Share

บทที่ 274

Author: สั่งไม่หยุด
หรงจือจือเลิกคิ้ว คาดไม่ถึงว่าพ่อบุญธรรมเพิ่งมาถึงได้ไม่นาน ก็ถูกพวกเขาหมายตายาเสียแล้ว

อวี้เล่อเห็นนางยังนิ่งเฉย จึงรีบเร่งเร้าอีกครั้ง “คุณหนูใหญ่ ท่านรีบหน่อยเถิด คุณชายรองกับคุณหนูสามยังรออยู่”

“หากคุณชายรองรอจนหงุดหงิดขึ้นมา ก็ยิ่งจะไม่เห็นหัวพี่สาวอย่างท่านเข้าไปใหญ่ ท่านอย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน”

หรงจือจือฟังจบ ก็หัวเราะเย็นชา “พูดจบแล้วหรือยัง?”

อวี้เล่อมองใบหน้านิ่งสงบของนาง ไม่เห็นแม้แต่เงาของความกังวล รู้สึกแปลกใจไม่น้อย “คุณหนูใหญ่ ท่านไม่ได้ยินที่ข้าพูดหรือ?”

หรงจือจือยิ้มบาง “ได้ยินชัดเจนดี กลับไปบอกเจ้านายของเจ้าว่า ยานี่เป็นของพ่อบุญธรรมที่ให้ข้า ข้าไม่คิดที่จะแบ่งให้พวกเขา”

อวี้เล่ออึ้งไปครู่หนึ่ง เอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่อยากจะเชื่อ “คุณหนูใหญ่ ท่านพูดจริงหรือ? คุณชายรองแทบไม่เคยสนใจสิ่งใดจากท่านเลยนะ ครั้งนี้เขายอมเอ่ยปากขอด้วยตัวเอง ท่านกลับไม่ยอมคว้าโอกาสนี้ไว้หรือ?”

ก่อนหน้านี้ตอนขอชุดผีเสื้อ ก็เป็นเพราะคุณหนูสามอยากได้ แต่ครั้งนี้คุณชายรองเอ่ยเองแท้ๆ ทำไมคุณหนูใหญ่ยังทำท่าทีแบบเดิม?

หรงจือจือ นึกไม่ออกจริงๆ ว่าท่าทางวางอำนาจของอวี้เล่อนั้นมาจากไหน

อ้อ... ห
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 275

    อวี้หมัวมัวอยู่ข้างกายหรงจือจือมาหลายปี นางเคยช่วยเหลือคนไม่น้อย แต่พวกที่ไร้ความสำนึกอย่างสาวใช้จ้าว แถมยังกล้าตะโกนโวยวาย นับว่าพบเจอได้น้อยเต็มทีหรงจือจือหัวเราะเบาๆ “ไม่เป็นไร ข้าคาดไว้อยู่แล้วว่านางต้องเป็นเช่นนี้ นางไม่เพียงแค่ทำเช่นนี้หรอก ข้าว่านางคงจะเอาเรื่องนี้ไปบอกฮูหยินหรง เพื่อแสดงความจงรักภักดีด้วยเป็นแน่”เจาซีร้อนใจ “คุณหนู เช่นนั้นพวกเราจะไม่ทำงานเสียแรงเปล่าหรือเจ้าคะ?”หรงจือจือยิ้มบาง “ทำไมถึงคิดเช่นนั้น?”นางไม่ได้อธิบายอะไรมาก เพียงแค่สั่งอวี้หมัวมัว “ไปหาคนสักสองสามคน ไปสร้างปัญหาให้พี่ชายของสาวใช้จ้าวสักหน่อย ให้เขาไปทวงเงินจากนางสองสามรอบ”อวี้หมัวมัวพยักหน้ารับคำสั่ง “เจ้าค่ะ”......ในเรือนของหรงซื่อเจ๋อ เวลานี้ใบหน้าของหรงเจียวเจียวเต็มไปด้วยความคาดหวังและกังวล “พี่ใหญ่ ท่านว่าหรงจือจือจะยอมให้ยากับพวกเราหรือไม่?”นางให้ฝานซิงไปสืบเรื่องนี้มา พอรู้ความก็มาหาหรงซื่อเจ๋อทันที ขอให้เขาช่วยไปขอยาจากหรงจือจือให้ตนหรงซื่อเจ๋อแค่นเสียงเย็นชา “วางใจเถอะ ในเมื่อข้าเป็นคนเอ่ยปาก นางย่อมต้องให้”หรงเจียวเจียวยิ้มกว้างจนเต็มหน้า “พี่ใหญ่ช่างดีกับข้าจริงๆ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 276

    “ความจริงก่อนที่เจ้าจะไป นางคงคิดไว้แล้ว ว่าจะเป็นฝ่ายแบ่งยามาให้ข้าส่วนหนึ่งกระมัง?”เมื่อก่อนหรงจือจือมีของดีอะไร ก็มักจะนึกถึงน้องชายอย่างตนเองคนนี้อยู่เสมอ และไม่ว่าตนเองจะต้องการหรือไม่ นางล้วนหยิบยื่น แล้วถือมันออกมาไว้ด้านหน้าตนเองแต่ก็เพราะเหตุผลนี้ เขาจึงเกลียดนางมากยิ่งขึ้นอวี้เล่อ “คุณชายรอง เช่นนั้นรอคุณหนูสามกลับมาก่อน แล้วข้าน้อยจะเล่าให้ฟังเป็นการส่วนตัวดีหรือไม่ขอรับ?”บุรุษล้วนต้องการรักษาหน้า เขาเชื่อว่าคุณชายรองในฐานะพี่ชาย คงไม่อยากขายหน้าต่อหน้าคุณหนูสาม อย่างไรก็ตามหรงซื่อเจ๋อกลับขมวดคิ้วแน่น “เจียวเจียวเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของข้า มีคำพูดใดที่ต้องหลบเลี่ยงนางด้วยหรือ? เจ้าพูดมาตรง ๆ เลยจะดีกว่า!”อวี้เล่อกัดฟัน และทำได้เพียงบอกหรงซื่อเจ๋อทุกอย่าง ถึงสิ่งที่หรงจือจือเพิ่งพูดออกมาหลังหรงซื่อเจ๋อฟังจบ ก็โกรธมากแทบจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่!เขากล่าวด้วยสีหน้าทมึงทึงว่า “ที่เจ้าเล่ามาทั้งหมด หรงจือจือเป็นคนพูดหรือ?”อวี้เล่อกล่าวด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย “จริงแท้แน่นอนขอรับ หรือว่าบ่าวยังจะกล้าโกหกท่านอีกหรือ? ตอนนั้นคุณหนูใหญ่บอกว่าท่านทำเรื่องน่าอายแต่ก็ยังหยิ่งยโส จ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 277

    เสิ่นเยี่ยนซูถามเสียบเรียบ “รู้หรือไม่ว่าเหตุใดสวีชิงชิงถึงทำเช่นนี้?”เซินเฮ่อ “ตอนแรกลูกศิษย์ก็ไม่ทราบ แต่พี่สาวกลับพูดจนทำให้หลุดจากฝัน นางบอกว่า...เป็นไปได้มากว่าคือความอิจฉา”“เมื่อก่อนคุณหนูใหญ่สกุลหรงเพรียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง และยังโดดเด่นเป็นที่หนึ่งในทุกเรื่องของเมืองหลวง แถมเป็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์เช่นเดียวกันอีก สวีชิงชิงจะอิจฉาก็เป็นเรื่องปกติ”“ภายหลังลูกศิษย์สืบดูอีกหน่อย ถึงได้รู้ว่า เมื่อก่อนสวีชิงชิงติดตามคุณหนูใหญ่หรง ก็มักจะพูดจาเหน็บแนมอยู่เสมอ”“ความอิจฉานั้น แทบจะมองเห็นได้อย่างชัดเจนเลยขอรับ!”เมื่อเสิ่นเยี่ยนซูได้ยิน ดวงตาก็เย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง เป็นสตรีเหมือนกัน แต่สวีชิงชิงเพียงเพราะอิจฉา จึงใช้วิธีอันชั่วร้ายเช่นนี้ออกมาทำให้ชื่อเสียงของหรงจือจือเดิมก็ถูกคนวิพากษ์วิจารณ์เพราะหย่าร้าง เปลี่ยนเป็นยิ่งแย่ลงไปอีกจิตใจชั่วร้ายเช่นนี้ ช่างน่ารังเกียจยิ่งนักเซินเฮ่อถามอย่างระมัดระวัง “ท่านเสนาบดี ท่านคิดว่า เรื่องนี้ควรจะจัดการอย่างไรดีขอรับ?”เสิ่นเยี่ยนซูกล่าวเสียงเรียบ “ไปสืบความลับส่วนตัวทั้งหมดของจวนเฉิงหยางโหว รวมทั้งเรื่องแย่ ๆ ที่สวีชิงชิงเคยทำตั้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 278

    หญิงรับใช้แซ่หลี่ “นี่มัน...ฮูหยิน คุณหนูใหญ่จะเห็นด้วยหรือเจ้าคะ? สิ่งของของฮูหยินผู้เฒ่า เป็นสิ่งล่ำค่าที่สุดของนางมาโดยตลอด”นางหวัง “ในเมื่อนางอยากจะเอาใจข้า ย่อมเห็นด้วยเป็นแน่ เจ้าไม่ต้องคิดมากถึงเพียงนั้น แค่ตรงเข้าไปเลยก็พอแล้ว!”หญิงรับใช้แซ่หลี่ “เจ้าค่ะ!”……หลังได้ยินหญิงรับใช้แซ่หลี่ชี้แจงที่มา หรงจือจือก็ขำเบา ๆ “สิ่งของที่ท่านย่าให้มา ตามหลักแล้วข้าจะไม่ส่งให้ผู้ใด แต่ในเมื่อผู้ที่มาคือหลี่หมัวมัว ข้าย่อมให้เกียรติเจ้าอยู่แล้ว”หญิงรับใช้แซ่หลี่ “...”ข้ามีเกียรติเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน? นางไม่เคยลืม เรื่องที่ครั้งก่อนฮูหยินสั่งตนเองไม่ต้องให้หรงจือจือรับประทานอาหาร สุดท้ายอีกฝ่ายกลับหยิบขนมขึ้นมา จนตนเองแทบจะสิ้นสติไป“หลี่หมัวมัวกลับไปก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวข้าจะไปหาปะการังชิ้นนั้นออกมา แล้วเช็ดให้สะอาด จากนั้นก็จะส่งไปยังห้องน้องสามด้วยตนเอง”หญิงรับใช้แซ่หลี่เต็มไปด้วยความสงสัย และออกจากที่แห่งนั้นด้วยความเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งรอให้หญิงรับใช้แซ่หลี่จากไปแล้ว หรงจือจือจึงสั่งเจาซีว่า “ไปหาของออกมา”เจาซีกล่าวด้วยความโกรธจัด “คุณหนู ท่านคิดจะนำปะการังนี่ ส่งไปย

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 279

    ต่อมาก็มองไปทางฝานซิง พลางกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “นำปะการังชิ้นนี้ไปวางในที่ที่มองเห็นชัดเจนที่สุดในห้องของข้า!”“หรงจือจือสามารถควบคุมปะการังได้ ข้าไม่เชื่อว่าข้าหรงเจียวเจียวจะควบคุมไม่ได้! ขัดขวางข้างั้นหรือ? เช่นนั้นก็ลองขัดขวางข้าดู!”ฝานซิง “คุณหนู อย่าโมโหไปเลย คุณหนูใหญ่คงไม่อยากให้ปะการังแก่ท่าน ถึงจงใจพูดจาที่ทำให้ท่านไม่มีความสุข หากท่านโมโห ก็จะเป็นไปตามทางของนางนะเจ้าค่ะ”หรงเจียวเจียวฟังจบ ก็รู้สึกมีเหตุผลอยู่หลายส่วนนางส่งเสียงฮึเบา ๆ “เจ้าพูดถูก! ข้าคือคนที่ได้รับปะการังจะโมโหทำไม? ให้นางทรมานเพราะสูญเสียปะการังไปคนเดียวเถอะ”......หลังหรงจือจือออกจากเรือนเฮ่าเย่ว์ ก็ยังไม่รีบกลับจวนแต่ไปยังเรือนของนางหวังแทนนางหวังได้ยินว่านางส่งปะการังไปให้หรงเจียวเจียวแล้ว และกำลังรอขอพบอยู่ด้านนอก นางก็กล่าวด้วยสีหน้าเห็นอกเห็นใจว่า “ในเมื่อนางรู้ความ ก็ให้นางเข้ามาเถอะ” หรงจือจือเข้ามา ก็กล่าวเสียงเบา “ฮูหยินหรง ข้ามาที่นี่ เพราะต้องการพูดกับท่านอยู่สองเรื่องเจ้าค่ะ”นางหวังขมวดคิ้ว นี่มันท่าทีอะไรของนางกัน?เหตุใดฟังดูแล้ว เหมือนจะไม่มีความเคารพต่อตนเองเลยแม้แต่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 280

    หรงจือจือมองเจาซีแวบหนึ่ง เพื่อส่งสัญญาณให้นางว่าอย่าใจร้อนตามหลักแล้ว องครักษ์หลงสิงไม่มีทางสงสัยว่านางสบคบกับศัตรู เพราะการจับกุมอวี้ม่านหวา นางก็มีส่วนช่วยอยู่ไม่น้อยคนเฝ้าประตูกล่าว “บ่าวก็ไม่ทราบเหตุผลเช่นกันขอรับ แต่ตอนนี้นายท่าน กำลังพูดคุยกับผู้บัญชาการอวี่เหวินอยู่ด้านหน้าเรือนแล้ว”หรงจือจือพยักหน้า ก็เดินมุ่งหน้าไปด้านหน้าเรือนทันทีในเมื่อท่านพ่อยังสามารถพูดคุยกับอีกฝ่ายได้ แทนที่จะเผชิญหน้ากันอย่างตึงเครียด คิดดูแล้วคงไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรเมื่ออวี่เหวินจ้านเห็นหรงจือจือ ก็รีบทำความเคารพ “ข้าน้อยคารวะท่านหญิง!”หรงจือจือ “ผู้บัญชาการอวี่เหวินไม่ต้องมากพิธี ไม่ทราบว่าผู้บัญชาการมาหาข้า มีธุระอันใดหรือ?”อวี่เหวินจ้านกล่าวด้วยสีหน้ารู้สึกผิด “ขอพูดตรง ๆ เลยแล้วกัน ข้าน้อยมาขอร้องให้ท่านหญิงช่วยขอรับ”“ท่านหญิง อวี้ฉือท่านอ๋องรองของแคว้นเจาเสียชีวิตแล้ว แต่พวกข้ายังตรวจสอบพบอีกว่า พวกเขายังมีทหารแฝงตัวอยู่ห้าสิบกว่าคนที่ยังไม่ถูกจับกุม”“อวี้ม่านหวากับซี่อวี่ให้ตายอย่างไรก็ไม่ยอมรับสารภาพ แต่วันนี้ อวี้ม่านหวาจู่ ๆ ก็พูดว่าขอแค่พบหน้าท่านตามลำพัง นางก็จะบอกข้าน้อ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 281

    อวี้ม่านหวามองสภาพผุดผ่องไร้ราคีของหรงจือจือแล้วมองคราบเปรอะเปื้อนตามร่างกายตัวเอง หัวเราะขมขื่นออกมาว่า “ไม่นึกเลยว่าจะได้พบกันอีกครั้งในสภาพเช่นนี้”หรงจือจือมองนางอย่างสงบ แววตาไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆเพียงถามอย่างราบเรียบว่า “เจ้าต้องการพบข้าด้วยเรื่องอันใด?”ระหว่างพวกนางสองคนไม่ได้มีความสัมพันธ์ฉันท์มิตรที่จะมารำลึกความหลังกันได้อวี้ม่านหวาเห็นนางมีท่าทีเช่นนี้ก็โมโหขึ้นมาทันที “หรงจือจือ เจ้าเห็นข้าแล้วไม่รู้สึกผิดสักนิดเลยหรือ?”หรงจือจือฟังแล้วหัวเราะ “ข้าต้องรู้สึกผิดเรื่องอะไร?”อวี้ม่านหวา “หากไม่ใช่เพราะเจ้า แผนกอบกู้มาตุภูมิของข้ากับเสด็จพี่คงจะราบรื่นไปแล้ว เราทั้งสองเป็นสตรีเหมือนกัน เจ้าทำลายแผนการอันดีของข้า ทำลายความฝันที่ต้องการกอบกู้มาตุภูมิของข้า จะไม่รู้สึกผิดบ้างเลยหรือ?”หรงจือจือหัวเราะเยาะ “แล้วเจ้าเล่า? เราต่างเป็นสตรีเหมือนกัน เจ้ารู้ทั้งรู้ว่าฉีจื่อฟู่มีภรรยาอยู่แล้วแต่ก็ยังจะเข้าหาเขาอีก”“เจ้ากับฉีจื่อฟู่ทำให้ข้ากลายเป็นตัวตลกของทั้งแคว้นต้าฉี”“ทำให้ข้าถูกวิพากษ์วิจารณ์และดูแคลน เจ้าเคยรู้สึกผิดเมื่อใดหรือ? เจ้าก็มองว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดไม่ใช่หรือ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 282

    ความจริงแล้วภายในใจอวี้ม่านหวาเข้าใจดีว่าฉีจื่อฟู่ไม่ได้รักนาง มีเพียงลูกในท้องของนางที่เขาพอจะพะวงถึงนางรู้สึกว่าตัวเองได้ยื่นข้อเสนอที่ไม่อาจปฏิเสธให้กับหรงจือจือหรงจือจือหัวเราะเยาะ “เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าข้ายังเหลือเยื่อใยให้ฉีจื่อฟู่?”อวี้ม่านหวาหรี่ตาลงและพูด “ข้ารู้ว่าเจ้าไม่เหลือเยื่อใย เพราะหากยังเหลือก็คงไม่ปล่อยให้สกุลฉีเดือดร้อนเพราะข้าเช่นนี้”มิหนำซ้ำ หากอีกฝ่ายชอบฉีจื่อฟู่จริงๆ ตัวนางก็คงไม่มีที่ยืนในสกุลฉีมานานแล้วแต่ว่า…“หญิงสาวชนชั้นสูงแบบเจ้าให้ความสำคัญกับชื่อเสียงและตำแหน่งแม่ศรีเรือนมากที่สุดมิใช่หรือ? ไม่อยากกลับไปทำหน้าที่ภรรยาที่สกุลฉีต่อหรืออย่างไร?”“เราต่างก็รู้ดีว่าการแต่งงานใหม่จะถูกผู้คนรังเกียจ!”หรงจือจือพูดขึ้นมาว่า “ข้าขอถามเจ้าเรื่องหนึ่ง”อวี้ม่านหวา “เรื่องอะไร?”หรงจือจือ “เจ้าได้มีส่วนร่วมในเรื่องของท่านย่าข้าหรือไม่?”อวี้ม่านหวามีสีหน้างุนงง “มีส่วนร่วมอะไร?”เมื่อเห็นว่าท่าทีของอวี้ม่านหวาดูไม่เหมือนเสแสร้ง หัวใจของอวี้ม่านหวาก็จมลง นั่นสินะ นี่นางกำลังคาดหวังอะไรอยู่กัน?ผู้สมรู้ร่วมคิดต้องเป็นคนในครอบครัวนางแน่นอนอย่างอวี้ม

Pinakabagong kabanata

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 326

    ทว่าฮูหยินหลี่กลับไม่รู้วิธีปฏิบัติและกฎของสกุลดังในเมืองหลวงเลย หนำซ้ำตอนนี้ยังคิดว่าตนจัดงานเลี้ยงได้ดีอย่างยิ่งอีกฉีกยิ้มพร้อมกล่าวกับหรงเจียวเจียวว่า “ข้ายังต้องออกไปรับแขก พวกเจ้าเข้าไปเล่นกันก่อน พวกฮูหยิน พวกหนุ่ม ๆ สาว ๆ จากแต่ละจวนรวมตัวกันอยู่ตรงนั้น พวกเจ้าไปสนุกกันเองเถอะ”ส่วนพวกผู้ใหญ่ พวกบัณฑิต ย่อมอ่านกวีแต่งบทกลอน พูดคุยเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองอยู่อีกที่หนึ่งอยู่แล้ว ไม่มีทางอยู่รวมกับพวกเด็ก ๆ เหล่านี้งานเลี้ยงเขียนกวีของแคว้นต้าฉี แต่ไหนแต่ไรมาก็จัดเช่นนี้หรงเจียวเจียวฉีกยิ้มหวานพลางตอบกลับ “ท่านป้าไปเถิด พวกข้าจะดูแลตัวเองให้ดีเจ้าค่ะ”ฮูหยินหลี่เรียกหลี่เซียงเหยาบุตรสาวของตนมา “เหยาเหยา เจ้าอยู่เป็นเพื่อนพี่หญิงสามของเจ้าให้ดี อย่าให้คนมาล่วงเกิน จำขึ้นใจหรือยัง?”หลี่เซียงเหยามองหรงจือจือทีหนึ่ง ในตอนนี้ถึงกล่าวว่า “จำเอาไว้แล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่”ครั้นสิ้นเสียง ก็เดินฉีกยิ้มไปกอดแขนของหรงเจียวเจียว ทำทีท่าสนิทกันเป็นอย่างมากตอนหลี่เซียงเหยายังไม่มาเมืองหลวง ก็ได้ยินว่าพี่หญิงใหญ่ของตนโดดเด่นอย่างไร ในใจของนางโหยหาเป็นอย่างมากแต่คิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อตนมา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 325

    เหวินหมัวมัว “นี่...เจ้าค่ะ! บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ!”นางหวังยังรีบไปกำชับข้างหูนางอีกว่า “ถ้าไม่สะดวกจะเรียกกลับมา ก็อย่าให้พวกนางพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไปเป็นอันขาด”เหวินหมัวมัว “เจ้าค่ะ”นางลุกลี้ลุกลนออกไปจากจวน นางหวังร้อนใจกระวนกระวายดั่งด้ายพันกัน หากไม่ใช่เพราะนึกขึ้นได้ว่าตนกำลังไว้ทุกข์อยู่ ไม่สะดวกจะไปงานเลี้ยงเขียนกวี นางแทบอยากจะรุดหน้าไปด้วยตัวเองแล้ว...ในขณะนี้ จวนสกุลหลี่จวนสกุลหลี่แม้จะเป็นจวนที่ซื้อมาใหม่ ทว่าในหลายวันนี้ก็ซ่อมแซมอย่างดีไปยกหนึ่ง ฮูหยินหลี่เสียแรงตกแต่งไปอย่างมากครั้นเห็นพวกเด็ก ๆ จากสกุลหรงมาถึงท่านลุง ท่านป้าสะใภ้สกุลหลี่ ก็ฉีกยิ้มออกมารับหน้า “ท่านพี่มีใจแล้วจริง ๆ ถึงให้พวกเจ้ามา นับเป็นเกียรติกับเราจริง ๆ”หรงจือจือในฐานะพี่สาวคนโต ย่อมกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เป็นสิ่งสมควรเจ้าค่ะ งานเลี้ยงเขียนกวีของจวนท่านป้าสะใภ้ ก็ต้องมาร่วมงานอยู่แล้ว”ฮูหยินหลี่มองนางทีหนึ่ง ทว่าในสายตากลับมีความไม่พอใจอยู่เล็กน้อยหากไม่ใช่เพราะนางหวังส่งจดหมายมา บอกให้นางให้ความร่วมมือพูดฉีกหน้าหรงจือจือสักครา ทำให้ต่อไปนางไม่กล้าทำตัวบ้าคลั่งต่อหน้า

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 324

    “ครั้งนี้เจ้าจะได้พูดกับนางให้เข้าใจด้วยพอดี ให้นางพิจารณาตัวเองเสีย เหตุใดเป็นลูกสาวของข้าเช่นกัน พี่สาวนางแต่งงานครั้งที่สองแล้ว อัครมหาเสนาบดีเฉินมาสู่ขอแล้ว แต่นางกลับยังทำให้ข้าไม่รู้จะเอาหน้าเหี่ยว ๆ ไปซุกไว้ที่ไหน!”ครั้นนางหวังได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกเพียงราวกับบนหน้าตนถูกคนฟาดสองฉาด เจ็บปวดแสบปวดร้อนไปหมดสิ่งเดียวที่เจียวเจียวกับจือจือแตกต่างกัน ก็คือคนหนึ่งตนอบรมสั่งสอนมาเองกับมือ ส่วนอีกคนฮูหยินผู้เฒ่าเป็นคนอบรมสั่งสอนมานี่ไม่เท่ากับกำลังว่าตนสั่งสอนลูกสาวได้ไม่ดีเท่ายายแก่ที่ตายไปแล้วนั่นหรอกหรือ?มหาราชครูหรงพูดจบ ก็ยังกล่าวต่อทั้งสายตาเคร่งขรึมว่า “ก่อนหน้านี้เจ้าพูดถูก ในเมื่อจะแต่งงานกับท่านเสนาบดี สินเดิมจะน้อยไม่ได้ ไม่รวมกับสินติดตัวเจ้าสาวที่ท่านแม่ให้จือจือในก่อนหน้านี้ เจ้าก็เตรียมเพิ่มให้นางอีกหน่อยแล้วกัน”นางหวังเดือดดาลจนเสียงหาย “ท่านพี่! การแต่งงานดี ๆ ของเจียวเจียวถูกจือจือแย่งไป ท่านยังให้ข้าเตรียมสินเดิมให้จือจือเพิ่มอีก ท่านอยากบีบเจียวเจียวให้ตายหรืออย่างไร?”มหาราชครูหรง “พอได้แล้ว! พูดจาเพ้อเจ้อแย่งงานแต่งอะไรกัน เจ้าอย่าได้พูดอีกเชียวนะ ลูกสาวท

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 323

    เห็นนางหวังดีอกดีใจ และพูดจามั่นอกมั่นใจเช่นนี้คำพูดที่มหาราชครูหรงอยากจะกล่าว แทบจะติดอยู่ที่คอหอยพูดไม่ออกนางหวังยังพูดเป็นต่อยหอย “ท่านพี่ ข้าว่า เราต้องให้สินเดิมเจียวเจียวเพิ่มอีกหน่อย จะให้น้อยกว่าจือจือไม่ได้ อย่างไรก็แต่งงานกับท่านเสนาบดี จะให้คนดูถูกได้อย่างไร...”มหาราชครูหรงอดกลั้นเอาไว้ไม่ไหวแล้วจริง ๆ “พอได้แล้ว”นางหวังอึ้งไป ครั้นเห็นว่าสีหน้าของมหาราชครูหรงไม่ดีจริง ๆ ก็เอ่ยถามขึ้นอย่างระมัดระวังว่า “ท่านพี่ มีอะไรหรือ? เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?”ในตอนนี้มหาราชครูหรงถึงตอบกลับว่า “จับคู่ผิดแล้ว! คนที่อัครมหาเสนาบดีเฉินอยากแต่งงานด้วย ไม่ใช่เจียวเจียว!”นางหวังฉงนไปเลย “ฮะ? ท่านพี่ ท่านเลอะเลือนไปแล้วหรืออย่างไร ไม่ใช่เจียวเจียวแล้วจะเป็นผู้ใดได้? หรือว่าในใต้หล้านี้ยังมีสตรีที่ดีกว่าเจียวเจียวของเราอีกหรือ?”นางหวังยิ่งกล่าว ก็ยิ่งคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ท้ายที่สุดก็คลี่ยิ้มพร้อมกล่าวว่า “ท่านพี่ ท่านพี่กำลังล้อข้าเล่นอยู่ใช่หรือไม่?”มหาราชครูหรงลูบหว่างคิ้วพลางตอบกลับ “ข้าไม่มีทางเอาเรื่องใหญ่เช่นนี้มาล้อเล่นเป็นอันขาด! คนที่ท่านเสนาบดีต้องการคือจือจือ ไม่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 322

    เฉินเยี่ยนซูแทบจะเดือดดาลจนโพล่งขำ “เช่นนั้นท่านมหาราชครูเคยคิดหรือไม่ เป็นบุตรสาวของท่านเหมือนกันแท้ ๆ เหตุใดคนหนึ่งไร้เดียงสาใสซื่อได้ แต่อีกคนกลับไม่เข้มแข็งไม่ได้?”“ท่านหญิงก็เป็นเพียงแม่นางน้อยอายุยี่สิบปีผู้หนึ่ง ผ่านการล้มลุกคลุกคลานมามากมายขนาดนี้ ลำบากมามากมายขนาดนี้ มหาราชครูยังคิดจะให้นางเข้มแข็งอย่างไร?”มหาราชครูหรงพูดไม่ออก ได้แต่เอ่ยขึ้นพร้อมเปลี่ยนเรื่องว่า “ที่จริงก็เป็นเพราะข้าหวังดีกับท่านเสนาบดี อย่างไรจือจือก็เคยผ่านการหย่ามาก่อน สู้สตรีบริสุทธิ์อย่างเจียวเจียวได้เสียที่ไหน? นี่ถึงได้...”เฉินเยี่ยนซูพูดแทรกขึ้นมา “ท่านมหาราชครู นายหญิงผู้เฒ่าหรงให้ท่านดูแลท่านหญิงให้ดี ข้าคิดว่าที่เรียกว่าดูแล นอกจากเป็นห่วงในด้านการใช้ชีวิตแล้ว ก็น่าจะมีเรื่องการเคารพในด้านตัวตนด้วย”“ในในของท่านดูถูกท่านหญิงแล้ว คิดว่านางสู้คุณหนูสามของจวนท่านไม่ได้ หรือว่านี่ไม่ใช่ความอัปยศอย่างหนึ่งสำหรับนาง?”“นางก็แค่แต่งงานผิดคน ไม่ได้ทำเรื่องผิดพลาดใหญ่หลวงอะไร ตามที่ข้ารู้ การแต่งงานในตอนแรกนั้นนางไม่ได้เป็นคนเลือกด้วยตัวเอง”“ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่นางเป็นเหยื่อ และยิ่งเป็นค

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 321

    เฉินเยี่ยนซูราวกับเดือดดาลจนขำ เขาวางจอกชาในมือลง “เยี่ยมจริง ๆ มหาราชครูหรงยกบุตรสาวให้หมั้นหมายกับข้า แล้วก็คิดจะให้นางแต่งงานกับคนอื่นอีกด้วย”“ที่ข้ามาเพราะอยากขอคำอธิบาย มหาราชครูไม่มีเจตนาจะขอโทษไม่พูดถึง แต่ยังจะยัดเยียดบุตรสาวให้ข้าอีก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่สู้เราไปตัดสินกันต่อหน้าฝ่าบาทเถอะ!”ครั้นมหาราชครูหรงได้ยินเช่นนั้น ก็ขมวดคิ้วมุ่น พลางเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ “จะเรียกว่ายัดเยียดบุตรสาวตามอำเภอใจได้อย่างไร? หรือว่าหากเปลี่ยนเจียวเจียว ท่านเสนาบดีก็ไม่พอใจอีก?”เฉินเยี่ยนซูมองเขาทีหนึ่ง “คนที่ข้าอยากแต่งงานด้วย มีเพียงท่านหญิงแห่งหนานหยางผู้เดียวเท่านั้น”มหาราชครูหรงเริ่มรู้สึกว่า ตนถูกคำของนางหวังหลอกเข้าแล้ว บางทีผู้ที่เฉินเยี่ยนซูต้องการตั้งแต่ต้นจนจบ ล้วนเป็นสตรีที่เขาชื่นชม แต่มิใช่สตรีที่มุ่งแต่จะแต่งงานกับเขามหาราชครูหรงที่รู้สึกว่าตนคล้ายตัวตลก ฉีกยิ้มอย่างขมขื่นออกมาทีหนึ่ง “ข้าเข้าใจแล้ว”เฉินเยี่ยนซูเอ่ยถามขึ้นว่า “ในเมื่อเข้าใจแล้ว คิดว่าท่านพ่อตาก็คงจะไม่ถอนหมั้นใช่หรือไม่?”การเรียกท่านพ่อตานี้ แสดงถึงความเคารพออกมาอีกสองสามส่วน ทำให้ในใจของมหาราช

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 320

    เขาจงใจพูดไล่หลังหรงจือจือด้วยเสียงดังเพื่อให้นางได้ยินหรงเจียวเจียวหน้าแดงด้วยความเขินอายโดยพลัน นางกระทืบเท้าว่า “ท่านพี่!”แต่หรงจือจือราวกับไม่ได้ยินที่เขาพูด นางไม่แม้แต่จะหันมามองนี่ทำให้หรงซื่อเจ๋อโมโหหนักกว่าเดิม เขากัดฟันว่า “นางมีนิสัยแบบนี้ ไม่แปลกเลยที่สกุลฉีจะรังเกียจ! คงมีแต่ต้องแต่งงานไปอยู่ตระกูลเล็กๆ และพึ่งพาการปกป้องจากท่านพ่อไปจนตาย ข้ารู้สึกสงสารว่าที่พี่เขยในอนาคตด้วยซ้ำ!”แต่พูดถึงตรงนี้ หรงซื่อเจ๋อก็ต้องสำลักคำพูดตัวเองนั่นเพราะนึกถึงเรื่องที่หรงจือจือบอกให้เขาแต่งงานไปอยู่สกุลฉีเมื่อคราก่อน หากนางได้ยินว่าเขาสงสารฉีจื่อฟู่ เกรงว่าคงพูดแบบนั้นให้ตัวเองสะอิดสะเอียนอีก เขารีบปิดปากเงียบหรงเจียวเจียว “พอแล้วๆ ท่านรีบขึ้นรถม้าเถิด! หากไปสาย ท่านพ่อคงตำหนิว่าพวกเราไม่รู้กฎเกณฑ์”หรงซื่อเจ๋อจำใจต้องขึ้นรถม้าเป็นเพราะแผลที่หลังเขายังไม่หายดีและกลัวว่าท่านพ่อจะโบยตีอีกรอบหรอกนะ มิเช่นนั้นเขาจะด่าหรงจือจือชุดใหญ่……รถม้าของพวกเขาเพิ่งจะออกจากสกุลหรงได้ไม่นานรถม้าของจวนราชเลขาธิการก็มาถึงหน้าจวนสกุลหรง มหาราชครูหรงทราบเรื่องแล้วยังคงออกมาต้อนรับด้วยตัวเอ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 319

    หรงจือจือสะกดกลั้นความโมโหในใจ ตอนนี้นางได้ลิ้มรสความรู้สึกที่มีเพียงคนตรงไปตรงมาแบบเจาซีที่จะมีได้!หากไม่ใช่เพราะยังมีสติสัมปชัญญะอยู่ มันก็มีอยู่ชั่วพริบตาหนึ่งที่นางอยากไปที่จวนราชเลขาธิการเดี๋ยวนี้ ไปบอกว่าตัวเองยินดีแต่งงานกับเฉินเยี่ยนซู หรงเจียวเจียวจะได้เลิกเห่าเสียทีนางยกยิ้มมุมปากมองหรงเจียวเจียว “ได้ เช่นนั้นข้าจะรอดูวันที่เจ้าได้แต่งเข้าจวนราชเลขาธิการ น้องสามต้องพยายามเข้าล่ะ อย่าได้พลาดเด็ดขาด”นางอยากรู้เหมือนกันว่าหรงเจียวเจียวจะมีสีหน้าเช่นไรเมื่อทราบเรื่องราวทั้งหมดหรงเจียวเจียวแค่นเสียงเบาและวางท่ามั่นอกมั่นใจ “เช่นนั้นเชิญพี่หญิงเบิกตาดูให้ดีได้เลย!”“ถึงเวลานั้นก็อย่าอิจฉาจนร้องไห้ล่ะ ข้าได้ยินว่าบุรุษที่ท่านพ่อหาให้ท่านเป็นแค่เสมียนกรมเล็กๆ นี่ต่างหากที่น่าขัน!”หรงจือจือพูดอย่างราบเรียบ “หวังว่าพรุ่งนี้ เจ้าจะยังยิ้มออกนะ”ฟังจากที่เฉินเยี่ยนซูพูด เขาจะมาคุยกับท่านพ่อให้ชัดเจนในวันพรุ่งนี้ หลังจากผ่านพรุ่งนี้ไป หรงเจียวเจียวคงทำหน้าเย่อหยิ่งเช่นนี้ไม่ได้อีกหรงเจียวเจียวมีหรือจะรู้ว่าหรงจือจือคิดอะไรอยู่?นางพูดด้วยความดูถูก “ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ได้จะยิ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 318

    “แต่ราชเลขาธิการเฉินผู้นี้ เขาเป็นคนประเภทที่ข้ารู้สึกชื่นชมตั้งแต่ยังไม่แต่งงาน ข้ากลัวว่าหากแต่งงานกับเขาจริงๆ เมื่อได้ใช้เวลาร่วมกันตั้งแต่เช้าจรดเย็น ตัวข้าจะเกิดความรู้สึกที่ไม่ควรมีต่อเขาได้”“ความจริงแล้วเขาเป็นตัวเลือกที่อันตรายสำหรับข้า”“หลังจากที่ท่านย่าจากไป ข้าก็ชอบคิดอยู่เสมอ หากข้าไม่สามารถปกป้องอะไรได้เลย แต่อย่างน้อยก็ต้องปกป้องหัวใจตัวเอง ห้ามให้ผู้ใดมีโอกาสกรีดแทงหัวใจข้าเด็ดขาด ข้าไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายไปกว่านี้”ในการพบกันเมื่อสี่ปีก่อน ความจริงแล้วหรงจือจือเคยตะลึงงันกับรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของเฉินเยี่ยนซู หลังจากได้ใช้เวลาร่วมกันสองสามวัน บทสนทนาที่มีร่วมกับเขาก็ทำให้นางประทับใจเช่นกันแต่ตอนนั้นนางรู้ตัวว่าตัวเองมีการหมั้นหมาย ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้มีความรู้สึกอื่นใดนอกเหนือจากนี้ทว่าบัดนี้นางเป็นอิสระแล้ว ส่วนเขาก็มีเสน่ห์ยิ่งกว่าเมื่อก่อน มีบางครั้งที่นางเผลอมองนานเกินไปโดยไม่รู้ตัว ส่วนวันนี้ก็มีอาการหน้าแดง จะไม่ให้เป็นกังวลได้อย่างไร?เคราะห์ดีที่เฉินเยี่ยนซูต้องการแต่งงานกับนางเพื่อให้ช่วยดูแลอาการป่วย ไม่ใช่เพราะพึงใจในตัวนาง มิเช่นนั้น นาง

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status