Beranda / โรแมนติก / ในเงาของหัวใจ / บทที่ 43 ขอเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง

Share

บทที่ 43 ขอเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-19 12:40:39

"เริ่มจากวันนี้ ขยายอาณาเขตธุรกิจของเราออกไปทุกด้านให้เร็วที่สุด" เสียงของธีภพเยือกเย็นแต่ทรงพลัง ราวกับไม่มีที่ว่างให้ความลังเลใด ๆ

"ผมต้องการให้ซาเลียนยืนอยู่ในทุกอุตสาหกรรมที่เดชาสกุลวงศ์เคยครอบครอง"

ภานุวัฒน์หันมามองอย่างเข้าใจ ไม่มีคำถามไม่มีข้อแม้

"ใหญ่กว่า... แกร่งกว่า... และเป็นคู่แข่งที่พวกเขาจะไม่มีวันลบออกจากเส้นทางได้"

ธีภพสบตาเพื่อนสนิทที่ร่วมฝ่าฟันมาด้วยกัน ในแววตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความเงียบงัน แต่ชัดเจนราวกับเปลวเพลิง

"ฉันจะไม่ยอมให้ใครแตะต้องนาราได้อีกต่อไป... และฉันจะไม่ยอมอยู่ใต้คำสั่งของพ่ออีกแล้ว"

แผนเกมเริ่มต้นขึ้นแล้ว ไม่ใช่เพื่อเอาชนะเพียงธุรกิจ แต่เพื่อสร้างอาณาจักรที่เขาจะใช้ปกป้อง...ผู้หญิงเพียงคนเดียว

..............

หลายวันผ่านไปหลังจากเหตุการณ์ในร้านอาหาร ช่วงเวลานั้นสำหรับนาราค่อย ๆ กลายเป็นเพียงอดีตไกล ๆ ที่เธอไม่อยากย้อนกลับไปมอง

ธีภพไม่ได้ติดต่อ ไม่ได้ปรากฏตัวอีกเลย และเธอก็ค่อย ๆ เรียนรู้ที่จะกลับมาอยู่คนเดียวอีกครั้ง แม้จะไม่ใช่ความเคยชินที่สบายใจนัก แต่ก็เป็นความจำเป็นที่ต้องยอมรับ

พราวฟ้ายังคงแวะเวียนมาหาเธออยู่เสมอ แม้จะไม่บ่อยเท
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 44 ชายปริศนา

    “ขอโทษนะครับ…รบกวนเวลาสักครู่ได้ไหม” เสียงทุ้มต่ำเรียบนิ่งของเขาดังขึ้นข้างโต๊ะ ทำให้นาราเงยหน้าขึ้นมองด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย ชายหนุ่มยิ้มน้อย ๆ พลางยื่นมือออกมาอย่างสุภาพ “ฮารุโตะ เคนซากิ... แต่คุณเรียกผมสั้น ๆ ว่า ‘เคน’ ก็ได้นะครับ” น้ำเสียงนั้นนุ่มทุ้ม เจืออารมณ์อ่อนโยนแฝงความหนักแน่น และที่น่าประหลาดคือ…ไม่มีแววเจ้าชู้หรือความโลมเลียใดในแววตา มีเพียงความสนใจบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้ชัดเจน พราวฟ้าหันไปมองคีรณัฐอย่างสงสัย ส่วนนารายังเงียบ ดวงตาสบกับเขาเพียงครู่ แล้วจึงยกแก้วจิบเครื่องดื่มในมือตัวเอง “คุณมีธุระอะไรกับฉันเหรอคะ” เสียงของเธอเรียบเย็น แต่ก็ไม่ได้ตัดไมตรี ชายหนุ่มยิ้มอีกครั้ง ยิ้มบาง ๆ ที่ดูมีเสน่ห์ราวกับชายในฝันของนิยายญี่ปุ่นเล่มโปรด “เปล่าครับ แค่รู้สึกว่าคืนนี้คุณดูไม่เหมือนใคร...คุณนาราลองคิดดี ๆ พอจะนึกอะไรออกบ้างไหมครับ” และเพียงประโยคนั้น…ก็เหมือนมีบางอย่างสะเทือนเบา ๆ ในใจของนารา โดยที่เธอเองก็ยังไม่ทันได้รู้ตัว เขารู้จักชื่อของเธอ! เธอมองเขาอีกครั้ง คราวนี้จ้องลึกลงไปในแววตา และทันใดนั้น... ภาพจำบางอย่างก็ผุดขึ้นมาในหัว ใบหน้าเด็กหนุ่มที

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-19
  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 45 หรือว่ากำลังจะมีสงครามเกิดขึ้น

    ภานุวัฒน์ที่ยืนเคียงข้างอยู่เงียบ ๆ มาตลอด เหลือบมองสีหน้าเพื่อนด้วยหางตา ก่อนจะยกแก้วในมือตัวเองขึ้นจิบ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะเบา ๆ "เออ...ฉันว่าคุณนาราในคืนนี้ดูจะร้อนแรงเกินไปสำหรับสายตาคนบางคนเลยนะครับท่านประธาน" ธีภพตวัดตามองเพื่อนเล็กน้อย แววตาไม่ได้กร้าว แต่ก็ไม่อาจปิดบังอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านได้มิด ภานุวัฒน์ยักคิ้วเล็ก ๆ แล้วเอ่ยต่อ "หรือว่า...วันนี้กำลังจะมีสงครามเกิดขึ้น" "จะลงไปหรือจะทนดูเฉย ๆ ดีล่ะ...ไม่แน่นะ พี่ชายลูกครึ่งคนนั้นอาจจะไม่ใช่แค่คนแวะมาชนแก้วก็ได้" “ไอ้วัฒน์” ธีภพส่งเสียงเรียกชื่อเพื่อนเบา ๆ แฝงแววตำหนิ “คร้าบบ ผมเงียบก็ได้ครับท่านประธานผู้เย็นชา” เขาหัวเราะเบา ๆ แต่ยังไม่วายหันไปมองนาราอีกครั้ง “แต่ขอบอกเลยนะ ว่าถ้าเป็นฉัน... ฉันไม่ปล่อยผู้หญิงแบบนั้นให้ใครมานั่งข้างเฉย ๆ แน่” ธีภพไม่ตอบ เขาเพียงแค่มองลงไปเบื้องล่างเงียบ ๆ เธออยู่ตรงนั้น หัวเราะเบา ๆ กับชายอีกคนราวกับไม่เคยรู้จักเขามาก่อน เขาควรจะเดินลงไป…ควรจะคว้ามือเธอออกมา แต่เขากลับทำไม่ได้ เพราะความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอ ยังไม่มีชื่อเรียก เพราะเขา...ยังไม่สามารถแสดงความเป็นเจ้าข

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-19
  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 46 นายต้องไปช่วยนาราจากชายคนนั้น

    ชายร่างสูงในชุดลำลองเรียบหรูยืนพิงกำแพงตรงมุมทางเดินข้างห้องน้ำ ใบหน้าคมเข้มภายใต้แสงไฟสลัวแสดงออกถึงความเงียบขรึม ดวงตาของเขาจ้องมองตรงมาที่นารา “ธีภพ...” เสียงของนาราเบาหวิว ขณะที่หัวใจเต้นสะดุดวูบ ไม่มีการเคลื่อนไหวจากเขา มีเพียงแววตาแน่วแน่ที่มองมาเหมือนรู้ว่าเธอจะผ่านมาทางนี้ และตั้งใจจะรออยู่ที่นี่ “ไปกับผม” เสียงทุ้มต่ำของเขาดังขึ้นทันทีที่นาราก้าวออกมาจากห้องน้ำ แววตาของธีภพจริงจังอย่างที่เธอไม่ค่อยได้เห็นนัก นาราชะงัก มองหน้าเขาด้วยแววตาแข็งเฉียบ “ฉันไม่ไป...” “นารา คุณฟังผมก่อน” เขาก้าวเข้ามาใกล้ พยายามจะจับข้อมือเธอเบา ๆ แต่เธอกลับถอยออกเล็กน้อย สีหน้าไม่ไว้ใจยังคงชัดเจน “ฉันไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น” เธอสวนเสียงเรียบ ก่อนจะสะบัดมือออกจากการสัมผัสของเขาอย่างดื้อดึง “ฟ้า เรากลับโต๊ะเถอะ” พราวฟ้าพยักหน้า รีบจูงมือนาราเตรียมจะเดินหนี ทว่า... “ไม่” เสียงเขาต่ำลงจนแทบเป็นเสียงกระซิบ หากแต่ชัดเจนราวกับมีแรงกระแทกในอก “ต่อให้คุณจะโกรธ จะเกลียด หรือไม่อยากเห็นหน้าผมเลย ผมก็จะไม่ปล่อยคุณไป” คำพูดนั้นแทบไม่เปิดโอกาสให้นาราตอบโต้อะไร เขาก้าวเข้ามาแล้วจับข้อมือเธอไว้อีกค

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-19
  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 47 ไม่ใช่ทั้งหมดของความจริง

    ธีภพไม่ตอบในทันที เขายืนนิ่ง สีหน้าคล้ายไม่เปลี่ยนแปลง แต่แววตาใต้เงาแสงไฟกลับลุ่มลึก...ราวกับกำลังอดกลั้นอะไรบางอย่างไว้เต็มอก “ผมแค่ต้องการจะคุยกับคุณ” เสียงเขาทุ้มต่ำ นุ่มแต่มั่นคง “นารา คุณไม่ยอมฟังผมเลย” “ทำไมฉันต้องฟัง?” เธอสวนกลับทันควัน “เรารู้จักกันไม่นาน คุณก็กล้าพอที่จะทำเหมือนเราสนิทกัน ทั้งที่ฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณเป็นใคร เป็นคนยังไงกันแน่!” “คุณแน่ใจเหรอว่าเรายังไม่สนิทกัน” เขาตอบเรียบ ๆ สายตาที่จ้องมองเธอมีประกายวาบผ่าน “ก่อนหน้านี้เราก็รู้จักกันอย่างลึกซึ้ง...ไม่ใช่เหรอ?” นารานิ่งงัน ริมฝีปากเม้มแน่น เธอรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร ในค่ำคืนนั้น การสัมผัสอย่างแนบชิด ความสัมพันธ์ที่ก้าวผ่านจุดนั้นไปแล้ว...ความรู้สึกบางอย่างที่มันไม่ควรเกิดเร็วขนาดนี้ แต่มันก็เกิดขึ้นกับคนทั้งคู่ “อย่าเอาเรื่องพวกนั้นมาหักล้างสิ่งที่คุณทำกับฉัน” เธอพูดเสียงเครือ “คุณหายไป ไม่มีคำอธิบาย ไม่มีเหตุผล แล้ววันหนึ่งคุณก็ปรากฏตัวอีก พร้อมกับผู้หญิงคนอื่นข้างกายคุณ” ธีภพขยับเข้าใกล้ช้า ๆ ดวงตาคมเข้มจับจ้องเธอไม่คลาด “ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่อย่างที่คุณคิด—” “ไม่ใช่เหรอ?” นาราหัวเราะในลำ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-19
  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 48 แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว

    เธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง สบตาเขาท่ามกลางความเงียบ “ก็ได้…” เสียงเธอสั่นพร่า แต่ชัดเจน “ฉันจะเชื่อคุณ…อีกครั้ง” ธีภพนิ่งงัน ดวงตาเขาสั่นไหวอย่างเห็นได้ชัด “แต่ไม่ได้เพราะคำพูดของคุณ” เธอพูดต่อ “เพราะฉันเองก็อยากรู้…ว่าคุณจะทำอะไรต่อไป” “ฉันยังไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร...คุณกำลังเล่นเกมอะไรอยู่ แต่ในเมื่อคุณยังไม่ยอมบอก...ฉันจะรอดูด้วยตาตัวเอง” เธอสูดลมหายใจลึก เช็ดน้ำตาออกอย่างเงียบงัน ก่อนจะถอยหนึ่งก้าว “แค่ครั้งนี้นะธีภพ…” เธอกระซิบ “แค่ครั้งเดียว” แล้วเธอก็หันหลัง ปล่อยให้ความสับสนและความหวังเดินเคียงข้างกัน ในหัวใจที่ยังไม่รู้เลย...ว่าจุดจบของความเชื่อครั้งนี้จะเป็นอะไร เสียงส้นรองเท้าดังแผ่วในโถงบาร์ที่ยังครึกครื้น แสงไฟสีทองสะท้อนเงาร่างของหญิงสาวที่เพิ่งเดินลงมาจากชั้นบน ท่ามกลางเสียงหัวเราะและบทสนทนาจากโต๊ะรอบข้าง พราวฟ้าและคีรณัฐเงยหน้าขึ้นทันทีที่เห็นเธอ “นารา!” พราวฟ้าลุกพรวดขึ้นทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “เธอโอเคไหม?” นารายิ้มบาง ๆ แม้รอยยิ้มนั้นจะเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า เธอส่ายหน้าเบา ๆ แทนคำตอบ แล้วนั่งลงข้างเพื่อนรักอย่างเงียบงัน คีรณัฐเลื่อนแก้วน้ำเปล่ามาให้

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-19
  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 49 ซาเลียน อินโนเวชั่น

    กิตติธัชทรุดนั่งลงโดยไม่รอช้า ท่าทางยังพยายามเก็บความตื่นเต้นไว้ภายใต้ภาพลักษณ์สงบนิ่ง “ผมมั่นใจว่าความร่วมมือระหว่างกลุ่มของเรากับซาเลียน จะสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับทั้งสองฝ่าย” เขาพูดเสียงนิ่งแต่แฝงแรงเร่งเร้า ภานุวัฒน์เปิดแฟ้มตรงหน้าอย่างเชื่องช้า ปลายนิ้วเคาะขอบกระดาษเบา ๆ คล้ายใช้เวลาพิจารณามากกว่าจำเป็น “ผมก็หวังอย่างนั้นครับ…แต่เราต้องมั่นใจก่อนว่า พันธมิตรของเรารู้ดีว่ากำลังจะก้าวเข้าไปในทิศทางแบบไหน” ดวงตาของกิตติธัชไหววูบ “ผมรู้ว่ามันไม่ง่าย แต่ผมก็ไม่ได้เข้ามาเพราะต้องการทางลัด ผมต้องการพันธมิตรที่กล้าชนกับระบบเก่า และซาเลียน…คือโอกาสเดียวที่มีอยู่ในตอนนี้” ภานุวัฒน์เลิกคิ้วเล็กน้อย ยกแก้ววิสกี้ขึ้นจิบอย่างไม่รีบเร่ง “ผมดีใจที่คุณมองเห็นแบบนั้น…แต่ต้องเข้าใจด้วยว่า ซาเลียนไม่ได้จับมือใครเพื่อ ‘ช่วยเหลือ’ แต่เราเลือกคนที่ ‘ควรมีที่ยืน’ เคียงข้างเราในวันที่โลกเปลี่ยน” กิตติธัชนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะค้อมศีรษะเล็กน้อย “ผมเข้าใจ และผมพร้อม” ภานุวัฒน์พยักหน้าเบา ๆ ดันปากกาให้ชายตรงหน้าช้า ๆ “ถ้าอย่างนั้น…เซ็นได้เลย” ในขณะที่กิตติธัชก้มหน้าลงเซ็นชื่อ เงามืดในมุมหนึ่งหลังฉา

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-19
  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 50 แผนเปิดตัวคู่รักอย่างเป็นทางการ

    ท่านวิศรุตพยักหน้าช้า ๆ รอยยิ้มมุมปากไม่จาง “ผมไม่รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังจริง ๆ แต่ดูจากการขยับหมากของเขา…คนพวกนี้ไม่ได้เข้ามาเล่น ๆ” เขาเอนหลัง สบตาพฤกษ์ไพศาลด้วยสายตาคนร่วมสนาม “ถ้าคุณอยากให้โครงการเมืองใหม่นี้ขยายตัวโดยไร้แรงต้าน บางทีเราควรเริ่มศึกษาพันธมิตรคนนี้ไว้บ้าง” พฤกษ์ไพศาลวางถ้วยกาแฟลงช้า ๆ เสียงกระทบจานเบาแต่วาบหวิว “ท่านหมายถึง…ชักชวนให้เขาเข้ามาร่วมใช่ไหม?” “อาจจะ” ท่านวิศรุตตอบ “ถ้าเขายังไม่เลือกฝ่ายไหน” พฤกษ์ไพศาลนิ่งคิดเพียงครู่ ดวงตาเขาหลุบต่ำก่อนจะเชิดขึ้นอีกครั้งอย่างทรงพลัง เขาเอนหลังพิงพนักเก้าอี้หนังแท้ แววตาฉายแววคิดคำนวณ ดวงตาเหยี่ยวคู่นั้นกวาดมองแฟ้มเอกสารบนโต๊ะอย่างผิวเผิน แต่ลึกลงไป...เขาเห็นมากกว่านั้น “เรื่องของซาเลียน” เสียงเขานิ่งราบ แต่แฝงความรู้ทัน “เราคงต้องให้คนของเราลองล้วงข้อมูลดูอีกสักหน่อย...” ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเล็กน้อยก่อนเอ่ยต่อ “เขาเปิดตัวอย่างเงียบแต่แรง...ไม่มีใครรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง แต่อิทธิพลที่กระเพื่อมขึ้นมาน่ะ ไม่เงียบตามเลย” ท่านรัฐมนตรีวิศรุตที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ รอยยิ้มของเขาดูอ่อนโยน แต่ไม่เคยเ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-19
  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 51 หญิงสาวที่เหมาะสมและคู่ควร

    เพียงประโยคนั้น…มือที่ถือโทรศัพท์ของธีภพก็แน่นขึ้นทันที ริมฝีปากเขาขบเป็นเส้นตรง ก่อนพูดตอบเสียงต่ำ “…ครับ ผมจะไป” เมื่อวางสาย เขานั่งนิ่งอยู่นาน เหมือนแรงกดทับที่มองไม่เห็นกำลังถาโถมจากทุกทิศ .............. ค่ำคืนของวันเสาร์ ณ ห้องจัดเลี้ยงโรงแรมระดับห้าดาว แสงไฟสีทองสว่างเรืองรองเหนือหัว แขกในชุดราตรีและสูทระดับหรูเริ่มทยอยเข้ามาร่วมงาน ท่ามกลางเสียงเพลงแจ๊สคลอเบา ๆ กลิ่นไวน์ชั้นดีผสมกับบรรยากาศหรูหรา เสมือนโลกของผู้คนที่ไม่เคยตกจากจุดสูงสุด งานคืนนี้ไม่ใช่เพียงงานสังสรรค์ แต่เป็น “สนามต่อรอง” ของผลประโยชน์ ความร่วมมือ และการประกาศอิทธิพลของแต่ละกลุ่มทุน นารา วรเมธินทร์ ก้าวเข้ามาในงานด้วยความมั่นใจในฐานะซีอีโอสาวแห่งวรเมธินทร์กรุ๊ป ชุดเดรสสีไวน์แดงแนบลำตัวที่เธอสวมดูสง่างามและเยือกเย็นพอจะสะกดทุกสายตา ข้างกายคือ พี่ศิตา เลขาคู่ใจที่เปรียบเสมือนเงาเดินข้างกันในทุกสถานการณ์ “คืนนี้คงมีอะไรให้จับตามองไม่น้อยนะคะ” ศิตาพูดเบา ๆ ขณะยื่นรายชื่อแขกให้เธอดู “คนที่มา...ไม่ใช่แค่นักธุรกิจ แต่หลายคนคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการเมือง การเงิน และการเคลื่อนไหวของทั้งวงการ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-20

Bab terbaru

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 145 ค่ำคืนแห่งชั่วนิรันดร์

    “เหนื่อยไหมครับ?” เขาถามเมื่อพาเธอเข้ามานั่งบนโซฟา “ไม่ค่ะ…แค่ใจเต้นแรงอยู่เรื่อยเลย” เธอยิ้มบาง ๆ พูดออกมาอย่างเขิน ๆ ธีภพหัวเราะในลำคอเบา ๆ ก่อนจะโน้มตัวลงกระซิบใกล้ใบหูเธอ “ใจคุณเต้นแรง…แต่ใจผมแทบจะระเบิด” นาราหัวเราะคิก แล้วตีไหล่เขาเบา ๆ แต่มือของเขากลับยื่นมาจับมือนั้นไว้ และแนบมันไว้กับอกเขา ภายในห้องนอน แสงไฟสีอำพันคลี่คลุมห้องทั้งห้องไว้ด้วยความอบอุ่น กลิ่นหอมจาง ๆ จากดอกไม้ข้างเตียงแตะจมูกเบา ๆ เสียงหัวใจสองดวงที่กำลังใกล้กันทีละนิด…ดังกว่าเสียงใด ๆ ธีภพยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ดวงตาเขามองเธอราวกับเธอเป็นของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิต ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือไปปลดเครื่องประดับผมของเธอออกช้า ๆ เส้นผมดำขลับสยายลงบนบ่าขาว เธอหลับตาลงช้า ๆ รับสัมผัสจากปลายนิ้วของเขา “คุณรู้ไหม” เขากระซิบ “ผมฝันถึงค่ำคืนนี้มานานมาก ฝัน…ถึงวันที่คุณจะอยู่ในอ้อมแขนผม ไม่ใช่แค่ชั่วคืน แต่ตลอดชีวิต” เธอไม่ตอบ เพียงยิ้ม และยื่นมือไปแตะแก้มเขาเบา ๆ “และฉันก็เลือกจะอยู่ตรงนี้…กับคุณ ทั้งในคืนนี้ และคืนไหน ๆ ที่ยังมีลมหายใจอยู่” ธีภพก้มลงจูบหน้าผากเธออย่างแผ่วเบา จากนั้นป

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 144 นึกว่าเธอหานงยสาบสูญไปแล้ว

    วันแต่งงานที่รอคอยมาถึง เช้าวันนั้น แสงแดดยามสายทอดอุ่นลงบนสนามหญ้าเขียวขจี สายลมพัดผ่านแผ่วเบา กลีบดอกไม้ที่ประดับอยู่ตามซุ้มขาวเคลื่อนไหวราวกับเต้นรำรับจังหวะหัวใจของใครบางคน บริเวณงานถูกจัดเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยรายละเอียดที่เต็มไปด้วยความใส่ใจ ผ้าคลุมบางเบา โทนสีขาวครีมผสมกลิ่นกุหลาบอ่อน ๆ ลอยในอากาศ ดนตรีจากเปียโนคลอเบา ๆ ท่ามกลางเสียงพูดคุยของแขกที่มาด้วยรอยยิ้ม ที่นี่...คือสถานที่ซึ่งหัวใจสองดวงจะเริ่มต้นบทใหม่ ไม่ใช่แค่พิธีการ แต่เป็น "คำสัญญา" ที่กลั่นมาจากทุกบททดสอบของชีวิตที่ผ่านมา ... ภายในห้องแต่งตัว เสียงหัวเราะนุ่ม ๆ ดังขึ้นเมื่อหญิงสาวในชุดเดรสลูกไม้สีพีชก้าวเข้ามา พราวฟ้า ดาราสาวเพื่อนสนิทของนารา วางกระเป๋าเบา ๆ แล้วโผเข้ากอดเพื่อนด้วยความคิดถึง “หายไปครึ่งปี! ฉันนึกว่าเธอหายสาบสูญไปแล้วนะ” นาราหัวเราะอย่างแผ่วเบา “เกือบแล้วจริง ๆ” พราวฟ้าหัวเราะตาม “กองถ่ายเรื่องล่าสุดให้เก็บตัวขึ้นเขา ไม่มีเน็ต ไม่มีสัญญาณเลยสักเส้น ฉันนับวันรอจะได้ลงมางานนี้เลยนะรู้ไหม” สองเพื่อนสาวสบตากันอย่างเข้าใจ แม้ไม่มีคำพูดมาก แต่แววตาก็สื่อได้ว่า…เธอไม่พลาดวัน

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 143 กำหนดวันหมั้นและวันแต่งงาน

    คำพูดนั้นเรียบ แต่หนักแน่นพอจะทำให้ห้องทั้งห้องเงียบงันชั่วครู่ คุณบงกชหันไปมองนารา ลูกสาวของเธอในวันนี้…ไม่ใช่ผู้หญิงที่ยังตกอยู่ใต้เงาอดีตอีกต่อไป แต่คือผู้หญิงที่ยืนอย่างมั่นคง ข้างคนที่เลือกจะปกป้องเธอจนสุดทาง การพูดคุยหลังจากนั้นดำเนินไปอย่างอบอุ่น กำหนดวันหมั้นและวันแต่งงานถูกพูดถึงทีละลำดับ เสียงหัวเราะดังขึ้นบ้างในจังหวะที่คุณบงกชและคุณสุวิมลคุยกัน พลางหันมาถามว่า “ตกลงต้องเตรียมห้องไว้สำหรับเวลาหลาน ๆ มาเที่ยวเล่นเลยไหมลูก?” ธีภพกับนาราสบตากันแล้วยิ้ม แบบที่ไม่ต้องมีคำตอบ เพราะคำตอบอยู่ในดวงตาคู่นั้น…ที่มองกันราวกับโลกทั้งใบมีแค่คนสองคน หลังจากบทสนทนาเรื่องวันสำคัญสิ้นสุดลง ในขณะที่ทุกคนยังนั่งพูดคุยกันด้วยรอยยิ้มอบอุ่น นาราค่อย ๆ ลุกขึ้น เธอไม่ได้เอ่ยคำใด เพียงสบตาธีภพอย่างแผ่วเบา ก่อนจะหมุนกาย ก้าวขึ้นสู่ชั้นบนของบ้านที่เต็มไปด้วยความทรงจำ บ้านสไตล์เรียบหรูที่แวดล้อมด้วยสีอุ่นและแสงเงานุ่มนวล เงียบพอให้ได้ยินเสียงหัวใจตัวเองทุกครั้งที่ก้าวเท้า เธอหยุดหน้าห้องห้องหนึ่ง ประตูไม้สีอ่อนเรียบสะอาดบานนั้นไม่ได้ถูกเปิดมานานหลายปี เพราะมันคือห้

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 142 เรือนหอ

    ไม่กี่วันถัดมา แสงแดดอุ่นยามสายสาดลงบนระเบียงหน้าบ้านสองชั้นสไตล์เรียบหรู เส้นสายของรั้วขาวตัดกับสวนสีเขียวขนาดย่อมอย่างลงตัว เงาของต้นปีบที่ปลูกใหม่เพิ่งเริ่มผลิใบสะท้อนบนกระจกหน้าต่างชั้นสอง ธีภพ ก้าวลงจากรถก่อนจะเดินอ้อมมาเปิดประตูให้เธอ มือเขายื่นออกมาโดยไม่ต้องเอ่ยคำ เธอก็วางมือลงในมือเขาอย่างคุ้นเคย “บ้านหลังนี้…จะเป็นเรือนหอของเรานะ” เขาบอกเสียงนุ่ม นารามองตรงไปยังตัวบ้าน บ้านเดี่ยวหลังไม่ใหญ่แต่ถูกออกแบบอย่างประณีต สีนวลอ่อนของผนังตัดกับโครงไม้สีอบอุ่น ประตูไม้จริงมีลวดลายเรียบง่ายแต่แฝงความมั่นคง “สวยมากเลยค่ะ” เสียงเธอเบา ดวงตาเปล่งประกาย “เหมือนบ้านที่อยู่ในฝันตอนเด็กของฉันเลย” เขายิ้ม มองเธอด้วยแววตาที่มีแสงสะท้อนบางอย่าง “ผมอยากให้มันเป็นมากกว่าฝัน…อยากให้คุณรู้ว่า ที่นี่...คุณจะไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไปแล้ว” ภายในบ้านอบอวลด้วยกลิ่นใหม่และแสงธรรมชาติจากช่องแสงบนเพดานสูง พวกเขาเดินไปด้วยกัน ดูทีละห้อง ห้องรับแขกโปร่งโล่งเชื่อมต่อกับครัวเปิด ห้องนั่งเล่นเล็ก ๆ ที่มีหน้าต่างบานใหญ่รับวิวสวนหลังบ้าน พอขึ้นมาชั้นสอง เธอก็หยุดอยู่หน้าห้องหนึ่ง “ห้องน

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 141 ให้วันนั้นเป็นจุดจบของเธอ

    เสียงของเขาไม่ได้ดังก้อง แต่น้ำหนักของถ้อยคำแต่ละพยางค์ กลับกรีดอากาศให้บางยิ่งกว่าใบมีด “อย่าให้เธอได้อยู่อย่างเป็นสุขแม้แต่วันเดียว…” “ฉันไม่สนวิธีไหน กด เฆี่ยน ล่อหลอก ดึงจิตใจเธอให้สั่นไหว ทำทุกอย่างที่จำเป็น” เจ้าหน้าที่ชะงักวูบ แววตาเขาสะท้อนความลังเลเพียงเสี้ยววินาที แต่ก็หายไปทันทีเมื่อสบตารัฐมนตรี “เค้นออกมาให้ได้ ไม่ว่าจะต้องใช้ความเจ็บปวดแค่ไหน” เสียงของเขาต่ำลง “หาที่ซ่อนตัวของลาริสาให้เจอ” จากนั้น เขาเงียบไปครู่ ก่อนพูดประโยคสุดท้ายช้า ชัด และราวกับตอกตรึงไว้ในอากาศ “และในวันที่เธอปริปากบอกเรา…ให้วันนั้นเป็นจุดจบของเธอ” เจ้าหน้าที่ข้างกายพยักหน้ารับเบา ๆ เสียงรองเท้าหนัก ๆ เริ่มเคลื่อนออกจากคฤหาสน์ ร่างของวิลัยลักษณ์ถูกพาไปยังรถคุมขังที่รออยู่ด้านนอก ใบหน้าเธอยังมีรอยยิ้มเยาะอยู่จาง ๆ แต่ในแววตา…มีบางสิ่งเริ่มเปลี่ยนไป เหมือนเธอกำลังรู้ตัวว่า “เกม” ที่คิดว่าควบคุมได้…อาจกลายเป็น “นรก” ที่เธอสร้างขึ้นไว้ให้ตัวเอง บันไดหินอ่อนภายในคฤหาสน์เดชาสกุลวงศ์ เงาของโคมไฟแก้วระย้าไหวระริกตามแรงลมที่ลอดเข้ามาเพียงแผ่วเบา ภายนอก...รถควบคุมตัวเคลื่อ

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 140 มันจะไม่หยุดแค่เรื่องข่าวหรือธุรกิจ

    คฤหาสน์ตระกูลเดชาสกุลวงศ์ ห้องโถงใหญ่เงียบงัน จอทีวีฉายข่าวแบบเรียลไทม์ น้ำเสียงผู้ประกาศนิ่ง เรียบ แต่อัดแน่นด้วยพลังของ “ความจริง” คุณวิลัยลักษณ์ ยืนมองอยู่กลางห้อง ไม่มีใครกล้าเอ่ยอะไร แม้แต่คนสนิทที่สุดของเธอ มือของเธอกำหมัดแน่น เล็บจิกเข้ากับเนื้อจนเลือดซึม แต่เธอไม่รู้สึกถึงความเจ็บอีกแล้ว ทุกอย่างที่เธอวางไว้… กลับย้อนใส่ตัวเอง เสียงโทรศัพท์เริ่มดังขึ้นไม่หยุด ทั้งจากนักข่าว หน่วยงานรัฐ และทนายของเธอ แต่เธอไม่รับแม้แต่สายเดียว เธอเพียงหลุบตามองโต๊ะ… ที่วางภาพของ ปกรณ์ ในวันที่ยังยิ้มได้ ภาพที่ไม่เหลือความจริงอยู่ในวันนี้แม้แต่น้อย ... อีกฟากหนึ่ง ที่ซาเลียน อินโนเวชั่น ข่าวเปิดโปงถูกรายงานซ้ำในทุกช่องทาง ทีมงานหลายคนถอนหายใจออกมาเงียบ ๆ อย่างโล่งอก ภานุวัฒน์เดินเข้ามาพร้อมรายงานล่าสุด “ตอนนี้ฝ่ายข่าวหลักเจ็ดสำนักตรวจสอบแล้ว ทุกอย่างตรงกับที่เราส่ง ไม่มีข้อโต้แย้ง” เขายิ้มบาง “ถ้าข่าวนี้ออกไปเร็วกว่านี้อีกนิด เธอคงไม่ได้ทันปล่อยข่าวปลอมมาปั่นด้วยซ้ำ” ธีภพไม่พูดอะไร เขาหันไปมองนาราที่นั่งเงียบอยู่ที่มุมห้อง เธอเงยหน้าขึ้นสบตาเขา “ยังไม่หมด

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 139 พ่อที่ไร้ความสามารถ

    ท่านวิศรุตหรี่ตา ใบหน้าแข็งราวหิน “คุณกำลังจะบอกว่าในประเทศนี้…ไม่มีใครตามรถตู้คันหนึ่งได้เลย?” ไม่มีเสียงตอบ หัวหน้าหน่วยวางซองรายงานสรุปลงเบื้องหน้า “มีข้อมูลชัดเพียงจุดเดียวครับ…” เขาเปิดหน้าแผนที่ขนาดเล็ก “รถคันสุดท้ายถูกพบครั้งสุดท้ายพร้อมศพของชายสองคน ใกล้เขตชายแดนด้านตะวันตก แล้วหลังจากนั้น…ไม่มีร่องรอยอีกเลยครับ” ท่านวิศรุตนิ่งไปครู่ใหญ่ เหมือนโลกทั้งใบหยุดหายใจ “หมายความว่า…มันหลุดออกนอกประเทศไปแล้ว?” หัวหน้าหน่วยพยักหน้า “ครับ และเรายังไม่รู้ว่า…หลุดไป ในนามใคร” ... ค่ำวันนั้น กระทรวงฯ เริ่มขยับทั้งระบบ เครือข่ายข่าวกรองพิเศษถูกสั่งระดมทันที หน่วยลับชายแดนถูกขยายกำลัง รายชื่อขบวนการลักพาตัวที่เชื่อมโยงกับการค้าคน ถูกสั่งรื้อทุกแฟ้ม แต่ไม่ว่าจะเร่งแค่ไหน…ก็ยังไม่มีคำว่า “เจอ” ... ยามค่ำในห้องทำงานส่วนตัว ไฟเพดานสลัวลง เหลือเพียงแสงจากจอคอมพิวเตอร์ที่สว่างจ้า รัฐมนตรีวิศรุตนั่งนิ่ง สองมือทับกันบนโต๊ะ แววตาเขา...เปลี่ยนไป จากนักการเมืองผู้เด็ดขาด กลายเป็นพ่อที่ไร้ความสามารถจะปกป้องสิ่งเดียวที่สำคัญที่สุดในชีวิต เขาก้มหน้าลงช้า

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 138 เกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย

    หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ลาริสา ยิ้มบางเบา ขณะพูดขอบคุณเจ้าของร้านขนม เธอเพิ่งแวะซื้อขนมกล่องเล็ก ๆ กลับไปฝากคุณแม่ ก่อนจะก้าวไปยังรถที่รออยู่ริมถนน เธอกำลังเก็บกระเป๋าเงิน ก็นึกขึ้นมาได้ว่าเผลอวางโทรศัพท์ลืมไว้ที่ร้าน เธอหันมาบอกคนขับรถ "ฉันลืมของไว้ เดี๋ยวขอวิ่งกลับไปหยิบก่อนนะคะ” ไม่มีอะไรน่าสงสัย ร้านเงียบ รถราบนถนนมีไม่มาก เสียงบีบแตรเบา ๆ ดังมาจากระยะไกล ขณะที่เธอก้าวหันกลับเพียงไม่กี่ก้าว... ประตูรถตู้สีดำ ก็เปิดออกโดยไร้เสียงเตือน ชายสองคนในชุดเข้ม พุ่งเข้าใส่เธอด้วยความแม่นยำ มือหนึ่งปิดปาก อีกมือรั้งแขนไว้แน่น แรงพอให้เธอทรุดโดยไม่ทันร้อง ลาริสาหายไปในความเงียบ ภายในรถตู้ เธอถูกกดร่างให้นอนราบ แขนขาถูกพันด้วยเทปพันสายไฟอย่างแน่นหนา ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจสุดขีด น้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว เสียงในลำคอเป็นเพียงอากาศแห้งที่ไม่ออกมาเป็นคำ เธอไม่รู้ว่าใครทำ ไม่รู้ว่ากำลังจะถูกพาไปไหน แต่สิ่งที่แน่นอนคือ... ไม่มีใครได้ยินเสียงเธอเลย ................ ในอีกมุมของเมือง แสงหน้าจอคอมพิวเตอร์ กะพริบเบา ๆ ท่ามกลางความมืดของห้องทำงานใต้ดิน ข่าวปลอมชุดแรก ถ

  • ในเงาของหัวใจ   บทที่ 137 กลายเป็นผู้พิการอย่างถาวร

    คุณวิลัยลักษณ์ เดชาสกุลวงศ์ ก้าวลงจากรถแทบจะทันทีที่ประตูเปิด ไม่สนรองเท้าส้นสูง ไม่สนว่าใครอยู่ตรงไหน เธอพุ่งเข้าไปในโกดัง ร่างของหญิงวัยกลางคนวิ่งฝ่าความมืดจนเห็นร่างที่นอนนิ่งอยู่กลางพื้น “ปกรณ์!!” เสียงเธอแทบขาดใจ น้ำเสียงที่เคยสง่างามกลายเป็นเสียงร้องของคนเป็นแม่ ร่างของลูกชายเธอ ถูกทำลายไม่มีชิ้นดี อวัยวะที่เป็นความภาคภูมิใจ ของสายเลือดชายในตระกูล...ไม่มีอีกแล้ว เธอทรุดตัวลงข้างร่างนั้น สองมือสั่นระริกเมื่อแตะร่างที่ยังอุ่น แต่ไม่ตอบสนอง ริมฝีปากเธอสั่นระรัว...ดวงตาเบิกกว้าง คุณวิลัยลักษณ์ทรุดตัวลงข้างร่างของปกรณ์ สองมือเธอสั่นระริกขณะพยายามแตะไหล่ลูกชายที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นซีเมนต์แข็ง เลือดไหลซึมเปื้อนพื้นอยู่รอบกายเขา และไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเลย...นอกจากเธอกับเขา เธอกวาดตามองไปรอบโกดังด้วยดวงตาที่สั่นด้วยทั้งความหวาดกลัวและความสับสน ไม่มีเงาของคนที่ลงมือ ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของรถ มีเพียง ความเงียบ ที่ราวกับตะโกนกรอกหูเธอว่า สายเกินไปแล้ว “ปกรณ์…ปกรณ์ลูกแม่...” เสียงเธอพร่าแตกขณะพยายามเรียก แต่ไม่มีคำตอบจากร่างที่นอนนิ่ง เธอหันไปสั่งลูกน้องด้วย

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status