กว่าจะได้สติรู้ตัวก็สายมากแล้ว ต้าร์ตื่นมาพบว่าปวดร้าวตั้งแต่หัว เนื้อตัว...เขาลุกมานั่งเอามือกุมท้ายทอยร้องครางพร้อมกับเรียกหาคนเป็นแม่ แต่เด็กในบ้านมาบอกว่าอัจฉราออกไปข้างนอกแต่เช้า“พี่ต้าร์จะกินข้าวไหม” เด็กถาม แต่เจอตาขุ่นเขียวที่เขาเงยหน้ามองมา ก็ถอยหลังไป “แม่เอ๋สั่งไว้ว่าให้กินข้าว ทำยำเนื้อของชอบไว้ให้ก่อนออกไป”“ไม่กิน...เนื้ออะไรทั้งนั้น จะกินเนื้อ...”ก่อนใครคนหนึ่งจะปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับเสียงถามแกมหัวเราะ “เอามีดไหม...กรีดกินเนื้อฉันเลย”เดชชนะยืนอยู่ตรงนั้น เด็กถอยไป...พร้อมกับ อุบอิบบอกว่า“ระวังตัวด้วย พี่เดช พี่ต้าร์ตาขวางยังกะหมาบ้า...”เขายิ้มให้ สำทับไปเบาๆ ว่า “เอะอะโครมคราม อย่าเข้ามา รอเข้ามาเก็บศพ หลังจากนั้นสักชม...”“หือ พี่เดช ศพใคร”“ถ้าจะให้ดี สองศพ...ไป” เขาสำทับอีกหน “ไม่มีอะไร ไปดูปู่ไว้ พ่อเพิ่งเข้าบ้าน...หาข้าวให้พ่อกับปู่ด้วย แม่เอ๋ไปไหนไม่รู้”ไม่มีใครรู้ความจริง ถึงจุดหมายปลายทาของเอ๋ อัจฉราในวันนี้นัดหมายของเอื้อยฟ้าหล่อนเร่งร้อนออกไป ทั้งที่การออกนอกบ้านเข้าเมืองของหล่อนนั้นน้อยครั้งมาก...อัจฉราเก็บตัว...ไม่ได้สนใจไยดีสังคมภายนอกมากนัก หา
“ต้าร์ เป็นน้องเดชชนะ...”อัจฉราเอ่ยออกมา เมื่อนั่งอยู่ตรงหน้าเอื้อยฟ้า สองสาววัยเดียวกัน แต่สภาพต่างกันมากมาย แม้ว่าเอื้อยฟ้าจะพยายามทำตัว “ติดดิน” อย่างมากที่สุดแล้วเมื่อออกมาพบกัน ที่นี่คือร้านอาหารในเมือง...ในมุมที่ลับตาคนสักนิด...เอื้อยฟ้ามาถึงก่อน อัจฉราเพิ่งมา...การเจอกันหน้ากันหลังจากไม่เจอกันนานมาก คือรอยยิ้มที่เหมือนคนแปลกหน้า...คนเคยรู้จักเอื้อยฟ้าอุทานในใจว่า...ทำไมปล่อยตัวขนาดนี้...ส่วนอัจฉราก็ได้แต่ร้องว่า...ขนาดแอบซ่อนตัว ยังดูพริ้ง...หล่อนตอบคำถามไปแล้วที่เอื้อยฟ้าถามถึงลูกชายสองคนและอยากให้หล่อนลำดับการเป็นพี่เป็นน้อง“ทุกคนคิดว่าฉันมีลูกหัวปีปลายปี...เด็กรุ่นเก่าในวงก็ไม่รู้ชัดเจนนักหรอก หลายคนออกไปแล้ว มันเป็นเรื่องเล็กๆ ที่ทุกคนพากันลืมไปหมด ไม่มีใครสนใจเธอหรือลูกของเธอ...ทุกคนเชื่อว่าต้าร์คือลูกฉันกับดำรง”เอื้อยฟ้าเอนตัวไปบ้างหลัง มือยังถือแก้วน้ำ...หล่อนฝืดในคอลูกของหล่อนจริง...ต้าร์ ตฤณ คูนแคน“แล้วโอป้า...”“เดชหรือ...ลูกฉันไง...เธอจำได้ไหม...ที่ฉันอุ้มท้องมาคลอดลูกไม่มีพ่อ อาศัยพ่อดุ่ย กับพี่ดำรง...กลับบ้านก็ไม่ได้อับอายญาติพี่น้อง เข้ากรุงเทพฯม
ดำรงเขียนเพลงให้เดชชนะแล้ว...ซ้อมร้องกันไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็พร้อม...ขมักเขม้นกันสองคนพ่อลูก มีนายดุ่ยเข้ามาสมทบด้วยตอนท้ายด้วยสีหน้าพอใจ เขาชอบความคิดของเอกนรี“มาอยู่กับวงไม่ทันไร ก็ทำโน่นทำนี่สารพัด ไอ้เรื่องจะให้แกร้องเพลงในร้านกาแฟนี่เข้าท่า...เห็นว่าเรียกลูกน้องมาจากกรุงเทพฯ มาถีงกันแล้วนะ ปู่ไปคุยกับพวกเขามาแล้ว พวกเด็กๆ ของเราก็พากันตื่นเต้น จะได้เป็นตัวประกอบในคาเฟ่”เดชชนะหัวเราะดำรงหัวเราะหึๆ “บางทีก็เป็นเรื่องของคนรุ่นใหม่...”“สีหน้าแกแช่มชื่นดีนัก...เหมือนหญ้าได้ฝนใหม่...”“ก็ตอนนี้หน้าฝนไง พ่อ” ดำรงตอบ ยักคิ้วนิดหนึ่ง เหมือนความมีชีวิตชีวากลับคืนมา และนายดุ่ยก็สบตากับ เดชชนะ สัพยอกกับหลานชายว่า“ให้ตาย ไอ้เฒ่าที่ทำตัวเหมือนถือศีลมายี่สิบปีคนนั้นมันตกบึงท้ายไร่ตายไปแล้วหรือไงวะ เดช”“นั่นสิ ปู่ พ่อเหมือนปลาได้น้ำใหม่...”“ระริกระรื่นเพราะผู้หญิง”แล้วปู่กับหลานก็ตบมือประสานกัน“ผมคงจะได้แม่ใหม่วัยเดียวกัน”“เฮ้ย...” ดำรงร้อง ขัดเขินเล็กน้อย “มากี่วันกันเชียว...คนทางนี้ทำท่าระรื่น...อาสาไปส่งที่สนามบิน ตกลงแอบไปคุยอะไรมา”“ระวังสาวตกใจ ไม่มาอีกนะ พ่อ เพราะเค้าโทร.
ได้สิ่งที่ต้องการมาครบ...งานเริ่มได้ตอนบ่ายโมง...ทุกอย่างเป็นไปตามที่วางเอาไว้...คลิปเปิดตัวร้านกาแฟ มาแลร์นา...กับตัวนักร้องที่ถูกเรียกว่าเป็นโอป้า...โอป้าบ้านทุ่ง ดูเรียบง่าย แต่ไม่ได้ทำแบบมักง่าย เป็นการทำคลิปที่มีการวางแผน วางทุกอย่างเรียบร้อย จัดการเพลง...จัดการเรื่องตัวโอป้า และเอกนรียอมเป็นตัวสมทบในคลิปด้วย...มาดสาวสวย...เข้ามาในร้านกาแฟเป็นคอนเท้นต์ที่เธอเน้นย้ำถึงประสิทธิภาพกาแฟ 1 ถ้วย จากบาริสต้าหนุ่มชงไม่พอร้องเพลงด้วย...เพลงที่ดำรงเพิ่งแต่งสดๆ ...เพลงใหม่..กาแฟมันขม ใส่ผมแทนหวาน ใส่ผมแทนนม...กาแฟมันขม...ลีลาชงกาแฟ....อย่างที่เขาบอกว่ามี่เมฆดำในกาแฟ...Many clouds in coffeeเมฆดำที่ทำให้ขม...นมหรือ ครีมหรือ น้ำตาลหรือ...กาแฟก็ยังไม่หวานสนิท...กาแฟยังขม...เติมผมสิ...กาแฟที่หนุ่มบาริสต้าโอป้าชงนั้นถูกประคองถือมาในมือ มาหาลูกค้าสาวสวย...เอกนรีสวมหมวกใบเก๋ ดวงหน้าสวย ยิ้มหวาน...และเธอเพิ่งจะถ่ายไลฟ์ตัวเองในร้านมาแลร์นา แนะนำร้าน แนะนำหนุ่มบาริสต้าเจ้าของร้าน“พิเศษยิ่งค่ะ ที่ร้านนี้ ร้านกาแฟ มาแลร์นา ร้านน่ารัก บรรยากาศท้องทุ่ง ดอกไม้งามคือร้านของนักร้องคนให
ตอนที่เดชชนะส่งยิ้มมาให้ ยิ้มปากยิ้มตาของเขานั้นทำให้เอกนรียิ้มค้าง...เพราะเธอนึกออกแล้วว่าทำไมคุ้นกับรอยยิ้มของเขาแม้จะไม่ใช่รอยยิ้มเยาะ...ของยัยป้านางฟ้านรกที่เธอเรียกเอื้อยฟ้า...เขายิ้มเหมือนเอื้อยฟ้ามากเธอค่อยๆ เกลื่อนรอยยิ้มบางลง..กระตุกไปชั่วแวบก่อนจะบอกตัวเองว่ากำลังทำงาน...ไลฟ์สด เพื่อผลักดันยอดวิวของคลิป เพื่อผลักดันนักร้อง...ผลักดันคาเฟ่ และเหนืออื่นใด ผลักดันเพลง...กาแฟมันขม เติมผมแทนนม1 ชมผ่านไป ประเมินจากยอดวิวที่ขึ้นไปถึงสามแสน...นับว่าน่าพอใจ...และเอกนรีทำงานของเธอต่อทันที ด้วยการส่งต่อไปตามเพจที่เธอเกี่ยวข้อง...อีกสองชั่วโมงหลังจากนั้นยอดวิวขึ้นถึง7แสน พร้อมกับคำค้นหามาแลร์นาและก่อนค่ำ...ใกล้เวลาปิดคาเฟ่ ที่มีคนเข้ามาอุดหนุนและอยากดื่มกาแฟที่โอป้าเดชเป็นบาริสต้า...เอกนรีถึงกับหัวเราะ กับมยุรี...“รวยแน่”แต่เดชชนะเอนตัวมากระซิบเหมือนจะเครียด“ผมจะตายก่อนนา”“ยิ้มไว้ค่ะ ยิ้มสู้เท่านั้น”“ผมจะชงไหวไหม...”“ปีนี้ชงไหมล่ะคะ...ชงกี่เปอร์เซนต์” เอกนรีถามหน้าตาเฉย “อย่าบ่น...บอกแล้วว่าฉันจะทำให้คุณปังสุดๆ”วิลลี่มองคลิปสดของหลานสาว มองดูเจ้าหนุ่มนั่น...ถ้าเป็นลูกข
นี่มันคำของดำรงชัดๆ เปรียบเปรยกระแทกเข้าใจอย่างแรงเพลงน่าจะติดลม...คนร้องจะดังส่วนเกินอย่างเอกนรีพลอยดังไปด้วยหล่อนหมั่นไส้หน้าตาระรื่น...ตาวิบวับ...นี่เอกนรีไม่ได้เสียใจกับการถูกเทเลยหรือไร หรือหวังคนใหม่ พ่อหนุ่ม โอป้ารูปงาม...และหน้าตานั้น...เอื้อยฟ้ายอมรับว่าสะบัดร้อนสะบัดหนาว ยิ่งย้อนดูแคปหน้าจอดูหน้าเขา...หล่อนสะท้านในใจหรืออัจฉราจะหลอกหล่อน...แต่เมื่อต้าร์ มาพบหล่อนนั้น...หล่อนไม่สามารถจะปฏิเสธเขาได้ หล่อนแนะนำตัวเองกับเขา...เมื่อเขานั่งอยู่ตรงหน้า ตรงไปตรงมา“ฉันเป็นแม่เธอ ต้าร์...นี่คือความจริง...แม่แท้ๆ ของเธอ เอื้อยฟ้า...ชื่อฉัน”ต้าร์เหมือนโดนทุบหัว เขารู้จักเอื้อยฟ้าแน่นอน เพราะหล่อนเป็นนางฟ้าลูกทุ่งคนดัง...แต่ที่เขาได้ยินเล่า...เคยมีคำลือกันเบาๆ แล้วผ่านไป ว่าครั้งหนึ่งดำรงเคยมีเมียเป็นคนดัง...แต่มาอยู่ไม่นาน...ไม่ทันคิดว่าเป็นเอื้อยฟ้าลึอว่าจริงนี่...จริงหรือเขาไม่ได้ฝันไปแน่หรือ“แม่มารับลูกกลับไปทำเพลง...ดีไหม...เราจะปั้นลูก คือแม่กับวิลลี่เจ้าของบริษัท เรากำลังหาทางทำนักร้องลูกทุ่งชายคนใหม่กับวงการ เทพบุตรลูกทุ่ง แม่เคยเป็นนางฟ้าลูกทุ่งมาก่อน”ความจริงออ
“นายจะเห็นคนอื่นดีกว่าพ่องั้นหรือ” เดชชนะเอ่ยถาม“คนอื่นที่ไหน...แม่ฉันนะ เดช แล้วหากฉันไป นายก็สมหวังเต็มที่...เอาวงไป เอาเพลงพ่อไป ...ตามสบายเลย...เอาไป ฉันยกให้...”“แล้วนายจะหวังอะไรกับแม่ที่ทิ้งนายแต่เด็ก หือ...ต้าร์”เขาถาม ในนามลูกของเอื้อยฟ้าแท้ๆ เขาพูดได้แรงนัก“เขาเห็นประโยชน์มากกว่าเลยมาเอาตัวนาย...เขาจะทำให้นายดังได้หรือ...”จี้จุดที่สุด ต้าร์ถลันมาตรงหน้าเดชชนะ กระชากไหล่นั่นอย่างแรง เดชชนะไม่ได้ขืนตัวอะไร“ฉันจะบอกนาย...เดช...ไอ้พี่จอมปลอม...แม่เอื้อยฟ้าบอกว่านายไม่ใช่ลูกพ่อ...นายเป็นลูกผู้หญิงคนนั้น” เขาชี้มือไปที่อัจฉรา “นายจะประจบพ่อยังไงได้...ว่าแต่นายรู้หรือเปล่าว่านายเป็นคนอื่น...ไม่ใช่คูนแคน...”“นี่ไง ยุ...” เอกนรีเอ่ย “เรื่องน้ำเน่า...ยัยป้าฉันปากหมาเสมอ...พูดทำไมเรื่องเดชชนะ...”เดชชนะสะบัดตัวออกจากการเกาะกุมของต้าร์เขาเอ่ยสั้นๆ แค่ว่า“วันใด โดนเอื้อยฟ้า นางฟ้านรก...”เอกนรียิ้ม เขาเรียกตามที่เธอเรียก“ถีบหัวส่งก็กลับบ้านเรานะ ต้าร์...คูนแคนยังเป็นบ้านนายเสมอ จำไว้”แทนคำตอบ ต้าร์ยกมือผลักไปที่หัวของเดชชนะ และเงื้ออีกมือขึ้น เท่านั้นเองเอกนรีก็ปราด
เขานั่งลงตรงหน้า“คืนนี้ผมคงจะต้องนอนบ้านนี้...” เขาเอ่ย “เราอยู่กันสองคน...กลัวไหม”“กลัวอะไร” เธอย้อนถาม และเอ่ยทีเล่นทีจริงในเสียงหัวเราะ “กลัวฉันปล้ำคุณใช่ไหม”“คุณนรี...” เขาเอ็ด “พูดอะไร ผมตีเลยนะ”หญิงสาวหัวเราะ “ไม่กลัวค่ะ เราไม่ได้ทำอะไรนอกจากอยู่กับความจริง กลัวคนอื่นเข้าใจผิด ใช่ไหมคะ”“ผมเป็นผู้ชาย ไม่เสียหาย”“เชย” เอกนรีแกล้งว่า “หมดยุคแล้ว ที่ผู้ชายไม่เสียหาย ไม่คิดว่าผู้หญิงไม่เสียหายบ้างคะ เป็นไปได้นะสำหรับสังคมทุกวันนี้ชายได้ หญิงได้ แฟร์ เสมอภาค...ไม่มีอะไรเสียหายน่ากลัว...”“ผมยังแคร์...เพราะยังไงสังคมก็ยังให้ค่าผู้ชายมากกว่าสำหรับเรื่องทางเพศ”“เอาน่า...คืนนี้หากเกิดอะไรขึ้น คุณเสียหายนะ”เขาทำตามที่บอกก่อนหน้า คือตีหลังมือเธอไปทีหนึ่ง“หยุดเลย”“ดุจัง”“ผมไม่ได้เป็นคนดีหรือพระเอกหรอกนะ แต่ผมให้เกียรติผู้หญิงเสมอ”“น่ารัก” แล้วเธอก็นิ่งไป...ต๊าย พูดอะไรออกไป...เดชชนะทำหน้าเก้อๆ เอกนรีพยายามจะคว้าโทรศัพท์ออกมากดเล่น...“ที่จริงหากคุณไม่สะดวกใจ...ขับรถกลับได้นะ ฉันอยู่คนเดียวได้...มีโทรศัพท์เครื่องเดียวก็โอเคแล้ว มีเพื่อนทั้งคืนละ”“ตะกี้ยังดูเหมือนกลัวฟ้า
หญิงสาวหัวเราะคิกคัก ปรายตามอง...เอนตัวมาหาอีกนิด...“อย่า...อย่า” ชายหนุ่มร้องห้าม “นิสัยผมไม่ได้ดีนา... คุณนรี”“ไม่ดียังไงน้อ”“คุณนี่...เป็นดาวยั่วมาจากไหน”“ยั่วสวาทไม่เป็น แต่ยั่วโทสะ นี่ถนัด...”“ใครบอกว่าไม่ยั่วสวาท” เขากอด “ยั่วมาก รู้ไหม...ผมกลัวจริงๆนะ...”“ถ้างั้น ถอยห่างไปนิด...” เธองึมงำ...แต่คนที่ปากบอกว่าถอยห่างไปนิด คือคนที่กระแซะมาติดตัวเขา และสวมกอดเขาตอบ “อยากให้กลัวมากๆ...”“แล้วไงล่ะ ทำท่าเหมือนไม่กลัว”“แหม...ตัวสั่นแล้วนะเนี่ย” เอกนรีเอ่ย ลูกไฟจากกองไฟเล็กๆ แตกได้ยินเสียงเบาๆ กับเสียงแมลงกลางคืนจากต้นไม้ที่อยู่ในระดับต่ำจากเนินที่ปลูกบ้านนี้ “สั่นรอ...”“เดี๋ยวก็เจอดีตรงนี้...บนดิน...บนหญ้า ใต้ฟ้า ใต้จันทร์เสียหรอก”“ไม่เคยเจอ ถือเป็นประสบการณ์”เอกนรีตอบชัดนัก และก่อนจะโดนดี เธอก็กอดเขาไว้แน่น“ปีใหม่...จัดงานแต่ง...ไม่ต้องใหญ่มากนัก ก็ได้...”“ตอนไปขอคุณจากลุง...จะได้ไหมน้อ”“ไม่เป็นไร...ไม่ได้ก็จะแต่ง...ลุงคนเดียวตัดทิ้งได้”“น่ารักเสมอ คนดีของผม”“คุณก็หวานเสมอ จริงๆ นะ เกิดมาเพิ่งเคยเข้าใจว่าทำไมผู้หญิงถึงยอมข้ามขั้น เต็มอกเต็มใจ อยากพลีกาย...หลังจากพ
ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป“รอหลังเพื่อนหนูแต่งก่อนดีกว่าค่ะ...นะคะ...ปีหน้าแล้วกัน”“อาต้องรอข้ามปีเชียวหรือ” “เป็นพ่อม่ายข้ามปี หมักได้ที่นะคะ”ดำรงหัวเราะหึๆ “อ่ะ อีกปี...ข้ามปี...รอได้...”“ให้หนูเข้าใจเรื่องราวพวกนี้ก่อนค่ะ คุณอา...”“เข้าใจอะไร”“สมัยสาวๆ พวกเราเชื่อภาษิตโบราณ...ว่าเราจะไม่ร้องเพลงในครัว เพราะจะได้ผัวแก่”ดำรงทำตาโต“หนูไม่เคยร้องเพลงในครัวเลยนะคะ ไม่ว่าครัวไทย ครัวฝรั่งหรือที่ไหนที่ทำอาหาร...หนูกลัวมีผัวแก่ แล้วนี่อะไรกันคะ...ฮือๆ...” เหมือนกิตติมาครางเล็กน้อยอีกด้วย “หนูจะมีผัวแก่...หนูสับสนค่ะ แม้หนูจะฝ่ากมือหนูไว้กับคุณอา แต่ความจริงคือหนูจะมีผัวแก่”“อย่างเดียวเลย หนูมา” เสียงดำรงอ่อนโยนนัก “ถามใจตัวเองว่ารักอาไหม...จะแก่จะหนุ่มมิใช่ปัญหา ขอเพียงมีใจ”นั่นสินะ...กิตติมาบอกตัวเอง...ขอแค่มีใจ ขอแค่รัก... ในที่สุดหล่อนก็พยักหน้ารับ ความจริง ความรัก สองอย่างเดินไปด้วยกัน หล่อนฮัมเพลงเบาๆ“ถึงแก่แล้วจะรักใครจะทำไม”“ไม่ทำไมหรอกจ้ะ หนูมา แต่ขอหอมแก้มหนูสักฟอดแล้วกันนะ”อัจฉราขอถอนตัวออกไปจากบ้าน จากการดูแลวงและทุกคน เพราะดำรงจะแต่งงานแน่ๆ ในปีหน้า หล่อนพ
เอกนรียอมจะแต่งงานกับเดชชนะ พร้อมกับเขาประกาศถอนตัวจากวงการเพลง สุดท้ายอำลาเวที คืนนี้หลังจากสามเพลงแรกผ่านไป เดชชนะเชิญผู้หญิงคนหนึ่งออกมา พร้อมกับการประกาศร้องเพลง“จะกี่ล้านหยดน้ำตาอย่าสับสน”เอกนรีแต่งตัวด้วยชุดที่เอ๋จัดหาให้...เป็นการขึ้นร้องเพลงครั้งแรกของเธอเสียงประกาศบอกว่าเธอคือผู้จัดการวงคูนแคนเธอคือยูทูปเปอร์ คือเจ้าของคลิปดังๆ หลายคลิป...บนแอพลิแคชั่นที่มาแรงต่างๆแฟนเพลงข้างล่างส่งเสียงกรี๊ดๆ เสียงเอกนรีไพเราะเพราะถูกเทรนมาไม่น้อย ที่พอจะร้องเพลงได้ จึงง่ายที่จะไม่ต้องคร่อมทำนองไม่ผิดคีย์...จบเพลงด้วยคำบอกว่า “โอป้าเดช ให้เพลงนี้กับฉันวันที่โลกของฉันถล่มลงมา วันที่ฉันถูกเท ผู้หญิงที่หลงว่าตัวเองพร้อมถูกเทกะทันหัน ต้องเยียวยาตัวเอง วันที่อ่อนแอและเขาก็บอกว่าไงนะคะ”เธอหันมาถามเขา“กี่ล้านหยดน้ำตาอย่าสับสน จะขอดูแล”เสียงยิ่งดังกว่าเดิม“กาแฟมันขม ใส่ผมแทนนม”เสียงแฟนเพลงกรี๊ดกี่ครั้งแล้ว...ไม่ได้เป็นเสียงไล่แห่ แต่เป็นเสียงชื่นชมกับโมเม้นท์นี้การยอมรับเอกนรีเดชชนะคุกเข่าลงบนเวที...ทีมงานวิ่งมาส่งดอกกุหลาบสีชมพูให้กับเขา1 ช่อใหญ่...เขาขอเอกนรีแต่งงาน“แจ่งง
“เขาเคยรักฉันมากนะ” เอื้อยฟ้าอวด “ก็ที่พังเป็นสิบๆ ปีไม่ใช่เพราะรักฉันหรือ”“จะหลงตัวเองไปถึงไหน เขาหมดแล้ว อ้อ...ตอนนี้เขามีคนรักใหม่แล้วนะ”“ใคร”ก่อนจะถึงกับหน้าถอดสี“กิตติมา เพื่อนของเอกนรี จิตแพทย์ พี่ดำรงบอกทุกคนที่บ้านว่าหลังจากเดชกับเอกนรีแต่งงานกัน เขาจะแต่งกับกิตติมา”“แต่งงาน?”“ใช่”“เขาคิดอะไร เด็กนั่นคราวลูก”“รักไง....เขารักเด็กคนนั้น...เขาดูมีชีวิตชีวาอีกหนนะ เอื้อยฟ้า นั่นคือความจริง ถอยไปจากชีวิตเขาให้ไกลเหมือนยี่สิบกว่าปีที่เธอมาจากบ้านเขา...จากชีวิตเขา จะหวนไปทำไม ผัวหรือลูกหรือ เธอไม่เคยอยากได้ เพราะเธออยากทำรายได้ จะไปเอาคนที่เธอทิ้งมาทำไม”“พูดมาก เอาลูกชายเธอคืนไป”เอ๋ อัจฉรายักไหล่ แล้วตอบหน้าตาเฉยว่า“สุดแต่เขานะ จะอยู่ตรงไหนก็ได้ทั้งนั้น นั่นก็พ่อเขาแท้ๆเธอปั้นเขาสิ...ปั้นเลย ต้าร์มีดีกรีนักร้อวงมากกว่าเดชอีกนะ ทำให้ได้สิ วัดฝีมือเธอกับผัวด้วย”และความจริงต้าร์ไม่ได้ยินดีที่มีพ่อตัวจริงเขาตกใจ...เขาอยากเป็นลูกเอื้อยฟ้ากับดำรง วิลลี่อาจจะดูแลเขาดี และไปขอเมญ่าให้เขา...แต่ตัวเมญ่าเองเป็นฝ่ายหนี หล่อนบอกกับพ่อว่าขอไปอยู่เมืองจีนชั่วคราวด้วยข้ออ้างว่า.
“ผมขอพูดบ้างนะ ย่า” เดชชนะเอ่ย มองดูทุกคนกล่าวคำขอบคุณออกมา “ผมรู้ทุกคน รักและห่วงผม และผมขอบอกว่าผมรู้ว่าตัวเองเป็นใคร อยู่ตรงไหนและจะไปตรงไหนต่อ เรื่องของเอื้อยฟ้า หรือสามีเค้า...เป็นเรื่องอื่น เรื่องของคนนอก...ตอนนี้ผมห่วงแต่ต้าร์ว่าจะลงเอยแบบไหน”“เขาจะมีเมียเป็นตัวเป็นตน ล่าสุดลุงบอกว่าจะไปขอเมญ่าให้เขาค่ะ”“อ่ะนะ ขอนังเด็กคนนั้น” นายดุ่ยรำพึง “จะได้ไหม”“น่าจะได้นะ...บางทีมีเมียอาจจะดีขึ้น และดีอีกข้อ นางจะได้ไม่ยุ่งกับโอป้าของคูนแคนด้วยค่ะ นางยังพยายามอยู่ตลอดนะคะ ตอดนิดตอดหน่อย ไมได้ก็ยังคุยโว...ทำเรื่องเอง”“หึง?” นายดุ่ยแกล้งถามหญิงสาวหัวเราะ “มาก...”อัจฉราเพิ่งขอเข้ามาสมทบ...“ฉันเพิ่งโทร.ไปคุยกับเอื้อยเฟ้า”“ยังไงบ้าง” ดำรงถาม “เอื้อยฟ้าพูดอะไร”“เค้าอยากได้เดชไปทำเพลง...”เดชชนะยิ้มมุมปาก “ขอในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้...”“เค้าอยากเจอเดชนะ”“เจอผม” แล้วชายหนุ่มก็ส่ายหน้า “ทำไมล่ะ เจอเค้าสักครั้งไหม”“ผมเจอมาแล้ว” เขายังจำภาพที่หล่อนชูเงินใบละพันห้าใบหน้าเวทีได้ “เริ่มต้นเจอกันครั้งแรก เค้าก็จะเอาเงินฟาดหัวผม...ห้าพัน...กับทั้งชีวิตที่ผ่านมา...ผมไม่ขอเจอครับ เ
ต้าร์รู้ตัวขึ้นมาอีกทีชีวิตก็ยิ่งบัดซบมากไปกว่าเดิม...ต้องใช้คำนี้ เขาไม่ได้สนใจจะทำตัวให้ดีขึ้นเอื้อยฟ้าวางมือมีแต่วิลลี่ที่หันมาประคบประหงมดูแล...พาไปพบหมอ...ทั้งหมอทางอายุกรรม หมอทางจิตเวช...แต่ต้าร์ก็ยังไม่ได้ดีขึ้น เพลงก็ไม่ได้ทำ และเอกนรีก็บอกกับคนเป็นลุงก่อนกลับไปบุรีรัมย์อีกครั้งว่า“ลุงต้องทบทวนหน่อยแล้วค่ะว่าจะเลี้ยงลูกชายลุงแบบไหน ให้เป็นคนเต็มคน มิใช่หมาขี้เมา เสพยา..บ้าผู้หญิง”เพราะมาอยู่กรุงเทพ ไม่มีเมญ่า ต้าร์ก็ซื้อบริการมากินถึงในบ้าน...“ติดโรคร้ายอีก จะยิ่งเสียใจนะลุง...ที่จริงหนูว่าหาเมียให้เป็นตัวเป็นตนก็ดีกับเขานะ”“เมีย?? ฮ้า...ใคร” วิลลี่ทวนอย่างฉงน“เมญ่า...ผู้หญิงงคนนั้นชื่อเมญ่า เป็นลูกสาวเสี่ยระดับเจ้าพ่อของเมือง มีโรงแรม ไปขอให้เขาสิ ลุง...เพราะตอนนี้ยัยนั่นกำลังไปแย่งยื้อเดช หนูไม่อยากเปิดศึก...อีกอย่างนางก็มีผัวแล้ว มายุ่งกับเดชชนะทำไม...จริงไหม ป้า” หันไปถามเอื้อยฟ้าเสียอีก “บอกสามีป้าไปขอลูกสะใภ้ซะ...บางทีมีเมียเป็นตัวเป็นคนอาจจะดีขึ้น แต่ค่าสินสอดคงแพงหน่อยนะ พ่อเขาดังและรวยจริงเมื่อความจริงปรากฏ ความผิดหวังของเขาก็มีเต็มที่ แต่เขาก็ยังอยากช่วยล
“เรื่องลูกของเรา...ลูกเธอกับดำรง ลูกฉันกับเอ๋”เอื้อยฟ้าไหวตัวอย่างแรง เรื่องนี้ชวนปวดหัวมาพอสมควร “ความจริง...ฉันพบเจอมันแล้ว เอื้อยฟ้า...” เสียงถอนใจหนักๆ ตามมา“ก็ดี...เราจะได้ไปถูกทาง”“ฉันจะทำเพลงต่อให้ต้าร์”“แต่เขาทำไม่ได้”“แล้วไง“ฉันจะไปเอาตัวเดชมา...”“มันคงมาหรอก” เขากระแทกเสียงใส่ “มันอยากได้เธอเป็นแม่ มันแล่นมาแต่แรกแล้ว ขอบอกหน่อยนะ เผื่อจะได้หูตาสว่าง...มันไม่เอาเธอ”เจ็บแปลบ“เพราะเธอทิ้งมันมา”“แล้วใครทำให้ฉันต้องทิ้งมา “ หล่อนเกรี้ยวกราดใส่ “เพราะใคร...ฉันเลือกคุณจนทิ้งลูก...” หล่อนเจ็บช้ำ “เห็นแก่ความรัก แล้วไง...กี่ปี...ที่ฉันทิ้งมา...วันนี้ ก็นะ...ฉันก็อยากเอาเขามาปั่น สายเลือดมีนะ...”ประตูเปิดเข้ามา ตามเคยกับการไร้มารยาทของเอกนรี หญิงสาวคนสวยก้าวเข้ามาทันได้ยินคำพูดของเอื้อยฟ้า หล่อนรีบยกมือห้าม“ขอนะ เอกนรี...อย่าเสือกกับเรื่องนี้” คำแรงตามเคยเสือกเอกนรีหัวเราะเบาๆ“เรื่องของแม่ลูก เธอไม่เกี่ยว”หญิงสาวนั่งลง “ทำไมจะไม่เกี่ยว ฉันกับเขาจะแต่งงานกัน”เอื้อยฟ้าเบิกตากว้าง “อย่าหวัง”“หือ...ว่าไงนะ คุณป้า”“อย่าหวัง ว่าฉันจะยอม”“ไม่ยอม ในฐานะอะไรล่ะ คุ
“ไม่ต้องขอ...ลุย”“เดี๋ยวๆ ไม่ดีเลย ลุยอะไร...ต้องแบบนี้สิ...” เขาก้มหน้าลงมา...มือข้างหนึ่งแตะแผ่นหลัง หญิงสาวแหงนหน้ารับจูบนั้น...ไม่ใช่จูบสะท้านโลก แต่เป็นจูบสะท้านใจได้อย่างมาก“แน่ใจหรือ นรี”วิลลี่เอ่ยถามเมื่อเธอกลับมาบอกกล่าวกับเขาว่าเธอกับ เดชชนะจะแต่งงานกัน“หนูรับชีวิตแบบนั้นได้จริงหรือ”“ทำไมจะไม่ได้คะ”“ลุงไม่อยากจะเชื่อเลย”“เป็นความจริงค่ะ”“แต่ลุงก็โอเคนะ”“ลุงยอมรับเขา...” เอกนรีแสดงท่าประหลาดใจนัก“อยากรู้ไหมว่าทำไม”“ค่ะ”“เพราะลุงคิดว่าเดชชนะน่าเป็นลูกของลุงกับอัจฉรา”เอกนรีหัวเราะขำๆ“ทำไมหนูหัวเราะเยาะ”“น่าจะใช่ค่ะ”“หมายความว่าไง”“น่าจะเป็นนายต้าร์มากกว่านะ”“ทำไม” เขายังกังขา“ตรงๆ นะ เพราะนิสัยหรือสันดานของนายต้าร์เหมือนลุง’แม้อยากโกรธหลานสาว แต่วิลลี่ก็โกรธไม่ลง และยังคิดว่าเพราะเอกนรีจะอ้างเช่นนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสายเลือด หากยอมรับว่าชอบกับเดชชนะ“หนูกลัวเรื่องสายเลือดหรือ ลูกพี่กับลูกน้อง...ใช่ไหม”“เปล่าค่ะ...หนูไม่กลัวเรื่องนั้นหรอก...แม้อาจจะมีข้อห้ามทางวิทยาศาสตร์ แต่เราก็แค่ลูกพี่ลูกน้อง เลือดยังไม่ได้ชิดมากมาย แต่เพราะเขาไม่ใช่ค่ะ...ข้อเดีย
เดชชนะกลายเป็นนักร้องสุดฮิทสุดฮอทเพราะความสามารถผสมหน้าตาอันหล่อเหลา อีกทั้งเพลงของเขาก็โดนใจคนทุกวัย และเขาเป็นเหมือนหนุ่มน่าเห็นใจ FC สาวๆ จึงมีเข้ามาหาเขามากมาย สิ่งนี้บาดตาและลงไปบาดใจต้าร์มากมาย เป็นรอยแผลและแฝงด้วยแรงอาฆาตมาดร้าย เขามองเห็นทางจะทำลายชื่อเสียงของเดชชนะ โดยอาศัยการร่วมมือจากใครบางคนเมญานี“เป็น FC เดชหน่อยสิ”หล่อนมองหน้าเขา ประคองไว้ในสองมือ“ไม่หวงเหรอ”“อย่าล่าแต้มไหมล่ะ”“ก็น่าสนใจ”เพราะหล่อนชอบสะสมแต้มอยู่แล้ว และอยากลอง เดชชนะดูบ้าง แต่การเข้าถึงเขายากมาก“จะหาทางไหนดีนะ นอกจากตัวเขาจะเข้าถึงยาก ยังมีตรงนั้นอีก”“นังเอกนรีหรือ” ต้าร์ถาม“หมั่นไส้มัน”“กลัวมันทำไม” ต้าร์ยุส่ง“มันดูแล...”“เราจะช่วย”“โจมตีตรงนั้นก่อน”จึงมีข่าวร้ายออกมามากมายเหลือเกินในช่วงสามวันนี้...โจมตีถึงเอกนรี ถึงความสัมพันธ์ที่ซ่อนเร้น...และการเข้ามาทำงานให้กับวงคูนแคน เพราะจะมาคว้าตัวโอป้าไปเอง พวกFC เริ่มฮือฮาแกมหวงแหน...แต่เมญานีเจาะไม่ถึงตัวเดชชนะ มยุรีป้องกันเต็มที่ และตัวเดชชนะก็ไม่เคยเปิดช่องให้หล่อนเลย เมญานีเลยรามือถอยไปเอง หล่อนบอกตัวเองอย่างผยองว่าผู้หญิงอย่าง