'เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นพ่อของเด็กในท้องของเธอ’‘และเซบาสเตียน เขาก็จะหมั้นหมายเร็ว ๆ นี้แล้ว และอีกไม่นานเขาก็จะแต่งงานกับเซลีน”'ซาบริน่า เธอรอเขาไม่ไหวหรอก!'บ่ายวันนั้น ซาบริน่านั่งที่ร้านกาแฟเพียงลำพัง เธอจมดิ่งสู่ความว่างเปล่าด้วยความทุกข์ใจภาพจำของเซบาสเตียนยังตราตรึงอยู่ในความคิดของเธออย่างไรก็ตาม สิ่งที่ซาบริน่าไม่รู้ก็คือ เซบาสเตียนนั่งอยู่ที่ห้องข้าง ๆ เธอ มีเพียงเสาขนาดใหญ่ขวางกั้นทั้งสองอยู่เขาเห็นรอยยิ้มที่เธอส่งให้กับไนเจลอย่างชัดเจน ราวกับว่าสิ่งนั้นมีผลกระทบต่อจิตใจของเขา เซบาสเตียนกำหมัดแน่นและคลายออกซ้ำแล้วซ้ำเล่าเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขากำหมัดแน่นจนข้อนิ้วเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาวพวกเขาวางแผนที่จะแยกทางกันอย่างเป็นทางการในวันรุ่งขึ้น ถึงแม้ว่าการหย่าร้างจะเกิดขึ้น เซบาสเตียนก็ยังหมกมุ่นอยู่กับการสังเกตไนเจลและซาบริน่าขณะที่พวกเขาคุยกันในช่วงบ่ายที่เหลือ ทั้งสองต่างนั่งเฉย ๆ ไม่ขยับเขยื้อนใด ๆ เมื่อถึงเวลาตอนเย็น ซาบริน่าจึงตัดสินใจออกจากร้านกาแฟ โดยที่เซบาสเตียนก็ทำแบบเดียวกันหลังจากนั้นไม่นาน เมื่อเขาขึ้นรถ คิงส์ตันก็พูดขึ้นมาอย่างไม่ทันคิด “นายน้อยค
เซลีนมองที่ซาบริน่าอย่างเย่อหยิ่ง “พรุ่งนี้! ฉัน! จะหมั้นกับเซบาสเตียนแล้ว! ดูสารรูปตัวเองสิ! แกมันก็แค่คนหลอกลวงที่ขโมยสามีของฉันไปอย่างไร้ยางอายเป็นเวลาสองเดือนเท่านั้น! เคนตันทำให้ให้แกอับอายขายขี้หน้าไม่ใช่เหรอ? ดี แกสมควรโดนแล้วล่ะ! ฉันแค่เกลียดที่แกทำให้ตาแก่นั้นบาดเจ็บจริง ๆ และทำให้ไนเจลปกป้องแกด้วย!”“ซาบริน่า แกจะทำร้ายสามีของฉันต่อไปไม่ได้แล้ว ดังนั้นแกจึงตัดสินใจที่จะสร้างปัญหาให้กับนายน้อยไนเจลแทนใช่ไหม?”แม้จะต้องเผชิญกับการยั่วยุเช่นนี้ ซาบริน่าก็บังคับตัวเองให้สงบสติอารมณ์และยิ้มให้เซลีน “ขอแสดงความยินดีกับการหมั้นของเธอในวันพรุ่งนี้ด้วย ในฐานะลูกสาวบุญธรรมของตระกูลลินน์ พรุ่งนี้ฉันจะไปที่นั่นเพื่อแสดงความยินดีให้กับเธออย่างแน่นอน”“กล้าดียังไง!”“ถ้าเธอไม่ออกไปตอนนี้ ฉันสาบานว่าจะทำจริง ๆ แน่! ฉันถูกพวกเธอทุกคนต้อนฉันจนหัวชนฝาแล้ว ไม่มีอะไรที่ฉันไม่กล้าทำหรอกนะ!” ซาบริน่าจ้องไปที่เซลีนอย่างจริงจัง “พรุ่งนี้ ที่งานเลี้ยงหมั้นของเธอ ฉันจะประกาศต่อสาธารณชนว่าเด็กในท้องของฉันก็เป็นลูกของเซบาสเตียนด้วย แล้วเธอจะรู้ว่าการถูกดูหมิ่นมันเป็นยังไง!”“แก…” เซลีนชี้ไปที่ซาบริ
ผู้ที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกระดับสูงของเซ้าท์ ซิตี้ทั้งหมดในหมู่พวกเขา มีบุคคลต่าง ๆ เช่นผู้ที่มาจากครอบครัวฟอร์ดเช่นป้าของเซบาสเตียนและไนเจล ทว่า พ่อและแม่เลี้ยงของเซบาสเตียนไม่ได้เข้าร่วมพิธีเนื่องจากยังอยู่ที่ต่างประเทศ นอกจากพวกเขาแล้ว ยังมีครอบครัวชอว์และสมิธอยู่ด้วยเนื่องจากพวกเขาทั้งหมดเป็นตระกูลที่เก่าแก่ เซบาสเตียนจึงถูกบังคับให้เชิญพวกเขาตามคำร้องขอของท่านผู้อาวุโสฟอร์ดถ้าไม่ขึ้นอยู่กับเขา เซบาสเตียนจะไม่เชิญใครเลยที่จริงแล้ว เขาคงไม่ได้จัดงานเลี้ยงด้วยซ้ำ เพราะการแต่งงานของเขากับเซลีนเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างพวกเขาทั้งสองเซบาสเตียนรู้ดีว่าเขาแต่งงานกับเซลีนเพียงเพราะเธอเคยช่วยเขาไว้ครั้งหนึ่ง เช่นเดียวกับเด็กที่อยู่ในท้องของเซลีนเขาไม่ได้รักเธอเลยเขาจะรู้สึกท้อแท้อย่างยิ่งเมื่อมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นอย่างไรก็ตาม สำหรับเซลีนถือเป็นเกียรติสูงสุดที่เธอเคยได้รับหลังจากการหมั้นหมาย ชนชั้นสูงทั้งหมดในเซ้าท์ ซิตี้จะรู้ถึงสถานะทางสังคมที่ถูกตั้งขึ้นใหม่ของเซลีนมินดี้ ลูกสาวที่รักของตระกูลชอว์ ไม่เคยแม้แต่จะแลชายตามองเซลีน ความแตกต่างของสถานะทางสังคมนั้นห่างชั้นกันมาก แม
“ได้ค่ะ” ซาบริน่าตอบกลับไป ก่อนที่จะวางสาย น้ำเสียงของซาบริน่าฟังดูอ่อนโยนมาก “เราจะไปที่ไหนเหรอคะ แล้วจะให้ฉันรอคุณที่ไหน?”ไนเจลครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “รอฉันที่ทางเข้าบริษัท”“ได้ค่ะ” ซาบริน่าแสดงท่าทีที่อ่อนน้อมถ่อมตนไนเจลวางสายทันทีหลังจากการสนทนาสั้น ๆหลังจากวางสาย เขาได้แลกเปลี่ยนสายตากับมินดี้ และเห็นรอยยิ้มน่าดึงดูดของเธอ “ตั้งแต่คุณแสดงให้ฉันเห็นว่าฉันมีคู่แข่ง คุณกำลังบอกฉันว่าคุณต้องการเลือกฉันใช่ไหมคะ? มันจะไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?” มินดี้ถามไนเจลเพียงส่งยิ้มที่เยือกเย็นให้ “ผมสามารถแยกความแตกต่างระหว่างประเภทของผู้หญิงที่เล่นด้วยได้กับผู้หญิงที่ต้องการแต่งงานเพื่อสร้างครอบครัวจริง ๆ ถ้าเราจะแต่งงานกัน คุณปู่ทั้งสองของเราจะเห็นด้วยอย่างแน่นอน คุณก็รู้ว่าปู่ของผมจะดีใจแค่ไหนหากมันเกิดขึ้น อีกอย่างลูกพี่ลูกน้องของผมก็หมั้นแล้วไม่ใช่เหรอ?”มินดี้พยักหน้าเห็นด้วย “นั่นก็สมเหตุสมผลนะคะ”“อย่างไรก็ตาม คุณไม่สามารถหยุดผมจากการไปหาความสนุกนิด ๆ หน่อย ๆ ได้หรอกนะ” ไนเจลพูดด้วยความเมาหลังจากดื่มไป มินดี้ก็เริ่มเมามากเช่นกัน “นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการเล่นกับใคร?”ไนเจลยิ้ม
เขาไม่ได้ส่งเธอกลับไปที่บ้านของตระกูลลินน์นั่นหมายความว่าในที่สุดเธอก็สามารถอยู่ในห้องเดียวกับเซบาสเตียนและเริ่มเป็นคู่รักที่แท้จริงได้ใช่ไหม?ฮิ ฮิ!เมื่อปล่อยให้จินตนาการโลดแล่นไป เซลีนก็ขึ้นรถของคิงส์ตันอย่างมีความสุขและออกจากร้านอาหารในทางกลับกัน เซบาสเตียนกำลังขับรถช้า ๆ บนถนนสายหลัก โดยไร้ซึ่งจุดหมายในขณะเดียวกัน ซาบริน่าก็มาถึงบริษัทแล้ว ขณะที่เธอกำลังจะโทรหาไนเจล เขาก็โทรเข้ามาก่อน “ซาบริน่า ที่นี่ฉันค่อนข้างยุ่ง เลยไปรับเธอไม่ได้ เธอมาเองได้รึเปล่า?”ซาบริน่าตอบอย่างเชื่อฟังไปว่า “แน่นอนค่ะ ฉันไปเองได้ค่ะ นายน้อยไนเจล”ไนเจลได้ยินเสียงอันอ่อนโยนของซาบริน่าและถามเธออย่างมีเลศนัยไปว่า “เธอยินดีที่จะปฏิบัติต่อฉันอย่างดีแล้วใช่ไหม แล้วเธอจะยอมทำทุกอย่างเพื่อฉันใช่ไหม?”รอยยิ้มของซาบริน่าดูเหมือนจะอ่อนโยนยิ่งขึ้น “นายน้อยไนเจล คุณสงสัยในความจริงใจของฉันเหรอคะ? ให้ฉันพูดอีกครั้งก็ได้ค่ะ ฉันยินดีที่จะทำทุกอย่างเพื่อคุณ ฉันจะทำทุกอย่างตามที่คุณขอให้ฉันทำ ฉันเต็มใจที่จะมอบชีวิตของฉันให้กับคุณด้วยค่ะ”ไนเจลหัวเราะ “ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในตอนแรกเธอที่ดูไร้อารมณ์ เย็นชา และเ
มีผู้ชายประมาณยี่สิบถึงสามสิบคนอยู่ในห้อง แต่ซาบริน่ารู้จักเพียงไนเจลกับเซย์นเท่านั้นคนที่เหลือต่างก็ย้อมผมด้วยสีจัดจ้านจนแสบตา มีรอยแผลทั่วร่างกาย หรือยืนสูบบุหรี่กันอย่างเป็นปกติ เมื่อสังเกตเห็นว่ามีใครบางคนเข้ามาในห้อง พวกเขาก็จ้องไปที่ซาบริน่าอย่างจงใจ ไม่ต่างจากนักล่าที่สังเกตเห็นเหยื่อของมันซาบริน่าพยายามเพ่งมองใบหน้าที่เธอรู้จักจากคนทั้งหมดในห้องเดียวกันนั้น ตรงข้ามกับผู้ชายสามคนที่นั่งอยู่คือผู้หญิงอีกสามคนผู้หญิงสามคนนี้แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่เผยให้เห็นเนื้อหนังและร้อนแรง พวกเธอทุกคนสวมแค่เสื้อปาดหัวไหล่และกระโปรงที่สั้นเป็นพิเศษขณะที่ซาบริน่ามองไปรอบ ๆ และตรวจดูผู้คนในห้องนั้น เธอรู้สึกว่าสถานการณ์นี้เลวร้ายยิ่งกว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นบนเรือสำราญมากเธอหันหลังเดินจากไปโดยไม่ลังเล ในตอนที่เธอพยายามที่จะก้าวเท้า หนึ่งในผู้หญิงสามนั้นก็เรียกเธอไว้ “นี่ หล่อนก็เป็นเพื่อนร่วมอาชีพกับพวกเราใช่ไหม? เข้ามาเร็วสิยะ ดูสิ แต่งตัวเรียบร้อยเกินไปป่ะเนี้ย? ในสถานที่แบบนี้ หล่อนใส่เสื้อผ้ามากชิ้นไม่ได้นะยะ "ซาบริน่าหน้าแดงขึ้นมาทันทีและพูดว่า “ฉันไม่ใช่เพื่อนร่วมงานของพวกเธอนะ!”
เขาไม่สามารถทนต่อสิ่งนั้นได้!ไนเจลอยากให้ซาบริน่าได้เห็นด้วยตัวเองว่าเขาโหดร้ายแค่ไหน เพราะเขาจะโหดร้ายไม่แพ้ลูกพี่ลูกน้องของเขาอย่างแน่นอน!เขามองดูซาบริน่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเสียงของซาบริน่าดูลังเล แต่เธอก็พยายามพูดอย่างสั่นเทาว่า “ฉันขอโทษ นายน้อยไนเจล แต่งานแบบนี้ไม่เหมาะกับฉัน ฉันขอโทษ ฉันไม่ควรสารภาพกับคุณ ฉันจะไม่ทำให้คุณลำบากอีกต่อไป ลาก่อน!”เมื่อพูดจบ ซาบริน่าก็หันหลังเดินจากไปเธอเดินเพียง 2 ก้าว ก็ไปถึงประตูที่จะพาเธอออกไปจากห้อง แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ไม่ว่าเธอจะทำอย่างไรประตูก็เปิดไม่ออก ซาบริน่าหันกลับมาด้วยความตกใจและหวาดกลัว มองทุกคนในห้องที่มีใบหน้าที่ชั่วร้ายและเยาะเย้ยมาที่เธออย่างชัดเจนไนเจลยังคงมีรอยยิ้มอันโหดร้าย “เข้ามานั้นง่ายดาย แต่จะออกไปคงยากหน่อยแหละ”“อย่างนั้นเหรอคะ?” น้ำเสียงและท่าทางของซาบริน่าเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ขณะที่เธอมองไปที่ไนเจลอย่างสงบและเดินตรงไปหาเขาอย่างรวดเร็ว“อ้าว เปลี่ยนใจแล้วเหรอ?” ไนเจลยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ซาบริน่าหยุดอยู่ตรงหน้าไนเจล และดึงเข็มฉีดยาที่เธอกำแน่นในมือออกมาภายในเข็มฉีดยาสามารถมองเห็นสีแดงเข้มของเลือดไ
เมื่อก้าวออกจากห้องแล้ว ซาบริน่าก็เดินเข้าไปในลิฟต์ที่ซึ่งเธอทรุดตัวลงขณะที่ลิฟท์เคลื่อนตัวลงมาน้ำตาไหลอาบใบหน้าของเธอไม่หยุดไนเจลเป็นเศษเสี้ยวของความอบอุ่นเดียวที่เหลืออยู่ในชีวิตของเธอ แม้แต่ในจินตนาการที่โลดโผนที่สุดของเธอ ซาบรินาก็ไม่เคยคิดเลยว่าไนเจลจะทำกับเธอเช่นนั้น เมื่อเธอเดินผ่านถังขยะ ซาบริน่าก็ขว้างเข็มฉีดยาเลือดไก่ที่เธอถืออยู่ไปโดยไม่หยุดคิด ด้วยท่าทางที่หดหู่เช่นเดียวกันกับสีหน้าของเธอทันทีที่เธอออกจากคลับ เธอรู้สึกคลื่นไส้เป็นอย่างมากและอาเจียนออกมาที่พุ่มดอกไม้ที่ซ่อนอยู่ในมุมที่ห่างไกลขณะที่เธอทำความสะอาดตัวเองอย่างไม่ตั้งใจ เธอได้ยินคนพูดคุยกันซาบริน่ามองไปยังทิศทางของบุคคลที่เธอได้ยินเสียง และพบชายชุดดำในเงามืด เขากำลังโทรศัพท์หาใครบางคนอยู่ “ผู้อำนวยการฮอร์สท์ คุณแน่ใจรึว่าเจ้าหนุ่มคอนเนอร์อยู่ในห้องชั้นบนสุดน่ะ?”ซาบริน่าไม่เข้าใจสิ่งที่อีกฝั่งของสายกำลังพูด แต่ได้ยินชายชุดดำพูดว่า “ผมเปิดประตูได้ภายในไม่กี่วินาที ไม่ต้องกังวล ผมจัดการให้แน่ใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี อย่าลืมโอนเงินสิบล้านเข้าบัญชีของผมด้วย”ซาบริน่าตกใจกับสิ่งที่เธอเพิ่งได้ยินชายคนนั้น