่ะ คุณปกรณ์” “ถ้าผมรู้ว่ามานั่งคุยกับคุณนาราจะได้เจอบรรยากาศดีขนาดนี้ ผมคงรีบกลับมาจากต่าง

    Last Updated : 2025-04-23
  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 76 ปล่อยให้พวกเขาเชื่อแบบนั้น

    คฤหาสน์เดชาสกุลวงศ์ ในค่ำวันเดียวกัน ปกรณ์ยิ้มกว้างเดินเข้ามา ในมือกำเอกสารสัญญาที่เพิ่งเซ็นสด ๆ จากวรเมธินทร์กรุ๊ป เขาก้าวขึ้นบันไดอย่างมั่นอกมั่นใจ ก่อนจะผลักประตูเข้าสู่ห้องทำงานของพ่อ “ผมเอาสัญญาจากวรเมธินทร์กลับมาได้แล้วครับพ่อ” เขาเว้นวรรค ริมฝีปากยกยิ้มอย่างผู้ชนะ “นาราเซ็นเองกับมือ…ไม่มีคนกลาง ไม่มีข้อแม้” คุณพฤกษ์ไพศาลเงยหน้าจากเอกสาร ดวงตาเข้มคู่นั้นวัดผลลูกชายคนเล็กด้วยความเงียบงัน “…เป็นสัญญาระยะสั้น สามไตรมาส” เสียงของเขาต่ำเรียบ แต่กลับเหมือนคลื่นใต้น้ำที่พร้อมซัดทุกอย่างให้พังพินาศ “อย่าเพิ่งลำพองใจนัก มันยังไม่ใช่ชัยชนะ” “แต่ก็มากพอให้เริ่มต้นไม่ใช่เหรอครับ?” ปกรณ์ยักไหล่ รอยยิ้มยังไม่จาง “ผมเชื่อว่า ถ้าเป็นผมเดินเกมต่อ…วรเมธินทร์จะไม่มีวันปฏิเสธระยะยาว” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความมั่นใจ มั่นใจในตัวเอง...และในเสน่ห์ที่เขาคิดว่าควบคุมได้ทุกอย่าง ทันใดนั้น ประตูห้องเปิดออก หญิงวัยกลางคนในชุดผ้าไหมสีอ่อนก้าวเข้ามา คุณวิลัยลักษณ์ ภรรยาหลวงที่สง่างามดุจนางพญา แม้ใบหน้าจะอ่อนโยน แต่สายตาเต็มไปด้วยคมดาบที่ซ่อนไว้หลังรอยยิ้ม “เขาทำสำเร็จนะคะ” เธอว่าเสี

    Last Updated : 2025-04-23
  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 77 เจรจางานกับรองประธานคนใหม่

    ธีภพพยักหน้าเบา ๆ “เตรียมไว้ตั้งแต่ก่อนเขาจะกลับจากอังกฤษแล้ว” เขาหยิบแท็บเล็ตจากมุมโต๊ะ แตะหน้าจอเบา ๆ ก่อนเลื่อนดูอะไรบางอย่าง “ส่งอีเมลไปที่เดชาสกุลวงศ์เอ็นเตอร์ไพรส์ แจ้งฝ่ายประสานงานของปกรณ์…” “ให้ระบุว่า—ก่อนหน้านี้ที่ธีภพเคยดำรงตำแหน่ง ได้เปิดเรื่องหารือความร่วมมือกับซาเลียนไว้” “และตอนนี้...ซาเลียนพร้อมให้ ‘รองประธานคนใหม่’ เข้ามาเจรจาต่อ” ภานุวัฒน์หัวเราะเบา ๆ อย่างชอบใจ “แล้วให้เขาเตรียมข้อมูลอะไรบ้างไหม?” ธีภพวางแท็บเล็ตลง ก่อนตอบเรียบนิ่ง “บอกไปว่า...เราคาดหวังการเตรียมพร้อมอย่างรอบด้าน เพราะเราจะพิจารณา ‘ความเหมาะสม’ ในการร่วมงานระยะยาว” “และถ้าเขาทำไม่ได้…เราจะไม่ต่อรองรอบที่สอง” “โหดไปไหม?” ภานุวัฒน์แซว พร้อมยักคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง ธีภพหันมามอง น้ำเสียงยังคงเยือกเย็น แต่แฝงบางอย่างอยู่ลึก ๆ “ในเมื่อเขาอยากเล่นหมากในสนามที่ฉันเคยปูไว้...” “ก็ต้องดูว่าเขาจะเดินต่อได้ดีแค่ไหน” ...................................... หลังจากได้รับอีเมลล์ ปกรณ์นั่งเอนตัวอยู่บนเก้าอี้หนังในห้องทำงานของบิดา สีหน้าเขาแฝงความสับสน กังวล และไม่ค่อยพอใจนัก “ผมไม่ร

    Last Updated : 2025-04-23
  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 78 หญิงที่เขาเคยอยากได้หัวใจของเธอ

    ดวงตาของคุณสุวิมลไหวเพียงเล็กน้อย “แม้ว่าคุณอาจจะไม่เคยรักผมเลย” “แต่สุดท้าย…คุณก็หนีจากผมไม่ได้” เขาก้าวเข้ามาอีกก้าว “ผมได้คุณมาแล้ว สุวิมล” “แม้จะไม่เคยได้หัวใจของคุณ…แต่ร่างกายของคุณก็เป็นของผม” “อย่างน้อย ผมก็ครอบครองคุณได้” คำพูดนั้น…เหมือนใบมีดที่ทิ่มแทงลงกลางอกเธอ เธอเงียบ ไม่ใช่เพราะโกรธ แต่เพราะมันเจ็บ…และเจ็บมานานจนไม่รู้จะตอบอย่างไร คุณสุวิมลสูดลมหายใจเข้าเบา ๆ เธอก้าวถอยหนึ่งก้าว แล้วเอ่ยเสียงนิ่ง “รออยู่ตรงนี้…เดี๋ยวฉันเอาเอกสารมาให้” เธอยังคงพูดน้อยเหมือนเดิม ราวกลับทุกถ้อยคำของเขาไม่มีผลกระทบกับเธอเลยแม้แต่นิดเดียว พฤกษ์ไพศาลพยักหน้า เขาไม่ได้คาดหวังจะได้เข้าบ้านหลังนี้อีก เพราะลึกลงไป…เขารู้ดีว่า บ้านหลังนี้ ไม่เคยต้อนรับเขาเลย สุวิมลเดินเข้าไปในบ้านอย่างเงียบงัน เมื่อพ้นสายตาของพฤกษ์ไพศาล เธอยืนสงบนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเบอร์ ที่เธอรู้ดีว่าจำแม่นที่สุดแม้ไม่ได้มอง ปลายสายรับเกือบจะในทันที “ครับแม่” เสียงของธีภพดังขึ้นจากปลายสาย “เขามาแล้วเหรอ” “อืม…” สุวิมลถอนหายใจเบา ๆ “พ่อของลูกมาที่นี่…เพื่อขอเอกสารเรื่องซาเลียน”

    Last Updated : 2025-04-23
  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 79 มองเห็นโอกาสในความเสี่ยง

    สิ่งที่อยู่ข้างในคือเอกสารทางการแพทย์ ตีตราจากโรงพยาบาลในสหรัฐอเมริกา มีลายเซ็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และตราประทับถูกต้องตามกฎหมาย เขาไล่สายตาอ่านทีละบรรทัด > "ผู้ป่วย: นายธีภพ เดชาสกุลวงศ์" "ได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจเมื่อ 14 เดือนก่อน" "ปัจจุบันพบภาวะ Chronic Rejection (การต่อต้านอวัยวะปลูกถ่ายเรื้อรัง) ซึ่งจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องและเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด" "ระยะเวลาการรักษาโดยประมาณ: ไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากวันตรวจล่าสุด" "ไม่สามารถเดินทางหรือกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว" พฤกษ์ไพศาลวางเอกสารลงช้า ๆ นัยน์ตาของเขาเคลือบด้วยความคิดบางอย่าง เขาไม่รู้…ว่าเอกสารตรงหน้านั้นคือของปลอม สิ่งที่เขาเห็นคือหลักฐานชัดเจน ว่าธีภพในตอนนี้ไม่สามารถกลับมาทำงานได้ และอาจไม่มีโอกาสกลับมาอีกในเร็ววัน หัวใจของเขากระตุกวูบ ไม่ใช่เพราะห่วงลูกในฐานะพ่อ แต่ในฐานะผู้นำตระกูล…เขารู้สึกเหมือนเพิ่งเสียแม่ทัพคนสำคัญไปโดยสมบูรณ์ เขาหลุบตาลงมองเอกสารบนโต๊ะ ทั้งข้อเสนอร่วมทุนกับซาเลียน และใบวินิจฉัยจากโรงพยาบาล สองสิ่งนี้…เป็นของธีภพทั้งคู่ สิ่ง

    Last Updated : 2025-04-24
  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 80 คุณคือคนที่เราเฝ้ารอมานาน

    ภานุวัฒน์พยักหน้าเบา ๆ "ประธานของเราเองก็เชื่อแบบนั้น เขาให้ความสนใจกับคนรุ่นใหม่ที่มีแนวทางเป็นของตัวเอง" เขาหยุดครู่หนึ่ง ก่อนจะมองตรงเข้าสู่ดวงตาของปกรณ์ "และคุณ…คือหนึ่งในคนที่เขาจับตามองอยู่" ปกรณ์นิ่งไปชั่วครู่ รอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปาก เขาไม่ตอบอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกเหมือนยืนอยู่เหนือใครบางคน ภานุวัฒน์ลุกขึ้นยืน แล้วหันมาถามอย่างเป็นกันเอง "เย็นนี้เรามีงานเลี้ยงเล็ก ๆ ในหมู่พันธมิตรของซาเลียน…คุณสะดวกไหมครับ?" ปกรณ์ลุกตามทันที "ถือว่าเป็นเกียรติเลยครับ" ทั้งสองจับมือกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้…ปกรณ์รู้สึกได้ถึงการยอมรับ รู้สึกได้ว่า เขาคือคนสำคัญในครั้งนี้จริง ๆ และเขาไม่เคยรู้เลยว่า เบื้องหลังรอยยิ้มของผู้ชายตรงหน้า ...คือตัวกลางในเกมของใครบางคน ... ค่ำวันเดียวกัน ณ ห้องจัดเลี้ยงพิเศษ โรงแรมหรูย่านใจกลางเมือง บรรยากาศในงานเลี้ยงของกลุ่มพันธมิตรซาเลียนเป็นไปอย่างคึกคัก แต่อบอวลด้วยความหรูหรามีระดับ เสียงเพลงแจ๊ซเบา ๆ คลอไปกับเสียงหัวเราะและการพูดคุยของบรรดาผู้บริหารจากหลากหลายบริษัท ปกรณ์ เดชาสกุลวงศ์ ยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ รอยยิ้มของเขาเปล่งประกา

    Last Updated : 2025-04-24
  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 81 คิดว่าจะหนีได้งั้นเหรอ!

    สายตาของเขาลดต่ำลง แววตาหยาบโลนจ้องมองเธออย่างหื่นกระหาย ก่อนจะกลับมาสบตาเธออีกครั้งพร้อมน้ำเสียงที่เจือความเย้ยหยัน “จริง ๆ แล้ว...ผู้หญิงสวยระดับคุณ ไม่น่าจะต้องยืนเหงาอยู่แบบนี้เลยนะครับ” “คุณควรกลับไปที่ของคุณจะดีกว่า” ลาริสาตอบเรียบ ๆ “หรือว่ากลัวจะเผลอใจ?” เขาเลิกคิ้วยิ้มเจ้าเล่ห์ “คุณอาจไม่รู้...แต่ผมน่ะ มักได้ในสิ่งที่ต้องการเสมอ” “ฉันไม่ใช่สิ่งของที่คุณจะได้หรือไม่ได้ค่ะ” “คำพูดแบบนั้น ฟังดูน่าท้าทายดีนะครับ” เขาโน้มหน้าเข้าใกล้เล็กน้อย แววตาคล้ายกำลังหยั่งเชิง “บางที...คุณอาจจะต้องเปิดใจกับวิธีการปลุกเร้าอารมณ์ของผมซะก่อนนะครับ คุณอาจจะติดใจจนลืมไม่ลงและเปลี่ยนความคิด” เพี้ยะ! เสียงฝ่ามือฟาดใบหน้าดังลั่น ลาริสายืนนิ่ง ดวงตาสั่นไหวแต่เด็ดขาด “อย่าก้าวล้ำเกินกว่าที่ควรอีกค่ะ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่คุณจะมองข้ามศักดิ์ศรีได้ง่าย ๆ” ปกรณ์ในความเมาและอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน เขามองเธออย่างคุกรุ่น ก่อนจะคว้าแขนเธออย่างแรง พยายามลากไปยังทางเดินด้านในที่เชื่อมกับห้องพัก “มานี่!...อย่าทำตัวหยิ่งไปหน่อยเลย!” เขากระชากเธออย่างแรง จนเธอต่องร้องออกมาเบา ๆ แม้ว่าเธอจะขัดขืน

    Last Updated : 2025-04-24

Latest chapter

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 145 ค่ำคืนแห่งชั่วนิรันดร์

    “เหนื่อยไหมครับ?” เขาถามเมื่อพาเธอเข้ามานั่งบนโซฟา “ไม่ค่ะ…แค่ใจเต้นแรงอยู่เรื่อยเลย” เธอยิ้มบาง ๆ พูดออกมาอย่างเขิน ๆ ธีภพหัวเราะในลำคอเบา ๆ ก่อนจะโน้มตัวลงกระซิบใกล้ใบหูเธอ “ใจคุณเต้นแรง…แต่ใจผมแทบจะระเบิด” นาราหัวเราะคิก แล้วตีไหล่เขาเบา ๆ แต่มือของเขากลับยื่นมาจับมือนั้นไว้ และแนบมันไว้กับอกเขา ภายในห้องนอน แสงไฟสีอำพันคลี่คลุมห้องทั้งห้องไว้ด้วยความอบอุ่น กลิ่นหอมจาง ๆ จากดอกไม้ข้างเตียงแตะจมูกเบา ๆ เสียงหัวใจสองดวงที่กำลังใกล้กันทีละนิด…ดังกว่าเสียงใด ๆ ธีภพยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ดวงตาเขามองเธอราวกับเธอเป็นของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิต ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือไปปลดเครื่องประดับผมของเธอออกช้า ๆ เส้นผมดำขลับสยายลงบนบ่าขาว เธอหลับตาลงช้า ๆ รับสัมผัสจากปลายนิ้วของเขา “คุณรู้ไหม” เขากระซิบ “ผมฝันถึงค่ำคืนนี้มานานมาก ฝัน…ถึงวันที่คุณจะอยู่ในอ้อมแขนผม ไม่ใช่แค่ชั่วคืน แต่ตลอดชีวิต” เธอไม่ตอบ เพียงยิ้ม และยื่นมือไปแตะแก้มเขาเบา ๆ “และฉันก็เลือกจะอยู่ตรงนี้…กับคุณ ทั้งในคืนนี้ และคืนไหน ๆ ที่ยังมีลมหายใจอยู่” ธีภพก้มลงจูบหน้าผากเธออย่างแผ่วเบา จากนั้นป

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 144 นึกว่าเธอหานงยสาบสูญไปแล้ว

    วันแต่งงานที่รอคอยมาถึง เช้าวันนั้น แสงแดดยามสายทอดอุ่นลงบนสนามหญ้าเขียวขจี สายลมพัดผ่านแผ่วเบา กลีบดอกไม้ที่ประดับอยู่ตามซุ้มขาวเคลื่อนไหวราวกับเต้นรำรับจังหวะหัวใจของใครบางคน บริเวณงานถูกจัดเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยรายละเอียดที่เต็มไปด้วยความใส่ใจ ผ้าคลุมบางเบา โทนสีขาวครีมผสมกลิ่นกุหลาบอ่อน ๆ ลอยในอากาศ ดนตรีจากเปียโนคลอเบา ๆ ท่ามกลางเสียงพูดคุยของแขกที่มาด้วยรอยยิ้ม ที่นี่...คือสถานที่ซึ่งหัวใจสองดวงจะเริ่มต้นบทใหม่ ไม่ใช่แค่พิธีการ แต่เป็น "คำสัญญา" ที่กลั่นมาจากทุกบททดสอบของชีวิตที่ผ่านมา ... ภายในห้องแต่งตัว เสียงหัวเราะนุ่ม ๆ ดังขึ้นเมื่อหญิงสาวในชุดเดรสลูกไม้สีพีชก้าวเข้ามา พราวฟ้า ดาราสาวเพื่อนสนิทของนารา วางกระเป๋าเบา ๆ แล้วโผเข้ากอดเพื่อนด้วยความคิดถึง “หายไปครึ่งปี! ฉันนึกว่าเธอหายสาบสูญไปแล้วนะ” นาราหัวเราะอย่างแผ่วเบา “เกือบแล้วจริง ๆ” พราวฟ้าหัวเราะตาม “กองถ่ายเรื่องล่าสุดให้เก็บตัวขึ้นเขา ไม่มีเน็ต ไม่มีสัญญาณเลยสักเส้น ฉันนับวันรอจะได้ลงมางานนี้เลยนะรู้ไหม” สองเพื่อนสาวสบตากันอย่างเข้าใจ แม้ไม่มีคำพูดมาก แต่แววตาก็สื่อได้ว่า…เธอไม่พลาดวัน

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 143 กำหนดวันหมั้นและวันแต่งงาน

    คำพูดนั้นเรียบ แต่หนักแน่นพอจะทำให้ห้องทั้งห้องเงียบงันชั่วครู่ คุณบงกชหันไปมองนารา ลูกสาวของเธอในวันนี้…ไม่ใช่ผู้หญิงที่ยังตกอยู่ใต้เงาอดีตอีกต่อไป แต่คือผู้หญิงที่ยืนอย่างมั่นคง ข้างคนที่เลือกจะปกป้องเธอจนสุดทาง การพูดคุยหลังจากนั้นดำเนินไปอย่างอบอุ่น กำหนดวันหมั้นและวันแต่งงานถูกพูดถึงทีละลำดับ เสียงหัวเราะดังขึ้นบ้างในจังหวะที่คุณบงกชและคุณสุวิมลคุยกัน พลางหันมาถามว่า “ตกลงต้องเตรียมห้องไว้สำหรับเวลาหลาน ๆ มาเที่ยวเล่นเลยไหมลูก?” ธีภพกับนาราสบตากันแล้วยิ้ม แบบที่ไม่ต้องมีคำตอบ เพราะคำตอบอยู่ในดวงตาคู่นั้น…ที่มองกันราวกับโลกทั้งใบมีแค่คนสองคน หลังจากบทสนทนาเรื่องวันสำคัญสิ้นสุดลง ในขณะที่ทุกคนยังนั่งพูดคุยกันด้วยรอยยิ้มอบอุ่น นาราค่อย ๆ ลุกขึ้น เธอไม่ได้เอ่ยคำใด เพียงสบตาธีภพอย่างแผ่วเบา ก่อนจะหมุนกาย ก้าวขึ้นสู่ชั้นบนของบ้านที่เต็มไปด้วยความทรงจำ บ้านสไตล์เรียบหรูที่แวดล้อมด้วยสีอุ่นและแสงเงานุ่มนวล เงียบพอให้ได้ยินเสียงหัวใจตัวเองทุกครั้งที่ก้าวเท้า เธอหยุดหน้าห้องห้องหนึ่ง ประตูไม้สีอ่อนเรียบสะอาดบานนั้นไม่ได้ถูกเปิดมานานหลายปี เพราะมันคือห้

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 142 เรือนหอ

    ไม่กี่วันถัดมา แสงแดดอุ่นยามสายสาดลงบนระเบียงหน้าบ้านสองชั้นสไตล์เรียบหรู เส้นสายของรั้วขาวตัดกับสวนสีเขียวขนาดย่อมอย่างลงตัว เงาของต้นปีบที่ปลูกใหม่เพิ่งเริ่มผลิใบสะท้อนบนกระจกหน้าต่างชั้นสอง ธีภพ ก้าวลงจากรถก่อนจะเดินอ้อมมาเปิดประตูให้เธอ มือเขายื่นออกมาโดยไม่ต้องเอ่ยคำ เธอก็วางมือลงในมือเขาอย่างคุ้นเคย “บ้านหลังนี้…จะเป็นเรือนหอของเรานะ” เขาบอกเสียงนุ่ม นารามองตรงไปยังตัวบ้าน บ้านเดี่ยวหลังไม่ใหญ่แต่ถูกออกแบบอย่างประณีต สีนวลอ่อนของผนังตัดกับโครงไม้สีอบอุ่น ประตูไม้จริงมีลวดลายเรียบง่ายแต่แฝงความมั่นคง “สวยมากเลยค่ะ” เสียงเธอเบา ดวงตาเปล่งประกาย “เหมือนบ้านที่อยู่ในฝันตอนเด็กของฉันเลย” เขายิ้ม มองเธอด้วยแววตาที่มีแสงสะท้อนบางอย่าง “ผมอยากให้มันเป็นมากกว่าฝัน…อยากให้คุณรู้ว่า ที่นี่...คุณจะไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไปแล้ว” ภายในบ้านอบอวลด้วยกลิ่นใหม่และแสงธรรมชาติจากช่องแสงบนเพดานสูง พวกเขาเดินไปด้วยกัน ดูทีละห้อง ห้องรับแขกโปร่งโล่งเชื่อมต่อกับครัวเปิด ห้องนั่งเล่นเล็ก ๆ ที่มีหน้าต่างบานใหญ่รับวิวสวนหลังบ้าน พอขึ้นมาชั้นสอง เธอก็หยุดอยู่หน้าห้องหนึ่ง “ห้องน

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 141 ให้วันนั้นเป็นจุดจบของเธอ

    เสียงของเขาไม่ได้ดังก้อง แต่น้ำหนักของถ้อยคำแต่ละพยางค์ กลับกรีดอากาศให้บางยิ่งกว่าใบมีด “อย่าให้เธอได้อยู่อย่างเป็นสุขแม้แต่วันเดียว…” “ฉันไม่สนวิธีไหน กด เฆี่ยน ล่อหลอก ดึงจิตใจเธอให้สั่นไหว ทำทุกอย่างที่จำเป็น” เจ้าหน้าที่ชะงักวูบ แววตาเขาสะท้อนความลังเลเพียงเสี้ยววินาที แต่ก็หายไปทันทีเมื่อสบตารัฐมนตรี “เค้นออกมาให้ได้ ไม่ว่าจะต้องใช้ความเจ็บปวดแค่ไหน” เสียงของเขาต่ำลง “หาที่ซ่อนตัวของลาริสาให้เจอ” จากนั้น เขาเงียบไปครู่ ก่อนพูดประโยคสุดท้ายช้า ชัด และราวกับตอกตรึงไว้ในอากาศ “และในวันที่เธอปริปากบอกเรา…ให้วันนั้นเป็นจุดจบของเธอ” เจ้าหน้าที่ข้างกายพยักหน้ารับเบา ๆ เสียงรองเท้าหนัก ๆ เริ่มเคลื่อนออกจากคฤหาสน์ ร่างของวิลัยลักษณ์ถูกพาไปยังรถคุมขังที่รออยู่ด้านนอก ใบหน้าเธอยังมีรอยยิ้มเยาะอยู่จาง ๆ แต่ในแววตา…มีบางสิ่งเริ่มเปลี่ยนไป เหมือนเธอกำลังรู้ตัวว่า “เกม” ที่คิดว่าควบคุมได้…อาจกลายเป็น “นรก” ที่เธอสร้างขึ้นไว้ให้ตัวเอง บันไดหินอ่อนภายในคฤหาสน์เดชาสกุลวงศ์ เงาของโคมไฟแก้วระย้าไหวระริกตามแรงลมที่ลอดเข้ามาเพียงแผ่วเบา ภายนอก...รถควบคุมตัวเคลื่อ

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 140 มันจะไม่หยุดแค่เรื่องข่าวหรือธุรกิจ

    คฤหาสน์ตระกูลเดชาสกุลวงศ์ ห้องโถงใหญ่เงียบงัน จอทีวีฉายข่าวแบบเรียลไทม์ น้ำเสียงผู้ประกาศนิ่ง เรียบ แต่อัดแน่นด้วยพลังของ “ความจริง” คุณวิลัยลักษณ์ ยืนมองอยู่กลางห้อง ไม่มีใครกล้าเอ่ยอะไร แม้แต่คนสนิทที่สุดของเธอ มือของเธอกำหมัดแน่น เล็บจิกเข้ากับเนื้อจนเลือดซึม แต่เธอไม่รู้สึกถึงความเจ็บอีกแล้ว ทุกอย่างที่เธอวางไว้… กลับย้อนใส่ตัวเอง เสียงโทรศัพท์เริ่มดังขึ้นไม่หยุด ทั้งจากนักข่าว หน่วยงานรัฐ และทนายของเธอ แต่เธอไม่รับแม้แต่สายเดียว เธอเพียงหลุบตามองโต๊ะ… ที่วางภาพของ ปกรณ์ ในวันที่ยังยิ้มได้ ภาพที่ไม่เหลือความจริงอยู่ในวันนี้แม้แต่น้อย ... อีกฟากหนึ่ง ที่ซาเลียน อินโนเวชั่น ข่าวเปิดโปงถูกรายงานซ้ำในทุกช่องทาง ทีมงานหลายคนถอนหายใจออกมาเงียบ ๆ อย่างโล่งอก ภานุวัฒน์เดินเข้ามาพร้อมรายงานล่าสุด “ตอนนี้ฝ่ายข่าวหลักเจ็ดสำนักตรวจสอบแล้ว ทุกอย่างตรงกับที่เราส่ง ไม่มีข้อโต้แย้ง” เขายิ้มบาง “ถ้าข่าวนี้ออกไปเร็วกว่านี้อีกนิด เธอคงไม่ได้ทันปล่อยข่าวปลอมมาปั่นด้วยซ้ำ” ธีภพไม่พูดอะไร เขาหันไปมองนาราที่นั่งเงียบอยู่ที่มุมห้อง เธอเงยหน้าขึ้นสบตาเขา “ยังไม่หมด

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 139 พ่อที่ไร้ความสามารถ

    ท่านวิศรุตหรี่ตา ใบหน้าแข็งราวหิน “คุณกำลังจะบอกว่าในประเทศนี้…ไม่มีใครตามรถตู้คันหนึ่งได้เลย?” ไม่มีเสียงตอบ หัวหน้าหน่วยวางซองรายงานสรุปลงเบื้องหน้า “มีข้อมูลชัดเพียงจุดเดียวครับ…” เขาเปิดหน้าแผนที่ขนาดเล็ก “รถคันสุดท้ายถูกพบครั้งสุดท้ายพร้อมศพของชายสองคน ใกล้เขตชายแดนด้านตะวันตก แล้วหลังจากนั้น…ไม่มีร่องรอยอีกเลยครับ” ท่านวิศรุตนิ่งไปครู่ใหญ่ เหมือนโลกทั้งใบหยุดหายใจ “หมายความว่า…มันหลุดออกนอกประเทศไปแล้ว?” หัวหน้าหน่วยพยักหน้า “ครับ และเรายังไม่รู้ว่า…หลุดไป ในนามใคร” ... ค่ำวันนั้น กระทรวงฯ เริ่มขยับทั้งระบบ เครือข่ายข่าวกรองพิเศษถูกสั่งระดมทันที หน่วยลับชายแดนถูกขยายกำลัง รายชื่อขบวนการลักพาตัวที่เชื่อมโยงกับการค้าคน ถูกสั่งรื้อทุกแฟ้ม แต่ไม่ว่าจะเร่งแค่ไหน…ก็ยังไม่มีคำว่า “เจอ” ... ยามค่ำในห้องทำงานส่วนตัว ไฟเพดานสลัวลง เหลือเพียงแสงจากจอคอมพิวเตอร์ที่สว่างจ้า รัฐมนตรีวิศรุตนั่งนิ่ง สองมือทับกันบนโต๊ะ แววตาเขา...เปลี่ยนไป จากนักการเมืองผู้เด็ดขาด กลายเป็นพ่อที่ไร้ความสามารถจะปกป้องสิ่งเดียวที่สำคัญที่สุดในชีวิต เขาก้มหน้าลงช้า

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 138 เกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย

    หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ลาริสา ยิ้มบางเบา ขณะพูดขอบคุณเจ้าของร้านขนม เธอเพิ่งแวะซื้อขนมกล่องเล็ก ๆ กลับไปฝากคุณแม่ ก่อนจะก้าวไปยังรถที่รออยู่ริมถนน เธอกำลังเก็บกระเป๋าเงิน ก็นึกขึ้นมาได้ว่าเผลอวางโทรศัพท์ลืมไว้ที่ร้าน เธอหันมาบอกคนขับรถ "ฉันลืมของไว้ เดี๋ยวขอวิ่งกลับไปหยิบก่อนนะคะ” ไม่มีอะไรน่าสงสัย ร้านเงียบ รถราบนถนนมีไม่มาก เสียงบีบแตรเบา ๆ ดังมาจากระยะไกล ขณะที่เธอก้าวหันกลับเพียงไม่กี่ก้าว... ประตูรถตู้สีดำ ก็เปิดออกโดยไร้เสียงเตือน ชายสองคนในชุดเข้ม พุ่งเข้าใส่เธอด้วยความแม่นยำ มือหนึ่งปิดปาก อีกมือรั้งแขนไว้แน่น แรงพอให้เธอทรุดโดยไม่ทันร้อง ลาริสาหายไปในความเงียบ ภายในรถตู้ เธอถูกกดร่างให้นอนราบ แขนขาถูกพันด้วยเทปพันสายไฟอย่างแน่นหนา ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจสุดขีด น้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว เสียงในลำคอเป็นเพียงอากาศแห้งที่ไม่ออกมาเป็นคำ เธอไม่รู้ว่าใครทำ ไม่รู้ว่ากำลังจะถูกพาไปไหน แต่สิ่งที่แน่นอนคือ... ไม่มีใครได้ยินเสียงเธอเลย ................ ในอีกมุมของเมือง แสงหน้าจอคอมพิวเตอร์ กะพริบเบา ๆ ท่ามกลางความมืดของห้องทำงานใต้ดิน ข่าวปลอมชุดแรก ถ

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 137 กลายเป็นผู้พิการอย่างถาวร

    คุณวิลัยลักษณ์ เดชาสกุลวงศ์ ก้าวลงจากรถแทบจะทันทีที่ประตูเปิด ไม่สนรองเท้าส้นสูง ไม่สนว่าใครอยู่ตรงไหน เธอพุ่งเข้าไปในโกดัง ร่างของหญิงวัยกลางคนวิ่งฝ่าความมืดจนเห็นร่างที่นอนนิ่งอยู่กลางพื้น “ปกรณ์!!” เสียงเธอแทบขาดใจ น้ำเสียงที่เคยสง่างามกลายเป็นเสียงร้องของคนเป็นแม่ ร่างของลูกชายเธอ ถูกทำลายไม่มีชิ้นดี อวัยวะที่เป็นความภาคภูมิใจ ของสายเลือดชายในตระกูล...ไม่มีอีกแล้ว เธอทรุดตัวลงข้างร่างนั้น สองมือสั่นระริกเมื่อแตะร่างที่ยังอุ่น แต่ไม่ตอบสนอง ริมฝีปากเธอสั่นระรัว...ดวงตาเบิกกว้าง คุณวิลัยลักษณ์ทรุดตัวลงข้างร่างของปกรณ์ สองมือเธอสั่นระริกขณะพยายามแตะไหล่ลูกชายที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นซีเมนต์แข็ง เลือดไหลซึมเปื้อนพื้นอยู่รอบกายเขา และไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเลย...นอกจากเธอกับเขา เธอกวาดตามองไปรอบโกดังด้วยดวงตาที่สั่นด้วยทั้งความหวาดกลัวและความสับสน ไม่มีเงาของคนที่ลงมือ ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของรถ มีเพียง ความเงียบ ที่ราวกับตะโกนกรอกหูเธอว่า สายเกินไปแล้ว “ปกรณ์…ปกรณ์ลูกแม่...” เสียงเธอพร่าแตกขณะพยายามเรียก แต่ไม่มีคำตอบจากร่างที่นอนนิ่ง เธอหันไปสั่งลูกน้องด้วย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status