ซาบริน่าไม่สามารถมองดูทะเบียนสมรสได้เต็มตาเธอกับเซบาสเตียนไม่มีความรู้สึกต่อกัน หรือพูดตรง ๆ ก็คือเซบาสเตียนไม่มีความรู้สึกต่อเธอ การแต่งงานโดยปราศจากความรักจะมีความหมายอะไร แม้ว่าตอนนี้เธอจะเป็นคุณนายฟอร์ดอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วก็ตาม?ซาบริน่ายังคงระมัดระวัง ขณะยืนอยู่นอกรถของเซบาสเตียน เธอเริ่มพูดอย่างใจเย็น “ฉันกลับเองได้ ขอบคุณที่ไม่เรียกร้องให้ฉันจ่ายสิบล้านที่ฉันเป็นหนี้คุณ และยังแต่งงานกับฉันด้วย คุณควรไปที่บริษัทเดี๋ยวนี้ ฉันจะไม่รบกวนคุณอีกแล้ว”คิงส์ตันตกตะลึงกับคำพูดของซาบริน่า 'คุณนาย นายน้อยไม่เคยต้องการให้คุณคืนสิบล้านให้เขาเลย'ในอนาคต เงินทั้งหมดของเขาจะเป็นของคุณ!'ตอนนี้ คุณเป็นภรรยาที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองเซ้าท์ ซิตี้ไปแล้วนะครับ!'คิงส์ตันพูดทุกอย่างในใจเพียงเท่านั้น และไม่กล้าพูดออกมาดัง ๆ เขาหันความสนใจไปที่เซบาสเตียนที่เปิดปากพูด “ไม่เห็นน้ำอย่าเพิ่งตัดกระบอก ไม่เห็นกระรอกอย่าเพิ่งโก่งหน้าไม้เลยคุณผู้หญิง ฉันไม่เคยคิดที่จะยกหนี้ที่เธอติดฉันไปเลยนะ!”ซาบริน่าถึงกับพูดไม่ออกเขาขึ้นรถก่อนสั่งคิงส์ตัน “ไปที่บริษัทเดี๋ยวนี้คิงส์ตันที่ได้ยินการสนทนาของพวกเข
“ไปเร็ว!”คิงส์ตันถามว่า “ตามคุณผู้หญิงไปเหรอครับ?”เซบาสเตียนตอบอย่างไม่พอใจ “ไม่ต้องถึงขั้นเข้าไปประกบเธอล่ะ! ทำตัวมีเมตตากับผู้หญิงคนนั้นไป เธอก็ไม่เห็นหรอก”คิงส์ตันตอบทันที “รับทราบครับ นายน้อย!”เนื่องจากไม่กล้าขัดคำสั่งของเซบาสเตียน เขาจึงเพียงสะกดรอยตามซาบริน่าไปห่าง ๆ เท่านั้น เขามองดูซาบริน่าขึ้นรถแท็กซี่แล้วตามเธอไปจนถึงหลุมฝังศพของเกรซ อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เขาต้องรักษาระยะห่างเพื่อสังเกตเธอ คิงส์ตันก็ไม่ได้ยินสิ่งที่ซาบริน่าพูดเขาเดินห่างออกไปเล็กน้อยก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเซบาสเตียน “นายน้อยครับ นายหญิงฟอร์ดไปเยี่ยมหลุมศพของของคุณผู้หญิงครับ ผมเห็นเธอร้องไห้นิดหน่อย และดูเหมือนว่าเธอจะพูดว่าอีกไม่กี่วันเธอจะพาเจ้าหญิงน้อยมาเยี่ยมหลุมศพด้วยครับ”เมื่อเขาพูดเช่นนั้น หัวใจของคิงส์ตันก็ปวดร้าวปลายสายอีกด้าน เซบาสเตียนตอบแต่เพียงว่า “เข้าใจแล้ว”ฉับพลัน คิงส์ตันก็พูดขึ้นว่า “นายน้อย… แล้วผม… ”“จับตาดูเธอต่อไป!” เซบาสเตียนสั่ง“ตามต้องการครับ นายน้อย” หลังจากวางสาย คิงส์ตันยังคงมองหาจุดที่เขาสามารถจับตาดูซาบริน่าได้โดยไม่มีใครสังเกตเห็นในขณะนั้น ซาบริน่ายังค
ซาบริน่าเงยหน้าขึ้นและเหลือบมองผู้หญิงคนนั้นก่อนจะพูดอย่างใจเย็นว่า “ขอโทษนะคะคุณ ฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร!”"แก!" มินดี้สำลักคำพูดของเธอ “แกตาบอดเหรอ? แกจะไม่รู้จักฉันได้ยังไง!”ซาบริน่าไม่อยากยุ่งกับผู้หญิงอย่างเธอเธอเพิ่งกลับมาที่เซ้าท์ ซิตี้ เพราะถูกเซบาสเตียนจับตัวมา ย้อนกลับไปในตอนนั้น เธอสร้างความวุ่นวายให้ผู้คนที่นี่ไว้มากมายและสุดท้ายแล้วทุกคนต่างชังน้ำหน้าเธอ เมื่อไม่กี่วันก่อน เธอเพิ่งจะทำตัวหยาบคายดูหมิ่นดาราภาพยนตร์ชื่อดังในขณะที่อยู่ในห้องที่เซบาสเตียนจองไว้ให้เธอพอคิดถึงจุดนี้แล้ว ซาบริน่าก็ไม่สามารถนับจำนวนคนที่โกรธเคืองเธอได้เลยเธอตัดสินใจที่จะไม่สนใจเรื่องนี้ราวกับเธอแบกรับภาระหนี้อันหนักอึ้งไว้มากมายจนไม่จำเป็นต้องให้ความสำคัญอะไรมากอีกต่อไป ไม่ว่าเหาจะกระโดดขึ้นไปบนร่างกายของเธออีกกี่ตัว มันก็ยังคงคันเหมือนเดิมอยู่ดีอย่างไรก็ตาม เซบาสเตียนและตระกูลฟอร์ดยอมรับไอโนะ ตราบใดที่มีคนคอยดูแลไอโนะและคอยดูแลเธอให้ปลอดภัยจากปัญหา ซาบริน่าก็ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องทำร้ายใครในเซ้าท์ ซิตี้อีกซาบริน่าไม่ได้มองมินดี้เลยแม้แต่น้อย เธอพูดอย่างไร้อารมณ์ “คุณคะ คุณพูดพล่ามอะไ
ซาบริน่าไม่มีใครที่เธอสามารถขอความช่วยเหลือได้ และรู้ดีว่าเธอเองไม่ได้อยากสร้างปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ให้เกิดขึ้น ทว่าเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากมาถึงเซ้าท์ ซิตี้ เธอก็ถูกเซลีนคุกคามมาแล้ว และตอนนี้มินดี้ก็กำลังพยายามหาเรื่องทะเลาะกับเธอตอนนี้อีกซาบริน่าควรจะทำอย่างไร?“ไนเจล! ตบหน้ามันสักฉาดสิ! อย่าไปสงสารมัน ถอดรองเท้าตบหน้ามันเลย! เอาให้หน้ามันเละไปเลย! ฉันอยากจะเห็นว่าในอนาคตมันจะทำงานให้นายน้อยฟอร์ดได้ยังไง?! คุณช่วยทำตัวให้เหมือนผู้ชายคนอื่น ๆ หน่อยได้ไหม! มันเพิ่งตบคู่หมั้นของคุณนะ!” มินดี้ตะโกนใส่ไนเจลอย่างบ้าคลั่ง โดยไม่สนใจว่าพวกเขาอยู่ในที่สาธารณะเลยขณะที่มินดี้ยังขวางประตูไว้อยู่ ลิฟต์ก็เริ่มขึ้นอีกครั้งอย่างไรก็ตาม ซาบริน่าก็ยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบ ๆ รอให้ลิฟต์กลับมาอีกครั้งเธอไม่สนใจว่าไนเจลจะทุบตีเธอหรือไม่ไนเจลยกมือขึ้นและตบหน้ามินดี้อีกข้างหน้า “มินดี้! อวดดีเกินไปแล้วนะ! กลับบ้านเดี๋ยวนี้เลย!”ซาบริน่าตกใจมาก ผู้หญิงคนนี้คือมินดี้เหรอ?เมื่อเงยหน้าขึ้นมองเธอใกล้ ๆ ซาบริน่าก็ตระหนักว่านั่นคือมินดี้จริง ๆเมื่อหกปีที่แล้วเธอไม่ค่อยได้เจอมินดี้ พวกเขาเคยพบกันแค่
ไนเจลจับมือของซาบริน่าอย่างตื่นเต้น “ซาบริน่า หมายความว่าในที่สุดเธอเต็มใจยกโทษให้ฉันแล้วใช่ไหม? ใช่ไหมซาบริน่า?”ไม่ไกลนัก คิงส์ตันแทบทนดูไม่ได้อีกต่อไปเขารู้สึกเป็นห่วงไนเจลและคิดกับตัวเองว่า 'นายน้อยไนเจล คุณไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม?! คุณคิดว่าคุณปู่ของคุณสามารถปกป้องคุณได้จริง ๆ เหรอ? หากนายน้อยต้องการชีวิตของคุณ ไม่มีใครหยุดเขาได้ทั้งนั้น! ทำไมไม่ปล่อยให้มันผ่านไปสักที?!”ในขณะเดียวกัน ซาบริน่าได้ใช้กำลังทั้งหมดของเธอเพื่อหลุดให้พ้นจากไนเจล หลังจากถอยห่างออกไปไม่กี่ก้าว เธอมองดูไนเจลอย่างเรียบเฉย “ไนเจล ทำไมคุณยังไม่เข้าใจอีก?”“ฉันไม่ใช่คุณ!”“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณยังมีคอนเนอร์ กรุ๊ป พ่อแม่และปู่ย่าตายายของคุณก็อยู่ที่นี่เพื่อปกป้องคุณ ลูกพี่ลูกน้องของคุณสามารถทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันได้หากคุณต้องการ”“แล้วฉันล่ะ?”“คุณเคยเป็นแสงสว่างในชีวิตของฉัน และเพื่อตอบแทนความอบอุ่นที่คุณมอบให้ ฉันเต็มใจจะเป็นเมียเก็บของคุณไปชั่วชีวิต แต่ฉันไม่เคยคาดหวังว่าคุณจะให้ฉันทำอะไรสกปรกขนาดนั้น”“อย่างไรก็ตาม ฉันยังรู้สึกขอบคุณอยู่ดี”“ฉันขอบคุณสำหรับความใจดีที่คุณแสดงให้ฉันเห็น”
ไนเจลเดินออกจากอาคารด้วยใบหน้าซีดเผือดและอารมณ์หดหู่อย่างไม่น่าเชื่อทุกครั้งที่เขาเห็นซาบริน่า หัวใจของเขาจะรู้สึกทรมาน ไนเจลสังเกตเห็นว่าในช่วงหกปีที่ผ่านมา เธอเงียบและเย็นชามากขึ้น และตอนนี้ เธอก็ดูเป็นผู้ใหญ่และมีเสน่ห์มากขึ้นอีกด้วยกระนั้น เขารู้ดีว่าพวกเขาไม่มีวันหวนคืนสู่อดีตได้ไนเจลตระหนักว่าเขาแพ้เซย์นโดยสิ้นเชิง แต่ก็ยอมจำนนด้วยความยินดี ในตอนนั้น เซย์นก็เหมือนเป็นพี่ชายที่สนิทที่สุดของเขา แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะจบลงด้วยการทะเลาะกันเพราะผู้หญิงคนหนึ่งหลังจากเหตุการณ์นั้น เซย์นถูกซาบริน่าควบคุมอย่างสมบูรณ์ และตัดสินใจใช้ชีวิตของเขาเพื่อปกป้องซาบริน่าสิ่งที่พวกเขาสองคนทำนั้นตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงคนหนึ่งล้อเล่นกับชีวิตของซาบริน่าอีกคนใช้ชีวิตของตัวเองเพื่อปกป้องซาบริน่าแน่นอนว่าในใจของซาบริน่า ชายทั้งสองมีความหมายที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงไนเจลกลับมาที่รถพร้อมกับถอนหายใจลึก ๆ ขณะที่เขากำลังจะเข้าไป ก็มีคนปรากฏตัวต่อหน้าเขา“คุณเยทส์ คุณมาทำอะไรที่นี่?” ไนเจลพูดอย่างสุภาพกับคิงส์ตันคิงส์ตันแสดงความเคารพต่อไนเจลด้วยเช่นกัน “นายน้อยไนเจล คุณเป็นคนฉลาด และม
ภายในแฟ้มเอกสารที่เซบาสเตียนมอบให้กับซาบริน่านั้นมีเอกสารที่ระบุชัดเจนว่ามหาวิทยาลัยใดที่ซาบริน่าสำเร็จการศึกษา ปริญญาที่เธอได้รับ ตลอดจนประสบการณ์การทำงานของเธอหลังจากสำเร็จการศึกษา ภายในบรรจุใบรับรองการสำเร็จการศึกษาซึ่งมีรูปถ่ายที่ชัดเจนของเธออยู่ด้วยซาบริน่าจ้องมองเซบาสเตียนอย่างตกตะลึง “คุณ… คุณช่วยฉันทำสิ่งเหล่านี้ตอนไหนคะ?”เขาตอบด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ว่า “ฉันไม่ต้องการให้แม่ของลูกสาวฉันเป็นคนที่ไม่มีแม้แต่ใบรับรองการสำเร็จการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยและหางานทำไม่ได้ด้วยซ้ำ!”ซาบริน่ากัดริมฝีปากของเธอและพูดว่า “ขอบคุณค่ะ”ขณะที่เซบาสเตียนไม่ตอบ เธอยังคงกัดริมฝีปากอยู่เช่นนั้นเธอรู้ว่าเซบาสเตียนทำทั้งหมดนี้เพื่อเห็นแก่ไอโนะ ลูกสาวของเขา และนี่ไม่ได้หมายความว่าเขามีความรู้สึกใด ๆ ต่อเธอเลยใช่ไหม?ถึงอย่างนั้น ซาบริน่าก็รู้สึกเหมือนเธอเพิ่งรอดพ้นจากความตายเนื่องจากเธอเป็นคนที่พึงพอใจได้ง่าย แม้แต่ท่าทีเล็ก ๆ นี้ก็ทำให้ชีวิตของเธอสดใสขึ้นดังนั้น เมื่อเซบาสเตียนบอกกับเธอว่า “ในอนาคต ไอโนะจะกลายเป็นหนึ่งในตระกูลฟอร์ด”ซาบริน่าไม่ได้ขัดขืนเพียงแต่ตกลงง่าย ๆ ว่า “ค่ะ”เขาถามเธอ
หลังจากหยุดหัวเราะ ไอโนะก็ถามขึ้นว่า “พ่อจ๋า แม่จ๋า พรุ่งนี้เป็นวันหยุด หนูขอออกไปเที่ยวกับพ่อแม่ได้ไหมคะ?”ซาบริน่ายังคงนิ่งเงียบ เพราะเธอรู้ดีว่าเธอไม่ควรพูดอะไรออกมาหลังจากนั้น เธอก็บอกไอโนะด้วยเสียงอันนุ่มนวลว่า “เป็นเด็กดีนะคะ พ่อมีงานต้องทำตลอดแหละ ดังนั้นถ้าหนูอยากออกไปเที่ยวเล่นข้างนอก แม่จะไปกับหนูเองนะ”ไอโนะซึ่งไม่ค่อยพอใจกับเรื่องนี้เท่าไหร่ เธอเริ่มทำหน้าบึ้งเมื่อมองไปที่เซบาสเตียนในขณะนั้น โทรศัพท์ของเซบาสเตียนก็ดังขึ้น ดังนั้นเขาจึงรับสาย "สวัสดีครับ?"เสียงของนายท่านผู้อาวุโสเฮนรี่ออกมาจากลำโพง “เซบาสเตียน! พรุ่งนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ นายควรพาหลานสาวมาเยี่ยมเราที่คฤหาสน์หลังเก่านะ!”เซบาสเตียนตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ "ได้ครับ"ปลายสาย นายท่านผู้อาวุโสสามารถสัมผัสได้ถึงอารมณ์ที่ดีขึ้นของเซบาสเตียน น้ำเสียงของเขาก็ร่าเริงขึ้นกว่าเดิมมากเช่นกัน “แล้วพรุ่งนี้จะมากี่โมงล่ะ? ฉันจะให้สาวใช้เตรียมอาหารดี ๆ ไว้ให้เธอทาน ที่นี่เรามีทุกอย่าง เราจะเตรียมของเล่นเธอให้พร้อมล่วงหน้าด้วย แล้วก็… ”เซบาสเตียนขัดจังหวะเขา “ผมจะพาเธอไปพรุ่งนี้เช้าครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมจะวางสายน
คิงส์ตัน มาร์คัส และ ซาบริน่าต่างตกตะลึงมาร์คัสพยายามปกป้องซาบริน่าที่อยู่ข้างหลังของเขา ขณะที่มองเซบาสเตียนอย่างสยองขวัญ “เซบาสเตียน...ถ้านายมีปัญหาอะไร เข้ามาหาฉัน อย่าแตะต้องซาบริน่า เพราะยังไง เธอก็เป็นแม่ของลูกนายนะ“ถ้า...นายอยากจะฆ่าใครสักคน ให้มันเป็นฉันเถอะนะ”เซบาสเตียนไม่ตอบ เขาเพียงแค่ถอดเนกไทและปลดกระดุมเสื้อของเขาออก ในชั่วขณะนั้น ร่างที่กำยำของเขาก็สัมผัสกับมาร์คัสจากนั้น เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ว่า “นายกำลังคิดอะไรอยู่? รถค่อนข้างอับชื้น ฉันก็เลยรู้สึกร้อนเฉย ๆ ดังนั้น ฉันจึงแกะกระดุมเพื่อให้เย็นลงเล็กน้อย”มาร์คัสรู้สึกโล่งใจ “อ๋อ...เซบาสเตียน นาย...คอของนาย ได้รับบาดเจ็บได้ยังไง?“อ๋อ ฉันได้รับบาดเจ็บจากแมวป่า” เซบาสเตียนตอบอย่างไม่ใส่ใจทั้งคิงส์ตันและซาบริน่ายังคงถูกแช่แข็งอยู่กับที่ใบหน้าของซาบริน่าเปลี่ยนเป็นสีแดงจนเธอละสายตาจากทุกคนที่นั่น และมุ่งความสนใจไปที่การลูบผมของไอโนะลิ้นของคิงส์ตันผูกเป็นปมในขณะคิดกับตัวเอง'นายน้อย คุณไม่ใช่คนโกหกเก่งเลย แมวป่าพันธุ์ไหนที่ทิ้งร่องรอยของฟันไว้ได้''แม้ว่าจะเป็นแมวป่า แต่คุณไม่รู้หรือว่าแมวและมนุษย์ม
“ฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีก“ถ้าในอนาคตเธอต้องการเงิน ไม่ว่าจะมากขนาดไหน เธอก็มาหาฉันได้เสมอ“อย่าปล่อยให้ตัวเองต้องทนทุกข์เพียงลำพังซาบริน่ารับนามบัตรโดยกล่าวว่า “ขอบคุณค่ะ นายน้อยชอว์”ความจริงแล้ว เธอไม่อยากรับนามบัตร แล้วเธอจะรับไปเพื่ออะไร? ซาบริน่าและลูกสาวของเธออยู่กับเซบาสเตียนแล้ว ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีกในอนาคต นอกจากนี้ เธอยังได้งานทำแล้ว ซึ่งเธอตัดสินใจที่จะอุทิศเวลาของเธอและสร้างเนื้อสร้างตัวเธอไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใครอีกต่อไปแต่เมื่อเห็นว่ามาร์คัสเคยช่วยเธอมาก่อน เธอไม่ต้องการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของมาร์คัสด้วยการปฏิเสธนามบัตรไปขณะที่เธอกำลังเอื้อมมือไปหยิบการ์ดนั้น ก็มีรถจอดอยู่ข้างหลังทั้งคู่ มาร์คัสและซาบริน่าต่างหันความสนใจไปที่รถท่าทีของซาบริน่าเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเหตุใดจึงเป็นเรื่องบังเอิญที่เซบาสเตียนกลับมาถึงบ้านในขณะนั้น?ด้วยเหตุผลบางอย่าง ซาบริน่ากลัวว่าภาพก่อนหน้านี้จะทำให้เซบาสเตียนหึง แต่หลังจากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เธอก็ตระหนักว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลยที่เซบาสเตียนจะรู้สึกแบบนั้นซาบริน่าคิดมากไปคนแรกที่ลงจากรถคือคิงส์ตัน เมื่อเห็นมาร
มาร์คัสถึงกับพูดไม่ออกเขาไม่รู้จะปลอบเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาอย่างไร เขาได้แต่แบ่งปันความเจ็บปวดของเธอในใจ ในขณะนั้นเอง ฝนก็เริ่มตกราวกับว่ามีใครให้สัญญาณฝนเริ่มตกหนักขึ้นภายในไม่กี่วินาทีซาบริน่ายกแขนขึ้นเพื่อกันศีรษะจากฝน แต่มาร์คัสดึงเธอเข้าไปในล็อบบี้ของอาคารชั้นหนึ่งทันทีขณะที่ทั้งสองตั้งสติ มาร์คัสหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดหมายเลข “ซินดี้ ช่วยฉันเอาเอกสารไปที”ซาบริน่าไม่พูดอะไรมาร์คัสไม่ได้ตั้งใจที่จะขึ้นไปข้างบนเหรอ? ทำไมเขาถึงเรียกใครบางคนมาที่นี่เพื่อรับเอกสารไปแทน?ไม่นานหลังจากนั้น หญิงสาวสวยในชุดอย่างมืออาชีพและรองเท้าส้นสูงก็มาถึงล็อบบี้ มาร์คัสจึงส่งเอกสารบางส่วนให้กับผู้หญิงคนนั้นและสั่งว่า “บอกผู้อำนวยการของเธอว่าฉันจะไม่ขึ้นไปชั้นบน มีบางอย่างที่ฉันต้องจัดการที่นี่”“ค่ะ ผู้อำนวยการชอว์” หญิงสาวตอบด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินกลับขึ้นไปชั้นบนมาร์คัสหันมาสนใจซาบริน่าอีกครั้ง “เธอจะไปไหน? เดี๋ยวฉันจะไปส่ง”ซาบริน่าไม่รู้จะตอบอย่างไร เธออยากกลับบ้านหลังจากชะงักเล็กน้อยเธอก็เริ่มพูดอีกครั้ง “ไม่จำเป็นหรอกค่ะ นายน้อยชอว์ ฉันไปเองได้”มาร์คัสยิ้ม “เธอกำลังจ
ความสัมพันธ์ที่ซาบริน่ามีกับครอบครัวลินน์เป็นความทรงจำที่เจ็บปวดสำหรับเธอเสมอมา มันเป็นรอยแผลเป็นที่เธอไม่อยากเปิดเผย อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องน่าอายแต่อย่างใดแม้ว่ามาร์คัสจะเชื้อเชิญ แต่ซาบริน่าก็ไม่ได้ไปร้านกาแฟกับเขา ตอนนี้ ทั้งสองคนยืนอยู่บนถนนสายหลักนอกทางเข้าบริษัท ซาบริน่าตั้งใจที่จะเล่าเรื่องราวอย่างง่าย ๆ ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับครอบครัวลินน์ เพราะเธอต้องการกลับบ้านโดยเร็วเพื่อจะได้รู้ว่าไอโนะทำอะไรลงไปที่บ้านตระกูลฟอร์ด“ตอนอายุน้อยกว่าสิบสองปี ฉันอาศัยอยู่ในบ้านเกิดของฉัน ซึ่งอยู่ในเขตชานเมืองของเมืองเล็ก ๆ พ่อแม่ของฉันอาศัยอยู่ที่นั่นโดยปลูกผักครัวเรือน ในช่วงที่ซบเซา พ่อของฉันก็จะไปเป็นคนส่งสินค้าให้โกดังด้วย“ตอนที่ฉันอายุได้สิบขวบ ตอนที่พ่อของฉันทำงานอยู่ที่โกดัง เขาถูกของบางอย่างตกใส่เขา ของทับจนเสียชีวิต ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น แม่ของฉันป่วยและไม่อาจรักษาหายได้ตลอดทั้งปี“หลังจากนั้น เธอก็ไม่ดีขึ้นเลย และร่างกายของเธอก็อยู่ในสภาพที่เปราะบางอยู่เสมอ“แต่เพราะฉันเรียนเก่ง แม่ของฉันอยากให้ฉันเรียนต่อ สองปีต่อมา เธอพาฉันมาที่เมืองเซ้าท์ ซิตี้“นั่นเป็นค
มาร์คัส ชอว์เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าเมื่อหกปีก่อนมาก และมีลักษณะเป็นนักวิชาการ ซาบริน่านึกถึงความช่วยเหลือทุกอย่างที่เขาให้ไว้กับเธอในตอนที่เธอหนีไปจากเมืองเซ้าท์ ซิตี้ แม้แต่ตอนเธอออกมาจากบ้านเช่าเพื่อไปห้ามไม่ให้เซบาสเตียนแต่งงาน มาร์คัสก็ยังอยู่ที่นั่นเพื่อช่วยเธอเมื่อซาบริน่ามองเข้าไปในดวงตาของมาร์คัส เธอรู้ได้เลยว่าดวงตาคู่นั้นอ่อนโยนและใจดีเพียงใดเขาเริ่มถามว่า “ซาบริน่า สบายดีไหม? ฉันรู้ว่าเซบาสเตียนเป็นคนจับตัวและพาเธอกลับมาที่นี่ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ครอบครัวของฉันเริ่มจับตาดูฉันอย่างเข้มงวดมากขึ้น ดังนั้น หากว่าฉันไปหาเธออย่างไม่ระมัดระวัง ก็รังแต่จะยั่วโมโหเซบาสเตียนมากขึ้นเรื่อย ๆ ฉันจึงไม่พยายามติดต่อเธอมาโดยตลอด บอกฉันทีว่าตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง?“เซบาสเตียนปฏิบัติต่อเธอยังไงบ้าง...”"ดีมาก" ซาบริน่าตอบเพียงสองคำเธอเพียงยิ้มให้มาร์คัสโดยไม่ได้อธิบายอะไรแม้ว่าเธอจะรู้สึกอยากขอบคุณใครสักคน แต่ซาบริน่าก็ยังเป็นคนที่เก็บความรู้สึกของเธอไว้ข้างในเสมอ แทนที่จะใช้คำพูดเพียงผิวเผินเพื่อแสดงความรู้สึกเหล่านั้น มันเหมือนกับความสำนึกบุญคุณที่เธอรู้สึกต่อไนเจลในตอนนั้นที่เธอไ
เด็กน้อยคนนี้ไม่เคยกลัวเลยจริง ๆ ในช่วงสองปีที่เธอใช้เวลาอยู่ในโรงเรียนอนุบาลที่เขตเมืองเคียร์ราย เธอตีกับเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ นับไม่ถ้วนแน่นอน ไอโนะเคยทะเลาะกับเด็กคนอื่น ๆ เท่านั้น เมื่อพวกเขาล้อเลียนเธอว่าไม่มีพ่อหรือดูถูกแม่ของเธอไอโนะจะเอาชนะเด็กคนอื่นอย่างกล้าหาญทุกครั้งหลังจากทะเลาะกับเด็กในโรงเรียนอนุบาล ตอนนี้ เธอไปยั่วยุพวกผู้ใหญ่แล้วเหรอ?ซาบริน่าโพล่งออกมาด้วยเหงื่อเย็นเยียบโลกของผู้ใหญ่นั้นซับซ้อนขนาดไหน? มันไม่ใช่สิ่งที่เด็กห้าขวบอย่างไอโนะจะเข้าใจได้อย่างแน่นอน ลูกของเธอยังเล็กอยู่ ดังนั้น ไม่ว่าเธอจะดุร้ายหรือกล้าหาญแค่ไหน เธอก็ยังไม่สามารถเอาชนะผู้ใหญ่ด้วยสติปัญญาหรือพละกำลังได้ซาบริน่ากังวลเรื่องความปลอดภัยของลูกสาวเป็นหลักเธอดุไปทางโทรศัพท์ “ไอโนะ! บอกเลยถ้าหนูทำร้ายผู้ใหญ่อีก แม่จะตีก้นหนูจนบวมเลย! แม่ไม่อยากเจอหนูอีกแล้ว!”ไอโนะตกใจกับคำพูดรุนแรงของแม่ของเธอจนถึงกับร้องไห้ออกมา เธอเช็ดจมูกขณะสะอื้นไห้ “แม่จ๋า หนูแค่อยากช่วยแม่...”“แม่ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากหนู แม่ไม่อยากให้หนูออกสร้างปัญหาข้างนอกนั่น!” ซาบริน่าดุเธออย่างเคร่งครัด เธอมักจะเข้มงวดกั
ซาบริน่าไม่รู้ว่าจะตอบคำถามอย่างไรประโยคนั้นไม่มีเหตุผลเลย!เธอถามว่า “กำไลอะไรคะ? ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ คุณซื้อเสื้อผ้าให้ฉันแต่ไม่ได้ซื้อเครื่องประดับเลยนะ”เขาพยายามที่จะขู่กรรโชกเธอเหรอ?เธอไม่ได้ขโมยกำไลของเขามา!น้ำเสียงเยือกเย็นของเซบาสเตียนไม่เปลี่ยนไป “ฉันถามถึงกำไลเมื่อหกปีที่แล้ว!”สิ่งนี้ทำให้ซาบริน่าพูดไม่ออกก่อนจะออกมาจากเมืองเซ้าท์ ซิตี้เมื่อหกปีที่แล้ว เธอได้ทิ้งกำไลนั้นไว้พร้อมกับร่างของป้าเกรซ ซาบริน่าอยากให้กำไลเป็นสัญลักษณ์แทนตัวเธอ ดังนั้น เธอจึงทิ้งมันไว้ที่นั่นเพื่อให้อยู่เป็นเพื่อนป้าเกรซ ในตอนนั้น มันคือสิ่งเดียวที่ซาบริน่าสามารถทำได้เพื่อเกรซหลังจากนิ่งไปครู่หนึ่ง ซาบริน่ากล่าวว่า “ฉันคงจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วถ้าคุณไม่ได้พูดขึ้นมา ฉันพยายามคืนให้คุณเมื่อหกปีที่แล้ว แต่ในตอนนั้นคุณไม่ยอมรับมันไว้ คุณบอกว่าฉันควรเป็นคนเก็บมันไว้เพราะแม่ของคุณให้ฉัน แล้วทำไมคุณถึงต้องการมันคืนในตอนนี้ล่ะ?”ในขณะนั้น เซบาสเตียนรู้สึกเหมือนเพิ่งถูกซาบริน่าตำหนิและไม่รู้ว่าจะตอบโต้อย่างไรแต่มันยังทำให้เขาโกรธอีกด้วย!ความเข้าใจผิดต่อเซบาสเตียนดูเหมือนจะเป็นงานอดิเรกของเธ
ไอโนะถามว่า “... ลุงคิงส์ตันคะ ยิงปืนนัดเดียวได้นักสองตัวหมายความว่าอะไรคะ?” อย่างไรคำศัพท์ของเด็กหญิงตัวน้อยก็ยังพัฒนาไม่เต็มที่คิงส์ตันตอบว่า “มันหมายความว่า…” ขณะกำลังจะอธิบายเรื่องนี้กับเจ้าหญิงตัวน้อย เขาสังเกตเห็นการแสดงออกที่เย็นชาบนใบหน้าของนายน้อยจากกระจกมองหลัง เขาหุบปากทันทีคิงส์ตันเรียนรู้วิธีอ่านท่าทางของนายท่านเป็นอย่างดี แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหญิงจะไม่ได้มีทักษะนั้น เมื่อเธอเห็นว่าคิงส์ตันไม่ตอบคำถามของเธอ เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ก็หันไปหาพ่อตูดหมึกของเธอ กลอกตาและถามว่า “ถ้าอย่างนั้นหนูขอถามคุณหน่อยเถอะ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวหมายความว่าอะไรคะ?”ในตอนนี้ ไอโนะไม่ต้องพึ่งพาอ้อมกอดของพ่อเหมือนที่เธอเคยได้รับที่บ้านเก่าแก่หลังนั้นอีกต่อไป อันที่จริงเธอไม่อยากเรียกเขาว่าพ่อด้วยซ้ำเพราะว่ามีแค่พวกเขาสองคน เธอรู้สึกโกรธเล็กน้อยด้วยเหตุผลบางอย่าง แม้ว่าพ่อของเธอจะเป็นคนใจร้าย แต่ก็มีผู้หญิงมากมายที่พยายามจะจับเขาไอโนะเกลียดเรื่องนี้!เมื่อเซบาสเตียนเห็นสีหน้าไม่พอใจของเด็กหญิงตัวน้อย เขาไม่รู้ว่าเธออยากหัวเราะหรือร้องไห้แทนที่จะตอบไอโนะ เขากลับสวนกลับด้วยคำถามอื่น “ทำไมหนูถึ
ถ้านายท่านอาวุโสชอว์ไม่เอ่ยถึงกำไลนั้น เซบาสเตียนคงลืมมันไปแล้ว ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่แม่ของเขายังมีชีวิตอยู่ เธอได้มอบกำไลให้ซาบริน่า ซึ่งเป็นมรดกตกทอดของตระกูลอันประเมินค่ามิได้นายท่านอาวุโสชอว์กล่าวต่อ “เซบาสเตียน ผู้หญิงเจ้าเล่ห์คนนั้นกำลังวางแผนต่อต้านนายอยู่แน่ ๆ ลองคิดดู เธอทำร้ายไนเจล เซย์นนายน้อยแห่งตระกูลสมิธ หรือแม้แต่มาร์คัสมากแค่ไหน“เธอไม่สามารถเทียบได้กับแม่ของนายได้“ผู้หญิงแบบนั้นจะสามารถสอนลูกของนายให้ถูกต้องได้อย่างไร?”เซบาสเตียนฝืนยิ้ม “ตอนนี้ลูกสาวของผมอยู่กับผม แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแม่ของเธอ?!“นายท่านอาวุโสชอว์ด่วนสรุปเกินไปแล้วนะครับ!“สำหรับการอบรมลูกสาวของผม ผมไม่ต้องการให้บุคคลภายนอกมาแนะนำเกี่ยวกับวิธีการทำเช่นนั้น นายท่านอาวุโสชอว์ คุณควรให้ความสำคัญกับการอบรมหลานสาวของคุณเองอย่างเหมาะสม คุณจะได้หยุดดูหมิ่นตัวเองต่อหน้าตระกูลฟอร์ดสักที!”หลังจากพูดอย่างนั้น เซบาสเตียนก็อุ้มไอโนะไว้ในอ้อมแขนและพยายามจะออกจากห้องโถงไป“เซบาสเตียน!” เฮนรี่ตะโกน “จะไปไหน นายบอกว่าเราจะทานข้าวกับไอโนะไม่ใช่เหรอ? ย่าของนายเตรียมของขวัญมากมายไว้ให้เธอแล้วนะ เซบาสเตียน…”เ