“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ คิดว่าผมเป็นเพื่อนของคุณก็แล้วกันนะครับทับทิม” คามีลเอ่ยบอกออกไป ผู้หญิงคนนี้ต่างจากผู้หญิงคนอื่นจริงๆ เขาชอบก็ตรงนี้แหละ เพราะเธอคงจะไม่รู้ว่าเขาคือใคร เธอถึงเอ่ยออกมาแบบนั้น แต่ก็ดีอย่างน้อยเธอก็ไม่ได้เข้ามาหาเขาเพราะเงิน
“ค่ะ งั้นรบกวนคุณแล้วนะคะคุณคามีล” รินลดาเอ่ยบอกออกไปอย่างเขินๆ เพราะไม่มีใครใส่ใจเธอและเทคแคร์เธอดีแบบเขา เธอชักจะชอบผู้ชายแปลกหน้าคนนี้ซะแล้ว รินลดาคิดในใจก็เดินเข้าไปนั่งในรถของคามีล จากนั้นเขาก็พาเธอขับรถไปเที่ยวชมดูนครดูไบในยามเย็นจนมาถึงที่ทะเลทรายซาฟารี ซึ่งห่างจากตัวเมืองไม่ไกลเท่าใดหนัก แต่ด้วยความที่คามีลขับรถมาเร็วมากจึงใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
“ฉันพึ่งเคยเห็นทะเลทรายเป็นครั้งแรกแรกเลยนะคะ เมื่อกี้ตอนลงจากเครื่องก็ว่าสวยแล้ว พอได้มาอยู่ใกล้ๆแบบนี้แล้วก็ยิ่งสวยค่ะ” รินลดาเอ่ยบอกไปก็มองไปยังทะเลทรายอันกว้างขวาง เธอคิดไม่ผิดจริงๆที่ออกมากับคามีล
“ไปถ่ายรูปเก็บไว้สิครับ เดี๋ยวผมจะถ่ายให้” คามีลเอ่ยบอกก็ขับรถเลี้ยวเข้าไปที่ทะเลทราย ก่อนจะขับเข้าไปอีกนิด เพื่อหามุมถ่ายรูปสวยๆให้กับหญิงสาว จนกระทั่งเขามาจอดรถก่อนจะเป็นเนินทะเลทราย
“เอาจริงเหรอคะ” รินลดาเอ่ยถาม ทั้งที่ในใจกลับดีใจจนเนื้อเต้นเมื่อคามีลใจดีที่จะจอดรถให้เธอได้ถ่ายรูป
“จริงสิครับ ผมบอกแล้วไงครับว่าผมพาเที่ยว ก็ต้องมีรูปติดไม่ติดมือกลับไปบ้างสิ ไปกันเถอะครับเดี๋ยวแสงจะหมดซะก่อนนี่ก็จะค่ำแล้วด้วย” คามีลเอ่ยบอกก็เปิดประตูลงจากรถไป ส่วนรินลดาก็รีบถือกล้องถ่ายรูปตามลงไปทันที จากนั้นคามีลก็เอากล้องถ่ายรูปของรินลดามาถ่ายให้เธออย่างเต็มใจ ยิ่งเห็นรอยยิ้มใสๆ เขาก็ยิ่งชอบเธอ จะมีผู้หญิงคนไหนที่ยิ้มจริงใจให้เขาแบบนี้ไหมนะ พอถ่ายรูปกันเสร็จคามีลก็ขับรถพารินลดากลับเข้าไปในเมืองดังเดิม
“โชคดีนะคะที่ใส่ชุดนี้มา ไม่งั้นคงไม่ได้รูปสวยๆ” รินลดาเอ่ยบอกขณะดูรูปที่คามีลถ่ายให้เธอ โชคดีที่เธอใส่ชุดเดรสสีแดงขายาวเว้าไหล่มา ไม่งั้นก็คงไม่ได้ภาพแสงสีสวยๆแน่ๆ
“ก็คนในรูปสวยนิครับ” คามีลเอ่ยหยอกกับรินลดาอย่างไม่ปิดบังว่าเขาชอบเธอ
“คุณคามีลนี่ปากหวานจังเลยนะคะ สาวๆคงจะพากันหลงคุณแย่” รินลดาเอ่ยตอบออกไป ก็เปิดช่องสืบว่าเขายังโสดอยู่รึเปล่า เพราะเธอคงจะไม่ไปโดนผู้หญิงของเขาตบเอาหรอกนะ
“มีที่ไหนกันล่ะครับ ผมยังโสดอยู่เลยจะเอาสาวๆที่ไหนมาล่ะครับ” คามีลเอ่ยบอกอย่างขี้เล่น ทั้งที่ความจริงในแต่ละวันเขานอนกับผู้หญิงแทบจะไม่ซ้ำหน้า
“ขอบคุณที่พาทับทิมมาเที่ยวนะคะ งั้นให้ทับทิมเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อจะได้ไหมคะ ถือว่าเป็นการตอบแทน” รินลดาเอ่ยบอกออกไป เพราะต้องการตอบแทนคามีลที่เสียสละเวลาพาเธอมาเที่ยวไกลขนาดนี้
“ไม่ต้องหรอกครับ ให้ผมเลี้ยงคุณจะดีกว่า ถือว่าเป็นการเลี้ยงต้อนรับความเป็นเพื่อนของเรา” คามีลเอ่ยบอกไป เขาเป็นผู้ชายอยู่ๆจะให้ผู้หญิงมาเลี้ยงข้าวคงไม่ใช่ทาง เพราะเขาชินกับการให้เงินและเลี้ยงข้าวสาวๆมากกว่า
“ก็ได้ค่ะ แต่ครั้งหน้าถ้าเราเจอกันล่ะก็คุณต้องให้ทับทิมเลี้ยงคุณบ้างนะคะ” รินลดาเอ่ยบอกไปก็ยิ้มให้อย่างสดใส
“ได้เลยครับคนสวย” คามีลเอ่ยบอกก็ขับรถอย่างอารมณ์ดี เมื่อเขาเข้ากับรินลดาได้ดี สงสัยเขาต้องหาต่อสานสัมพันธ์กับเธอซะแล้ว ไม่งั้นเขาอาจจะพลาดโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์กับเธอก็ได้
“คุณคามีลก็อย่าแซวทับทิมแบบนี้สิคะ” รินลดาเอ่ยบอกไปอย่างเขินอาย
จากนั้นคามีลก็พารินลดาขับรถเที่ยวแถวชายหาดจูไมราห์บีช ก่อนจะข้ามไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารหนึ่งในตึกสูงระฟ้าของนครดูไบ เพราะเป็นโรงแรมรูปเรือใบซึ่งมีชื่อเสียงมากเลยทีเดียวสำหรับนักท่องเที่ยว ทั้งสองก็พูดคุยทำความรู้จักกันจนกระทั่งทานอาหารเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบจะสี่ทุ่ม คามีลก็พารินลดามาส่งที่โรงแรมของตัวเอง โดยที่เธอยังไม่รู้ว่าเขาเป็นผู้บริหารของที่นี่
“ขอบคุณสำหรับวันนี้นะคะ คุณเป็นเพื่อนใหม่ที่น่ารักมากค่ะ” รินลดาเอ่ยบอกออกไปด้วยรอยยิ้มก็มองเข้าไปในรถคันหรู
“ไว้คุณว่างเมื่อไหร่ เราไปเที่ยวกันอีกนะครับ ”คามีลเอ่ยบอกรินลดาเมื่อเธอลงจากรถ ด้วยรอยยิ้มเช่นกัน
“ค่ะคุณคามีล ขับรถดีๆนะคะ” รินลดาเอ่ยบอกก็ยิ้มให้คามีล จากนั้นเธอก็หันหลังกลับแล้วเดินเข้าไปในโรงแรมทันที
ด้านคาเรนที่กลับมาจากการทานอาหารร่วมกับปู่ของเขาและลูกพี่ลูกน้องสาวอย่างเคียร่า รวมไปถึงบรรดาญาติของตระกูลซามัสเซลเกือบทั้งหมด ก็มานั่งดื่มไวน์ต่อที่ห้องนอนชั้นบนสุดของตึกเพื่อระบายอารมณ์ เพราะตั้งแต่เขาย่างก้าวเข้าไปในคฤหาสน์นั่น บรรดาพี่น้องของพ่อเขาก็ทำท่าไม่ชอบเขาอย่างออกนอกหน้าเช่นเคย ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกโกธรมากที่สุดก็คือพวกนั้นต่อว่าแม่ของเขาที่ทำให้พ่อของเขาต้องออกจากตระกูลไป แต่ที่น่าเจ็บใจก็คือพวกนั้นดูถูกเขาเหมือนกับว่าเขาไม่ใช่ลูกหลานของคุณปู่ ซึ่งก็เปรียบว่าเขาเป็นลูกชู้
“นายครับ ผมว่าพอก่อนเถอะครับ นายเมามากแล้วนะครับ” บาคัสเอ่ยบอกเจ้านายหนุ่มที่กำลังดื่มไวน์เข้าไปหยั่งกับดื่มน้ำเปล่า
“ไม่ ฉันจะดื่มให้หมด แกคอยดูนะบาคัส ฉันจะทำให้คนพวกนั่นไม่กล้ามาว่าแม่ฉันได้อีก” คาเรนเอ่ยพูดออกไปอย่างจริงจัง
“นายจะทำอะไรครับ” บาคัสเอ่ยถามออกไปอย่างอยากรู้ เพราะตั้งแต่กลับมาจากบ้านของท่านลาฮิมเจ้านายของเขาก็อารมณ์เกี้ยวกราดมาตลอดทางจนถึงกระทั่งตอนนี้
“ฉันจะรับมรดกของปู่ฉัน ฉันจะดูน้ำหน้าของคนพวกนั้นว่าจะทำยังไง เมื่อรู้ว่าฉันก็เป็นทายาทอีกคนของซามัสเซล” คาเรนเอ่ยพูดออกไปอย่างแค้นใจ
“นายแน่ใจเหรอครับ ผมว่าถ้าท่านลาฮิมรู้ว่านายรับมรดกเพราะต้องการแกล้งคนพวกนั้น ท่านคงจะเสียใจมาก” บาคัสเอ่ยเตือนเจ้านายของตัวเอง
“นั่นมันเรื่องของฉัน แล้วไหนล่ะ ผู้หญิงที่คามีลมันจะส่งมาให้ฉัน ไปเรียกมาสิ” คาเรนเอ่ยพูดด้วยความมึนเมา เพราะตอนนี้เขาอยากจะระบายอารมณ์หงุดหงิดให้หายไปสักที แล้วสิ่งที่จะทำให้เขาคลายเครียดได้อย่างดีก็คือเซ็กส์
“อ่อ รอสักครู่ครับนาย คนของเรากำลังรอรับผู้หญิงที่คุณคามีลส่งมาให้อยู่ครับ” บาคัสเอ่ยบอกไปก็มองเจ้านายหนุ่ม เมาแบบนี้ผู้หญิงที่มานอนกับนายของเขาคืนนี้คงอ่วมแน่ นายเขาเคยยั้งมือตอนเมาที่ไหนกัน ผู้หญิงที่มีอะไรกับนายเขาตอนเมาทีไร เขาได้จ่ายหนักจ่ายเต็มทุกครั้งไป
“ถ้าชักช้านัก นายก็ไปหามาให้ฉันก่อนไป” คาเรนเอ่ยบอกออกไป ก็กระดกแก้วไวน์ขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว
“แล้วถ้าคนของคุณคามีลมาล่ะครับนาย” บาคัสเอ่ยถามออกไปอย่างสงสัย เพราะถ้าเขาไปหาผู้หญิงมาให้กับเจ้านายแล้ว แล้วถ้าผู้หญิงที่คามีลส่งมาให้ล่ะจะทำยังไง
“คืนนี้ฉันจะเอาทั้งสองคนนั่นแหละ นายหยุดถามแล้วไปหาผู้หญิงมาได้แล้วบาคัส” คาเรนเอ่ยบอกก็ปัดมือให้บาคัสออกไป ส่วนบาคัสพอเจ้านายเริ่มจะโมโหก็รีบออกไปหาสาวๆมาบำเรอให้กับนายตัวเองอย่างรีบร้อน
ด้านรินลดาพอลงจากรถของคามีลและเดินเข้าโรงแรมมา ก็มีผู้ชายเดินเข้ามาหาเธอทันทีจนเธอมองอย่างสงสัย“คุณลงจากรถของคุณคามีลมาใช่ไหมครับ” เจเดนลูกน้องของคาเรนเอ่ยถามออกไป เมื่อเขามีหน้าที่มารอรับผู้หญิงที่คุณคามีลส่งมาให้กับเจ้านายของเขา“อ่อค่ะ มีอะไรรึเปล่าคะ” รินลดาเอ่ยพูดเป็นภาษาอังกฤษตอบกลับไปแล้วทำหน้างงๆ เพราะไม่รู้ว่าชายตรงหน้าถามเธอเพราะอะไร“งั้นเชิญทางนี้เลยครับ” เจเดนเอ่ยบอกไป แล้วเชิญให้หญิงสาวเดินไปยังลิฟท์ส่วนตัวที่อยู่ด้านในสุด เพราะเข้าใจว่าเธอคือคนที่คามีลส่งมา“ ไปไหนคะ” รินลดาเอ่ยถามอย่างไม่ไว้ใจ เพราะอยู่ๆก็จะให้เธอไปไหนก็ไม่รู้“เจเดน นั่นใช่ผู้หญิงที่คุณคามีลส่งมาใช่ไหม” บาคัสที่เดินออกจากลิฟท์มาเอ่ยถามก็มองไปที่ผู้หญิงสวยที่มาพร้อมกับเจเดน“ใช่ ฉันกำลังจะพาขึ้นไปหานายพอดี” เจเดนบอกไปก็มองหน้าของบาคัส“งั้นไปกันเลย ตอนนี้นายโมโหใหญ่แล้ว ส่วนคุณตามผมมา” บาคัสบอกไปก็พารินลดาเข้าไปในลิฟท์ ก็กดขึ้นไปยังชั้นที่เจ้านายของเขาพักอยู่อย่างรวดเร็ว“นี่พวกคุณจะพาฉันไปไหน ปล่อยฉันออกไปเดี๋ยวนี้นะ” รินลดาเอ่ยพูดออกไปก็พยายามจะกดเปิดลิฟท์ เพราะกลัวชายทั้งสองคนนี้ ที่พาเธอเข้ามาในลิ
“คัพดีซะด้วย อย่างนี้สิมันส์มือหน่อย” คาเรนเอ่ยพูดไปก็กวาดสายตามองอย่างโลมเลียร่างบาง“อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ ”รินลดาเอ่ยพูดออกไปด้วยน้ำเสียงอ่อน เพราะตอนนี้เธอเริ่มจะกลัวชายคนนี้จริงๆเข้าแล้ว เมื่อเขากำลังจะถอดเสื้อผ้าของเธอแถมยังมัดมือของเธอไว้อีก“เมื่อกี้เธอยังปากเก่งอยู่เลยนิ เอาสิ ต่อต้านฉันแบบเมื่อกี้สิ เอากระเป๋ามาตบหน้าฉันอีกสิ” คาเรนเอ่ยพูดก็จ้องมองร่างบางอย่างไม่วางตา ผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาเจ็บ เขาก็จะทำให้เธอเจ็บเหมือนที่เขาเจ็บ คาเรนคิดไปด้วยสติที่มึนเมา“ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ คุณอย่าทำอะไรฉันเลยนะ” รินลดายังคงอ้อนวอนชายตรงหน้าที่นั่งควบเธออยู่อย่างไม่ลดละ“มันสายไปแล้วล่ะ ในเมื่อเธอถูกส่งมาบำเรอให้ฉัน ฉันก็จะเอาเธอให้สมกับราคา” คาเรนเอ่ยพูดก็เอามือกระชากชุดเดรสสีแดงของเธอลงไปกองที่เอว“อย่านะ ไอ้เลว ปล่อยฉันนะ” รินลดาเปล่งเสียงด่าออกไปอย่างไม่ยอม พร้อมกับเอามือที่ถูกมัดไว้ทุบตีร่างหนาเพื่อปกป้องตัวเอง“ฤทธิ์มากหนักใช่ไหม” คาเรนเอ่ยด้วยน้ำเสียงโกธรเมื่อถูกมือเล็ก ฟาดเข้าให้ที่หน้าครั้งหนึ่ง เขาจึงเอามือไปจับที่มือของหญิงสาวที่ถูกมัดอยู่ ยกขึ้นไปเหนือหัวของเธอแล้วเอาสายเนกไ
“ฉันจะทำให้เธอต้องการฉันยิ่งกว่านี้” คาเรนพูดไปก็เงยหน้ามองร่างบางที่ถูกมัดมืออยู่ แล้วกระตุกยิ้มมุมปาก จากนั้นคาเรนก็ค่อยๆสอดนิ้วมือของเขาเข้าไปในร่องสาวของเธอจากหนึ่งนิ้วก็เพิ่มเป็นสองนิ้ว แต่เขารู้สึกว่าร่องสาวของเธอคับแน่นมาก แล้วถ้ามันเป็นแก่นกายของเขาล่ะมันจะแน่นขนาดไหน“อ้ะ อ้า อ้า เอา ออก ไป นะ ไม่ อ้อ อ้ะ อ้ะ อ้า อ้า” หญิงสาวครางไปก็เอ่ยบอกไปด้วยความเสียว คาเรนก็เร่งมือซอยเข้าไปในร่องสาวอย่างไม่ลดละ จนกระทั่งร่างบางกระตุกเกร็งแรงๆ“อ้ะ อ้า อ้าย อ้าย” รินลดาครางเสียวพร้อมกับกระตุกเกร็งร่างของตัวเองอย่างรุนแรง เมื่อเธอรู้สึกเสร็จอย่างที่สุดเป็นครั้งแรก มันช่างต่างจากความสุขที่เธอช่วยตัวเองเป็นไหนๆ ตอนนี้เธอรู้สึกหัวสมองมันโล่งโปร่งไปหมดแล้วคาเรนที่เห็นร่างบางเสร็จไปก็ลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าและกางเกงออกจนหมด เขารูดแก่นกายที่แข็งโด่พร้อมรบสองสามครั้ง แล้วมองร่างบางที่นอนอ้าขาโชว์ร่องสาวต่อหน้าเขาอยู่อย่างโลมเลีย ก่อนจะค่อยๆนั่งลงไปตรงหว่างขาของหญิงสาว แล้วจับขาของเธออ้าออกกว้าง“ไม่นะ อย่านะ แค่นี้ก็พอนะคุณ อย่าทำอะไรฉันเลย” รินลดาเมื่อสติกลับคืนมาก็รีบเอ่ยห้ามร่างหนาที่แทรกตัวเข้ามา
“ ฉันจะไม่ให้ใครมาซ้ำรอยคุณ” รินลดาพูดยังไม่ทันจบ คาเรนก็กระแทกต่อทันทีอย่างรวดเร็วจนรินลดาต้องเอามือมาจับที่แขนของชายหนุ่มที่กำลังยันขอบโซฟาไว้“อ้ะ อ้ะ อ้ะ อ้ะ” รินลดาครางเสียงกระเส่า ตอนนี้เธอไม่แน่ใจแล้วว่าเธอสมยอมเขาหรือว่าเธอถูกข่มขืนกันแน่“โอว์ ซี๊ด” คาเรนครางออกมา แล้วเร่งซอยเอวใส่ร่างบางอย่างไม่หยุดหย่อน เพราะเขาใกล้จะถึงขีดสุดแล้วเมื่อโดนกายสาวตอดรัดท่อนเอ็นแน่น“อ้า อ้า เบาหน่อยคุณ อ้ะ อ้ะ” รินลดาครางบอกไป เมื่อชายหนุ่มกระแทกแรงขึ้นจนเธอรู้สึกจุกที่น้องสาว“เบาไม่ได้แล้ว ผมเสียว” คาเรนพูดบอกร่างบาง เขายอมรับว่าไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำให้เขาเสียวได้ขนาดนี้เลยสักคน ผู้หญิงคนนี้เป็นคนแรกที่ทำให้เขารู้สึกมีความสุขกับการมีเซ็กส์“ฉัน ฉัน ไม่ ไหว แล้ว” รินลดาครางบอกไปก็ร้องครางเสียงหลงอย่างสุขสม เมื่อได้พบกับสวรรค์อีกครั้งอย่างเสียวคาเรนก็กระแทกตอกแก่นกายถี่ขึ้น ก่อนจะชักแก่นกายออกมาจากร่องสาว แล้วดึงถุงยางอนามัยออกมา ก่อนจะเอามือรูดแก่นกายที่ตอนนี้กำลังปลดปล่อยน้ำเชื้อพันธ์ดีลงบนหน้าท้องของหญิงสาวด้วยความเสียว“อ่าส์ ซี๊ด” คาเรนครางไปก็รูดแก่นกายแรงๆเพื่อรีดเอาน้ำรักพ่นออกมาให้ห
พอคาเรนได้ยินเสียงลูกน้องหนุ่มก็หยุดกระแทกท่อนเอ็นใส่ร่องสาว แล้วหันควับมาที่ลูกน้องหนุ่มด้วยส่ายตาดุ ก่อนจะเอามือกดร่างบางให้นอนแนบไปที่โซฟา เพราะกลัวลูกน้องหนุ่มจะเห็นร่างกายของหญิงสาวเข้าส่วนรินลดาก็หันหน้าที่ซบขอบโซฟามองอย่างอายๆ แต่ก็ไม่มีแรงจะต่อต้านใครได้แล้ว แล้วถ้าเขาจะมีอะไรกับผู้หญิงคนนี้พร้อมๆกับเธอล่ะก็ เธอจะไม่ยอมเด็ดขาด"ออกไปบาคัส วันนี้ฉันจะเอาผู้หญิงคนนี้ คนเดียว " คาเรนเอ่ยบอกออกไป เพราะเขายังติดใจร่องสาวของเธออยู่ ส่วนผู้หญิงที่มากับลูกน้องของเขาก็ใช้สายตายั่วยวนซะเหลือเกิน แต่วันนี้เขาจะเอาแค่ยัยนี่ที่กำลังนอนกับเขาคนนี้เท่านั้น"ครับนาย " บาคัสเอ่ยบอกไปก็ทำท่าจะหันหลังกลับ แต่คาเรนเอ่ยพูดก่อน"นายเห็นอะไรบ้างบาคัส" คาเรนเอ่ยถามเมื่อนึกขึ้นได้อย่างหวงๆ"เปล่าครับผมไม่เห็นอะไรเลยครับ ได้ยินแค่เสียงเท่านั้นครับนาย" บาคัสเอ่ยพูดก็ก้มหน้าลง เพราะเข้าใจน้ำเสียงของเจ้านายหนุ่มอย่างดี ว่ากำลังโกธร"โอ้ย ออกไปสักทีเถอะ จะคุยกันอีกนานไหม" รินลดาที่ทนต่อความเสียวไม่ไหวเอ่ยพูดไปเสียงดัง เพราะแก่นกายที่กดแช่ในร่องสาวของเธอมันตอดรัดจนแน่นร่องไปหมดแล้ว ก่อนจะเริ่มยกตัวขึ้นแต่ก
หลังจากที่ออกมาจากห้องของคนเลวคนนั้นด้วยสภาพที่เหมือนกับถูกรุมโทรม รินลดาก็รีบลงลิฟท์มาที่ชั้นของตัวเอง ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปเบาๆ เพราะกลัวว่าเมษาจะตื่นมาเห็นสภาพของเธอตอนนี้ เธอจึงรีบเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะเอาน้ำล้างคราบไคลกลิ่นคาวกับสิ่งที่เธอไปเจอมา ก่อนจะร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ“ขออย่าให้ฉันได้เจอแกอีกเลย ไอ้โรคจิต” รินลดาพูดไปก็ร้องไห้ไป ก่อนจะเอามือขัดผิวตัวเองแรงๆ อย่างรู้สึกเสียใจ จากนั้นรินลดาก็นั่งแช่น้ำร้องไห้สักพักก็แต่งตัวใหม่ แล้วหายาแก้ปวดในกระเป๋าที่พกมาขึ้นมากิน เพื่อคลายความเจ็บที่ร่องสาวของตัวเอง เพราะพรุ่งนี้เธอยังต้องไปนั่งดูงานประชุมอีกนาน ซึ่งร่างกายของเธอเหมือนจะรู้สึกไม่ไหว จากนั้นก็เดินออกไปนอนพักก็เกือบจะตีห้าแล้ว ส่วนเมษาก็หลับสนิทอย่างไม่รู้เรื่องอะไร จนกระทั่งเช้าด้านคาเรนตื่นมาอีกครั้งก็เกือบจะแปดโมงเช้า เขาก็ขวานหาร่างบางเพื่อจะกอดเธอแต่มันกลับว่างเปล่า จนเขาลืมตาตื่นขึ้นมา แล้วมองดูรอบเตียงก็เจอเพียงความว่างเปล่า หรือว่าจะอาบน้ำ คาเรนคิดในใจก็ลุกไปยังห้องอาบน้ำ ซึ่งก็ยังว่างเปล่า"วีต้า คุณอยู่ไหน วีต้า" คาเรนเรียกชื่อเมียมาดๆที่เขาพึ่งร่วมรักกับเธอไ
“ไม่ร้อนเหรอทับทิม เราไม่สบายอยู่นิ” เมษาเอ่ยถาม เมื่อเห็นการแต่งตัวของรินลดาเข้าไป“อ่อ ไม่ร้อนค่ะพี่เม ทับทิมดีขึ้นแล้วค่ะพี่” รินลดาโกหกออกไป เพราะเธอต้องปกปิดร่องรอยของเธอที่ถูกชายคนนั้นทำให้เป็นรอยแดงเต็มลำคอ ขนาดใช้เหรียญขูดแล้วยังไม่จางไปเลยสักนิด เธอจึงใส่เสื้อตัวนี้แทน อย่างน้อยมันก็คลุมถึงคอของเธอ“อ่อ พี่ลืมบอกไป คุณศิวะให้รินพักผ่อนก่อนนะ บ่ายนี้ไม่ต้องเข้าร่วมประชุมก็ได้ เพราะท่านประธานใหญ่จะมางานเลี้ยงเย็นนี้ ทับทิมก็ค่อยรอไปงานเลี้ยงตอนเย็นก็แล้วกันนะ” เมษาเอ่ยบอกออกไป“ค่ะพี่เม ฝากขอโทษพี่ศิวะด้วยนะคะ” รินลดาพูดไปอย่างโล่งใจ เพราะถ้าขืนได้ไปนั่งประชุม แล้วต้องต่อด้วยงานเลี้ยง เธอได้ตายแน่วันนี้“ขอบคุณน้องไอเถอะ เมื่อเช้าพอเราตัวร้อน น้องไอรีบขอคุณศิวะให้เรานอนพักเลยนะ” เมษาเอ่ยบอก เพราะเมื่อเช้าถ้าไม่ได้ไอริณล่ะก็ รินลดาคงได้ไปนั่งประชุมตั้งแต่เช้าแล้ว“ค่ะพี่เม ฝากบอกยัยไอให้ทับทิมด้วยก็แล้วกันนะคะพี่” รินลดาเอ่ยบอกไปก็ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร“อ่อทับทิม นี่ชุดไทยที่คุณศิวะเตรียมมาให้ใช่ไหม พี่เตรียมไว้ให้แล้วนะ เดี๋ยวเย็นๆพี่กลับมา พี่จะมาช่วยแต่งตัวนะ” เมษาเอ่ยบอกแล้วแ
เวลาผ่านไปนานกว่าสามชั่วโมง บาคัสก็นำประวัติของรินลดาที่เขาไปรวบรวมให้ลูกน้องสืบมา มาให้กับเจ้านายของเขาอย่างรวดเร็ว“นายครับ นี่คือประวัติทั้งหมดของคุณรินลดาครับ” บาคัสเอ่ยบอกก็ยื่นซองสีน้ำตาลให้กับเจ้านายของตัวเอง“อืม” คาเรนรับซองประวัติของรินลดามา ก็เปิดดูทันที ก่อนจะเห็นรูปของเธอตั้งแต่ยังใส่แว่นหนาๆอยู่ จนตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นสวยเปรี้ยวเข็ดฟัน คาเรนอ่านข้อความทุกอย่าง อย่างละเอียดจนไปสะดุด ที่เธอเคยเป็นแฟนกับคนที่ร่วมเดินทางมาด้วยกันในครั้งนี้“บาคัส แฟนเก่าของยัยนี่เป็นพนักงานของเราที่มาประชุมด้วยใช่ไหม” คาเรนถามออกไปเพื่อความแน่ใจ“ครับนาย แต่ตอนนี้นายกวินทร์กำลังคบกับผู้หญิงอีกคนที่อยู่แผนกเดียวกันกับคุณรินลดาครับ ซึ่งเธอก็มาด้วยและตอนนี้ก็พักห้องเดียวกันครับนาย” บาคัสเอ่ยบอกไปตามที่เขารู้คาเรนก็พยักหน้ารับรู้ เพราะนายกวินทร์คงจะไม่มีปัญหาอะไร ก่อนจะอ่านประวัติต่อไป จนเจอรูปของรินลดากับผู้ชายคนหนึ่งที่สนามบิน“แล้วไอ้นี่มันเป็นใคร” คาเรนเอ่ยถามก็โยนรูปลงบนโต๊ะให้ลูกน้องหนุ่มดู“นายคนนี้ชื่อภาคดนัยครับนาย เขาเป็นดารานักแสดงที่ประเทศไทยครับ เขาพึ่งจะมีข่าวว่ามาส่งคุณรินลดาที่สนา
ด้านรินลดาที่เดินออกมานั่งที่สวนด้านหลังก็เล่าให้น้องสาวฟังกับเรื่องที่เธอนั้นโมโหคาเรนมาอย่างอัดอั้น เพราะเธอไม่รู้จะไประบายกับใครแล้ว ก็มีแค่วาสิตานี่แหละที่จะช่วยรับฟังเธอได้“พี่ทับทับก็ให้เวลาพี่คาเรนเขาหน่อยสิคะ นี่พี่จะเอาลูกพี่ก็จะเอาปุ๊บปับเลยแบบนี้ เขาก็คงจะยังไม่พร้อมมั้งคะ” วาสิตาพูดไปอย่างไม่รู้จะช่วยพูดยังไงดี เพราะก็เข้าใจความรู้สึกของทั้งสองดีว่าต่างฝ่ายต่างก้มีเหตุผลที่ไม่เหมือนกัน“ไม่พร้อมอะไรกัน นี่ไม่ใช่ลูกคนแรกสักหน่อย เฮ้อ...พี่ว่าเขาไม่ได้รักพี่จริงๆหรอก” รินลดาคิดไปแบบน้อยใจ“ถ้าพี่คาเรนไม่ได้รักพี่จริงๆ เขาจะตามไปง้อพี่ถึงไทยจนได้แต่งงานมีครอบครัวแบบนี้เหรอคะ พี่ทับทิมอย่าน้อยใจไปเลยค่ะ เดี๋ยวพี่คาเรนเขาก็ยอมมีลูกอีกคนกับพี่เองแหละ...”วาสิตาพูดไปแบบมั่นใจ เพราะคาเรนตามใจพี่สาวของเธอจะตายไป เธอว่ายังไงเรื่องนี้เขาก็ต้องตามใจพี่สาวเธอแน่ๆ“จะยอมเหรอ เขาเอาแต่อ้างว่ากลัวพี่เจ็บอยู่นั่นแหละ ตัวก็ตัวพี่ พี่เจ็บของพี่ได้ พี่ก็ทนได้ไหมล่ะ เขาจะมากลัวพี่เจ็บทำไมกัน...พูดแล้วก็ยิ่งหงุดหงิดอ่ะ เดี๋ยวก็หาผัวใหม่ซะเลย..” รินลดาพูดไปแบบอดไม่ได้“หาใหม่ก็ไม่ได้แบบนี้แล้วนะ
“อ่าส์...ซี๊ด...คุณก็อดทนไว้สิ เหมือที่คุณบอกกับผมไงที่รัก....อ่าส์...” คาเรนพูดบอกไปแล้วยิ้มออกมาอย่างชอบใจ เพราะทีนี้เธอรู้แล้วใช่ไหมว่าเขาทรมานยังไงที่จะเสร็จแต่ได้เสร็จน่ะ“อ้ะ...คุณอย่ามาแกล้งกันแบบนี้สิคะ อ้ะ อ้ะ ...มันเสียวนะคะ...อื้อ...ฉันไม่ไหวแล้ว...อ้ะ อ้ะ...ซี๊ด...” รินลดาบอกไปยังไม่ทันจบร่างกายของเธอก็เกร็งกระตุกอย่างเสียวกระสันเลย เพราะถูกเขากระแทกรัวๆแบบไม่พักแบบนั้น“โอว์....ฟัก....ตอดโคตรแน่นเลย...อื้อ....ซี๊ด....” คาเรนพูดด้วยเสียงกระเส่า เมื่อร่องสาวของเมียรักตอดขมิบท่อนเอ็นของเขาจนแน่น ทำให้เขานั้นเอามือดันตัวเธอขึ้นแล้วดึงท่อนเอ็นออกมา เพราะเขาเองก็จะน้ำแตกแล้วเช่นกัน“พรึบ...อ้ะ...อย่ามาเนียนนะคะ คุณต้องแตกในตัวฉัน อ้ะ...อ้ะ อ้ะ...” รินลดารู้ทันเกมส์ของเขา เธอเอามือไปจับท่อนเอ็นของเขาแล้วเสียบใส่ร่องสาวของเธออีกครั้ง แล้วเธอก็ขย่มท่อนเอ็นของเขาไปแบบแรงๆ แบบขึ้นสุดลงสุดอย่างสะใจเลย“โอว์....ที่รัก....อื้อ....อย่า....อ้ะ....ซี๊ด....อื้อ....” คาเรนทำหน้าจุกๆออกมาแล้วเขาก็กัดฟันแน่นแล้วเขาก็พยายามอดทนไม่ให้ตัวเองแตกในร่องสาวของเธอ แต่ให้ตายเถอะ ร่องสาวของเธอมันโคตรเย
“ไอ้นี่ เหลนฉันยังไม่ทันโตเลยก็คิดจะจับเหลนฉันกับเหลนแกแล้วเหรอวะ...ไม่เอาๆ ฉันไม่อยากจะตกลงกับแกเลย เดี๋ยวคาเรนกับคามีลมันรู้ มันก็มาด่าฉันอีกที่ไปจับคู่ให้ลูกๆมันน่ะ...รอให้เด็กๆโตแล้วค่อยว่ากันก็แล้วกัน...” ลาฮิมปฎิเสธไปทันที เพราะเขาไม่อยากจะมีปัญหากับหลานของเขา มันหวงลูกพวกมันขนาดนั้น เขาจะกล้าตอบรับยังไงล่ะ“ฮ่าๆ...ตอนนี้กลัวหลานแล้วเหรอวะ แกนี่เปลี่ยนไปมากจริงๆ...” ซูรัสพูดไปด้วยรอยยิ้มขำๆ“ไม่ได้กลัวโว้ย ฉันแค่เคารพการตัดสินใจของหลานและเหลนฉันเท่านั้น พวกเขาจะรักใครชอบใคร ฉันก็แล้วแต่พวกเขาจะเลือก ฉันไม่อยากให้มันซ้ำรอยเหมือนกับพ่อแม่ของคาเรน...” ลาฮิมพูดไปเพราะมันทำให้เขารู้สึกผิดมาจนถึงทุกวันนี้เลย ที่ไปกีดกันความรักของลูกๆ จนเขาเกือบจะเสียคาเรนไป“เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว ตอนนี้แกก็เลี้ยงคาเรนมาอย่างดีจนมีครอบครัวที่มีความสุขแล้ว ลูกชายกับลูกสะใภ้ของแกคงรับรู้แล้วล่ะว่าแกรู้สึกผิดจริงๆ แกอย่าพูดถึงอดีตสิวะ วันนี้วันเกิดแกนะโว้ย มีความสุขหน่อยสิวะ” ซูรัสพูดไปแล้วตบไหล่เพื่อนหนุ่มไป“คุณปู่คะ เห็นพี่คาเรนกับทับทิมไหมคะ...” เคียร่าที่อุ้มหลานแฝดซันและซีนอลมากับพี่เลี้ยงนั้นเดิ
“อ้ะ อ้ะ นี่ขนาดคุณเสียวนะคะ...กระแทกเอา กระแทกเอาเลย...อ้ะ อ้ะ...ที่รัก....ฉันชอบดุ้นของคุณจังเลยค่ะ อ้ะ....ซี๊ด...” วาสิตาบอกเขาไปพร้อมกับสีหน้าเสียวสะท้าน“ไม่บอกผมก็รู้ว่าคุณชอบ...อ่าส์...ตับ ตับ ตับ ตับ...โดนกระแทกแบบนี้ คุณยังจะเหม็นผมอยู่อีกไหม....อ่าส์...” คามีลพูดไปแล้วเขาก็มองเธอด้วยสีหน้าหื่นๆ แล้วเร่งแรงตอกกระแทกไปอีกรัวๆ“โอ๊ย....ที่รัก...เบาหน่อยค่ะ ฉันท้องอยู่นะคะ...อือ...อย่าลืมสิคะ...ลูกค่ะลูก...อื้อ....ซี๊ด....” วาสิตาร้องบอกเขา เพราะเขาไม่ผ่อนแรงเลย เอาแต่กระแทกจนเธอรู้สึกว่าหัวท่อนเอ็นของเขามันเข้าไปชนจนสุดผนังร่องของเธอแล้ว“อ่าส์..ผมขอโทษ...ก็ผมคิดถึงคุณนิ อ่าส์....งั้นเปลี่ยนท่า....พรึบ....” คามีลพูดไปก็ล้มตัวนอนลงไปแล้วเขาก็จับตัวเธอขึ้นมานั่งคร่อมบนตัวเขา“ขย่มเลยที่รัก ผมให้คุณควบคุมเองเลย..อืม...อยากจะเสียวแค่ไหนก็ขย่มมาเลย” คามีลบอกไปแล้วเขาก็นอนมองเรือนร่างสุดเอ๊กซ์ของเมียรักไป แล้วก็เอื้อมมือไปบีบขย้ำหน้าอกของเธออย่างหมั่นเขี้ยว“อ้ะ ค่ะ...ฉันจะขย่มให้สะใจเลยค่ะ...อือ...ที่รัก....จะเอาท่าไหนดุ้นคุณมันก็แทงจนจุกอยู่ดี....อ้ะ...อ้ะ...อื้อ....ซี๊ด...” วาสิตา
จนคามีลมองเธอแบบตกใจที่อยู่ๆเธอก็ทำหน้าเศร้าเหมือนคนจะร้องไห้ออกมาแบบนั้น เขาก็รีบนั่งลงตรงหน้าของเธอแบบห่างๆเพราะไม่อยากให้เธอเหม็นกลิ่นตัวเขา“คุณไม่ต้องขอโทษผมเลยที่รัก ไม่เป็นไรนะ...คุณกำลังท้องอยู่อย่าคิดมากนะ พรุ่งนี้เราสองคนค่อยไปหาหมอดูเผื่อจะแก้ไขอะไรได้ คุณไม่ต้องคิดมากนะ..ผมรักคุณนะ...” คามีลพูดบอกไปแล้วเขาก็เอื้อมมือไปจับมือของเธอแล้วเงยหน้ามองสบตากันอย่างหวานซึ้ง เพราะเขาจะโทษเธอได้ยังไงล่ะ ถ้าเธอท้องอยู่และแพ้แบบนี้ เขาก็ยิ่งต้องเข้าใจเธอสิ“ฉันก็รักคุณค่ะ...และฉันก็อยากจะมีความสุขกับคุณด้วย...” วาสิตาพูดตอบไปแล้วเธอก็มองอย่างหื่นๆ ด้วยความเสียดาย เพราะเธออยากจะเอากับเขาให้ชื่นใจ แต่เธอก็ดันมาเหม็นตัวเขาอะไรตอนนี้ก็ไม่รู้ มันน่าโมโหจริงๆ“ไม่เป็นไรนะคะ เราสองคนก็มีความสุขกันแบบอื่นได้นิ...ผมไม่ทำให้คุณเหงาหอยหรอกที่รัก ผมรู้ว่าคุณมีความต้องการสูง...” คามีลพูดบอกไปแล้วยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์“คะ...? คุณจะทำยังไงล่ะคะ ในเมื่อฉันเข้าใกล้คุณมากๆไม่ได้” วาสิตาถามไปอย่างอยากรู้“แต่ใกล้แค่นี้คุณก็ไม่ได้เหม็นตัวผมไม่ใช่เหรอ....ผมว่าเราสองคนก็ยังพอจะสนุกกันได้นะที่รัก....” คามีล
“ บางทีฉันอาจจะแค่แพ้...อ่อ ฉันไม่เป็นไรค่ะ นอนพักสักหน่อยก็คงดีขึ้นแล้ว แต่คุณรีบไปอาบน้ำเถอะค่ะ..อาจะเป็นเพราะกลิ่นตัวคุณเลยทำให้ฉันเหม็นจนเวียนหัว....” วาสิตาบอกไป เพราะตอนนี้เธอยังไม่อยากจะบอกเขาว่าเธอท้องลูกคนที่สองแล้ว เธออยากจะไปตรวจที่โรงพยาบาลให้แน่ใจ“อ่อ โอเคๆ ผมจะอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลย...คุณมานั่งพักก่อนมา...” คามีลบอกไปก็เข้าไปประคองตัวเธอ“ไม่ต้องค่ะ ฉันไปเอง คุณไปอาบน้ำเถอะค่ะ ไม่ต้องห่วงฉัน ฉันไม่เป็นไร...” วาสิตารีบบอกไป เพราะเขายิ่งไกลเธอก็ยิ่งเหม็นจนอยากจะอ้วกขึ้นมาอีก“โอเคๆ งั้นผมจะไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้แหละ” คามีลรีบบอกไปก็รีบเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำตามที่เธอต้องการทันทีพอคามีลเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำแล้ววาสิตาก็รู้สึกโล่งขึ้นมาทันที เธอก็เดินไปนั่งที่เตียงแล้วก็ครุ่นคิดกับอาการของเธอ“เมื่อก่อนคุณคามีลเขาก็ไม่ได้ตัวเหม็นนิ...ทำไมตอนนี้มันถึงได้เหม็นจนอยากจะอ้วกแบบนี้นะ...นี่เธอคงไม่ได้แพ้ท้องเหม็นขี้หน้าผัวตัวเองหรอกมั้ง...” วาสิตาพูดออกไปอย่างเดาๆ เพราะอยู่ๆเธอก็เหม็นตัวเขาแบบนี้ มันยังจะมีอะไรนอกจากนี้อีกเหรอ“ไม่มั้ง...ตอนท้องนาเดียเราก็ไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลยนิ...วันน
“รอนานขนาดนั้นแกกับเมียแกก็อายุเยอะขึ้นแล้ว ก็มีลูกกันยากแล้วน่ะสิ...รีบมีไล่เลี่ยกันแบบนี้น่ะดีแล้ว เด็กๆจะได้โตไปพร้อมกัน...เหมือนแกกับคาเรนแล้วก็น้องแกไง...เอาหลานชายให้ฉันอีกสักน่า...” ลาฮิมพูดบอกหลานชายไป“ขอหลานพร้อมระบุเพศแบบนี้มันยากนะครับปู่ ถ้าเกิดผมทำเมียผมท้องแล้วมีหลานสาวอีกคน เมียผมก็ต้องท้องอีกจนกว่าจะได้หลานชายงั้นเหรอครับ...เฮ้อ เมียผมไม่ใช่เครื่องผลิตลูกหลานชายให้ปู่นะครับ ตอนนี้ผมไม่อยากจะมีลูกครับ ผมอยากจะใช้ชีวิตกับเมียของผมก่อน” คามีลพูดแซะปู่ของเขาไป เพราะถ้าเขายอมความลำบากและความกดดันจะไปตกที่เมียเขาน่ะสิ“เออๆ แกพูดมาขนาดนี้แล้วฉันจะทำอะไรได้ ก็แล้วแต่แกเลยก็แล้วกัน ถ้าแกรักเมียแกขนาดนี้ ต่อไปก็หัดมีเวลาให้เมียซะบ้าง...ไม่ใช่ทำแต่งานอย่างนี้...” ลาฮิมแซะหลานชายกลับไป เพราะมันพูดแบบนี้ออกมาแต่มันกลับไม่มีเวลาให้เมียมันเลยด้วยซ้ำ“ครับๆ..งั้นผมเอาเมียเอาลูกไปพักผ่อนก่อนละกันนะครับ...แล้วพ่อแม่ของสองแฝดไปไหนกันล่ะครับ” คามีลพูดบอกไปก็หันไปหาหลานชายทั้งสองแล้วเอ่ยถามหาคาเรนและรินลดาทันที“สองคนนั้นเขาก็ไปสวีทกันนู้นสิวะ ไม่เหมือนแกหรอก...เมียกลับมาทั้งทีไม่คิดจะพา
ด้านคามีลพอรู้ว่าตอนนี้เมียสุดที่รักและลูกสาวตัวน้อยของเขาเดินทางกลับมาถึงดูไบแล้ว เขาก็รีบเคลียร์งานกลับไปหาเมียและลูกของเขาที่บ้านทันที“ทำไมที่บ้านเงียบแบบนี้ นายหญิงยังไม่กลับมาอีกเหรอ...ฉันบอกให้ส่งรถไปรอรับนายหญิงกลับมาแล้วนิ” คามีลเดินเข้ามาในบ้านแล้วเอ่ยถามพ่อบ้านไปแบบสงสัย“นายหญิงยังไม่ได้กลับมาเลยนะครับคุณคามีล..ผมก็ยืนรอตรงนี้นายแล้ว เดี๋ยวผมจะลองโทรหาคนขับรถให้นะครับ...” พ่อบ้านตอบไปตามตรง เพราะเขารอต้อนรับตรงนี้ก็ไม่เห็นเลย“ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันโทรหาเมียฉันเอง นายจะไปทำอะไรก็ทำเถอะ....ไปไหนของเขากัน ทำไมยังไม่พาลูกกลับบ้านอีกนะ จะทำให้คิดถึงไปไหนเนี่ย...เฮ้อ...” คามีลได้ยินแบบนั้นก็พูดบ่นไป ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเมียรักของเขา“ฮัลโหล....คุณอยู่ที่ไหนเนี่ย ลงจากเครื่องมาตั้งนานแล้ว ทำไมยังกลับมาไม่ถึงอีก...” คามีลพูดไปทันทีที่วาสิตารับสายของเขาแล้ว“ตอนนี้ฉันอยู่ที่บ้านคุณปู่ค่ะ ท่านอยากจะเจอหลานๆฉันก็เลยพาเด็กมาเจอท่านก่อน เพราะยังไงคุณก็เอาแต่ทำงานคงไม่กลับบ้านเร็วอยู่ดี” วาสิตาพูดไปแบบประชดเขา เพราะเขาน่ะทำงานจนลืมลูกลืมเมียแล้วล่ะมั้ง“อย่าพูดแบบนี้สิ ผมไม่ได้เห็น
“ไง ท่านี้ตอกแรงดีไหม โอว์ ซี๊ด” คาเรนถามไปก็กระแทกท่อนเอ็นสวนขึ้นไปหาร่องสาวที่เขาบังคับเอวบางให้ตอกลงมาห่ท่อนเอ็นของเขา“อ้ะ อ้ะ ที่สุด อ้ะ อ้ะ เลยค่ะ ผัวขา อ้ะ อ้ะ” รินลดาพูดไปพร้อมกับกัดฟันเสียว เพราะท่านี้มันลึกจนเธอแทบจะครางไม่ออก“โอว์ ซี๊ด ไม่ไหวแล้ว พี่ไม่ไหวแล้ว” คาเรนพูดไปก็จับร่างบางให้นั่งลงบนเบาะ แล้วกระแทกใส่รินลดารัวๆจนเธอหัวสั่นหัวคลอน“แตกในนะคะ อ้ะ อ้ะ แตกในร่องเมีย อ้ะ อ้ะ” รินลดาบอกไปก็เอามือจิกแขนของคาเรนไปด้วย เพราะเขากระแทกแรงจนเธอถึงสวรรค์ไปก่อนเขา“โอว์ ซี๊ด แตกแล้ว อ่าส์ ซี๊ด” คาเรนพูดไปขณะเกร็งกระตุกปล่อยน้ำรักเข้าไปในร่องสาวตามที่รินลดาบอก ก่อนจะกระแทกท่อนเอ็นสองสามครั้ง เพื่อส่งลูกๆของเขาเข้าไปในตัวรินลดาให้ได้มากที่สุด“อ่าส์ แช่ไว้ก่อนนะคะ อ่าส์” รินลดาบอกไปก็ขมิบร่องสาวให้ตอดรัดท่อนเอ็นเพื่อดึงดูดน้ำรักของเขาให้เต็มที่“ทำแบบนี้พี่คงแช่ไว้ไม่ได้” คาเรนพูดไปก็ถอนท่อนเอ็นออกจากร่องสาวจนน้ำรักไหลหยดลงพื้น คาเรนจับรินลดาให้หันหลังให้เขา แล้วใหเธอจับเบาะไว้ เขาก็ลุกขึ้นยืน แล้วเอาท่อนเอ็นถูร่องที่ก้นงอนเพื่อปลุกเร้าอารมณ์อีกครั้ง พอเขาไม่ได้มีอะไรกับรินลดามั