ในขณะนี้ ไอโนะไม่กลัวเจ้าตูดหมึกอีกแล้ว เธอรู้สึกว่ามันน่าสนุกมากกว่าซาบริน่าที่ถูกอุ้มเข้ามาพูดเบา ๆ ว่า “คุณบอกว่าห้องนอนของคุณเต็มไปด้วยอุปกรณ์และอาวุธที่ซ่อนอยู่ไม่ใช่เหรอ?”"ใช่!"“ถ้าอย่างนั้น ฉัน…” เธอจะยังกล้าขยับเขยื้อนอะไรได้อีก? การขยับตัวเพียงนิดเดียว เธออาจต้องลาโลกใบนี้ไปเลยก็ได้“ห้องนี้ระบุตัวบุคคล ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยกลิ่นของฉัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนลึกสุดในตัวของเธอ ตอนนี้เธอปลอดภัยในห้องนี้แล้ว” เซบาสเตียนกล่าวซาบริน่าหน้าแดงอีกครั้งเธอรู้ว่าตัวเองเพลี่ยงพล้ำค่อนข้างง่าย เธอหน้าแดงอย่างง่ายดาย และทุกครั้งที่เธอหน้าแดงก็เป็นสัญญาณว่าเขาแอบอ่านความคิดภายในใจของเธอชายคนนั้นอุ้มเธอกลับเข้าไปใต้ผ้าห่ม และหันกลับไปตะโกนว่า “ป้าลูอิส เอาผ้าห่มขนห่านมาให้หน่อย”ผ้าห่มขนห่านถูกนำมาอย่างรวดเร็ว เซบาสเตียนซุกตัวซาบริน่าไว้ในผ้านวม จากนั้นซาบริน่าก็นอนเปลือยเปล่าในผ้านวมขนห่านซึ่งเป็นสีขาวบริสุทธิ์ ขณะที่เธอมองดูเซบาสเตียนเปลี่ยนเสื้อผ้าเขาไม่สนใจการมีอยู่ของเธอเลยเขาถอดเสื้อผ้าสบาย ๆ ต่อหน้าเธอ แล้วเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่เขากำลังจะใส่ เสื้อเชิ้ต เน็กไท ชุดสูท
แม้ว่าซาบริน่าจะอาย แต่เธอก็ทำตามที่ป้าลูอิสจัดการป้าลูอิสเป็นพยาบาลประจำครอบครัว ฝีมือของเธอเรียกได้ว่าอยู่ในระดับมืออาชีพและดูแลซาบริน่าเป็นอย่างดีเพราะเธอเข้าใจเรื่องนี้เป็นดีในทางกลับกัน ซาบริน่ายังรู้สึกเขินอายเล็กน้อยป้าลูอิสยิ้มอย่างอ่อนโยนและพูดว่า “คุณนายฟอร์ด คุณอ่อนไหวมากเลยนะคะ ไม่แปลกใจเลยที่นายท่านชอบคุณมาก”ซาบริน่าพูดไม่ออก“คุณนายฟอร์ดคะ” ป้าลูอิสเรียก“คะ” แม้ว่าซาบริน่าจะรู้ว่าเธอไม่ใช่คุณนายฟอร์ด แต่เธอก็ไม่คัดค้านเมื่อป้าลูอิสเรียกเธอ เพราะเธอรู้ว่าการคัดค้านของเธอไม่ได้ผล“ฉันเห็นว่าเจ้าหญิงน้อยเองก็อยากมีน้องมากเช่นกัน ด้วยอำนาจทางการเงินของนายท่าน เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะอยากมีลูกคนเดียว ถ้าคุณทั้งคู่ยังอยากมีลูกกันอีก คุณต้องดูแลตัวเอง คุณนายฟอร์ด อย่าขยับ ฉันจะใส่ยาเหน็บเข้าที่ตรงนั้น”ซาบริน่าไม่กล้าขยับหลังจากเหน็บยาเหน็บแล้ว ป้าลูอิสก็พูดอย่างระมัดระวังกับซาบริน่าว่า “คุณนายฟอร์ดคะ คุณต้องนอนบนเตียงอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง”ซาบริน่าเอาหัวของเธอซุกอยู่ในผ้าห่มและพึมพำ “เข้าใจแล้ว”ป้าลูอิสออกจากห้องอย่างเข้าใจและไม่รบกวนเธออีกเมื่อไม่มีเซบาสเตียนอย
ชุดของซาบริน่าสวยมากและเข้ากับนิสัยใจคอของเธอได้เป็นอย่างดี เธอดูเหมือนนางฟ้าที่เย็นชาและเรียบง่ายแต่ชุดของเซลีนนั้นประดับด้วยเพชรพลอยมากมายเป็นเวลาหกปีแล้ว เซลีนดูสดใสและเปล่งประกายกว่าเมื่อหกปีก่อน และเธอดูโอ้อวดและเจ้ากี้เจ้าการมากกว่าเมื่อหกปีก่อน เมื่อหกปีที่แล้ว ความเจ้ากี้เจ้าการของเซลีนยังถูกปกปิดไว้ แต่ทุกวันนี้เซลีนมีคำเจ้ากี้เจ้าการเขียนไว้บนใบหน้าโดยปราศจากการปกปิดใด ๆซาบริน่ารู้สึกเศร้าอยู่ในใจเป็นเรื่องน่าขันที่สาวใช้ในบ้านของเซบาสเตียนเรียกซาบริน่าว่าคุณนายฟอร์ดถ้าเธอคือคุณนายฟอร์ด แล้วเซลีนล่ะคืออะไร?ช่างตลกอะไรขนาดนี้แต่นี่ก็ยังดีซาบริน่ามองเซลีนพลางเลิกคิ้ว และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เซลีน ไม่เพียงแต่ฉันอยู่ที่นี่เท่านั้นนะ แต่ฉันยังนอนบนเตียงเดียวกันกับเซบาสเตียนด้วย เราเป็นคู่กันโดยพฤตินัย คู่รักพฤตินัย เข้าใจไหม?ตอนนี้เซบาสเตียนให้ความสนใจกับฉันมากชุดนี้ที่ฉันใส่เนี้ย คนที่ทำงานภายใต้คำสั่งของเซบาสเตียนเป็นคนเอามาให้กับมือเลยนะสวยใช่ไหมล่ะ เซลีน?”เซลีนตอบว่า “แก!”เธอขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความเกลียดชังหลังจากหยุดชั่วคราว เซลีน ก็พูดอย่างชั่วร้า
“ตาแท้ ๆ ของฉัน!”“ตอนนี้ฉันเป็นหลานสาวที่ตาตามใจมากที่สุด!”“ซาบริน่า ถ้าแกอยากให้ครอบครัวฉันและฉันตาย แกฝันไปเถอะ!”“นายท่านอาวุโสชอว์เหรอ? เขาเป็นตาของแกเหรอ?” ซาบริน่าตกใจเป็นอย่างมากเธอไม่ได้คาดคิดมาก่อนซาบริน่าเข้าใจทันทีว่าทำไมเซลีนจึงหยิ่งทะนงและเจ้ากี้เจ้าการนักตอนนี้ เซลีนมีคนคอยหนุนหลังเธอแล้ว"ถูกต้อง! ตาแท้ ๆ ของฉัน” เซลีนมองไปทางซาบริน่าด้วยสายตาที่พอใจที่มีความอิจฉาและความเกลียดชังเต็มไปหมดเมื่อเซบาสเตียนยกเลิกงานแต่งงานกับเซลีนเมื่อหกปีที่แล้ว เขาขังเธอไว้ที่บ้านตระกูลลินน์เพื่อเตรียมคลอด ครอบครัวลินน์ตกอยู่ในสภาวะหวาดกลัวอย่างไม่มีสิ้นสุด เพราะเซลีนรู้ว่าเด็กในท้องของเธอไม่ใช่ลูกของเซบาสเตียน ดังนั้นทันทีที่เด็กเกิด ครอบครัวลินน์ทุกคนจะต้องตายเมื่อพวกเขาหมดปัญญา นายท่านอาวุโสชอว์ก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าประตูบ้านของพวกเขาเซลีนจำวันที่ผู้เฒ่าชอว์ปรากฏตัวได้เป็นอย่างดีมีรถสีดำคันหรูอย่างน้อย 20 คัน จอดอยู่ด้านนอกบ้านตระกูลลินน์ และผู้คุ้มกันสี่คนก็พานายท่านอาวุโสชอว์มายังบ้านตระกูลลินน์ ลินคอล์นและเจดเป็นลมไปโดยทันทีพวกเขาคิดว่าครอบครัวฟอร์ดส่งนายท่านอาวุ
ท่านผู้เฒ่าชอว์ก้มลงมองเซลีน “เซลีน หนูคือเซลลี่เหรอ? เด็กที่ลูกสาวของฉันทิ้งไว้งั้นเหรอ?”ใบหน้าของเซลีนเต็มไปด้วยน้ำตา “คุณตาคะ แสดงว่าตาเป็นพ่อของแม่หนู พวกเขาบอกว่าแม่ของหนูเป็นขอทาน แต่แม่ของหนูมีพ่อที่น่าเคารพและมีเกียรติเป็นอย่างมาก“แต่ทำไมแม่ของหนูถึงกลายเป็นขอทานในตอนนั้นล่ะคะ คุณตา?”เซลีนเคยรู้เรื่องพ่อของเขาและภรรยาเก่าเมื่อลินคอล์นรับผู้หญิงคนนั้นมา เธออยากจะใช้เวลาที่เหลือกับลินคอล์นอย่างสุดหัวใจ แต่ลินคอล์นไล่เธอออกไปจากบ้านหลังจากที่เขาอยู่กับเธอ และหยิบฉวยเครื่องประดับทั้งหมดมาจากในกระเป๋าใบเล็ก ๆ ที่เธอถือติดตัวมาโดยตลอดลินคอล์นและเจดแต่งงานกันหลังจากเหตุการณ์นั้นต่อมาพวกเขารับเลี้ยงเซลีนซึ่งตอนนั้นอายุได้ 1 ขวบ เพราะเจดมีบุตรยาก แม้ว่าเซลีนจะเป็นลูกบุญธรรม แต่เธอก็ไม่ต่างจากลูกแท้ ๆ ในสายตาของเจดและลินคอร์นทั้ง 3 คน ในครอบครัวมีกลมเกลียวกันอยู่เสมออย่างไรก็ตาม ไม่มีใครคาดคิดว่าหลังจากผ่านไป 20 ปี ผู้หญิงคนนั้นซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกลินคอล์นไล่ออกจากบ้าน กลับกลายเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของนายท่านอาวุโสชอว์ผู้หญิงคนนั้น…ทั้งสามคนในครอบครัวลินน์รู้ดีอยู่ในใจ และไ
เซลีนถูกบอดี้การ์ดของนายท่านอาวุโสชอว์อุ้มไปส่งที่โรงพยาบาลเอกชนซึ่งเป็นโรงพยาบาลของครอบครัวชอว์ วอร์ดที่เธอเข้ารับการรักษานั้นเป็นวอร์ดที่ดีที่สุดและเป็นส่วนตัวที่สุด หมอพบว่าอาการป่วยของเซลีนเป็นสาเหตุของการคลอดก่อนกำหนด แต่นายท่านอาวุโสชอว์ที่รู้ว่าลูกสาวของเขาเสียชีวิตแล้ว และนี่เป็นหลานสาวคนเดียวที่เขาเหลืออยู่ ดังนั้นไม่ว่าเมื่อก่อนเซลีนจะเป็นอย่างไรและไม่ว่าเธอจะหลอกเซบาสเตียนหรือไม่ เขาก็ไม่สนใจ นายท่านอาวุโสชอว์เพียงต้องการรับหลานสาวคนนี้ไว้ เขาจัดหาหมอที่เก่งที่สุดให้เซลีน เพื่อฟื้นฟูสุขภาพของเธอ นอกจากนี้เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับเซบาสเตียน นายท่านอาวุโสชอว์ถึงกับออกหน้าเอง เขาทิ้งความหยิ่งยโสและอธิบายให้เซบาสเตียนฟังว่า “เซบาสเตียน ฉันทำผิดต่อนาย ฉันตามหาน้าของมาร์คัสอย่างใจจดใจจ่อ และลุงชอว์ของนายก็ได้พบว่าเธอเคยอยู่กับชายผู้นี้ที่ชื่อลินคอล์น ลินน์ ฉันแทบรอไม่ไหวที่จะไปบ้านตระกูลลินน์” “ฉันเพิ่งรู้เมื่อไปถึงว่านายขังเซลลี่เอาไว้” “เมื่อเซลลี่เห็นว่าฉันเข้าไป เธอคิดว่านายส่งคนมาทำอะไรบางอย่างกับเธอ จากนั้นเธอก็ตกบันไดเพราะเธอเสียสมาธิซึ่งส่งผลให้เธอแท้งลูกในที่สุด
ในตอนนั้นเซลีนรู้สึกอับอายอย่างมาก เธอฝืนยิ้มและมองเซบาสเตียนอย่างประชดประชัน “ เซบาสเตียนที่รักคะ ไม่ว่ายังไง ฉันก็เป็นผู้หญิงที่เคยอุ้มท้องลูกของคุณและช่วยชีวิตคุณ อีกทั้งตาของฉันก็มีอำนาจมากด้วย ฉันไม่ดีพอสำหรับคุณเหรอคะ?”เซบาสเตียนพูดโดยไม่แสดงอาการใด ๆ “ไม่”เซลีนถามว่า “ทำไมล่ะ?”เซบาสเตียนยิ้มเยาะ “ซาบริน่าทำลายการแต่งงานของเรา ไม่มีใครในเมืองเซ้าท์ ซิตี้กล้าสร้างความวุ่นวายในงานแต่งงานของฉัน ในเมื่อซาบริน่าทำเรื่องแบบนั้น ฉันจะจับเป็นเธอมาให้ได้ แต่ถ้ายังจับซาบริน่ามาไม่ได้ ฉันจะไม่แต่งงานเด็ดขาด!”เซลีนหมดคำที่จะพูดเธอถ่ายทอดสิ่งที่เซบาสเตียนพูดกับลินคอล์นและเจด ทั้งสามคนในครอบครัวคาดเดากันอย่างลับ ๆ ว่าบางทีเหตุผลที่เซบาสเตียนต้องการจับตัวซาบริน่าให้กลับทั้งที่มีชีวิตอยู่ อาจไม่ใช่จุดสิ้นสุดชีวิตของเธอ แต่เป็นเพราะเด็กในท้องของซาบริน่าเซบาสเตียนต้องมั่นใจเพียงครึ่งเดียวจากคำพูดของซาบริน่าเขาต้องการจะรอจนซาบริน่าคลอดลูก ถ้าลูกของซาบริน่าเป็นลูกของเซบาสเตียน ครอบครัวของลินน์ก็ไม่อาจหนีจากความตายได้แต่นี่เป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้นลูกน้องที่ติดตามเซบาสเตียนได้กระจา
“แกคิดว่าคนอย่างซาบริน่า สก๊อตต์จะกลัวเด็กอมมือที่เอาคุณตามาขู่รึไง?”“ฮ่าฮ่า!” เสียงหัวเราะของเซลีนบ้าคลั่งมากยิ่งขึ้น “ซาบริน่า คุณตาของฉันมีกองทหารเก่าของเขาอยู่ทั่วประเทศ และส่วนใหญ่อยู่ที่ชายแดนเพื่อรักษาความปลอดภัย เมื่อเวลานั้นมาถึง คุณตาของฉันส่งแกไปที่ชายแดนด้วยความโกรธเคือง”“เขาคงจะสั่งอีกสักอย่าง”“แกรู้ไหมว่าแกจะจบลงยังไง?”“มันคือสถานที่ที่ไม่มีใครอยู่ภายใต้กฎหมายเลยแหละ ที่แห่งนี้มีอาชญากรและพวกนอกกฎหมายทุกประเภทอยู่ทุกหนทุกแห่ง แกจะถูกมัดไว้กับต้นไม้และพวกเขาไม่ให้แกใส่แม้แต่เสื้อผ้าเลยด้วยซ้ำ”“จะมีคนหลายร้อยหลายร้อยคนรอเข้าแถวเพื่อเสพสมกับแกทุกวัน”“จนกว่าแกจะเหนื่อยตาหรือเป็นโรคตายไปนั่นแหละ!”ซาบริน่าอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นใบหน้าของเซลีนพึงพอใจมากขึ้นอีกตอนที่เธอเห็นท่าทางของซาบริน่าแม้ซาบริน่าจะมีอาการสั่นเล็กน้อย แต่เธอก็เยาะเย้ยและกล่าวว่า “ไม่เป็นไรหรอก ถ้าคุณตาของแกเอาตัวฉันไปได้ ก็เอาไปเลย! เซลีน แกเคยส่องกระจกดูตัวเองบ้างไหมว่าตอนที่แกกำลังมาทำอวดดีใส่ฉันแบบนี้ แกมีสารรูปยังไง?”“แกก็เหมือนกับเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมที่ไม่มีปัญญาจะเอาชนะคนอื่นได้ไง น
คิงส์ตัน มาร์คัส และ ซาบริน่าต่างตกตะลึงมาร์คัสพยายามปกป้องซาบริน่าที่อยู่ข้างหลังของเขา ขณะที่มองเซบาสเตียนอย่างสยองขวัญ “เซบาสเตียน...ถ้านายมีปัญหาอะไร เข้ามาหาฉัน อย่าแตะต้องซาบริน่า เพราะยังไง เธอก็เป็นแม่ของลูกนายนะ“ถ้า...นายอยากจะฆ่าใครสักคน ให้มันเป็นฉันเถอะนะ”เซบาสเตียนไม่ตอบ เขาเพียงแค่ถอดเนกไทและปลดกระดุมเสื้อของเขาออก ในชั่วขณะนั้น ร่างที่กำยำของเขาก็สัมผัสกับมาร์คัสจากนั้น เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ว่า “นายกำลังคิดอะไรอยู่? รถค่อนข้างอับชื้น ฉันก็เลยรู้สึกร้อนเฉย ๆ ดังนั้น ฉันจึงแกะกระดุมเพื่อให้เย็นลงเล็กน้อย”มาร์คัสรู้สึกโล่งใจ “อ๋อ...เซบาสเตียน นาย...คอของนาย ได้รับบาดเจ็บได้ยังไง?“อ๋อ ฉันได้รับบาดเจ็บจากแมวป่า” เซบาสเตียนตอบอย่างไม่ใส่ใจทั้งคิงส์ตันและซาบริน่ายังคงถูกแช่แข็งอยู่กับที่ใบหน้าของซาบริน่าเปลี่ยนเป็นสีแดงจนเธอละสายตาจากทุกคนที่นั่น และมุ่งความสนใจไปที่การลูบผมของไอโนะลิ้นของคิงส์ตันผูกเป็นปมในขณะคิดกับตัวเอง'นายน้อย คุณไม่ใช่คนโกหกเก่งเลย แมวป่าพันธุ์ไหนที่ทิ้งร่องรอยของฟันไว้ได้''แม้ว่าจะเป็นแมวป่า แต่คุณไม่รู้หรือว่าแมวและมนุษย์ม
“ฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีก“ถ้าในอนาคตเธอต้องการเงิน ไม่ว่าจะมากขนาดไหน เธอก็มาหาฉันได้เสมอ“อย่าปล่อยให้ตัวเองต้องทนทุกข์เพียงลำพังซาบริน่ารับนามบัตรโดยกล่าวว่า “ขอบคุณค่ะ นายน้อยชอว์”ความจริงแล้ว เธอไม่อยากรับนามบัตร แล้วเธอจะรับไปเพื่ออะไร? ซาบริน่าและลูกสาวของเธออยู่กับเซบาสเตียนแล้ว ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีกในอนาคต นอกจากนี้ เธอยังได้งานทำแล้ว ซึ่งเธอตัดสินใจที่จะอุทิศเวลาของเธอและสร้างเนื้อสร้างตัวเธอไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใครอีกต่อไปแต่เมื่อเห็นว่ามาร์คัสเคยช่วยเธอมาก่อน เธอไม่ต้องการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของมาร์คัสด้วยการปฏิเสธนามบัตรไปขณะที่เธอกำลังเอื้อมมือไปหยิบการ์ดนั้น ก็มีรถจอดอยู่ข้างหลังทั้งคู่ มาร์คัสและซาบริน่าต่างหันความสนใจไปที่รถท่าทีของซาบริน่าเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเหตุใดจึงเป็นเรื่องบังเอิญที่เซบาสเตียนกลับมาถึงบ้านในขณะนั้น?ด้วยเหตุผลบางอย่าง ซาบริน่ากลัวว่าภาพก่อนหน้านี้จะทำให้เซบาสเตียนหึง แต่หลังจากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เธอก็ตระหนักว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลยที่เซบาสเตียนจะรู้สึกแบบนั้นซาบริน่าคิดมากไปคนแรกที่ลงจากรถคือคิงส์ตัน เมื่อเห็นมาร
มาร์คัสถึงกับพูดไม่ออกเขาไม่รู้จะปลอบเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาอย่างไร เขาได้แต่แบ่งปันความเจ็บปวดของเธอในใจ ในขณะนั้นเอง ฝนก็เริ่มตกราวกับว่ามีใครให้สัญญาณฝนเริ่มตกหนักขึ้นภายในไม่กี่วินาทีซาบริน่ายกแขนขึ้นเพื่อกันศีรษะจากฝน แต่มาร์คัสดึงเธอเข้าไปในล็อบบี้ของอาคารชั้นหนึ่งทันทีขณะที่ทั้งสองตั้งสติ มาร์คัสหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดหมายเลข “ซินดี้ ช่วยฉันเอาเอกสารไปที”ซาบริน่าไม่พูดอะไรมาร์คัสไม่ได้ตั้งใจที่จะขึ้นไปข้างบนเหรอ? ทำไมเขาถึงเรียกใครบางคนมาที่นี่เพื่อรับเอกสารไปแทน?ไม่นานหลังจากนั้น หญิงสาวสวยในชุดอย่างมืออาชีพและรองเท้าส้นสูงก็มาถึงล็อบบี้ มาร์คัสจึงส่งเอกสารบางส่วนให้กับผู้หญิงคนนั้นและสั่งว่า “บอกผู้อำนวยการของเธอว่าฉันจะไม่ขึ้นไปชั้นบน มีบางอย่างที่ฉันต้องจัดการที่นี่”“ค่ะ ผู้อำนวยการชอว์” หญิงสาวตอบด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินกลับขึ้นไปชั้นบนมาร์คัสหันมาสนใจซาบริน่าอีกครั้ง “เธอจะไปไหน? เดี๋ยวฉันจะไปส่ง”ซาบริน่าไม่รู้จะตอบอย่างไร เธออยากกลับบ้านหลังจากชะงักเล็กน้อยเธอก็เริ่มพูดอีกครั้ง “ไม่จำเป็นหรอกค่ะ นายน้อยชอว์ ฉันไปเองได้”มาร์คัสยิ้ม “เธอกำลังจ
ความสัมพันธ์ที่ซาบริน่ามีกับครอบครัวลินน์เป็นความทรงจำที่เจ็บปวดสำหรับเธอเสมอมา มันเป็นรอยแผลเป็นที่เธอไม่อยากเปิดเผย อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องน่าอายแต่อย่างใดแม้ว่ามาร์คัสจะเชื้อเชิญ แต่ซาบริน่าก็ไม่ได้ไปร้านกาแฟกับเขา ตอนนี้ ทั้งสองคนยืนอยู่บนถนนสายหลักนอกทางเข้าบริษัท ซาบริน่าตั้งใจที่จะเล่าเรื่องราวอย่างง่าย ๆ ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับครอบครัวลินน์ เพราะเธอต้องการกลับบ้านโดยเร็วเพื่อจะได้รู้ว่าไอโนะทำอะไรลงไปที่บ้านตระกูลฟอร์ด“ตอนอายุน้อยกว่าสิบสองปี ฉันอาศัยอยู่ในบ้านเกิดของฉัน ซึ่งอยู่ในเขตชานเมืองของเมืองเล็ก ๆ พ่อแม่ของฉันอาศัยอยู่ที่นั่นโดยปลูกผักครัวเรือน ในช่วงที่ซบเซา พ่อของฉันก็จะไปเป็นคนส่งสินค้าให้โกดังด้วย“ตอนที่ฉันอายุได้สิบขวบ ตอนที่พ่อของฉันทำงานอยู่ที่โกดัง เขาถูกของบางอย่างตกใส่เขา ของทับจนเสียชีวิต ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น แม่ของฉันป่วยและไม่อาจรักษาหายได้ตลอดทั้งปี“หลังจากนั้น เธอก็ไม่ดีขึ้นเลย และร่างกายของเธอก็อยู่ในสภาพที่เปราะบางอยู่เสมอ“แต่เพราะฉันเรียนเก่ง แม่ของฉันอยากให้ฉันเรียนต่อ สองปีต่อมา เธอพาฉันมาที่เมืองเซ้าท์ ซิตี้“นั่นเป็นค
มาร์คัส ชอว์เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าเมื่อหกปีก่อนมาก และมีลักษณะเป็นนักวิชาการ ซาบริน่านึกถึงความช่วยเหลือทุกอย่างที่เขาให้ไว้กับเธอในตอนที่เธอหนีไปจากเมืองเซ้าท์ ซิตี้ แม้แต่ตอนเธอออกมาจากบ้านเช่าเพื่อไปห้ามไม่ให้เซบาสเตียนแต่งงาน มาร์คัสก็ยังอยู่ที่นั่นเพื่อช่วยเธอเมื่อซาบริน่ามองเข้าไปในดวงตาของมาร์คัส เธอรู้ได้เลยว่าดวงตาคู่นั้นอ่อนโยนและใจดีเพียงใดเขาเริ่มถามว่า “ซาบริน่า สบายดีไหม? ฉันรู้ว่าเซบาสเตียนเป็นคนจับตัวและพาเธอกลับมาที่นี่ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ครอบครัวของฉันเริ่มจับตาดูฉันอย่างเข้มงวดมากขึ้น ดังนั้น หากว่าฉันไปหาเธออย่างไม่ระมัดระวัง ก็รังแต่จะยั่วโมโหเซบาสเตียนมากขึ้นเรื่อย ๆ ฉันจึงไม่พยายามติดต่อเธอมาโดยตลอด บอกฉันทีว่าตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง?“เซบาสเตียนปฏิบัติต่อเธอยังไงบ้าง...”"ดีมาก" ซาบริน่าตอบเพียงสองคำเธอเพียงยิ้มให้มาร์คัสโดยไม่ได้อธิบายอะไรแม้ว่าเธอจะรู้สึกอยากขอบคุณใครสักคน แต่ซาบริน่าก็ยังเป็นคนที่เก็บความรู้สึกของเธอไว้ข้างในเสมอ แทนที่จะใช้คำพูดเพียงผิวเผินเพื่อแสดงความรู้สึกเหล่านั้น มันเหมือนกับความสำนึกบุญคุณที่เธอรู้สึกต่อไนเจลในตอนนั้นที่เธอไ
เด็กน้อยคนนี้ไม่เคยกลัวเลยจริง ๆ ในช่วงสองปีที่เธอใช้เวลาอยู่ในโรงเรียนอนุบาลที่เขตเมืองเคียร์ราย เธอตีกับเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ นับไม่ถ้วนแน่นอน ไอโนะเคยทะเลาะกับเด็กคนอื่น ๆ เท่านั้น เมื่อพวกเขาล้อเลียนเธอว่าไม่มีพ่อหรือดูถูกแม่ของเธอไอโนะจะเอาชนะเด็กคนอื่นอย่างกล้าหาญทุกครั้งหลังจากทะเลาะกับเด็กในโรงเรียนอนุบาล ตอนนี้ เธอไปยั่วยุพวกผู้ใหญ่แล้วเหรอ?ซาบริน่าโพล่งออกมาด้วยเหงื่อเย็นเยียบโลกของผู้ใหญ่นั้นซับซ้อนขนาดไหน? มันไม่ใช่สิ่งที่เด็กห้าขวบอย่างไอโนะจะเข้าใจได้อย่างแน่นอน ลูกของเธอยังเล็กอยู่ ดังนั้น ไม่ว่าเธอจะดุร้ายหรือกล้าหาญแค่ไหน เธอก็ยังไม่สามารถเอาชนะผู้ใหญ่ด้วยสติปัญญาหรือพละกำลังได้ซาบริน่ากังวลเรื่องความปลอดภัยของลูกสาวเป็นหลักเธอดุไปทางโทรศัพท์ “ไอโนะ! บอกเลยถ้าหนูทำร้ายผู้ใหญ่อีก แม่จะตีก้นหนูจนบวมเลย! แม่ไม่อยากเจอหนูอีกแล้ว!”ไอโนะตกใจกับคำพูดรุนแรงของแม่ของเธอจนถึงกับร้องไห้ออกมา เธอเช็ดจมูกขณะสะอื้นไห้ “แม่จ๋า หนูแค่อยากช่วยแม่...”“แม่ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากหนู แม่ไม่อยากให้หนูออกสร้างปัญหาข้างนอกนั่น!” ซาบริน่าดุเธออย่างเคร่งครัด เธอมักจะเข้มงวดกั
ซาบริน่าไม่รู้ว่าจะตอบคำถามอย่างไรประโยคนั้นไม่มีเหตุผลเลย!เธอถามว่า “กำไลอะไรคะ? ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ คุณซื้อเสื้อผ้าให้ฉันแต่ไม่ได้ซื้อเครื่องประดับเลยนะ”เขาพยายามที่จะขู่กรรโชกเธอเหรอ?เธอไม่ได้ขโมยกำไลของเขามา!น้ำเสียงเยือกเย็นของเซบาสเตียนไม่เปลี่ยนไป “ฉันถามถึงกำไลเมื่อหกปีที่แล้ว!”สิ่งนี้ทำให้ซาบริน่าพูดไม่ออกก่อนจะออกมาจากเมืองเซ้าท์ ซิตี้เมื่อหกปีที่แล้ว เธอได้ทิ้งกำไลนั้นไว้พร้อมกับร่างของป้าเกรซ ซาบริน่าอยากให้กำไลเป็นสัญลักษณ์แทนตัวเธอ ดังนั้น เธอจึงทิ้งมันไว้ที่นั่นเพื่อให้อยู่เป็นเพื่อนป้าเกรซ ในตอนนั้น มันคือสิ่งเดียวที่ซาบริน่าสามารถทำได้เพื่อเกรซหลังจากนิ่งไปครู่หนึ่ง ซาบริน่ากล่าวว่า “ฉันคงจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วถ้าคุณไม่ได้พูดขึ้นมา ฉันพยายามคืนให้คุณเมื่อหกปีที่แล้ว แต่ในตอนนั้นคุณไม่ยอมรับมันไว้ คุณบอกว่าฉันควรเป็นคนเก็บมันไว้เพราะแม่ของคุณให้ฉัน แล้วทำไมคุณถึงต้องการมันคืนในตอนนี้ล่ะ?”ในขณะนั้น เซบาสเตียนรู้สึกเหมือนเพิ่งถูกซาบริน่าตำหนิและไม่รู้ว่าจะตอบโต้อย่างไรแต่มันยังทำให้เขาโกรธอีกด้วย!ความเข้าใจผิดต่อเซบาสเตียนดูเหมือนจะเป็นงานอดิเรกของเธ
ไอโนะถามว่า “... ลุงคิงส์ตันคะ ยิงปืนนัดเดียวได้นักสองตัวหมายความว่าอะไรคะ?” อย่างไรคำศัพท์ของเด็กหญิงตัวน้อยก็ยังพัฒนาไม่เต็มที่คิงส์ตันตอบว่า “มันหมายความว่า…” ขณะกำลังจะอธิบายเรื่องนี้กับเจ้าหญิงตัวน้อย เขาสังเกตเห็นการแสดงออกที่เย็นชาบนใบหน้าของนายน้อยจากกระจกมองหลัง เขาหุบปากทันทีคิงส์ตันเรียนรู้วิธีอ่านท่าทางของนายท่านเป็นอย่างดี แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหญิงจะไม่ได้มีทักษะนั้น เมื่อเธอเห็นว่าคิงส์ตันไม่ตอบคำถามของเธอ เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ก็หันไปหาพ่อตูดหมึกของเธอ กลอกตาและถามว่า “ถ้าอย่างนั้นหนูขอถามคุณหน่อยเถอะ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวหมายความว่าอะไรคะ?”ในตอนนี้ ไอโนะไม่ต้องพึ่งพาอ้อมกอดของพ่อเหมือนที่เธอเคยได้รับที่บ้านเก่าแก่หลังนั้นอีกต่อไป อันที่จริงเธอไม่อยากเรียกเขาว่าพ่อด้วยซ้ำเพราะว่ามีแค่พวกเขาสองคน เธอรู้สึกโกรธเล็กน้อยด้วยเหตุผลบางอย่าง แม้ว่าพ่อของเธอจะเป็นคนใจร้าย แต่ก็มีผู้หญิงมากมายที่พยายามจะจับเขาไอโนะเกลียดเรื่องนี้!เมื่อเซบาสเตียนเห็นสีหน้าไม่พอใจของเด็กหญิงตัวน้อย เขาไม่รู้ว่าเธออยากหัวเราะหรือร้องไห้แทนที่จะตอบไอโนะ เขากลับสวนกลับด้วยคำถามอื่น “ทำไมหนูถึ
ถ้านายท่านอาวุโสชอว์ไม่เอ่ยถึงกำไลนั้น เซบาสเตียนคงลืมมันไปแล้ว ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่แม่ของเขายังมีชีวิตอยู่ เธอได้มอบกำไลให้ซาบริน่า ซึ่งเป็นมรดกตกทอดของตระกูลอันประเมินค่ามิได้นายท่านอาวุโสชอว์กล่าวต่อ “เซบาสเตียน ผู้หญิงเจ้าเล่ห์คนนั้นกำลังวางแผนต่อต้านนายอยู่แน่ ๆ ลองคิดดู เธอทำร้ายไนเจล เซย์นนายน้อยแห่งตระกูลสมิธ หรือแม้แต่มาร์คัสมากแค่ไหน“เธอไม่สามารถเทียบได้กับแม่ของนายได้“ผู้หญิงแบบนั้นจะสามารถสอนลูกของนายให้ถูกต้องได้อย่างไร?”เซบาสเตียนฝืนยิ้ม “ตอนนี้ลูกสาวของผมอยู่กับผม แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแม่ของเธอ?!“นายท่านอาวุโสชอว์ด่วนสรุปเกินไปแล้วนะครับ!“สำหรับการอบรมลูกสาวของผม ผมไม่ต้องการให้บุคคลภายนอกมาแนะนำเกี่ยวกับวิธีการทำเช่นนั้น นายท่านอาวุโสชอว์ คุณควรให้ความสำคัญกับการอบรมหลานสาวของคุณเองอย่างเหมาะสม คุณจะได้หยุดดูหมิ่นตัวเองต่อหน้าตระกูลฟอร์ดสักที!”หลังจากพูดอย่างนั้น เซบาสเตียนก็อุ้มไอโนะไว้ในอ้อมแขนและพยายามจะออกจากห้องโถงไป“เซบาสเตียน!” เฮนรี่ตะโกน “จะไปไหน นายบอกว่าเราจะทานข้าวกับไอโนะไม่ใช่เหรอ? ย่าของนายเตรียมของขวัญมากมายไว้ให้เธอแล้วนะ เซบาสเตียน…”เ